ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Kissing U [LJ]

    ลำดับตอนที่ #5 : Our.......Kiss......❤ ❤ ❤

    • อัปเดตล่าสุด 22 เม.ย. 57








     


     






    ...............................





     

    “ฮื้อ  ฮ๊าาววววว”  ผมบิดขี้กียจเมื่อรู้สึกตัวว่าเช้าแล้ว  แต่เอ๊ะ  อะไรหนักๆบนหน้าท้องวะ  ผมผงกหัวขึ้นดูก้เจอกับหัวทุยหลับปุ๋ยหนุนอยู่บนท้องผม  หึๆ  แกไม่เปลี่ยนเลยจริงๆนะไอ้เหลือก  ทีแรกก้ว่าจะนอนคนละเตียงแต่เราชินที่จะนอนด้วนกันมากกว่าเราเลยนอนด้วยกันและมันก้จบเหมือนเดิมแต่คนละท่า?  ก้อแต่ก่อนมันจะเอาขาก่ายผมไม่ก้ทับผมทั้งตัว  แต่ตอนนี้มาแค่หัว  ผมขยี้กลุ่มผมนุ่มเบาๆอย่างนึกเอ็นดู  แล้วจัดท่านอนให้มันใหม่  ส่วนคนตัวเล็กก้ไอ้แต่ครางอื้ออึงในรำคออย่างขัดใจที่ถูกรบกวน   แล้วผมก้เข้าไปอาบน้ำในห้องครัว? [แจ้เกรียนได้ตั้งแต่ตื่น  แต่รู้สึกด้ยินอะไรตก  ดังแป้ก???]

     

    ........................

     

     

    “คยองซู............”  ผมกำลังเช็ดผมแล้วเรียกปลุกร่างเล็กที่ยังหลับอยู่บนเตียง

     

    “.........................”  มันดิ้นหันไปอีกฝั่ง

     

    “ดีโอ.......................”  ผมทาครีมแล้วเรียกมันอีกที

     

    “............อือ.................”  ครางตอบแต่ไม่ขยับ

     

    “ดีโด้......................”  ผมแต่งตัวเสร็จแล้วมานั่งตบบ่ามันเบาๆ

     

    “อ  หืม”   มันมุดมาซบที่ตักผม  หึ!!!  เออออ  แกมันน่ารัก   แต่มันคงจะดีถ้าคนที่ทำอย่างนี้เป็นอีกคน  เผลออีกแล้ว  ไม่ๆ  ผมสลัดความคิดนั้นออก

     

    “เขี้ยวกุด    ตื่นดิว๊า”  ผมเริ่มเขย่ามัน

     

    “อื้อ   งืมๆๆ  แป๊ปๆๆ”   มันผงกหัวมองผมงัวเงียแล้วฟุบหลับต่อ

     

    “เหลือกครับ   -รึงไม่ลุกกุจะขังไว้ในห้องนะครับ  เพราะวันนี้กุมีงานทั้งวันครับ”   ผมถีบมันตกเตียง  ดังโครมทันที   ปลุกยากปลุกเย็นวุ้ย  แล้วผมก้เดินออกมาไม่ได้สนใจกับเสียงด่าโลกถล่มของคนข้างหลัง  หึๆ  สะจายยยย [แจ้รุนแรงอ่ะ ^^;]

     

    “ฮิมฮยอง  ทำไรกินอ่ะ”  ไม่ใช่ผมครับแด้ครับไอ้แด้ถามม๊าฮิม

     

    “ไม่ทำ  ไม่มีรมณ์”  ม๊าฮิมหน้ามึนตอบ

     

    “อ้าว  แล้วผมจะกินไรอ่ะ”  เด็กชายแด้กำลังร้องให้

     

    “จะโทษ  โทษไอ้แจ้นู้น  เมื่อคืนมันทำไรไม่หลับไม่นอน  รบกวนชาวบ้าน   จะพาเมียมา กกหัดเกรงใจคนข้างห้องมั่ง   เสียงดังอยู่ได้”  อ้าวม๊า  ม๊าก้ไม่ถูกนะ  เอ๊ะ   เอาเมียมา กก????  เสียงดัง????    เอาซะติดเรท

