คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #45 : S Fic : Naruto Shippuden [ บันทึกรักร้าย ฉบับนายซาสึเกะ ] [ SasuNaru ]
S Fic : Naruto Shippuden [ บันทึกรักร้าย ฉบับนายอุจิฮะ ซาสึเกะ ]
Pairing
: Uchiha Sasuke X Uzimaki Naruto + all naru
Sai X Naruto เต็มๆ
Rate : R-18?? มั้งนะ อย่ากดรีพอร์ตนะ นี่ตัดฉากแรงออกละ ฉันคร้านจะปลดแบนนะพี่น้อง
ความรู้สึกจริงๆของซีรีย์นารุโตะนี่คือ ถ้าเกิด ผช แต่งงานกันเป็นปกติได้
ตอนจบอีเกะกับโตะนี่ คู่แรกเลยที่จ้าที่จะแต่งกัน
มันคือพระเอกนางเอกที่แท้จริงของเรื่อง5555
"หืม ทำภารกิจที่ท่านโอโรจิมารุมอบให้พลาดแบบนี้ ดูไม่ใช่เธอเลยนะ ซาสึเกะคุง" ชายหนุ่มผมสีอ่อนกล่าวก่อนนิ้วเรียวยาวจะขยับจัดกรอบแว่น ก่อนจะเหลือบตามองเด็กหนุ่มตระกูลอุจิฮะตรงหน้า
"ซาสึเกะคุง มีเรื่องอะไรดีๆเกิดขึ้นงั้นเหรอ?"
"....."
ไม่มีเสียงตอบรับมาจากคู่กรณี หากแต่ริมฝีปากเรียวยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย เพียงแค่เสี้ยววินาทีเดียว ต่อให้มีให้เห็นแค่แว็บเดียว ก็ไม่อาจหลุดรอดสายตาคมสีเหลืองทองประดุจงูนักล่าไปได้
"ฉันก็แค่มีความรู้สึกว่าเธอเจออะไรดีๆมาก็เท่านั้นแหละ" ชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนเตียงหยิบ คัมภีร์ที่เด็กหนุ่มตรงหน้าเอามาให้แทนพาตัวคนที่ตนต้องการมาแทน
ชายหนุ่มเรือนสีดำขลับมองคัมภีร์ในมือ ก่อนจะมองไปที่เด็กหนุ่มศิษย์ของตนตรงหน้าที่กำลังจะเดินออกไปจากห้องของตน
....กลิ่นอายจางๆของจิ้งจอกน้อย.... สิ่งมีชีวิตที่ซุกซน จอมโวยวาย ไม่เข้าใจตัวเอง ผ่านโลกมาขนาดนี้แล้ว เขาควรที่จะเป็นปีศาจไร้หัวใจ แต่เขากลับคิดว่า ท่าทางเปิ่นๆ เสียงเจื้อยแจ้วที่ตะโกนใส่ศัตรูไม่เลือกหน้า ท่าทางที่ออกจะดูซื่อบื้อนั่น ....น่ารัก....
เพียงแค่เสี้ยววิก่อนที่เด็กหนุ่มตระกูลอุจิฮะจะได้ ผลักประตูออกไป งูร้ายในคราบชายหนุ่มรูปงามยกยิ้มร้ายขึ้น
"จิ้งจอก" มือแกร่งที่กำลังจะผลักประตูออกไปหยุดชะงัก
"เราหามาเลี้ยงไว้ก็ดีเหมือนกันนะ ใช่ไหม? คาบูโตะ" ชายหนุ่มที่นอนอยู่บนเตียงว่าขึ้น ก่อนจะหันไปหาลูกน้องคนสนิทของตน คนที่ถูกถามเลิกคิ้วขึ้น มองหน้านายของตน ตีความหมายที่แฝงมาในประโยคนั้นก่อนจะหันหน้าไปมองร่างแกร่งที่อยู่ในยูกาตะสีขาวตัวโปร่ง กางเกงสีน้ำเงินที่หยุดชะงักอยู่กับที่
เพียงแต่เขาไม่ได้ตอบอะไรนายเหนือหัวตน มีเพียงแค่รอยยิ้มเล็กๆ ผุดขึ้น เขาอยากจะขำเด็กน้อยตระกูลอุจิฮะ ...โดนพูดยั่วยุง่ายๆ เป็นเด็กๆไปได้...
"ไร้สาระน่ะ"
ปึ้ง!!
สิ้นเสียงเย็นๆเป็นเอกลักษณ์ของเด็กหนุ่มเรือนผมดำ เสียงประตูหินสีเข้มปิดลงพร้อมกับร่างแกร่งที่เดินออกไปโดยไม่ได้แม้แต่หันมามองคนที่อยู่บนเตียงด้านหลังเลยแม้แต่น้อย
"แต่ว่า ฉันอยากได้จริงๆนะ จิ้งจอกน้อยสักตัว... คงจะทำให้ที่เย็นชืด น่าเบื่ออย่างที่นี่ สดใสมีชีวิตชีวาขึ้นมาน่าดูเลยล่ะ"
โอโรจิมารุยังคงไม่หยุดเพ้อเจ้อ ถึงจิ้งจอกน้อยในจินตนาการ ภาพในหัวเต็มไปด้วยรอยยิ้มทะเล้นๆ ของเด็กหนุ่มเรือนผมสีทองสดใส ด้วยที่เขาเป็นคนรักษาผมมากเท่าชีวิต(?) มองกี่ทีเขามั่นใจว่าเส้นไหมสีทองสวยนั่นต้องนุ่มมือน่าลูบไล้เป็นที่สุด ยิ่งร่างเล็กๆนั่น เสียงหวานๆนั่น ถ้าได้มานอนอยู่ใต้ร่างของเขา มือเล็กๆโอบรอบคอเขา ปากนุ่มๆนั่น..
"คึหึหึหึ" เสียงหัวเราะสยองดังขึ้นเรียกให้คนสนิทมองเจ้านาย รอยยิ้มที่ควรจะเป็นธรรมชาติออกมาจากใจอย่างอ่อนโยน ปรากฎขึ้นบนปากเรียวระหว่างงูร้ายกำลังมโนภาพของจิ้งจอกในจินตนาการ(?)
ถ้าใครมาเห็นเข้าคงเป็นลมแน่นอน ชายหนุ่มได้เพียงแต่คิดว่า คนๆนี้ยิ้มได้สยองน่าขนลุกเสียสิ้นดี
"อะแฮ่ม" เสียงไอเบาๆเรียกสติคนตรงหน้าที่ทำหน้าโรคจิต พร้อมรอยยิ้มสยองให้กลับมา
...ท่านโอโรจิมารุ เก็บอาการหน่อยครับ กำลังคิดเรื่องลามกอยู่สิท่า...
