คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 29 >>ปรับความเข้าใจ/สารภาพความรู้สึก
[Mode : Chin]
ขึ้นเรียนคาบบ่ายได้เกือบ 20 นาทีแล้วแต่คนที่นั่งข้างๆ ผมก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะกลับมาเข้าเรียน หายไปไหนของเค้านะ?
“ชินวุฒิ!” เสียงเหี้ยมๆ ของอาจารย์ป้าดังขึ้น เรียกผมให้หันกลับจากประตูโดยมีหน้าซีดเผือดกลับมาด้วย
..ซวยแล้วไหมล่ะ??
“คระ
..ครับ”
“เธอคิดว่าวิชาของชั้นนี่มันง่ายมากกก
..เสียจนไม่ต้องตั้งใจเรียนก็สอบได้แล้วใช่ไหม??”
“มะ
.ไม่ใช่ครับ
เอ่อ
.”
“งั้นก็ตั้งใจเรียนซะก่อนที่ชั้นจะโมโหมากกว่านี้!!”
“ฮะ
.” ซวยจริงๆ เลยจะบอกว่ามัวแต่มองหาไมค์ก็ไม่ได้
..ดันโกหกไปแล้วว่าอยู่ห้องพยาบาล
.เค้าหายไปไหนของเค้าเนี่ย!!!
“นายกาย!!!” เสียงของอาจารย์ป้าดังขึ้น
“
..” ไร้ซึ่งการตอบรับ เมื่อผมหันไปตามเสียงเรียกก็ได้เห็นว่าคนหัวฟูเหม่อลอยไปไกลไม่ได้ตั้งใจฟังอาจารย์สอนสักนิด วันนี้เคราะห์ร้ายกำลังจะกินหัวนายแล้วกาย - -“
“นายกาย!!!!!” ป๊อก!! เสียงปากกาลอยหวือไปตกอยู่ตรงหน้าของกายอย่างพอดิบพอดี นั่นแหละเจ้าตัวถึงได้หันกลับมาสนใจโลกภายในห้องเรียนอีกครั้ง
“ครับ!”
“เธอคิดว่าวิชาชั้นมันเรียนง่ายแสนง่าย ไม่ตั้งใจเรียนยังไงก็ได้เกรด A งั้นเหรอ”
“ปละ
..ปล่าวครับ”
“งั้นก็ตั้งใจเรียนซะ ถ้ามีเหม่ออีกรอบชั้นจะทำโทษเธอ”
“ฮะ
.” หน้าของกายจืดสนิทก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาเรียนกันต่อ
อีกครึ่งชั่วโมงต่อมาวิชาเรียนที่แสนโหดก็ผ่านพ้นไป แต่กายก็ยังคงเป็นแบบเดิม
..เหม่อลอยและถอนหายใจตลอด
..เค้าเป็นอะไรของเค้าน่ะ ผมนั่งสงสัยอยู่ได้ราว 10 นาที คนที่เป็นต้นเหตุของความสงสัยก็มาหยุดลงตรงหน้า
“ชิน
..นายว่างหรือเปล่า?”
“ฮะ? อืม
.ก็ว่างนะ”
“ฉันขอคุยด้วยหน่อยสิ” จบคำคนหัวฟูก็เดินออกไปนอกห้อง ทำให้ผมต้องลุกตามอย่างช่วยไม่ได้ เราเดินกันมาเรื่อยๆ จนถึงแปลงเพาะหลังโรงเรียน
“ฉันอยากรู้ว่านายรู้สึกยังไงกับฉัน
ช่วยบอกฉันหน่อย” เสียงเรียบๆ เอ่ยหลังจากเราเงียบกันมาพักใหญ่
“เอ่อ
”
“ฉันรู้ว่ามันดูไม่เข้าท่าเลยที่ฉันมาถามนายแบบนี้
..แต่ฉันต้องรู้ ช่วยตอบฉันหน่อยเถอะนะ” ดวงตาเศร้าสร้อยคู่นั้นมองผมอย่างขอร้อง และนั่นทำให้ผมได้แต่เงียบ
“ทำไมนายถึงต้องรู้ให้ได้”
“เพราะฉันอยากรู้
..”
