คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1 : กลิ้งกลิ้งมาเข้าเภสัช
Chapter 1 : กลิ้งกลิ้งมาเข้าเภสัช
สวัสดียามบ่ายค่ะ เพื่อนๆ วันนี้พริกดองก็ได้ตื่นเช้า ลากสังขารไปเรียนมาแล้วเรียบร้อย ไม่มีโดดสักชั่วโมง ติ่กต่อก ติ่กต่อก ....ในที่สุดก็ถึงช่วงบ่ายที่รอคอย แหมมม วันนี้ช่วงบ่ายว่างสุดๆๆเลยค่า!!! รู้สึกเหมือนถูกล็อตเตอรี่กันเลยทีเดียว เนื่องจากเทอมแรกเรียนเช้าทุกวัน เวลาว่างก็น้อย ผิดกับเทอมสอง มีบางวันนอนตื่นสายได้ แถมวิชาเรียนก็น้อยลง (แต่ยากขึ้นเป็นกอง= =) อิอิ เอาล่ะ ไหนมาดูกันสิ พริกดองควรปูเรื่องอะไรเป็นเรื่องแรกๆ
....เอางี้ดีกว่า ก่อนโม้เกี่ยวกับเรื่องในคณะเภสัชศาสตร์ พริกดองขอพูดถึงการเข้าคณะนี้ดีกว่า
เอาจากประสบการณ์จริงๆ มิมีบิดเบือน เริ่มแรกนั้น พริกดองเองก็เป็นเด็กมัธยม เรียนสายวิทย์คณิต ที่โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย อย่างที่บ่นไปแล้วในบทนำ ส่วนตัวเป็นคนเรื่อยๆ ไม่อยากเครียดเรื่องอื่นใด แต่จริงจังเวลาทำเกรด (มันไม่เครียดตรงไหนว่ะ) จริงจังที่ว่า หมายถึงจริงจังจริงๆ เพราะไม่ว่าจะเป็นวิชา คณิต ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ พริกดองตั้งใจมาก และใช้เวลาวันหยุดไปกับการอ่าน ทำโจทย์ เยอะทีเดียว
แค่สอบเก็บคะแนน พริกดองก็ตั้งหน้าตั้งตาทำคะแนนมาก ผิดไปข้อนึงงี้ เหมือนจะเกือบคลั่ง(แค่เกือบค่ะ แค่เกือบ) บ่นได้เป็นชั่วโมง อารมณ์ว่า คะแนนงามๆ คือพระเจ้า ฮ่าๆๆๆ
ทั้งๆที่เมื่อก่อน เป็นคนชอบทำกิจกรรม ไปเต้นประกวดกับเพื่อนบ้างล่ะ ลันล้าบ้างล่ะ เลิกเรียนไม่มีอ่ะ กับคำว่าเรียนพิเศษ ประตูเปิดเมื่อไหร่ ก็แว๊นไปหาไรกิน ไปคาราโอเกะ ไปซื้อของ ก็ว่ากันไป การบ้านไม่ต้องทำมันหรอก เรามีเพื่อนยกห้องเป็นแบ็คอัพ หาพวกเมพๆที่รับผิดชอบ มาลอกในต้นคาบ ส่งท้ายคาบ ก็ทันถมเถ รีบไปทำไม จะสอบก็อย่ารนมากมาย อยู่นิ่งๆ อ่านก่อนสอบคืนนึง วันรุ่งคืนเอาตัวกับหัวใจไปแถๆข้อสอบ เอ้ย ! ไปตั้งใจทำข้อสอบ พนมมือ สาธุ ให้เกรดออกมางามๆ