"นารุโตะคุงสินะครับ" พูดตรงประเด็น ก่อนชายหนุ่มนินจาแพทย์จะยิ้มแห้งๆมองคนที่สมควรจะเป็นปีศาจในคราบงูร้ายสะดุ้งงตื่นจากจินตนาการ
"จะให้พามามันก็ได้แหละครับ แต่คราก่อนท่านเป็นคนไปเอาตัวเขาเอง ท่านก็น่าจะรู้นี่ครับ ว่ามันคงไม่ง่ายเท่าไหร่" ชายหนุ่มขยับแว่น มองคนตรงหน้า คิดไปถึงคราวที่บุกโคโนฮะไป หมายจะจับตัวเจ้าเด็กจิ้งจอก หากแต่กลับโดนไล่ตะเพิดมาโดยโฮคาเงะรุ่นที่3
หากแต่พวกเขาได้ตัวซาสึเกะมาแทนหลังจากนั้นไม่นาน ต่อให้เจ้าตัวมาด้วยความเต็มใจก็เถอะ
"เฮ้อ นั่นสินะ..." ชายหนุ่มท้าวคาง นัยน์ตาคมสีทองไล่ตามองคัมภีร์ตรงหน้า
...ถ้าเขาหน้าเด็กกว่านี้ คงจะดีไม่น้อย จะได้แมทช์กับวัยของเด็กหนุ่มสมัยนี้ได้...
หน้าแบบนั้นไม่ต้องอ่านใจได้ก็รู้ว่าคิดอะไรอยู่ ...ผมว่าท่านห่วงเรื่องรักษาสภาพร่างนี้ กับย้ายร่างก่อนเถอะครับ... อยากจะกุมขมับ นี่เขานับถือ
งูโรคจิต เป็นอาจารย์อยู่หรือนี่..?
ตัดภาพมาที่เด็กหนุ่มตระกูลอุจิฮะที่เมื่อสักครู่ ออกมาจากฐานลับของโอโรจิมารุ (?) กลับมาที่น้ำตกที่ตนใช้ฝึกวิชามาได้ร่วมเดือน
นึกๆถึงเจ้างูโรคจิตเมื่อกี้ก็หงุดหงิดจนเขาต้องระบายกับการฝึกวิชาอยู่อย่างนี
'เป็นแค่งู อย่าหวังจะได้แอ้มของของเขาหน่อยเลย'
ใบหน้าหล่อคม รวบรวมจักระไว้ที่เท้าทั้งสองข้าง ยืนท่ามกลางสายน้ำที่เย็นฉ่ำ เสียงซู่ซ่าของน้ำตกขนาดไม่ใหญ่มากด้านหลังไม่ได้ทำให้เสียงในหัวเขาดังชัดน้อยลงแต่อย่างใด
วันนี้เขาได้พบเจ้าจิ้งจอกน้อยของเขา มือเล็กๆนั่นจับต้องตัวเขาอย่างสนิทสนมราวกับเรื่องบาดหมางถึงชีวิตก่อนหน้านี้ไม่เคยมีอยู่ เสียงหวานยังพูดมาก โหวกเหวกโวยวายเหมือนเดิม
รอยยิ้มเล็กผุดขึ้นที่มุมปากใบหน้าหล่อคมที่ปกติจะเย็นชาไร้ความรู้สึก
ชายหนุ่มที่กำลังรวบรวมสมาธิกับจักระตรงหน้า ในสมองได้แต่คิดถึงใบหน้าหวานที่เขาคนนี้คิดถึงเหลือเกิน
"3ปีแล้วสินะ" พึมพำกับตัวเอง ผ่านไปไม่กี่ปีที่ไม่ได้เจอ เจ้าจิ้งจอกน้อยน่ารักของเขาโตขึ้นเป็นหนุ่มหน้าหวานรูปงาม เรือนผมสีทองนุ่มลื่นมือในความทรงจำที่เขาเคยเป็นเจ้าของ [...และยังคงเป็นอยู่...]
"ไม่เจอกันแปปเดียว ทำไมถึงมีสาวมีหนุ่มคนนั้นคนนี้เข้ามาไม่หยุดหย่อนเลยนะ"
คิ้วเรียวกระตุกพลางนึกถึงภาพที่ให้ลูกน้องโอโรจิมารุไปสืบมา ตอนแรกเขาไม่คิดว่าใครจะมาหลงรักเจ้าจิ้งจอกซื่อบื้อของเขาหรอกเพราะมันต้องใช้เวลาสักพักสำหรับคนนอก ก่อนที่จะเห็นเสน่ห์ที่น่าดึงดูดของคนตัวเล็กตาสีฟ้าสดใสนั่น
วันนี้ก็เหมือนกัน นึกคิดภาพเจ้าเด็กผู้หญิงนิสัยแมนๆ จอแจกับคนของเขาขณะอยู่บนปราสาทลอยฟ้านั่น จนเขาต้องจับโยนขึ้นเรือบินไป นั่น 'เกะกะ น่ารำคาญ'
เขากำจัดอุปสรรคไปละ หากแต่ก่อนเขาจะได้ทำอะไร
"Thank
you, ซาสึเกะ"
ใบหน้าหวานที่มีรอยเอกลักษณ์คลี่รอยยิ้มบางๆ กับดวงเนตรสีฟ้าที่สะท้อนสื่อความหมายที่มีให้เขาคนเดียวมองมาที่เขา..
'ใช่แล้ว นารูโตะ...
มองมาที่ฉันแบบนั้นแหละ ดีแล้ว'
'ต่อจากนี้นายจะต้องมองหาแค่ฉัน คิดถึงแค่ฉัน'
'มองมาที่ฉัน คิดถึงฉัน จนนายไม่สามารถคิดถึงใครได้อีก'
"Rasengan!!"
เสียงอันคุ้นเคยดังขึ้น
bomb!!
แท่นหินที่เชื่อมตัวเขาให้ติดกับปราการลอยฟ้านั่นหลุดออก ตอนนั้นเขาทำได้เพียงแต่มองตามปากของคนตรงหน้า ...อีกแล้วสินะ...
"ซาสึเกะ ฉันจะพานายกลับมาที่หมู่บ้านให้ได้อย่างแน่นอน"
ไม่รู้เจ้าเบ๊อะเชอะนั่นจะรู้ตัวไหม เขาหลุดยิ้มออกมาเสียขนาดนั้น ก่อนเขาจะบินลงไปเพื่อจะกลับฐานลับ หากแต่เขากลับยืนมองปราการที่ค่อยๆแหลกสลายกลางฟ้านั่นด้วยฝีมือของร่างบาง
มองตามภาพของเด็กหนุ่มที่ร่วงหล่นลงมา พร้อมกับมีสาวผมน้ำตาลกระโดดตามมาโอบกอด ตกลงมาด้วยกัน ถ้าเขาไม่ได้สังเกตว่ามีกบหน้าตาประหลาดรอรับสองคนนั้น เขาจะไม่รีรอที่จะกระโดดไปรับร่างบางนั้นเลยแม้แต่น้อย
...พอเขารู้ว่าคนของเขาปลอดภัยก็ไม่มีเรื่องอะไรที่จะทำให้เขาอยู่ตรงนั้นนานกว่านี้...
จักกระที่สำสมกัน รวบรวมไปที่มือซ้าย เสียงนกดังลั่นกระฉ่อน
"chidori!!"