     

    “อ้าว ม...ฮยอง  พูดผิดพูดใหม่นะ  เมียใหน??? ไอ้เหลือกอ่ะหรอ   เหอะ!!!  ตลกไปอีกสิบชาติ  แล้วที่เสียงดังน่ะแค่หยอกกันครับคิดไร”   ผมว่าแล้วจะเดินเข้าห้อง

     

    “ชั้นก้ว่างั้นนะ”  เสียงใอ้แด้เข้าข้างผม  ผมเลยหันไปยิ้มให้มัน  แล้วยักคิ้วให้

     

    “ขอบใจว่ะเพื่อน”  แล้วผมก้ยกมือจะไฮไฟท์กับมันซะหน่อย  แต่มันทำหน้ามึนแล้วต่อประโยคที่ทำให้ผมอยากจับหัวมันโขกใส่เหลี่ยมเสาซักสิบรอบ

     

    “เพราะชั้นว่าแกน่ะ  เหมาะจะโดนกินมากกว่าจะกินใครตะหากล่ะ 555  มันพูดแล้ววิ่งเข้าห้องไป

     

    หนอยยยยไอ้ดำ!!!!!

     

    “แล้ว...........จุนฮงมายังครับ”  ผมหันไปถามม๊าฮิมอีกครั้ง   แล้วก้เห็นบังฮยองออกมาจากห้อง

     

    “ยังนะ  ยังไม่เห็นเลย   อ้าวตื่นแล้วหรอ”  ม๊าหันไปทักบังฮยอง  ผมเลยเดินเข้าห้อง  ไม่อยากเห็นหน้าบางคน

     

    “ยองแจ”   บังฮยองเรียกผม  ผมหันกลับไปมองแล้วเดินเข้าห้องทันที

     

    คลิ๊ก

     

    “หมูๆ   เช็ดผมให้หน่อยดิ”   เหลือกมันใช้ผมแล้วเอาหัวทุยๆดันมาให้ผมตรงหน้า 

     

    “เหลือก  ชั้นถามไรหน่อย”   ผมถามพลางเช็ดหัวมันไปด้วย

     

    “ไร”  มันทาครีมของผมต่อไป

     

    “แกว่าชั้นหล่อป่ะวะ”  หัวทุยในมือผัมส่ายไปมา  นี่แกไม่คิดจะหยุดคิดเลยใช่มั้ยไอ้เหลือก

     

    “ไม่ว่ะ   คิดไงถามวะ”  มันหันมาถามผมที่ทำหน้าอึนๆอยู่

     

    “เหอะ!!!!  เอาตาใหนมอง  กุออกจะหล่อ  ไอ้เหลือก”  ผมเช็ดหัวมันแรงๆ

     

    “เบาดิว้อย   หัวคนนะ   จะหลุดแล้วเนี่ย”

     

    ผลัก!!!!

     

    ตึง!!!!

     

    ไอ้เขี้ยวเหลือกมันถีบผม   อย่างแรงแต่เพราะผมยังจับหัวมันอยู่เลยส่งผลให้เราล้มมาทับกัน????  ผมโดนทับตะหาก   มันจะลุกมาตีผมต่อ   ผมเลยกอดมันไว้

     

    “ปล่อยกุตะฆ่าม-รึง  ปล่อยยยยยย”  มันดิ้น  ผมเลยกอดแน่นขึ้น

     

    “ปล่อยม-รึงกุก้ตายดิ”  มันเลยหยุดดิ้น

     

    “ถามไรหน่อย”  เมื่อเห็นมันหยุดดิ้นผมเลยถามมันอีก

     

    “มองกุมุมนี้กุหล่อมั้ย  แบบดูเมะขึ้นมั้ย”  มันก้มหน้าซบอกผมตัวสั่นๆ  เฮ้ยอย่าบอกนะมันหวั่นไหวกับผม  ผมเลยปล่อยมัน  แล้วจับหน้ามันขึ้นมามอง

