ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : แรงบันดาลใจ...
ต้องขอเล่าก่อนว่า เดิมทีครอบครัวพี่อยู่ที่เชียงใหม่ พี่เกิดที่เชียงใหม่ครับ ที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พ่อพี่เป็นนักจัดสวนครับ เคยได้ยินพ่อเล่าว่าเมื่อก่อนเรียนภูมิสถาปัตย์แต่พ่อพี่ไม่ปลื้ม เลยเปลี่ยนมาเรียนภูมิทัศน์ แล้วบังเอิญพ่อพี่ก็ไปรู้จักกับอาจารย์หมอ(ปัจจุบันน่าจะเกษียรไปแล้ว) เลยได้ไปจัดสวนรอบๆ อาคารเรียนรวมอาวุธ ศรีสุกรี และรอบๆอาคารสุจิณโณ สมัยนั้นแม่พี่เค้าอุ้มท้องพี่อยู่ไง555+++ (คงเป็นแรงบันดาลใจตั้งแต่ในท้อง)
แต่พี่ดันคลอดก่อนกำหนดซะงั้น เห็นแม่บอกว่าได้เข้าตู้อบด้วย(คงได้ผ่านการทำกายภาพบำบัด จากรุ่นแรกๆของ มช.) จากนั้นเลยต้องเข้า รพ.บ่อยๆ(ก็แค่ตอนเด็กเท่านั้น) มันคงเลยกลายเป็นความผูกพันกะ รพ.มั้ง ตั้งแต่เด็กเลยรู้สึกว่าชอบ รพ.มากกกกกกก
หลายปีผ่านไป....ความชอบของคนเราคงเปลี่ยนไปตามกระแสสังคม ตามสิ่งแวดล้อม ตามเพื่อน ตามใจพ่อแม่ จนเราอาจลืมจุดยืนของเราไป...พี่ก็เป็นคนนึงที่เป็นอย่างนั้น...พอขึ้น ม.ปลาย พี่สนใจพวกสิ่งก่อสร้าง ภาพถ่าย เรื่องทางประวัติศาสตร์ต่างๆ พวกศิลปะ
จนทำให้จุดยืนในการเลือกคณะเปลี่ยนจากคณะแพทย์ เป็นวิศวะโยธาบ้างล่ะ ช่างภาพบ้างล่ะ นักเขียนบ้างล่ะ
พอขึ้นม.5 พี่ก็ได้รับการสนับสนุนจากเพื่อน มันบอกพี่ว่า "เฮ้ย..มรึง ลองสอบค่ายโอ ดูมั้ย ได้รู้จักเพื่อนเยอะนะ มีตั้งหลาย รร." พี่เลยลองไปสอบดู เพราะอยากโก้กะเค้าบ้าง(เพื่อนในห้องติดค่ายโอ กันค่อนห้อง ทั้งคณิต ฟิสิกส์ เคมี) พี่เลยลองสอบดู แบบว่า ไม่มีใครติดชีวะ งั้นลองสอบอันนี้ละกัน เพราะในห้องยังไม่มีใครเคยติดค่ายนี้
ผลปรากฏว่า พี่ติดค่ายโอชีวะ...(ในใจก็คิดว่า ติดได้ไงวะ หนังสือใช่จะเคยอ่าน)
จากการไปค่ายโอ ทำให้รู้ว่า ทุกวันที่เราเรียน เล่น แล้วเราได้เกรดดีๆนั้น เรามองโลกแคบมาก เพราะยังมีคนอื่นที่เทพกว่าเรามาก บางคนนั้นเรียกได้ว่าเป็นองค์ ทางชีวะเลยทีเดียว ได้ไปเข้าค่าย 20 วัน พี่ได้เรียน lecture แบบมหาลัย ได้ทำแลป ปี 1 ของ ม.บู(บูรพา) แล้วก็สอบcompre(สอบรวบยอด) ปรากฏว่า พี่ติดสำรองรอบสอง เพราะคะแนนขาดไป 0.3 หรือไงเนี่ย เพื่อนคนที่เป็นองค์ในค่ายก็บอกพี่ว่า จริงๆแล้วมันสังเกต พี่มาตลอดตั้งแต่วันแรก มันบอกว่า วิชาพวก ไวรัส พวกที่เกี่ยวกับร่างกายพีมักจะได้คะแนนสูงๆ มันบอกว่าถ้าจะเปลี่ยนใจอยากเรียนหมอตอนนี้ยังทันนะ...ทำให้พี่เริ่มกลับมาทบทวนตัวเองอีกครั้ง...