ก่อนสายฟ้าจะฟาดกระจายไปทั่วผิวน้ำนั้น
"มากกว่านี้
นารูโตะ
นายต้องยึดติดฉันมากกว่านี้"
"นายจะต้องมองมาที่ฉัน คิดถึงเพียงแต่ฉันคนนี้"
"จนนายไม่สามารถคิดถึงใครอื่นได้อีก"
"ใช่ไหม หืม นารูโตะ?" เนตรสีนิลสะท้อนสีฟ้าสวยของท้องฟ้า
สีที่เหมือนกับดวงตาของใครคน เขารักเสียเหลือเกิน
ย้อนไปที่หลายเดือนก่อนหน้านี้.....
ภาพถ่ายหลายๆภาพของร่างบางเจ้าของเรือนผมสีทองสว่าง
เด็กหนุ่มผิวสีแทน ที่มักจะเต็มไปด้วยรอยยิ้มสดใส
ที่คาดหน้าผากแสดงให้เห็นได้ชัดว่าเป็นนินจาหมู่บ้านโคโนฮะ รอยเอกลักษณ์
บนใบหน้าหวาน รูปภาพต่างๆมากมายที่ได้มาเยอะกว่าที่เขาคิดไว้ ส่วนใหญ่ก็จะแนบมากับรายงานของทุกแคว้น
และส่วนใหญ่มันก็จะมีนารูโตะเกี่ยวข้องด้วยเสมอ
ตอนแรกซาสึเกะไม่ใช่คนที่จะใส่ใจกับเรื่องพวกนี้
โดยเฉพาะเรื่องไร้สาระแบบนี้ แต่ไปๆมาๆ ตั้งแต่เขาพบร่างบางครั้งก่อน
เขาก็เริ่มมีลางห์สังหรณ์บางอย่าง...
เจ้าเด็กขี้โวยวายตัวเล็ก
ซื่อบื้อ เสียงดัง ตอนนี้กลับโตเป็นหนุ่มหล่อหน้าใส ต่อให้ตัวเล็กกว่าเขาอยู่ดีก็ตาม
ใบหน้าหวานเติบโตขึ้น นัยน์ตาสีฟ้าที่มีเสน่ห์นั่น
พักนี้เริ่มมีคนเข้าหาเจ้าจิ้งจอกน้อยของเขา(?)
พวกผู้หญิงไม่เท่าไหร่หรอก เพราะหมอนี่มันซื่อบื้อ แต่เจ้าบื้อนี่ชอบทำภารกิจยากๆ พอทำภารกิจยากๆ พวกเพื่อนร่วมทีมที่เป็นผู้ชายมากหน้าหลายตาน่ะไว้ใจไม่ได้
ยิ่งอยู่กันตามลลำพังในป่าในเขา นอกหมู่บ้านในพื้นที่ลับแล ไม่มีใครมองเห็น(???) มีแค่ซากุระคนเดียวที่หลงเขาหัวปักหัวปำนั่นแหละที่เขาไม่ห่วง... แม้แต่อดีตครูประจำหน่วย7ของเขาอย่างคาคาชิ ก็ไว้ใจไม่ได้ เขามั่นใจตั้งแต่ก่อนจะออกมาจากหมู่บ้านแล้ว
"หึ จะว่าไป ที่เขาว่าคนที่คิดเหมือนกันมักจะมองกันและกันออกสินะ"
เขาไม่สงสัยเลยว่าทำไมเขาถึงแค่มองผ่านๆก็รู้ว่าใครคิดยังไงกับร่างบาง
พอคิดไปถึงพวกเพื่อนๆที่สมัยก่อนไม่เห็นจะมาสนใจใยดีร่างเล็กนั่นเลย มีแต่ดูถูกดูแคลน เขาคงคำนวณพลาดไป ตอนนี้เจ้าพวกนั้นถึงได้จ้องจะขโมยเจ้าจิ้งจอกของเขา
ชีวิตประจำวันของอุจิฮะ
ซาสึเกะ ช่วงสามปีที่ผ่านมา นอกจากฝึกวิชา เรียนรู้วิชาแพทย์ วิชาปรุงยา และอื่นๆอีกมากมายระหว่างอยู่ในฐานลับของโอโรจิมารุนั้น ‘อุจิฮะ ซาสึเกะ’ ผู้นี้กลับมีงานอดิเรกอีกอย่างหนึ่งที่เขาอาจจะทำโดยไม่รู้ตัวก็เป็นได้ นั่นคือการส่อง การสืบ การเผือกเรื่องของ ...อุสึมากิ นารูโตะ...
ทุกอาทิตย์สุดท้ายอาทิตย์ ของเดือน เขาผู้ไร้งาน ไร้สังกัด ไร้ญาติ มักจะทำเรื่องไร้สาระ อย่างการสรุปจำนวนคนที่อยากกำจัดระหว่างทาง ก่อนจะกำจัดพี่ชายของตน
เอ๊ะ....เอาจริงๆ พี่เขาก็ไม่ใช่เล่นๆเลยนะ ก่อนมือเรียวจะเขียนชื่อลงบน
[บันทึกศัตรูหัวใจ : บุคคลอันตรายที่ควรกำจัด]
1.อุจิฮะ อิทาจิ เป็นชื่อแรกไม่ต้องสงสัย
ตอนพวกอาคัตสึกิที่ตอนนี้รวบรวมสัตว์หางอยู่ เขาไม่ได้สนใจอะไร หากยังไม่ตัวจิ้งจอกน้อยของเขา เขาดูไว้แล้ว ว่ามันเริ่มเก็บเจ้าพวกที่หางน้อยก่อน
คาเสะคาเงะคนปัจจุบันของซึนะงาคุเระ ดินแดนแห่งวายุ ซาบาคุโนะ กาอาระ เจ้าเด็กแพนด้า คิ้วโล้น ผมแดง หลังจากนารุโตะช่วยไว้ โดยการแบ่งจักระให้ฟื้นคืนชีวิต มันก็เริ่มมีบรรยากาศแปลกๆก่อตัวขึ้นระหว่างสองคนนี้ เขาไม่ได้เห็นเองหรอก เพียงแค่รู้สึก เอาอีกแล้ว
สองคนนี้ตั้งแต่ที่เจ้าสองคนนี้สู้กันครั้งก่อนแล้วเขารู้ตัวว่าตนเองไม่มีพลัง... นั่นคือจุดเริ่มต้น เป็นการต่อสู้ที่ทำให้เขารู้สึกว่าเขาต้องแข็งแกร่งขึ้นกว่านี้
2. ซาบาคุโนะ กาอาระ
นัยน์ตาดำขลับไล่มองรายงานกับรูปตรงหน้าเรื่อยๆ ก่อนจะสะดุดเข้ากับ เรือนผมสีเงิน ใบหน้าคมในหน้ากากที่เขาพยายามจะเปิดโปงหลายรอบหากแต่ล้มเหลว มือเรียวเขียนชื่ออย่างไม่ลังเล ทั้งๆที่ในรายงานไม่ได้เกี่ยวกับคนตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย เขาก็แค่อยากเขียนชื่ออดีตครูของเขาก็เท่านั้น
3. ฮาตาเกะ คาคาชิ
คนต่อไปตามรายงานคือ นาระ ชิกามารุ พักนี้หมอนี่ทำงานกับนารูโตะบ่อยไปแล้ว.. ยิ่งตอนที่ครูอาสึม่าจากไป สองคนนี้ดูจะใกล้ชิดกันเกินไป ก่อนจะเขียนชื่อชายหนุ่มลงไป
4. นารา ชิกะมารุ
5. ฮิวงะ เนจิ, ฮิวงะ ฮินาตะ พวกตระกูลฮิวงะ เจ้าสองพี่น้องตาขาวนั่นรสนิยมเดียวกันจริงๆ จ้องนารุโตะตาเป็นมันเลย
พอเขียนไปเรื่อยๆ รู้ตัวอีกที เจ้าสมุดเล่มนั่นเขียนไม่พอเสียแล้ว.... ชิโนะ คิบะ อากามารุ ..เต็มไปหมดเลยวุ้ย
วันนี้ทำให้เขาคิดได้ว่า .....นี่เขาคิดผิด หรือเปล่าที่ออกจากหมู่บ้านมา
หาพลังบวกเรียกร้องความสนใจจากคนที่เขารัก และเพราะเอาแต่ตามหาเขาเจ้าตัวดีของเขาจึงรู้จักคนมากขึ้นแบบนี้ และดึงดูดคนมากเข้าหาเจ้าตัวมากขึ้นขนาดนี้... มือเรียวขยี้หัวตัวเองอย่างหนักใจ กุมขมับ คิ้วเรียวขมวดกันเป็นปม
นัยน์ตาคมมองมือตนเองตรงหน้า
ตั้งแต่ครั้งนั้น...หลายเดือนแล้วสินะที่เราได้สัมผัสเรือนร่างนั่นหลังจากเติบโตแล้วครั้งสุดท้าย....
