ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Short FanFiction Yuri!!! On Ice

    ลำดับตอนที่ #12 : Child SP "Happy birthday Mama"

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 941
      11
      28 พ.ย. 59

    HBD Yuri!!!

    เพิ่งระลึกชาติได้ว่าวันที่29เป็นวันเกิดยูริหมู เลยอู้งานมาเขียนโดยเฉพาะ//โดนตบหน้าทิ่ม

    ฟิคนี้เชื่อมต่อกับเรื่องChill เพราะงั้นเรื่องจะกล่าวถึงตอนที่เนริไปแข่งGP ที่รัสเซียตอนอายุ14และโค้ชไม่ใช่ยูริโอะ

    กาวพร้อม!! ไป!!

    #จะให้ดีเปิดเพลงYuri On Ice ตอนที่อ่านถึงท่อนที่เนริแข่งด้วยจะดีมาก

    *******************************

                โค้ชหนุ่มไฟแรงสังเกตได้ว่านักกีฬาใต้ความดูแลของเขามีอาการแปลกๆ  ปกติแล้วเด็กหนุ่ม(หรืออาจจะยังเป็นเด็กชาย?)มักจะไม่แตะต้องโทรศัพท์หรืออะไรก็ตามที่จะทำให้เขาเสียสมาธิจากการฝึกซ้อม  แต่ตอนนี้เด็กหนุ่มกลับตรวจเช็คโทรศัพท์ของตัวเองแทบจะทุกๆ5นาทีเลยก็ว่าได้ 

                หรือนักเรียนของเขากำลังมีความรัก?

                โค้ชหนุ่มคิดพร้อมแตะคางคิดมองเด็กหนุ่มผมยาวสีดำราวกับขนกายืนเช็กโทรศัพท์อยู่ที่ขอบริงก์ด้วยสีหน้าที่ดูจะซึมเอามากๆ  ในที่สุดหลังจากทะเลาะกับตัวเองพักใหญ่เขาก็ตัดสินใจที่จะเรียกเด็กหนุ่มที่เพิ่งวางโทรศัพท์ลงและกำลังเคลื่อนตัววาดลวดลายบนพื้นน้ำแข็ง

                “เธออยากจะพักไหมเนริ? ดูแปลกๆมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ”

                เด็กหนุ่มสะดุ้งเฮือกหันกลับไปฉีกยิ้มบางๆให้โค้ชคนใหม่ที่เพิ่งเข้ามาควบคุมการฝึกของตน

                “ขอโทษครับ...วันนี้ผมขอออกไปข้างนอกนะ”

                พยักหน้าเชิงอนุญาตก่อนที่เด็กหนุ่มจะออกจากริงก์ เปลี่ยนไปใส่รองเท้าผ้าใบแล้วเหวี่ยงกระเป๋าพาดบ่าเดินออกไปด้วยอาการใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเท่าไหร่

                ติ้ง!

                เสียงแจ้งเตือนทำให้เด็กหนุ่มที่กำลังนั่งเหม่อบนรถบัสคว้าโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าเสื้อวอร์มก่อนจะเปิดดูแบบงงๆ

                -มาเจอกันหน่อย//เลออน-

                ข้อความสั้นๆแต่ได้ใจความ ทำให้เด็กหนุ่มต้องลงจากรถบัสและเดินไปที่โรงแรมที่เจ้าของข้อความพักอยู่  ขึ้นลิฟท์ไปจนถึงห้องเป้าหมายก่อนที่เด็กหนุ่มจะแตะคีย์การ์ดแล้วเดินเข้าไป

                “ฮาย...มาเร็วจังเลยนะ” เจ้าของห้องโบกมือทักทายผู้มาเยือนจากบนเตียง  เขาคิดว่าอีกฝ่ายอาจจะชกหรือเตะเขาเพราะความหงุดหงิดที่เรียกมาในช่วงที่เจ้าตัวกำลังซ้อมอยู่เลยรีบหลับตารอ

                “....”

                แต่ปฏิกิริยาของเนริกลับแปลกไปจนเลออนต้องตกใจตาเหลือกเมื่อสิ่งที่ได้ไม่ใช่หมัดหนักๆไม่สมกับรูปร่างหรือท่าเตะงามๆเหมือนท่ากระโดดบัลเล่ห์แต่กลับเป็นร่างกายผอมบางที่โถมเข้ามากอดแบบสุดตัว

                “เนริ?ไม่สบายหรือเปล่า?ปวดท้องเหรอ?” อารมณ์นึกอยากแกล้งคนตัวเล็กกว่าสลายไปจากหัวทันทีที่โดนกอด เขารีบถามอีกฝ่ายด้วยความเป็นห่วง  คนตัวบางที่ยืนกอดเอวของเลออนส่ายหน้านิดๆก่อนจะตอบกลับด้วยเสียงแหบแห้ง

                “เหงา”

                คำตอบสั้นๆทำให้เลออนเข้าใจในทันที  เด็กหนุ่มชาวรัสเซียอายุ18ปียกมือลูบหัวเล็กๆอย่างเอ็นดูแล้วพาอีกฝ่ายไปนั่งที่โซฟาดีๆ

