ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (fic got7) NO SARA! เรื่องนี้สาระหามีไม่ #?xbam

    ลำดับตอนที่ #2 : คนบ้า1

    • อัปเดตล่าสุด 24 มิ.ย. 57


    “สวัสดีครับ คุณคงเป็นหมอที่มารับคนไข้สินะครับ”

    “ครับ สวัสดีครับผม นิชคุณ หรเวชกุลครับ เรียกว่านิกคุณก็ได้ครับ”

    “อ่อครับ หมอนิกคุณ นี่คือคนไข้ทั้งสามคนที่จะมาอยู่ที่นี่ และนี่ก็ประวัติพวกเขาครับ”
     

    คนมีภูมิฐานที่ประดับด้วยหมวกสีเทา แนะนำคนไข้ให้หมอหน้าหล่อ พร้อมส่งแฟ้มประวัติของคนไข้ทั้งสามให้กับคุณหมอหนุ่ม
     

    “ครับ ขอบคุณครับ”

    “ผมฝากดูแลคนไข้ของผมด้วยล่ะครับ ถ้าโรงพยาบาลผมปรับปรุงเสร็จเมื่อไหร่ผมจะรีบมารับกลับ ขอบคุณครับ”

    “ครับ ผมจะดูแลให้ดีที่สุดครับ ไม่ต้องกังวลไปหรอกครับ”

    “ยังไงก็ขอบคุณมากๆนะ ผมไปละ”

    “ครับ เดินทางปลอดภัยนะครับ”
     

    หมอหนุ่มกล่าวลาพร้อมโค้งให้ผู้มีอายุสูงกว่า จนรถตู้ของโรงพยาบาลออกตัวไป ในใจก็สงสัยว่าทำไมไม่เอารถส่วนตัวมา มากันแค่สี่คน ถ้าไม่อย่างนั้นก็ให้คนขับรถของโรงพยาบาลมาส่งก็ได้ หรือมันเป็นการประชาสัมพันธ์โรงพยาบาลไปในตัวนะ ไม่เข้าใจท่านผอออของโรงพยาบาลวายจีเลยจริงๆ หมอหนุ่มส่ายหน้าสลัดความสงสัยของตนเองออก ลืมไปเลยว่ามีคนไข้อีกสามคนยืนอยู่ด้วย จะว่าไปโรงพยาบาลวายจีนี่คัดหน้าตาคนไข้รึเปล่าทำไมมีแต่คนไข้หน้าตาดี ทักทายคนไข้สักหน่อยดีกว่า
     

    “สวัสดีครับ หมอชื่อหมอนิกคุณนะ เรียกหมอคุณ เรียกฮยองก็ได้ แล้วแต่เลย แล้วชื่ออะไรกันบ้างครับบอกหมอหน่อย”

    “หมอก็มีแฟ้มประวัติพวกเราหมอก็ไปอ่านเองดิครับ ถามทำไม”
     

    คนไข้คนหนึ่งที่ใส่หมวกแก๊ปหันไปด้านหลังพร้อมกับมีหูฟังอันเป้งอยู่ที่คอและแต่งตัวคล้ายพวกบอยแบนด์(อันที่จริงก็แต่งตัวเหมือนบอยแบนด์ทั้งสามคนแหละ)แถมหน้าตายังดูไม่ค่อยเป็นมิตรตอบขึ้นด้วยน้ำเสียงติดรำคาญ คนถามได้แต่ยิ้มขำ ถ้าเป็นคนอื่น คนไข้ตรงหน้าอาจโดนต่อยไปแล้ว แต่นี่เป็นหมอคุณสุดใจดีที่มีประสบการณ์คลุกคลีอยู่กับคนบ้า(?)มาเป็นเวลานานทำให้เขาไม่ค่อยถือสามากเท่าไหร่
     

    “ครับๆ หมอก็ถามไปงั้น ไปครับไปเหล่าไอดอลทั้งสามของวายจี เข้าไปข้างในกันครับ”

    “ห้ะ! ไอดอลงั้นหรอ ฮยองรู้ได้ไงครับว่าพวกผมป็นไอดอล นี่ขนาดผมยังไม่แสดงตัวนะครับ ฮยองนี่ตาถึงจริงนะครับแหม่”

