คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทไม่ตาม
ณ โรงพยาบาลเจวายพี
“สวัสดีค่ะ นัดกับท่านผู้อำนวยการไว้รึเปล่าคะ?”
ร่างสูงใหญ่ของชายวัยกลางคนที่แต่งกายภูมิฐาน แต่ติดอยู่ที่หมวกสีเทาใบโปรดที่ไม่ค่อยเข้ากับชุดสูทผูกไทด์สักเท่าไหร่ ถูกเสียงใสของเลขาฯสาวสวยขัดขึ้นระหว่างที่เขากำลังจะเปิดประตูเข้าไปในห้องของเพื่อนสนิมอย่างถือวิสาสะ เขาชะงักก่อนจะหันไปตอบเลขาสาว
“ระดับผมไม่ต้องนัดหรอกครับ”
“เอ่ออ คุณคะ คุณ ถ้าไม่ได้นัดเข้าไม่ได้นะคะ”
ปัง
“ให้ตายเหอะ ถ้าฉันโดนไล่ออกไปจะทำยังไง”
เลขาสาวได้แต่บ่นอย่างหัวเสีย นอกจากจะไม่ฟังเธอแล้วยังจะมาปิดประตูใส่หน้าเธออีก อีตาลุงบ้าเอ้ย ส่วนทางด้านของ ยางฮยอนซอก เจ้าของโรงพยาบาลวายจีหรือเพื่อนสนิทของเจ้าของโรงพยาบาลเจวายพีแห่งนี้นี่แหละ เมื่อเข้ามาในห้องของเพื่อนสนิทได้ก็ถึงกับกุมขมับ ทุกทีเลยสินะ ร้องคาราโอเกะได้ทุกวี่ทุกวันทุกเวลา
“ย๊าห์ ปาร์คจินยอง”
ส่วนผอออของโรงพยาบาลก็ยังคงตั้งหน้าตั้งตาร้องเพลงต่อไปโดยไม่ได้รู้เลยว่ามีแขกคนสนิทมาเยือนถึงในห้อง
“ปาร์ค! จินยอง!”
เมื่อตะโกนเรียกเป็นรอบที่หลายรอบ(?)แล้วก็ยังเหมือนเดิม แขกวีไอพีจึงต้องหอบสังขารตัวเองไปกระชากปลั๊กเครื่องเสียงออก
“เฮ้ยยย”
“ไม่ต้องมาฮงมาเฮ้ย ร้องอยู่ได้น่ารำคาญ”
“อ้าวพูดงี้ก็สวยดิ คุณยาง แล้วทำไมไม่บอกเลขาฯก่อนว่าจะมา”
“ทำไมต้องบอก”
“เออๆ ฉันรู้ว่านายน่ะอินดี้ โอเคๆ นั่งๆ นั่งก่อน”
“น่าจะเชิญตั้งนานละ”
เมื่อสถาณการณ์ในห้องกลับมาเป็นปกติแล้ว ก็ถึงเวลาที่ผอออโรงพยาบาลวายจีต้องบอกจุดประสงค์ที่ต้องมาถึงที่แห่งนี้
“ที่ฉันมาเนี่ย คือฉันมีธุระ”
“ฉันรู้ๆ”
“อย่าเพิ่งขัดดิเว้ย ยังพูดไม่จบ”
“เออๆขอโทษๆ ต่อครับๆ”
“คือที่โรงพยาบาลฉันน่ะต้องปิดปรับปรุงนิดหน่อย ก็เลยจะฝากคนไข้ไว้ที่โรงพยาบาลนายซักหน่อย ไม่เยอะหรอก”
“ได้ดิๆ แล้วกี่คนวะ จะได้เตรียมคนดูแลไว้”
“สามคน”
“ห้ะ! สามคนเนี่ยนะไม่เยอะ แต่ก็ยังดีกว่ามาทั้งโรงพยาบาล แล้วคนไข้คนอื่นๆล่ะไปอยู่ที่ไหนกันหมด”
ท่านผอออโพล่งขึ้นมาอย่างตกใจที่จริงคิดว่าจะมาฝากไว้คนเดียวเสียอีก สามนี่มันเยอะไปแล้วนะ (มันเยอะตรงไหนคะท่านผอออ)
“คนอื่นๆก็อาการดีขึ้น ไม่รุนแรงมากแล้วล่ะ แค่ให้กลับบ้านให้ครอบครัวดูแล หรือไม่ก็ส่งพยาบาลหรือหมอไปช่วยดูแล”
“แสดงว่าสามคนนี้นี่คือหนักสุด”
“จะว่างั้นก็ได้”
ผู้มาเยือนยักไหล่แบบเก๋ๆ(?) แต่ทางด้านของเจ้าบ้านถึงกับกุมขมับ คนไข้อาการสาหัสอีกหกคนของเขาก็ยังดูแลไม่ค่อยได้เลย เพิ่มมาอีกสามคงวุ่นวายน่าดู ยิ่งเป็นคนไข้อาการหนักของอีกโรงพยาบาลแล้วคงน่าปวดหัวน่าดู
“โอเคๆฉันจะดูแลให้ก็ได้ แล้วจะมาเมื่อไหร่ล่ะ”
“พามาแล้วอยู่ที่รถ”
“ห้ะ!”