     

    “อุ๊บ!!!  กร๊ากกกกกกก 5555555   มันระเบิดเสียงหัวเราฟ้าถล่มออกมา  เฮ้ย  มันเพี้ยนแล้วหรอวะ  สงสัยที่ตัวสั่นมันต้องอดต้องกลั้นมามากแน่ๆ  ตลกตรงใหนกุซีเรียสนะเว่ย

     

    “เอาดีๆดิ  กุอยากรู้”  ผมทำหน้าจริงจัง

     

    5555  อะ  อืมๆ  หึกๆๆๆ  อึก   วันนี้ผีเข้าสิงแกหรอวะ  อกหักจนเพี้ยนรึป่าว   รึว่าเป็นใข้  ไหงมาถามเรื่องติ๊งต๊องได้ขนาดนี้วะ”  มันไม่ตอบแต่ตบกลับด้วยคำถามแสบๆ

     

    “ก้.......”  ผมเล่าเหตุการณ์เมื่อเช้าให้มันฟัง  มันก้เลยพยักหน้ายิ้มๆ  เหมือนกลั้นหัวเราะเต็มประดา

     

    “ก้ถูกของมันนะเว่ย  555  ถ้าถีบไอ้เหลือกผมจะโดนรุมมั้ยครับ [โดน!!!]  ได้ยินเสียงแว่ว  ไม่ถีบดีกว่าสังหรณ์ไม่ดี  [รอดไป]

     

    “อย่าเอาแต่หัวเราะ  ตอบ”  ผมชักสีหน้า

     

    “แกรู้มั้ยทั้งที่เราต่างก้ชอบผู้ชายด้วยกันและแกกับชั้นสนิทกันขนาดนี้แล้ว  ทำไมถึงไม่กินกัน”   ผมส่ายหัว

     

    “แล้วแกว่าชั้นหล่อป่ะ”   ผมส่ายหัว

     

    “เด็กนั่นล่ะ”  ผมยิ้มแล้วพยักหน้า

     

    “รู้ยังเพราะไร”  มันถามผมกลับ

     

    “เพราะแกน่ารัก  ส่วนมันหล่อไง”  มันโบกผมไปทีนึงอย่างแรง

     

    “เพราะแกกับชั้นเป็นเหมือนกันตะหากเว้ย”  มันว่า

     

    “เหมือนยังไงต่างกันริ๊บ  แกน่ารักจะตาย  ชั้นมากโค-รตแมน”  ผมว่าแล้วทำหน้าหล่อ

     

    “เฮ้ยพวกแกทำไรกันอ่ะ”  ไอ้แด้เดินเข้ามาไม่บอกไม่กล่าวทำเอาซะตกใจ  แต่เอ๊ะ   ผมนอนอยู่พื้นอยู่หรอ  ใอ้เหลือกก้เหมือนจะพึ่งรู้ตัวเลยลุกจากการนอนทับแขนผมอยู่

     

    “ก้  ช่างมันเถอะ    เข้ามามีไรวะ”  ผมถามมันเก้อๆ

     

    “กินข้าวก่อน  อย่าพึ่งกินกัน”  มันมองไอ้เหลือกตาวาวแล้วเดินออกไป  ผมเลยหันไปมันบ้าง  สภาพคือ   มันลืมติดกระดุมสองเม็ดบนสภาพเลยส่อไปทางติดเรทหน่อย

     

    “ติดกระดุมดีๆดิวะ  เค้าเข้าใจผิดกันทั้งบ้านแล้ว”  ผมบ่นให้มันก่อนจะติดกระดุมให้  แล้วพากันเดินกอดคอกันออกห้องไป

     

    “ใหนฮิมฮยองบอกไม่ทำไง”  ผมถามออกไปทั้งที่ตัวยังไม่ถึง   แต่ต้องชะงักเมื่อเห็นว่าคนอีกคนนั่งมองผมด้วยสายตาเย็นชา   ที่โต๊ะอาหาร 

