คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #30 : S Fic : DN Angel For Friend
ไปอุดหนุนนิยายของท่านผู้นี้ได้ที่
NIWA
สีขาวและสีดำ??
ความมืดและความสว่าง
ต่างเป็นสิ่งที่ตรงข้ามกันเสมอ
แต่หากเกิดความสว่างขึ้นก็จำต้องเกิดความมืดขึ้นเช่นกัน
แม้เป็นสิ่งที่แตกต่างแต่ก็คงอยู่ด้วยกันเรื่อยมา เพราะเป็นเช่นนั้นฉันและนายจึงได้เจอกัน
เพราะนายและฉันนั้น ก็คือ แสงสว่างและความมืด ที่ไม่อาจเข้ากันได้ตลอดกาล
ผมคือฮิวาตาริ ซาโตชิ ผู้สืบทอดของตระกูลฮิคาริ เปรียบเหมือนแสงสว่างสีขาวที่คอยตามจับจอมโจรแห่งความืดในตำนาน “ดาร์ก” หรือในตอนนี้ก็คือนิวะ ไดสุเกะตระกูลที่ได้รับการสืบทอดDNA ที่จะทำให้แปลงเป็นดาร์กจากรุ่นสู่รุ่นเหมือนกับตระกูลฮิคาริของผม การต่อสู้ของแสงสว่างและความมืดที่ดำเนินมาอย่างยาวนาน ผมยังคงต้องตามจับเงาสีดำนั้นต่อไปซึ่งอาจจะไม่มีวันเอื้อมถึงซักนิดเดียว จอมโจรที่เป็นอิสระจากทุกสิ่ง และแม้ในโลกความเป็นจริงผมก็ยังไม่สามารถเอื้อมถึงแม้แต่นิวะ ไดสุเกะ เด็กชายห้องเดียวกันที่แสนอ่อนโยนและมีรอยยิ้มอันอบอุ่น เด็กหนุ่มที่สร้างสรรค์ผลงานซึ่งต่างจากคนในตระกูลนิวะ ที่มักจะเป็นฝ่ายขโมยมากกว่า
วันนี้เขายังคงนั่งวาดรูปอยู่ในที่แห่งเดิม พร้อมกับรอยยิ้มและแววตาที่เปี่ยมสุข...รอยยิ้มที่ไม่สมควรมอบให้คนอย่างผม
นิวะ ไดสุเกะ กำลังวาดรูปอยู่ในห้องศิลปะด้วยอารมณ์หงุดหงิด...
“ไอ้บ้าดาร์ก พอไม่ให้ออกมาหน่อยเดียวก็กวนส่งเสียงหนวกหูทั้งคืนเลย โว้ยยไอ้เจ้าบ้า” ตะโกนด้วยความหงุดหงิดแล้วก็ละเลงพู่กันออกมาเป็นภาพที่ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนมันก็คือการละเลงสีที่เด็กอนุบาลนิยมทำกัน ยิ่งเห็นภาพก็ยิ่งรับไม่ได้ไดสุเกะกดพู่กันลงกับกระดานพยายามจะสงบสติอารมณ์แต่อารมณ์ก็พลันระเบิดขึ้นมาใหม่หลังจากได้ยินเสียงจาก ‘ไอ้เจ้าบ้า’ ล้อเลียนเจ้าตัวก็เผลอปาพู่กันใส่ภาพที่วาดทำให้พู่กันกระเด็นเข้าหน้าตนเองอย่างจัง