“นายช่วยอธิบายให้กว้างกว่านี้ได้ไหม
”
“
” กายได้แต่นิ่งเงียบ
“งั้น
นายก็ช่วยบอกหน่อยว่า
.คำว่า ’รู้สึก’ ของนายมีขอบเขตแค่ไหน?”
“ขอบเขต
.??”
“ใช่!! เพราะคำว่าความรู้สึกน่ะความหมายมันกว้างฉันตอบไม่ถูกหรอก
” ผมตอบออกไปนิ่งๆ และจ้องตาอีกคนอยู่อย่างนั้น คนหัวฟูนิ่งไปนานก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงเบาแต่ช้าและชัดถ้อยชัดคำ
“แค่นายบอกมาคำเดียวว่า ‘ชอบ’ หรือ ‘ไม่ชอบ’ เท่านั้น
.”
“
..” แล้วทุกอย่างก็ตกอยู่ในความเงียบ
..เงียบเสียจนได้ยินเสียงหัวใจและเสียงหายใจของตัวเอง และคนที่ทำลายความเงียบน่าอึกอัดนี้ก็คือกาย
“นายตอบไม่ได้เลยเหรอ? สักนิดนายก็ไม่รู้เลยใช่ไหม? แล้วกับสิ่งที่นายทำเมื่อวานล่ะ!? นายคิดยังไงกันแน่
ทำไมนายมาทำให้ฉันหวั่นไหว ทำไมนายมาทำเหมือนมีใจ
..ทำไม!?!?!” น้ำตาเม็ดเล็กหล่นเผาะลงจากดวงตาคู่สวย และมันก็ยิ่งไหลลงมาเรื่อยๆ ราวกับก๊อกแตก
“กาย
.”
“นายตอบฉันมาสิ!!! ตอบมา
แค่คำเดียวถ้านายไม่รักไม่ชอบนายก็บอกฉัน!!! ฉันจะตัดใจ ฉันจะไม่ยุ่งกับนายอีก!!”
“กาย
”
“นายรู้ไหม
ตลอดมาฉันเฝ้ามองแต่นาย
..เฝ้ามอง
.เฝ้าห่วงใยนายทั้งๆ ที่รู้ว่าใจนายมีใครอยู่แล้ว!!!”
“
”
“นายรู้หรือเปล่าว่าฉันเจ็บปวดแค่ไหนที่ไม่ว่าฉันทำไปเท่าไหร่นายก็ไม่เคยเห็น
..แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังทำ
..นายรู้บ้างหรือเปล่าว่าเวลาที่ฉันเป็นแค่คนที่อยู่นอกสายตานาย
.ทั้งๆ ที่นั่งอยู่ใกล้กันมันเจ็บปวดแค่ไหน!!”
“
..”
“และจนกระทั่งเมื่อวาน
.ฉันคิดว่าอีกไม่นานฉันคงตัดใจจากนายได้
..เพราะฉันมีคนๆ นั้นคอยอยู่ข้างๆ แต่นายกลับมาทำให้ฉันหวัง!! มาทำให้ฉันรู้สึกดี!! มาทำให้ความรู้สึกที่ฉันพยายามลืมมันกลับมา
.นายมาทำให้ฉันรักนายอีกทำไม!!!!”
ผมรวบร่างนั้นมาสู่อ้อมกอด
..อย่าร้องนะ!! อย่าร้อง!! ผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าผมเป็นอะไรแต่ที่รู้ๆ มีคนแค่ 4 คนเท่านั้นที่ทำให้ผมแทบบ้าได้เมื่อร้องไห้ หนึ่งคือคุณแม่ สองคือน้องเดียร์ สามคือไมค์ และสี่
ซึ่งผมเพิ่งเจอคำตอบเมื่อวานนั่นก็คือกาย
.ถ้าเมื่อไหร่ทีผมเห็นน้ำตาผมจะต้องกอด
..กอดเพื่อให้เขาเหล่านั้นเลิกร้องไห้
.เพราะอย่างที่บอกผมเชื่อว่าความอบอุ่นจะสามารถหยุดน้ำตาได้ และตอนนี้ผมก็อยากทำให้กายหยุดร้องไห้
..
