ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    cho~shin เปิดหัวใจยัยสองหน้า

    ลำดับตอนที่ #2 : สองสถานที่ กับความแตกต่างของฉัน

    • อัปเดตล่าสุด 13 พ.ค. 49


    ปิ๊บ ปิ๊บ ปิ๊บ ปิ๊บบบบบบบบบ!!!!!!!!!!!!!!!!!...

    " งืม ๆ "
    พลั่ก! เสียงอะไรบางอย่างหล่นลงพื้น และนั่น ก็คือนาฬิกาปลุกของฉันเองนะแหละ
    เสียงนาฬิกาปลุกหายไป ในขณะที่ฉันลืมตาตื่นขึ้น

    ฉันลุกขึ้นมาบิดขี้เกียจ พลางส่องดูเงาสะท้อนของตัวเองในกระจกที่อยู่ตรงข้ามเตียง
    " ทำไมฝันถึงเรื่องเมื่อ 10 ปีก่อนได้ล่ะเนี่ย "
    ฉันลุกจากเตียง เดินแบบไร้ชีวิตชีวาเพื่อไปอาบน้ำ..

    อ่า สวัสดีค่ะ ฉันชื่อโช เป็นสาวน้อย(?)อายุ 17  ฉันอาจดูเหมือนนักเรียนม.ปลายธรรมดา ๆ คนนึง แต่บางสิ่ง ก็ทำให้ฉันเริ่มจะ แปลก ๆ จากธรรมดาไปบ้าง ซึ่งต้นเหตุ ก็มาจากที่บ้านฉันเนี่ยแหละ

    ฉันเดินออกมาจากห้อง ลงบันได แล้วก็ได้ยินเสียงสองเสียงจากห้องครัวที่ทำให้ฉันไม่อยากก้าวเดินต่อ ไม่ใช่เพราะอยากฟังหรอกนะ แต่เป็นเพราะฉันเบื่อจะฟังต่างหาก ขออยู่ไกล ๆ แล้วกัน

    " เฮอะ ! พูดมาได้ ติดต่อลูกค้า คุณเพิ่งจะกลับจากอังกฤษเมื่อวานซืนนี้เอง ทำไมไม่ไปตอนนั้นหละ คุณจะไปจู๋จี๋กับยัยเลขานั่นมากกว่าล่ะสิ "
    " นี่คุณ อย่ามากล่าวหากันนะ ผมไม่ได้ไปกับเลขาซะหน่อย ผมไปกับกลุ่มผู้บริหารต่างหาก คุณนี่ไม่รู้เรื่องอย่ามากล่าวหากันส่งเดชสิ "
    " ใครกล่าวหากัน คุณร้อนตัวล่ะสิ "
    " พอ ๆ ผมไม่อยากเถียงกับคุณแล้ว ผมไปล่ะ "
    นี่คือเสียงของพ่อแม่ฉันเองแหละ ฉันได้ยินพวกท่านทะเลาะกันจนเบื่อแล้ว หัวข้อก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนหรอก ก็แค่เรื่องคุณพ่อกับเลขาสาวสวยนั่นแหละ
    อึดใจต่อมาก็มีเสียงดังปัง เมื่อพ่อผลักประตูเปิดออก แล้วพ่อก็เดินออกจากห้องครัวด้วยสีหน้าฉุนเฉียวสุด ๆ แล้วพ่อก็เดินออกจากบ้านไป โดยที่ไม่สังเกตเห็นฉันเลย

    ฉันถอนหายใจ แล้วเดินไปที่ห้องครัว แล้วฉันก็เจอแม่ ที่มีอารมณ์หงุดหงิดพอ ๆ กับพ่อ นั่งดื่มกาแฟอย่างรวดเร็ว ( ไม่ร้อนเหรอคะ ) แล้วกระแทกถ้วยกาแฟลงบนโต๊ะเสียงดัง
    ฉันไม่สนใจเสียงกระแทก และกำลังรินนมใส่แก้วให้ตัวเองอยู่ เมื่อแม่วางอะไรบางอย่างลงบนโต๊ะ ก่อนจะพูดสั้น ๆ ว่า
    " นี่ เงินของเดือนนี้นะ ตั้งใจเรียนล่ะ ล้างถ้วยกาแฟให้แม่ด้วย " แม่พูดจบแล้วก็ออกจากบ้านไปอีกคน