    คนไข้ตาตี่ พร้อมฟันหน้าที่ดูโดดเด่นเอ่ยขึ้นอย่างตื่นเต้น เมื่อฮยองรูปหล่อบอกว่าพวกเขาเป็นไอดอล แพลนกล้องไปยังคนไข้คนที่สามที่ยังไม่ได้กล่าวถึง หลังจากได้ยินคำว่าไอดอล เขาก็เอาผมมาปรกหน้าครึ่งหนึ่ง พร้อมกับใส่หมวกที่เขาถือไว้ตั้งแต่แรกแต่ไม่ใส่และร้องเพลงของไอดอลชื่อดังที่ชื่อว่าจีดราก้อน ประหนึ่งจีดราก้อนมาเอง จะว่าไปคนไข้คนนี้ก็หน้าตาคล้ายไอดอลชื่อดังคนนั้นอยู่นะ

     

    “เล่นบ้าไรกัน จะไปบอกคนอื่นทำไมว่าเราเป็นไอดอล”

    คนไข้คนเดิมที่ดูไม่เป็นมิตรเอ่ยขึ้นแหละส่งสายตาดุๆไปยังเพื่อนร่วมวง(?)ทั้งสอง ก่อนจะสาวเท้าก้าวเข้าไปในโรงพยาบาล(แต่เขาคิดว่าเป็นค่ายเพลงที่ต้องมาทำงานเพราะค่ายเก่าปิดปรับปรุง)อย่างไม่รอเพื่อนที่กำลังคุยโม้ถึงเรื่องในวงกับฮยองคนนั้นอย่างออกรส

    “เฮ้ยยย ฮันบินรอด้วยดิ นี่กำลังเช็คเรทติ้งวงเราเลยนะ” คนไข้ที่คล้ายๆจีดราก้อนกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปหาคนไข้ที่เดินจ้ำเอ้าเข้าไปในโรงพยาบาล แต่ก็ยังไม่ลืมตะโกนเรียกเพื่อนอีกคนที่กำลังโม้อย่างเมามัน “บ๊อบบี้ ตามมาให้เร็ว ลีดเดอร์งอนแล้ว”

    “เออ เดี๋ยวตามไปมิโน ไปครับฮยองนานๆทีจะเจอแฟนบอย เข้าบริษัทกันครับ ”

    คนไข้ที่ชื่อบ๊อบบี้ตะโกนบอกเพื่อนก่อนจะหันไปชวนแฟนบอย(?)ของพวกเขาเข้าโรงพยาบาลด้วยกัน ส่วนหมอคุณก็พอจะเดาอาการออกแล้วว่าพวกเขาเป็นยังไง อ่า พวกเขาจะเข้ากับคนไข้ในโรงพยาบาลได้รึเปล่านะ ดูคนไข้ที่ชื่อฮันบินอะไรนั่นไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่ แต่อีกสองคนคงไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่ ขอให้เข้ากันได้เถอะนะ หมอไม่อยากเหนื่อยกว่าเดิม


    ๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

     

    “สวัสดีครับคุณคงเป็นหมอคนใหม่ที่นี่”

    “ครับ ผมต้วน อี้เอิน จะเรียกผมมาร์คก็ได้นะครับ”

    หมอใหม่ไฟแรงโค้งให้หมออีกคนที่ออกมารับเขาดูเด็กกว่าเขา แต่ในฐานะที่ป๊าสอนมาดี ถึงจะอายุน้อยกว่าแต่ถือว่าเป็นรุ่นพี่ที่ทำงานมาก่อน ต้องให้ความเคารพซะหน่อย

    “ครับ หมอต้วน ผมเชว ยองแจครับ จะเรียกเชว จะเรียกยอง จะเรียกแจ จะเรียกแตงกวา ก็ได้ครับผมรับได้หมด”

    “ฮ่าๆๆๆ หมอนี่อารมณ์ดีจังนะครับ”

    น้องใหม่สุดหล่อได้แต่ขำกับความตลกของหมอรุ่นพี่ หมอที่นี่คงไม่ค่อยซีเรียสเท่าไหร่ เขาคงไม่เกร็งมากถ้าได้ทำงานที่นื่

    “งั้นเราเข้าไปข้างในกันดีกว่าครับหมอต้วน เดี๋ยวผมจะพาชมรอบๆโรงพยาบาล”

    “ครับ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ”

    “ไม่เป็นไรคนกันเองๆ”
     

