ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ::ISOLATE TOGETHER [ Fic..Kangmin ]

    ลำดับตอนที่ #22 : ::ISOLATE TOGETHER:::PART 12

    • อัปเดตล่าสุด 5 เม.ย. 53



    ยอมแลกทุกอย่างบนโลก

    เพื่อรอยยิ้มนั้นอีกเพียงครั้งเดียว



    -----------------------------------------------------------------------------------


                ชายร่างหนาเดินนำอีกฝ่ายอย่างเข้มแข็ง ในใจคิดแต่จะปกป้องคนรักที่โดนทำร้ายอย่างเต็มที่ ซองมินเดินเงียบตลอดทาง แม้จะเข้าใจเหตุการณ์ต่างๆ แต่เขาก็ไม่อาจทำใจได้ในเร็ววัน
               
                "เฮ้ ซองมิน อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ" ลีทึกทักทายด้วยเสียงสดใส
                "อืมม"
                "นายไม่คิดจะทักฉันรึไง!?" คังอินทำเสียงดุใส่

                ถึงความสัมพันธ์ของทั้งสามคนก่อนหน้านี้จะเป็นการแก่งแย่งชิงดี แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นมิตรภาพ เป็นมิตรภาพที่แลกด้วยมิตรภาพ
                ซองมินมองไปทางโต๊ะที่ของทงเฮ มันว่างเปล่า เขารู้ว่าทงเฮคงรู้ทุกอย่างแล้ว เขาอยากจะเชื่อใจทงเฮแม้มันจะผิด ไม่ว่ายังไงเขาก้ต้องถามเจ้าตัวให้ได้

                "ซองมิน ทำหน้าเครียดเชียว เป็นอะไรรึเปล่า" ลีทึกถามอย่างเป็นห่วง
                "ฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย ขอเวลาสักเดี่ยวได้มั้ย"
                "แน่นอน"
                "ฉันไปด้วยได้มั้ย!"
                "พี่คังอินนั้งรอตรงนี้เถอะนะ" ซองมินยิ้มเบาๆก่อนจะเดินไปกับลีทึก


                ซองมินเดินมาที่ห้องดนตรี มีเปียโนตัวใหญ่สีดำวางบนพื้นไม้สีเข้ม

                "นายช่วยให้ฉันได้คุยกับทงเฮได้มั้ย"ซองมินถามอย่างตรงไปตรงมา
                "คุย!?.... จะได้อะไรขึ้นมาเมื่อนายก็รู้ความจริงหมดแล้ว"
                "ฉันอยากจะรู้สาเหตุ"
                "รู้ไปแล้วจะได้อะไร นายจะยกโทษให้มันงั้นหรอ!!"
                "เปล่า่..แต่ ทงเฮเป็น.."
                "ถ้านายยังเรียกมันว่า"เพื่อน"ล่ะก็ นายก็บ้าไปแล้วแน่ๆ"

                ซองมินชะงัก หลังจากที่พ่อแม่ของเขาตายไป เขาต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวมาตลอด มีแต่ทงเฮที่เขาคอยปรับทุกข์อยู่เสมอ เขาไม่เชื่อว่าเพื่อนที่เขาไว้ใจจะทำอะไรโดยไม่มีสาเหตุ
                ถึงคังอินจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาขนาดไหน แต่คนที่ช่วยให้ผ่านเวลาเลวร้ายก็คือเพื่อนสนิทของเขา ทงเฮ

                "ขอร้องเถอะนะ" ซองมินอ้อนวอน นัยตาตก หวังจะพึ่งพิงตัวช่วยสุดท้าย
                "....โอเค"
                "จริงๆนะ!"
                "แต่มีข้อแม้ ฉันรู้ว่านายบอกคังอินไม่ได้เพราะหมอนั้นต้องเข้าไปซัดหน้าทงเฮแน่ๆ นาเลยมาปรึกษาฉัน แต่นายก็ต้องยอมรับเงื่อนไข"
                "เงื่อนไขอะไร"
                "นายต้องติวคังอินให้ผ่านปลายภาคนี้ให้ได้ รู้มั้ยว่าหมอนั้นตกทุกวิชายกเว้นเลข"

