ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เล่ห์รักหอนายโลม [ Fic..???xSUNGMIN ]

    ลำดับตอนที่ #8 : PART 5

    • อัปเดตล่าสุด 1 มิ.ย. 53



    5



    ร่างหนากุมมือเล็กไว้มั่น ร่างอวบตอบสนองโดยกรบีบกลับ ไออุ่นจากแม้ทำให้ซองมิรู้สึกอุ่นใจแม้จะไม่สามารถลืมตามาดูว่าใครที่กำลัง กุมมือของเขาอยู่

    "พ่อ...แม่....อึก..ฮือออ" ซองมินบีบมือแน่น คงเพราะความอบอุ่นที่เหมือนกับครอบครัว ทำให้ซองมินพาลนึกไปถึงความทรงจำเก่าจนร้องไห้ออกมา ตอนที่เขาเด็กแล้วไม่สบายคนที่คอยกุมมือเป็นพ่อและแม่ของเขาเสมอ

    คังอินกุมมือบางไว้แน่น ก่อนจะใช้อีกมือปาดน้ำตาและเหงื่อที่ไหลไม่หยุด ก่อนที่จ้องมองใบหน้าหวานที่เต็มไปด้วยความทรมาน

    เวลาล่วงเลยจนฟ้าเริ่มเปลี่ยนสี นัยตาสีน้ำตาลอ่อนลืมขึ้นช้าๆ ก่อนจะมองไปข้างๆของตน มีชายหนุ่วสองคนที่เขารู้จักดี ผมสีดำระต้นคอและรอยยิ้มอันสดใส กับอีกคนหนึ่งที่มียิ้มระบายไปทั่วและกิล่นหอมเป็นเอกลักษณ์

    "คุณฮีชอล/ทงเฮ" ซองมินเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นทั้งสองนั้งอยู่ข้างคอยเฝ้าไข้ หากแต่ยังสงสัยว่าไออุ่นที่ผ่านทางฝ่ามือตอนเขาหลับเป็นของใครกัน

    "ไข้ลดลงแล้วสินะ...ค่อยยังชั่วหน่อย ถ้าอย่างนั้นฉันก็ขอตัวนะ ซองมิน" ฮีชอลกล่าวขึ้นก่อนจะช่วยปัดผมที่ยุ่งของเขาให้เข้าที่ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกจากห้องไป เหลือเพียงทงเฮที่ยิ้มอย่างเป็นมิตร

    "นายหลับไปนานมาก ยังดีที่ฉันมียาเหลืออยู่ไม่อย่างนั้นนายแย่แน่ๆ" ทงเฮกล่าวขึ้น

    "ขอบคุณนะที่ช่วยกุมมือตอนที่ฉันหลับ....ช่วยได้มากจริงๆ" ซองมินว่าก่อนจะดึงมือทงเฮมากุมไว้ แต่ความรู้สึกกลับแตกต่าง แม้จะมีไออุ่นและความรู้สึกดีๆ แต่มันกลับต่างจากที่เขาได้รับอย่างสิ้นเชิง

    "ไม่ใช่ฉันหรอก ฉันมาเฝ้านายหลังคุณฮีชอลซะอีก" ทงเฮกล่าวก่อนจะยิ้มให้ แต่ถ้าไม่ใช่ทงเฮก็แปลว่าต้องเป็นคุณฮีชอลที่คอยจับมือเขา

    "งั้นแปลว่าเขาต้องคอยเฝ้าฉันตลอดเวลาสินะ" ซองมินพูดก่อนจะพยายามดันตัวลุกขึ้นมา แต่ทงเฮกลับส่ายหน้าเบาๆ

    "คงเป็นคุณคังอินมากกว่า เขาเฝ้าไข้นายตั้งแต่แรก เพิ่งจะกลับออกไปเมื่อตอนเย็นๆเอง คุณฮีชอลไม่ชอบแตะเนื้อต้องตัวใครง่ายๆหรอกนะ" ทงเฮว่าขึ้น ซองมิินจึงกุมมือข้างที่ถูกให้ความอบอุ่น ก่อนจะนึกถึงชายหนุ่มร่างหนาที่คอยเฝ้าไข้เขาตลอดวัน

