ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [เลิกอัพ] [AU Fic HP Blessing] My Captain (OW x OC)

    ลำดับตอนที่ #1 : My Captain 1 :: ผู้ได้รับพร

    • อัปเดตล่าสุด 24 ต.ค. 61


    Chapter 1


                เคยคิดไหมว่าโลกเรายังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ยังไม่ถูกค้นพบ อย่างในมหาสมุทรมนุษย์ก็ยังค้นได้เพียงสิบหรือยี่สิบเปอร์เซ็นต์จากที่มีอยู่ สถานที่บางแห่งที่ยังไม่มีใครกล้าที่จะเข้าไปสำรวจ เรียกได้ว่าเรายังไม่รู้จักโลกใบนี้อย่างถ่องแท้เลยก็ว่าได้ ปรากฏการณ์หลายๆอย่างที่ไร้หลักฐานหรือข้อพิสูจน์จนคนที่พบเห็นจริงๆนั้นถูกกล่าวหาว่าเป็นพวกงมงาย ทฤษฎีโลกคู่ขนานหรือทฤษฎีต่างมิติที่ยังเป็นข้อถกเถียงกันแม้แต่เรื่องเวทมนตร์หลายคนเชื่อว่ามันมีจริง แต่ส่วนใหญ่ก็มักจะพูดว่าเป็นเรื่องไร้สาระและเพ้อฝันมันถูกแต่งเติมขึ้นมาเพื่อเป็นนิทานไว้เล่าให้เด็กๆฟังเท่านั้นแหละ แต่จะทำอย่างไรถ้าเรื่องเวทมนตร์หรือโลกต่างมิตินั้นมีอยู่จริง


                โลกผู้วิเศษคือโลกที่แตกต่างออกไปจากโลกธรรมดาอย่างแท้จริง เวทมนตร์ไม่ได้ถูกมองว่าเป็นเรื่องงมงายหรือแปลกประหลาด แต่มันกลับกลายเป็นเรื่องปกติพวกเขาถูกเรียกว่าพ่อมดและแม่มด แต่ก็มีคำกล่าวถึงผู้คนที่ไม่มีพลังวิเศษหรือเวทมนตร์ว่า มักเกิ้ล การเปิดเผยตัวตนให้โลกภายนอกรู้นั้นเป็นเรื่องต้องห้ามสำหรับผู้วิเศษ แต่ก็มีบางคนที่ใช้ชีวิตหรือแต่งงานกับมักเกิ้ล มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รับรู้ถึงการมีตัวตนของผู้วิเศษแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงไม่สามารถใช้เวทมนตร์ในโลกภายนอกให้มักเกิ้ลเห็นได้อยู่ดี


                คุณอาจคิดว่ามันน่าเหลือเชื่อมากว่ามีเวทมนตร์อยู่ในโลกจริงๆ แต่ยังมีสิ่งหนึ่งที่เราไม่เคยรู้และไม่เคยคิดว่ามันจะมีอยู่จริงนั่นคือ โลกต่างมิติ มันเป็นสิ่งที่อยู่เหนือกาลเวลา มีเพียงผู้ที่ได้รับพรเท่านั้นถึงจะ เข้าไปได้สถานที่แห่งนั้นคือ เอลิเซียน คาเฟ่ ผู้วิเศษที่ได้รับเชิญจากผู้ส่งสารจะมารวมตัวกันที่นี่เพื่อรับพรจากเทพเจ้า ซึ่งแต่ละคนก็จะได้รับพรและความโชคร้ายแตกต่างกันไป


