ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นิรันดร์ ได้ไหม แวมไพร์ คนเก่ง

    ลำดับตอนที่ #1 : นิยามรัก

    • อัปเดตล่าสุด 17 ส.ค. 56


                                 



    เหมือนโดนมีดแหลม ทิ้มลงที่กลางใจเมื่อคนดีจากไป ฉันเฝ้ารอ มาเกือบ500ปี แต่ดูเหมือนจะ

    ไม่มีประโยชน์อะไร ใครว่าชีวิตนิรันดร์อยู่แล้วมีความสุขฉันว่า คิดผิดแล้วละมันทรมานซะ

    มากกว่า กว่าจะผ่านไปแต่ละวันผ่านไปแต่ละร้อยปี มันเหน็บทั้งหนาว ร้าวไปทั้งใจ แต่ก็ยังอยาก

    จะมีชีวิตอยู่เผื่อวันหนึ่งคนที่เคยคุ้นหน้าคุ้นตาจะเดินผ่านเข้ามาในชีวิตอีกครั้ง

    เมื่อก่อนฉันอาจจะเคยเป็น แวมไพร์ที่แสนจะงี้เง่าและเห็นแกตัวแต่ตอนนี้โลกของฉันเปลี่ยนไป

    ทั้งใบเลยละ เธอจะรู้ไหมว่า ฉันพูดพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ที่แสนจะสดใส

    ฉันร้องไห้เป็นเพราะเธอด้วยนะ ดาร่า  ฉันเอามือปาดน้ำตาที่ข้างแก้มของตัวเองก่อนจะเตรียม

    ตัวเก็บกระเป๋าออกจากที่ทำงาน ก็อย่างว่าอยู่โลกมนุษย์จะให้ใช้ชีวิตแบบไหนละก็ต้องทำงาน

    ถึงจะมีเงินใช้เหมือนมนุษย์ทั่วไป เมื่อก่อนฉันไม่เคยมีความคิดแบบนี้เลยสักครั้ง ชีวิตฉันแสน

    จะสุขสบายด้วยการสะกดจิตมนุษย์ อยากได้อะไรก้ได้มาโดยง่ายดายไม่ต้องนั่งคำนึงถึงใครว่า

    จะเป็นยังไง แต่ตอนนี้ก้ไม่ใช่ว่าฉันจะลำบากมากมายอะไรอยู่มาตั้งหลายร้อยปีถ้าจะให้ทำงาน

    โกโลโสก็คงไม่ใช่ฉัน  ฉันเป็นเจ้าของบริษัทใหญ่ยักษ์ที่กระจ่ายอยู่ทั่วโลก พร้อมกับลูกสมุน

    แวมไพร์อีกมากมายของฉัน ที่ค่อยดูแลแทนในประเทศต่างๆ ส่วนตัวฉันก็ วางมือนานแล้ว

    ฉันก็แค่รอนั่งนับเงินเข้ากระเป๋าไปวันๆเท่านั้นเอง จะไปเยี่ยมเยือนบริษัทก็แค่นานๆครั้งเอง

    และวันนี้ก็เช่นกันที่นานครั้งฉันจะเดินเข้าบริษัทที่ประเทศ 

    ก๊อก ก๊อก...........................................................

    "คุณ ปาร์ค ค่ะ ขออนุญาติค่ะ

    "ฉันละสายตาจากทางฟ้าที่แสนจะสดใสเหมือนใบหน้าที่แสนดีของใครบางคนที่อยู่แสนไกล

    ก่อนจะหมุนเก้าอี้กลับไปที่โต๊ะทำงาน และมองพนังงานที่กำลังเดินเอา เลือดสดๆในแก้วทรงสูง

    มาวางไว้ให้  'ขอบใจนะ' ฉันใช้นิ้วเรียวสอดก้นแก้วและยกมันขึ้นกระดกก่อนที่โลหิต รสชาติดี
     
    ค่อยๆลำเรียงลงรสสัมผัสลิ้นของฉันที่ละน้อยก่อนจะผ่านลำคอไป ร่างกายของฉันรู้สึกชุ่มชื่นขึ้น