แต่ข้างบนมันคืออดีต เพราะปัจจุบัน ณ สายวิทย์ ม.ปลาย มันต้องตั้งใจเรียนจริงๆ เพื่อแลกมากับพื้นฐานที่ดีในแต่ละวิชา เป็นโชคดีของพริกดองที่ได้อยู่ในห้องคิง เพื่อนแต่ละคนตั้งใจเรียน เกรดสูงเวอร์ๆ ประมาณว่าอาจารย์เริ่มสอนบทแรก มันอ่านบทสามจบแล้ว อะไรแบบนี้ สรุปคือ ถ้าอยากรอดชีวิต ก็ต้องพยายาม ตั้งใจ และมุ่งมั่น ......... ก็เป็นเวลาสามปีกับการเป็นเด็กเนิร์ด ตั้งใจเรียน อ้อล้อบ้าง (แต่รักตำรากว่าพวกเครื่องสำอางแล้ว) แข่งกันเองกับเพื่อนในห้อง ก็เลยส่งผลให้พริกดองพัฒนาตัวเองทั้งด้านมุมมองความคิด เทกนิคการเรียน การอ่าน การทำความเข้าใจ .... นี่ไม่ได้อะไรน่ะค่ะ แต่เทียบกับห้องอื่น ที่อารมณ์ว่า “เออ เพื่อนทำไม่ได้ เพื่อนเรียนไม่รุ้เรื่อง งั้นเราก็ไม่ต้องดิ้นรน ยังไงก็ไม่ได้ทั้งห้องอยู่แล้ว” เราจะเห็นความแตกต่าง และข้อได้เปรียบเยอะมาก ระหว่าง สามปีที่พยายาม ยอมเหนื่อย ยอมสู้ กับ สามปีที่ไม่ได้ทำอะไรเลย มันจะส่งผลต่างกันแค่ไหนในตอนสอบเข้ามหาวิทยาลัย เพราะถ้าคุณน้องทั้งหลาย เล็งสามคณะสุขภาพ “แพทย์ ทันตะ เภสัช” น้องต้องยอมรับว่าการแข่งขันมันสูง และถ้าพื้นฐานไม่ดี จะมีปัญหาตามมาเวลาเรียนในคณะ (หลายคนเจอปัญหานี้แล้วน่ะจ๊ะ แล้วเครียดกันน่าดู มาร้องไห้กับพริกดอง)
เพราะงั้น ! ใครที่อยู่ ม.สี่ พี่แนะนำว่า ตั้งใจเรียนเข้าไว้ แม้ว่าน้องจะเรียนไม่รู้เรื่องก็ตาม ห้ามท้อน่ะค่ะ ต่อให้น้องมีความคิดว่า เราไม่เหมาะกับสายนี้ เราจะเรียนรอดไม๊ เราจะตายก่อนไม๊? พี่จะบอกว่า พี่เป็นคนนึง ที่ถูกอาจารย์ที่ปรึกษา(ตอน ม.สี่) เรียกไปพูดประจานในห้องพักครูว่า พี่เรียนไม่รอดแน่ คะแนนก็ไม่ดี ย้ายไปเรียนสายศิลป์ดีกว่า (มันก็จริง เพราะตอนนั้นคะแนนดี แค่วิชาอังกฤษ) ..... มันไม่ใช่สำเนียงเจตนาดีด้วยซ้ำค่ะ ในตอนที่อาจารย์พูดกับพี่ และอาจารย์คนนี้อีกนั้นแหละ ที่ไม่ชอบหน้าพี่ หาเรื่องแว้งกัดพี่ได้ตลอด ข้อสอบไหนพี่ทำแต้มได้ดี ก็ยกเลิกไม่เอาคะแนน ข้อสอบไหนพี่ทำไม่ได้(เพราะความโบ้!) จารย์เอาเต็มที่100เปอเซนต์เลย !!!!! ย้ากกกก แต่คนอย่างพริกดอง ฆ่าได้แต่อย่าหยามมมมม ไม่ว่าจะเป็นใครหน้าไหน มาไล่ช้านนน ช้านจะไม่ปายยยยย !!!!!! บอกตรูเรียนไม่รอดใช่มั้ย!! เรามาดูกันสักตั้งอาจารย์ จัดไปเต็ม ๆๆๆๆ เลือดนักฆ่ามันพุ่งกระฉูดในตัวหนูแล้ว
แล้วพี่ก็เกรดดีมาตลอดนับแต่ ม.ห้า ยัน ม.หก อิอิ ฮิ้วววววว ขอขอบคุณค่ะ สำหรับเสียงปรบมือ จุ้บๆๆ (บ้า) ....แต่ เพราะ เกรด ม.สี่ น่ารักเกินไป GPA รวมมันเลยหายไปส่วนนึงเลยค่ะ แล้วมันส่งผลไปถึงสนาม admission จ้าาา !!! พี่ถึงบอกน้องงายยยยย ว่าให้ทำเกรดดีๆๆๆๆ !!!!! แต่ไว้ค่อยพูดกันตอนหลังน่ะ อันนี้ออเดิร์ฟ เกริ่นไว้เล็กๆ
อะไรที่ต้องเน้นเป็นพิเศษ ขณะเรียน?
