ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ::ISOLATE TOGETHER [ Fic..Kangmin ]

    ลำดับตอนที่ #14 : ::ISOLATE TOGETHER:::PART 9

    • อัปเดตล่าสุด 1 ธ.ค. 52




    ความจริงทำให้คนตาบอด

    ------------------------------------------------------------------


                     คงไม่ได้หูฝาด...ฮีชอลมองหน้าฮันคยองก่อนจะจูงมือกันวิ่งผ่านทางที่เพิ่งเดินมา ไม่ใช่เพราะห่วงว่าซองมินจะโดนมาทำร้ายอย่างเดียว แต่ห่วงคนที่คิดจะทำร้ายซองมินพอๆกัน
                     'ไม่มีใครขัดใจคังอินได้'
                     ถ้าเกิดเรื่องนี้ถึงหูคังอินเมื่อไหร่ จนถึงตอนนั้นก็ไม่มีใครหยุดเขาได้ ในระหว่างความคิดที่แล่นผ่านไป มือของฮันคยองก็แน่นขึ้น ยิ้มบางๆของเขาหายไปพร้อมกัยเสียงหอบ

    .
    ...
    ......
    .................
    ..........................

                     หลังจากการซื้อของสุดยุ่ง ซองมินเข้าครัวเพื่อเตรียมอาหารเย็นทันทีส่วนคังอินเดินตามเข้าครัวมาด้วย ไม่ใช่มาเป็นลูกมือแต่จะไปป่วนภรรยาจำเป็นต่างหาก

                     "ซองมิน่า~ พี่ช่วยทำด้วยนะ"คังอินเข้าไปกอดซองมินจากด้านหลัง วางคางไว้บนไหล่อีกฝ่ายเหมือนทุกที

                     "เอาคางออกไปก่อนได้มั้ย ผมไม่สะดวก"ซองมินพูดขณะขยับมีดอย่างทุลักทุเลแต่คังอินกลับเลื่อนมือหนาวางลงที่เอว ซองมินรู้สึกถึงอกแกร่งที่สัมผัสหลังของเขา รวมถึงท่อนล่างด้วย มือบางวางมีดทำครัวก่อนจะหันกลับไปหาอีกฝ่ายอย่างรู้ทัน

                     "พี่ว่าพี่คงได้ลูกสักคนแล้วล่ะ" ปากหนาพูดจบก็ประจบกับอีกฝ่ายทันทีโดยไม่รอคำตอบ ซองมินใช้มือโอบไปเกาะหลังของอีกฝ่าย ขณะที่คังอินก็เอามือสอดเข้าไปที่ใต้หัวเข่าและยกร่างอวบขึ้นมาทำเคาเตอร์


                     แกรก... เสียงลูกบิดประตูถูกหมุนอย่างว่าง่าย

                     "คุณคังอิน....เออ ไม่นึกว่ากำลัง...กันอยู่น่ะครับ" เสียงต่างสำเนียงดังขึ้นมา

                     เสียงของฮันคยองที่แสดงความเคารพที่ต่อให้มีมากขนาดไหนแต่ในเวลาเข้าด้ายเข้าเข็มแบบนี้ ก็ไม่แปลกที่จะทำให้คังอินคิ้วชนกันได้ง่ายๆ
                    
                     "มีเรื่องสำคัญน่ะครับ...เกี่ยวกับคุณซองมิน"ฮันคยองมองไปที่ซองมินเป็นการขออนุญาติก่อนจะหันไปสบตาคังอินด้วยแววตาจริงจังและมันทำให้บรรยากาศดูจริงจังขึ้นมาแม้ขาของซองมินจะพาดอยู่บนแขนของคังอินก็ตาม

                     "นายไปรอที่ห้องนั้งเล่นนะ เดี่ยวฉันตามไป"คังอินพูดก่อนจะผละร่างออกจากคนรักอย่างอ่อนโยน

                     "ผมไปด้วยนะ" ซองมินพูด

                     "ผมเกรงว่าจะไม่ควรนะครับ" ฮันคยองก้มหัวเบาๆเป็นการขอโทษ

                     "แต่เป็นเรื่องของผมไม่ใช่หรอ"ซองมินท้วง เพราะมีชื่อของตัวเองถูกพูดขึ้นมาไม่ว่าใครก็ต้องสนใจ

                     "นายรออยู่ที่นี้แหละ เดี่ยวพี่กลับมานะครับ"คังอินยิ้มให้คนรักอย่างอ่อนโยน ซองมินก็โอนเอนตามและยิ้มหวานตอบกลับไปเป็นการตกลง

    .
    ..
    ....
    .........
    ................
    ...................
    ...