    ฉันดื่มนมของตัวเองจนหมดอย่างรวดเร็ว ให้ตายสิ ฉันเบื่อชะมัด ทั้งพ่อทั้งแม่นาน  ๆ จะอยู่พร้อมหน้ากันแท้ ๆ แต่ก็เอาแต่ทะเลาะกันอยู่ได้ แรก ๆ ฉันก็คอยห้ามทัพให้พ่อแม่อยู่หรอก แต่หลัง ๆ ฉันเริ่มเบื่อหน่ายซะแล้ว นั่นทำให้ฉันแทบไม่ได้คุยกับพ่อแม่เลยมาเกือบปีแล้วล่ะ  จะคุยก็แค่ตอนจำเป็นจริง ๆ เท่านั้นแหละ ทั้งพ่อทั้งแม่เอง ก็ไม่ค่อยจะคุยกันนักหรอก ถ้าคุยก็คือทะเลาะกันนั่นแหละ...
    ฉันหยิบซองเงินที่แม่โยนไว้บนโต๊ะแล้วหยิบเงินข้างในมาใส่ในกระเป๋าสตางค์ นำแก้วนมของฉันกับถ้วยกาแฟของแม่ไปล้างอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหยิบกระเป๋าแล้วออกจากบ้านไป

    พ่อของฉันเป็นนักธุรกิจ ก็เลยไปต่างประเทศบ่อยๆ ส่วนแม่ของฉันเป็นหมออยู่ที่โรงพยาบาลของคุณตา ( คุณตาฉันก็เป็นหมอที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง ) ตอนฉันยังเด็ก พ่อกับแม่ยังเป็นนักธุรกิจหนุ่มกับคุณหมอสาว ที่งานไม่ยุ่งเท่าไร เราสามคนก็เลยได้อยู่พร้อมหน้ากันบ่อย ๆ แต่2-3 ปีมานี้ ธุรกิจของพ่อขยายตัวขึ้น โรงพยาบาลของคุณตาก็ใหญ่ขึ้น แล้วเมื่อปีก่อนคุณตาเพิ่งเสีย ทำให้แม่เข้ามาเป็นผอ.โรงพยาบาล ทำให้พ่อกับแม่ไม่ค่อยมีเวลาว่างที่จะอยู่พร้อมหน้ากันในครอบครัวมากนัก แล้วพ่อเองก็มักมีข่าวลือว่าไปยุ่งเกี่ยวกับเลขาสาวอยู่บ่อย ๆ นั่นทำให้แม่หงุดหงิดอย่างมาก

    สักพัก ฉันก็มาถึงโรงเรียน บ้านฉันอยู่ห่างจากโรงเรียนไม่มากนัก แค่เดินออกมาจากซอยก็ถึงโรงเรียนแล้ว โรงเรียนฉันเป็นโรงเรียนรัฐบาลที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งใจกลางกรุงเทพ
    " สวัสดีครับ พี่โช "
    ฉันหันไปตามต้นเสียง แล้วยิ้มให้กับเจ้าของเสียงนั้น ซึ่งก็คือรุ่นน้องม.4ที่น่ารักคนหนึ่ง น้องคนนี้มักจะมาทักฉันประจำ
    " สวัสดีจ้ะ กาย "
    ฉันยิ้มให้แบบนางฟ้า (^_^) ก่อนจะเดินจากน้องเค้าไป
    ฉันสังเกตเห็นคนจำนวนหนึ่งมุงดูบอร์ดหน้าห้องวิชาการ สงสัยว่าผลสอบอาทิตย์ก่อนจะออกแล้ว ไปดูดีกว่า
    ฉันเดินไปที่บอร์ดอย่างช้า ๆ ระหว่างทาง ก็มีเพื่อน รุ่นพี่ รุ่นน้องมาทักฉันเรื่อย ๆ
    ไม่ต้องแปลกใจนะว่าทำไมฉันมีคนนู้นคนนี้มาทัก คือเมื่อตอนฉันอยู่ ม.4 ฉันถูกรุ่นพี่จับไปประกวด สาวนักกีฬาตอนงานกีฬาสี แล้วเกิดชนะการประกวดขึ้นมาซะงั้น เลยทำให้ใครต่อใครจำฉันได้ แล้วก็เข้ามาทักฉันเรื่อย ๆ ที่จริงฉันก็จำไม่ค่อยได้นักหรอกว่าใครบ้างที่เข้ามาทัก เพราะฉันเป็นคนจำหน้าคนไม่เก่ง แต่ถ้าเข้ามาทักบ่อย ๆ อย่างน้องกาย ฉันก็พอจะจำได้บ้างล่ะ