                อา...เจ้ากระต่ายน้อยโฮมซิก(คิดถึงบ้าน)ซะแล้วสิ

                คัตสึกิ  เนริ นักกีฬารุ่นจูเนียร์ของญี่ปุ่นนั่งหน้าหงอยเหมือนกระต่ายป่วยจนคนอายุมากกว่าอย่างเลออนนึกสงสาร ปีนี้เจ้าตัวมาแข่งกรังปรีซ์ไฟน่อลรุ่นจูเนียร์กับโค้ชคนใหม่ และเพื่อนสนิทชาวเกาหลีใต้ก็หนีไปเดบิ้วรุ่นซีเนียร์ไปแล้วทำให้เจ้าตัวคงจะเหงาที่ไม่มีเพื่อนเล่น  ตามปกติแล้วเนริที่เลออนรู้จักเป็นคนค่อนข้างขี้หงุดหงิดขี้วีนท่าทางเหมือนแยงกี้แต่กลับมารยาทผู้ดีจัดอย่างน่าเหลือเชื่อและเจ้าตัวดันเฟรนด์ลี่เข้ากับคนง่ายขัดกับนิสัยแยงกี้ขั้นสุด นอกจากนั้นยังติดโซเชี่ยลขั้นรุนแรงจนกู่ไม่กลับอีกด้วย

                ในแต่ละปีเนริจะโค้ชมาดูแลไม่ซ้ำหน้า(แถมแต่ละคนเป็นอดีตนักกีฬาที่มีชื่อเสียงในสายนี้ทั้งนั้น) แต่ปีนี้ดูท่าคงจะไม่โอเคกับโค้ชคนใหม่(ที่เจ้าตัวก็บอกว่าโอเคดี)  และคนรอบตัวก็หน้าใหม่ๆซะหมด(พวกในปีก่อนๆพากันเดบิ้วเข้ารุ่นซีเนียร์กันหมด) เลออนเดาว่าเด็กหนุ่มคงจะเหงาเข้าขั้นโคม่าถึงได้ยอมวิ่งมาหาเขาโดยไม่มีบ่นอิดออดเลยซักนิด

                ดูท่า...เขาคงต้องหาเรื่องมาเป็นแรงบันดาลใจให้กระต่ายป่วยตัวนี้ซะแล้วสินะ

                จับคางครุ่นคิดก่อนที่เขาจะนึกเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้

                เดือนนี้เป็นเดือนพฤศจิกายน และอีกสองสัปดาห์ก็จะสิ้นสุดเดือนนี้และเข้าสู่เดือนธันวาคม  เลออนนึกถึงอีเว้นต์ที่สำคัญต่อเนริมากๆได้

                วันที่29 พฤศจิกายน เป็นวันแข่งขันรอบชิงชนะเลิศของรุ่นจูเนียร์และเป็นวันเกิดของคัตสึกิ ยูริ แม่(?)ของเจ้าตัวอีกด้วย!!

                “เนริจำได้ไหมวันที่29เป็นวันอะไร?” ลองถามหยั่งเชิงดูด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม  เนริเหลือบมองเขาด้วยท่าทางตาลอยๆ

                “วันเกิดหม่าม๊า”

                ...ดูท่าจะจำวันเกิดแม่ตัวเองแม่นเอาเรื่อง...

                “แล้วเป็นวันอะไรอีกหรือเปล่า??” ถามซ้ำก่อนที่จะหลุดหัวเราะเมื่อเห็นคิ้วน้อยๆขมวดเป็นปม

                “ก็วันเกิดหม่าม๊าไง” ตอบพร้อมขมวดคิ้วเป็นปม  นักกีฬาฟิกเกอร์สเกตรัสเซียหลุดหัวเราะออกมาจนโดนคนอายุน้อยกว่าเตะขาเข้าให้  เลออนยกมือลูบหัวคนที่ตัวเองเอ็นดูเหมือนน้องชายก่อนจะบอกด้วยเสียงที่ยังติดขำ

                “เป็นวันแข่งชิงชนะเลิศของนายต่างหากเจ้าทึ่ม!

                บอกพร้อมให้มะเหงกเบาๆหนึ่งโป๊กก่อนจะหัวเราะอีกรอบกับหน้าเหวอๆของเด็กหนุ่ม

                “เอ๊ะ....เอ๊ะ....เอ๊!!!!!!!

                เนริแหกปากร้องเสียงหลงก่อนจะสะดุ้งลุกพรวด  คว้ากระเป๋าวิ่งพรวดออกไปจากห้องของเลออนอย่างรวดเร็ว

                “เอ๋า ? ไปซะแล้ว”

                เด็กหนุ่มรัสเซียกุมท้องพร้อมหัวเราะ  ก่อนจะเดินไปปิดประตูที่เนริเปิดค้างไว้

     

                เนริวิ่งหน้าตื่นออกมาจากห้องพักของเลออน  ตรงไปที่ป้ายรถบัสเพื่อกลับไปที่ลานสเกตด้วยหัวใจเต้นระรัว  เด็กหนุ่มแย้มรอยยิ้มอย่างตื่นเต้น

                ใช่แล้ว!สิ่งนี้แหละที่จะทำให้เขามีแรงบัลดาลใจในการแข่งรอบสุดท้าย 

                พอรถบัสจอดและผู้โดยสารบนรถที่จะลงทยอยลงมาหมดแล้วเนริและคนรอบตัวจึงค่อยทยอยขึ้นไปบนรถ  เด็กหนุ่มสอดส่องสายตาหาที่ว่างเพื่อให้ตัวเองมีที่นั่ง  ก่อนจะไปเจอที่ว่างที่แถวเกือบหลังสุด  เด็กหนุ่มเอ่ยเป็นภาษารัสเซียกับคนที่นั่งอยู่ก่อน

                “ขอนั่งด้วยจะได้ไหมครับ?”

