ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Short FanFiction Yuri!!! On Ice

    ลำดับตอนที่ #5 : He’s My Breath

    • อัปเดตล่าสุด 11 พ.ย. 59


                   He’s  My Breath

                Yurio x Yuri

                   อารมณ์เมากาวล้วนๆไม่มีแอลกอฮอล์ผสมเลย  แถมไม่เกี่ยวกะชื่อเลยซักติ๊ด...ได้มาตอนฟังเพลง&สูดกาว

                   ********************************************

     

    คัตสึกิ  ยูรินั่งอยู่บนเตียงพร้อมกับมองหน้าคนที่ยืนคุยโทรศัพท์อยู่ข้างเตียงของเขาอย่างเป็นห่วง  เมื่ออีกฝ่ายเห็นสายตาที่ยูริมองมาก็รีบตัดบทสนทนากับปลายสาย

                “หนวกหูน่า!! เลิกบ่นซักทีเหอะวิคเตอร์!!

                น้ำเสียงแยงกี้อันเป็นเอกลักษณ์ขึ้นเสียงใส่คนในสายเล็กน้อย  ก่อนจะกดวางและโยนโทรศัพท์ทิ้งไปอย่างไม่กลัวพัง

                “มองอะไรคัตสึด้ง!!?

                ...ก็มองนายนั่นแหละ...

                “เปล่าหรอก”

                ใจคิดอย่างแต่ปากตอบกลับไปอีกอย่าง  ยูริมองชายหนุ่มร่างสูงที่ทรุดตัวนั่งลงข้างเตียงด้วยท่าทางที่ดูเหนื่อยอ่อนเหลือจะทน  ก่อนที่จะเผลอเอื้อมมือไปกุมมือของอีกคนที่ตอนนี้ใหญ่กว่ามือของเขาไว้และออกแรงบีบเบาๆ

                เจ้าของมือนั้นมองมาที่ยูริเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร  แล้ว “ยูริโอะ” ในวัยยี่สิบปีก็ยกมือของยูริขึ้นไปแนบกับหน้าตัวเอง  ดวงตาสีฟ้าสวยสั่นไหวเหมือนจะร้องไห้ยามที่มองหน้ายูริ  และชายหนุ่มก็รู้ดีว่าอีกคนคงไม่อยากร้องไห้ให้เขาเห็นหรอก  ยูริส่งยิ้มบางๆให้อีกฝ่ายเพื่อบอกว่าไม่เป็นไร

                “การแข่งเป็นไงบ้าง? โทษทีนะ พอดีฉันมัวแต่นอนเพลินเลยไม่ทันได้ดู” ยูริหยิบยกเรื่องรายการแข่งของอีกฝ่ายขึ้นมาพูดเพื่อทำลายความเงียบลง  ยูริโอะหลุบตามองผ้าปูเตียงก่อนจะเล่าให้ฟังด้วยเสียงที่ฟังดูเหมือนจะหมดแรง

                “ฉันก็แสดงตามโปรแกรมที่วางไว้นั่นแหละ...แต่ฉันก็แพ้น่ะ...”  เสียงช่วงท้ายเบาจนเหมือนจะกระซิบ  ยูริดึงตัวอีกฝ่ายมากอดไว้หลวมๆ กดให้ใบหน้างดงามนั้นซบลงมาที่บ่าของเขา

                “เอาสิยูริโอะ...ตอนนี้ฉันไม่เห็นหรอก”

                ชายหนุ่มเบิกตากว้าง  ก่อนจะฝังหน้าลงบนบ่าที่ตอนนี้ทั้งบอบบางและเล็กกว่าเขามาก พอสมควร  ยูริโอะยกมือที่ว่างจากการกุมมือคนอายุมากกว่าขึ้นมารั้งร่างที่ตอนนี้ผอมบางจนน่าใจหายเข้ามากอดแน่นราวกับต้องการที่พึ่งและปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาเงียบๆ

               

     

                หลังจากที่คัตสึกิ  ยูริได้ครองตำแหน่งแชมป์มาจนถึงสามสมัยซ้อน  ชายหนุ่มชาวญี่ปุ่นก็ประกาศอำลาการแข่งจนเป็นที่ฮือฮาในวงการนักกีฬาสเก็ต และถูกพาดเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลก  แต่ด้วยเหตุผลที่ยอมรับได้ทำให้ข่าวนี้จบลงไปในเวลาไม่นานนัก 

                ...คัตสึกิ  ยูริป่วยเป็นโรคมะเร็ง...