'ไว้แวะไปหาบ้างจะดีไหมนะ นารูโตะ'
ถัดมาที่โคโนฮะงาคุเระ
ยามค่ำคืน ช่วงหมู่บ้านสงบสุขก็สงบเกิน ผู้คนเดินเรียงราย
ในซอกซอยที่เต็มไปด้วยอบายมุข ถึงแม้จะมีคำกล่าวว่าราตรียังอีกยาวนานก็เถอะ
สำหรับคนคออ่อนสุดๆอย่าง อุสึมากิ นารูโตะ แล้วเมื่อถูกโฮคาเงะรุ่นที่5 กับอาจารย์พ่อทูนหัวของตนเองมอมเหล้า คิดเหรอว่าจะยังมีสติทำอะไรได้ต่อ...
สองคนนั้นไม่หยุดเพียงแค่ร้านเดียวหรอก จึงวานให้ซาอิพาไปส่งบ้านให้หน่อย
“เดินดีๆสิครับ นารูโตะคุง” เสียงทุ้มกล่าวกับคนที่ตนประคองให้เดินอยู่ข้างๆ
กลิ่นเหล้าลอยมาเตะจมูก ผสมปนเปกับกลิ่นหอมๆของเจ้าตัว ยิ่งทำให้ซาอิรู้ว่าภารกิจพานารูโตะให้ถึงบ้าน
โดยไม่เลี้ยวเข้าโรงแรมแถวนี้ก่อนเป็นเรื่องยากมากทีเดียว...
“ฉันยังไม่เมา ดัตเตะบาโยะ” เสียงโหวกเหวกปกติ
หากแต่เคลิ้มๆ มึนๆนี่แหละคนเมาของจริง ขาเรียวยาวหยุดชะงัก
ก่อนที่นัยน์ตาสีฟ้าหยาดเยิ้มจะหันมาสบตาคนข้างๆ จ้องลึกทะลุเข้าไปในนัยน์ตาสีดำไร้ซึ่งที่สิ้นสุดนั่น
‘ซาสึเกะ?’
"นารุโตะคุง ถ้ายัง..เป็นแบบนี้ ผมจะทนห้ามตัวเองไม่ไหวเอานะครับ..”
เสียงทุ้มคมกล่าวติดๆขัดๆขณะที่คนผมทองตัวเล็กเริ่มเอาขาที่ตะกี้โซซัดโซเซมาเสียดสีกับช่วงล่างของเขา
ความจริงตัวเขาเริ่มรู้สึกอึดอัดตั้งแต่กลิ่นหอมที่โชยมาตั้งแต่แบกคนๆนี้ระหว่างเดินมาสักพักหนึ่งแล้ว
ตอนนี้ยิ่งทำให้ข้างในกายเขาที่ร้อนราวกับจะระเบิดนั่น ร้อนหนักกว่าเดิมอีก
เหงื่อเม็ดใสผุดตามใบหน้า
ขาวซีดของหนุ่มนักวาดรูป ผมสีดำขลับ ขณะเดียวกับที่ใบหน้าหวานหยาดเยิ้ม
ขยับเข้ามาใกล้ กระซิบคำบางคำข้างซอกหูเขา ลมหายใจร้อนเป่ารดหู
ก่อนเจ้าคนถูกกระซิบค่อยๆรับรู้ถึงสัมผัสเปียกชื้นที่น่าจะมาจากเจ้าลิ้นเล็กร้อนๆนั่นบริเวณหูเขา
และ ...สติที่พยายามตั้งมาตลอดสามสิบนาทีขาดสะบั้น
เขารวบตัวคนที่แทบจะยืนไม่ไหวอุ้มแล้วตรงดิ่งไปที่ห้องของคนในอ้อมแขนทันที
[..ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องทนสิ..]
ภาพของเด็กหนุ่มผิวขาวซืด เดินตามประคบประหงมร่างบางไม่หยุดหย่อนแปรเปลี่ยนเป็นโอบอุ้มคนตัวเล็ก
เข้าบ้านของนารูโตะไป.. เด็กหนุ่มอุจิฮะ มองภาพนั่นนิ่งๆ...
“หึ พอฉันเผลอ ก็พาผู้ชายเข้าบ้านเลยเหรอ นารูโตะ?” นัยน์ตาสีดำยังคงนิ่งสนิทราวกับทะเลไร้ลมยามค่ำคืน
ซาสึเกะยังคงนั่งมองภาพนั้นจากต้นไม้ใหญ่ ผ่านหน้าต่างห้องของร่างบางที่คุ้นเคย
"อุ้บ อื้มม อืออ~"
ทันทีที่ประตูห้องปิดลงพร้อมลงกลอน ไม่รอช้า ร่างสองร่างพุ่งเข้าหากันนัวเนียราวกับอัดอั้น
มานาน คนมีสติมากกว่าดึงร่างที่พยายามจะทำทุกอย่างที่หน้าประตูห้องให้ลงไปแนบกับเตียงขาวนุ่มด้านหลัง
สบตากับอัญมณีสีฟ้าที่ใครๆต่างหมายปอง มือหน้าที่ปกติจับแต่พู่กันสัมผัสแก้มนุ่มอย่างอ่อนโยน
"มองผมสิครับ" นารุโตะมองใบหน้าขาวผ่องราวกับผู้หญิง
กอปรกับนัยน์สีดำขลับที่ทำให้เขานึกถึงใครบางคนที่เขาคิดถึงเหลือเกิน
“ซาสึเกะ..?” มือเรียวของคนข้างล่างเอื้อมไปประคองหน้าของคนตรงหน้าเพื่อเพ่งมอง
นารุโตะหลับตาพักเล็กน้อยเพื่อปรับภาพให้ชัด ก่อนที่จะรู้ตัวว่าคนตรงหน้าไม่ใช่ใครที่เขาฝันหา
“ซาอิ เหรอ?..” แววตาที่สีฟ้าฉายความผิดหวังอยู่แว๊บนึง
ก่อนจะเปลี่ยนเป็นปกติ
นารุโตะยิ้มให้ชายนุ่มตรงหน้าที่ช่วยอยู่เป็นเพื่อนเขายามที่เขาถึงขีดจำกัดของตัวเอง
ซาอิมองแววตาฉายความผิดหวังตรงหน้าอย่างเจ็บปวด ‘เป็นผมไม่ได้หรือ
นารุโตะ?’