    มาทันทีเหมือนมีอะไรมากระตุ้น ให้ระบบทุกอย่างในร่างกายทำงานและตอบสนองได้เป็นอย่างดี

    ฉันว่างแก้วลงก่อนที่พนักงานจะหยิบแก้วไปเก็บพร้อมกับยื่นเอกสารมาให้ฉัน

    "นี่เป็นเอกสารจำนวนมนุษย์กับประชากรแวมไพร์ของเราครับ 

    "ฉันหยิบเอกสารขึ้นมาดู ก่อนที่เลขาของฉันจะเริ่มเล่ารายละเอียด 'ว่ามาสิ' ฉันพูดพร้อมกับ

    มองเอกสารและพลิกหน้าดู

    "ตอนนี้แวมไพร์ในบริษัทของเรามีน้อยกว่าจำนวนมนุษย์เยอะมากอัตรามนุษย์ที่เข้ามาสมัคร

    งาน  มีเกินกว่า200รายต่อวันวันผิดกับจำนวนแวมไพร์ที่เข้ามาสมัครวันหนึ่งมีแค่คนสองคน

    หรือบางวันก็าจจะไม่มีเลย

    "แล้วยังไงต่อ  ฉันถามกลับในขณะที่เลขากำลังพูด ทำให้เค้ารีบกุมหน้าลงทันที

    "ผมคิดว่า ถ้ามีมนุษย์มากเกินไปในบริษัทมันจะทำให้เผ่าพันธ์ของพวกเราอยู่ลำบากมากกว่านี้

    "แล้วนายมีวิธีแก้ไขปัญหานี้ยังไงหรอ  จะไล่คนออก หรือ จะจับกินเป็นมื้อๆไปให้ปริมาณ

    มนุษย์ลดน้อยลง ฉันพูดพร้อมกับเผยยิ้มที่มุมปากให้กับแวมไพร์ที่มีอายุน้อยกว่าแต่หน้า  ถ้า

    เทียบกับมนุษย์ก็คงจะ 50กว่า 

    "ผมคิดว่าเราน่าจะแบ่งตำแหน่งสูงๆไว้สำหรับแวมไพร์เพื่อให้การทำงานของพวกเราและการ

    ใช้ชีวิตของพวกเราไม่อยู่ใกล้มนุษย์มากจนเกินไป

    "แล้วนายคิดว่าถ้าทำแบบนั้นแล้วนายจะห่างจากมนุษย์มากยิ่งขึ้นใช่ไหม นายรู้อะไรไหมว่าที่นี่

    คือโลกมนุษย์ถ้านายคิดว่านายเข้าสังคมมนุษย์และใช้ชีวิตอย่างมนุษย์ไม่ได้ นายก็ไม่มี

    คุณสมบัติพอที่จะทำงานที่นี่  เอาละ ฉันจะถือว่านั้นเป็นอีกหนึ่งของความเดือดร้อนที่ชนเผ่าเรา

    กำลังเผชิญ ฉันจะกลับไปคิดวิธีแก้ไขแต่ไม่ใช่วิธีที่จะยื่นตำแหน่งให้สูงกว่าแน่นอนเพราะมันไม่

    ยุติธรรมต่อเพื่อนรวมโลก 



    "ตายแล้ว>>>>>>>>>  ให้ตายเถอะเมื่อคืนไม่น่านอนดึกเลยฉันต้องโดนหัวหน้าดุแน่ๆเลยทำงาน

    วันแรกก็มาสายซะแล้วฉันรีบวิ่งลงจากรถไฟพร้อมดูนาฬิกาข้อมือก่อนจะรีบวิ่งไปให้ถึงบริษัท

    และแล้วฉันก็มาถึงหน้าบริษัทอย่างวุดวิด ฉันปัดเนื้อปัดตัวและเกล้าผมขึ้นให้ดูเรียบร้อยก่อนจะ