“ปล่อย!! นายปล่อยฉัน .ฮึก ปล่อยสิ!! ฮือ ไม่รักกันก็อย่ากอด ฮึก..ฮือ อย่ามาทำให้ฉันหวัง ..ปล่อย ” ยิ่งกายบอกให้ปล่อยผมกลับยิ่งกอดร่างนั้นให้แน่นขึ้น
“กาย
..ถ้านายอยากได้คำตอบนั้น ฉันยังให้นายไม่ได้หรอกนะ
.และเพราะคำถามนั้นของนายมันกำลังทำให้ฉันสับสนฉันไม่รู้เหมือนกันว่าฉันเป็นอะไร แต่ตอนนี้ฉันขอเถอะ
หยุดร้องไห้เถอะนะ”
“ฉันแค่อยากฟังคำนั้นจากปากนาย
..บอกมาสิ!! บอกมา
!!” จบคำกายก็ดิ้นๆ เพื่อหวังจะหลุดออกจากอ้อมกอด
“ฉันตอบให้นายไม่ได้
กาย
..ขอเวลาฉัน
..”
“งั้นก็ปล่อยฉัน!!! ปล่อย!! แล้วต่อไปนี้ฉันก็จะไม่มาวุ่นวายให้นายรำคาญ ไม่มาอยู่ใกล้ให้นายเกะกะสายตา ต่อไปนี้ฉันจะไม่รักนายอีกแล้ว!!!!” และกายก็ดิ้นหลุดจากอ้อมกอดได้สำเร็จก่อนจะวิ่งกลับไปทางอาคารเรียนทิ้งให้ผมยืนนิ่งราวกับถูกสาปอยู่ตรงนั้น ทำไมหัวใจมันรู้สึกปวดและชาวาบแบบนี้ ทำไมรู้สึกเหมือนกับว่าผมจะเจ็บปวดกับคำพูดนั้นของกาย
..แล้วทำไมต้องเจ็บปวดล่ะ!? ทำไมล่ะ!? ก็ที่ผ่านมาตลอดเวลาที่กายอยู่ข้างๆ ผมรักไมค์ไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไม??
‘ชินนายดูสิ อาหารในเล่มนี้น่ากินนะ’
‘เฮอะ!! พูดเหมือนกับว่านายทำให้ฉันกินได้งั้นแหละ’
‘ฉันทำได้นะ แค่มีอุปกรณ์ครบก็ทำได้แล้ว’
‘- -“’
‘ทำไมทำหน้างั้นอ่ะ
นายไม่เชื่อฉันเหรอ? อ้าวชิน? รอฉันด้วยสิ’
.
..
‘ชินอาหารเย็นเสร็จแล้วล่ะ’
‘อืม
..เดี๋ยวออกไปเดี๋ยวนี้แหละ’
‘พี่กายคะ ต่อไปนี้ทุกๆ วันมาทำอาหารให้เดียร์กะพี่ชินทานทุกวันเลยนะคะ’
‘น้องเดียร์อยากทานทุกวันเหรอคะ
..พี่ไม่ขัดข้องหรอก แต่ว่า
..’
‘ถ้านายว่างมากนัก อยากมาก็เรื่องของนาย’
‘จริงนะ ^^ นายนี่น่ารักที่สุดเลย
..^O^’
‘พี่อ้อย
ทำไมกับข้าววันนี้ไม่ได้เรื่องเลยล่ะฮะ ผัดเปรี้ยวหวานนี่ก็เค็ม ต้มจืดก็จืดไม่ต่างจากน้ำเปล่าเลยนะฮะ”
‘เอ่อ
.’