                ซองมินรีบพยักหน้า ลีทึกลูบหัวซองมินอย่างเอ็นดู ไม่ว่าเมื่อไหร่ซองมินก็ดูเป็นคนที่ต้องการคนปกป้องตลอด ถึงภายนอกจะเหมือนเด็กแต่ภายในกลับเป็นผู้ใหญ่อย่างำม่น่าเชื่อ

    ♦♦♦

                ตอนเย็นหลังเิลิกเรียน คังอินพาซองมินไปที่ห้างสรรพสินค้า หวังว่าจะทำให้อารมณ์ดีขึ้น แต่ซองมินกลับดูเลื่อนลอยนิดๆ แม้นัยตาจะดูมีแววขึ้นมาบ้างแล้วก็ตามหลังจากได้คุยกับลีทึกเมื่อตอนเช้า

                "ไม่ชอบของที่ห้างนี้หรอ" คังอินถามอย่างเป็นห่วง
                "เปล่าครับ แต่ทำไมถึงไม่มีคนเลยล่ะ ทั้งๆที่ห้างก็เปิดปรกติ" ซองมินมองไปรอบๆอย่างสงสัย
                "ก็ทั้งห้างมีเราแค่สองคน"
                "เป็นไปไม่ได้ คนอื่นก็ต้องซื้อของกันบ้างสิ"
                "ใช่! ใครๆก็ซื้อของ พี่เลยซื้อห้างไว้ให้นายแล้วไง"
                "ห๊าาา!!!!!!? ซื้อห้างให้เนี้ยนะ! พี่บ้าไปแล้วหรอ?"
                "มันไม่ได้แพงอย่างที่นายคิดหรอกนะ ค่าตัวนายรวมดอกเบี้ยยังแพงกว่าเลย"

                ซองมินอึ้ง ทึ่ง คังอินซื้อทั้งห้างให้เขาเพียงแค่เขาเศร้า ไม่มีใครใช้เงินได้เปลืองขนาดนี้อีกแล้ว

                "อยากได้ของชิ้นไหน หยิบได้เลยนะ" คังอินพูดแกมหัวเราะ
                "พี่คังอิน! คืนเจ้าของเขาไปเถอะ"
                "เจ้าของตอนนี้ก็พี่ไง!"
                "อย่าทำแบบนี้สิครับ ผมลำบากใจ"
                ".....ก็ได้ พี่จะคืนเขาภายในเดือนนี้ รู้มั้ยว่ากว่าจะซื้อได้พี่เลยอดข้าวเที่ยงวันนี้เลยนะ"

                ซองมินแทบจะเป็นลม คังอิินซื้อห้างให้เขาตอนพักกลางวัน ไม่อยากจะเชื่อ! บ้านค้ายาหรือทำธุรกิบ่อน้ำมันเป็นอาชีพเสริมรึเปล่าเนี้ย
                สุดท้าย ซองมินก็เลือกของใช้ตามปรกติ และรีบกลับบ้านโดยเร็วที่สุด เกิดมาใช้ชีวิตลำบากพอมาเจอแบบนี้เขา ก็ตะลึงทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน

                "ซองมิน ในที่สุดก็ยิ้มแล้วนะ" คังอินพูดขณะเดินกลับไปที่รถ
                "อื้ม! เพราะตกใจมากกว่า วันหลังอย่าทำแบบนี้นะ"
                "อะไรที่ทำให้นายยิ้ม ที่ทำได้ทุกอย่างล่ะ"

                ซองมินได้แต่อมยิ้ม สิ่งที่เขาต้องการเหลือเพียงอย่างเดียว แค่ปรับความเข้าใจกับทงเฮเท่านั้น

    ♦♦♦

                ผมยาวประบ่าถูกมัดเป็นมวยสูง ฮีชอลเดินเข้ามาบริการแขกในร้านเหมือนทุกที ต่างแค่ชุดในวันนี้เป็นชุดประจำชาติที่น้อยชิ้นลงเท่านั้น งานของฮีชอลไม่ง่ายแต่ก็ไม่ยาก แค่บริการหนุ่มเล็กใหญ่ให้พอใจก็พอ

                "ฮีชอล แขกใหม่เข้ามาแล้ว ช่วยดูแลหน่อย" เสียงเถ้าแก่ร้านขอให้ฮีชอลช่วยดูแล
                "รู้แล้ว!!"

