คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : He’s My Breath
He’s My Breath
Yurio x Yuri
อารมณ์เมากาวล้วนๆไม่มีแอลกอฮอล์ผสมเลย แถมไม่เกี่ยวกะชื่อเลยซักติ๊ด...ได้มาตอนฟังเพลง&สูดกาว
********************************************
คัตสึกิ ยูรินั่งอยู่บนเตียงพร้อมกับมองหน้าคนที่ยืนคุยโทรศัพท์อยู่ข้างเตียงของเขาอย่างเป็นห่วง
เมื่ออีกฝ่ายเห็นสายตาที่ยูริมองมาก็รีบตัดบทสนทนากับปลายสาย
“หนวกหูน่า!! เลิกบ่นซักทีเหอะวิคเตอร์!!”
น้ำเสียงแยงกี้อันเป็นเอกลักษณ์ขึ้นเสียงใส่คนในสายเล็กน้อย ก่อนจะกดวางและโยนโทรศัพท์ทิ้งไปอย่างไม่กลัวพัง
“มองอะไรคัตสึด้ง!!?”
...ก็มองนายนั่นแหละ...
“เปล่าหรอก”
ใจคิดอย่างแต่ปากตอบกลับไปอีกอย่าง ยูริมองชายหนุ่มร่างสูงที่ทรุดตัวนั่งลงข้างเตียงด้วยท่าทางที่ดูเหนื่อยอ่อนเหลือจะทน ก่อนที่จะเผลอเอื้อมมือไปกุมมือของอีกคนที่ตอนนี้ใหญ่กว่ามือของเขาไว้และออกแรงบีบเบาๆ
เจ้าของมือนั้นมองมาที่ยูริเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร แล้ว “ยูริโอะ” ในวัยยี่สิบปีก็ยกมือของยูริขึ้นไปแนบกับหน้าตัวเอง
ดวงตาสีฟ้าสวยสั่นไหวเหมือนจะร้องไห้ยามที่มองหน้ายูริ และชายหนุ่มก็รู้ดีว่าอีกคนคงไม่อยากร้องไห้ให้เขาเห็นหรอก ยูริส่งยิ้มบางๆให้อีกฝ่ายเพื่อบอกว่าไม่เป็นไร
“การแข่งเป็นไงบ้าง?
โทษทีนะ พอดีฉันมัวแต่นอนเพลินเลยไม่ทันได้ดู” ยูริหยิบยกเรื่องรายการแข่งของอีกฝ่ายขึ้นมาพูดเพื่อทำลายความเงียบลง ยูริโอะหลุบตามองผ้าปูเตียงก่อนจะเล่าให้ฟังด้วยเสียงที่ฟังดูเหมือนจะหมดแรง
“ฉันก็แสดงตามโปรแกรมที่วางไว้นั่นแหละ...แต่ฉันก็แพ้น่ะ...” เสียงช่วงท้ายเบาจนเหมือนจะกระซิบ ยูริดึงตัวอีกฝ่ายมากอดไว้หลวมๆ
กดให้ใบหน้างดงามนั้นซบลงมาที่บ่าของเขา
“เอาสิยูริโอะ...ตอนนี้ฉันไม่เห็นหรอก”
ชายหนุ่มเบิกตากว้าง
ก่อนจะฝังหน้าลงบนบ่าที่ตอนนี้ทั้งบอบบางและเล็กกว่าเขามาก พอสมควร ยูริโอะยกมือที่ว่างจากการกุมมือคนอายุมากกว่าขึ้นมารั้งร่างที่ตอนนี้ผอมบางจนน่าใจหายเข้ามากอดแน่นราวกับต้องการที่พึ่งและปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาเงียบๆ
หลังจากที่คัตสึกิ
ยูริได้ครองตำแหน่งแชมป์มาจนถึงสามสมัยซ้อน
ชายหนุ่มชาวญี่ปุ่นก็ประกาศอำลาการแข่งจนเป็นที่ฮือฮาในวงการนักกีฬาสเก็ต
และถูกพาดเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลก
แต่ด้วยเหตุผลที่ยอมรับได้ทำให้ข่าวนี้จบลงไปในเวลาไม่นานนัก
...คัตสึกิ ยูริป่วยเป็นโรคมะเร็ง...
