คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : My Captain 2 :: เพื่อนใหม่ที่คล้ายกัน
Chapter
2
หลังจากที่ได้รับจดหมายจากฮอกวอตส์ตอนวันเกิด
เธอก็ดีใจจนลืมแกะอ่านเนื้อหาในจดหมายเสียสนิท
จดหมายนั่นยังวางอยู่ที่เดิมวันแล้ววันเล่ามันก็ยังคงเรียบร้อยเหมือนเดิมไร้รอยการแกะงัดแงะใดๆ
เธอมัวแต่ช่วยงานที่ร้านจนแทบไม่มีเวลาทำอะไรนอกจาก ช่วยงาน นอน ช่วยงาน นอน
หลายอาทิตย์นั้นวนเวียนอยู่อย่างนี้ไปเรื่อยๆจนกลายเป็นวัฏจักรไปแล้ว
รู้ตัวอีกทีก็ใกล้สิ้นเดือนกรกฎาคม
วันที่ 30 กรกฎาคม
“คาร่า
จะไปซื้อของตอนไหนลูก”เสียงนุ่มของชายผู้เป็นพ่อดังขึ้น
คาร่าที่กำลังเล่นกับกระต่ายน้อยในสวนหลังบ้านก็หยุดการกระทำทุกสิ่งอย่างทันที
ความรู้สึกที่เหมือนจะลืมอะไรบางอย่างมันก็กลับเข้ามาในหัวอีกครั้ง
ซื้อของ
จดหมาย
ฮอกวอตส์!
“หวา! ลืมสนิทเลย”เด็กหญิงรีบร้อนรีบขึ้นไปบนห้องจนเกือบตกบันได
จนผู้เป็นพ่อต้องว่ากล่าวไล่หลังว่าเดินให้ดีๆหน่อย
เธอเปิดประตูเสียงดังปังด้วยความรีบร้อน
ซองจดหมายสีเหลืองนวลนั่นยังคงวางอยู่บนโต๊ะ เด็กหญิงรีบแกะซองจดหมายโดยไม่สนว่ามันจะอยู่ในสภาพที่สวยงามหรือเละตุ้มเป๊ะ
ดวงตาสีน้ำตาลกวาดมองทุกตัวอักษรบนกระดาษ
โรงเรียนเปิดวันที่
1 กันยายน เราจะคอยนกฮูกของคุณ จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม
“31 กรกฎาคม
งั้นก็พรุ่งนี้น่ะสิ!”คาร่าร้อง
เธอลืมมันไปได้ยังไงแถมพรุ่งนี้ก็เป็นวันสุดท้ายที่ต้องส่งจดหมาย
เด็กหญิงหยิบปากกามาและรีบเขียนจดหมายตอบกลับทันที
“พ่อบอกกี่ครั้งแล้วว่าให้เดินลงบันไดดีๆหน่อย”คุณเอฟเวอร์ตันดุเธอเป็นรอบที่สอง
“หนูยังไม่ได้ส่งจดหมายตอบกลับเลยค่ะพ่อ”เธอเดินลงบันไดมาอย่างรีบร้อน
ทำเอาเกือบลื่นหัวฟาดพื้น
“จริงๆเลยนะลูกเนี่ย
แล้วเขียนหรือยังล่ะ”คุณเอฟเวอร์ตันพูดโดยที่ไม่หันมามองคาร่า
ตอนนี้เขากำลังง่วนอยู่กับการนวดแป้งอยู่
“เขียนเรียบร้อยแล้วค่ะ”
“เอาจดหมายไปให้นกฮูกซะ
มันรู้ว่าต้องไปส่งที่ไหน”เด็กหญิงมองนกฮูกขนาดเล็กที่อยู่ในกรงหลังบ้าน
เธอเดินไปที่กรงของมัน
นกฮูกตัวนั้นเชิดหน้าขึ้นอย่างหยิ่งผยองพร้อมกับทำสายตายียวนมาให้เธออีก
คาร่ากลอกตาอย่างไม่ชอบใจนัก
เธอรู้ว่าเวลาจะขอให้มันช่วยส่งจดหมายให้ต้องมีของตอบแทนให้มัน
เด็กหญิงเดินไปเด็ดลูกเบอร์รี่ที่ปลูกไว้ก่อนจะเอามาให้มันกิน
“ฝากส่งทีนะฟิช”คาร่าเปิดกรงทันใดนั้นมันก็บินขึ้นมาเกาะแขนเธอ
มันคาบจดหมายจากมือของเด็กหญิงก่อนจะบินจากไป
“งั้นเราไปซื้อของพรุ่งนี้นะคะ”เธอเดินเข้ามาหาพ่อของตัวเอง