อยากจะเป็นลมรอบที่ล้านแปดแสน ท่านผอออได้แต่กรีดร้อง(?)อยู่ในใจ โถ่ ชีวิต พระเจ้าจะขัดขวางความสุขในการร้องเพลงของกระผมไปถึงไหนขอรับ
“โอเคๆ เดี๋ยวให้หมอไปรับ”
จากนั้นท่านผู้อำนวยการก็รีบต่อสายไปยังเลขาสาวให้ติดต่อหมอให้ไปรับคนไข้อย่างเร่งด่วน
“ขอบใจ ไอ้เพื่อนยาก”
เพื่อนสนิทผู้มาเยือนเมื่อได้ยินเพื่อนรักจัดการให้ก็ยิ้มกว้างออกมาพร้อมกับกล่าวขอบคุณและยื่นมือไปตบบ่าของเพื่อนรักเบาๆสองสามที ก่อนที่จะเดินออกไปจากห้องคาราโอเกะ(?)อย่างอารมณ์ดี
“อ้าว คุณเลขา ขอบคุณที่ทำงานหนักนะครับ”
ก่อนที่จะกลับก็ไม่ลืมที่จะขอบคุณ คุณเลขาที่ช่วยอำนวยความสะดวกและตั้งใจทำงาน แต่ผิดเวลาไปสักหน่อยเพราะเธอกำลังตั้งใจทาลิปสติกสีแดงสดลงบนริมฝีปากอย่างมีสมาธิ แต่จู่ๆเสียงกล่าวขอบคุณก็ดังขึ้นทำเอาเธอตกใจจนเผลอทาปากเลยไปยังแก้มซ้ายอีกสามเซยติเมตรจะถึงรูหู
“อ้ายยยยยยยยยยย เลอะหมดเลย อีตาลุงบ้า” ได้แต่โวยวายไล่หลัง โดยที่อีตาลุงบ้าคนนั้นได้เดินไปไกลแล้ว
หลังจากที่เลขาสาวใช้เวลาลบรอยลิปสติกไม่ถึงนาทีบุคคลที่ไม่คุ้นหน้าอีกคนก็มาอีกแล้ว เธอรีบโพล่งคำถามขึ้นอย่างเคยชินแม้ว่าใบหน้าเธอจะยังไม่พร้อมก็ตาม
“สวัสดีค่ะ นัดกับท่านผู้อำนวยการไว้รึเปล่าคะ?”
“ระดับผมไม่ต้องนัดหรอกครับ”
คนแปลกหน้าหันมาตอบ และคนแปลกหน้ารายนี้ก็ยังเดินต่อไปเพื่อเปิดประตู
“คุณคะ คุณคะ เข้าไม่ดะ…”
ปัง
เหมือนเหตุการณ์เดจาวู ผู้มาเยือนทั้งสองทำเหมือนกันเด๊ะ ตั้งแต่ประโยคคำพูดจนถึงการกระทำ
“โอ้ยยย ฉันจะบ้าตาย” ได้แต่บ่น บ่นไม่รู้รอบที่เท่าไหร่ของวันตั้งแต่มาทำงานที่นี่ ทางด้านผู้มาเยือนคนที่สองได้เข้าไปแล้วก็เดินตรงไปยังเจ้าของโรงพยาบาลแห่งนี้ที่นั่งพิงพนักเก้าอี้พร้อมหลับตาอย่างกับมีเรื่องอะไรให้คิดมากอย่างนั้นแหละ
“หวัดดีเพื่อน”
“อ้าววว มิสเตอร์ต้วน เป็นไงมาไงถึงมาที่นี่ได้”
“มีธุระนิดหน่อยน่ะ”
“อ้อ มีไรให้ผมช่วยล่ะ”
“ฮ่าๆๆๆ คุณนี่รู้ดีจริงๆ คือลูกชายผมเพิ่งจบหมอมาน่ะ อยากให้มาทำงานที่โรงพยาบาลคุณจะได้ไหม”
“อ้าว แล้วทำไมไม่ทำงานที่แอลเอล่ะ ได้ข่าวมาว่าเรียนจบจากที่เมกา”
“คือผมจะมาอยู่ที่นี่ ลูกชายผมเขาไม่อยากอยู่ที่นั่นคนเดียว เลยอยากมาด้วย ไอ้ผมก็ไม่ค่อยอยากให้เขาไปทำงานที่อื่นเพราะเขายังไม่มีประสบการณ์ ก็เลยอยากให้มาทำงานกับคุณก่อน ยังไงผมกับคุณก็รู้จักกัน”