    ฉันมาอยู่ที่หน้าบอร์ด แต่พระเจ้า ! (-o-) ฉันมองไม่เห็นง่ะ นายยักษ์ที่ไหนไม่รู้บังฉันซะเต็มจอเลย ฉันชะเง้อคอมองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะมีเสียงสวรรค์เข้ามาช่วย
    " โช ทางนี้ ๆ "
    ฉันรีบหันไปมองอย่างรวดเร็ว แล้วก็พบกับหน้าเพื่อนสุดเลิฟอย่าง รัน เพื่อนที่อยู่ห้องเดียวกันมาตั้งแต่ม .1 เพื่อนที่สนิทที่สุดของฉันล่ะ
    ฉันรีบเดินไปหารัน ซึ่งตอนนี้ยืนอยู่ใต้ตัวอักษร " คะแนนสอบกลางภาค ม.5" แต่พอฉันเดินไปใกล้รัน ฉันก็รู้สึกเสียใจที่เดินมาทางนี้อ่ะ
    พลั่ก ! ยายรันตบหัวช้านอ่ะ ฮือๆ T_T
    " โอ๊ย อะไรเนี่ย ตบหัวช้านทำมายยยยอ่ะ " ฉันโอดครวญ
    " เหอะ น่าหมั่นไส้นักนี่ คะแนนแกคราวนี้พุ่งกระฉูดเลยนะยะ "
    ฉันเงยหน้าขึ้นมองหาชื่อตัวเอง ซึ่งก็หาไม่ยากหรอก มันอยู่อับดับแรกเลยล่ะ เออ คะแนนมันดูดีขึ้นแฮะ แต่มันก็ไม่ทำให้ฉันตื่นเต้นนักหรอก ก็ถึงจะได้คะแนนเท่าไร แต่พ่อกับแม่ฉันก็ไม่สนใจอยู่ดีนี่นา
    " อะไร ได้เท่านี้ ไม่พอใจอีกเหรอแก " ยายรันมองหน้าฉันค้อน ๆ ฉันจะถอนคำพูดที่เรียนมันว่าเพื่อนสุดเลิฟเมื่อกี้ได้มั้ยเนี่ย
    " แล้วรันล่ะ เป็นไงบ้าง " ฉันถามบ้าง ที่จริงยายรันก็เรียนเก่งนะ ติด 1 ใน 10 ตลอดแหละ แต่ก็ยังแพ้ฉันอยู่ดี ( หุ หุ )
    " ไม่ดีเท่าแกหรอก ฉันได้ที่ 6 "
    -o- ได้ที่ 6 แล้วยังโวยวายกับเพื่อนอีกแน่ะ เอาเถอะ โหสิแล้วกัน
    ฉันกับรันถูกคนเบียด ก็เลยหนีออกมาอยู่พ้นรัศมีของบอร์ดประกาศคะแนนสอบ
    " แล้วเรนล่ะ เป็นไงบ้าง " ฉันถามรัน เรนคือพี่ชายฝาแฝดของรัน ที่เก่งกีฬาสุด ๆ เรื่องเรียนก็ไม่แพ้รันหรอก สองคนนี้ผลัดกันแพ้ชนะประจำ
    " ได้ที่ 8 คราวนี้ฉันชนะ เราไปเยาะเย้ยกันเถอะ" รันตอบพลางยิ้มอย่างสะใจ ยัยนี่ชอบการเอาชนะจริง ๆ รันลากฉันไปทางสนามบาส ท่าทางเรนจะเล่นบาสแต่เช้าอีกแล้ว
    " เรน เรน เรนจ๋า " รันพูดแบบดัดเสียง ( ดัดจริตนิด ๆ ) แล้วเดินยิ้ม ๆ ไปหาเรน ( ท่าทางของรันทำให้ฉันนึกถึงภาพ " ซาตานในคราบนางฟ้า" ขึ้นมานิด ๆ แฮะ )
    เรนเองก็ดูเหมือนจะคิดอย่างฉัน ก็เลยโยนลูกบาสให้เพื่อน แล้วเดินมาหารันอย่างระวังตัว ( ก็แหม เวลาปกติ รันไม่เคยเรียกพี่ตัวเองว่า "เรนจ๋า" เลยนี่)
    " มีอะไร มาเยาะเย้ยล่ะสิ ฉันเห็นคะแนนแล้วน่ะ " เรนพูดไปใช้ผ้าเช็ดเหงื่อไป ออกกำลังกายเรียกเหงื่อแต่เช้าเชียวนะ
