ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ความรักในวัยเด็กของคุมิโกะ
หนุ่มโหดสาวซ่าพาใจมาพบรัก
บทที่ 4
   
    “จริงเหรอ ^-^!! เย้ๆ จะได้กลับไปนอนในห้องสีชมพูสุดสวยของช้านนนแล้วววว.....จะได้กลับไปแช่อ่างอาบน้ำนม อู้ววว ห่างหายไปนานผิวฉันจะเสียไหมเนี่ย ต้องแช่วันเว้นวันซะด้วยสิ เฮ้อ ! o- เออใช่ !แล้วไดอารี่ของฉันล่ะ ToT ไม่ได้เขียนตั้ง 3วันแล้ว....ใช่หรือเปล่า? ฉันสลบไป 3 วันใช่ไหม?”
    “เอ่อ...ใช่ครับ -*- คุณพล่ามอะไรของคุณมากมายเนี่ย”
    “ว่าไงนะ!หาว่าฉันพล่ามเหรอ ฉันแค่พูดเฉยๆนะ ไม่อยากฟังก็ออกไปสิ -^-“
    หนอยแน่! บังอาจมาว่าฉันว่าฉันพล่าม เชอะ! -^- จำไว้นะ ฉันจะไม่พูดกับเขาอีกแล้ว ผู้หญิงก็สนใจเรื่องสวยๆงามๆทั้งนั้นแหละ ไม่เห็นจะต้องบ่นอะไรมากมาย แล้วกับฉัน ยิ่งไม่ค่อยสวยอยู่ด้วย ถ้าไม่ดูแลใบหน้ากับผิวให้ดี แก่แล้วจะทำยังไงล่ะ ! -o- ช่างเป็นผู้ชายที่ไม่เข้าใจผู้หญิงเลยจริงจริ๊ง
    “โอ๋ๆๆ ผมขอโทษนะ ผมขอถามอะไรคุณอย่างหนึ่งได้ไหม......พ่อแม่คุณอยู่ที่ไหนล่ะครับตอนนี้”
    “ป๊ะป๋ากับหม่ามี้ของฉันน่ะเหรอ -^- ป่านนี้คงดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์อย่างมีความสุข โดยทิ้งลูกเต้าเอาไว้ที่ญี่ปุ่น ให้อยู่ในโรงพยาบาลเหม็นเน่านี่ งอนป๊ะป๋ากะหม่ามี้แล้ว ToT”
    “เอ่อ...คุณพ่อคุณแม่ของมิกิจัง นี่คือ คุณชาย อิจิโกะกับคุณหญิง ซายากะน่ะเหรอครับ”
    “ใช่แล้วค่ะ...เอ๊ะ!ว่าแต่คุณรู้จักชื่อป๊ะป๋ากับหม่ามี้ของฉันได้ไงเนี่ย หรือว่า....OoO คุณเตรียมแผนการที่จะลักพาตัวลูกสาวสุดสวยของป๊ะป๋ากับหม่ามี้ไปเพื่อเรียกค่าไถ่ 10ล้านเยน แล้วแผนล่มจนต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะถูกรถชนง้นเหรอ!”
    “0o0!.....ก๊ากๆๆๆๆ”
    ตาบ้านี่ หัวเราะทำไมเนี่ย ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ -*- เชอะ! หัวเราะฉันอีกแล้ว คราวนี้ไม่สนใจแล้วจริงๆด้วย
    “นี่ๆ หัวเราะอะไรยะ!-*-+++” ทั้งๆที่ฉันพูดไปแล้ว นายนั่นก็ยังไม่ยอมหยุดหัวเราะ ฮึ่ยย!