                “เชิญครับ....”

                อีกฝ่ายตอบรับพร้อมเงยหน้ามามองก่อนที่ทั้งเนริและคนนั่งอยู่ก่อนจะเบิกตากว้างและเอ่ยออกมาพร้อมกันอย่างตกตะลึง

                “ไม่จริงน่า!ทำไมถึง....”

     

     

     

                คัตสึกิ  ยูริ เลื่อนหน้าจอโทรศัพท์ด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก  เจ้าของบัญชีผู้ใช้งานที่มีศักดิ์เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของเขาอัพรูปภาพมากมายกว่าค่อนร้อยภายในหนึ่งสัปดาห์และแคปชั่น “เหงา” ตลอดทำให้เขาอดที่จะเป็นห่วงลูกของเขาไม่ได้

                ดวงตาสีน้ำตาลแดงเหลือบมองคนรักทั้งสองคนที่พยายามทำอะไรลับๆล่อๆอยู่ตลอดเวลาราวกับกลัวว่ายูริจะรู้หรือเห็น แต่ยูริไม่คิดมากหรอก  พวกเขาก็ทำแบบนี้ทุกปีนั่นแหละ แล้วยูริก็มีหน้าที่แค่ทำเป็นไม่รู้เรื่องเพื่อให้วิคเตอร์และยูริโอะเซอร์ไพรส์เขาด้วยสารพัดวิธี

                ยูริเลื่อนสายตากลับมามองโทรศัพท์ก่อนจะแย้มรอยยิ้มบางๆเมื่อลูกชายตัวเริ่มจะไม่น้อยของเขาอัพรูปภาพใหม่ขึ้นมาสามรูป  เป็นรูปของเนริและเด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันและที่สำคัญ

                ยังหน้าตาเหมือนกันเปี๊ยบเหมือนออกมาจากพิมพ์เดียวกันเสียด้วย

                ยูริคิดในใจว่าไม่แน่ว่าเด็กหนุ่มคนนั้นอาจจะเป็นญาติพี่น้องของเนริก็ได้  เหมือนกันเสียขนาดนั้น ต่างกันแค่อีกฝ่ายไว้ผมสั้นทรงวิคเตอร์แต่เป็นสีทองและมีดวงตาสีน้ำตาลแดง

                มันก็คงจะดีถ้าเนริอาจจะได้เจอ “พ่อ” หรือไม่ก็ “แม่” แท้ๆของตัวเองซักครั้ง

                “ดูอะไรอยู่น่ะยูริ?”เสียงเอ่ยถามพร้อมน้ำหนักที่ทิ้งตัวลงมากอดจากด้านหลังทำให้ยูริต้องหันไปหาเจ้าของเสียงก่อนที่ชายหนุ่มผมสีบลอนด์จะขโมยจูบจากคนในอ้อมกอด

                “ยูริโอะ!

     เรียกชื่อโจรขโมยจูบเสียงเขียวก่อนจะยกมือตีแขนอีกฝ่ายเมื่อเจ้าของชื่อหัวเราะออกมา  ยังไม่ทันได้บ่นอะไรยูริโอะอีกก็มีฝ่ามือมารั้งหน้าของยูริให้ไปรับจูบอีกด้าน

    “อย่าเล่นกันแค่สองคนสิ ฉันก็ยังอยู่นะ”

    “วิคเตอร์!!!

    เอ่ยเสียงดังก่อนจะสะบัดตัวฮึดฮัดอย่างขัดใจเรียกเสียงหัวเราะอย่างชอบใจของคนรักทั้งสองของยูริเสียงดังลั่น  พอยูริเริ่มถลึงตางอนๆ สองสามีรัสเซียถึงได้ยอมหยุดหัวเราะแล้วมาง้อภรรยาร่างบางของพวกเขา

    “ก็ยูริน่าแกล้งนี่นา  ไม่โกรธกันนะครับคนดีโอ๋ๆ”

    ยูริมองค้อนยูริโอะตากลับเมื่อคนอายุน้อยกว่างัดลูกไม้ที่ชอบใช้กับลูกมาใช้กับเขา  แล้วพอหันหนีไปอีกด้านก็เจอกับใบหน้าอ้อนๆไม่เข้ากับอายุของวิคเตอร์อีก 

    ให้ตายเถอะ  แพ้ทางให้สองคนนี้ทุกที

    “โอเคๆ ถอยไปได้แล้วครับ  ผมจะเช็คโทรศัพท์ต่อ”