“ได้สิ
แต่ตอนนี้ช่วยงานพ่อก่อนนะ”
วันที่
30 กรกฎาคม นั้นผ่านไปอย่างรวดเร็ว คาร่าช่วยคุณพ่อเก็บร้านและจัดการทำความสะอาด อุปกรณ์ต่างๆ
ฟิช นกฮูกท่าทางหยิ่งผยองนั่นกลับมาตั้งแต่ตอนบ่ายแล้ว
จัดการทุกอย่างเสร็จเธอก็มานั่งเล่นกับเจ้ากระต่ายน้อยตัวเดิม
ดูเหมือนเวลาเธอพูดอะไรไปมันดูเหมือนจะเข้าใจเธอด้วยแฮะ มื้อเย็นของวันนี้เป็นมักกะโรนี
สามวันแล้วที่เธอทานอาหารอิตาเลียนติดกัน
คาร่าจัดการอาบน้ำแต่งตัวแล้วกลับเข้าห้องนอนดังเดิม
เด็กหญิงเปิดลิ้นชักโต๊ะ ตราประทับทองคำรูปตัว E ยังอยู่เหมือนเดิม
หลังจากเกิดเรื่องเมื่อตอนวันเกิดเธอก็ยังไม่ได้ใช้ตาประทับนี่เลย คาร่าดันลิ้นชักกลับคืนเธอเดินไปที่ตู้หนังสือตู้ใหญ่ หนังสือหลายเล่มถูกอัดแน่นอยู่ในนั้น
“พรงั้นเหรอ? เทพเจ้างั้นเหรอ?”นิ้วเล็กไล่เรียงไปตามสันหนังสือทีละเล่ม
เมื่อเจอหนังสือที่ต้องการเธอจึงหยิบมันออกมา หนังสือปกสีทองเล่มหนาและใหญ่คาร่าลูบปกของมันอย่างพิจารณา
นี่เป็นหนังสือที่คุณพ่อซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดเมื่อเร็วๆนี้ หนังสือใหม่เอี่ยมที่ไม่มีแม้แต่รอยเปิดใดๆ
ตำนานเทพเจ้า
คนที่เรียกตัวเองว่าเป็นผู้ส่งสารนั้นได้บอกว่าพวกเราแต่ละคนจะได้รับพรจากเทพเจ้า
และเทพแต่ละองค์นั้นก็จะมีลักษณะแตกต่างกันไป เธอพยายามไล่ชื่อเทพเจ้าของเด็กแต่ละคน
อโฟรไดท์ เทพีแห่งความรัก ความงดงาม และการให้กำเนิด
อะพอลโล
เทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ ดนตรี และพยากรณ์
เฟรย่า เทพีแห่งความรัก ความงาม ความอุดมสมบูรณ์ ทอง สงคราม และความตาย
เฮฟเฟตัส
เทพเจ้าแห่งช่างตีเหล็ก ช่างฝีมือ
อินาริ เทพแห่งความอุดมสมบูรณ์
เนเมซิส เทพีแห่งการล้างแค้น
ความผิด และกรรมชั่ว
ทานาทอส เทพแห่งความความตาย
เด็กหญิงพิจารณาเทพแต่ละองค์
ตอนนี้เธอกำลังคิดว่าตัวเองจะได้รับพรอะไร เทพีแห่งความรักงั้นหรือ?
อาจจะเป็นพรที่ทำให้คนมาหลงรักเธอก็ได้มั้ง แต่มันก็ดูไม่น่าใช่พรหรอกนะ
ดูไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลยนะ คาร่านั่งคิดอยู่นานสองนานและแล้วเธอก็สะบัดหัวเพื่อไล่ความคิดฟุ้งซ่านออก
เด็กหญิงวางหนังสือเล่มหนานั่นไว้บนหัวเตียงก่อนจะหลับไป
“วันนี้พ่อไปด้วยไม่ได้นะลูก งานที่ร้านมันเยอะมาก”คุณเอฟเวอร์ตันว่า เขาหันไปเสกคาถาขยายพื้นที่ในกระเป๋าสะพายใบเล็กของเด็กหญิง
คาร่ากำลังอ่านรายการของที่ต้องซื้อโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้างใดๆเลย
“คาร่า”
“คะ!”