     

    “จุนฮง”  ผมผลักเพื่อนรักร่างเล็กออกจากอ้อมกอดทันที

     

    “โอ้ย  เช-รี่ย แจ  แกผลักชั้นไมวะ  เจ็บอ่ะ”  ผมได้สติก้มลงไปมองน้องเหลือกก้เห็นหน้าเบ้ที่กำลังจะร้องให้อยู่รอมร่อ  เลยรีบลงไปโอ๋มันอย่างสำนึกผิด

     

    “โทดทีว่ะ   ไม่เจ็บนะ  คยองซูน้อย”   ผมพยุงคยองซูขึ้นแล้วลูบผมเบาๆปลอบใจ

     

    “ไม่ต้องเลยกุงอลละ”   มันว่าแล้วจะเดินเข้าห้อง  ผมเลยฉุดแขนมันไว้

     

    “งอลไว้ทีหลัง  แกต้องกินข้าวก่อน  ป่ะ”  ผมฉุดมันให้มานั่งข้างๆ  วันนี้ฮิมฮยองทำข้าวต้มกุ้ง  คยองซูมันชอบกุ้งพอดีเลย  เอาใจมันหน่อยละกัน  ผมตักกุ้งในถ้วยให้ใอ้เพื่อนแสนงอน  มันเลยหันมายิ้มน่ารักให้ผม

     

    “จะสวีทอีกนานมั้ย  รีบๆกินได้ละเราต้องทำงานนะ”  ฮิมฮยองว่าขึ้น

     

    “คร๊าบบบบบ”  เรารับคำพร้อมกันก่อนจะหันมายิ้มให้กัน  แล้วรีบโช้ยข้าวลงท้องอย่างรวดเร็ว  ผมพยายามไม่หันไปมองร่างสูงที่มองผมมาโดยตลอด   เพราะยังไม่พร้อมทำสงครามประสาท   อะไรจะเกิดก้ต้องเกิด  อย่างน้อยแค่โดนเกลียด  อย่างมากก้ทรมานต่อไป

     

    ..........................

     

    “เด๋วตอนเย็นเจอกันนะ”   คยองซูแยกออกไปอีกทางเพื่อขึ้นรถกลับหอ

     

     

    “ดูแลตัวเองดีๆนะ   มีไรโทรมาเข้าจั้ย”  ผมกำชับมันก่อนขึ้นรถด้วยความเป็นห่วงก่อนจะขยี้ผมมันเบาๆแล้วขึ้นรถ  ยังไม่วายหันไปมองมันจนลับตาไป

     

    “อาลัยอาวรณ์กันซะจริง  ไม่ไปส่งให้ถึงเตียงเลยล่ะ”   ใอ้แด้จิกกัดผมเบาๆ  ทั้งที่มันนั่งหน้าผมยังอุตส่าหันมากัดผมได้  เอ๊ะ!!!  ถ้ามันนั่งกับออบบี้ และม๊าฮิม   ส่วนเฮียนั่งข้างคนขับ   งั้นผมก้นั่งกับ...........

     

    “จุนฮง”  ผมหันไปมองน้องข้างๆ  เค้ากำลังฟังเพลงและหลับอยู่  คงไม่อยากพูดกับผมแล้วสินะ

     

    “ตกลงแค่เพื่อนจริงหรอวะ”  แด้มันยังไม่จบ

     

    “เออ”  ผมว่าแล้วแบะปากให้มันอย่างหมั่นใส้

     

    “แล้วที่เสียงฮิมฮยองได้ยินเมื่อคืน  และที่ชั้นเจอเมื่อเช้ามันยังไงยังไงนะ”   แด้มันพูดเสียงดัง  จะเอาให้กระจกทะลุรึไงวะ

     

    “ฮิมฮยองได้ยินไร  ส่วนเรื่องเมื่อเช้าอุบัติเหตุเว่ย”  ผมอธิบายความจริง  ที่ดูเหมือนแก้ตัวยังไงไม่รู้

     

    “หรอออ   กระดุมหลุดเลยเนาะ”  มันว่าแล้วหันมายิ้มชั่วร้ายใส่ผม  แกต้องการอะไรวะแด้   

     

     

    ยองแจเงียบไป  โดยม่รู้ว่าคนข้างๆ  ไม่ได้หลับ  ไม่ได้เปิดเพลง   และได่ยินทุกถ้อยคำ.....