    “มีอะไรในโทรศัพท์ที่มันน่าสนใจกว่าพวกฉันหรือไง?” วิคเตอร์ถามพร้อมทำหน้าไม่ชอบใจ  สัปดาห์ที่ผ่านมาภรรยาของพวกเขาเช็คโทรศัพท์บ่อยเหลือเกิน เรียกว่าไม่วางเลยก็ว่าได้ ยูริระบายยิ้มบางก่อนจะเลื่อนหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเองเมื่อเด็กหนุ่มอัพรูปภาพตัวเองอีกครั้ง  คราวนี้เป็นภาพที่เนริกำลังซ้อมอยู่ในริงก์พร้อมกับเด็กหนุ่มที่หน้าเหมือนกัน เมินสีหน้าบูดบึ้งของคนเริ่มแก่แต่หน้ายังหนุ่มก่อนจะตอบกลับด้วยเสียงละมุน

    “เนริครับ”

     

     

     

    เนริกุมมือตัวเองแน่นขณะหลับตาตั้งสมาธิ  อีกสองชั่วโมงเขาก็จะแข่งแล้ว  และยิ่งเวลาแข่งใกล้เข้ามาเท่าไหร่  เนริก็ยิ่งประหม่ามากเท่านั้น เพราะมันเป็นครั้งแรกที่ไม่มีคนอยู่ด้วย  เลออนที่อยู่คนละรุ่นก็กำลังเตรียมตัวแข่งเหมือนกันและอีกฝ่ายคงเครียดกับคะแนนSPเมื่อวานที่ออกมาไม่ค่อยดีด้วยทำให้เด็กหนุ่มเลือกที่จะไม่ไปรบกวนคนที่นับถือในฐานะพี่ชายดีกว่า  โค้ชของเนริออกไปจัดการธุระและปล่อยให้เนริฝึกซ้อมอยู่ที่ริงก์คนเดียวเพราะโค้ชเชื่อว่าเนริเข้มแข็งพอที่จะปล่อยให้อยู่ท่ามกลางฝูงชนคนเดียวได้  สายตาของนักกีฬารุ่นจูเนียร์หลายคนต่างจับจ้องมาที่เนริเพราะเมื่อวานเขาทำคะแนนSPได้ดีและตอนนี้เด็กหนุ่มอยู่ในอันดับหนึ่งด้วยคะแนนที่ทิ้งห่างคนอื่นพอสมควร  ทำให้มีสายตาที่ต้องการจะกระชากเนริลงจากบัลลังก์ถูกส่งมาให้เนริตลอดเวลา  รอบตัวของเนริในตอนนี้แทบจะเรียกได้ว่ามีแต่ศัตรูรายล้อมจริงๆ

    แต่ว่า...ก็ไม่ได้มีแต่ศัตรูซะทีเดียว

    “เนริ”

    เสียงเรียกชื่อสำเนียงรัสเซียดังขึ้นด้านหน้าพร้อมน้ำหนักที่กดลงมาบนบ่าบางทั้งสองข้าง  ดวงตาสีฟ้าสว่างเหลือบมองคนที่ยืนอยู่ต่อหน้าตนเองก่อนจะครางชื่ออีกฝ่ายเสียงแผ่ว

    “นะ...เนริส?”

    เจ้าของชื่อบีบบ่าของเนริก่อนจะเลื่อนไปจับแขนของเนริแล้วดึงให้ลุกขึ้นและลากออกมาจากวงสายตาเหล่านั้น

    “ไปข้างนอกกัน”

     

    เนริทำได้เพียงเดินตามคนหน้าเหมือนตัวเองที่สูงกว่าเล็กน้อยไปเรื่อยๆจนร่างกายสัมผัสถึงความหนาวเย็นด้านนอกฮอล์  เนริกระชับเสื้อวอร์มห่อไหล่เพราะความหนาวที่เพิ่มขึ้นเร็วมากก่อนจะเบิกตากว้าง

    “หิ...มะ???”

    พูดเบาๆกับตัวเองอย่างฉงนเพราะว่ามันตกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้  เนริรู้สึกถึงแรงกอดจากด้านหลังจึงหันไปมองอย่างงงๆ อีกฝ่ายฝังใบหน้าเข้ากับกลุ่มผมสีดำก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ

    “ก่อนแข่งยังพอมีเวลาอยู่  มีคนที่อยากพาเนริไปเจอล่ะ”

    “ ? ”

     

     

     

    ยูริมองคนผมเงินที่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้เมื่อลงมาจากเครื่องบิน  ตอนนี้ยูริ ยูริโอะ และวิคเตอร์อยู่ที่สนามบินในรัสเซียที่ใกล้สนามแข่งกรังปรีซ์มากที่สุด  ยูริโอะเมินวิคเตอร์ที่เริ่มเบะปากเตรียมร้องไห้แล้วหันไปหายูริ

    “ใกล้จะแข่งหรือยังยูริ?”

    “อีกสี่สิบนาที  มิลล่าบอกว่าจองที่นั่งไว้ให้แล้วไปได้เลย”ยูริตอบกลับขณะที่กดโทรศัพท์คุยแชทกับมิลล่าที่ตอนนี้เป็นโค้ชให้กับนักกีฬาฟิกเกอร์สเกตรัสเซียประเภทหญิงเดี่ยว