ผู้มาเยือนรายที่สองอธิบายเหตุผลยาวเหยียดถึงการจะฝากลูกชายไว้กับโรงพยาบาลแห่งนี้ ส่วนท่านผู้อำนวยการก็คิดไม่ตก ที่จริงได้หมอมาเพิ่มก็ดีอยู่หรอกน แต่นี่เป็นหมอมือใหม่ เพิ่งจบหมาดๆ ประสบการณ์ก็ยังไม่มี จะรับมือกับคนไข้หลาหลายประเภทได้รึเปล่าก็ไม่รู้
“ว่ายังไงครับ คุณปาร์ค” มิสเตอร์ต้วนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก สร้างความกดดันให้อีกฝ่ายอยู่ไม่น้อย
ยังไงก็เคยช่วยเหลือกันมานาสินะ มิสเตอร์ต้วนก็เคยช่วยเขาไว้หลายครั้ง ยังไงก็คงตอบตกลง
“โอเคครับๆ แล้วจะเริ่มทำงานวันไหนครับ”
“วันนี้เลยได้ไหมครับ”
โอ้ยยยยยย ปาร์คจินยองอยากจิเป็นลมรอบที่ล้านแปดแสนสามหมื่นของวัน วันนี้มันวันอะไรกันวะเนี่ย วันซวยแห่งสหประชาชาติหรือยังไง
“โอเคครับ เดี๋ยวจัดการให้”
ท่านผู้อำนวยการกล่าวออกมาอย่างปลงๆ จากนั้นก็ต่อสายให้เลขาสาวสวยจัดการให้ทันที
“โอเคครับ ขอบคุณที่ใจดีกับผมครับคุณปาร์ค ผมขอตัวไปก่อนละครับ สวัสดีครับ”
ผู้มาเยือนรายที่สองกล่าวขอบคุณพร้อมโค้งให้เล็กน้อยก่อนจะเดินออกไปอย่างอารมณ์ดี ในขณะที่เจ้าบ้านจะบ้าตายอยู่ทางด้านหลัง
“คุณเลขา ขอบคุณที่ทำงานหนักครับ”
อีกครั้งกับเสียงที่อยู่ดีๆก็ดังขึ้นมาทำเอาคุณเลขาที่เพื่งเริ่มต้นการทาลิปสติกครั้งใหม่ตกใจอีกครั้ง และเป็นไปตามคาดลิปสติกเลอะเป็นทางยาวไปตามแก้มขวาของเธอ
“อ้ายยยยยยยยยย”
กรีดร้องรอบสองของวัน นี่เธอมาเป็นเลขาให้ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบ้า อีกหน่อยเธอคงได้เป็นคนไข้ของโรงพยาบาลแห่งนี้แล้วมั้งนี่ โอ้ยยยยยยยยย ฉันปวดหัววววววววว ส่วนในห้องของผู้อำนวยการที่เคารพก็ไม่แพ้กัน ลงไปนอนแดดิ้นกับพื้นพร้อมกับงอแงเสียงดัง ไม่เหลือคราบท่านผอออที่เคารพเลยสักนิด
นี่สินะ ‘โรงพยาบาลบ้า’ ของจริง
tbc นะจ๊ะ
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
ภาษาอาจจะแปลกๆไปบ้าง แต่ความตั้งใจเต็มร้อยนะเครฟฟฟฟ
ถ้าชอบก็บอก ไม่ชอบก็บอกเลยเซ่ ชูวับชูวับ (ซาวน์มา)
ฮ่าๆๆๆๆ เดี๋ยวมาต่อนะ กรู๊
ปะละ ที่เค้าพิมพ์ว่า ผอออ เพราะเค้าอยากให้อ่านง่ายๆ(รึยากกว่าเดิม)
อย่าถือสานะ ฉันเป็นคนบ้า การจัดหน้าอาจจะงงๆบ้างขออภัยนะเครฟ
จะปะละ เจอคำผิดบอกด้วยนะ เย้!
ความคิดเห็น