    “ฮะๆๆ เธอนี่ช่างเป็นคนที่...ฮะๆๆ จินตนาการเก่งเหลือเชื่อเลย กั๊กๆๆ”
    “-*-...นี่ๆ แล้วตกลงรู้จักป๊ะป๋ากับหม่ามี้ของฉันได้ไงล่ะ”พอเขาเริ่มหยุดหัวเราะฉันก็ชิงถามเขาทันที
    “คุณนี่ถามอะไรแปลกๆนะ คุณพ่อคุณแม่ของคุณเป็นนักธุรกิจชื่อดังของประเทศญี่ปุ่นไม่ใช่เหรอ ? แล้วแถมยังเป็นมหาเศรษฐีอันดับต้นๆของโลกเลย คุณนี่ซื่อบื้อจัง” ประโยคสุดท้าย ดูเหมือนว่าเขาตั้งใจจะลดเสียงลง ทำให้ฉันไม่ได้ยินประโยคนั้น
    “ว่าไงนะ ประโยคสุดท้ายน่ะ พูดใหม่สิ?”
    “เปล่าคร้าบ ไม่มีอะไรคร้าบบ แล้วอีกอย่างนะครับ คุณพ่อคุณแม่ของคุณเนี่ยทำอะไรก็เป็นข่าวไปหมดแหละครับ ^o^ รวมทั้งการเดินทางไปมัลดีฟส์ของพวกท่านที่ไปฮันนีมูนกันนั่นก็เป็นข่าวอีกอย่างหนึ่งด้วยนะครับ”
    นั่นสินะ แต่ถึงแม้ว่าพวกท่านจะเป็นเจ้าของธุรกิจร้อยล้านหรือเป็นมหาเศรษฐีอันดับต้นๆของโลก พวกท่านก็ไม่เคยปล่อยให้ฉันต้องอยู่อย่างไร้ความอบอุ่น พวกท่านเลี้ยงดูฉันเองมาตลอด โดยไม่ค่อยพึ่งพาพี่เลี้ยงเท่าไหร่เลย จะจำใจพึ่งพี่เลี้ยงก็ตอนที่พวกท่านต้องไปทำธุระที่ต่างประเทศนั่นแหละ
    นึกไปนึกมา ดันไปนึกถึงเคนคุงเฉยเลย ^-^ เคนคุงเป็นเพื่อนสมัยเด็กเพียงคนเดียวของฉัน เพราะสมัยก่อนน่ะนะ  ฉันไม่ค่อยได้ไปโรงเรียนเท่าไหร่เนื่องจาก ร่างกายที่ไม่ค่อยแข็งแรง เป็นพวกหอบอะไรแบบนี้ล่ะนะ ถึงตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่  -*- พอฉันเดินเข้าไปโรงเรียนอนุบาล ที่ฉันเคยอยู่ เคนคุงจะวิ่งเข้ามาหาฉันทันทีเลย พอเข้าชั้นประถม พวกเราทั้งคู่ก็ยังเรียนด้วยกัน.....จนกระทั่ง จบชั้นประถม เขาก็ต้องไปเรียนต่างประเทศ 3ปี แล้วเขาให้สัญญากับฉันว่า เขาจะกลับมาหาฉัน โดยให้แหวนไว้วงหนึ่งเอาไว้ .
    “นี่....-*- เธอยิ้มอะไรของเธอน่ะ”
    ตาบ้านี่!ขัดจังหวะได้ทุกโอกาสเลยนะ เอ...แต่จะว่าไปแล้ว ฉันก็เคยขัดจังหวะเขาเหมือนกันนะ
    “ฉันแค่นึกถึงสมัยเด็กๆน่ะ”
    “เพื่อนสมัยเด็กเหรอครับ”
    “นั่นก็ส่วนหนึ่งล่ะ แต่ว่าฉันก็นึกถึงป๊ะป๋ากับหม่ามี้ด้วยนะ”
    “ครับ....แล้วเพื่อนในสมัยเด็กของคุณน่ เขาเป็นคนยังไงเหรอครับ”
    “เขาเหรอ....^-^ เป็นเพื่อนที่ดีมากเลยล่ะ เขาเป็นเพื่อนสมัยเด็กเพียงคนเดียวของฉัน ชื่อว่าเคนคุง เป็นเพื่อนที่น่ารักมากๆเลย แต่พอฉันกับเขาจบชั้นประถมปลาย เขาก็ต้องไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ซึ่งฉันร้องไห้ไปหลายวันเลย ตอนแรกเขาไม่ได้บอกกับฉันเลยว่าเขาจะไป วันที่เขากำลังจะเดินทาง เพื่อนคนนึงมาบอกฉัน ว่าเคนกำลังจะไปอเมริกาแล้ว นั่นแหละ ฉันรีบให้คุณลุงคนขับรถ ไปส่งที่สนามบินเลย ตอนนั้นนะ ทำตัวยังกับนางเอกหนังแน่ะ ฮะๆๆ วิ่งน้ำตานองหน้าตามหาเคนคุงเขา พอหาเจอไม่อายใครกระโดดกอดเลย ฮะๆ ^o^ แล้วก่อนที่เขาจะไป เขาก็ให้แหวนฉันไว้วงหนึ่ง เขาบอกว่าเก็บเอาไว้ให้ดีนะ อยากให้ใส่เอาไว้ตลอดด้วย พอเขากลับมาเขาจะมาดูว่ายังอยู่ไหม”
    “แล้วยังอยู่หรือเปล่าล่ะครับ?”