"ตอนนี้ผมอาจจะทำให้คุณลืมเขาไม่ได้ เพราะฉะนั้นนารุโตะคุงจะคิดว่าผมคือเขาก็ได้นะครับ"
"ซาสึเ-...
อื้อ อือ”
ก่อนที่คนเมาจะได้เอ่ยนามของคนที่เป็นเจ้าของหัวใจร่างตรงหน้าถูกกลืนกินเข้าไปด้วยรสจูบหอมหวานราวกับยาพิษ
‘ถึงแม้ว่าเขาจะบอกว่าให้คิดว่าเขาคือซาสึเกะ แต่พอเอาเข้าจริง เขากลับไม่อยากได้ยินเสียงหวานพร่ำเรียกหาแต่คนที่ไม่เคยคิดจะกลับมาคนนั้นเสียสักนิดนึง’
กรอด!! เสียงฟันบดเสียดสีกัน ก่อนฟันคมจะขบกับริมฝีปากตัวเองจนมีของเหลวสีแดงฉานเหม็นคาวจะไหลซึมออกมา
มองภาพนั้นด้วยความเคียดแค้น
....มองภาพของคนสองคนจูบกันอย่างดูดดื่ม โอบรัดซึ่งกันและกัน...
มือสองมือที่เคยโอบกอดเขา ปัดป่ายหาที่ยึดเกาะ มือหยาบกร้านของคนที่เขาไม่รู้จัก
ลูบไล้สัมผัสยอดอกสีชมพูสวยที่ชูชันอยู่ ก่อนจะค่อยๆเลื่อนผ่านเอวบาง และสไลด์ลงไปยังสะโพกกลมมน
ที่ยกขึ้นตอบสนองให้กับสัมผัสสวาทของชายหนุ่มตรงหน้า มือแกร่งจับคนที่นอนหงายให้นอนคว่ำโดยยกสะโพกขึ้น
“ทนหน่อยนะครับ นารุโตะคุง คุณจะเจ็บเอาถ้าผมไม่เตรียมความพร้อมนะครับ” ซาอิกระซิบบอก ก่อนจะกดใบหน้าหวานให้ติดลงกับหมอนนุ่ม ซาอิเหลือบมองเงาที่หน้าต่าง
“แฮ่กๆ”
เหงื่อเม็ดใสผุดขึ้นเต็มร่างกายของร่างสองร่าง ท่ามกลางแสงจันทร์บนเตียงเล็กๆ
“อ๊าส์ อือ ซาอิ คนนิสัยไม่ดี...”
ไม่วายบ่นหงุบหงิบเหน็บแนมเพื่อนตน ก่อนสติที่ไม่ค่อยจะมีเลือนลางหายไป
คราบต่างๆเปรอะเปื้อนเต็มผ้าปูที่นอนและเรือนร่างแกร่ง ทั้งสองเข้าสู่ห้วงนิทรา
ไปพร้อมกัน
โดยที่ซาอิไม่ได้ถอนแก่นกายร้อนที่ตอนนี้อ่อนนุ่มค้างเจ่ออยู่ในช่องทางรักที่ขมิบกายเขา
ช่องทางที่เต็มไปด้วยน้ำขุ่นเหนียวสีขาวไหลล้นออกมาเปรอะเปรื้อนต้นขาเรียว
ซาอิฝังคมเขี้ยว ดูดคลึงซอกคอขาวของคนในอ้อมกอด แสดงฝังความเป็นเจ้าของ
หวังเพียงให้คนที่มองอยู่นอกหน้าต่างนั่นรู้ตัวเสียที
ว่าคนๆนี้ได้ตกเป็นของเขาแล้ว คุณโง่เองที่ทิ้งเขาไป
[...ซาอิก็ยังคงมโนต่อไป
หารู้ไม่ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่คู่ตนเอง แล้วอีกอย่างกับอีแค่ร่วมรักกันครั้งแรก
อย่าไปเทียบกับซาสึเกะเลย...]
‘จะกลับมาตอนนี้
มันก็สายเกินไปแล้วล่ะครับ ซาสึเกะคุง’
...ซาสึเกะมองคนสองคนที่ผล็อยหลับไปหลังจากกิจกรรมอย่างว่าจบลง
อย่างเคียดแค้นใจ...
...ถ้าสิ่งที่เขาเห็นมันถึงขนาดนี้แล้ว
สิ่งที่เขาเห็นนี่ย่อมไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก หรือเป็นอุบัติเหตุอย่างแน่นอน...
"ฉันจะไม่ยอมให้นายลืมฉันอย่างแน่นอน” นัยน์ตาสีดำยังคงจ้องมอง
สองร่างที่นอนกอดกันเปลือยเปล่า ผ่านหน้าต่างบานใสที่เหมือนจะพยายามโชว์ให้คนภายนอกเห็นว่าได้กันอย่างน่าไม่อาย
“นารูโตะ”
นัยน์ตาสีแดงฉานฉายแววในความมืดท่ามกลางแสงจันทราในค่ำคืนแห่งความรู้สึก
[
เพื่อนสนิทคนแรก ]
[จูบแรก]
[ รักแรก ]
[คู่แข่งคนแรก]
"ครั้งแรก ของนายทุกอย่างคือฉันมาตลอด และครั้งแรกของฉันทุกอย่าง ก็คือนาย"
ผ่านไปยามหนึ่ง นัยน์ตาสีแดงฉานมองแมลงที่เดินออกจากห้องของคนรักเขา
ใจนึงก็อยากจะบดขยี้มันตรงนี้
หากแต่เขามีเรื่องต้องสะสางกับคนของเขาก่อน
นัยน์ตาสีดำเปลี่ยนเป็นสีแดงฉานท่ามกลางความมืด ก่อนจะหายวับไป
แสงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามา
เรียกให้คนที่หมดสติไปจากความเหนื่อยล้าไม่กี่นาทีก่อนลืมตาขึ้นมา นารูโตะกุมขมับตัวเองเมื่อพยายามนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้น
“อะ โอ้ย เจ้าบ้าซาอิ ก็บอกว่าอย่าปล่อยข้างในไง
ถุงยางก็ไม่ใช้” พอขยับตัวเท่านั้นแหละ สัมผัสเปียกชื้นจากช่องทางด้านหลังของเขา พร้อมกับความรู้สึกแปลกๆบริเวณภายในท้องของเขา
นิ้วเรียวยาวจับบั้นท้ายที่บอบช้ำของตน ก่อนน้ำสีขาวขุ่นเหนียวที่เลอะติดนิ้วเรียวยาวจะเรียกภาพทุกฉากเมื่อกี่ชั่วโมงก่อนให้กลับมา
“นารูโตะคุง
ผมมีภารกิจด่วนต้องไปทำตอนนี้ คืนนี้ฝันดีนะครับ” นึกถึงใบหน้าขาวซืด ขี้เล่นนั่น
กับจูบอ่อนโยนที่หน้าผากเขา...ทำให้เขาหน้าแดง...