แต่ด้วยความที่ว่าตรวจเจอเร็วและมันยังอยู่ในระยะที่รักษาได้ ทำให้ยูริต้องเข้ารับการรักษาทันที จนตอนนี้เขาอยู่ในช่วงพักฟื้นเต็มที่ทำให้การรักษาราบรื่นไปด้วยดี
และหลังจากที่ยูริญี่ปุ่นก้าวลงจากบัลลังก์ไป
ยูริรัสเซียก็ก้าวขึ้นมาแทนที่ทันที
ด้วยการร้องขอของยูริที่ขอให้วิคเตอร์ไปเป็นโค้ชให้
กับฝีมือที่มีทำให้เจ้าตัวได้เป็นแชมป์ในทันทีที่ยูริหันหลังให้กับการแข่ง
แต่ครั้งนี้...ยูริ พลิเซตสกี้
พ่ายแพ้อย่างหมดรูปราวกับว่ามีเรื่องบางอย่างที่รบกวนจิตใจนักกีฬาชาวรัสเซียจนไม่มีสมาธิให้กับการแข่งเท่าที่ควร
...สาเหตุนั้นคือคนที่กำลังโอบกอดเจ้าตัวอยู่ในตอนนี้
แต่ยูริโอะก็ไม่โทษอีกฝ่ายหรอก...เพราะเขาเองก็ดันคิดฟุ้งซ่านและเอาแต่เชื่อข่าวโคมลอย
โดยไม่ยอมมาถามเจ้าตัวเองนั่นก็ถือเป็นความผิดของเขาเอง
...ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น...ยูริ
พลิเซตสกี้ก็จะไม่มีทางโทษคนที่เขากอดอยู่เด็ดขาด
แอบร้องไห้กับบ่าเล็กๆนี้จนพอใจ ยูริโอะ ก็แอบเช็ดน้ำตาตัวเอง ตีสีหน้าให้เป็นปกติและผละออกมาเล็กน้อย ยูริระบายยิ้มบางยกมือขึ้นเช็คคราบน้ำตาที่ยังพอเหลือให้เห็นบนหน้าอีกฝ่ายอย่างเบามือ ยูริโอะมองใบหน้าที่ยังดูอ่อนกว่าวัยของคนบนเตียงด้วยสายตาเป็นห่วง
หวง และคิดถึงในเวลาเดียวกัน
ด้วยความที่ต้องอยู่คนละซีกโลก เวลานอนและเวลาตื่นไม่เคยจะตรงกัน เมื่อไหร่ที่เขาตื่นก็คือเวลานอนของยูริ เมื่อไหร่ที่ยูริตื่นคือเวลาที่เขาต้องนอน หลายครั้งที่อีกฝ่ายต้องตื่นขึ้นมากลางดึกเพื่อมาดูเขาแข่งในรายการถ่ายทอดสด(บางครั้งโชคดีหน่อยที่เขาแข่งช่วงดึกหรือแข่งในประเทศที่มีโซนเวลาใกล้เคียงกัน)
หรือไม่ก็เป็นเขาเองที่ยอมนอนดึกๆเพื่อที่ได้คุย
ได้ยินเสียงหรือเห็นหน้าอีกฝ่าย(และโดนวิคเตอร์บ่นจนหูชาเพราะเขานอนไม่พอ) การที่จะได้พบหรือสัมผัสกันนั้นช่างยากเย็นเหลือเกินเมื่อเขายิ่งโตขึ้น มีภาระต้องรับผิดชอบมากขึ้น
เขาพยายามอย่างมากที่จะหาเวลามาอยู่กับหมูน้อยที่ไม่ได้อ้วนท้วมสมบูรณ์เหมือนเดิมได้นานๆ
ยูริหลับตาลงเมื่ออีกคนแนบหน้าผากเข้ามาชนกับหน้าผากของเขา มือข้างหนึ่งยังคงกุมกันไว้แน่น ส่วนมืออีกข้างของยูริวางพักไว้ที่แผ่นอกกว้างของอีกคน
ส่วนมือของยูริโอะเองก็วางพักไว้ที่เอวของเขานิ่งๆ พวกเขาปล่อยให้ความเงียบเข้าปกคลุม
ฟังเพียงเสียงหายใจของอีกฝ่ายเงียบๆราวกับกลัวว่าถ้าเผลอเพียงครู่เดียว อีกฝ่ายอาจจะหายไปราวกับภาพความฝัน
“ไปด้วยกันเถอะยูริ”
แล้วคนอายุน้อยกว่าก็เอ่ยทำลายความเงียบ
ยูริโอะมักจะเรียกอีกฝ่ายด้วยชื่อเมื่อต้องการพูดเรื่องที่มันจริงจัง
ยูริรู้สึกได้ถึงแรงบีบที่มือซ้ายว่ามันมากขึ้น เขาค่อยๆลืมตาขึ้นและสบกับดวงตาสีฟ้าในระยะประชิด
“ไปอยู่ด้วยกันเถอะ...ฉันไม่เอาอะไรแบบนี้อีกแล้ว ไปรักษาตัวที่รัสเซียต่อก็ได้ ไปเถอะนะยูริ”
“ยูริโอะ...”