     

     

    ....................................................

     

     

    “ถึงแล้วเตรียมตัวลง” บังฮยองพูดขึ้น  ก่อนรถจะจอดแล้วกลุ่มแฟนคลับมากมายก้รอต้อนรับเราอย่างดี

     

    ...................................

     

    “ฮ้า   เหนื่อยเป็นบ้าเลย”  ผมบ่นขึ้นแล้วกระโจนใส่โซฟาตัวยาวใกล้ๆ   เราออกงานแฟนไซด์   นั่งทั้งวันจนก้นระบม   และทั้งวันที่เราไม่ได้คุยกันเลย  นายเกลียดพี่แล้วสินะจุนฮง

     

    ติ๊งต่อง!!!

     

    ออดหน้าห้องดังขึ้นผมหันไปมอง  จุนฮงกำลังเดินไปเปิดประตูผมเลยฟุบหลับต่อ

     

    “ไอ้หมูแจ้!!!!  เสียงใสดังลั่นทำให้ผมสะดุ้งเฮือก  แรงกอดจากด้านหลังทำให้ผมต้องหันมามอง

     

    “ไรวะ”  ผมมุ่ยหน้าขัดใจ  กุจะนอน

     

    “ป่ะอาบน้ำ”  มันเร่งผมแล้วฉุดให้ผมลุก  และเพราะคำพูดตะกี้ทำให้ผมต้องหันไปมองทุกคนที่กำลังมองผมกับคยองซูอยู่  เอาแล้วไง  ผมอยากหายตัวได้ TT

     

    จุนฮงกำลังเดินเข้าห้อง...............

     

     

    …………………………

     

    “ก้ดีแล้วล่ะ  แล้วแกออกมาอย่างนี้มันไม่ว่าหรอ”   หลังจากที่รับฟังมันที่บอกว่าเข้าใจกันแล้วผมก้ดีใจนะ  แต่ก้อดห่วงไม่ได้

     

    “ไคเค้าไม่งี่เง่าหรอกน่า  เออเค้าบอกอยากรู้จักแกว่ะ  เอาไงสะดวกป่าวเราไปทานข้าวกัน”  มันถามผม

     

    “ช่วงนี้ไม่ว่างว่ะ  งานเยอะ”  ผมว่าแล้วล้มตัวนอนหยิบหนังสืออ่านเล่นที่อ่านค้างไว้มาอ่านต่อ

     

    “หรอ   อืม  หมู”  มันเรียกผม

     

    “หืม”  ผมรับคำในลำคอ

     

    “กรณีของแกน่ะ   ชั้นว่าแกน่าจะเข้าไปคุยกะน้องเค้านะ  ดูจากน้องเค้าแล้ว  ชั้นว่า..........”  มันพูดทิ้งไว้แล้วเงียบไปผมเลยหันมามองหน้ามันแล้วชักสีหน้าสงสัยใส่

     

    “ว่า”  ผมลุกมาถามมันทันทีที่เห็นหน้ายิ้มๆของมัน

     

    “มันชอบแก”  หรอ.......นึกว่าอะไร   ห๊ะ !!!

     

    “ไรนะ”   ผมไม่อยากเชื่อ

     

    “เชื่อเหอะ  น้องมันชอบแก”  มันว่าแล้วตบใหล่ผม

     

    “เอาไรมาพูด”  ผมไม่อยากเชื่อจริงๆ

     

    “แล้วแต่นะ”   มันว่า

     

    Rrrrrrrr

     

    “ยอบอเซโย.............. 

    อืม..................... 

    ครับ.....................