มือเรียวยกขึ้นมาตบหน้าตัวเองเรียกสติกลับมา
ร่างบางแต่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อของชายหนุ่มลุกขึ้นนั่งมองไปที่หน้าต่างที่ไม่มีม่านปิดบังแสงจันทร์
...เฮ้อ อย่างน้อยนายก็ควรจะปิดม่านให้ฉันหน่อยนะ
ซาอิ...
“โอ้ย” มือเรียวกุมหัวตัวเอง
ทำไมถึงได้ปวดหัวขนาดนี้เนี่ย ...จริงสิ โดนบังคับให้กินสาเกจากแก้วของตาเซียนลามก
พลาดโดนเข้าให้แล้วไงเรา...
‘ทั้งๆที่เขาพยายามจะหยุดไม่ใช้ร่างกายนี้แล้วแท้ๆ
แต่ทุกที ทุกครั้งเลยน่า ที่ร่างกายนี่มันรู้สึกแปลก มันต้องการความร้อนจากใครสักคนและ
ต้องการการปลดปล่อย’
‘ถ้าจะพูดให้ถูกร่างกายของเขามันต้องการสัมผัสของเจ้าของที่แท้จริงของมันต่างหาก’
...เด็กหนุ่มดึงผ้าห่มคลุมร่างอันเปลือยเปล่าหนาวเหน็บของตน
กอดตัวเองนึกถึงใครคนนึงที่เขาเพิ่งเจอเมื่อไม่นานมานี้ คนที่เขาอยากเจอเหลือเกิน...
เม็ดน้ำตาใสผุดขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
ได้แต่ต้องกลั้นใจ เขาจะต้องผ่านมันไปได้
“ไง..เอากับผู้ชายคนอื่นสนุกไหมล่ะ”
เสียงทุ้มนุ่มเย็นที่เขาจำได้ดีว่าใครเป็นเจ้าของดังขึ้น นารุโตะเบิกตากว้าง
ก่อนจะลุกขึ้นนั่งแทบจะทันที ซาสึเกะชะงักเล็กน้อย
มองคนตัวเล็กที่ทำหน้าตกใจลุกขึ้นมามองเขา เม็ดน้ำตาใสคลอเบ้าตาที่แดงก่ำอยู่แล้วจากการกระทำกับใครอีกคนเมื่อครู่
“ดูจากความร่านแล้วนี่คงไม่ใช่ครั้งแรกสินะ”
“กี่คนแล้วล่ะ? ใครบ้างล่ะ..
คาคาชิได้กับนา-“
“อย่าพูดดูถูกครูของฉันแบบนั้นนะ
ซาสึเกะ !!!!” คนที่ทนฟังอยู่น่าตวาดโพล่งขึ้นมา
เมื่อขาดความอดทน
“หึ” ม่านสีเข้มปิดลง
พอให้มีแสงลอดผ่านพอมองเห็น ไม่มีคำตอบรับ มีเพียงเสียงหัวเราะในลำคอของร่างแกร่งที่หันมามองด้วยแววตาดูถูก
“ฉันจะมีอะไรกับใครกี่คน กี่ครั้ง แล้วมันทำไม?” นารูโตะกัดฟันกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่ใส่ใจมองคนที่นั่งอยู่ริมหน้าต่างห้องของตน
"อย่าปากดีไปหน่อยเลย นารูโตะ" ร่างเล็กกระตุก หยุดกึ้ก ก่อนจะหันมาเผชิญหน้าชายหนุ่มที่สูงกว่าตนเองนิดหน่อยตรงหน้าหากแต่ไม่ได้มั่นอกมั่นใจเหมือนไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้
นารูโตะไม่เคยทำตัวเข้มแข็งต่อหน้าคนที่มองเขาออกทุกเรื่องอย่างซาสึเกะได้นานเลย
"ตั้งแต่เมื่อไหร่...?"
"....."
ริมฝีปากสีแดงบวมช้ำจากการถูกระดมจูบเมื่อหลายชม.ก่อนหน้านี้ เม้มกันแน่น มองคนที่ทำหน้าเหมือนจะฆ่าใครก็ได้ที่ผ่านมาเห็นนั่น
"ฉันถามว่าตั้งแต่เมื่อไหร่!!?”
เสียงทุ้มคมที่เขาโหยหามาโดยตลอดตะเบ็งเสียงใส่ ดวงตาสีฟ้าครามสวยกระตุกเบิกกว้าง ร่างบางแกร่งที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อเริ่มสั่นไหวด้วยความกลัว
แน่นอน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเผชิญหน้ากับอารมณ์ร้อนของซาสึเกะหรอก แต่เพียงช่วงเวลาที่ไม่ได้เจอกัน อารมณ์โกรธของคนๆนี้เหมือนจะทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นจนเขาตามไม่ทัน
"....."
ใบหน้าหวานเบี่ยงหน้าไปทางอื่น นารูโตะไม่รู้จะสบตากับคนตรงหน้าได้เยี่ยงไร ตอนนี้เขาอยู่ในสถานะอะไรกับคนๆนี้เขายังไม่รู้เลย
คนรัก? คนรักเก่า? เพื่อน? ศัตรู?
'ซาสึเกะไม่เคยทำอะไรชัดเจน
ทุกครั้งพอเขาเริ่มที่จะตัดใจ คนๆนี้กลับโผล่หน้ามาทำให้เขาตัดใจไม่ได้อยู่ร่ำไป
และเวลาที่คิดว่าเรื่องทุกอย่างของสองเรากำลังไปด้วยดี อยากจะอยู่กับคนๆนี้ หมอนี่ก็หายไปอีก’
...นี่ซาสึเกะ ฉันควรทำยังไง?...
"ฉันจะให้เวลาแค่10วิ.... ตอบคำถามฉันมา"
ให้เงื่อนไขตามสไตล์ของตน ก่อนจะสบกับนัยน์ตาดื้อรั้นสีฟ้าที่จ้องเขม็งมา
ทำให้เขานึกได้...