                ย่านน็อตติงฮิลล์ในลอนดอนมีร้านขนมปังเล็กๆแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของคนในแถบนั้นมากผู้คนที่มาย่านนี้มักจะแวะซื้อขนมปังที่ร้านนี้เสมอ ด้วยเอกลักษณ์ประจำร้านที่เสิร์ฟขนมปังหอมกรุ่นจากเตาทุกวัน คุณเอฟเวอร์ตันเขาคือผู้วิเศษหรือที่เราเรียกกันติดปากว่าพ่อมด เขาคือหนึ่งในผู้วิเศษที่อาศัยอยู่ในโลกมักเกิ้ล เขามีลูกสาวอยู่หนึ่งคน คาร่า เอฟเวอร์ตันเด็กน้อยวัยสิบเอ็ดปีบริบูรณ์ ทั้งคู่อยู่ด้วยกันเพียงสองคน แม่ของเธอนั้นทิ้งเธอไปตั้งแต่ยังแบเบาะแถมยังหนีไปพร้อมกับเงินส่วนหนึ่งของพ่ออีก นั่นจึงทำให้พ่อเริ่มตั้งตัวใหม่ต้องทำงานไปและเลี้ยงดูคาร่าไปด้วย ถึงแม้มันจะยากลำบากจนทำเอาท้อไปหลายครั้งและเขาก็ยังพยายามต่อไปเพื่อลูกสาวสุดที่รัก


                คาร่า วันนี้เป็นเวรลูกไปซื้อวัตถุดิบทำมื้อเย็นนะเสียงนุ่มของชายวัยสี่สิบต้นๆดังขึ้นอยู่ในครัว เด็กหญิงตัวน้อยที่กำลังนั่งเล่นอยู่ในสวนหลังบ้านขานรับ เรือนผมสีน้ำตาลนั้นพัดไปตามแรงลม ดวงตากลมสีน้ำตาลพร้อมกับแว่นตากลมโต จมูกเล็กโด่งรั้น ริมฝีปากเล็กสีชมพูอ่อนนั้นกำลังคลี่ยิ้มอย่างมือความสุข กระต่ายในสวนหลังบ้านที่เธอเลี้ยงไว้กำลังกินอาหารที่เธอให้


                น่าเสียดายจัง เดี๋ยวมาเล่นด้วยใหม่นะว่าจบเธอก็เดินไปหยิบเงินที่คุณพ่อวางไว้ให้อยู่บนเคาน์เตอร์ คาร่าเดินไปหยิบถุงผ้าที่แขวนอยู่บนผนัง เธอกำลังเตรียมพร้อมกับการไปซื้อของที่ตลาดเหมือนทุกครั้ง


                ไปดีมาดีนะลูกคุณเอฟเวอร์ตันเดินออกมาหน้าร้าน เด็กหญิงควบจักรยานสีเงินคู่ใจพร้อมกับมุ่งหน้าไปตลาดใจกลางย่านน็อตติงฮิลล์


                ถึงจะเป็นเวลาสี่โมงเย็นแต่ก็เริ่มมีร้านค้ามาตั้งแล้ว ร้านรวงมากมายเริ่มจัดตั้งกันเพราะแถวนี้เป็นย่านถนนคนเดิน ช่วงเย็นคนจึงเยอะเป็นพิเศษ คาร่าจอดจักรยานไว้เธอหยิบถุงผ้าและกระเป๋าเงินจากตระกร้า เด็กหญิงเดินสำรวจและหาวัตถุดิบสำหรับทำมื้อเย็น โจทย์สำหรับมื้อนี้คือสปาเก็ตตี้ครีมซอส เธอเดินเข้าร้านขายวัตถุดิบอาหารอิตาเลียนเจ้าประจำ


                สวัสดีจ้ะคาร่า วันนี้เอาเป็นอะไรดีจ๊ะหญิงร่างท้วมที่ยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์เอ่ย


                สวัสดีค่ะคุณแอนนา วันนี้ว่าจะทำสปาเก็ตตี้ครีมซอสเป็นมื้อเย็นค่ะเธอตอบ


                เป็นความคิดที่ดี ครีมซอสอยู่ด้านนั้นนะเผื่อเธอหาไม่เจอแอนนายิ้มให้เธออย่างเป็นมิตร