                แต่ด้วยความที่ว่าตรวจเจอเร็วและมันยังอยู่ในระยะที่รักษาได้  ทำให้ยูริต้องเข้ารับการรักษาทันที  จนตอนนี้เขาอยู่ในช่วงพักฟื้นเต็มที่ทำให้การรักษาราบรื่นไปด้วยดี

                และหลังจากที่ยูริญี่ปุ่นก้าวลงจากบัลลังก์ไป ยูริรัสเซียก็ก้าวขึ้นมาแทนที่ทันที

                ด้วยการร้องขอของยูริที่ขอให้วิคเตอร์ไปเป็นโค้ชให้ กับฝีมือที่มีทำให้เจ้าตัวได้เป็นแชมป์ในทันทีที่ยูริหันหลังให้กับการแข่ง 

     

                แต่ครั้งนี้...ยูริ  พลิเซตสกี้ พ่ายแพ้อย่างหมดรูปราวกับว่ามีเรื่องบางอย่างที่รบกวนจิตใจนักกีฬาชาวรัสเซียจนไม่มีสมาธิให้กับการแข่งเท่าที่ควร

                ...สาเหตุนั้นคือคนที่กำลังโอบกอดเจ้าตัวอยู่ในตอนนี้

     

                แต่ยูริโอะก็ไม่โทษอีกฝ่ายหรอก...เพราะเขาเองก็ดันคิดฟุ้งซ่านและเอาแต่เชื่อข่าวโคมลอย  โดยไม่ยอมมาถามเจ้าตัวเองนั่นก็ถือเป็นความผิดของเขาเอง

                ...ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น...ยูริ พลิเซตสกี้ก็จะไม่มีทางโทษคนที่เขากอดอยู่เด็ดขาด

     

                แอบร้องไห้กับบ่าเล็กๆนี้จนพอใจ  ยูริโอะ ก็แอบเช็ดน้ำตาตัวเอง  ตีสีหน้าให้เป็นปกติและผละออกมาเล็กน้อย  ยูริระบายยิ้มบางยกมือขึ้นเช็คคราบน้ำตาที่ยังพอเหลือให้เห็นบนหน้าอีกฝ่ายอย่างเบามือ  ยูริโอะมองใบหน้าที่ยังดูอ่อนกว่าวัยของคนบนเตียงด้วยสายตาเป็นห่วง หวง และคิดถึงในเวลาเดียวกัน

                ด้วยความที่ต้องอยู่คนละซีกโลก  เวลานอนและเวลาตื่นไม่เคยจะตรงกัน  เมื่อไหร่ที่เขาตื่นก็คือเวลานอนของยูริ  เมื่อไหร่ที่ยูริตื่นคือเวลาที่เขาต้องนอน  หลายครั้งที่อีกฝ่ายต้องตื่นขึ้นมากลางดึกเพื่อมาดูเขาแข่งในรายการถ่ายทอดสด(บางครั้งโชคดีหน่อยที่เขาแข่งช่วงดึกหรือแข่งในประเทศที่มีโซนเวลาใกล้เคียงกัน) หรือไม่ก็เป็นเขาเองที่ยอมนอนดึกๆเพื่อที่ได้คุย ได้ยินเสียงหรือเห็นหน้าอีกฝ่าย(และโดนวิคเตอร์บ่นจนหูชาเพราะเขานอนไม่พอ)  การที่จะได้พบหรือสัมผัสกันนั้นช่างยากเย็นเหลือเกินเมื่อเขายิ่งโตขึ้น  มีภาระต้องรับผิดชอบมากขึ้น  เขาพยายามอย่างมากที่จะหาเวลามาอยู่กับหมูน้อยที่ไม่ได้อ้วนท้วมสมบูรณ์เหมือนเดิมได้นานๆ

                ยูริหลับตาลงเมื่ออีกคนแนบหน้าผากเข้ามาชนกับหน้าผากของเขา  มือข้างหนึ่งยังคงกุมกันไว้แน่น  ส่วนมืออีกข้างของยูริวางพักไว้ที่แผ่นอกกว้างของอีกคน  ส่วนมือของยูริโอะเองก็วางพักไว้ที่เอวของเขานิ่งๆ  พวกเขาปล่อยให้ความเงียบเข้าปกคลุม ฟังเพียงเสียงหายใจของอีกฝ่ายเงียบๆราวกับกลัวว่าถ้าเผลอเพียงครู่เดียว  อีกฝ่ายอาจจะหายไปราวกับภาพความฝัน

     

                “ไปด้วยกันเถอะยูริ”

                แล้วคนอายุน้อยกว่าก็เอ่ยทำลายความเงียบ ยูริโอะมักจะเรียกอีกฝ่ายด้วยชื่อเมื่อต้องการพูดเรื่องที่มันจริงจัง  ยูริรู้สึกได้ถึงแรงบีบที่มือซ้ายว่ามันมากขึ้น  เขาค่อยๆลืมตาขึ้นและสบกับดวงตาสีฟ้าในระยะประชิด

                “ไปอยู่ด้วยกันเถอะ...ฉันไม่เอาอะไรแบบนี้อีกแล้ว  ไปรักษาตัวที่รัสเซียต่อก็ได้ ไปเถอะนะยูริ”

                “ยูริโอะ...”