    "ยังงั้นหรอ..." แก้มที่แดงเรื่อไม่อาจปกปิด หากแต่เขาเองก็ไม่อยากจะปิดบังเช่นกัน ทงเฮเห็นภาพเบื้องหน้ารู้สึกเจ็บขึ้นที่อกด้านซ้าย คงเพราะเขามัวแต่เฝ้าไข้จนลืมกินข้าวแน่ๆถึงได้รู้สึกแบบนี้

    "ถ้าัยังไงฉันก็ขอตัวก่อนนะ นายควรจะพักผ่อน" ทงเฮลุกขึ้นแม้จะรู้สึกแปลกๆ เขาไม่อยากให้ซองมินมัวแต่คิดเรื่องคนอื่นเลย เพราะตัวของตัวเองยังเอาไม่รอด แต่จะพูดให้ถูก เขาคงไม่อยากเองซะมากกว่า

    ซองมินพนักหน้าเล็กน้อยก่อนจะนั้งอยู่อย่างนั้น ในห้องเริ่มสลัวและมืดขึ้น เขารู้สึกสบายตัวขึ้นมากแล้วแม้จะยังมีไข้หลงเหลือก็ตาม

    "ควรจะนอนหรือออกไปเดินดีนะ..." ซองมินบ่นกับตัวเอง แม้จะรู้สึกกลัวแต่ว่าเขากลับนอนมาทั้งวัน ที่สำคัญในโน๊ตของชีวอนบอกให้เขากลับก่อนเที่ยง แต่ตอนนี้ดูยังไงก็ค่ำแล้วแน่ๆ

    ซองมินเลือกที่จะดันร่างกายตัวเองให้ลุกขึ้นยืน ก่อนจะเลื่อนบานประตูออกไป ภายนอกหอดูลึกลับและคล้ายจะเป็นเขาวงกตสำหรับเขา ทางเดินตอนนี้ดูไม่คุ้นตาเลย

    เขาเดินไปทางสวนโดยตามกลิ่นดอกซากุระ ก่อนจะเดินลัดเลาะลงไปทางสวนสีน้ำเงินในยามราตรี แสงไฟจากเชิงเทียนสว่างวาบในกระท่อมเล็กๆทางสวนด้านใน

    ร่างอวบเิดินเข้าไปใกล้ กระท่อมไม้ถูกบุด้วยฝางและต้นไม้แห้งถูกตกแต่งอย่างปราณีต เป็นการประยุกต์ระหว่างตะวันตกและตะวันออกอย่างลงตัว แสงด้านในดูอบอุ่น พลันความคิดนึกถึงจิตรกรดังที่ทงเฮเคยเล่าให้ฟัง

    คุณฮันคยอง

    ซองมินเดินเข้าไปใกล้จนถึงหน้าประตูก่อนจะแอบมองเข้าไปด้านใน ชายหนุ่มร่างสูงกำลังนั้งขมักเขม้นกับการวาดรูป แต่เพราะมองจากช่องเล็กๆเขาจึงไม่อาจเห็นทั้งหมดของใบหน้าได้

    อาการหนาวยามราตรีทำให้ร่างอวบสวมกอดตัวเองเบาๆ ลมเย็นๆพัดเข้ามาสัมผัสครั้งแล้วครั้งเล่าราวกับต้องการให้เขากอดตัวเองให้แน่นขึ้น

    ฮัดชิ้ว!