“พ่อไปด้วยไม่ได้นะ
ลูกไปคนเดียวได้ใช่มั้ย”เด็กหญิงพยักหน้า
คุณเอฟเวอร์ตันยิ้มอย่างสบายใจเมื่อรู้ว่าลูกสาวดูแลตัวเองได้ แต่ไหนแต่ไรคาร่าก็มักจะชอบไหนไหนมาไหนคนเดียวอยู่แล้ว
“ลูกต้องใช้เงินนี่นะ”คุณพ่อยื่นถุงใส่เงินให้เธอ
ในนั้นมีเหรียญทองอยู่หลายเหรียญซึ่งคาร่าเดาว่ามันอาจจะเป็นเงินของโลกเวทมนตร์ก็ได้
“ขอบคุณค่ะคุณพ่อ”
“พ่อคิดว่าลูกคงไปตรอกไดแอกอนไม่เป็นแน่
มานี่สิ”คุณเอฟเวอร์ตันเดินนำลูกสาวไปที่ห้องของตัวเอง
นี่เป็นอีกครั้งที่เธอได้เข้ามาในห้องของคุณพ่อ พื้นไม้สีน้ำตาลเข้มต่างจากเธอที่ปูด้วยพรม
ผนังเป็นสีครีม เตียงนอนขนาดใหญ่หนึ่งเตียง ตู้หนังสือ ตู้เก็บของ และเตาผิง
เตาผิง?
“เข้าไปยืนในเตาผิงสิลูก”คาร่าเดินเข้าไปอย่างว่าง่าย
มันก็แค่เตาผิงธรรมดาที่ใหญ่และพ่อของเธอก็น่าจะเข้ามาได้
คุณเอฟเวอร์ตันหันไปหยิบถ้วยอะไรบางอย่าง
ผงสีดำนั่นอยู่ในถ้วยเธอไม่รู้ว่าพ่อเธอกำลังจะทำอะไร
แต่คงเดาว่าเจ้านี่คงพาไปตรอกไดแอกอนแน่ๆ
“หยิบผงนี่จากนั้นก็พูดว่าตรอกไดแอกอน
ดังๆชัดๆนะ แล้วก็ปาผงนี่ไปที่เท้า มันจะพาลูกไปที่ตรอกไดแอกอน”คาร่าหยิบผงนั้นขึ้นมาอย่างสนอกสนใจพร้อมกับฟังคำอธิบายของผู้เป็นพ่อไปด้วย
เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ
“ตรอกไดแอกอน!”ทันทีที่โยนผงนั่นลงไปที่พื้น
ไฟสีเขียวก็พวยพุ่งขึ้นมาล้อมรอบกายของเด็กหญิงก่อนจะหายไป
คุณเอฟเวอร์ตันถอนหายใจออกมาอย่างสบายใจเมื่อได้ยินลูกสาวพูดชื่อที่หมายปลายทางถูก
เมื่อไม่มีอะไรแล้วเขาจึงเดินไปจัดร้านต่อ
‘อ๊าก!’ ‘พรืดดดด!’