จากการไปค่ายครั้งนั้นทำให้พี่กลับมาจุดยืนของตัวเองได้อีกครั้ง เพราะว่าสิ่งต่างๆที่ผ่านเข้ามาทำให้พี่คิดได้ว่ามันเป็นเพียง
"ความหลงใหล" เท่านั้น ซึ่งความหลงใหล เราสามารถทำมันได้อีกในอนาคต แต่การเรียนในคณะที่เรารักนั้น ต้องเรียกว่ามันคือชีวิตเรา ในอีก 60 ปีข้างหน้า เพราะเราต้องอยู่กับมันตลอดเวลา และทุกๆวัน...พอคิดได้อย่างงั้น ก็จงทำวันนี้ให้ดีที่สุด และทำอย่างเต็มความสามารถ จะได้ไม่มาเสียใจภายหลัง...อย่างพี่555++
แต่พี่ดันคลอดก่อนกำหนดซะงั้น เห็นแม่บอกว่าได้เข้าตู้อบด้วย(คงได้ผ่านการทำกายภาพบำบัด จากรุ่นแรกๆของ มช.) จากนั้นเลยต้องเข้า รพ.บ่อยๆ(ก็แค่ตอนเด็กเท่านั้น) มันคงเลยกลายเป็นความผูกพันกะ รพ.มั้ง ตั้งแต่เด็กเลยรู้สึกว่าชอบ รพ.มากกกกกกก
หลายปีผ่านไป....ความชอบของคนเราคงเปลี่ยนไปตามกระแสสังคม ตามสิ่งแวดล้อม ตามเพื่อน ตามใจพ่อแม่ จนเราอาจลืมจุดยืนของเราไป...พี่ก็เป็นคนนึงที่เป็นอย่างนั้น...พอขึ้น ม.ปลาย พี่สนใจพวกสิ่งก่อสร้าง ภาพถ่าย เรื่องทางประวัติศาสตร์ต่างๆ พวกศิลปะ
จนทำให้จุดยืนในการเลือกคณะเปลี่ยนจากคณะแพทย์ เป็นวิศวะโยธาบ้างล่ะ ช่างภาพบ้างล่ะ นักเขียนบ้างล่ะ
พอขึ้นม.5 พี่ก็ได้รับการสนับสนุนจากเพื่อน มันบอกพี่ว่า "เฮ้ย..มรึง ลองสอบค่ายโอ ดูมั้ย ได้รู้จักเพื่อนเยอะนะ มีตั้งหลาย รร." พี่เลยลองไปสอบดู เพราะอยากโก้กะเค้าบ้าง(เพื่อนในห้องติดค่ายโอ กันค่อนห้อง ทั้งคณิต ฟิสิกส์ เคมี) พี่เลยลองสอบดู แบบว่า ไม่มีใครติดชีวะ งั้นลองสอบอันนี้ละกัน เพราะในห้องยังไม่มีใครเคยติดค่ายนี้
ผลปรากฏว่า พี่ติดค่ายโอชีวะ...(ในใจก็คิดว่า ติดได้ไงวะ หนังสือใช่จะเคยอ่าน)
จากการไปค่ายโอ ทำให้รู้ว่า ทุกวันที่เราเรียน เล่น แล้วเราได้เกรดดีๆนั้น เรามองโลกแคบมาก เพราะยังมีคนอื่นที่เทพกว่าเรามาก บางคนนั้นเรียกได้ว่าเป็นองค์ ทางชีวะเลยทีเดียว ได้ไปเข้าค่าย 20 วัน พี่ได้เรียน lecture แบบมหาลัย ได้ทำแลป ปี 1 ของ ม.บู(บูรพา) แล้วก็สอบcompre(สอบรวบยอด) ปรากฏว่า พี่ติดสำรองรอบสอง เพราะคะแนนขาดไป 0.3 หรือไงเนี่ย เพื่อนคนที่เป็นองค์ในค่ายก็บอกพี่ว่า จริงๆแล้วมันสังเกต พี่มาตลอดตั้งแต่วันแรก มันบอกว่า วิชาพวก ไวรัส พวกที่เกี่ยวกับร่างกายพีมักจะได้คะแนนสูงๆ มันบอกว่าถ้าจะเปลี่ยนใจอยากเรียนหมอตอนนี้ยังทันนะ...ทำให้พี่เริ่มกลับมาทบทวนตัวเองอีกครั้ง...
จากการไปค่ายครั้งนั้นทำให้พี่กลับมาจุดยืนของตัวเองได้อีกครั้ง เพราะว่าสิ่งต่างๆที่ผ่านเข้ามาทำให้พี่คิดได้ว่ามันเป็นเพียง
"ความหลงใหล" เท่านั้น ซึ่งความหลงใหล เราสามารถทำมันได้อีกในอนาคต แต่การเรียนในคณะที่เรารักนั้น ต้องเรียกว่ามันคือชีวิตเรา ในอีก 60 ปีข้างหน้า เพราะเราต้องอยู่กับมันตลอดเวลา และทุกๆวัน...พอคิดได้อย่างงั้น ก็จงทำวันนี้ให้ดีที่สุด และทำอย่างเต็มความสามารถ จะได้ไม่มาเสียใจภายหลัง...อย่างพี่555++
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น