คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ไดอารี่ของเด็กหลงปารีสที่ 1
10 Août 2014
เดินทางถึงปารีสแล้วตอนราวๆ 8 9 โมงของที่นี่ อากาศกำลังเย็นๆเลย พอมาถึงที่สนามบินชาร์ล เดอ โกลส์ (CDG) เจ้าหน้าที่จาก WEP ก็มารอรับอยู่
พูดถึงสนามบินแล้วก็ บอกเลยว่า CDG เป็นสนามบินที่พาหลงง่ายมาก เพราะว่า นเป็นแบกลมๆ แล้วมีทางเชื่อม ลากข้ามชั้นไปมาระหว่างสองฝั่งของวงกลม อีกความรู้สึกหนึ่งกับ สนามบินครั้งแรกเลยคือ กระเป๋าเอ็งมานานมาก รอปะมาณเกือบ 10 นาทีได้มั้ง
พอเจ้าหน้าที่มารับ เราก็นั่งรถต่อกันไป ตอนเอาของขึ้นรถนี่แบบ ของจะไปหหมดมั้ย รถไม่ได้เล็กมากนะ แต่ของมันเยอะ 8 คน ประเป๋าคนละสองสามใบ ก็ขนไปที่ รร เรียนภาษาได้ละกันสรุป (ฮา)
พอถึงที่ รร แล้ว ก็มีโฮสชั่วคราวของที่ปารีสมารับไป ตอนที่ขนของไปที่คอนโดของโฮส โฮสเขาช่วยเราขนของด้วยแหละ กระเป๋าสี่ใบ(เล็กสอง ใหญ่สอง) จึงไปถึงที่หมายได้อย่างงดงาม
บ้านของโฮสเป็นคอนโดห้องเล็กๆ อยู่ที่ชั้น 6 โฮสเลี้ยงแมวไว้ตัวนึง แต่เหมือนมันเกลียดเรานะ เล่นด้วยก็หนี หนักมากๆเข้าก็กัดอีก โฮสเราเลยจับแยกกันเลย แล้วบอกว่าอย่าไปจับมันอีก
จากที่ดูโดยรวมแล้ว โฮสเราเหมือนยกห้องของตัวเองให้เรานอน เพราะว่า คอนโดห้องนี้มีห้องนอนเดียว แล้ว(อี)นุ้งแมวมันก็ชอบเข้ามาในห้องนอนเราด้วย แถมโฮสเรายังบอกว่า “เธออยู่ตรงนี้นะ ส่วนฉันอยู่ตรงนี้” แล้วก็ชี้ที่โซฟาในห้องนั่งเล่นด้วย
พอเข้ามาได้ซักพัก โฮสเราก็พาไปที่สถานีรถ เพื่อไปทำ pass navigo กับ carte carnet สำหรับใช้ในการเดินทางไปมาในปารีส โดยที่ วันนี้เขาให้เราใช้ carte carnet ในการขึ้นบัสไปมาก่อน แล้วค่อยใช้ pass navigo ในวันต่อๆไปจนหมดอาทิตย์
**เสริมขั้นนิดนึง carte carnet เป็นบัตร 10 ใบ โดยที่เราสามารถใช้ได้กับ BUS และ métro โดยที่ไม่จำกัดอายุ(มั้งไม่รู้อะ) ส่วน pass navigo เป็นบัตรที่มีอายุ สามารถเลือกได้ว่าจะใช้นานเทาไหร่ และจะต้องมีการเลือกเขต (zone) โดยที่โฮสเราเลือกเป็นเขต (zone) 1-2 ที่มันจะสามารถเดินทางได้รอบปารีสอยู่**
พอทำบัตรนู่นนี่นั่นเสร็จ โฮสก็บอกให้เราลองไปตะลอน(?) ที่โอเปร่าดู เขาบอกว่า ไปง่ายบางนากม.8(ไม่ใช่ เมกาบางนานะเห้ย) ก็เลยไปดูแบบมึนๆ ก็อื้มม โอเคเลย ป้ายสุดท้ายพอดี ไปง่ายบางนากม.8 จริง