    เดินเข้าบริษัทโดยมีสายตาของหัวหน้าที่มองผ่านกระจกออกมา เค้าส่ายหัวไปมาก่อนจะก้มหน้า

    ทำงานต่อ

    ฟู่ๆๆๆ เกือบไปแล้ว  ฉันเดินไปที่โต๊ะทำงานสำหรับงานวันแรกที่ฉันต้องทำก็คงจะต้องเดินลง

    เอกสารไปให้ห้องแผนกต่างๆจนกว่าจะจำทุกแผนกได้หมดอะนะไม่เว้นแม้แต่ห้องของผู้อำนวย

    การใหญ่ที่เค้าว่ากันว่า เป็นผู้หญิงที่สาวสวยและเฟอร์เฟคที่สุด อ้อ แล้วก็ นานๆทีจะเข้ามาดู

    บริษัทอีกด้วย และที่สำคัญยังไม่มีแฟนด้วยละ อ้อใช่อีกอย่างคือหาใครได้เห็นนางในระยะใกล้

    พนังงานคนนั้นแหละมีบุญสุดๆ ก็แบบว่าตอนมาสมัครงานเค้าลือกันมาแบบนั้น อิอิอิอิ

    "เธอพนังงานใหม่ใช่ไหม!!

    "ฉันหันไปมองตามเสียง  เอ่อ ใช่ค่ะ 

    "งั้นก็ดีเลยช่วยเอาเอกสารนี้ไปให้แผนกตรวจสอบทีนะ เธอรู้จักใช่ไหม

    "พึ่งมาวันถามว่าเดินสำรวจตึกนี้ทั้งตึกแล้วรึยังจะดีกว่าไหมค่ะ 'พอรู้จักนิดหน่อยค่ะพอดียังเดิน

    ไม่ทั่วเลยค่ะ' 

    "อืม งั้นก็ แผนกตรวจสอบนะอยู่ชั้น43ทางขาวมือให้ใช้ลิฟต์ขนส่งนะเพราะมันเป็นลิฟต์เฉพาะ

    ของแผนงเดินเอกสารโดยตรง อ้อ ลิฟต์ที่อยู่ใกล้ๆกันกับลิฟต์ส่งของนะเธอห้ามขึ้นเด็ดขาด

    "ค่ะ ฉันรับซองเอกสารก่อนจะเดินไปที่ลิฟต์ และมองเอกสารที่อยู่ในมือซองเป็นปึ้งๆขนาดนี้คน

    ตัวเล็กๆอย่างฉันถือได้ก็บุญแล้วฉันเดินมาหยุดตรงหน้าลิฟต์ก่อนลิฟต์จะเปิดออกฉันจึงเดิน

    ก้าวขาอันงามและสั้นเข้าไปในลิฟท์ ก่อนที่ลิฟต์จะค่อยๆปิดตัวลงอย่างช้าๆ ฉันหันไปมองที่ปุ่ม

    กดก่อนจะทำหน้าเอ๋อเพราะมันมีปุ่มกดลิฟท์แค่ชั้นเดียวO-o อ้อ สงสัยจะเป็นลิฟท์ส่งของ

    แผนกด้วยสอบโดยเฉพาะละมั้งฉันกดปุ่มจนไฟขึ้นเป็นสีส้มจากนั้นก็ยืนพิงกำแพงลิฟท์เพื่อรอให้

    ลิฟท์เปิดออก ตึกนี้ก็สูงซะเหลือเกินกว่าลิฟท์จะขึ้นมาถึงแทบจะขาดอากาศหายใจ

    ติ้งงงงงงงงงง

    เสียงลิฟท์ดังขึ้นก่อนจะถูกเปิดออกช้าๆฉันก้าวขาออกมาจากลิฟท์ก่อนที่ลิฟท์จะปิดลง

    ทำไมชั้น43มันถึงได้เงียบแปลกๆ หรือว่า คนจะน้อย แต่ว่า ห้องดูสวยผิดปกติไม่เหมือนห้อง