    ยูริโอะจัดการเรื่องส่งกระเป๋าของพวกเขาสามคนไปที่โรงแรมก่อนจะพากันลากวิคเตอร์ที่ยังนอยด์ไม่หายไปขึ้นแท็กซี่เพื่อไปที่สนามแข่งโดยไม่ลืมกระซิบสาเหตุการมาของยูริที่ทำให้วิคเตอร์เลิกงอแง  อันที่จริงยูริโอะก็หงุดหงิดเหมือนกันที่แผนเซอร์ไพรซ์วันเกิดยูริไม่เป็นไปตามคาดเมื่อจู่ๆยูริก็บอกพวกเขาว่าอยากไปที่รัสเซียแบบเร่งด่วนจนงานวันเกิดที่เขากับวิคเตอร์เตรียมไว้ล้มไม่เป็นท่า  แต่พอเขาเปิดโทรศัพท์เพื่ออัพสถานะระบายความหงุดหงิดและอาจจะไปกระตุ้นให้ยูริที่ดูเหมือนจะลืมวันเกิดตัวเองให้ล้มเลิกแผนไปรัสเซียฉบับเร่งด่วนด้วย  แต่พอเห็นสถานะและรูปภาพแรกสุดเขาก็เข้าใจเหตุผลการไปรัสเซียของคนรักทันที

    ภาพถ่ายรองเท้าสเกตสีขาวคาดแถบสีฟ้าที่เขาจำได้แม่นว่าเป็นของใครพร้อมแคปชั่นนับถอยหลังหกวันทำให้เขาไม่ลังเลที่จะไปช่วยยูริจัดกระเป๋าและทำเรื่องเดินทางทันที

    เนริกำลังจะแข่ง  นั่นเป็นสาเหตุเดียวที่พวกเขายอมโยนเรื่องอื่นทิ้งและมุ่งหน้ามาที่รัสเซียทันที

    ถึงจะเสียดายที่มาไม่ทันSPก็เถอะแต่เมื่อกี้เช็คกันแล้วว่าเนริอยู่อันดับที่หนึ่งและทำคะแนนได้ดีจนเหลือเชื่อราวกับว่าเด็กหนุ่มกำลัง “เอาจริง” อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

    วิคเตอร์มองผู้คนมากมายที่อยู่รอบด้านก่อนจะหันกลับมามองยูริที่นั่งอยู่ด้านข้างและยูริโอะที่นั่งถัดไปจากยูริ  พวกเขาทั้งสามคนไม่ได้ปกปิดใบหน้าและหน้าตาก็ไม่ได้เปลี่ยนไปตามอายุทำให้มีคนไม่น้อยที่หันมาให้ความสนใจพวกเขาเพราะรู้จักพวกเขาดีในฐานะ “ตำนาน” ของวงการสเกต และก็คงเป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับพวกนักข่าวกันไม่น้อยในเมื่ออดีตแชมป์สามคนโผล่หน้ามาที่งานแข่งพร้อมๆกันหลังจากพากันหายหน้าหายตากันไปพักใหญ่  นอกจากนี้พวกเขายังเจอซึงกิลที่มากับพิชิตตรงทางเข้าด้วย(ดูท่าจะมาเชียร์ลูกชายที่แข่งรุ่นซีเนียร์) และก็ยังมีนักกีฬาคนอื่นๆ(ทั้งที่ผันตัวมาเป็นโค้ชและไม่ได้เป็น)มารวมตัวกันราวกับนัดกันมา

    ดวงตาสีฟ้าสว่างมองไปยังนักกีฬากลุ่มแรกที่ลงไปวอร์มในริงก์และพบร่างที่คุ้นหูคุ้นตาดีกำลังวอร์มร่างกายตีคู่ไปกับเด็กหนุ่มคนหนึ่งและกล้องกำลังซูมไปที่ทั้งคู่ทำให้พบว่าเด็กหนุ่มทั้งสองคนมีหน้าตาที่เหมือนกันราวกับแกะ

     

     

    เนริไถลตัวไปเรื่อยๆด้วยความรู้สึกสงบนิ่งอย่างน่าแปลก  ข้างๆเป็นเนริส พี่ชาย “ฝาแฝด” ของเขาที่คอยมองเขาอยู่ตลอดเวลา

    เนริสสารภาพว่าเขาค่อนข้างตกใจที่เนริมีหน้าตาเหมือนเขาราวกับฝาแฝดและตกใจยิ่งกว่าที่รู้ว่าเนริเป็นคู่แข่งของเขา  เนริสแอบเอาเลือดของเนริที่บังเอิญได้มาตอนเนริโดนใบมีดที่รองเท้าบาดเอาไปตรวจดีเอ็นเอและผลที่เพิ่งได้มาทำให้เนริสตกใจแทบสิ้นสติ

    คัตสึกิ เนริ เป็นน้องชายฝาแฝดของเขาที่หายตัวไปพร้อมกับแม่ของเขาเมื่อสิบสี่ปีก่อน

    เนริสไม่ลังเลเลยที่จะพาเนริไปเจอกับ “พ่อ” ของ “พวกเขา”ทันที

     

    เมื่อได้พบหน้าพ่อแท้ๆ เนริก็มีท่าทีสงบนิ่งจนน่าประหลาดใจ  เด็กหนุ่มดำทำเพียงแค่ไปนั่งข้างเตียงผู้ป่วยนิ่งๆ ไม่มีท่าทีสะทกสะท้านต่อสายตาของภรรยาหลวงของพ่อที่จิกกัดเด็กหนุ่มอย่างเต็มที่ เอ่ยทักทาย “พ่อแท้ๆ” สั้นๆ และพูดคุยเรื่องทั่วไปพอเป็นพิธีและขอตัวกลับ  เนริสยังจำได้ดี  ถึงประโยคสุดท้ายที่เนริเอ่ยกับพ่อแท้ๆของตัวเองเมื่อพ่อถามว่าเด็กหนุ่มอยากจะกลับมาอยู่กับครอบครัว “จริงๆ”ของเขาหรือเปล่า