ถ้าคนโดนลงโทษคือเจ้าจิ้งจอกของเขา มันก็คงจะดีเกินไปหน่อย เพราะหมอนี่น่ะชอบให้เขาสัมผัสจะตายไป... ทุกครั้งที่มีอะไรกัน ร่างเล็กตรงหน้าแทบจะร้องขอให้เขากอดอย่างไม่อายฟ้าอายดิน
"...อ้อ แล้วก็นะ นารูโตะ... คนที่จะเป็นที่ระบายอารมณ์โกรธของฉันไม่ใช่นายหรอกนะ หมู่บ้านนี่คงสงบเกินไปจริงๆ
ถึงได้มีคนเล่นชู้แอบทำเรื่องบัดสีกันตั้งแต่หัวค่ำแบบนี้”
เข้าตามแผน เร็วเท่าความคิด ต่อให้โง่แค่ไหน
ถ้าพูดขนาดนี้ก็ต้องเข้าใจ ว่าสิ่งที่เขาหมายจะทำลายคืออะไร
นัยน์ตาที่ดื้อรั้นนั่นเบิกกว้าง
ก่อนจะใบหน้าหวานนั่นจะแสดงสีหน้าเคร่งเครียด สิ่งที่นารุโตะรักที่สุด นอกจากเขา
พวกพ้อง ก็เห็นจะมีแต่หมู่บ้านนี่ละที่เจ้าจิ้งจอกน้อยของเขาแคร์สุดหัวใจ
เขาไม่รอให้เวลาผ่านไป พอให้เงื่อนไขเสร็จ เวลาก็เดินถอยหลังแล้ว
“10”
“9-....” ก่อนที่จะได้นับต่อ นารูโตะรู้ดี
ถ้าปล่อยให้นับไปมากกว่านี้ ไอ้คนอารมณ์ร้อนนี่ต้องโมโหและทำอะไรก่อนจะถึงเลข0
เป็นแน่ เรื่องแบบนี้เขารู้ดี...
“มีแค่ซาอิคนเดียว!! ส่วนครูคาคาชิไม่เคยแตะต้องฉัน”
เสียงทุ้มแตกหนุ่มตะโกนโพล่งขึ้นเสียงแหลมหลง อย่างตื่นตระหนก
ก่อนที่ชายหนุ่มผมดำตรงหน้าจะได้นับเลขถัดไปจบ
เสียงหอบหายใจของร่างบางดังขึ้นเป็นจังหวะ
“แล้วก็นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ฉันยอมให้หมอนั่นใส่เข้ามา
นอกจากนิ้ว...”
นารูโตะพูดเสียงแผ่วอ่อนลง หูดีขนาดนี้มีเหรอจะไม่ได้ยิน เล่ารายละเอียดที่เขาไม่ได้อยากจะรู้เลยสักนิด
คิ้วเรียวเข้มกระตุก หากแต่เขาต้องใจเย็น
นารูโตะตัดสินใจถูกที่สารภาพมาแล้้ว เพราะฉะนั้น รางวัลของคนยอมรับผิด คือได้รับการให้อภัย
...แต่หลังจากถูกลงโทษแล้วน่ะนะ....
“ทำไม? นายถึงทำแบบนี้ หืม? ใครคนอื่นสัมผัสร่างกายนี้”
“อึก...” กลืนน้ำลายดังเอื้อกใหญ่ ก่อนจะตอบเสียงอู้อี้ๆ
เรียกให้คนถามหงุดหงิด
“ตอบดีๆสิ หืม? ว่าไง” มือหนาช้อนคางมนให้สบตากับตนเอง
“ ก็เพราะนายนั่นแหละ… ”
นารุโตะพูดเสียงแผ่วเบา
มองคนหนุ่มหล่อร้ายตรงหน้าที่เลิกคิ้วมองเขา ราวกับเป็นคำถามว่า ‘เขาเนี่ยนะต้นเหตุที่ทำให้คนรักหลงไปมีอะไรกับชายอื่น?’
นารุโตะกุมขมับ
มองคนไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับโลก เป็นบ้าเอาแต่คิดล้างแค้น กับเรื่องของเขาแต่
เรื่องแค่นี้กลับไม่รู้งั้นเหรอ มันน่านักไหมเนี่ย...
“ก็เพราะใครบางนั่นแหละ ทำโผล่มาเป็นพักๆ อยากมาให้เห็นก็มา
แล้วก็หายไป”
“นายมาให้ร่างกายของฉันเป็นแบบนี้แล้วหายไป..!! พอใจยัง?!” คิ้วเรียวยาวขมวดกันยุ่ง
นารุโตะสะบัดหน้าหันหนีไปอีกทาง
เมื่อรู้สึกตัวว่าพูดอะไรออกไป ใบหน้าหวานขึ้นสีแดงอายขีดสุด
ชายหนุ่มสาวเท้าเข้ามาหาเขาที่เตียง
ก่อนจะนั่งลง เพียงแค่สัมผัสจากนิ้วเรียวยาวที่ลูบไล้ทัดผมนุ่มที่ปรกลงมาที่หน้าผากมน
ก่อนจะค่อยๆเลื่อนผ่านไปยังซอกคอระหงส์อย่างแผ่วเบา ทุกๆจุดที่มือเย็นๆนั้นลากผ่าน
ร้อนรุ่ม ประหนึ่งความเย็นเยือกจากมือของชายที่ตนเฝ้าคิดถึงเรียกเลือดเขาให้สูบฉีดขึ้นมาอย่างเลี่ยงไม่ได้
“อึก อือ”
เสียงครางหวานในลำคอคนตัวเล็กทำให้คนที่สำรวจคนตรงหน้าอยู่พอใจ
‘เพียงแค่สัมผัสเบาๆ
ก็ทำให้นายเป็นขนาดนี้เลยสินะ เจ้าเบ๊อะเช๊อะ’
หนุ่มอุจิฮะยกยิ้มอย่างพอใจ
ก่อนรอยสีแดง
เป็นจ้ำๆ จะเรียกให้ซาสึเกะหยุดการกระทำ มองต้นคอขาวที่ปัจจุบันมีร่องรอยที่ชายอื่นทิ้งไว้
นิ้วเรียว ยาววนลูบไล้รอยกัดและรอยช้ำจ้ำแดง ก่อนนิ้วมนจะกดย้ำลงไปเต็มแรงบนร่องรอยที่แผดเผาหัวใจเขา
“โอ้ยยย ทำอะไรของนายเนี่ย ซาสึ- ….เกะ” คนเจ็บหวังโวยวาย
หากแต่พอสบตากับเนตรสีแดงที่เปลี่ยนเป็นวงแหวนตรงหน้าแล้วทำให้
นารูโตะต้องกลืนคำพูดทุกอย่างลงไป
Sharingan เขารู้ดีว่าคนตรงหน้าเสียใจเพียงใด
ดวงเนตรที่มักจะดึงดูดความเศร้าโศกนี้น่ะ เขาไม่อยากเห็นมันเสียเท่าไหร่...