‘ของว่างนี่ก็เหมือนกัน ทำไมมันถึงได้หวานซะจนเลี่ยนแบบนี้ พี่อ้อยคงต้องปรับปรุงฝีมือหน่อยแล้วนะฮะ เฮ่อ~~’
‘เอ่อ
..น้องชินคะ พี่ว่าน้องชินคงจะชินกับรสชาติของคุณกายเค้าแล้วล่ะค่ะ เพราะคนอื่นทานก็ใม่เค็ม ไม่จืด หรือว่าหวานเกินไปนะคะ เอ่อ
.น้องชินคงจะติดปากกับรสชาติของน้องกายจนลืมรสอาหารของพี่หมดแล้วน่ะค่ะ’ ^^
..
.
‘โทรศัพท์ไม่ดัง
..ทุกทีไอ้ฟูต้องโทร.มานี่หว่า วันนี้หายไปไหน
’
1ชั่วโมง
.
2ชั่วโมง
.
‘ฮัลโหล’
[เอ่อ
.ฉันกวนหรือเปล่า?]
‘ก็
ช่างมันเถอะ!! นายมีอะไรก็ว่ามา’
[เอ่อ
คือ
..เอ่อ
]
‘นายจะเอ่อ
.คือ
เอ่อ
คือแค่นี้ใช่ไหมฉันจะได้วาง
’
[เดี๋ยวสิ คือนายเป็นไงบ้าง? อาการดีขึ้นไหมเอ๊ะ!? หรือว่ายังปวดหัวอยู่หรือเปล่า]
‘นี่นายถามรัวเป็นชุดแบบนี้ฉันตอบนายไม่ทันหรอกนะ’
[เอ่อ
.ขอโทษ]
‘นายก็ได้แต่ขอโทษ ถ้าไม่อยากขอโทษบ่อยๆ ก็หัดคิดก่อนพูดน่ะเป็นมั๊ย?’
[เอ่อ
.ฉันขอ
.ฉันจะพยายามนะ]
‘นายมีเรื่องจะพูดแค่นี้ใช่มั๊ยฉันจะได้วาง’
[ชินเดี๋ยว!! เอ่อ
.ฝันดีนะ]
‘ขอบใจ หวัดดี!!’ ติ๊ด!!
วันนั้นผมยอมรับว่าตัวผมหงุดหงิดเพราะไม่ว่านั่งรอ 30 นาทีก็แล้ว 1 ชั่วโมงก็แล้วคนที่ผมคิดว่าจะโทร.มาก็ไม่โทร. ทุกวันต้องโทร.มาเวลาเดิมๆ ทุกวันแต่วันนี้กลับหายไปทั้งๆ ที่ผมรอ แล้วพอโทร.มากลับมาพูดอะไรที่ขัดใจผมเข้าอีกอารมณ์หงุดหงิดที่มีอยู่แล้วเลยกลับระเบิดราวกับภูเขาไฟ แล้วหลังจากนั้นกายก็ห่างผมออกไป
.ห่างออกไป
และตอนที่ผมได้รู้ว่าที่เค้าหายไปไม่มาวุ่นวายกับผมอีกก็เพราะเค้าคบกับนายนั่น
..กับไอ้โทมัส!! และนั่นแหละที่ทำให้ผมหงุดหงิด ทำให้ผมแทบคลั่ง!! ผมเป็นแบบนี้เพราะอะไร?? อาการแบบนี้มันคืออะไร??
[Mode : Golf]
หงุดหงิด!!
ทำไมไมค์ถึงดูห่างเหิน!!
ทำไม? หรือว่าไมค์ไม่รักผมแล้ว
ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมมีแต่ผมฝ่ายเดียวที่ต้องการไมค์มากมายอย่างนี้ ไม่ว่าเมื่อไหร่ผมก็อยากอยู่ใกล้ๆ แค่ได้กอดหรือหอมแก้มเท่านั้นผมก็รู้สึกดีไปทั้งวัน ไมค์ไม่รู้สึกเหมือนผมเลยเหรอ?? ไม่อยากอยู่ใกล้หรือคิดถึงเวลาไม่เจอหน้าบ้างหรือไง? ผมน่ะนะ
.แค่ไม่เจอหน้าแค่ครึ่งวันก็คิดถึงจะแย่
..เฮ่อ~~สงสัยผมคงรักไมค์มากเกินไป
..