    หมอมาร์คได้แต่ขอบคุณอย่างสุดซึ้ง ที่มีคนมาดูแลขนาดนี้ พวกเขาเดินมาเรื่อยๆ หมอเจ้าถิ่น(?)ก็อธิบายไปเรื่อยๆจนมาหยุดอยู่ที่ห้องๆหนึ่งน่าจะเป็นห้องประจำของหมอคนใดคนหนึ่ง น่าจะเป็นของหมอรุ่นพี่คนนี้ หมอคนใหม่ก็เดินตามเข้าไป แต่โต๊ะทำงานมันเขียนว่าหมอ คิม ยูคยอมนี่ อาจจะเป็นหมอคนเก่าก็ได้ ถึงเขาจะเริ่มสงสัยแล้วก็เหอะ

    เสียงประตูเปิดขึ้นพร้อมกับเด็กหนุ่มร่างสูงใหญ่ หน้าตาดูดีใช้ได้เลยทีเดียว เขาเอ่ยประโยคด้วยน้ำเสียงดุนิดๆไปยังหมอตาตี่รุ่นพี่คนที่นั่งอยู่ตรงข้ามหมอคนใหม่

    “อ้าว ยองแจ เอาเสื้อหมอไปใส่อีกแล้วนะ! หมอหาตั้งนาน”
     

    หมอมาร์คหันขวับไปยังหมอรุ่นพี่ทันที สายตาไล่ลงไปที่หน้าอกของเสื้อกราวน์ ก็พบความจริงว่า ชื่อที่ปักนั้น เป็นชื่อว่าคิม ยูคยอม จริงๆ ทำไมผมไม่สังเกตตั้งแต่แรกนะ งั้นแสดงว่ายองแจคนนี้เป็นคนไข้น่ะสิ ถึงว่าทำไมประวัติโรงพยาบาลมันแปลกๆ ไม่เหมือนที่ผมศึกษามาเลย ผมคิดว่าผมศึกษามาผิดซะอีก หมอยองแจบอกว่า ผู้อำนวยการชื่อผักยำจุง เลยย่อมาเป็นเจวายพี เริ่มก่อตั้งตั้งแต่สมัยโชซอน และสาขาแรกอยู่ที่มกโพ แล้วจึงขยายมาที่โซล แถมยังมีธุรกิจสวนแตงเป็นธุรกิจเสริมทำให้ทุกเมนูที่โรงพยาบาลต้องมีแตง นี่คือข้อมูลคล่าวๆที่ผมได้รับจากหมอ เอ้ย คนไข้คนนี้ ผมหลงเชื่อไปได้ไงงงงงงงง
     

    “คืนเสื้อหมอมาเดี๋ยวนี้เลย”

    “โถ่ หมออ่ะ เอาเอาไปเลย ไม่อยู่เล่นด้วยแล้วนะหมอต้วน ไปละ ล้า ลา ละ ล้า ลา~

    คนไข้ที่ชื่อยองแจ บ่นอย่างขัดใจก่อนจะถอดเสื้อกราวน์ส่งให้หมอตัวจริง แล้วหันมาล่ำลาเพื่อนใหม่(?) แล้วกึ่งกะโดดกึ่งวิ่ง ร้องเพลงออกไปจากห้องอย่างอารมณ์ดี

    “ผมขอโทษแทนคนไข้ด้วยนะครับ เขาก็เป็นอย่างนี้แหละเขาอยากเป็นหมอน่ะครับ”

    “เอ่อ ไม่เป็นไรครับ”

    “คนไข้เล่าอะไรให้คุณฟังก็อย่าไปคิดมากนะครับ เขาก็เล่าไปตามประสา เอ้อ ผมลืมแนะนำตัวเลย ผมหมอคิมยูคยอมครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ”

    “ครับ ผมเพิ่งมาใหม่ครับ ชื่อต้วน อี้เอิน เรียกมาร์คก็ได้ครับ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ”

    “ครับ เดี๋ยวตอนเย็นๆผมจะพาหมอไปทำความรู้จักคนไข้ก่อน ได้ข่าวว่ามีคนไข้ใหม่ด้วย ผมจะได้ไปทำความรู้จักพร้อมกันเลย”

    “ครับ”

    “ถ้ามีปัญหาอะไรถามผมได้เลยนะครับ หรือถ้าอยากรู้ประวัติคนไข้เพิ่มเติมก็ไปติดต่อที่พยาบาแบ ซูจีได้เลยนะครับ เธอเป็นคนดูแลเรื่องเอกสาร”

