ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ::ISOLATE TOGETHER [ Fic..Kangmin ]

    ลำดับตอนที่ #20 : [SF]:::Keep Quite:::

    • อัปเดตล่าสุด 14 ก.พ. 53





    Keep Quite



                "อย่าบอกว่าพี่เห็นว่าเขาดีได้ไหม อย่ามาย้ำ อย่าพูดเลย...."ลมหายใจที่อ่อนแรง เสียงตะโกนที่ดังก้อง ไม่มีอะไรน่าอายไปกว่าการที่ถูกคนมากมายมองมาที่ผม กลางระเบียงทางเดินที่มักเสียงดังเงียบเพราะเสียงของผม คนเดียว...
                หน้าตาของพี่คังอินดูเงียบไป ทั้งๆที่เมื่อครู่กำลังยิ้มอย่างร่าเริง แต่ใครจะไปสนกันละ ในเมื่อรอยยิ้มของพี่มันฆ่าผมให้ตายช้าๆแบบรู้สึกดีที่ได้มองมัน
                ผมเลือกที่จะเดินหนี ไม่อยากยืนให้ผู้ชายกลุ่มนั้นมองแล้วทำท่านินทา หรือพวกผู้ชายที่กำลังหยอกล้อต้องหยุดเล่นกันเพราะผม ผมเดินหนีไปเงียบๆอย่างนั้น มือผมบีบกล่องสีขาวในมือแน่น โดยที่ทุกคนหยุดนิ่งราวกับถูกหยุดเวลาไว้
                ♦♦♦

                เวลาที่ผมชอบให้เดินช้ากลับเดินเร็วเหมือนแกล้งกัน ผมต้องนั้งอึดอัดกับคนที่ผมแอบชอบมานานตลอดครึ่งบ่าย เสียงหยอกล้อพูดคุยหายไป พี่คังอินนั้งขรึม แต่ส่วนมากจะไปข้องแวะกับจองซูมากกว่า ถ้าพูดถึงจองซู ใครๆก็นึกใบหน้าที่สวยงาม ใจดี เป็นมิตรที่ขนาดตัวผมเองยังยอมรับ มันคงจะง่ายกว่านี้หน่อยถ้าเกิดจองซูไม่ใช่เพื่อนสนิทของผม ผมคงทนเห้นหน้าเขาไม่ได้แน่ๆ ผิวนวล ผมสีอ่อน นัยตาโต ทั้งสวยและหล่อในเวลาเดียวกัน ตัวผมไม่อาจจะสู้ได้เลย ทั้งเตี้ย ตัวเล็ก และเข้าขั้้นจะอ้วนในอีกไม่กี่เดือนถ้าผมยังไม่หยุดการกินแบบผิดเวลา

