ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ REBORN︱ KHR ] Au revoir #All27

    ลำดับตอนที่ #6 : 05︱Zinnia [30%]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.07K
      560
      11 ก.ค. 64

    Zinnia

    ; lasting affection

     

    ช่างเป็นห้องสี่เหลี่ยมที่ยุ่งหยิกเหลือเกิน

     

    ตู้ไม้หายากที่ล้มระนาบไปกับพื้น กับกองคลังความรู้อันล้ำค่าที่เรียกว่าหนังสือที่บัดนี้กลับกลายเป็นเพียงหนึ่งในเชื้อไฟชั้นดีที่ช่วยโหมให้เปลวเพลิงลุกลามท่วมแผดเผาทุกย่างในห้องได้เร็วกว่าก็เดิมเท่านั้น

     

    แล้วตอนนั้นมันเกิดอะไรขึ้นบ้างกันนะ...

     

    เสียงผู้หญิงกำลังร้องไห้สะอึกสะอื้น ริมฝีปากที่แต่เดิมคงจะเป็นสีชมพูสุขภาพดีนั้น ตอนนี้กลับห่อเลือดจนหน้าหวั่นใจ ได้แต่นึกใคร่ครวญสงสัยอยู่ภายในอก ว่าเธอจะขบเม้มริมฝีปากตัวเองจนช้ำขนาดนั้นไปเพื่ออะไรกัน

     

    ในอ้อมกอดเล็ก ๆ ของเธอกำลังโอบกอดใครสักคนไว้อยู่ เขามองเห็นไม่ชัดนั้นว่าคน ๆ นั้นเป็นใคร รู้แต่เพียงว่าของเหลวสีชาดนั่นกำลังชโลมหัวของชายนิรนามจนปกปิดครึ่งหนึ่งของกรอบหน้าไปเสียจนหมด ผิวของเจ้าตัวซีดเผือกราวกับคนที่ได้ตายไปแล้ว

     

    เกิดอะไรขึ้นอย่างงั้นหรือ ?

     

    ก้าวที่หนึ่ง

     

    ก้าวที่สอง

     

    รองเท้าหนังขยับเคลื่อนตัวผ่านเปลวเพลิงสีส้มสว่าง ขากางเกงที่เริ่มติดรอยเขม่าดำส่งกลิ่นเหม็นไหม้ไปทั่วปะปนกับกลิ่นไหม้อื่น ๆ ที่เจืออยู่ในอากาศ

     

    แขนของเธอยิ่งกระชับแน่นขึ้นไปอีกเมื่อระยะห่างระหว่างพวกเขาทั้งคู่ลดลงเรื่อย ๆ  ท่อนขาเล็ก ๆ ดูอ่อนแรงและเต็มไปด้วยรอยขีดข่วนนั่นพยายามตะเกียดตะกายถอยร่นตัวเองให้ไปกับพื้นห้องอย่างสุดชีวิต พร้อมหอบหิ้วร่างในอ้อมกอดไปด้วยท่าทางทุลักทุเล

     

    ดวงตาของเธอนั้นมีสีอเมทิสต์สดใส แต่กลับระรื่นด้วยหยาดน้ำตา

     

    ดวงตาของเธอสีอเมทิสต์สดใส เจือประกายด้วยความผิดหวัง มองลึกลงไปในนั้นจะเห็นเพียงเศษหัวใจที่แตกสลาย รวยรินเหมือนลมหายใจในชั่วเสี้ยววินาทีสุดท้ายของชีวิต

     

    ดวงตาของเธอมีสีอเมทิสต์สดใส บทเพลงสวดวิงวอนต่อพระเจ้าสลักอยู่ในนั้น และเธอกำลังขับร้องออกมาด้วยความศรัทธาอันแรงกล้าแต่กลับไร้ซึ่งเสียง

     

    ดวงตาของเธอมีสีอเมทิสต์สดใสที่ครั้งหนึ่ง…ครั้งหนึ่ง

     

    'ฉันรู้นะคะ ว่าบอสยังอยู่ในนั้น’

     

    เคยมองมาที่เขาพร้อมกับรอยยิ้มที่สดใสราวกับแสงแดดแรกแย้มของปีเสมอเหมือนดังเช่นอัญมณีเม็ดงามคู่นั้นที่ส่องประกาย

    .

    .

    .

    “เห...ละนี่มันคืออะไรอีกเนี่ยรีบอร์น ?”