    “ครับ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ”

    “ที่จริง หมอมาร์คก็เป็นรุ่นพี่ผม ไม่ต้องสุภาพมากก็ได้ครับ ตามสบายเลย ยังไงก็เป็นฮยองผมอยู่แล้ว”

    “ฮ่าๆๆๆ จริงด้วย”

    “ระหว่างรอผมจะพาหมอมาร์คไปดูรอบๆโรงพยาบาลดีกว่าครับ เมื่อกี้ยองแจคงยังพาไปไม่ทั่ว”



     

    “ยูคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคค คยอมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมี อี้ อี้ อี้”




     

    ระหว่างที่หมอทั้งสองกำลังสนทนากันอยู่นั้น เสียงใสก็ดังมาจากนอกห้อง ถ้าได้ยินไม่ผิดน่าจะเป็นชื่อของคุณหมออายุน้อยคนที่นั่งอยู่ในห้อง
     

    ปึง
     

    เสียงประตูเปิดออกอย่างไร้ความปราณี เผยให้เห็นเจ้าของเสียงใสที่ได้ยินเมื่อครู่ เด็กผู้ชายตัวเล็กๆหน้ากลม ตากลมโต แก้มยุ้ย ปากอิ่มแดงที่อมอมยิ้มรูปแหวน พร้อมกับผมสีน้ำตาลเข้มที่ยุ่งนิดๆบ่งบอกว่าเจ้าตัวต้องไปเล่นซนมาแน่ อยู่ในชุดคนไข้ลายตามยาวสีฟ้า ที่ให้ความรู้สึกเหมือนชุดนอน มากกว่า ตากลมโตคู่นั้นจ้องไปยังคนแปลกหน้า สลับกับคุณหมอคนสนิทอย่างงๆ จนคุณหมออดขำไม่ได้ ส่วนหมอที่มาใหม่ได้แต่จ้องคนตัวเล็กไม่วางตา และได้แต่คิดว่าโรงพยาบาลนี้คัดหน้าตาอยู่ป่ะวะ ทั้งหมอทั้งคนไข้ รวมทั้งเรา(เดี่ยวนะหมอมาร์ค ไม่ใช่ละ)

    “ใครอ่อ?” หลังจากจ้องได้พักใหญ่คนไข้ตัวเล็กก็เดินมาหาคุณหมอคนสนิทก่อนจะนั่งคร่อมตักหันหน้าเข้าหาคุณหมอหนุ่ม ใบหน้าของคนทั้งสองใกล้กันเพียงคืบ ก่อนจะเอ่ยประโยคคำถามออกไป ส่วนทางด้านคุณหมอคนใหม่ก็ถึงกับตัวแข็งทำอะไรไม่ถูก โรงพยาบาลนี้หมอกับคนไข้สนิทกันขนาดนี้เลยอ่อวะ มาร์คได้แต่คิดในใจ

    “คุณหมอคนใหม่น่ะน้องแบม” คนเป็นหมอตอบแต่ก็ยังจ้องไปที่ริมฝีปากอิ่มวาวที่มีอมยิ้มอยู่ด้านใน ก่อนจะกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ให้มันได้อย่างนี้สิน้องแบม ชอบยั่วคนอื่นไม่รู้ตัว ถ้าหมอเป็นคนอื่นน้องแบมไม่รอดนะ

    “จริงหรอ” แบมแบมหรือคนไข้ตัวเล็กพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น พร้อมขย่มตัวขึ้นลงไปมาอย่างดีใจ เพราะเขาอยากมีเพื่อนใหม่เยอะๆๆๆๆ คนตัวเล็กอมอมยิ้มไป ขย่มไปพร้อมกับหันหน้ามาหาหมอคนใหม่อย่างดีใจ แต่หมอคนใหม่ได้อึ้ง ทึ่ง ช็อค ไปเรียบร้อยแล้ว ก่อนคนไข้ตัวเล็กจะเอ่ยถามขึ้นดึงสติหมอคนใหม่กลับมา “จริงหรอครับ แล้วหมอชื่ออะไรอ่ะ”

    “เอ่อ หมอ

    “เหวอออ”

    “น้องแบมระวังสิ ไปยืนดีๆเลย ยืนพูดกับคุณหมอดีๆ”