“โอ้ยยยยย เจ็บๆ” ไดสุเกะลูบหัวตัวเองหงุดหงิดในใจ จะตะโกนด่าดาร์กก็ไม่ทันแล้ว เขาเข้าไปหลบอยู่ภายในจิตใจ แถมดูเหมือนจะหลับไปแล้วไดสุเกะได้แต่บ่นกับตัวเองเบาๆพลางลูบหัวอย่างจนปัญญา บริเวณสวนข้างๆห้องศิลปะฮิวาตาริซึ่งแอบมองอยู่ตลอดเวลานั้นก็แอบอมยิ้มโดยไม่รู้ตัว เขาตัดสินใจกระโดดเข้าหน้าต่างห้องศิลปะเพื่อไปหา เพื่อน ของเขานิวะ ไดสุเกะ
“ไง” เสียงขรึมของฮิวาตาริ ทำให้ไดสุเกะสะดุ้งจากภาพที่วาดอยู่กำลังคิดจะถามว่าเขาเข้ามายังได้ยังไง แต่พอเห็นหน้าต่างที่เปิดไว้ก็เลยพับความคิดที่จะถามนั้นเก็บไป
“คุณฮิวาตาริ มีธุระอะไรกับผมหรือป่าวครับ” ถามด้วยรอยยิ้มที่คิดว่าดูเป็นมิตรที่สุด
ฮิวาตาริไม่ตอบอะไรเขาเดินเข้ามาหาไดสุเกะ หยิบพาสเตอร์ที่ไม่รู้เอามาจากไหนโน้มตัวลงให้หน้าของตนอยู่ระดับเดียวกับหน้าของไดสุเกะ ตั้งใจจะติดลงบนหน้าผากของนิวะที่โดนพู่กันกระแทกใส่ขณะกำลังบรรจงจะแปะพาสเตอร์นั้น นิวะก็เบี่ยงตัวหลบโดยสัญชาติญาณทำให้ฮิวาตาริชะงักไป เขายืนตัวตรงขึ้นอีกครั้งและยื่นพาสเตอร์ให้กับไดสุเกะแทน ไดสุเกะทำอะไรไม่ถูกรู้สึกผิดที่ทำลายความหวังดีของฮิวาตาริ ได้แต่แอบชำเลืองมองดูอาการของฮิวาตาริส่วนมือก็รับหน้าที่แปะพาสเตอร์ ทางฮิวาตาริก็ไม่ได้พูดอะไรออกมายังคงยืนนิ่งๆจ้องมองไดสุเกะติดพาสเตอร์เป็นบรรยากาศที่สร้างความกดดันให้ไดสุเกะยิ่งขึ้น มือของเขาเริ่มสั่นและหน้าก็เริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ หลังจากถูกจ้องเป็นเวลานาน ฮิวาตาริยังคงสงสัยว่าคนตัวเล็กตรงหน้าเป็นอะไรไปถึงนิ่งไป
‘อ๊า คุณฮิวาตาริจ้องตลอดเลยน่ากลัวจัง’
‘แต่ว่าตกใจหมดเลยที่อยู่ๆ เขาก็จะติดพาสเตอร์ให้เราแบบนี้ เมื้อกี้เสียมารยาทไปหน่อย’
‘กะอิแค่ติดพาสเตอร์แล้วทำไมใจเรามันต้อง....เต้นไม่หยุดด้วยเนี่ย!!! ’
ตึก.....ตึก.....ตึก....