    คร๊าบบบ  รับทราบครับ”  ว่าจบคยองซูก้จุ๊บโทรศัพท์    ท่าจะเพี้ยน

     

    “แจ้  ชั้นกลับก่อนนะ  ไคมารับแล้ว”  คยองซูว่าแล้วลุกเตรียมจะไปทั้งที่ใส่ชุดนอนผมอยู่

     

    “ชุดนี้หรอ   แฟนแกไม่ว่าหรอ”  เปล่าหวงชุดครับเดี๋ยวแฟนมันเข้าใจผิดมาแหวกอกผม  ผมจะทำไง

     

    “เออ  ไม่หรอก  บอกแล้วไง  ไคชั้นเข้าใจ”  มันว่าแล้วลากผมออกไปด้วย

     

    “แล้วชุดแกล่ะ”   ผมถามมมันดูเผื่อมันลืมจะไม่เอากลับหรอ

     

    “เอาไว้นี่ล่ะ   ชั้นจะมาหาแกบ่อยอยู่  ฝากซักด้วยล่ะ”  มันว่าแล้วยิ้มน่ารัก   เราเดินออกมาจนถึงห้องรับแขก  ผมเห็นจุนฮงกำลังฟังเพลงเช็ดเสก็ตบอร์ดอยู่  น้องไม่ค้างข้างนอก???   หัวใจผมพองโต  รู้สึกดี  อย่างน้อยเค้าก้กลับมาอยู่ในสายตา  แต่อีกใจก้เจ็บเมื่อนึกได้ว่าน้องคงไม่คุยกับผมเช่นเดิมอยู่ดี

     

    “อ่ะ  ส่งเท่านี้ล่ะ  ไปละ   ฝันดีเว่ย   ฝันถึงชั้นด้วยล่ะ”   มันว่าแล้วจุ๊บแก้มผมไปทีนึง

     

    “ไม่อ่ะ  ไม่อยากฝันร้าย  เออ  เดินทางดีๆให้ถึงห้องล่ะ  ฝันดี  ฝันถึงชั้นด้วย”  ผมว่าต่อแล้วขยี้ผมมันเล่นอีก

     

    “เออน่า   คิดถึงจะโทรหา  แกโทรมา จะมาหาทันที  โอเช๊”  มันว่าแล้วเดินออกไป  ผมรอมันเข้าลิฟจนประตูลิฟปิดจึงเดินเข้าห้อง

     

    “ล่ำลากันเสร็จแล้วหรอ  นึกว่าจะไปส่งถึงเตียงซะอีก”  จุนฮง  น้องมาอยู่ห้องผมได้ไง  ทำไมไม่เข้าห้องตัวเองไป  แล้วใหนจะคำพูดแดกดันแบบนั้น

     

    “เรื่องของฮยอง  แล้วนายมาทำไรในนี้ล่ะ  กลับห้องนายไปสิ”  ผมถามกลับแล้วล้มตัวอ่านหนังต่อ

     

    “แด้ฮยองใช้อยู่เลยไล่ผมมาน่ะ   ขอนอนด้วยหน่อยนะครับ”  ว่าเสร็จร่างสูงก้ล้มตัวมานอนข้างผมแล้วดึงตัวผมไปกอดไว้   พาลหัวใจผมก้กระตุกเต้นระรัว

     

     

    “เฮ้ย  นายทำอะไรน่ะ  ปล่อยนะ”  ผมว่าแล้วขืนตัวออกสุดแรง  แต่ไม่ช่วยอะไรเลยซ้ำร้ายอ้อมกอดอุ่นยังออกแรงเพิ่มแรงกอดแน่นกระชับขึ้น

     

    “หยุดได้แล้ว”  เสียงกดต่ำของน้องทำให้ผมหยุดนิ่งแล้วมองหน้าน้องอย่างไม่เข้าใจ

     

    “หยุดเดี่ยวนี้เลย”  น้องจ้องตาผมกลับ  ทำให้ผมเห็นตะกอนความโกรธและอะไรบางอย่างในนั้นที่ผมเองก้ไม่เข้าใจ

     