    ขณะที่หมอคนใหม่กำลังแนะนำตัว คนไข้ตัวเล็กที่โยกตัวเล่นอย่างสนุกสนานก็ทำท่าเหมือนจะตกจากตักคุณหมอ จนคุณหมอต้องรั้งเอวบางเข้ามาแนบชิดตัว พร้อมกล่าวดุอย่างไม่จริงจังนัก จนคนไข้ตัวเล็กต้องยอมลงไปยืนข้างๆ ด้วยความขัดใจที่แสดงอกมาทางสีหน้าทางปากอิ่มที่ยู่ออกมานั่น

    “โอ๋ๆ อย่างอนสิครับ อยากถามอะไรหมอก็ถามสิ เดี๋ยวคยอมมี่มานะ คนเก่ง”

    คุณหมอหนุ่มลุกยืนขึ้นยีหัวคนไข้เอาแต่ใจสองสามที ก่อนจะเดินออกไปทิ้งให้คุณหมอคนใหม่อยู่ในห้องกับคนไข้ตัวเล็กอย่างเกร็งๆ ส่วนคนตัวเล็กก็รีบนั่งแทนที่คุณหมอคนสนิทที่เพิ่งออกไป พร้อมทำท่าตั้งใจฟังอย่างใจจดใจจ่อ แถมยังเอาอมยิ้มของโปรดออกมาใส่นิ้วชี้เป็นเครื่องประดับชุดชิค

    “เอ่อ คือ หมอชื่อต้วนอี้เอินนะ เรียกว่าหมอมาร์คก็ได้”

    “ไม่เอาอ่ะ ไม่ชอบคำว่าหมอเลย มันทำให้น้องแบมดูเหมือนป่วย”

    “เอ่องั้นคนไข้จะเรียกอะไรก็แล้วแต่เลยครับ”

    “ไม่เอาดิอย่าเรียกน้องแบมว่าคนไข้ เรียกว่าน้องแบม ดูปากน้องแบมแล้วพูดตามนะคะ น้องแบม อีกครั้งนะคะ น้องแบม”

    “เอ่อ ครับ น้องแบม”

    “ดีมากค่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ น้องแบมเหมือนน้องณัชชาใช่ป่ะล่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
     

    เอ่อออ หมอมาร์คงงมากเลยครับใครคือน้องณัชชากันครับ ผมไม่รู้จัก ผมไม่เคยเปิดช่องสามนะครับ ผมอยู่เกาหลีผมไม่รู้จักช่องสามจริงๆนะครับ ผมไม่รู้จักลุงสรยุทธ์ กับน้องไบร์ท ไม่รู้จักทีวีสามร้อยหกสิบองศาจริงๆนะครับ (นี่ขนาดไม่รู้จัก เอิ่มมม)
     

    “งั้นต่อไปนี้น้องแบมจะเรียกหมอว่า เอ้ อะไรดีน้า”
     

    คนตัวเล็กพูดขึ้นพร้อมทำท่าคิดหนัก ไม่รู้รึไงว่ามันน่ารักน่ะ อร้ายยยยยยยยยย ต้วนจะบ้าตาย มาเจอคนไข้โมเอร้ อย่างนี้หมอมาร์คต้องทำยังไงครับตอบบบ (เริ่มออกลายแล้วสินะคะหมอ แหม)
     

    “คิดออกแล้ว เรียกว่า มาร์คคี่ ดีกว่า มาร์คคคคคคคคคคคคคคคคี่”
     

    ทำไมผมรู้สึกไม่ค่อยถูกชะตากับชื่อนี้เลยล่ะครับดูเหมือนจะอาภัพไร้คู่ แถมยังให้ความรู้สึกเหมือนมีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์โชยมาอีกครับ แต่ไม่เป็นไรน้องแบมตั้งให้ผมยอมมมมมมม







    tbc นะเครฟฟ
    ๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

    อาจจะสั้นไปหน่อย เดี๋ยวคราวหน้าจะพยายามทำให้ยาวนะ(?)
    มีความสุขและบ้าไปด้วยกันนะทุกคนนนนนนน

    ปะละ ฟิคมันบ้า หรือคนเขียนบ้า หรือคนอ่าน(มีมั๊ยนะ)บ้า ก็ไม่รู้สิ ฮ่าๆๆๆๆๆ
    จะปะละ พบเห็นคำผิดบอกน้องด้วยนะ

    B B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×