    เสียงจามดังขึ้น ซองมินรีบเอามือมาปิดจมูกก่อนจะพยายามย่องหนีออกไป แต่ประตูบานเลื่อนกลับถูกเปิด ไออุ่นๆจากด้านในส่งมาด้านนอก

    "เด็กใหม่งั้นหรอ" เสียงทุ้มแหบห้าวทักขึ้น ซองมินจึงหันหน้ากลับไปมองชายหนุ่มที่ยืนกอดอก ชุดกิโมโนสีขาวและกางเกงฮากามะสีน้ำเงินเข้มบ่งบอกถึงความเป็นจิตรกรได้ดี

    "ครับ.." ซองมินกล่าวตอบทักทายก่อนจะใช้ท่อนแขนลูบไปตามแนวเพราะลมหนาวที่พัดผ่านทำเอาร่างอวบหนาวสะท้าน

    "ข้างนอกหนาวน่าดูเลย เข้ามาก่อนสิ" ชายหนุ่มชวนอีกฝ่ายเข้าไปโดยไม่ใส่ใจ ซองมินเดินตามเข้าไปอย่างช่วยไม่ได้ เขาเลื่อนประตูปิดลงก่อนจะหันไปมองภาพภายในห้อง

    ห้องนี้เป็นแบบญี่ปุ่น ปูด้วยเสื่อและมีชั้นวางของธรรมดา พื้นเต็มไปด้วยกระดาษ ทั้งสภาพดีและถูกขย้ำ มีโต๊ะริมห้องที่มีขวดหมึกตั้งอยู่ ในห้องดูรกและเกะกะจนยากที่จะหาที่นั้ง

    "นั้งก่อนสิ ไว้หายหนาวแล้วค่อยออกไป" ชายหนุ่มยิ้มให้ก่อนจะค่อยๆเก็บของจนมีที่พอจะนั้งได้ ร่างอวบจึงนั้งลงพร้อมกับสังเกตุใบหน้าของจิตรกรหนุ่ม

    ผมสีน้ำตาลยาวเกือบถึงต้นคอ แม้ร่างกายจะสูงแต่ก็ไม่เท่าคังอิน ดูเหมือนกับจะพอๆกับชีวอนซะมากกว่า คิ้วสวยได้รูปและใบหน้าเจ้าเล่ห์ยากจะคาดเดา ถือว่าเป็นคนที่หล่อจัดคนหนึ่งเลยทีเดียว

    "ฉัน ฮันคยอง นายคงเป็น ซองมิน เด็กใหม่ใช่มั้ย" ฮันคยองเอียงหัวเล็กน้อยเชิงคำถาม ซองมินได้แต่พยักหน้าเบาๆเท่านั้น

    แต่ถึงกระนั้นสายตากลมโตมองไปบนพื้นห้อง ภาพหญิงสาวและชายหนุ่มกำลังร่วมรักกันอย่างเร่าร้อน รวมไปถึงภาพชายหนุ่มกัยชายหนุ่มที่กำลังมีสัมพันธ์ต่อกัน แม้แต่หญิงสาวสองนางก็ด้วย ทั้งหมดถูกบรรจงวาดด้วยพู่กันและหมึกเท่านั้น

    สายตาที่ซุกซนทำให้ตัวเขากลัยหน้าแดงขึ้นมาเอง ฮันคยองมองคนตรงหน้าก่อนจะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

    "โห้ยย ไม่เหมาะสำหรับเด็กอย่างนายล่ะมั้ง นายน่ะเหมาะกับแบบนี้" ฮันคยองดึงรูปนกมาจากลิ้นชัก เป็นนกตัวเดี่ยวๆที่ไม่มีอะไรเลย ภาพง่ายๆที่เหมือนกับเป็นการดูถูกทำให้ซองมินรู้สึกผิด

    "ฉันล้อเล่นน่ะ นายน่ะสวยจะตาย" ฮันคยองว่าพร้อมกับใช้หลังมือลูบไปตามผมสีอ่อน แสงจากเชิงเทียนทำให้ฮันคยองดูหล่อเหลาแต่ก็อันตราย

    "ผม..." ซองมินอึกอัก แต่ก็ทำได้แค่นั้น

    ชายหนุ่มมองใบหน้าสวยหวานก่อนจะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์อีกครั้ง ก่อนจะพูดเสียงราบเรียบ