    “หยุดซะที”   น้องยังพูดต่อแล้วกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นอีกจนหน้าผมจะจมเข้ากับอกอุ่นหนาข้างหน้า  จนได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นกระหน่ำของอีกคน  อะไร  หยุดอะไร  นายเป็นอะไรจุนฮง

     

    “นายเป็นอะไรจุนฮง”  ผมเงยหน้าถามน้องที่ตอนนี้เริ่มตัวสั่นและมีน้ำตาคลอหน่วยอยู่  น้องเป็นอะไร

     

    “ทำไมฮยองต้องทำอย่างนี้  ทุกอย่างที่ผ่านมามันคืออะไร”  น้องพูดออกมาเสียงสั่น

     

    “............”  เหมือนกับผมถูกจับได้แล้ว

     

    “จูบผมทำไม   อ่อนโยนทำไม  ใส่ใจทำไม  ถ้าไม่รักกัน  จะทำทำไม”  น้องร้องให้ออกมาแล้วพูดในสิ่งที่เสียดแทงใจผมอยู่

     

    “นายรู้ตัวมาตลอดเลยสินะ”  ผมยิ้มอ่อนโยน   แต่น้องก้ไม่คิดว่าผมรักเลยหรอ   แล้วถ้าไม่รักผมจะทำทำไมไม่คิดบ้างหรอ

     

    “ขอร้องหยุดมันซะ   ถ้าฮยองแค่ล้อเล่น”  อ้อมกอดอุ่นคลายออกแล้วร่าสูงก้ลุกออกไป

     

    “เดี๋ยว  ไอ้เด็กบ้าหยุดนะ”  ผมวิ่งเข้าไปกอดน้องไม่ให้ไป

     

    “มาแล้วเอาแต่พูดๆๆ   แล้วก้ไป  ไม่คิดจะฟังกันเลยรึไง”  ผมว่าพลางน้ำตาไหลอย่างขัดใจ

     

    “ชั้นเป็นคนขี้เล่นขนาดนั้นรึไง   ล้อเล่นหรอ  คิดอะไรบ้าๆ   ชั้นจริงจังนะ   ชั้นแค่เทคแคร์คนที่ชั้นแคร์  ชั้นห่วงคนที่ชั้นรัก   คิดว่าเรื่องอย่างนี้มันล้อเล่นได้หรอ”   จุนฮงนิ่งไปชั่วขณะ

     

    “............”  จุนฮงหันมาสบตากับผมแล้วประคองใบหน้าผมให้สบตาคม  ก่อนที่ใบหน้าหล่อจะเคลื่อนเข้ามาใกล้แล้วสัมผัสนุ่มละมุนที่ริมฝีปากทำให้หัวใจผมมันเต้นระรัวจนแทบจะระเบิดออกมา  จูบที่ไม่มีการลุกล้ำแต่กลับรู้สึกอบอุ่นละมุน  กำลังทำให้ผมเคลิ้ม   ผมพริ้มตารับสัมผัสอ่อนโยนนี้อย่างเต็มใจ

    จุนฮงผละจูบออกอย่างอ้อยอิ่งแล้วกอดผมไว้

     

    “งั้นสัญญากับผมได้มั้ย   จะทำแบบนี้กับผมคนเดียว”  จุนฮงพูดขึ้น

     

    “ชั้นก้ทำกับนายแค่คนเดียวนี่ล่ะ”  ผมก้มหน้าซ่อนความเขินอายแล้วบ่นอุบให้กับอกอุ่น 

     

    “พี่สัญญาแล้วนะ  ถ้าคืนคำ..........”   จุนฮงเงียบไป  จนผมต้องเงยหน้าไปมองก้เจอกับสายตากรุ่มกริ่ม

     

    “จะทำไม”  ผมผละตัวจากอกอุ่นแล้วเดินไปนั่งจุ้มปุ๊กที่เตียง  จุนฮงเดินตามผมมานั่งข้างผม  แล้วดึงผมไปนั่งบนตัก  ก่อนจะกอดผมจากด้านหลังแล้วกระซิบเสียงพร่าข้างหูผม