ผมเดินคิดอะไรมาเรื่อยเปื่อยจนถึงห้องแล้วก็ต้องตกใจกับการบอกเล่าของไอ้ณัฐที่ว่า ไมค์เป็นลมอยู่ที่ห้องพยาบาลเมื่อครู่อาจารย์ห้องพยาบาลเพิ่งมาแจ้ง และนั่นแหละที่ทำให้ผมต้องกลับไปที่ห้องพยาบาลอีกครั้ง
“ไมค์! ไมค์เป็นยังไงบ้างฮะ!?” ผมถามอาจารย์ประจำห้องพยาบาลด้วยความร้อนใจ
“ตอนนี้ครูเช็ดตัวให้แล้วล่ะ คงจะหลับอยู่น่ะจ่ะ”
ผมเดินกึ่งๆ วิ่งเข้าไปที่เตียงที่เดิมที่ผมนอนไปเมื่อเช้า ร่างสูงนอนฟุบอยู่ตรงนั้น คิ้วขมวดคล้ายปมที่ผูกแน่น มือเรียวกำผ้าปูที่นอนจนยับยู่ แก้มทั้งสองข้างขึ้นสีเรื่อริมฝีปากกดกัดกันแน่นสีหน้าบ่งบอกว่าทรมานและนั่นทำให้ผมรู้ถึงสาเหตุที่ไมค์เป็นลมได้เป็นอย่างดี
“ไมค์
” ผมเรียกเบาๆ พลางเอื้อมมือไปแตะที่ข้างแก้ม
“อ๊ะ!! อย่า
.อย่าโดนตัวไมค์” ปากพูดทั้งๆ ที่เปลือกตายังปิดสนิท
“ไมค์
” ผมเรียกอีกครั้งก่อนจะนั่งลงบนเตียง
“พี่กอล์ฟ
..”
“ไมค์ลืมตาสิ
..พี่อยู่นี่นะ
..” ผมว่าทำให้เปลือกตาของร่างสูงค่อยๆ ลืมขึ้นช้าๆ เมื่อรู้ว่าชื่อที่พร่ำเรียกไม่ใช่แค่ในฝัน ร่างสูงก็ขยับตัวหนีไปอยู่อีกฝั่งของเตียงพร้อมๆ กับค่อยๆ พยุงตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งแล้วเอ่ยออกมาด้วยเสียงสั่นเครือ
“ไมค์ไม่รู้นะว่าทำอะไรให้พี่กอล์ฟโกรธ ไม่รู้หรอกแต่ไมค์ขอโทษ
..ไมค์น่ะเรื่องที่ทำให้พี่กอล์ฟได้ก็มีแค่รักพี่กอล์ฟเท่านั้น แล้วไมค์ก็ไม่เคยคิดที่จะเลิกรักพี่กอล์ฟด้วย
พี่กอล์ฟ
.พี่กอล์ฟอย่าเกลียดไมค์นะ ถ้ามีวันนั้นขึ้นมาจริงๆ ไมค์คงอยู่ไม่ได้ พี่กอล์ฟอย่าเกลียดไมค์นะ
ฮึก
ฮือ” แล้วร่างสูงก็ปล่อยโฮออกมาไม่ต่างจากเด็กเล็กๆ มือเรียวๆ นั้นก็ยกเช็ดน้ำตาตัวเองป้อยๆ ดูน่ารักน่าเอ็นดูเสียจนผมต้องรั้งร่างบางนั้นเข้ามาไว้ในอ้อมกอด
“ไมค์
พี่เองก็รักไมค์มากเหมือนกันนะ พี่ไม่มีทางเกลียดไมค์ได้หรอก
วันนี้พี่แค่หงุดหงิดกับท่าทีห่างเหินของไมค์เท่านั้นเอง
..พี่ขอโทษนะพี่ขอโทษ
..”