พอถึงที่โอเปร่า ก็จัดแจงถ่ายรูปนิดนึง รัวๆ(?) เดินวนรอบๆ สวยมาก สถาปัตกรรมแบบเริ่ดอะ มันเจ๋งอะ สวยแบบ มากกกกกก
** Opéra Garnier คือที่ๆเราไปมาสวยมากๆ แล้วก็มีอีกที่นึงในปารีสคือ Opéra Bastille แต่ฝรั่งเขาบอกว่าไม่สวยเท่าที่ Opéra Garnier **
ตอนขากลับ เจอบทเรียนในปารีสเลยจ้าว่า ห้ามใจอ่อนต่อคนที่ไม่น่าเชื่อถือเด็ดขาด บางทีก็กับคนที่น่าเชื่อถือด้วย ถ้ามีใครมาขอให้บริจาคเพื่อการกุศลหรืออะไรที่มาพูดกับเราเป็นภาษาอังกฤษต้องระวัง เพราะอาจเป็นพวกมาหลอก เพราะคนกลุ่มนี้จะหลอกนักท่องเที่ยวเป็นหลัก จะไม่ค่อยหลอกคนท้องถิ่ง เพราะรู้อยู่แล้วว่าเป็นคนหลอกหรือไม่ รอบนี้ก็โดนไปเบาๆ เพราะหลังๆเริ่มไม่เอาแล้ว เลยปลีกตัวออกมา โดนไป 10€ จ้าทุกคน อื้มมมมมม
หลังจากโดนไปเรียบร้อย เราก็กลับบ้าน หาป้ายบัสไม่เจออีก โฮ เพราะว่า ที่ปารีส รถมันจะมีทั้งเดินทางเดียว เดินสวนทาง สลับกันไปให้ปวดหัวเล่นๆ แล้ว ที่ โอเปร่ามันเป็นแบบ ทางเดียววนรอบ ดังนั้น ที่เราลงมาโอเปร่า กับที่จะขึ้นกลับบ้านจะเป็นคนละฟากกัน โดยมีโอเปร่าคั่นอยู่ตรงกลางอีกหน่อยแหนะ แต่ยังดีที่หาง่ายหน่อยเพราะว่า ตรงที่ป้ายนี้อยู่ เป็นดงของป้ายรถบัสพอดี
** รถบัสที่ปารีสนี่มีหลายสายมากจนไม่อยากเชื่อว่าปารีสมันเล็ก นับจากเลขสายรถที่เห็นก็ปาเข้าไปตั้ง สองร้อยกว่าๆ แล้ว เสริมอีกนิดนึง โอเปร่า เป็นชุมทางรถที่หนึ่ง เพราะนอกจากบัสที่เรานั่งแล้ว ยังมีอีกหลายสายที่ผ่านที่นี่ แถมยังมีเมโทรอีกสองสามสายผ่านมาใต้ที่นี่ และโอเปร่ายังเป็นที่เราสามารถเปลี่ยนเส้นทางไปนั่ง Roissy-Bus เพื่อไปยัง สนามบิน CDG ได้อีกด้วย **
กลับบ้านมาปุ๊บ ก็มานั่งดูทีวีกับโฮสนิดหน่อย แล้วก็กินข้าวตอนกินข้าวนี่ 2 ทุ่มแล้วนะ แต่ แดดส่องหน้าจ้า ดวงตะวันยังคงตั้งตระหง่านต่อไป จนเกือบ 4 ทุ่มนู่นแหนะ แอมะซิ่งฝรั่งเศสดี
ปล.ต่อเน็ตกับคอมไม่ได้ทำไมไม่รู้ ไม่เข้าใจ เสียใจจัง
----------------------------------------------------
ช่วงแรกของชีวิตที่ฝรั่งเศสจะเป็นการมาเรียนและตะลอนทัวร์ที่ปารีสก่อน ช่วงนี้ต้นจะเขียนเล่าทุกวัน และหลังจากออกจากปารีสก็จะรวมกันแบบนานๆทีอาทิตย์ละครั้ง
ใครอ่านก็ขอบคุณด้วยนะ
ความคิดเห็น