    รันยิ้มอย่างสะใจ ( เน้นว่าสะใจสุด ๆ )
    " เป็นไง ฉันชนะ 3 ครั้งติดกันแล้วนะ "
    " เหอะ ๆ เธอชนะฉันแค่ 3 คะแนน ยังจะมาอวดอีก ฉันแค่ทุ่มเทกับบาสมากไปหน่อยเท่านั้นเอง ถ้าไม่มีแข่ง ฉันชนะเธอแน่ จริงมั้ยโช ?" จุ่ ๆ เรนก็หันมาถามชั้นซะงั้นน่ะ แต่เอ่อ ... พอเรนหันมา ฉันก็ใจเต้นซะงั้นเหมือนกัน ( ///-_-/// )
    " อ่า ใช่มั้ง แหะ ๆ " ฉันตอบเขิน ๆ ที่จริง เรนเป็นผู้ชายที่หล่อมากเลยนะ ขนาดมีแฟนคลับในโรงเรียนด้วย (  ฉันยังแอบชอบเลย ) รันเองก็เป็นผู้หญิงที่สวยมากเหมือนกัน แต่เห็นอย่างนี้ก็เถอะ ยายรันหวงพี่ชายสุด ๆ คอยกีดขวางพวกแฟนคลับทั้งหลายที่มาเกาะแกะเรน เลยทำให้เรนไม่เคยคบผู้หญิงคนไหนเกิน2 อาทิตย์เลยจนถึงปัจจุบัน โธ่ ! ไม่น่าเป็นอย่างนี้เล้ยยยยยยย T_T เพราะนั่นก็ทำให้ฉันไม่เคยมีแฟนเหมือนกัน ก็ฉันชอบเรนคนเดียวมาตั้งแต่อยู่ม.1แล้วนี่ แต่ก็ไม่กล้าเข้าไปคุยแบบผู้หญิงคนนึงหรอก กลัวรันอ่ะ T^T ว่าแต่ วันนี้แปลกแฮะ ปกติเวลาเรนมาซ้อมบาสตอนเช้าอย่างนี้ จะมีบรรดาแฟนคลับมาคอยแอบดูนี่นา แต่วันนี้ไม่มีแฮะ ..
    " พอเหอะเรน เหงื่อท่วมสุด ๆอย่างนี้ ไปเปลี่ยนเสื้อได้แล้ว วันนี้มีนักเรียนใหม่มานะ เราคงต้องรีบไปเข้าแถวแล้วล่ะ " รันพูด เห็นอย่างนี้ รันเป็นหัวหน้าห้องฉันกับเรนนะ อ้อ ลืมบอกไป เราสามคนอยู่ห้องเดียวกันตั้งแต่ม.1แล้วล่ะ
    สักพัก เรนก็ไปอาบน้ำ แล้วก็มาสมทบกับฉันและรันเพื่อไปเข้าแถวแล้วก็ไปโฮมรูม แต่ระหว่างทางที่จะไปห้องของฉันเนี่ยสิ ทำม้าย ทำไม ถึงได้มีแต่นักเรียนหญิงนะ
    " นี่เรน นายไปทำอะไรให้แฟนคลับมาหาอีกล่ะ " รันถาม มองเรนอย่างจับผิด
    " ฉันไม่ได้ทำอะไรนะ " เรนตอบ ดู งงๆ พอกัน แล้วสักพัก พวกเราก็ได้คำตอบ
    " นี่ ๆ เธอ เห็นรึยัง หล่อสุด ๆ เลยอ่ะ ฉันว่าเค้าหน้าตาคล้าย ๆ ดาราญี่ปุ่นเลยเนอะ ว่ามะ ๆ " เสียงนักเรียนหญิงที่คาดว่า น่าจะเป็นรุ่นน้องดึงดูดความสนใจเราสามคน
    " ใช่ ๆ หล่อมาก ๆ เลยอ่ะ เผลอ  ๆ จะหล่อกว่าพี่เรนที่อยู่ 5/6อีกนะ ว่ามั้ย " รุ่นน้องอีกคนตอบ สงสัยน้องเค้าจะไม่สังเกตเห็นพวกเราแฮะ
    " อะไรกัน จะมีใครหล่อกว่าชั้นอีกล่ะเนี่ย " เรนพูด ทำเอาน้อง ๆ สองคนหันมายิ้มแหย ๆ ให้ ก่อนจะชี้มือไปทางห้องของพวกฉัน