ฮิวาตาริสังเกตเห็นว่าหน้าของไดสุเกะเริ่มแดงเขากำลังจะเอามือไปจับหน้าผากเผื่อว่าไดสุเกะจะเป็นไข้ แต่ก็คิดได้ว่าไดสุเกะคงจะหลบอีกจังไม่ทำเช่นนั้น แต่มือของเขาก็ค้างอยู่กลางอากาศแล้ว ไดสุเกะพอจะรู้ว่าฮิวาตาริต้องการจะทำอะไรและเขาต้องการไถ่โทษที่เมื่อกี้เสียมารยาทไป ไดสุเกะเดินเข้าไปใกล้ฮิวาตาริ เขาเอาหน้าผากชนเค้ากับมือของฮิวาตาริอย่างแรง ทำให้แผลเก่าที่ยังไม่หายระบมขึ้นอีกรอบน้ำตาซึมหน่อยร้องโอดครวญไปตามระเบียบ
“ทำอะไรของนายเนี่ย..” ฮิวาตาริตกใจ ลูบหน้าผากไดสุเกะเบาๆ มองอย่างเป็นห่วง
“ไม่สบายตรงไหนรึป่าว” แววตาของฮิวาตาริเต็มไปด้วยความเป็นห่วง เจือความเอ็นดูเล็กน้อย
ไดสุเกะหน้าแดงจัดก้มหน้างุดไม่กล้าสบตา ตอบเสียงตะกุกตะกัก
“มะ..มะ ไม่เป็นไรครับ” พยายามปฏิเสธอย่างยากเต็มทน
“แต่หน้านายแดงมากนะ” ฮิวาตาริเชยคางของไดสุเกะจ้องหน้าอย่างละเอียด
‘น่ารักแหะ อ๊ะไม่ใช่เวลาคิดเรื่องนี้นี่นา’
หลังจากเห็นไดสุกัพยายามจะเบี่ยงหน้าหนี ฮิวาตาริจึงยิ่งแกล้งขึ้นไปอีกขยับหน้าเข้าไปใกล้ๆ
ตึก.....ตึก...ตึก..ตึก..
“อ๊า ไม่เป็นไรจริงๆครับ คุณฮิวาตาริ”
‘เขิลอ่ะ รู้จักม๊ายยยยย>//////<’
ได้สุเกะพยายามจะปัดมือฮิวาตาริออกและหนีออกห่างๆ แต่ก็สู้แรงคนตรงหน้าไม่ได้เลย ตอนนี้อุณหภูมิในตัวเขาสูงมากจริงๆ ฮิวาตาริสนุกกับภาพที่นานๆจะได้เห็นเขายื่นหน้าเข้าไปใกล้กว่าเดิมระยะห่างระหว่างทั้งสองห่างกันไม่ถึงเซน ไดสุเกะหน้าแดงจัดหัวใจก็เต้นรัว จนกลัวว่าคนตรงหน้าจะได้ยิน หลับตาปี๋ ฮิวาตาริยิ้ม เขาแกล้งเจ้าตัวเป็นครั้งสุดท้าย
ฟู่~ เป่าลมใส่เบาๆอย่างนึกสนุกแต่คนตรงหน้ากลับ...
“อ๋อยย..ไม่ไหวแล้ว” ไดสุเกะซึ่งอุณหูภูมิสูงจัดพร้อมกับหัวใจที่เต้นเร็วเกินปกติ ได้แต่เป็นลมอย่างทำอะไรไม่ถูก ในอ้อมกอดของฮิวาตาริที่รับคนร่างบางตรงหน้าเอาไว้
“อ่ารู้สึกจะแกล้งแรงไป”
....................
......
“ขอบคุณฮิวาตาริคุงมากนะจ๊ะที่พาไดสุเกะมาส่งบ้าน” คุณนายนิวะตอบอย่างเกรงอกเกรงใจ
“ทานข้าวเย็นด้วยกันก่อนสิ” คุณปู่ของไดสุเกะชวน
“ค้างที่นี่คืนนี้เลยก็ได้” พ่อของไดสุเกะพูดต่อ
‘พวกคุณไม่กลัวผมที่เป็นตระกูลฮิคาริแล้วเหรอ.. ??’ ฮิวาตาริสงสัยการกระทำของบ้านนี้จริงๆแต่เขาก็เป็นห่วงไดสุเกะเลยขอค้างที่นี่ซักคืน
ไดสุเกะตื่นมาความรู้สึกงัวเงีย ในหัวก็มึนๆ แล้วเขาก็สะดุ้งเพราะเสียงของฮิวาตาริอีกครั้งเป็นรอบที่สองของวันนี้แล้ว
“เป็นไงอาการดีขึ้นหรือยัง” ฮิวาตาริถามพร้อมกับเอาน้ำชาที่คุณนายนิวะฝากให้เขาเอามาให้ไดสุเกะ
ไดสุเกะรับมาดื่มอย่างงงๆ พอเห็นรอยยิ้มของฮิวาตาริที่วันนี้ชักจะมากผิดปกติดก็ทำเอาเขาหน้าแดงอีกรอบ แล้วก็พลันนึกถึงเรื่องก่อนหน้านี้ได้
‘อ๊ากกกกกกกก คุณฮิวาตาริหน้าห่างกับเราแค่หน่อยเดียว...เกือบไปแล้ว’
‘ดาร์กๆ ได้ยินไม๊’
‘เห้อ.....ดีนะ ที่หมอนั่นหลับอยู่ไม่งั้นโดนล้อตายเลย’
ตึก....ตึก...ตึก...