คาร่าร้องเสียงหลงก่อนจะสไลด์ออกมาจากเตาผิงเก่าๆ
เด็กหญิงลุกขึ้นยืนอย่างไม่มั่นคงนัก ดีนะที่วันนี้ใส่กางเกงมาไม่งั้นได้หน้าแหกแน่
เธอปัดฝุ่นที่เกาะอยู่ตามตัวออกด้วยความรวดเร็วก่อนจะสำรวจดูสัมภาระตัวเอง กระเป๋า
ถุงเงิน ทุกอย่างอยู่ครบ
คาร่าเริ่มจากร้านเสื้อคลุมสำหรับทุกโอกาสของมาดามมัลกิ้น
โชคดีที่ไม่มีคนในร้าน สักพักเธอก็โดนจับไปวัดตัวหลังร้าน ตัวของคาร่าหมุนไปมาจนแทบไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร
รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนเสื้อคลุมเสร็จและจ่ายเงินให้กับมาดามมัลกิ้นแล้ว
มาอย่างงงๆ
ได้ของอย่างงงๆ
ต่อไปคือซื้อหนังสือ
ร้านตัวบรรจงและหยดหมึกแค่เธอเดินเข้าไปในร้านคนขายก็คงรู้ว่านักเรียนที่จะเข้าเรียนฮอกวอตส์แน่ๆ
เขายกหนังสือเรียนทั้งหมดขึ้นมาให้เธอ คาร่านับดูว่าหนังสือนั่นครบตามจำนวนมั้ย
จากนั้นจึงจัดการจ่ายเงินและยัดมันลงในกระเป๋าโดยมีคุณคนขายคอยช่วย
หม้อใหญ่ ขวดแก้ว
กล้องส่องทางไกล ตาชั่งทองเหลือ
ของพวกนี้เธอหาซื้อได้ไม่ลำบากนักเนื่องจากร้านนั้นอยู่ใกล้ๆกันพอดี
ทีนี้เหลืออย่างสุดท้ายซึ่งก็คือไม้กายสิทธิ์
ร้านไม้กายสิทธิ์โอลิแวนเดอร์
เสียงกระดิ่งดังอยู่เหนือหัว ภายในร้านมีเคาน์เตอร์และชั้นวางของอยู่หลายตู้ ดวงตาสีน้ำตาลกวาดมองไปรอบๆร้านเพื่อหาคุณคนขาย ชายชราคนหนึ่งกำลังง่วนอยู่กับการจัดของบนชั้นวางและดูเหมือนเขาจะรู้ว่ามีลูกค้ามาที่ร้านของเขา
“สวัสดีครับ”เสียงนุ่มของชายชราเอ่ย
เขายืดหลังตรงและประสานมือไว้ตรงเคาน์เตอร์
“สวัสดีค่ะ
พอดีหนูต้องการหาไม้กายสิทธิ์สักอันน่ะค่ะ”คาร่าพูดจุดประสงค์ของตัวเอง
คุณโอลิแวนเดอร์ใช้มือเหี่ยวย่นกุมที่คางของตัวเองพลางพิจารณาเด็กหญิงตัวน้อย
“อ่า...ผมคิดว่าต้องมีไม้กายสิทธิ์ที่เหมาะสมกับคุณนะ
คุณ...”
“คาร่า เอฟเวอร์ตัน
ค่ะ”เมื่อพูดจบเขาก็เดินหายไปหลังชั้นวางของก่อนจะออกมาพร้อมกับกล่องอะไรบางอย่าง
“ไม้เกาลัด
เอ็นหัวใจมังกร ยาวสิบนิ้วครึ่ง ยืดหยุ่นได้ดี ลองโบกดูสิคุณเอฟเวอร์ตัน”เด็กหญิงรับไม้มาก่อนจะทำตามที่ชายชราบอก
ทันทีที่โบกไปแจกันที่อยู่บนโต๊ะก็เกิดแตก เธอรีบวางไม้ลงทันที
“อืม...ผมคาดว่าน่าจะเป็นไม้มะเกลือ
แกนขนยูนิคอร์น ไม่ยืดหยุ่น ยาวสิบเอ็ดนิ้ว”
ทันทีที่ได้สัมผัสไม้นั่นก็เกิดความอบอุ่นแผ่นซ่านอยู่ในตัวเธอ
มันรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก คุณโอลิแวนเดอร์ยิ้มอย่างพอใจ “หนูชอบมันค่ะ”
“ไม้กายสิทธิ์เป็นคนเลือกพ่อมดแม่มดนะคุณเอฟเวอร์ตัน”
หลังจากที่จัดการธุระเสร็จเธอก็ตรงไปที่เตาผิงทันที