                เธอเดินซื้อวัตถุดิบตามสิ่งที่ต้องทำในวันนี้ ซึ่งแต่ละอย่างก็ดูห่างไกลกันซะเหลือเกินถ้าเป็นผู้ใหญ่ก็คงจะเดินถึงเร็วหรอกนะ แต่เธอเป็นแค่เด็กตัวเล็กๆกว่าจะเดินถึงก็ใช้เวลานานพอควร


                ว้าย!”เดินเลือกของอยู่ดีๆก็มีคนเดินเข้ามาชนเธอ ของที่เลือกไว้อยู่ในตะกร้านั้นกระจัดกระจายอยู่ตามพื้นไปหมด


                คิดว่าเด็กที่ไหน ที่แท้ก็เด็กประหลาดเอฟเวอร์ตันนี่เอง เด็กประหลาดที่ไม่มีใครคบเด็กชายร่างผอมพูดเย้ยหยัน เขาหันไปหัวเราะกับลูกสมุนของตัวเองอีกสองคน


                ฉันไม่เสียเวลาคุยกับนายหรอกนะเจมส์คาร่าพูดพร้อมก้มหน้าก้มตาเก็บของ


                แต่ฉันอุตส่าห์ลดตัวมาคุยกับเธอเลยนะกระป๋องครีมซอสถูกเตะออกโดยฝีมือเจมส์ เด็กชายที่ตั้งตนว่าตัวเองเป็นเจ้าถิ่นในย่านนี้ เขามองคาร่าด้วยสายตาเหยียดหยาม


                ฉันไม่ได้ขอให้นายลดตัวเพื่อมาคุยกับฉันเสียหน่อยเธอขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์


                มันจะมากเกินไปแล้วนะ!”


                หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”ดั่งเสียงสวรรค์ดังมาจากฟากฟ้า คุณแอนนายืนเท้าเอวอยู่ด้านหลังของคาร่า คิ้วของเธอขมวดเข้าหากันเมื่อเห็นเด็กเจ้าถิ่นรังแกเด็กหญิงตัวน้อยที่เปรียบเสมือนหลานสาวของตัวเอง เธอให้อภัยเด็กพวกนี้ไม่ได้เด็ดขาด


                ถ้าไม่ซื้อก็อย่ามาก่อความวุ่นวายในร้านของฉัน! ออกไปซะเจ้าพวกเด็กเกเร!”เธอตวาดใส่พวกนั้นอย่างเดือดดาล จนเด็กทั้งสามนั้นกลัวหัวหด


                เรื่องนี้ตะ...ต้องถึงหูพ่อฉันแน่เจมส์พูดอย่างตะกุกตะกัก ส่วนลูกน้องเขานั้นชิ่งหนีไปตั้งแต่คุณแอนนามาแล้ว


                เป็นอะไรมั้ยจ๊ะคาร่าคุณแอนนาช่วยพยุงเด็กหญิงอย่างระมัดระวัง คาร่าก้มเก็บของที่กระจัดกระจายบนพื้นใส่ตะกร้าด้วยความรวดเร็ว  


                ขอบคุณมากนะคะคุณแอนนา 


                ของทั้งหมดนี่ฉันไม่คิดเงินก็แล้วกันนะเธอเอ่ย


                จะดีหรือคะ?


                ฉันเป็นเจ้าของร้าน แถมยังปล่อยให้เกิดเรื่องแย่ๆแบบนี้ในร้านอีก ถือว่าฉันให้แล้วแล้วกันนะคาร่า


                ถ้าอย่างนั้นก็ได้ค่ะคาร่าเก็บวัตถุดิบใส่กระเป๋า ถึงเธอจะไม่ค่อยชอบที่มันเป็นอย่างนี้แต่ในเมื่อคุณแอนนาขอล่ะก็เธอคงขัดไม่ได้เช่นกัน