“ฉันขอโทษนะ ซาสึเกะ” จากที่นั่งเฉยๆให้ชายหนุ่มผู้เป็นที่รักสัมผัส
นารูโตะโอบใบหน้าหล่อคมที่ตนเคยไม่ชอบนักไม่ชอบหนาเข้ามาซุกที่อกแกร่ง
มือที่ไม่ได้บอบบางเหมือนของผู้หญิงลูบเรือนผมสีนิลนุ่มอย่างเก้ๆกังๆ หากเต็มไปด้วยความอบอุ่น
ความรัก ความโหยหา ริมฝีปากบอบช้ำเอื้อนเอ่ยกล่าวคำรักซ้ำไปซ้ำมา เพื่อบอกคนตรงหน้าให้แน่ใจว่า
ต่อให้กายเขาจะตกเป็นของใคร ใจของเขาก็เป็นของซาสึเกะเพียงคนเดียวเสมอไป
ซาสึเกะเงยหน้ามองเจ้าจิ้งจอกน้อยของเขา
พิจน์ดวงหน้าหวาน เรือนผมสีทองนุ่ม อัญมณีสีฟ้าสวยสะท้อนภาพของเขาอย่างอ่อนโยน ไม่ว่าจะนานแค่ไหนก็ยังคงความงดงามไม่เปลี่ยนแปลง
นิ้วเรียวยาวแตะริมฝีปากที่แดงช้ำนั้นอย่างแผ่วเบา เขาเหยียดยิ้มเมื่อรู้สึกถึงแรงสะดุ้งยามที่เขาสัมผัสจากคนตรงหน้า ปลายนิ้วนั้นไล้ริมฝีปากเล็กน้อยก่อนจะออกแรงกดเล็กน้อยให้ริมฝีปากเล็กๆนั่นเผยอออก
ง่ายที่จะส่งนิ้วของตนเข้าไปในช่องโพลงปากร้อน ไม่ต้องรอให้เขาพูดอะไร ปากร้อน และลิ้นเล็กๆดูดเลียนิ้วเขาจนเปียกชุ่ม
ก่อนเขาจะถอนนิ้วชุ่มน้ำสีใสออกมา มองแววตาที่ตอนนี้ร้อนรุ่มเต็มไปด้วยความต้องการ
ใบหน้าหล่อยกยิ้มร้าย เนตรสีดำขลับทอประกาย มองคนตัวเล็กที่เขาเป็นคนฝึกสอนมาเองกับมือ
มองคนที่รู้ไปเสียหมดว่าเขาต้องการอะไร ชอบแบบไหน
ก่อนจะกระซิบถ้อยคำบางอย่างให้คนตรงหน้าสะดุ้ง ผงะถอยไปเล็กน้อย หน้าซืด
[ ...นารุโตะ ฉันเห็นทุกอย่างที่นายทำกับมันเมื่อกี้
อย่าคิดว่าบทลงโทษมันจะจบเพียงแค่นี้แล้วกัน...]
‘เพราะงั้นฉันจะลบทุกอย่างของหมอนั่น
ด้วยกลิ่นและสัมผัสของฉัน นายจะได้รู้เสียที
ว่าใครกันแน่ที่ทำให้นายเต็มอิ่มทั้งกายและใจกันแน่’
มองร่องรอยที่คนอีกคนทิ้งไว้บนร่างของคนตรงหน้า
ซาสึเกะกระชากข้อมือแกร่งของนารุโตะให้เดินตามเข้าห้องน้ำไป หมายจะล้างคราบสกปรกน่าขยะแขยงของแมลงออก
มือเรียวผลักร่างบางให้จับผนัง โก่งสะโพกขึ้น เปิดน้ำพออุ่นสาดเข้าไปที่เด็กหนุ่มจิ้งจอก
หมายจะล้างคราบทุกอย่างด้วยน้ำก่อนครั้งหนึ่ง
“อึก อาาส์ อื้มม”
เสียงหวานครางในลำคอด้วยความเสียวกับสัมผัสหน่วงๆจากช่องทางด้านหลัง นิ้วเรียวยาวค่อยๆแทรกแหวกช่องทางสีแดงที่บอบช้ำจากการใช้งานไม่กี่ชั่วโมงก่อน
นิ้วเรียวสองสามนิ้วยาวแทรกเข้าไปในช่องทางนุ่มทีเดียว
คว้านเอาคราบน้ำรักขาวเหนียวขุ่นออกมา
‘จะครางทำไม
เจ้าซื่อบื้อเอ๊ย คิดว่าฉันหายโกรธแล้วหรือไง’
“นายให้มันปล่อยข้างในเยอะขนาดนี้เชียวเหรอ
หืม นารุโตะ?” ซาสึเกะยิ้มแบบประชด ก่อนมือหนาจะฟาดเข้าไปที่บั้นท้ายกลมนุ่มแรงๆ
ทิ้งรอยแดงระเรื่อตัดกับสีขาวสวยของบั้นท้ายมน
ฟันคมฝังลงกับเนื้ออ่อน
หมายจะทับร่องรอยของคนอื่น เลือดสีแดงก่ำไหลรินจากคมเขี้ยว ลิ้นร้อนไล้เลียเลือดอุ่น
สีแดงฉานที่ไหลซึมออกมา
“อ๊า ซื้ดส์ เจ็บ ทำอะไรของนายน่ะเจ้าบ้า
อ๊า” ซาสึเกะข้มเม้มซอกคอจากด้านหลัง
ฝังคมเขี้ยวทับทุกจุดเท่าที่มองเห็นพร้อมๆกับทวีจำนวนเพิ่มขึ้นจนเต็มคอระหงส์ ลามไปยังแผ่นหลังแกร่งและสะโพกอวบอิ่มตรงหน้า
นารุโตะได้แต่ครางเสียงหลงด้วยความเจ็บ
“แล้วจะได้รู้ว่าใครกันแน่ที่เป็นเจ้าของนายกันแน่น่ะ
ว่าไหม นารูโตะ” เสียงทุ้มแหบพล่ากระซิบข้างหูเล็กๆ ของคนรัก
จนคนถูกประชดประชนประมานทุกๆ
สองประโยคที่พูดคุยกันจะหน้าซืด ยิ้มเจื๋อนๆ จากที่มือสองข้างยันกำแพงห้องน้ำ
ปรับเป็นใช้มือเดียวพยุงตัวแทน
“อืมม” ส่วนมืออีกข้างเอื้อมมาจับบั้นท้ายนุ่มที่เต็มไปด้วยรอยมือแดงก่ำ
นิ้วเรียวยาวบีบบั้นท้ายนุ่มก่อนจะค่อยๆแหวกออกช่วยให้คนที่กำลังหงุดหงิดทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น
...ซาสึเกะสาบานกับตัวเองเลยว่าจะไม่ปล่อยเจ้าจิ้งจอกจอมยั่วตรงหน้าให้ห่างตัวอีก....
“เหม่ออะไรอยู่น่ะฮะ เจ้าคนขี้หึง”
ร่างเล็กหันมาโวยวายโดยลืมไปว่าตนเองอยู่ในสภาพไหน
END
ก่อนอื่นคือ ขอบคุณที่ยังคอมเม้นต์กันอยู่555 นี่คือตอนนี้เขินมาก มันดูแรงมาก เพราะแอบไปเสาะหา ถึงขนาดอ่านบล็อกเกี่ยวกับการแต่งนิยายหลายๆบล็อก และก็ได้ตาสว่างว่านิยายของเขา ภาษาสวยจริงๆ บรรยายเห็นภาพ น่าประทับใจมากเลยทีเดียว ฉันนี่สูญเสียความมั่นใจในภาษาตัวเอง(ควรจะละอายได้ละ รู้ตัวว่าไม่แข็งแรง)
?????
ความคิดเห็น