                ยูริครางชื่ออีกฝ่ายเสียงแผ่ว  มองดวงตาสีฟ้าที่ฉายแววเว้าวอน ร้องขอ และต้องการให้ยูริตอบรับ  ยูริโอะสวมบางอย่างเข้าที่นิ้วของยูริ  แหวนสีเงินที่หาซื้อได้ตามร้านแผงลอยทั่วไปถูกสวมเข้าที่นิ้วก้อยของยูริ  แต่มันหลวมเสียจนน่าขำ แลดูเหมือนกับว่ามันควรขยับตำแหน่งขึ้นมาอีกหนึ่งนิ้ว

                “ไว้วันที่ฉันดีพอกว่านี้...ฉันจะขอนายแต่งงาน  นายจะคิดว่ามันดูไร้สาระก็ได้” ยูริโอะพูดพร้อมหน้าที่มีริ้วสีแดงปรากฎขึ้นจางๆ ยูริมองแหวนหลวมๆนั่นซักพักก่อนกลับมามองหน้าคนที่สวมมันให้

                “ฉันเป็นผู้ชายนะยูริโอะ...ฉันท้องไม่ได้...มีลูกให้นายไปได้...แถมตอนนี้ยังป่วยกระเสาะกระแสะอีก...นายไม่คิดว่าตัวเองจะเจอใครซักคนที่อาจจะถูกใจมากกว่าฉันในอนาคตบ้างเหรอ..” ยูริถามเสียงสั่น  กำมือแน่นจนเล็บแทบจิกเข้าไปในเนื้อ  ยูริโอะจับมือของอีกคนคลายออกและบีบมือนั้นเบาๆ

                “ฉันก็เป็นผู้ชาย  ฉันท้องไม่ได้  ฉันก็คลอดลูกไม่ได้  และฉันไม่เคยคิดที่จะมองคนอื่นนอกจากยูริ  ต่อให้มีคนที่ดีเลิศกว่านี้ฉันก็ไม่เอา  ฉันต้องการแค่นาย  อยากดูแลนาย อยากให้นายอยู่ข้างๆ อยากจะจับมือนายไว้แบบนี้เรื่อยๆ”

                “แล้วครอบครัวของนายล่ะจะคิดยังไง?”

                “พวกเขาไม่สนใจหรอกยูริ...ไม่เคยเลย...”

                ยูริโอะลูบหน้ายูริที่เหมือนจะร้องไห้  เรื่องนี้มันยากที่อีกคนจะตัดสินใจ  เขารู้  อีกคนกลัวคนอื่นจะมองเขาในทางไม่ดี  นั่นเขาก็รู้  ด้วยความที่อายุมากกว่าทำให้ยูริต้องคิดหนักนั่นเขาก็รู้

                ...ทุกอย่างที่ยูริกลัว  เขาก็รู้...

                “เป็นฉัน...จะดีจริงๆใช่ไหม?” ยูริเอ่ยถามในที่สุด  ยูริโอะลูบริมฝีปากเล็กด้วยนิ้วไปมาก่อนจะกดจูบเบาๆ

                “แน่นอน...แล้วนายจะยอมให้คนที่ยังไม่ดีพออย่างฉันดูแลได้ไหม?”

                ยูริก้มหน้าหงุด  ถอดแหวนออกจากนิ้วก้อยแล้วยื่นส่งคืน

                “ไม่มีใครเขาขอแต่งงานด้วยการสวมนิ้วก้อยกันหรอกนะ”

                ยูริโอะรู้สึกว่าหัวใจของเขาแต้นแรงมากๆ มันเต้นแรงยิ่งกว่าตอนที่เขาเล่นสเก็ตเสียอีก  เขาหัวเราะออกมาก่อนสวมแหวนเข้าไปที่นิ้วนางข้างซ้ายของอีกฝ่ายและประทับริมฝีปากลงบนแหวน

                “แต่งงานกันนะ...ยูริ”

    Fin.

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×