    -ตอนนี้ผมมีครอบครัว “จริงๆ”อยู่แล้วครับ ขอบคุณสำหรับคำเชิญ...แล้วก็...ขอบคุณที่ให้ผมได้เกิดมาเจอพวกเขานะครับ-

     

     

    “เนริส หมดเวลาวอร์มแล้วนะ”

    เนริสะกิดไหล่...พี่ชาย เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายมีท่าทางเหม่อลอยซึ่งอีกฝ่ายก็แสดงอาการตกใจออกมาเล็กน้อยก่อนพยักหน้ารับรู้  เนริผ่อนลมหายใจอย่างผ่อนคลาย  วันนี้เขาได้ไปเจอพ่อแท้ๆของเขามา  แต่เขากลับไม่รู้สึกตื่นเต้นเลยซักนิด  แต่พอนึกถึงว่าวันนี้เป็นวันที่29แล้วหัวใจเขาก็เต้นระรัวขึ้นมา

    เป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะฮะหม่าม๊า

     

     

    อีกสองอันดับจะถึงคิวของเนริ  ยูริรู้สึกได้ว่าฝ่ามือของเขาชื้นไปด้วยเหงื่อ  และรู้สึกตื่นเต้นยิ่งกว่าตอนที่แข่งเองเสียอีก  เพราะนี่เป็นปีสุดท้ายที่เนริจะแข่งในรุ่นจูเนียร์และถ้าหากชนะ  มันจะเป็นครั้งแรกที่เนริได้เหรียญทองในการแข่ง(พอนึกๆไปแล้วปกติเนริได้เหรียญเงินตลอดนี่นะ)  ยูริเอื้อมมือไปกุมมือคนข้างๆตัวทั้งสองคนและยูริโอะกับวิคเตอร์ก็บีบมือเขาตอบกลับมาเหมือนกัน  จนในที่สุดเด็กหนุ่มตัวแทนจากแคนนาดาก็ก้าวออกจากริงก์ไปพร้อมรอยยิ้ม  และคะแนนรวมของเขาก็สูงถึง279.42 และขึ้นเป็นอันดับหนึ่ง

    ...นั่นหมายความว่าเนริต้องทำคะแนนรวมให้ได้มากกว่า 280ขึ้นไป

    เนริกำลังก้มหัวเป็นเชิงขอโทษโค้ชของเขาที่ทำสีหน้าตกตะลึงอะไรซักอย่าง   ก่อนที่มือบางจะถอดการ์ดและเสื้อวอร์มออก เมื่อเสื้อวอร์มเลื่อนหลุดจากลาดไหล่บางทำให้ยูริต้องมองร่างนั้นอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง  ยูริส่งเสื้อวอร์มให้นักกีฬาตัวแทนจากรัสเซียก่อนก้าวเข้าริงก์  เนริยืนเกาะขอบริงก์คุยกับเนริสด้วยภาษารัสเซียที่ทั้งรัวและเร็วจนโค้ชของเนริฟังไม่ทันก่อนที่กล้องจะซูมเข้าไปใกล้ในจังหวะที่เนริสยื่นหน้าจูบแก้มของเนริเป็นการอวยพร

    “โชคดีน้องชาย ผลของการฝึกซ้อมไม่ทอดทิ้งนายแน่นอน” เขาเอ่ยอวยพรกับน้องชายที่เพิ่งได้เจอพร้อมทั้งไซร้ปลายจมูกกับแก้มนุ่ม

    “โชคอยู่กับผมเสมอ” เนริตอบกลับด้วยท่าทางมั่นใจก่อนจะผละออกไป

    “ผู้เข้าแข่งขันคนสุดท้ายของรายการนี้ จากญี่ปุ่น คัตสึกิ เนริครับ และเขาได้มาขอเปลี่ยนโปรแกรมที่จะใช้แข่ง  และตอนนี้คณะกรรมการเห็นสมควรอนุญาติแล้ว  โดยที่เขาจะแข่งในธีมของ “Love”เช่นเดิม ”(ผมไม่รู้ว่าจริงๆเปลี่ยนได้ไหมแต่เพื่อความลื่นของเรื่องผมจะให้เปลี่ยนละกัน)

     

    ยูริมองร่างที่ยืนอยู่กลางลานน้ำแข็งด้วยดวงตาสั่นระริก แม้เนริจะตัวเล็กกว่า ผมยาวกว่า หรือจะมีบางจุดที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย ถึงไซส์จะดูเล็กลงมาก  แต่ชุดที่เด็กหนุ่มสวมใส่นั้น มันเป็น “ชุดของยูริ” อย่างแน่นอน เสียงเปียโนที่เริ่มบรรเลงขึ้นมันเป็นเพลงที่ทำให้ยูริต้องยกมือขึ้นปิดปาก  เนริเริ่มวาดลวดลายบนลายสเกตด้วย “ท่าทาง”เดียวกับยูริทุกระเบียดนิ้ว  แต่อารมณ์และความหมายที่สื่อออกมานั้นต่างกับของยูริโดยสิ้นเชิง  มันบอกเล่าถึงเรื่องราวที่ยูริสัมผัสและรับรู้ได้ดีที่สุด