    "ฮันอยากวาดรูปนายนะ"

    ซองมินหน้าแดงทันที่ เขามองไปรอบๆทำท่าเลิกลั่กจนไม่อาจปิดหน้าแดงของตัวเองได้

    "ผมว่ามันอาจจะไม่เหมาะ..." ซองมินว่าพร้อมกับส่งสายตาไปทางกระดาษที่มีรูปภาพของหญิงสาวและชายหนุ่มกำลังร่วมรักกัน หากแต่ฮันคยองกลับมองร่างอวบนิ่งก่อนจะหัวเราะออกมา

    "ฮาฮาฮาฮา!!! ฉันหมายถึงรูปธรรมดา นายไม่ต้องถอดหรือทำอะไรแบบนั้นหรอกน่า" ชายหนุ่มว่าพร้อมกับหัวเราะไปด้วย ซองมินได้แต่ตีสีหน้างงงวย

    ก่อนที่บรรยากาศจะกลับมาเงียบอีกครั้งจนได้ยินเสียงลมพัด ชายหนุ่มค่อยๆขยับหน้าเข้ามาใกล้จนรู้สึกถึงสัมผัสทางอากาศที่ใกล้เข้ามา ร่างอวบได้แต่หลบตาไปมาก่อนจะเม้มปากแน่น

    "ให้ฉันวาดนายได้มั้ย" เสียงกระซิบเข้าที่รูหูเขาๆ ไหล่บางที่ถูกแขนหนาครอบครองตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ก่อนจะรู้สึกถึงแรงโน้มเบาๆ ซองมินตกอยู่ในห้วงของสายตาคนตรงหน้า

    "อึก..." เสียงครางบเบาๆเมื่อร่างกายของตัวเองค่อยๆใกล้กับเสื่อมากขึ้นเรื่อยๆโดยไม่อาจต้านทาน เสื้อของฮันคยองก็ดูเหมือนจะค่อยๆเผยขึ้นทีละน้อยจนเห็นอกล่ำสัน

    แต่กระนั้นซองมินก็หลับตาหนักๆหนึ่งครั้งก่อนจะผลักร่างตรงหน้าออกไป

    "ขอโทษนะครับ!" ร่างอวบลุกขึ้นก่อนจะวิ่งออกไปทันทีโดยไม่สนใจอีกฝ่ายที่หงายหลังไปแล้ว

    ฮันคยองลูบหัวตัวเองเบาๆก่อนจะตีหน้างง

    "หึ อยากจะรู้ว่าจะรอดไปได้กี่วัน" เสียงพพึมพำกับตัวเองของเาแฝงด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

    ซองมินที่วิ่งท่ามกลางอากาศหนาวรู้สึกหัวขาวโพลนไปหมด เมื่อนึกถึงเหตุการณ์เสื่อครู่ก็ได้แต่สั่นหัวไปมาราวกับให้เรื่องเหล่านั้นหลุดออกไป

    เมื่อขึ้นตัวเรือนเขาก็รีบหาทางกลับแต่เพราะวิ่งมาโดยไม่ได้ดูทาง ซองมินจึงได้แต่ยืนแน่นิ่งกับเขาวงกตขนาดใหญ่ เมื่อไม่มีแสงไฟหรือคนนำทางเขาก็แทบจะไม่รู้เลยว่าที่นี้เป็นยังไง

    ซองมินพยายามคลำหาทางแต่เมื่อทุกอย่างดูไม่คุ้นตาจึงเสียเวลากับการเดินวนไปวนมา ในใจก็อยากให้มีคนช่วยแต่ในวิกาลแบบนี้จะมีใครออกมาเพ่นพ่านกันบ้างล่ะ

    ซองมินตัดสินใจเปิดประตูตรงหน้าโดยหวังว่าจะเป็นห้องของตัวเอง แต่กลับไม่เป็นอย่างนั้น