    “มันเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับฉันมากเลยนะ หายไปก็คงเศร้าใจแย่.......นี่ไง อยู่ที่นิ้วฉันเนี่ย”
    “โห! 0o0 ใส่ไว้ที่นิ้วนางข้างซ้ายอย่างนี้ มันหมายความว่ายังไงหรือเปล่าครับ”
    ดันเห็นอีกนะ ว่าฉันใส่แหวนของเคนคุงไว้ที่นิ้วนางข้างซ้าย
    “แหะๆ เคนคุงเป็นเพื่อนคนแรกของฉัน แล้วก็...เป็นรักแรกของฉันด้วย ถึงตอนนี้ฉันก็ไม่เคยลืมเขาเลย...”
    “แล้วทาคุมะของคุณล่ะครับ?”
    “ทาคุมะน่ะเหรอ ฮะๆๆ เขาแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นแหละ ในชีวิตของฉันอ่ะนะ ฉันพยายามคิดให้เขามาแทนที่เคนคุง แต่ก็ไม่ได้ เพราะเขาไม่ใช่เคนคุง...เอ๊ะ! เฮ้ย!นายรู้ได้ไงเนี่ย เรื่องของทาคุมะกับฉันเนี่ย นายนี่รู้ไปหมดทุกอย่างเลยนะ ฉันชักสงสัยจริงๆแล้วสิ เพราะนายก็ไม่ใช่คนที่ฉันรู้จักมานานแล้ว เพิ่งรู้จักแค่วันเดียว นายรู้ลึกถึงทุกอย่างเลย ได้ไง??”
    “ใจเย็นๆ เธอนี่ เวลาคิดอะไรมากๆ พล่ามออกมาเป็นชุดเลยแฮะ -*-“
    “ไหนลองตอบมาสิ??”
    “แค่ผมรู้เรื่องราวเกี่ยวกับคนที่ผมสนใจ มันแปลกตรงไหนเหรอครับ”
*-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------*
    เวลาเธอทำหน้าอายๆ แบบที่เธอกำลังทำอยู่นี้นั้น มันดูน่ารักมากๆเลย แก้มของเธอพอขึ้นสีแดงมากๆเข้า จะยิ่งทำให้ผมอยากจะเข้าไปหอมแก้มอันนุ่มนิ่มของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ผมต้องระงับใจเอาไว้ เพราะไม่งั้นหัวผมอาจแตกได้ ด้วยนาฬิกาเรือนนั้น -*-
    “///-.-/// นายนี่มัน.....”
    “อะไรเหรอครับ?? ^o^”
    “-*- ช่างเถอะ ว่าแต่ พูดจิงหรือพูดเล่นเนี่ย ฉันถามจริงๆนะ”
    ตาบ้านี่ ไม่ยอมบอกฉันสักที ฉันจะบ้าตายแล้ว ขออย่าให้มันเป็นจริงเล้ยยย!!!