                คุณแอนนาเดินมาส่งคาร่าที่หน้าร้านเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีแก๊งเด็กเกเรอย่างเจมส์โผล่มาแกล้งเธออีก คาร่ากล่าวลาและขอบคุณอีกครั้งเธอวางของที่ได้มาไว้ในตะกร้าไม้สานหน้าจักรยาน คุณแอนนามองเธออย่างเอ็นดู คาร่าก็เปรียบเสมือนหลานคนหนึ่งเพราะเด็กคนนี้มักจะมาช่วยงานที่ร้านในเวลาว่างแต่ก็แค่จัดของหลังร้านเท่านั้น เพราะเด็กหญิงไม่ค่อยชอบพบปะผู้คนหรือที่มีคนเยอะๆเท่าไหร่




                จักรยานคันสีเงินเคลื่อนตัวมาจอดอยู่หน้าร้านขนมปัง คาร่าเปลี่ยนมาเป็นจูงจักรยานแทน เมื่อจัดการจอดจักรยานเสร็จสรรพเธอก็ทำการนำวัตถุดิบสำหรับมื้อเย็นเข้าบ้านทันที


                วันนี้มาช้าจังลูกคุณเอฟเวอร์ตันที่กำลังง่วนกับการเตรียมวัตถุดิบสำหรับมื้อเย็นในครัวเอ่ยกับลูกสาว เขาทำขนมปังกระเทียมจวนจะเสร็จแล้วเหลือแค่อาหารจานหลักเท่านั้นที่ยังไม่ได้ทำ คาร่าวางของทุกอย่างลงบนเคาน์เตอร์ก่อนจะทิ้งตัวลงบนโซฟาใกล้ๆด้วยความเพลีย


                เกิดเรื่องนิดหน่อยน่ะค่ะ


                กับเจ้าเจมส์อีกแล้วสินะเขาเดินมาหาลูกสาวของตัวเอง คาร่าได้แต่พยักหน้าตอนนี้เธอเหนื่อยมาก จนแทบจะไม่อยากทำอะไรเลย


                คงเหนื่อยสินะ ถ้ามื้อเย็นเสร็จพ่อจะเรียกก็แล้วกันว่าจบคุณเอฟเวอร์ตันก็เดินหายไปในครัว


    เวลาผ่านไปราวครึ่งชั่วโมงหลังจากที่เผลอหลับไป กลิ่นหอมของครีมซอสลอยมาเตะจมูกคาดว่าอาหารเย็นคงเสร็จแล้ว คาร่าลุกออกจากโซฟาแล้วเดินไปยังโต๊ะอาหาร จานกระเบื้องสีนวลบนจานนั้นมีสปาเก็ตตี้ร้อนๆราดด้วยครีมซอสอีกทั้งยังโรยหน้าด้วยพาสลีย์ ขนมปังกระเทียมร้อนๆอยู่ในตะกร้าสานใบเล็ก


                มื้อเย็นนั้นเป็นไปอย่างเรียบง่าย สองพ่อลูกนั้นคุยกันเรื่องทั่วไปหรือไม่ก็เรื่องเวทมนตร์ ถึงคุณเอฟเวอร์ตันจะย้ายมาอยู่โลกมักเกิ้ลแล้วแต่ยังไงซะเขาก็ยังเป็นพ่อมดอยู่ ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรที่จะเล่าเรื่องเวทมนตร์ให้ลูกสาวฟัง เขาจำได้ว่าตอนนั้นเธออายุราวๆห้าขวบ คาร่ามาแอบดูเขาทำขนมปังโดยใช้เวทมนตร์อยู่ในครัวและนั่นทำให้เขาต้องเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับโลกวิเศษให้เธอฟัง


                คาร่าใช้ส้อมม้วนเส้นสปาเก็ตตี้บนจานอย่างเบื่อหน่าย เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเด็กเจมส์นั่นต้องแกล้งเธอ แถมยังหาว่าเป็นตัวประหลาดอีก