    "เฮ้ยยย! เข้ามาได้ไงว่ะ" ชายหนุ่มดูสูงอายุและภูมิฐานตะโกนเสียงดังขึ้นเมื่อเห็นซองมิน แต่ฝ่ายที่ถูกตะโกนกลับมีท่าทีตกใจเองซะมากกว่า เมื่อเห็นชายหนุ่มดังกล่าวอยู่ในชุดไม่สุภาพ ก่อนจะมองไปยังใบหน้าสวยที่นอนเคียงข้าง

    "ซองมิน..." ฮีชอลพูดเบาๆ สีหน้าตกใจไม่แพ้กัน ฮีชอลใส่กิโมโนสีแดงทั้งตัวราวกับดอกกุหลาบสีแดงสด ชุดที่เหมือนกำลังถูกถอดและดูยับย่นทำให้เขาพอเข้าใจว่ากำลังทำอะไรกัน

    "เด็กใหม่งั้นหรอ น่ารักไม่เบานะ" ชายหนุ่มดังกล่าวพูดขึ้นหากแต่ซองมินยังคงยืนตัวแข็ง

    "อ่า...ผม.." ซองมินได้แต่ยืนหน้าแดง ไม่อาจก้าวขาได้แม้แต่นิดเดียว

    ฮีชอลส่งสายตาให้ซองมินเป็นนัยให้เดินออกไป เนื่องจากรู้ว่าลูกค้ารายนี้ชอบของใหม่ๆและซองมินก็ยังไม่รู้งาน ที่สำคัญลูกค้ารายนี้ก็เป็นคนสำคัญ

    ซองมินพยักหน้านิดก่อนจะรีบปิดประตู เขาก้มหัวเชิงขอโทษก่อนจะรีบเดินออกมา

    "อ่า...น่าอายจริงๆ" เสียงหวานบ่นกับตัวเอง หากแต่ยังคงเก็บอาการตื่นเต้นเมื่อครู่ได้ไม่มิด ลมหายใจติดขัดราวกับมีอะไรมากั้นไว้ ถ้าเขาไม่รีบหนีออกมา ฮันคยองกับเขาก็คงมีสภาพไม่ต่างกันแน่นอน

    พลันได้ยินเสียงเท้าสาวเข้ามาใกล้ ซองมินหวังไว้ในใจว่าจะเป็นทงเฮหรือใครสักคนที่บอกทางกลับห้องให้เขาได้

    "ซองมิน..งั้นหรอ" ทงเฮกล่าวขึ้นเมื่อเห็นคนตรงหน้า แต่ซองมินกลับเห็นสีหน้าที่แปลกไป เป็นทงเฮแน่ๆแต่สายตาและน้ำเสียงกลับดูแปลกไป

    "ทงเฮ! ฉันกลับห้องไม่ได้" ซองมินเดินเข้าไปใกล้ เขาจึงสังเกตุว่าทงเฮก็ใส่กิโมโนสีแดงเช่นเดียวกัน ทงเฮไม่ยิ้มเหมือนทุกทีและมีสีหน้าที่เย็นชา

    "เรื่องง่ายๆก็หัดจำเองซะบ้าง ทางของห้องนายแค่เลี้ยงตรงหัวมุมก็เจอแล้ว" ทงเฮพูดเสียงเรียบก่อนจะเดินต่อไปโดยไม่มองกลับหลัง

    "เออ.." ร่างอวบหวังจะพูดอะไรสักอย่างแต่คนตรงหน้ากลับเดินโดยไม่สนใจ ซองมินได้แต่มองจนลับตาไปก่อนจะเดินไปให้ถึงห้องตัวเอง ระหว่างนั้นก้นึกถึงหน้าเพื่อนสนิทที่ดูแปลกไป

    "เขาเเป็นอะไรนะ..."

    ===========
    คุยกับ  KOMi
    ===========

    ขอโทษนะคะที่ลงช้า เพราะไรเตอร์ยุ่งมากตอนนี้ก็ใกล้จะเอ็นท์แล้วเลยฟิตอ่านหนังสือคะ

    ขอโทษคะที่ลงช้าาา


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×