ถ้าคุณน้องไม่รู้ว่าจะเข้าคณะไหน แต่มีในใจเป็นสายสุขภาพ พี่ขอบอกว่า ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ จำเป็นต่อตับและปอดน้องมาก เพราะอะไร? เพราะว่าแพทย์จะเน้นชีวะ ทันตะจะเน้นชีวะ เภสัชจะเน้นเคมี แต่ฟิสิกส์จะเข้ามามีบทบาทให้น้องเจอด้วย ช้าก่อน! น้องกำลังคิดว่าจะรอดตัวจากอังกฤษ และ คณิตศาสตร์ อยู่ใช่เปล่า???
อย่า think positive เกินไปจ๊ะน้องรักของเพ่ คณิตจะโผล่มาเสมอแม้น้องไม่คิดถึง และอังกฤษคือพระเจ้าให้บูชากันเลยทีเดียว น้องเจอถาวรตลอดชีวิตแน่จ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในสมัยนี้ที่ภาษาสื่อสารจำเป็นมาก
พ้นจากเรียนในโรงเรียน มาดูกันว่าสนามสอบเป็นยังไง ต้องใช้วิชาไร
ขณะสอบเข้า ต้องมีการสอบ PATGAT เอาไว้ เพราะบางรับตรง และ admission มันต้องเอาคะแนนยื่น patgat นี้พี่ว่าน้องต้องตั้งใจทุกรอบ แม้ว่ามันจะมีเวลาอีกนานกว่าจะถึงคิวน้องเข้ามหาวิทยาลัย อย่าประมาทสักครั้งที่ไปสอบ เพราะน้องไม่รู้หรอก เดือนไหนมันออกยาก เดือนไหนมันออกง่าย (มาตรฐานดีแท้ - -“) ครั้งที่น้องไปดิ่ง ไปโชว์เกรียนไว้ อาจเป็นครั้งที่ทำแต้มง่ายสุดในปีนั้นก็ได้น่ะจ๊ะ
ก่อนหน้านี้ พริกดองก็ไม่ได้มีคณะในใจค่ะ แพทย์ก็ไม่ใช่ว่าอยากจะเป็นมาก กลัวเรียนไปเครียดไป สุดท้ายหัวล้าน(อะไรแบบนี้) ทันตะหรอ...อืมมม ก็น่าสนน่ะ แต่ไม่ชอบยุ่งกับปากคน เภสัชล่ะ?...ไม่ได้ตั้งแง่น่ะ แต่แค่ไม่อยากขายทิฟฟี่
.แล้วชอบอะไร เออแฮะ เราชอบเศรษฐศาสตร์แหละ เอาดีมั้ยน้า
แต่ว่า!! ไม่ได้คิดไปเอาเศรษฐศาสตร์จ๊ะ (หวังถึง มธ.แน่ะ!) ไม่ใช่เพราะไม่ดีหรืออะไร (คณะเค้าออกจะเจ๋ง) แต่เพราะเรียนสายวิทย์มา ที่บ้านหรือญาติๆ ก็เลยคาดหวังอยากให้เราเรียนสามคณะนี้ มันไม่ใช่แรงกดดัน หรือการบังคับน่ะค่ะ เพราะพริกดองมีความคิดว่า บางครั้งคนเราก็ต้องเลือกระหว่างสิ่งที่เราทำเพื่อคนรัก กับ สิ่งที่เราทำเพื่อตัวเอง ..... ถ้าสามปีตอน ม.ปลาย พริกดองทิ้งสิ่งที่ตัวเองชอบไปหมด มาบ้าเรียนได้ เรียนต่อมหาวิทยาลัย อันส่งผลต่ออาชีพ และชีวิตที่เหลือต่อจากนี้ พริกดองก็ขอเลือกเรียนเพื่อคนที่รักดีกว่า ในเมื่อเราทำได้ สู้ได้ เราเรียนไหว ทำไมเราต้องเลือกตัวเองแทนคนรักด้วย? .... เพราะงั้น ก็กลับสู่เป้าหมายสามคณะนี้จ๊ะ
ตอนเตรียมสอบ พริกดองมีวิชาฟิสิกส์ อังกฤษ ชีวะ ไทย สังคม เป็นเพื่อนสนิท ส่วนเคมีกับคณิตงี้ เป็นเพื่อนกาก (เพราะเราเป๊ะไม่พอ) ก็ฟิตจนมันดันเราติดเภสัชจนได้ ในรอบ admission ฮิ้วววว แฮปปี้ดีแท้ กว่าจะรู้ว่าได้เรียนที่ไหน เล่นประกาศช้าซะ = =
คงมีคำถาม พริกดองไม่เป๊ะเคมี แล้วเรียนไหวป่ะ?