                     ฮันคยองใช้เวลาเพียงชั่วอึดใจเล่าเรื่องทั้งหมดที่ได้ยินมาและข้อมูลที่ได้ทำการตรวจค้นแล้ว เช่น ข้อมูลบุคคล สถานที่ คังอินฟังและใช้ความคิดเป็นเวลาสั้นๆก่อนที่จะทิ้งมันและสวมความโกรธแทน

                     "พรุ่งนี้ฉันจะไปจัดการมัน! ไม่สิ...ตอนนี้เลยต่างหาก!!!"คังอินพูดจบก็พุ่งใส่ประตูทันที

                     "เดี่ยวก่อน!! ถ้านายไปทั้งที่ไม่มีหลักฐานแบบนี้คิดว่าใครล่ะที่จะได้ไปนอนในคุก"ฮันคยองพูดอย่างมีสติและมันก็ทำให้คังอินปล่อยมือจากลูกบิดประตูได้อย่างดาย

                     "แฟนฉันกำลังจะโดนทำร้ายนะโว้ย!!! ถ้าซองมินเป้นอะไรขึ้นมาล่ะ!"คังอินตวาดฮันคยองเสียงดังจนเกิดความเงียบขึ้นมาปกคลุม

                     "นายคิดว่าเรื่องนี้ใช้้กำลังเหมือนที่ผ่านๆมาได้งั้นหรอ"ฮันคยองพูดกลับไปอย่างไม่เกรงกลัว

                     ร่างหนายืนนิ่งกลับมาใช้ความคิดอีกทีก่อนจะถอนหายใจเบาๆและนั้งลงบนโซฟาอย่างแรง มือหนาของเขากุมขมับทั้งสองข้างเหมือนคนที่หมดหนทาง ถึงจะไม่มีเสียงอะไรแต่คังอินกำลังเริ่มที่จะร้องไห้แน่ๆ ฮันคยองมองน้องชายคนสนิทอย่างอ่อนใจ...ทั้งๆที่ไม่ว่าฉันจะเตือนแค่ไหนนายก็ไม่เคยฟังแท้ๆ แต่พอเป็นเรื่งอของซองมินกลับห่วงขนาดนี้เลยหรอ?

                     "นายเปลี่ยนไปมากนะ"ฮันคยองพูดขณที่นั้งลงฝั่งตรงข้าม

                     "นายก็เหมือนกัน" คังอินเงยหน้าขึ้นมาตอบ ทำให้ฮันคยองนึกถึงหย้าฮีชอลขึ้นมาก่อนจะหันมาปรึกษาคังอินอย่างจริงจังโดย

                     ร่างอวบที่นั้งรออยู่ในครัวเริ่มกระสับกระส่าย มันยาวนานเกินไปสำหรับเขา ยิ่งสีหน้าที่จริงจังของชายทั้งสองกทำให้อยากรู้มากขึ้นไปอีก เขาจินตนาการไปต่างๆนาๆ อาหารบนโต๊ะเริ่มเย็นชืด เขาหยิบรองเท้าเด็กที่คังอินซื้อมาผูกให้เรียบร้อยเป็นสิ่งสุดท้ายก่อนจะย่องไปทางห้องนั้งเล่นอย่างเงียบเชียบ

    .
    ...
    .......
    ............
    .....................

                     เป็นอีกหนึ่งวันที่ลีทึกได้ดอกไม้ปริศนาและก็เป็นอีกหนึ่งวันที่เขาโยนมันทิ้งลงถังขยะอย่างเจ็บปวด ป้ายชื่อที่ระบุว่า"อึนฮยอก"เปื้อนคราบน้ำตาจนบิดเบี้ยว เขาย้ำเตือนตัวเองทุกอย่างที่เห็นดอกไม้พวกนี้ว่าไม่อยากเจ็บ...

                     "ฉันกำลังทำอะไรอยู่"เขารำพึงขณะยกมือมาปวดน้ำตา อีกมือหนึ่งขย้ำเสื้อที่บริเวณอกข้างซ้าย ถ้าเป็นไปได้เขาคงอยากทำบีบหัวใจให้แหลกเละไปแล้ว

                     "เหนื่อยเหลือเกิน..."ขาที่อ่อนแรงของลีทึกพาร่างของเขาล้มลงที่เตียงนอน น้ำตาเริ่มไหลอย่างบังคับไม่ได้และตอนนี้เขาก็ไม่มีแรงแม้แต่จะปาดน้ำตา


                     ก่อนที่เขาจะบีบน้ำตาครั้งสุดท้ายเพื่อให้มันหยุดไหล เสียงกริ้งก็ดังขึ้นที่หน้าห้อง ในใจเขาคิดว่าเป็นพวกแม่บ้านหรือพนักงานอะไรสักอย่าง แน่นอนว่าเขาไม่คิดจะลุกขึ้นไปเปิดถ้ามันไม่ได้ถูกกดถี่ขึ้นเรื่อยๆ