แต่ทันใดนั้นเธอก็เห็นนกฮูกพันธุ์เกรต ฮอร์น มันมองเธอ เธอมองมัน
เงินในกระเป๋าสั่น
ไม่รอช้าเธอรีบเดินเข้าไปซื้อเจ้านกฮูกตัวนั้นทันที
คุณเจ้าของร้านขายให้เธอราคาพิเศษเมื่อเห็นว่าเธอยังเด็กอยู่
และแล้วเธอก็ได้มันมาครอบครอง
“จะตั้งชื่อแกว่าอะไรดี”ดวงตาสีน้ำตาลมองนกฮูกในกรง เธอกำลังนึกว่าจะตั้งชื่อมันว่าอะไรดี
เมื่อเช้ากินอะไรนะ ไก่ทอด
“แกชื่อชิกเก้นก็แล้วกัน”
และแล้วการซื้อของทุกอย่างก็เสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์
คาร่าเดินไปที่เตาผิง เด็กหญิงหยิบผงนั่นขึ้นมาพร้อมกับทำเหมือนเดิมโดยไม่ลืมบอกที่อยู่ของตัวเองให้ชัดๆ
เธอสไลด์มาอีกแล้ว แถมยังมีฝุ่นมาอีก
คงต้องอาบน้ำอีกรอบแล้วสิ
เดือนสิงหาคมนั้นผ่านไปอย่างรวดเร็ว
เด็กหญิงใช้เวลาทั้งหมดไปกับการศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับเทพเจ้าพลางนึกพรที่คาดว่าจะได้รับไปพลางๆ
เทพีแห่งความรักมันก็ต้องให้พรเกี่ยวกับความรักสิ หรือมันจะทำให้มีคนมารักเธอ
หรือจะทำให้คนเกลียดเธอกัน แต่สุดท้ายก็ไม่รู้คำตอบอยู่ดี
คาร่าไม่รู้สึกถึงพรที่เทพีอโฟรไดท์ให้เธอเลยสักนิดเดียว
“เราจะไปกันหรือยังลูก”คุณเอฟเวอร์ตันเอ่ยอยู่หลังประตู คาร่ารีบเก็บหนังสือใส่กระเป๋าสะพายของตัวเอง
เด็กหญิงไม่ลืมหยิบตราประทับไปที่ฮอกวอตส์ด้วย
สถานีรถไฟคิงส์ครอสเนืองแน่นไปด้วยผู้คน
เด็กหญิงมองไปรอบตัวอย่างสนอกสนใจเธอไม่เคยขึ้นรถไฟเลยด้วยซ้ำ
คาร่าหยิบตั๋วที่ได้มาพร้อมกับจดหมาย ชานชาลาที่เก้าเศษสามส่วนสี่
คุณเอฟเวอร์ตันพาเธอมาที่ชานชาลาที่เก้าและสิบ และจู่ๆเขาก็เดินเข้าไปในเสาอิฐและหายวับไปกับตา
คาร่าอ้าปากค้าง
หรือนั่นจะเป็นวิธีไปขึ้นรถไฟ
คาร่าสูดหายใจเข้าลึกๆเธอเข็นสัมภาระตรงไปที่เสาต้นนั้นทันที
เมื่อผ่านมาได้ราวกับมันเป็นอีกโลกหนึ่ง
เด็กนักเรียนและเหล่าผู้ปกครองคับคั่งยิ่งกว่าด้านนอกเสียอีก หัวรถจักรสีแดงนั้นกำลังคำราม
เสียงนกฮูกส่งเสียงเจื้อยแจ้วดังปะปนกับเสียงผู้คน
ชิกเก้นที่อยู่ในกรงหันไปหาเพื่อนๆของมัน คาร่าเห็นเด็กผู้หญิงผมสีน้ำตาลเปลือกไม้
ผมถูกถักเป็นเปียผูกด้วยริบบิ้นสีฟ้า เด็กหญิงเดินก้มหน้าก้มตาขึ้นรถไฟตู้หลัง
ถ้าสังเกตดีๆจะรู้ว่าเธอใช้ผ้าปิดตา
“พ่อคงคิดถึงลูก”คุณเอฟเวอร์ตันหันมากอดลูกสาว
“หนูคงคิดถึงพ่อเหมือนกัน”
“รีบขึ้นรถไฟเถอะ
เดี๋ยวไม่มีที่นั่งนะ”คาร่ายิ้มและพยักหน้า
เธอเดินขึ้นรถไฟโดยไม่ลืมหันกลับมาโบกมือลาพ่อของเธอ
เด็กหญิงยื่นตั๋วให้เจ้าหน้าที่
ในรถไฟถึงแม้จะไม่ค่อยมีคนออกมาเดินเพ่นพ่านที่ทางเดินมากนักแต่หลายๆห้องก็ถูกจับจองกันหมดแล้ว