                เพล้ง!’มือของเธอปัดไปโดนแก้วน้ำ เศษแก้วกระจัดกระจายพื้นเปียกเพราะน้ำ คาร่านึกโทษตัวเองในใจว่าทำไมถึงซุ่มซ่ามขนาดนี้


                เดี๋ยวพ่อเก็บเอง ลูกไปพักเถอะคุณเอฟเวอร์ตันลูบหัวเธออย่างอ่อนโยน คาร่าพยักหน้าเป็นการตอบรับก่อนจะเดินขึ้นบันไดไปที่ห้องตัวเอง


                เธอเดินมานั่งบนเก้าอี้ที่โต๊ะทำการบ้าน เด็กหญิงฟุบหน้าลงบนโต๊ะในหัวสมองมีแต่อาการเหนื่อยล้า เธออยากนอนแต่ลืมไปว่ายังไม่ได้อาบน้ำ จะอาบไปทำไมในเมื่ออากาศก็ไม่ได้ร้อนจนเหงื่อออกแต่ยังไงซะเธอก็ติดนิสัยอาบน้ำเช้าเย็นอยู่แล้วล่ะนะ ทันใดนั้นก็มีสายลมเย็นๆพัดผ่านเธอ ดวงตาสีน้ำตาลเบิกกว้างคาร่ารู้สึกได้ว่าเธอไม่ได้อยู่ในห้องคนเดียว


                สวัสดีครับคุณหนูเอฟเวอร์ตันเสียงแหบแห้งของชายชราดังขึ้นด้านหลังเธอ เขาถอดหมวกและก้มหัวให้เธอเพื่อเป็นการทักทาย เขาสวมเสื้อคลุมทับกับชุทสูทพ่อบ้านที่ใส่ได้ด้านใน


                คุณเป็นใครคะคาร่าถามชายชรา แววตาของเธอยังมีความกลัวอยู่


                ไม่ต้องกลัวกระผมหรอกครับ กระผมคือผู้ส่งสาร


                ในหัวตอนนี้มีแต่เครื่องหมายคำถาม ผู้ส่งสาร? แล้วมันคืออะไร เขาโผล่มาได้ยังไง แล้วต้องการอะไรจากเธอกันแน่


                กระผมเดาว่าคุณคงมีเรื่องสงสัยมากมายอยู่ในหัวชายชราพูดเหมือนรู้ทัน


                คุณคือผู้ที่ได้รับเชิญให้ไปที่เอลิเซียน คาเฟ่ สถานที่ที่อยู่เหนือกาลเวลา ไม่ต้องกังวลไปที่นั่นก็มีผู้คนที่ได้รับเชิญเหมือนกับคุณหนูเช่นกัน


                เหมือนหนูงั้นเหรอ


                มือเหี่ยวย่นของชายชรายื่นมาตรงหน้า เหมือนกับว่าเขาต้องการให้เธอไปพิสูจน์ด้วยตาของตัวเอง เด็กหญิงลังเลมากกลัวว่าเขาอาจจะหลอกเธอ แต่เมื่อเห็นกิริยาท่าทางที่เขาได้ทำไปเมื่อสักครู่นี้ก็เป็นเครื่องยืนยันได้แล้วว่าเขาต้องการให้เธอไปกับเขาและไม่ได้โกหกหลอกหลวง คาร่าตัดสินใจจับมือเขาทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนถูกกระชากเข้าไปในหลุมอากาศ แรงเหวี่ยงนั่นหมุนจนทำเอาเธอมึนหัว คาร่าหลับตาปี๋ด้วยความหวาดกลัว และแล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็หยุดลง