    " เอ่อ พี่เรน คะ ขอโทษค่ะ คือนักเรียนใหม่ห้องพี่นะคะ หนูว่าพี่ไปดูเองดีกว่านะคะ " น้องคนนึงใจกล้าตอบ แล้วรีบเผ่นหนีไปด้วยความเร็วแสง
    พวกฉันสามคนรีบไปที่ห้องอย่างด่วน โดยเฉพาะเรน ที่ดูจะหงุดหงิดมากที่มีคนมาฉุดเรตติ้ง ตาเนี่ย หลงตัวเองไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว นั่นเป็นสิ่งเดียว ที่ฉันว่ารันกับเรนมีเหมือน ๆ กัน ก็รันเองก็หลงตัวเองพอ ๆ กันนี่นา
    พอฉันไปถึงหน้าห้อง ฉันก็รู้ทันทีว่าทำไมนักเรียนหญิงถึงมีมากนัก ก็ขนาดอาจารย์ ( ผู้หญิง ) ยังมาดูด้วยเลยนี่นา
    " ฮะ ๆ อืม เธอนี่พูดภาษาไทยเก่งจังนะ เพิ่งมาจากญี่ปุ่นไม่ใช่เหรอจ้ะ " อาจารย์ ทิพที่เป็นอาจารย์ประจำชั้นของเราผู้ สาว(?) สวย (?) พูดอย่างร่าเริง
    " ก็ผมเป็นลูกครึ่ง ไทย - ญี่ปุ่น นี่ครับ แม่ผมสอนผมพูดภาษาไทยอยู่เรื่อยล่ะครับ "
    ตานั่น ซึ่งคงเป็นนักเรียนใหม่แน่แท้ ตอบมาพร้อมรอยยิ้ม ที่ทำให้ทั้งนักเรียนและอาจารย์ แทบจะละลาย
    " เอ่อ อาจารย์คะ โฮมรูมเริ่มแล้วคะ " รันพูดกับอาจารย์ ที่ดูเหมือนเพิ่งตื่นจากภวังค์หลังได้ยินเสียงรัน
    " อ้ะ เอ้อ นั่นสินะ โอเค ๆ อ้าว ใครไม่ได้อยู่ห้องนี้กลับห้องตัวเองไปซะ " พวกผู้หญิงห้องอื่นมองรันอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ ก่อนจะทยอยกลับไป " ใครอยู่ 5/6 เข้าห้องไปซะ ครูจะแนะนำเพื่อนใหม่ " ครูทิพหันไปยิ้มให้นายลูกครึ่งนั่น ที่หันมายิ้มตอบ ก่อนสายตาของนายนั่น จะมาเจอกับสายตาฉันอย่างจัง !!!!
    ฉันรู้สึกหน้าเริ่มร้อนนิด ๆ ก็นายนั่นน่ะ หน้าตาหล่อสมกับที่ดึงดูดนักเรียนหญิงกับอาจารย์ได้เลยทีเดียว หน้าตาออกไปทางญี่ปุ่น ดูแล้วคล้าย ๆ กอล์ฟ - ไมค์ แต่นายนี่นะ ของแท้!!!! แต่ยังไงก็เถอะ ฉันว่าเรนยังหล่อกว่านายนี่เยอะอ่ะ
    วินาทีที่เราสบตากัน นายนั่นก็ยิ้มออกมา คนอื่นอาจมองว่ามันเป็นรอยยิ้มที่หล่อสุด ๆ แต่ฉันว่า มันเป็นรอยยิ้มที่กวนสุด ๆ ต่างหากล่ะ ฉันสะบัดหน้าหนีจากสายตานายนั่น แต่ทำไมนะ ขณะที่ฉันกำลังเดินไปนั่งที่ ( ที่ของฉันอยู่ริมหน้าต่าง ) ฉันรู้สึกเหมือนสายตาของนายนั่นยังจับจ้องอยู่ที่ฉันอยู่อีกอ่ะ
    รันกับเรนนั่งด้วยกันที่กลางห้อง ( รันไม่ยอมให้เรนนั่งกับผู้หญิงคนอื่น ในขณะที่เรนก็คอยแต่จะไปนั่งกับสาว ๆ อยู่เรื่อย รันก็เลยนั่งกับเรนซะเลย ) ส่วนฉัน นั่งคนเดียวที่ริมหน้าต่างแถวหน้าสุด ( เด็กเรียนค่ะ เด็กเรียน -0-)