‘ไอ้หัวใจนี่ก็เหมือนกันมันจะเต้นอะไรนักหนาเนี่ย’
“หือ.. เป็นอะไรวันนี้หน้านายเปลี่ยนสีตลอดเวลาเลยนะ” ฮิวาตาริถามอมยิ้ม
“คุณฮิวาตารินั่นแหละ วันนี้ทำอะไรแปลกๆ” ไดสุเกะเถียงกลับ
“ก็แค่ช่วยติดพาสเตอร์ ดูแลอาการป่วย”
“แต่ปกติคุณฮิวาตาริน่ะ...”
“ฉันก็แค่เป็นห่วงนาย เห็นวันนี้ดูนายแปลกๆ”
ตึก...ตึก....
เป็นห่วง!! คุณฮิวาตาริเป็นห่วงเราด้วย
ทำไมเราถึงดีใจขนาดนี้นะ
ฮิวาตาริลูกหัวไดสุเกะอย่างอ่อนโยน “ เพื่อน เค้าก็ทำกันแบบนี้ไม่ใช่เหรอ”
ไดสุเกะซึ่งกำลังยิ้มอย่างอารมณ์ดีพลันก้มหน้าลง เจ็บ นั่นสินะ เพื่อน กันนี่นาแต่ทำไมคำนี้มันถึงได้เจ็บนักนะ ไม่ได้เราจะต้องเข้มแข็ง ไดสุเกะเงยหน้าขึ้นยิ้มให้กับฮิวาตาริ ฮิวาตาริก็ยิ้มตอบ
“งั้นฉันกลับก่อนนะ”
..........................
....................
“ขอโทษนะไดสุเกะ แต่ฉันกับนายแค่เป็น เพื่อน กันก็ดีที่สุดแล้ว” คำพูดที่ไม่สามารถบอกต่อหน้าคนที่เขารักได้ คนที่ส่งเสียงร้องไห้เบาๆเล็ดลอดออกมาจากในห้องที่เขาอยากจะเข้าไปปลอบแต่ถ้าทำมันคงเกินหน้าที่ของเพื่อน..
“ดาร์ก ที่นายห้ามฉันไม่ให้ยุ่งกับคุณฮิวาตาริเพราะแบบนี้สินะ เพราะสุดท้ายมันจะเจ็บใช่ไม๊?? ฮึกๆ” เขาได้แต่นอนกอดเข่าร้องไห้คนเดียว เจ็บที่หัวใจอยากจะกอดคนๆนั้น อยากให้เขาปลอบแต่มันคงเป็นไปไม่ได้ คุณฮิวาตาริ เพื่อน ของผม
...............................
........................
............
วันใหม่มาถึงอีกครั้งพร้อมกับความมืดและแสงสว่างที่คงอยู่คู่กันตลอดไป.
“อรุณสวัสดิ์ครับคุณฮิวาตาริ”
“อรุณสวัสดิ์” เพื่อน ที่รัก ของผม นิวะ ไดสุเกะ
END.
ความคิดเห็น