ยูริครางชื่ออีกฝ่ายเสียงแผ่ว มองดวงตาสีฟ้าที่ฉายแววเว้าวอน ร้องขอ
และต้องการให้ยูริตอบรับ
ยูริโอะสวมบางอย่างเข้าที่นิ้วของยูริ
แหวนสีเงินที่หาซื้อได้ตามร้านแผงลอยทั่วไปถูกสวมเข้าที่นิ้วก้อยของยูริ แต่มันหลวมเสียจนน่าขำ
แลดูเหมือนกับว่ามันควรขยับตำแหน่งขึ้นมาอีกหนึ่งนิ้ว
“ไว้วันที่ฉันดีพอกว่านี้...ฉันจะขอนายแต่งงาน นายจะคิดว่ามันดูไร้สาระก็ได้”
ยูริโอะพูดพร้อมหน้าที่มีริ้วสีแดงปรากฎขึ้นจางๆ
ยูริมองแหวนหลวมๆนั่นซักพักก่อนกลับมามองหน้าคนที่สวมมันให้
“ฉันเป็นผู้ชายนะยูริโอะ...ฉันท้องไม่ได้...มีลูกให้นายไปได้...แถมตอนนี้ยังป่วยกระเสาะกระแสะอีก...นายไม่คิดว่าตัวเองจะเจอใครซักคนที่อาจจะถูกใจมากกว่าฉันในอนาคตบ้างเหรอ..”
ยูริถามเสียงสั่น
กำมือแน่นจนเล็บแทบจิกเข้าไปในเนื้อ
ยูริโอะจับมือของอีกคนคลายออกและบีบมือนั้นเบาๆ
“ฉันก็เป็นผู้ชาย ฉันท้องไม่ได้
ฉันก็คลอดลูกไม่ได้
และฉันไม่เคยคิดที่จะมองคนอื่นนอกจากยูริ
ต่อให้มีคนที่ดีเลิศกว่านี้ฉันก็ไม่เอา
ฉันต้องการแค่นาย อยากดูแลนาย
อยากให้นายอยู่ข้างๆ อยากจะจับมือนายไว้แบบนี้เรื่อยๆ”
“แล้วครอบครัวของนายล่ะจะคิดยังไง?”
“พวกเขาไม่สนใจหรอกยูริ...ไม่เคยเลย...”
ยูริโอะลูบหน้ายูริที่เหมือนจะร้องไห้ เรื่องนี้มันยากที่อีกคนจะตัดสินใจ เขารู้
อีกคนกลัวคนอื่นจะมองเขาในทางไม่ดี
นั่นเขาก็รู้
ด้วยความที่อายุมากกว่าทำให้ยูริต้องคิดหนักนั่นเขาก็รู้
...ทุกอย่างที่ยูริกลัว เขาก็รู้...
“เป็นฉัน...จะดีจริงๆใช่ไหม?”
ยูริเอ่ยถามในที่สุด ยูริโอะลูบริมฝีปากเล็กด้วยนิ้วไปมาก่อนจะกดจูบเบาๆ
“แน่นอน...แล้วนายจะยอมให้คนที่ยังไม่ดีพออย่างฉันดูแลได้ไหม?”
ยูริก้มหน้าหงุด ถอดแหวนออกจากนิ้วก้อยแล้วยื่นส่งคืน
“ไม่มีใครเขาขอแต่งงานด้วยการสวมนิ้วก้อยกันหรอกนะ”
ยูริโอะรู้สึกว่าหัวใจของเขาแต้นแรงมากๆ
มันเต้นแรงยิ่งกว่าตอนที่เขาเล่นสเก็ตเสียอีก
เขาหัวเราะออกมาก่อนสวมแหวนเข้าไปที่นิ้วนางข้างซ้ายของอีกฝ่ายและประทับริมฝีปากลงบนแหวน
“แต่งงานกันนะ...ยูริ”
Fin.
ความคิดเห็น