    “พูดจริงสิ เธอนี่ ผมสนใจคุณจริงๆ คุณจะว่าไงล่ะ”
*----------------------------------------------------------------------------------------------------------------*
เป็นไงค้า
ตอนอาจจะสั้นไปนิด
แต่จะพยายามมาอัพให้บ่อยๆนะ
ขอบคุณผู้อ่านที่น่ารักทุกคนค๊า
บทที่ 4
   
    “จริงเหรอ ^-^!! เย้ๆ จะได้กลับไปนอนในห้องสีชมพูสุดสวยของช้านนนแล้วววว.....จะได้กลับไปแช่อ่างอาบน้ำนม อู้ววว ห่างหายไปนานผิวฉันจะเสียไหมเนี่ย ต้องแช่วันเว้นวันซะด้วยสิ เฮ้อ ! o- เออใช่ !แล้วไดอารี่ของฉันล่ะ ToT ไม่ได้เขียนตั้ง 3วันแล้ว....ใช่หรือเปล่า? ฉันสลบไป 3 วันใช่ไหม?”
    “เอ่อ...ใช่ครับ -*- คุณพล่ามอะไรของคุณมากมายเนี่ย”
    “ว่าไงนะ!หาว่าฉันพล่ามเหรอ ฉันแค่พูดเฉยๆนะ ไม่อยากฟังก็ออกไปสิ -^-“
    หนอยแน่! บังอาจมาว่าฉันว่าฉันพล่าม เชอะ! -^- จำไว้นะ ฉันจะไม่พูดกับเขาอีกแล้ว ผู้หญิงก็สนใจเรื่องสวยๆงามๆทั้งนั้นแหละ ไม่เห็นจะต้องบ่นอะไรมากมาย แล้วกับฉัน ยิ่งไม่ค่อยสวยอยู่ด้วย ถ้าไม่ดูแลใบหน้ากับผิวให้ดี แก่แล้วจะทำยังไงล่ะ ! -o- ช่างเป็นผู้ชายที่ไม่เข้าใจผู้หญิงเลยจริงจริ๊ง
    “โอ๋ๆๆ ผมขอโทษนะ ผมขอถามอะไรคุณอย่างหนึ่งได้ไหม......พ่อแม่คุณอยู่ที่ไหนล่ะครับตอนนี้”
    “ป๊ะป๋ากับหม่ามี้ของฉันน่ะเหรอ -^- ป่านนี้คงดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์อย่างมีความสุข โดยทิ้งลูกเต้าเอาไว้ที่ญี่ปุ่น ให้อยู่ในโรงพยาบาลเหม็นเน่านี่ งอนป๊ะป๋ากะหม่ามี้แล้ว ToT”
    “เอ่อ...คุณพ่อคุณแม่ของมิกิจัง นี่คือ คุณชาย อิจิโกะกับคุณหญิง ซายากะน่ะเหรอครับ”
    “ใช่แล้วค่ะ...เอ๊ะ!ว่าแต่คุณรู้จักชื่อป๊ะป๋ากับหม่ามี้ของฉันได้ไงเนี่ย หรือว่า....OoO คุณเตรียมแผนการที่จะลักพาตัวลูกสาวสุดสวยของป๊ะป๋ากับหม่ามี้ไปเพื่อเรียกค่าไถ่ 10ล้านเยน แล้วแผนล่มจนต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะถูกรถชนง้นเหรอ!”
    “0o0!.....ก๊ากๆๆๆๆ”
    ตาบ้านี่ หัวเราะทำไมเนี่ย ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ -*- เชอะ! หัวเราะฉันอีกแล้ว คราวนี้ไม่สนใจแล้วจริงๆด้วย
    “นี่ๆ หัวเราะอะไรยะ!-*-+++” ทั้งๆที่ฉันพูดไปแล้ว นายนั่นก็ยังไม่ยอมหยุดหัวเราะ ฮึ่ยย!
    “ฮะๆๆ เธอนี่ช่างเป็นคนที่...ฮะๆๆ จินตนาการเก่งเหลือเชื่อเลย กั๊กๆๆ”
    “-*-...นี่ๆ แล้วตกลงรู้จักป๊ะป๋ากับหม่ามี้ของฉันได้ไงล่ะ”พอเขาเริ่มหยุดหัวเราะฉันก็ชิงถามเขาทันที
    “คุณนี่ถามอะไรแปลกๆนะ คุณพ่อคุณแม่ของคุณเป็นนักธุรกิจชื่อดังของประเทศญี่ปุ่นไม่ใช่เหรอ ? แล้วแถมยังเป็นมหาเศรษฐีอันดับต้นๆของโลกเลย คุณนี่ซื่อบื้อจัง” ประโยคสุดท้าย ดูเหมือนว่าเขาตั้งใจจะลดเสียงลง ทำให้ฉันไม่ได้ยินประโยคนั้น
    “ว่าไงนะ ประโยคสุดท้ายน่ะ พูดใหม่สิ?”