                ยินดีต้อนรับสู่เอลิเซียน คาเฟ่ครับ


                คาร่าค่อยๆลืมตาเพื่อปรับโฟกัส สถานที่ที่เธอมามันไม่ใช่ห้องนอนอันแสนอบอุ่นของเธอแต่มันกลับกลายเป็นอีกที่หนึ่ง ซึ่งมันแปลกตาไปหมด พื้นไม้สีเข้มปูยาวและกว้างขวางรายล้อมไปด้วยโต๊ะและบาร์ ตรงกลางมีน้ำพุสวยงามมันถูกทำขึ้นจากหินอ่อนและแกะสลักได้อย่างงดงาม บันไดทรงโค้งขึ้นไปทางชั้นสอง มีโซฟา ตู้หนังสือและชั้นวางของนั้นกระจายตามจุดต่างๆเรียกได้ว่าเป็นที่พักผ่อนยามว่างเลยก็ได้ ต้นไม้และดอกไม้นานาพรรณถูกนำมาปลูกและตกแต่งเพื่อเพิ่มสีสัน กลิ่นหอมของดอกไม้หลายชนิดตลบอบอวลไปหมด แต่มันก็เข้ากันได้อย่างน่าประหลาด


                ระหว่างที่เธอสำรวจและมองไปรอบๆก็เห็นมีเด็กๆหลายคนอยู่ที่เช่นกัน นี่คงเป็นคนที่ถูกเชิญมาเหมือนกับเธอ ชายสองและหญิงอีกห้าคน พวกเขาคล้ายกับเธอมาก มาที่นี่ด้วยความงุนงงอีกทั้งยังมองไปรอบๆตัวอีก


                เอาล่ะมากันครบแล้ว เชิญทุกท่านมาที่กลางห้องด้วยครับชายชราเอ่ยเรียกทุกคนให้มารวมกันที่ ตรงกลางห้อง ทันใดนั้นก็มีเด็กชายอีกคนโผล่มาอายุราวๆห้าขวบและแต่งชุดเหมือนกัน


                ก่อนอื่นเลยขอต้อนรับทุกท่านอย่างเป็นทางการสู่เอลิเซียน คาเฟ่ สถานที่แห่งนี้อยู่นอกเหนือกาลเวลาและทุกท่านที่อยู่ ณ ที่นี้ล้วนได้รับเชิญมาในวันเกิดอายุครบสิบเอ็ดขวบจากแต่ละช่วงเวลาที่ ต่างกัน นอกจากนี้ทุกคนล้วนเป็นผู้ที่ได้รับพรจากเทพเจ้าเขาอธิบาย


                ตอนนี้ทุกคนเริ่มมีสีหน้าสับสน


                นายจะบอกว่าเรื่องแปลกๆที่เกิดขึ้นกับพวกเราเป็นเพราะพรจากเทพอย่างนั้นหรือ?เด็กชายคนหนึ่งเอ่ยถาม


                ถูกต้องตามที่ท่านพูดทุกคำครับคราวนี้เด็กพ่อบ้านตอบ


                แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าว่าเทพองค์ไหนให้พรเรา


                เป็นคำถามที่ดีมากครับคุณหนูพ่อบ้านชราตอบ มือเหี่ยวย่นนั้นล้วงเขาไปในกระเป๋าเสื้อในมือของเขานั้นมีเหรียญทองอยู่เจ็ดเหรียญ แค่ทุกท่านโยนเหรียญนี้ลงไปในน้ำพุ พวกท่านก็จะทราบเองว่าเทพองค์ใดที่มอบพรอันแสนวิเศษนี้ให้กับท่าน


                เด็กทุกคนได้เหรียญคนละหนึ่งเหรียญ คาร่าเองก็เช่นกัน เด็กๆทุกคนค่อยๆทยอยโยนเหรียญลงไปในน้ำพุ


                กลุ่มไอน้ำลอยขึ้นมาจากผิวน้ำ มันพวยพุ่งตรงไปยังเบื้องหน้าของเด็กแต่ละคน ไอน้ำเริ่มจับตัวกันจนกลายเป็นตัวอักษร