     

    “ช่วยแหกหูแหกตาอ่านก่อนจะถามฉันบ้างก็ดีนะ”

     

    เสียงดังเซ็งแซ่ของเหล่านักเรียนชายหญิงบริเวณหน้าห้องพยาบาลนั้นทำให้บรรยากาศทั้งหมดดูวุ่นวายขึ้นอีกหลายเท่าตัวหลังจากที่เตียงรถเข็นของรองกรรมการคุมกฎอย่างคุซาคาเบะ เท็ตสึยะ ถูกเคลื่อนผ่านหน้ากลุ่มนักเรียนเข้าไปในห้องพยาบาลอย่างรวดเร็วพร้อมสายน้ำเกลือลากยาวที่ตามเข้าไปติด ๆ  แน่นอนสภาพเขานั้นดูไม่จืดเอาเสียเลยจนกลายเป็นประเด็นพูดคุยกันยกใหญ่ในกลุ่มนักเรียนนาโมริ

     

    ส่วนใหญ่ก็ต่างลงหัวข้อไปที่ว่าพวกกรรมการคมกฎไปลองดีกับใครเข้ากัน ถึงได้โดนสวนกลับมาหนักปางตายขนาดนั้น

     

    และนี่ไม่ใช่กรรมการคุมกฎคนแรกที่โดนเช่นนี้ซะด้วย พอหวนคิดไปถึงความจริงข้อนั้นก็ชวนให้ยิ่งน่าขบคิดไปอีกว่านักเรียนกลุ่มไหนกันนะที่แข็งแกร่งขนาดจะล้มคนของฮิบาริ เคียวยะไปได้มากขนาดนั้น

     

    “ก็อ่านแล้วแต่ไม่เข้าใจไงเลยถามเนี่ย !” โยชิคาวะขมวดคิ้วมุ่น อดไม่ได้ที่จะกรอกลูกตาไปมาอย่างเบื่อหน่าย ก่อนจะตั้งใจเพ่งสมาธิอ่านตัวหนังสือภาษาญี่ปุ่นพิมพ์เส้นหนาบนหน้ากระดาษขาวพร้อมจับใจความอีกรอบอย่างสุดความสามารถ โดยมีสายตาคมกริบอีกคู่สบมองลงมาอย่างเหนื่อยใจ “อันดับความแข็งแกร่งเรื่องการต่อยตีของนามิโมริ แล้วมันทำไมเล่------เดี๋ยวสิรีบอร์น!”

     

    “แกนี่นะ...”

     

    แผ่นกระดาษบางถูกฉกฉวยเอาไปอย่างรวดเร็ว นักฆ่าหนุ่มกวาดสายตารีดเค้นทุกเนื้อหาในแผ่นกระดาษจนหยดสุดท้ายภายในเวลาไม่ถึงครึ่งนาทีอย่างอัศจรรย์ ก่อนจะกระตุกยิ้มแสยะและขำในลำคออย่างมีเล่ห์นัย กระดาษขาวถูกชูขึ้นพลิกด้านเนื้อหาหมึกดำไปทางลูกศิษย์ที่กำลังมองค้อนมาทางเขาอยู่เนื่อง ๆ “เอาล่ะโยชิ บอกทีแกเห็นอะไรในนี้ ?”

     

    “ก็แร็งกิ้งที่ฟูตะทำให้ครั้งก่อน ?” 

     

    “ถ้าเป็นข้อสอบเต็มห้า แกเอาไปแค่ศูนย์จุดหนึ่งพอ” น้ำเสียงเรียบนิ่งเหมือนผิวน้ำทะเลสาบยามคลื่นลมสงบ ช่างขัดกับฝ่ามือกร้านนั่นที่หมายปองจะเข้ามาปะทะหัวเขาอยู่ร่อมร่อ

     

    อยู่กับเจ้านี่ถ้าไม่ตายเพราะโดนมาเฟียด้วยกันลอบฆ่า ก็คงโดนมันฆ่าเองนี่แหละ แต่ละวันก็ช่างสรรหาเรื่องทำร้ายร่างกายเขาได้ตลอดจริง ๆ 

     

    มือข้างซ้ายที่ว่างอยู่ชี้ไปที่เลขหน้าของชื่อแต่ละคนไล่จากล่างสุดจนถึงบนสุดของหน้ากระดาษอย่างช้า ๆ ซึ่งว่าที่บอสวองโกเล่รุ่นที่สิบเองนั้นก็พยายามมองหานัยแฝงของเลขเหล่านั้นอย่างเท่าที่สมองของตนเองจะอำนวย แต่ก็ดูเหมือนว่าจะยังไม่เข้าใจประเด็นที่อาจารย์ของตนต้องการจะสื่ออยู่ดี 

