คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : SF SeungChuchu
SF YOI
*SeungChuChu*
//ขี้เกียจเปิดเวิร์ด อยากระบายอารมณ์ตอนนี้ล่วย จบปิ๊ง!
-------------
อี ซึงกิล นักกีฬาสัญชาติเกาหลีใต้เดินเลี่ยงจากที่ๆมีคนพลุกพล่าน หลบซ่อนตัวในที่ๆจะไม่มีเสียงน่ารำคาญไม่ว่าจะเป็นเสียงยินดีหรือเสียใจ เสียงที่แสดงถึงความเป็นห่วงเป็นใยหรืออะไรทั้งสิ้น ชายหนุ่มเอนตัวพิงกำแพงในโถงทางเดินโล่งๆ เงยหน้าขึ้น หลับตา และปล่อยให้หยาดน้ำสีใสไหลออกมาจากหางตาเรื่อยๆ
อา...ไม่ไหวแล้ว เหนื่อยจนแทบขาดใจ เหมือนจะหมดแรงที่จะเคลื่อนไหวร่างกายอันหนักอึ้ง ความอดทนที่มีเหมือนจะพังทลายพร้อมกับความเข้มแข็งที่แหลกละเอียด
...ในสภาพแบบนี้เขาไม่มีอะไรจะไปสู้หน้าอีกคนได้แล้ว...
คำสัญญาที่ให้ไว้กับเจ้าของรอยยิ้มเจิดจ้าราวดวงตะวันพังลงไม่มีชิ้นดี ซึงกิลโทษความอ่อนแอของตัวเองซ้ำๆภายในจิตใจตีกันจนยุ่งเหยิง ความคิดอ่านไม่เรียบเรียงกันเลยซักอย่าง
กึก!
เสียงฝีเท้าที่หยุดลงตรงหน้าอย่างจงใจทำให้ซึงกิลต้องเลื่อนสายตามองก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อพบว่าเบื้องหน้าคือคัตสึกิ ยูริ นักกีฬาจากประเทศญี่ปุ่น
ซึงกิลปาดน้ำตาด้วยท่าทางนิ่งๆ เขาแพ้ ไม่มีอะไรต้องปิดบัง พอมองดูดีๆ นักกีฬาหนุ่มที่มีอายุมากกว่าก็มีสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก
ซึงกิลมองอย่างระแวงเล็กน้อยมื่ออีกฝ่ายยื่นมือมาหา ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีหน้างงงวยเมื่อพบว่าอีกฝ่ายกำลังยื่นโทรศัพท์ของเจ้าตัวมาให้
"คุยกันดีๆนะครับ"
เอ่ยพร้อมยัดเยียดโทรศัพท์ให้ก่อนจะหันหลังเดินจากไป ซึงกิลมองอีกฝ่ายที่เดินจากไปด้วยท่าทางลอยๆเหมือนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ก่อนจะยกโทรศัพท์ที่ได้รับการยัดเยียดมาขึ้นแนบหู ก่อนที่หัวใจของเขาจะกระตุกแปลกๆเมื่อได้ยินเสียงอันคุ้นเคยจากปลายสาย
"ยูริ!! ซึงกิล! เจอซึงกิลหรือยัง??"
"พิ...ชิต?"
เอ่ยชื่อเจ้าของเสียงที่กำลังโวยวายผ่านโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงติดสั่น ทำไมพิชิตถึงโทรหายูริแล้วถามหาเขา?
"ซึงกิล..." น้ำเสียงของพิชิตอ่อนลงเมื่อคนที่ต้องการมารับสายแล้ว น้ำเสียงของพิชิตสั่นเครือเหมือนคนจะร้องไห้
...ทำไมล่ะ? เพราะเขาผิดคำสัญญางั้นเหรอ...
"ซึงกิล นายเป็นโอเคไหม? นายยังไหวหรือเปล่า?" น้ำเสียงที่แสดงถึงความห่วงใยที่ส่งผ่านมาทางสัญญาณโทรศัพท์ทำให้ซึงกิลสูดลมหายใจ และพยายามควบคุมน้ำเสียงของตัวเองให้ดูเหมือนว่าปกติดี
"ฉันโอเคดี"
"......."
"พิชิ---"
"นายโกหก"
"ฉัน...."
ซึงกิลขบกัดริมฝีปากล่างกลั้นเสียงสะอื้น พร้อมกับคนในสายที่เงียบเสียงไป
"ขอโทษ...ที่รักษาสัญญาไม่ได้..." เอ่ยพร้อมหยดน้ำตาที่ไหลออกมาอาบแก้มอีกครั้ง ซึงกิลยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาพร้อมพร่ำเอ่ยคำขอโทษให้อีกฝ่ายฟังซ้ำๆ และพิชิตก็เอาแต่เงียบและปล่อยให้ซึงกิลระบายจนซึงกิลเริ่มใจหาย
...อย่าเงียบแบบนี้ได้ไหม..ช่วยพูดอะไรซักอย่างทีเถอะ...
"ช่างมันเถอะ...ช่างมันนะ" จนในที่สุดหนุ่มไทยก็เอ่ยตอบกลับมาด้วยเสียงที่เหมือนจะปลอบโยน ถ้าหากตอนนี้พิชิตอยู่ตรงหน้า ซึงกิลเดาได้เลยว่าอีกฝ่ายคงจะโถมตัวเข้ามากอดเป็นแน่
"ไม่เป็นไร...ปีหน้าเรามาพยายามกันใหม่นะ"
"...อืม"
"ปีนี้ผมจะพยายามในส่วนของเราเอง"
"พิชิต..."
"แล้วปีหน้า...พวกเรามาอยู่บนริงก์เดียวนะ ถ้าปีหน้าพลาด เราก็มาพยายามกันใหม่"
"พิชิต..."
"ไม่เป็นไร....เพราะผมไม่ทิ้งนายไปไหนแน่นอน"
"........."
ซึงกิลสูดลมหายใจเข้า แล้วผ่อนออกก่อนจะตอบกลับไปด้วยเสียงเบาหวิว
"อืม...ปีหน้า...เราจะพยายามด้วยกัน"
"ใช่ ปีหน้า...เรามาพยายามกันนะ"
ซึงกิลกดวางสายและหมุดตัวเดินกลับไปที่ริงก์ เขาหลุบตามองพื้นขณะก้าวเดินไปทีละก้าว
...แล้วเจอกันปีหน้า...พิชิต
ฝาก"สู้"ในส่วนของ"เรา"ด้วยนะ
---------------------
คำว่าเจอปีหน้านี่หมายถึงแข่งบนริงก์ดียวกันนะ ไม่ใช่ไม่เจอกันเลยทั้งปี อย่าเพิ่งด่าเรา--
ความคิดเห็น