    ทำงานเอาซะเลย ว่าแล้วฉันก็เดินตรงเข้ามาเรื่อยๆจนมาเจอห้องประตูห้องอะไรสักอย่างจากนั้น

    ฉันก็เปิดมันออกทันที ฉันกวาดสายตามองไปรอบห้อง ก็ถึงได้รู้ว่าความซวยเป็นยังไง เพราะที่นี่

    ก็คือห้องของ ทานประธานสูงสุดนั้นเอง แต่ไม่ทันซะแล้ว เพราะทานประธานได้เงยหน้าขึ้นมา

    มองฉันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจู่ๆความรู้ประหลาดก็พุ้งเข้ามาในสมองโดยที่ฉันไม่ทันรู้ตัวเมื่อ

    ได้สบนัยตาของท่านประธาน ความรู้สึกมันเหมือนเดจาวู ยังไงอย่างงั้นเหมือนฉันเคยเห็นท่าน

    ประธานมาก่อนหน้านี้แล้ว ณ ที่ตรงนี้ เวลานี้ จุดที่ฉันยื่นอยู่นี้ แต่ก็ต้องหยุดชะงักไปพักหนึ่ง

    เมื่อท่านประธานกำลังเดินมาที่ฉัน

    "เธอชื่ออะไร

    "เอาแล้ว ความซวยมาเยือนฉันแล้วสิไม่น่าขึ้นลิฟท์ผิดเลยยยยยยยย>_<

    "ถามทำไมไม่ตอบ

    "จู่ๆท่านประธานก็ขึ้นเสียงใส่ฉันทำให้ฉันใจล่วงไปอยู่ตรงตาตุ้มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว'เออฉันชื่อ'

    ว้ายยยยยยย!!!

    จู่ท่านประธานก็ดึงตัวฉันเข้าไปกอดโดยไม่ถามอะไรต่อสักคำ

    "เธอกลับมาหาฉันแล้วจริงๆใช่ไหม ดาร่า

    "ดาร่าหรอ!!! เอ่อ ฉันผลักตัวออกด้วยความอึดอัด คือคุณคงจะจำผิดคนแล้วละค่ะฉันชื่อแซนดี้ค่ะ

    ไม่ใช่ ดาร่า ฉันพึ่งรู้ว่าการได้มองหน้าท่านประธานชัดๆมันดีตรงนี้นี่เองแววตาสีนิลมองแล้วชวน

    ให้หลงที่สุด ทำไมใจฉันถึงได้เต้นเร็วขนาดนี่นะ ยิ่งมองก็ยิ่งเต้นระรัวแปลกๆ 

    "ดาร่า 

    "ท่านประธานพูดพร้อมกับเอามือเรียวสวยและเย็นเฉียบจนรู้สึกได้ลูบที่แก้มของฉันเบาๆ และ

    ค่อยๆเลื่อนใบหน้าคมสวยเข้ามาใกล้ ฉันถูกริมฝีปากที่เย็นเฉียบทาบลงมาอย่างที่ ดิ้นไปไหน  

    ไม่ได้เหมือนโดนต้องมนต์สะกดและต้องสายตาตานิลสนิทคู่นั้นที่ตราตรึงไว้ นี่ฉันเป็นอะไรไป

    ทำไมฉันถึงบังคับตัวเองไม่ได้ ซองเอกสารในมือของฉันล่วงหล่นระนาว มือไม้อ่อนและหมดแรง

    ไปหมด ฉันพยามยามรวบรวมสติอีกครั้งและผลักเธอออกห่างจากฉัน 'ขอโทษนะค่ะคือฉันแค่มา

    ส่งเอกสารแต่เข้าผิดห้องเท่านั้นค่ะ ไม่ใช่ผู้หญิงที่คุณเรียกมา' พูดเสร็จฉันก็รีบวิ่งไปที่ลิฟท์ทันที

    ให้ตายเถอะบ้าชะมัด ประธานที่นี่โรคจิตสุดๆฉันไม่แปลกใจแล้วทำไมใครๆถึงได้บอกว่าไม่มี

    'แฟน'



     
















     



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×