“ไมค์
ฮึก
ไม่ได้
.ห่างเหินนะ แค่
ฮึก
มีเรื่องต้องคิด”
“คับผม
..พี่เข้าใจแล้ว
.ตอนนี้ก็หยุดร้องซะนะพี่ไม่อยากเห็นไมค์ร้องไห้เลยรู้มั๊ย? เลิกร้องนะคับคนดี”
“ฮึก
..” ร่างสูงในอ้อมกอดค่อยๆ เงียบลงก่อนจะถอยห่างจากอ้อมกอดของผม
“เรามาต่อจากเมื่อเที่ยงนะ” จบคำผมก็ไม่รอฟังคำตอบรับใดๆ ริมฝีปากอิ่มถูกกดจูบนิ่งนาน ก่อนที่มือของผมจะเคลื่อนตัวลงไปกอบกุมส่วนอ่อนไหวแล้วทำการปลดปล่อยสิ่งที่ค้างคาออกมาจนหมด
“พี่รักไมค์นะ
”
“อือ
ไมค์ก็รักพี่กอล์ฟ
.”
ภายในห้องสีขาวบนเตียงสีสะอาด ร่างสองร่างกลับทำให้มันเป็นสวรรค์เสียงเพลงแสนหวานดำเนินไปอย่างอ้อยอิ่ง เสียงหวานกรีดร้องปะปนไปกับลมหายใจหอบเหนื่อยส่งให้ร่างด้านบนส่งจังหวะร้อนแรงให้อีกครั้ง
“พี่
กอล์ฟมะ
ไม่ไหว
อือ..”
“อีกนิดนะคับคนดี
.” เสียงทุ้มบอกเบาๆ พลางกดจูบลงบนหน้าผากมนแล้วเร่งจังจังหวะให้เร็วและแรงขึ้น ก่อนจะตามมาด้วยเสียงกรีดร้องเบาๆ พร้อมกับการปลดปล่อยสายธารแห่งความสุข
“รักนะพี่กอล์ฟ” ร่างด้านล่างบอก ดวงตาปรือปรอยคล้ายจะหลับลงเต็มที
“คับพี่ก็รักไมค์
..” สิ้นเสียงร่างเล็กก็ถอนกายออกนอนลงข้างๆ พลางรั้งอีกคนเข้ามาสู่อ้อมแขน พี่รักไมค์
..รักมากกก
.ไม่ว่าวันนี้หรือวันไหนพี่ก็รัก
..พี่ไม่มีทางเกลียดไมค์ได้หรอกมีแต่จะรักมากขึ้นเสียด้วยซ้ำ ว่าแต่
ไมค์มีเรื่องอะไรต้องคิดนะ?? ช่างเถอะเอาไว้ถามหลังจากนี้ก็แล้วกัน
..สิ้นความคิดร่างเล็กก็เดินทางเข้าสู่ฝันอันแสนหวานอีกคน
.
ปลาทอง Say : ดีค่าาาาา ..และแล้วก้อจบตอนนี้ได้ .กว่าจะจบนี่ก็เล่นเอาแทบกระอักเลือด - -“ ก้อแอบ NC เล็กน้อยอ่านะคะ และนั่นแหละค่ะที่ยากเย็นเกินบรรยาย แต่ก็หวังว่าคงถูกใจเน้อ~~ เพราะปลาทองก็พยายามอย่างเต็มความสามารถ ^^ เอาเป็นว่าขอให้สนุกนะคะ วันนี้ไปและๆ เจอกันใหม่ตอนหน้าค่า .\(^^)/
ป.ล. ขอโทษที่ทำให้รอนะคะ
..ขอโทษจริงๆ ตอนต่อไปจะพยายามอัพให้เร็วที่สุดค่ะ
รักทุกคนเหมือนเดิมค่ะ ^^ ฝากเม้นท์ ฝากโหวตด้วยนะค้าาาาา~~
ความคิดเห็น