                แขกใหม่นั้งลงบนโซฟาหนังสีดำของทางร้าน ฮีชอลเข้าไปแนะนำตัวก่อนจะรินเหล้า

                "ไม่คิดจะทักทายกันบ้างหรอ"
                "ขอโทษคะ...ฉัน..."

                ฮีชอลนิ่งเงียบ แขกคนนี้คุ้นหน้าเหลือเกิน
                'ฮันคยอง'

                "เพิ่งรู้นะเนี้ยว่าทำงานแล้วต้องพูด ค่ะ ขา ด้วย"
                "นายมา..."
                "นายเป็นคนชวนหนิ"
                "ขอบคุณ"

                ฮีชอลยิ้มกว้าง ไม่เคยนึกฝันว่าหนุ่มมาดเนี้ยบคนนี้จะเข้ามาในร้านชั้นต่ำแบบนี้ มาเพียงเพื่อมาหาเขา แค่นี้ก็ทำให้เวลาของเขามีความหมายขึ้นมาแล้ว

                "ช่วยเล่าเรื่องของนายให้ฟังหน่อยสิ ฉันซื้อตัวนายตลอดกลางคืนนี้้แล้วนะ"
                "ของ่ายๆอย่างงี้เนี้ยนะ!"
                "เป็นงานนะครับ ฮีชอล ขอตั้งแต่นายจำความได้เลยนะ"
                "...เล่าก็เล่า!"

                ฮีชอลนึกย้อนกลับไปถึงจุดเริ่มต้นชีวิตของเขาไม่สวยหรแม้จะเต็มไปด้วยของราคาแพง เพราะไม่มีใครสนใจมานาน เขาถึงพยายามลืมมันไว้ แต่เมื่อมีคนที่เขาไว้ใจอยากจะฟังก็พร้อมที่จะเล่าอย่างตั้งใจ

                "ฉันน่ะเกิดจากครอบครัวที่มีตระกูล ทางบ้านคุณพ่อเป็นพนักงานธนาคารเมื่อฉันยังเด็ก คุณแม่เป็นแม่บ้าน ฐานะที่บ้านค่อนข้างดี ฉันมีน้องชายอีกคน แน่นอนว่าพ่อนัดดูตัวให้ฉันหลายครั้ง กับลูกสาวของเจ้านายพ่อ ถึงทางบ้านจะร่ำรวยแต่คุณพ่อก็ไม่คิดจะอยู่กับที่"
                "ทางบ้านรู้ไหมว่านาย...ไม่ได้ต้องการแบบนั้น"
                "ไม่รู้ เพราะฉันไม่อยากทำร้ายคนที่บ้าน แต่จริงๆแล้วฉันแค่อยากให้มีความสุขแบบนั้นตลอดไปมากกว่า ไม่อยากให้อะไรเปลี่ยนแปลงไปเลย แต่เมื่อการดูตัวมาถึงก็เหมือนกับเป็นการบังคับให้ฉันคบกับเธอคนนั้น แต่ว่ามันมีเรื่องที่เกิดทับซ้อนขึ้นมา"
                "เรื่องอะไร"
                "ถึงตรงนี้ นายอาจจะไม่ค่อยอยากฟัง นายเลือกได้นะที่จะข้าม"
                "บอกมาเถอะ"
               
                ฮีชอลหลับตาลงก่อนจะนึกบทพูดบทต่่อไป


    --------------------------------


    เรื่องหลักที่ดองก็ออกมาอีกหนึ่งตอน

    ขอความเห้นรีดเดอร์ทุกคนว่าควรจะจบเรื่องนี้ดีรึยัง

    เพราะไรเตอร์เริ่มตัน บวกกับเนื้อหาที่เตรียมไม่ดีเลยพาลจะหมดเอาง่ายๆ

    แถมตอนนี้มีพลอตเรื่องยาวอันใหม่ออกมาด้วย

    ขอความเห็นหน่อยนะ ทุกคนเลย
               
               
    KOMillian say:คอมเม้นกันตามมารยาทก็ดีนะคะ หรือคอมเม้นอะไรมาเลย

    ไรเตอร์ต้องการกำลังใจนะคะ ช่วยไรเตอร์ตัดสินใจหน่อยยย ว่าควรจะจบรึยัง

              
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×