                Aphrodite     


                ชื่อของเทพีแห่งความรักและความงามปรากฏขึ้นอยู่ตรงหน้าคาร่า ซึ่งแต่ละคนก็ดูเหมือนจะได้เทพแตกต่างกันไป อย่าง ทานอส อะพอลโล เนเมซิส เฮเฟตัส และเทพอินาริ ต่างปรากฏขึ้นตรงหน้าของเด็กแต่ละคน


                ทีนี้พวกท่านก็ได้ทราบแล้วว่าเทพองค์ใดที่มอบพรให้กับพวกท่าน


                พรหรือ? คำสาปล่ะสิไม่ว่าเด็กชายที่ดูไม่เป็นมิตรคนเดิมเอ่ย


                พวกท่านจะมองแบบนั้นกระผมก็ไม่ว่าอะไร เชิญรับนี่ไปด้วยครับพูดจบพ่อบ้านตัวน้อยก็ยื่นตราประทับทองคำรูปตัว E ให้เด็กทั้งเจ็ดคน


                หากท่านใดประสงค์ที่จะกลับมาที่นี่อีกครั้ง ขอให้ท่านเขียนจดหมายและประทับตรานี้ไว้ด้วยนะขอรับ เมื่อทำเช่นนั้นพวกกระผมจะไปรับและพามาที่นี่ชายชราเว้นจังหวะ ตอนนี้ขอเชิญทุกท่านกลับไปฉลองวันเกิดครบสิบเอ็ดขวบต่อได้เลยครับ


                ชายชราดีดนิ้วดังเป๊าะ ร่างของเด็กทั้งเจ็ดก็ลอยไปทางประตูที่ทุกคนเดินเข้ามา มันเปิดอ้าออกจนสุดและดูดร่างของเด็กๆเข้าไปและมันก็ปิดตัวลง เสียงกรีดร้องของเหล่าเด็กๆนั้นดังขึ้นจนมันค่อยๆเงียบหายไป


                รู้สึกตัวอีกทีเธอก็ยังนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวเดิมในห้องนอนของเธอ คาร่ากำลังสับสนว่าสิ่งที่เธอเพิ่งไปเจอมาหมาดๆนั้นใช่ความฝันหรือไม่ เธอรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างอยู่ในมือของเธอ ตราประทับทองคำรูปตัว E


                ก๊อก ก๊อกคาร่ารีบเก็บมันใส่ในลิ้นชักก่อนจะลุกไปเปิดประตู


                สุขสันต์วันเกิดปีที่สิบเอ็ดนะคาร่าใบหน้าของคุณเอฟเวอร์ตันนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยรอบยิ้ม ในมือของเขามีหนังสือเล่มใหญ่ที่ซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดให้กับลูกสาวสุดที่รัก


                ขอบคุณค่ะคุณพ่อเธอรับหนังสือมา


                มีอีกอย่างหนึ่งที่พ่อจะมอบให้ซองจดหมายสีเหลืองนวลถูกยื่นมาตรงหน้า คาร่ารับมันมาด้วยความงุนงง เธอจำตราประทับขี้ผึ้งสีม่วงได้ นี่มันจดหมายจากฮอกวอตส์!


                ขอบคุณมากนะคะคุณพ่อ เป็นของขวัญที่เยี่ยมที่สุดเลยค่ะ

     

     




    TALK 13/10/2018

    .....ฮัลโหลลลลลลลลลล ทุกคนนนนนน กลับมาเจอกันอีกครั้งกับไรต์คาเสะคุงผู้นี้ เรื่องเก่าไม่อัพ มาอัพเรื่องใหม่ 5555 ไม่มีอะไรจะพูดแต่ขอให้เพลิดเพลินกับนิยายของไรต์นะคะ ถ้าชอบก็กดเฟบและคอมเมนต์ไว้ได้เลยนะคะ


    #KAZEKUNG


    1 เม้น = ล้านกำลังใจ



     

               

     

    S
    N
    A
    P
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×