    “เปล่าคร้าบ ไม่มีอะไรคร้าบบ แล้วอีกอย่างนะครับ คุณพ่อคุณแม่ของคุณเนี่ยทำอะไรก็เป็นข่าวไปหมดแหละครับ ^o^ รวมทั้งการเดินทางไปมัลดีฟส์ของพวกท่านที่ไปฮันนีมูนกันนั่นก็เป็นข่าวอีกอย่างหนึ่งด้วยนะครับ”
    นั่นสินะ แต่ถึงแม้ว่าพวกท่านจะเป็นเจ้าของธุรกิจร้อยล้านหรือเป็นมหาเศรษฐีอันดับต้นๆของโลก พวกท่านก็ไม่เคยปล่อยให้ฉันต้องอยู่อย่างไร้ความอบอุ่น พวกท่านเลี้ยงดูฉันเองมาตลอด โดยไม่ค่อยพึ่งพาพี่เลี้ยงเท่าไหร่เลย จะจำใจพึ่งพี่เลี้ยงก็ตอนที่พวกท่านต้องไปทำธุระที่ต่างประเทศนั่นแหละ
    นึกไปนึกมา ดันไปนึกถึงเคนคุงเฉยเลย ^-^ เคนคุงเป็นเพื่อนสมัยเด็กเพียงคนเดียวของฉัน เพราะสมัยก่อนน่ะนะ  ฉันไม่ค่อยได้ไปโรงเรียนเท่าไหร่เนื่องจาก ร่างกายที่ไม่ค่อยแข็งแรง เป็นพวกหอบอะไรแบบนี้ล่ะนะ ถึงตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่  -*- พอฉันเดินเข้าไปโรงเรียนอนุบาล ที่ฉันเคยอยู่ เคนคุงจะวิ่งเข้ามาหาฉันทันทีเลย พอเข้าชั้นประถม พวกเราทั้งคู่ก็ยังเรียนด้วยกัน.....จนกระทั่ง จบชั้นประถม เขาก็ต้องไปเรียนต่างประเทศ 3ปี แล้วเขาให้สัญญากับฉันว่า เขาจะกลับมาหาฉัน โดยให้แหวนไว้วงหนึ่งเอาไว้ .
    “นี่....-*- เธอยิ้มอะไรของเธอน่ะ”
    ตาบ้านี่!ขัดจังหวะได้ทุกโอกาสเลยนะ เอ...แต่จะว่าไปแล้ว ฉันก็เคยขัดจังหวะเขาเหมือนกันนะ
    “ฉันแค่นึกถึงสมัยเด็กๆน่ะ”
    “เพื่อนสมัยเด็กเหรอครับ”
    “นั่นก็ส่วนหนึ่งล่ะ แต่ว่าฉันก็นึกถึงป๊ะป๋ากับหม่ามี้ด้วยนะ”
    “ครับ....แล้วเพื่อนในสมัยเด็กของคุณน่ เขาเป็นคนยังไงเหรอครับ”
    “เขาเหรอ....^-^ เป็นเพื่อนที่ดีมากเลยล่ะ เขาเป็นเพื่อนสมัยเด็กเพียงคนเดียวของฉัน ชื่อว่าเคนคุง เป็นเพื่อนที่น่ารักมากๆเลย แต่พอฉันกับเขาจบชั้นประถมปลาย เขาก็ต้องไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ซึ่งฉันร้องไห้ไปหลายวันเลย ตอนแรกเขาไม่ได้บอกกับฉันเลยว่าเขาจะไป วันที่เขากำลังจะเดินทาง เพื่อนคนนึงมาบอกฉัน ว่าเคนกำลังจะไปอเมริกาแล้ว นั่นแหละ ฉันรีบให้คุณลุงคนขับรถ ไปส่งที่สนามบินเลย ตอนนั้นนะ ทำตัวยังกับนางเอกหนังแน่ะ ฮะๆๆ วิ่งน้ำตานองหน้าตามหาเคนคุงเขา พอหาเจอไม่อายใครกระโดดกอดเลย ฮะๆ ^o^ แล้วก่อนที่เขาจะไป เขาก็ให้แหวนฉันไว้วงหนึ่ง เขาบอกว่าเก็บเอาไว้ให้ดีนะ อยากให้ใส่เอาไว้ตลอดด้วย พอเขากลับมาเขาจะมาดูว่ายังอยู่ไหม”
    “แล้วยังอยู่หรือเปล่าล่ะครับ?”