แหมมม ขอบอกว่าไหว !
แต่มั่นใจงี้แต่แรกมั้ย? ไม่!!!
ตอนแรกก็คิดว่าคงซี้แหงแก๋แน่ เพราะเทอมแรกประเดิมเคมี เหมือน ม.ปลาย แต่ลึกซึ้งกว่าเดิม บทพันธะเคมี เป็นอะไรที่ลึกซึ้งจริงๆ ถ้ามีพื้นฐานที่ดี ก็อาจจะสบายกว่าหน่อย แต่พี่มันพื้นฐานกากไง เจออาจารย์บรรยายทึเดียว นั่งใบ้เลย (อะไรว่ะ)
แต่เป็นโชคดีของพริกดอง ที่มีรุ่นพี่น่ารักคนหนึ่ง อาสามาติวให้พริกดองกับเพื่อนอีกคนหนึ่ง เราสามคนก็สุมหัวใต้หอ นั่งติวเคมีกันค่ะ เสร็จแล้ว พริกดองก็กลับบ้านมาอ่านเอง อ่าน อ่าน อ่าน อ่านหมดทั้งหนังสือเคมี(เล่มหน้าๆ หน้าตาไม่น่าอ่าน) และชีทอาจารย์(เยอะเวอร์)
เข้าห้องสอบมิดเทอมงี้ใจไม่ค่อยดี จะทำได้มั้ยว่ะ ข้อเขียนหมดอีกต่างหาก จะให้หนูดิ่งยังไง
แต่เชื่อมั้ย ว่าความเพียรมันกู้ชีพให้เราได้ เพราะจากการตรากตรำอ่านเคมี มันทำให้เรากล้าสู้กับข้อสอบ พอทำได้งี้ ตับไตและปอด กลับสู่ภาวะปกติเลย คะแนนออกมาเจ๋งสุดๆไปด้วย
เพราะงั้น ที่พริกดองจะพูดก็คือว่า อย่าปิดโอกาสตัวเองไม่มาเรียนเภสัช เพียงแค่เหตุผลที่ว่า “เราไม่เก่งเคมี” คิดใหม่ซะว่า “ถ้าเข้าได้ เราก็เรียนได้”
เภสัช จะเป็นคณะที่ต้อนรับน้อง ถ้าตอนสอบ น้องตั้งใจอ่านหนังสือ ฟิตๆเข้าไว้ค่ะ อย่าขี้เกียจน่ะ พี่เอาใจช่วย >< และที่สำคัญ ห้ามเครียด
บางคนสวนกลับมาว่า “จะไม่เครียดได้ไงว่ะ ก็ไม่มีที่เรียนที”
พี่จะบอกว่า ถ้าน้องตั้งใจ น้องไม่ย่อท้อ หรือไม่ดิ่งนรกกับข้อสอบไว้
ให้ตายยังไง ช้ายังไง “น้องมีที่เรียนดีๆแน่ค่ะ” น้องจะไม่มีทางหลุดที่ดีๆอย่างแน่นอน
แต่เมื่อไหร่น้องเครียด น้องเข้าห้องสอบ มันจะกดดันเรา เราจะเป็นคนกดดันตัวของเราเอง สมองก็จะไม่แล่น จะตีบตัน ทำข้อสอบไม่ได้ ทั้งๆที่ข้อสอบนั้น หากเราทำโดยไม่มีความเครียดหรือไม่มีแรงกดดัน น้องจะสามารถทำมันได้
Take it easy ค่ะ ^^
สงสัยอะไรเพิ่มเติม ถามได้ค่ะ พริกดองจะตอบให้เอง
ความคิดเห็น