    พอเพื่อน ๆ นั่งกันครบ ( เป็นที่สังเกตว่าทุกคนนั่งกันเร็วมาก โดยเฉพาะผู้หญิง ) อาจารย์ทิพก็พานายลูกครึ่งนั่นมายืนหน้าห้อง
    " เอาล่ะจ้ะ นักเรียน นี่คือเพื่อนใหม่ของเรานะ จะมาอยู่กับเราระยะหนึ่ง แนะนำตัวเลยจ้ะ " อาจารย์ยิ้มให้นายนั่น ที่ยิ้มตอบก่อนจะพูดด้วยเสียง ( ที่ฉันคิดว่านายนั่นเก๊กสุด ๆ ให้เสียงออกมาหล่อ ) และภาษาไทยที่ค่อนข้างชัดว่า
    " สวัสดีครับ ผม ชิน ชินอิจิ วาคามัทสึ ชื่อภาไทยคือ วรากร ครับ ผมเป็นลูกครึ่ง ไทย-ญี่ปุ่น แม่ผมที่เป็นคนไทยสอนภาษาไทยแล้วก็วัฒนธรรมไทยให้ผมตั้งแต่เด็ก เพราะฉะนั้น ผมถึงพูดภาษาไทยได้แม้จะไม่ได้กลับเมืองไทยมาหลายปีแล้ว ผมจะมาเรียนที่นี่สักระยะนะครับ ฝากตัวด้วยครับ " พูดจบนายนั่นก็ไหว้แบบมารยาทไทย ( แม่นายนี่คงเป็นกุลสตรีมาก ๆ เลยนะเนี่ย ) แล้วเสียงปรบมือของเพื่อนร่วมห้อง ( ที่ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง ) ก็ดังขึ้น  ในขณะที่ผู้ชายและฉัน มองหน้านายนั่นอย่างเบื่อ ๆ
    " มีใครจะถามอะไรชินคุงมั้ยจ้ะ " อาจารย์ทิพเอ่ยเสียงใส ชินคุงงั้นเหรอ ? ฉันแอบขำในใจ
    น่าแปลกใจที่สุด ที่มือที่ยกขึ้นเป็นมือของยายรัน ที่ดูกระตือรือร้นเป็นพิเศษด้วย
    " รันภา เชิญจ้ะ "
    " เอ่อ ที่ชินคุงบอกว่าระยะหนึ่งนะ มันนานแค่ไหนหรือคะ "
    นายชินยิ้มให้รัน ( ที่ดูจะปลื้มสุด ๆ ) ก่อนจะตอบด้วยเสียงเก๊ก ๆ ว่า
    " ผมเองก็ไม่แน่ใจครับ อาจจะจนกว่าจะจบม.5 "
    " เอาล่ะ ชินคุง เลือกที่นั่งเถอะจ้ะ จะเข้าชั่วโมงที่หนึ่งแล้ว " อาจารย์ทิพเอ่ยด้วยเสียงใส ๆ
    ฉันหันมาสนใจหนังสือวิชาต่อไปทันที ก็นายนั่นจะนั่งที่ไหนก็ไม่เกี่ยวกับฉันนี่ ขณะที่เพื่อนสาวร่วมห้องต่างพร้อมใจกันมองหาที่ว่างในห้องอย่างเอาเป็นเอาตาย
    " ตรงนั้นแล้วกันครับ " ฉันได้ยินเสียงนายนั่นพูด ในขณะที่เพื่อนร่วมห้องเริ่มซุบซิบกันอีกแล้ว ทำไมอีกล่ะ นายนั่นเลือกนั่งที่ไหนล่ะ
    ฉันเงยหน้ามองนายนั่น แล้วต้องตกใจสุด ๆ ก็นายนั่นชี้มาทางที่นั่งข้าง ๆ ฉันนี่ !!!
    แล้วนายนั่นก็เดินมาหาฉัน
    " สวัสดีครับ "
    ง่า ฉันจะดีใจหรือเสียใจดีล่ะเนี่ย ที่ฉันมานั่งคนเดียวก็เพราะอยากจะมีสมาธิเรียนนะ แล้วนายนี่มานั่งข้าง ๆ ชั้นจะได้เรียนมั้ยเนี่ย ฮือ ๆ T^T



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×