    “มันเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับฉันมากเลยนะ หายไปก็คงเศร้าใจแย่.......นี่ไง อยู่ที่นิ้วฉันเนี่ย”
    “โห! 0o0 ใส่ไว้ที่นิ้วนางข้างซ้ายอย่างนี้ มันหมายความว่ายังไงหรือเปล่าครับ”
    ดันเห็นอีกนะ ว่าฉันใส่แหวนของเคนคุงไว้ที่นิ้วนางข้างซ้าย
    “แหะๆ เคนคุงเป็นเพื่อนคนแรกของฉัน แล้วก็...เป็นรักแรกของฉันด้วย ถึงตอนนี้ฉันก็ไม่เคยลืมเขาเลย...”
    “แล้วทาคุมะของคุณล่ะครับ?”
    “ทาคุมะน่ะเหรอ ฮะๆๆ เขาแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นแหละ ในชีวิตของฉันอ่ะนะ ฉันพยายามคิดให้เขามาแทนที่เคนคุง แต่ก็ไม่ได้ เพราะเขาไม่ใช่เคนคุง...เอ๊ะ! เฮ้ย!นายรู้ได้ไงเนี่ย เรื่องของทาคุมะกับฉันเนี่ย นายนี่รู้ไปหมดทุกอย่างเลยนะ ฉันชักสงสัยจริงๆแล้วสิ เพราะนายก็ไม่ใช่คนที่ฉันรู้จักมานานแล้ว เพิ่งรู้จักแค่วันเดียว นายรู้ลึกถึงทุกอย่างเลย ได้ไง??”
    “ใจเย็นๆ เธอนี่ เวลาคิดอะไรมากๆ พล่ามออกมาเป็นชุดเลยแฮะ -*-“
    “ไหนลองตอบมาสิ??”
    “แค่ผมรู้เรื่องราวเกี่ยวกับคนที่ผมสนใจ มันแปลกตรงไหนเหรอครับ”
*-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------*
    เวลาเธอทำหน้าอายๆ แบบที่เธอกำลังทำอยู่นี้นั้น มันดูน่ารักมากๆเลย แก้มของเธอพอขึ้นสีแดงมากๆเข้า จะยิ่งทำให้ผมอยากจะเข้าไปหอมแก้มอันนุ่มนิ่มของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ผมต้องระงับใจเอาไว้ เพราะไม่งั้นหัวผมอาจแตกได้ ด้วยนาฬิกาเรือนนั้น -*-
    “///-.-/// นายนี่มัน.....”
    “อะไรเหรอครับ?? ^o^”
    “-*- ช่างเถอะ ว่าแต่ พูดจิงหรือพูดเล่นเนี่ย ฉันถามจริงๆนะ”
    ตาบ้านี่ ไม่ยอมบอกฉันสักที ฉันจะบ้าตายแล้ว ขออย่าให้มันเป็นจริงเล้ยยย!!!
    “พูดจริงสิ เธอนี่ ผมสนใจคุณจริงๆ คุณจะว่าไงล่ะ”
*----------------------------------------------------------------------------------------------------------------*
เป็นไงค้า
ตอนอาจจะสั้นไปนิด
แต่จะพยายามมาอัพให้บ่อยๆนะ
ขอบคุณผู้อ่านที่น่ารักทุกคนค๊า
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น