                "ซองมิน... ได้ข่าวว่านายจะเป็นทอร์ค ออฟ เดอะ ทาวด์ แล้วนะ" เสียงยียวนกวนประสาทดังมาไม่ไกลนัก ชินดงทำท่าอยากรู้อยากเห็นจนออกนอกหน้า ให้ตายสิ
                "ข่าวลือก็คือข่าวลือ นายไม่ต้องมาสืบแล้วไปแปะไว้บนหนังสือพิมพ์โรงเรียนได้มั้ย" ผมตอบเสียงเรียบ
                "มีควันก็ต้องมีไฟ ไหนๆก็พูดแล้วก็ช่วยบอกให้หมดด้วยสิ" ชินดงยังคงรอข้อมูลจากผม
                "แค่ฉันขี้เกียจทนฟัง ก็แค่นั้น" เสียงผมเริ่มแปร่งเล็กน้อย มันเป็นทุกครั้งที่โดนสะกิดแผลในใจ
                "ฟัง? คังอินพูดมากใช่มั้ยล่ะ แต่ดูเหมือนพวกนายจะมีความลับต่อกันนะ ไม่งั้นคงไม่ถึงกับงอนไม่พูดไม่จากันแบบนี้ นี่มันเกินเหตุไปรึเปล่า" ชินดงถามได้อย่างตรงจุด สายตาแฝงความอยากรู้เต็มที่
                ".... นายคงไม่อยากให้ฉันเบื่อที่จะพูดกับนายเหมือนกันหรอกนะ" ความอดทนต่ำๆของผมถึงขีดสุดแล้ว และชินดงก็ต้องผละออกไปอย่างช่วยไม่ได้ ผมนั้งที่เดิมส่วนชินดงที่เกาะเก้าอี้ตัวหน้าแล้วหันมาคุยถูกเปลี่ยนเป็นคนที่ผมพยายามหลีกหนี   คังอิน
                "ในที่สุดก็ยอมพูดสักทีนะ" คังอินนั้งก่อนจะเท้าแขนบนโต๊ะให้มือยันคางตัวเองไว้
                "..."
                "ไม่คิดจะคุยกันเลยรึไง งอนเป็นผู้หญิงเชียว" คังอินเริ่มยั่วให้ผมพูดเหมือนทุกทีั
                "ไม่ได้งอน ไปไกลๆได้มั้ย คนจะ..." ผมเผลอติดกับโง่ของเขาและไม่ทันจบประโยคก็โดนขัด
                "งอน ใช่มั้ย? คนจะงอนใช่มั้ยล่ะ" คังอินส่งยิ้มหมีมาให้ผม ยิ้มตาหยีที่ผมยากจะต้านทาน อย่าว่าแต่ผมเลย แม้แต่คนอื่นๆก็แทบจะล้มตายไปตามๆกัน
                "ไม่ต้องถามก็ได้นะ ถ้าจะตอบเองน่ะ เชิญเทิดทูญจองซูให้พอเถอะ ฉันไปห้องน้ำแล้ว" ผมสะบัดตัวลุกขึ้นทันทีที่พูดจบ
                "คราวนี้เป็นหึงใช่มั้ย" คังอินพูดแต่ผมไม่เห็นหน้าเขา เพราะมัวแต่ยืนหน้าชาอยู่ หึงงั้นหรอ?
                "พูดอะไรของนาย หึง!? บ้าน่ะสิ"ผมพูดโดยไม่หันหลังกลับ เพราะกลัวจะถูกจับได้ว่าหน้าแดงไปถึงหูแล้ว
                "แดงถึงหูแล้วครับ ซองมิน หันมาเถอะ" ผมไม่หันไปแต่เลือกที่จะวิ่งไปห้องน้ำ ทั้งๆที่ปรกติไม่เคยเข้าห้องน้ำโรงเรียนสักเท่าไหร่ ผมเห็นจองซูแว่บนึงขาออกห้องน้ำแต่ไม่รู้ว่าเขาจะเห็นผมรึเปล่า แต่ไม่ว่ายังไงตอนนี้ สิ่งที่ผมกลัวมันก็เกิดขึ้น....คังอินรู้แล้ว

    ♦♦♦

                ในตอนขากลับบ้าน ผมรีบเก็บของและไปทันทีโดยไม่รอจองซูหรืออยู่คุยเล่นแบบทุกที จนถึงบันไดชั้นล่างสุดก่อนจะออกจากตัวตึก คังอินก็ยืนอยู่ตรงนั้น.... เขาคงรู้ว่าผมมัวแต่พะวงเลยไม่ได้สังเกตเขาแน่ๆ ใช่ เขารู้เรื่องผมดีจะตาย