    เนริกำลังบอกเล่าเรื่องราวการพบกันของ “พวกเขา”

    สี่รอบท่าแรกของเนริทำให้วิคเตอร์ลุ้นจนตัวเกร็ง  ใช่...ความรู้สึกตอนที่ยูริใช้มันเพื่อคว้าชัยชนะครั้งแรก มันเหมือนย้อนกลับมากระแทกใส่หัวใจที่กำลังบีบรัดของเขาอย่างรุนแรง  วิคเตอร์กำมือของเขาแน่นจนรู้สึกถึงเล็บที่จิกเข้าไปในเนื้อแต่เขาก็ไม่สนใจมันเพราะร่างบอบบางที่กำลังเคลื่อนไหวบนพื้นน้ำแข็งราวกับตนเองเป็นผู้ที่งดงามที่สุดและอยู่ในจุดสูงสุดของที่แห่งนี้ดึงสายตาของเขาเอาไว้จนไม่อาจละสายตาไปได้

    ทริปเปิลแอกเซล ซิงเกิลลูป ทริปเปิลซาลคาวคอมบิเนชั่น ที่เป็นเอกลักษณ์ของยูริถูกถ่ายทอดออกมาราวกับแฟรี่ที่แตะปลายเท้าลงบนผิวน้ำ  ทั้งจำนวนรอบและความเร็วอันไร้ที่ติทำให้ยูริโอะแทบกลั้นหายใจ เขารับรู้ได้โดยสัญชาตญาณว่าเนริกำลังเรียกหาและถ่ายทอดบางสิ่งถึงเขา  เขาเห็นหยดเหงื่อที่กระเซ็นออกมาเป็นละอองเล็กๆผ่านกล้อง เนริกำลังเริ่มล้า ในฐานะคนที่คอยฝึกสอนให้เนริอย่างเขารู้ดีเลยว่ากำลังกายของเนริกำลังลดลง  อาจจะเพราะด้วยที่เนริเพิ่งจะอายุ14และโปรแกรมที่เขากำลังแสดงเป็นโปรแกรมที่คิดขึ้นมาสำหรับผู้ใหญ่ และควอร์ดแต่ละควอร์ดนั้นกินแรงของเนริมากเกินไปจึงทำให้ยูริโอะสังเกตุเห็นความเหนื่อยล้าเล็กๆที่ปรากฎขึ้นมาให้เห็นเพียงแค่ชั่ววูบ  และมันแทบจะสังเกตไม่ได้เลยว่าร่างกายของเขากำลังล้าเต็มที

    เนริกำลังวาดลวดลายสเต็ปซีเควนซ์บอกเล่าเรื่องราวตอนที่พวกเขาอยู่ด้วยกันและทุกคนที่รู้จักโปรแกรมนี้แทบจะหยุดหายใจเมื่อพวกเขารู้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้

    ยูริรู้สึกว่าดวงตาของเขาช่างพร่ามัวและสัมผัสร้อนที่ไหลอาบไปตามแก้มเมื่อเห็นร่างบางลอยตัวขึ้นจากพื้น  ใบมีดที่รองเท้าแตะลงบนพื้นน้ำแข็งและพาร่างที่แสนงดงามเคลื่อนไหวต่อไป  ทุกอย่างเหมือนกับหยุดนิ่งมีเพียงเสียงใบมีดที่ตัดผ่านผิวน้ำแข็งและเสียงดนตรีที่ราวกับชักจูงและนำพาร่างที่กำลังเคลื่อนตัวพริ้วไหวไปบนพื้นน้ำแข็งขยับไปตามการชักจูงของมัน

    สิ้นจังหวะตัวโน๊ตสุดท้ายและปลายนิ้วที่ชี้ไปยังที่นั่งของคัตสึกิ ยูริราวกับจงใจพร้อมรอยยิ้มราวกับนางฟ้าผู้งดงาม  ทุกอย่างเงียบสนิทจนเนริได้ยินแต่เสียงหายใจของตัวเอง  ก่อนเสียงปรบมือจะดังกึกก้องจนเนริหูอื้อพร้อมกับร่างของคนดูที่ลุกขึ้นยืน  เสียงของผู้ประกาศที่ไม่ได้เข้าหูของเขาเลยแม้แต่น้อย  เนริยืนนิ่งค้างไปชั่ววูบหนึ่งก่อนตั้งสติสะบัดมือไปด้านข้างเป็นการขอบคุณตามที่พ่อๆและแม่ของเขาสอนมา

    “และเขาก็ทำได้อย่างไม่น่าเชื่อครับ!! ฟลิบสี่รอบที่แม้แต่นักกีฬาผู้ใหญ่ยังไม่กล้าแตะต้องมันในช่วงสุดท้ายของโปรแกรม!! แต่เขากลับทำมันได้สำเร็จอย่างงดงาม! ช่างเป็นเด็กที่เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์และอยู่เหนือกว่าความคาดหมายของทุกคน! จากญี่ปุ่น วัย 14 ปี! คัตสึกิ เนริครับ!!!