                     "ไม่รู้จักมารยาทรึไง"ลีทึกเดินย้ำไปที่ประตูอย่างหงุดหงิด แม้เขาจะไม่อยากลุกแต่ก็ต้องยอมเพราะไม่ว่าจะเดินไปเปิดประตูหรือฟังเสียงกริ้งมันก็น่ารำคาญพอๆกัน ก่อนที่ประตูจะถูกเปิดเขาก็ต้องหยุดชะงัก

                     "ฉันรู้นะว่านายมีแผนหรือบางทีอาจจะไม่มี แต่ถ้ามีอยู่ล่ะก็ล้มเลิกซะเถอะ"เสียงสวยพูดขึ้นผ่านช่องเล็กๆของประตูที่ถูกโซ่ดึงไว้

                     "นายเป็นใคร แล้วพูดเรื่องอะไรกัน"ลีทึกมองหน้าอีกฝ่ายอย่างสงสัย

                     "นายไม่รู้ฉันก็ไม่เป็นไร แต่จำไว้ว่าฉันคือ คิม ฮีชอล และเปิดประตูได้แล้ว จะให้ยืนอีกนานขนาดไหนกัน"ฮีชอลพูดอย่างเอาแต่ใจ เขาใช้ไม้นี้มาตลอด แน่นอนว่าเกือบทุกคนต่างก็ยอมเพราะหน้าตาและเสน่ห์เกินบรรยายของเขานั้นแหละ

                     "ถ้าฉันไม่ให้นายเข้ามามันก็ไม่ผิดกฎหมายไม่ใช่หรอ"ลีทึกพูดอย่างเย็นชาก่อนปิดประตูใส่หน้าฮีชอลเข้าอย่างจัง

                     "ถ้านายไม่อยากรู้เรื่องของ อึนฮยอก ล่ะก็นะ"ฮีชอลพูดกับประตูแต่มันก็เหมือนมีเวทมนต์เพราะกลับเปิดขึ้นมาอย่างง่ายดาย แน่นอนว่าไม่ใช่แค่แง้มระหว่างโซ่แต่เปิดกว้างให้หนุ่มหน้าสวยในชุดตำรวจเดินเข้าไป พร้อมกับคนที่อยู่ด้านในที่มองอย่างใจจดใจจ่อ

    .
    ...
    .......
    ...........
    ...................

                     "ลี ทงเฮ" เสียงเรียบพูดอย่างยะเยือกทำให้ร่างเล็กสะดุ้งเบาๆ

                     "คิบอม?" ทงเฮหันไปมองอีกฝ่ายอย่างแปลกใจ เขาไม่เคยได้ยินเจ้าชายน้ำแข็งคนนี้พูดชื่อเขาสักครั้ง

                     "คืนหนังสือตามเวลาด้วยสิ แล้วก็...เล่มนี้สนุกนะ"คิบอมพูดขณะยื่นหนังสือเล่มหนึ่งให้ทงเฮ

                     "เรื่องนี้เกี่ยวกับสาวที่ตามหารักจนไม่สนเรื่องอื่นยกเว้นความรักอย่างเดียว ฉันว่ามันเหมือนกับนายนะ"

                     "งั้นหรอ นายคิดว่าอย่างนั้นหรอ" ทงเฮถามกลับไปอย่างใสซื่อ แม้จะรู้สึกเจ็บนิดๆที่อกข้างซ้ายด้วยถ้อยคำเสียดสีที่ไม่ได้ตั้งใจของคิบอมก้ตาม

                     "ใช่ แล้วก็รู้ว่านายอ่านหนังสือทุกเล่มที่ฉันอ่านด้วย ฉันว่านายคงชอบเล่มนี้เหมือนกัน"คิบอมตอบเสียงเรียบก่อนจะเดินกลับไปนั้งที่ประจำ ในหอสมุดกลางเขารู้จักรายละเอียดของหนังสือทุกเล่ม

                     "แค่นี้เองงั้นหรอ"เสียงบ่นในลำคอของทงเฮถามขึ้นอย่างไม่ต้องการคำตอบ เขารู้สึกระยะห่างของเขากับคิบอมสั้นลงนิดนึง แม้จะนิดเดียวเขาก็รู้สึกยินดี


    ---------------------------------------------------------

    ต้อนรับเดือนใหม่กับตอนใหม่ ขอโทษผู้อ่านทุกคนที่อัพช้านะคะ

    ไม่ว่ายังไงก็ยังแต่งอยู่แน่นอนคะ

    แล้วก็ฝากเว็ป
    www.kangminkyu.com ด้วยนะคะ

    สำหรับคนที่ชอบคังมินและคังโจ แน่นอนว่าไม่มี คยูมิน ขอโทษสำหรับแฟนคลับส่วนนั้นด้วย


    ในเว็ปบอร์ดมีทั้งรูปและบทความเกี่ยวกับคังมินมากมาย ยังไงก็เข้าไปดูได้นะ ♥

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×