                "ว่าไง จะกลับบ้านกันรึยัง" คังอินถามอย่างอารมณ์ดี มันเหมือนกับเขากำลังแกล้งผมเลย
                "ไม่ต้องมารอ จะกลับเอง"ผมตอบห้วนๆโดยไม่หันไปมองหน้าเขาอีก การรักษาน้ำเสียงไว้ไม่ให้สั่นมันจง่ายกว่าถ้าผมไม่มองเขา
                "เลิกทำแบบนี้เถอะน่า ฉันมีขีดจำกัดนะ" คังอินเปลี่ยนเสียงให้เรียบพอๆกัน มันดูน่ากลัวทันทีเพราะเขาแทบจะไม่เคยทำเสียงแบบนี้เลย
                มีแรงกระชากที่ข้อมือของผม มันให้ความรู้สึกเหมือนถูกฉุดแต่กลับอ่อนโยนเหมือนพ่อที่จูงลูกไปตามทางเดินกลับบ้าน ผมรู้สึกถึงริมฝีปากนุ่ม ลมหายใจถี่รัว ทุกอย่างดูขัดแย้งไปหมด นัยตาผมเบิกโพล่งก่อนจะค่อยๆปิดลง ลมหายใจเริ่มหมด และปากที่ประกบกันเริ่มแยกออกจากกัน
                "นายทำตัวน่าจูบเองนะ ไปได้รึยัง จะไปส่ง"คังอินพูดเสียงเดายาก ก่อนจะจุงมือผมเดินไปตามทางเท้าของถนน
                ผมลืมตัวและทำอะไรไม่ถูก จะยิ้มก็ยิ้ม จะโกรธก็โกรธ จะอายก็อาย ไม่รู้ว่าทางไหนที่เป็นทางออกที่ดีที่สุด จนมาหยุดอยู่ที่หน้าบ้านของผม
                "นายชอบฉันใช่มั้ย" ไม่ใช่เสียงของคังอิน แต่กลับเป็นเสียงที่คุ้นเคย เสียงที่ผมได้ยินทุกวัน เสียงของผมเอง
                "ใช่ เพิ่งเริ่มตอนเที่ยงเองและต่อจากนี้ตลอดไปด้วย"คังอินตอบอย่างไม่ลังเล นัยตาจริงจังจนน่าแปลกใจ
                "นายก็ชอบฉันใช่มั้ย บอกมาเถอะ" พูดขณะชะเง้อดูกระเป๋าหลังของผม มันคือกล่องสีขาวที่ผมบีบมันจนบู้บี้ ชอคโกแลตทำมือที่ผมทำจนคล่อง
                "ไม่ต้องพูดแล้ว .... ชอบสิ" น้ำเสียงอายๆแบบนี้ ผมแทบจะลืมวิธีทำไปแล้วด้วยซ้ำ ให้ตายเถอะ
                "ที่หลังกางเกง ... ขอได้มั้ย" คังอินถามอย่างร่าเริง

                ผมหยิบมันขึ้นมา โบที่ถูกเบี้ยวไม่มีชิ้นดี ตัวกล่องก็เละเทะ แน่นอนว่าตัวชอคโกแลตก็เสียรูปไปหมดแล้ว ยังดีที่มันยังไม่ละลาย คังอินหยิบมันและแกะห่อมากินอย่างเอร็ดอร่อย
                ร่างสุงของเขาโน้มลงมาอีกครั้ง ผมรู้ว่าเขากำลังจะทำอะไรแต่ผมก็ปล่อยมันไป ขอแค่ให้คนในบ้านอย่าออกมาก็พอ...
                คราวนี้มันหวานซะจนผมแปลกใจ ชอคโกแลตในปากของเขามันหวานจนน่าแปลกใจ ลิ้นเขาช่วยทำความสะอาดลิ้นผมที่เต็มไปด้วยวัตุสีน้ำตาลหวานฉ่ำ แขนแกร่งของเขาบีบแน่นที่ไหล่ของผม ผมใช้มือพยายามเกาะหลังกว้างนั้นให้อยู่
                "สุขสันวันวาเลนไทน์ครับ" คังอินยิ้มทั้งๆที่มีเศษชอคโกแลตติดที่มุมปาก ... อ่า น่ารักจัง
                ผมเอี่ยวตัวไปเลียที่มุมปาก มันหวานเหมือนเดิม "สุขสันวันวาเลนไทน์ครับ"
               
    -------------------------

    5555+ หวาน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×