คาร่าเดินมาแถวตู้หลังๆซึ่งเป็นเรื่องดีที่หลายตู้มีคนนั่งอยู่เพียงสองถึงสามคน
แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่เด็กวัยเดียวกันเหมือนเธอ
เธอเห็นเด็กคนนั้น
เด็กที่เธอจำได้ว่าอยู่ที่เอลิเซียน คาเฟ่ และเป็นผู้ได้รับพรเช่นกัน
เด็กหญิงนั่งอยู่คนเดียว เธอมองออกไปนอกหน้าต่างและดูเหมือนจะไม่รู้ว่ามีคนอยู่ข้างนอก
“เอ่อ...ขอนั่งด้วยคนได้มั้ย”เธอคนนั้นสะดุ้งโหยงก่อนจะพยักหน้าเป็นการตอบรับ
เมื่อเห็นดังนั้นคาร่าจึงเดินเข้าไปในห้อง เด็กหญิงไปนั่งตรงข้ามเธอ
“สวัสดี ฉันคาร่า
เอฟเวอร์ตัน เธอล่ะ”
“เวโรนิก้า เลย์ตัน”เธอแนะนำตัวอย่างอายๆแถมยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาสบตาคาร่า
“ฉันจำเธอได้ เธอก็เป็นคนที่ได้รับพรเหมือนกัน”
“จริงเหรอ
แต่ทำไมก่อนขึ้นรถไฟฉันไม่เห็นเธอที่เอลิเซียน คาเฟ่เลยล่ะ”
“อ๋อ...คงเพราะเอาแต่หาข้อมูลแล้วก็ช่วยงานที่บ้านเลยลืมไปเลยน่ะ”คาร่าหันกลับมามองที่เวโรนิก้าอีกครั้ง
คราวนี้เหมือนเธอรู้สึกอะไรบางอย่างคนตรงหน้าเธอถึงแม้ว่าภายนอกจะเป็นคนที่ขี้อายและดูไม่กล้าเข้าหาใคร
แต่จริงๆเวโรนิก้าเป็นคนที่ร่าเริงมาก อัธยาศัยดี ขยัน และอดทน
แต่บางครั้งเวลามีเรื่องทุกข์ใจก็มักจะเก็บไว้คนเดียว
อาจเป็นเพราะพลังที่เวโรนิก้าได้รับมาเธอจึงยังไม่สามารถควบคุมพลังตนเองได้
จึงทำให้เป็นอย่างนี้
“เวโรนิก้า
จริงๆแล้วเธอเป็นคนที่ร่าเริงมากเลยสินะ
แต่อาจเป็นเพราะพรที่เธอได้รับมาถึงทำให้เธอเป็นอย่างนี้”คาร่าพลั้งปากออกไปอย่างไม่รู้ตัว
“เธอรู้ได้ยังไง!”เวโรนิก้าพูดอย่างตกใจบวกกับคาร่าที่พึ่งได้สติ
นี่เธอพูดอะไรออกไปงั้นเหรอ ทำไมเวโรนิก้าถึงได้ตกใจขนาดนั้น
“ฉันขอโทษ
คือฉันไม่ได้ตั้งใจน่ะ”คาร่ารีบเอ่ยขอโทษ
แต่ถึงอย่างนั้นเวโรนิก้าก็ยังไม่เงยหน้าขึ้นมา
“ไม่เป็นไรหรอก”เวโรนิก้ายิ้มออกมา คาร่ารู้สึกโล่งอกอย่างบอกไม่ถูก
หลังจากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มทำความรู้จักกันอย่างเป็นทางการ ถึงแม้ว่าคาร่าจะเป็นพวกที่คุยไม่ค่อยเก่งแต่เวโรนิก้าก็ชวนคุยตลอดทางจึงทำให้ไม่รู้สึกเหงา
สายใยมิตรภาพของทั้งคู่จึงเริ่มต้นตั้งแต่ตอนนั้น
TALK 14/10/2018
คาร่าเจอคนประเภทเดียวกันแล้วซึ่งก็คือเวโรนิก้านั่นเองค่าาาา จะเป็นยังไงต่อ รอติดตามชมได้ในบทต่อไปนะคะ
เวรโนิก้ามาจากเรื่องนี้นะคะ จิ้ม===>[AU Fic HP Blessing] No Promises Between Us (Viktor x OC) แล้วก็อย่าลืมสนับสนุนนิยายเรื่องอื่นๆของโปรเจ็คนี้ด้วยนะคะ
#KAZEKUNG
1 เม้น = ล้านกำลังใจ
ความคิดเห็น