     

    “พี่จะเจอบทลงโทษที่แสนหวานเหมือนตอนนี้ไง”  อะไรของมันวะ  ลงโทษอะไร  ชั้นทำอะไรผิด   คิดไปได้ไม่ไกลผมก้ถูกจับหน้าให้หันกลับไปรับจูบโดยไม่ทันตั้งตัว   จากความละมุนที่ทำให้ผมเคลิ้มจนต้องตอบรับด้วยการเผยอปากเปิดทางให้อีกคนได้เข้ามาตักตวงความหวาน  กลายเป็นความร้อนแรงที่ทำให้ผมอ่อนระทวยไปทั้งร่างทันที  ซึ่งตอนนี้  ผมกำลังขาดอากาศหายใจ

     

    “อือ  อื้ม”   จุนฮงละออกจากปากผม  แล้วจูบซับไปตามซอกคอผมแผ่วเบา  หัวใจผมกำลังทำงานหนักอุณหภูมิร่างกายกำลังเพิ่มขึ้นจากสัมผัสที่อ่อนโยนของร่างสูงที่มอบให้

     

    “ยองแจฮยอง”  จุนฮงกระซิบที่ข้างหูผม

     

    “หืม”  ผมหอบหายใจหนัก

     

    “รักผมมั้ย”  ผมอยากจะตบกระบานคนถามซักโบก  ถามมาได้ไงรักไม่รัก   ทำขนาดนี้แล้วยังจะถาม???   พูดแล้วเขิน =/////=

     

    “..................”

     

    “ไม่ตอบโดนลงโทษนะ”  จุนฮงเลียริมฝีปากแล้วมองที่ริมฝีปากผม  จนต้องกัดไว้

     

    “ไอ้เด็กทึ่ม  ถามอะไรโง่ๆ   ถ้าไม่รักแล้ว..............แล้ว.............แล้ว..........โว้ยช่างมันแล้ว    เข้าใจอยากขนาดนี้ไม่รักแล้ว”   ผมพูดแล้วลุกออกจากร่างสูงทันที    ได้แค่ยกสะโพกขึ้นเท่านั้นแหละ  แขนหนาก้กอดรั้งผมไว้

     

    “ตอบไม่ตรงคำถามโดนลงโทษ”  จุนฮงว่าแล้วดึงผมไปจูบอีก   ผมขืนตัวออกก้โดนล็อกแถมยังถูกเปลี่ยนท่าให้นั่งตักหันหน้าเข้าหาร่างสูงอีก  งืออออ  เป็นอย่างนี้โดนทำโทษทั้งคืนแน่  คยองซูช่วยกุด้วยยย

     

    [โล่.....แจ้คิดถึงคนอื่น]

     

    (อะไรนะ  ไม่ยอม  อย่างนี้ต้องลงโทษ)

     

    วร๊ากกกก  อิไรท์   แก!!!!  ถ้าพรุ่งนี้ปากชั้นบวมจนออกงานไม่ได้  ชั้นจะไปเผาบ้านแก

     

    [โล่....แจ้บอกเอาอีก]

     

    (จัดให้ครับ หึๆ)

     

    TT  ไม่ถงไม่ถามสุขภาพกุซักคำ

     

     

    ...........................FIN  LANDING.....................


















     

     

     

    ไรท์ :>>>>  จบ?  จริงหรอ???


    เหลืออีกตั้งปมนึงคิดว่าเรื่องมันจะจบง่ายๆหรอ ^^ [อย่าพึ่งตบไรท์นะ  เค้าล้อเล่ง]

    แฮร่

    เจอกันตอนหน้าช่วงสเปเชี่ยวโล่แจนิสๆนะ  ค่อยเจอคู่ต่อไป....

    คู่ใหนดีน๊าาาาา??????




    สองคนนี่แอบหนีไปเที่ยวกันแหละ  แหมมมมมมมมม>>>>



    โอ้ยปลื้มกะความหวานนนนน ^////^

     


    ขอขอบคุณ : themy  butter

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×