     

    รีบอร์นพ่นลมหายใจออกมาอย่างสุดจะทน “เฮ้อ สมชื่อไอ้ห่วยจริง ๆ เลยนะแกนี่”

     

    โอ้...ใช่สิ ก็นายมันนักฆ่าอันดับหนึ่งของโลกมาเฟีย สุดแสนเพอรเฟ็ค เก่งไปซะทุกอย่างนี่-----ไม่ได้อยากจะให้ความคิดอคติแบบนี้เด้งขึ้นมามีบทบาทในสมองมากนัก แต่ก็คงจะเป็นไปไม่ได้อยู่ดีเมื่อเจ้าคนที่แอบนินทาในใจอยู่นั้นกำลังยิ้มเยาะเย้ยเขาอยู่ในเห็นผ่านทางสายาตาอยู่นั่นไงเล่า

     

    “ดูอันดับกับชื่อของคนที่โดนสิ” ร่างสูงกล่าว ก่อนจะยื่นกระดาษคืนให้เจ้าของดวงตาคู่มรกตไปจับสังเกตต่อเอาเองจากคำใบ้เล็ก ๆ ที่ทิ้งไว้ให้

     

    โยชิคาวะไม่เคยคิดอย่างที่จะทำความเข้าใจกับระบบในโลกมาเฟียอันดำมืดนี่ซักเท่าไหร่นัก

     

    “มัน...เรียงกัน?”

     

    ยิ่งรู้ยิ่งลึก บางทีการกระทำบางอย่างของพวกคนที่เรียกกว่าเป็นมาเฟียก็ดูไร้เหตุผลและป่าเถื่อนจนเกินกว่าที่พลเมืองธรรมดาแบบเขาจะเข้าใจ

    หากเลือกได้เขาก็ไม่อยากมายุ่งด้วยนักหรอก

     

    “จากล่างขึ้นบนด้วย” ผู้เป็นอาจารย์กล่าวเสริม มือทั้งสองข้างย้ายไปกอดกันไว้ที่หน้าอก แผ่นหลังเอนพิงกับพนังซีเมนต์ด้านข้างในขณะที่สายตาเหม่อลอยออกไปข้างนอกหน้าต่างระหว่างรอผู้เป็นศิษย์ทำความเข้าใจกับเนื้อหา “ทีนี้แกลองดูที่ลำดับที่เหนือจากคุซาคาเบะขึ้นไปสิ”

     

    ดวงตาสีใบไม้อ่อนค่อย ๆ เลื่อนสายตาขึ้นไปก่อนที่จะเบิกกว้างออกมาเหมือนผิวน้ำนิ่งตอนที่มีก้อนหินหล่นลงกระทบเกิดเป็นคลื่นแผ่กระจายออก เจ้าตัวนิ่งข้างไปสักพัก หันกลับไปมองที่นักฆ่าหนุ่มราวกับต้องการจะถามหาคำตอบที่ตนรู้ดีอยู่แล้ว

     

    “ลำดับต่อไป...นี่...จริงเหรอรีบอร์น?” อีกฝ่ายนิ่งเงียบไปอยู่ชั่วขณะหนึ่งก่อนจะค่อย ๆ พยักหน้าตอบรับอย่างช้า ๆ

     

    หัวใจดวงน้อย ๆ กระตุกวูบ โยชิมั่นใจนักว่าหากมันร่วงไปตกอยู่บนพื้นระเบียงในตอนนี้ได้ก็คจะตกลงไปแล้ว ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ด้วยซ้ำที่เขาเพลออกแรงกำกระดาษอันแสนเปราะบางนั่นจนยับยู่ยี่ไปมากขนาดนี้

     

    “...รีบไปเถอะโยชิ ป่านนี้ไม่รู้จะเป็นยังไงบ้างแล้ว”

     

    แต่ก็คงจะไม่มีทางเลือกมากนักเพราะฝ่ายนั้นชอบมายุ่งยามกับคนในครอบครัวของเขาแบบนี้ไงเล่า !

     

    30%

    แคก---- มาหย่อนไว้ก่อนอีกส่วนหนึ่งค่ะ ยังไม่ได้แก้คำผิดนะคะ เดี๋ยวจะมาแก้ให้อีกทีตอนเต็มค่ะ ! ยังไงก็ขอบคุณรีดเดอร์ทุกคนที่เข้ามาให้ความสนใจนะคะ แงงงง

    (( ไหนดูซิ อัพตอนตีสองจะยังมีคนนอนดึกแอบมาอ่านอีกไหม หึๆ ))

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×