    เนริเคลื่อนตัวกลับมาที่ขอบริงก์และเมื่อเงยหน้าขึ้นพบกับเนริสที่ยืนรออยู่พร้อมระบายยิ้มบาง  เด็กหนุ่มก็ไม่ลังเลเลยที่จะกระโดดกอดพี่ชายร่วมสายเลือดทั้งน้ำตา

    “โชคอยู่กับนายเสมอจริงๆด้วยสินะ”เนริสพูดพร้อมกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นกดใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยน้ำตาและรอยยิ้มให้ฝังลงบนบ่าของเขา

     

    ยูริปรบมือพร้อมยิ้มบางให้กับร่างที่ยืนอยู่กลางลานน้ำแข็ง  เหรียญสีทองที่คอเป็นเครื่องยืนยันชัยชนะของเด็กหนุ่มที่ระบางยิ้มพร้อมยกเหรียญขึ้นมาจูบเบาๆ

    “ทำท่าอย่างกับเป็นวิคเตอร์สองแน่ะ” ยูริโอะบ่นทั้งๆที่ยิ้มพร้อมกับใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดคราบน้ำตาของตัวเอง  ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงจะบ่นว่าโอเวอร์ทำเป็นร้องไห้กับเรื่องแค่นี้แน่ๆ

    ...นี่สินะหัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่

    “อา...ขนาดชนะเองยังไม่ร้องไห้หนักขนาดนี้เลย บ้าจริง” วิคเตอร์ที่ซบหน้าลงกับบ่าของยูริบ่นเสียงอู้อี้  เขากำลังร้องไห้หนักสุดๆจนสภาพดูไม่ได้(และก็ไม่คิดจะให้ใครดูด้วย)

     

    “ขอรบกวนเวลาซักครู่ครับ”

    เสียงที่คุ้นเคยดังผ่านลำโพงทำให้พวกเขาต้องหันไปมองต้นเสียง  เนริยืนอยู่เพียงลำพังกลางลานน้ำแข็ง  ในสองมือบางคือไมโครโฟนที่คาดว่าคงจะไปขอจากผู้ประกาศมา  และทิศทางที่เนริกำลังมองคือที่ๆพวกยูรินั่งอยู่

    “วันนี้เป็นวันที่สำคัญกับผมมากๆ นอกจากจะเป็นวันแข่งรอบไฟน่อลของผมแล้วมันยังเป็นวันที่คนสำคัญของผมเกิดมาบนโลกนี้ด้วย  ผมคิดว่า ความในใจของผม  คงจะส่งผ่านการแสดงของผมไปหมดแล้ว  และผมก็คิดว่ามันต้องส่งไปถึงคนๆนั้นแน่ๆดังนั้นผมจะไม่พูดอะไรมาก...นากจาก”

    เนริเว้นช่วงพูดไปอึดใจหนึ่งก่อนที่ไฟทั้งฮอล์จะดับวูบ  แล้วก็มีกลุ่มแสงสว่างเล็กๆปรากฎขึ้นและเคลื่อนที่มาหายูริที่นั่งอยู่กลางผู้ชม  เป็นเนริสเด็กหนุ่มชาวรัสเซียที่ได้อันดับที่สามในการแข่ง  เด็กหนุ่มถือเค้กก้อนโตที่ปักเทียนตัวเลขเอาไว้มาส่งให้ยูริพร้อมรอยยิ้ม  เนริสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ก่อนจะพูดออกมาอย่างมีความสุข

    С Днем Рождения Мама

    "สุขสันต์วันเกิดฮะหม่าม๊า

     

    End…

    “แล้วคนที่ถือเค้กมาให้หม่าม๊าเป็นใครเหรอครับเนริ?”

    วิคเตอร์ถามเมื่อนึกขึ้นได้  ตอนนี้พวกเขาสี่คนพ่อแม่ลูกกำลังนั่งกินเค้กอยู่ในห้องพักของโรงแรม  ยูริที่นั่งกินเค้กโดยที่ยังสะอื้นฮักๆเองก็เงยหน้าขึ้นมามองเช่นกัน  ยูริโอะที่เช็ดน้ำตาให้ยูริเองก็มองอย่างอยากรู้เหมือนกัน

    “อ๋อ...นั่นน่ะ  น่าจะมาแล้วมั้ง?”

    เนริแตะคางก่อนจะลุกไปเปิดประตูหลังจากมีเสียงเคาะดังขึ้น  เมื่อประตูเปิดออกผู้ใหญ่ทั้งสามก็ได้พบกับเด็กหนุ่มที่มีรูปร่างสูงโปร่ง  ผมบลอนด์สีทองตัดสั้นเหมือนวิคเตอร์และดวงตาสีน้ำตาลแดง  เด็กหนุ่มระบายยิ้มบางก่อนเดินเข้ามาภายในห้องพัก แล้วเอ่ยแนะนำตัวด้วยภาษาญี่ปุ่นฟังดูกระท่อนกระแท่น

    “สวัสดีครับ  ผมชื่อเนริส  บาร์โทรี่ย์ เป็นพี่ชายฝาแฝดของเนริ ขอฝากตัวด้วยครับ”

    ...ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ  ก่อนที่ยูริโอะจะแย้มรอยยิ้มแสยะใส่วิคเตอร์

    “บอกแล้ว...ว่าลูกฉัน!

    Fin…

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×