โทรศัพท์จากชายนิรนาม - โทรศัพท์จากชายนิรนาม นิยาย โทรศัพท์จากชายนิรนาม : Dek-D.com - Writer

    โทรศัพท์จากชายนิรนาม

    ผู้เข้าชมรวม

    90

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    90

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  25 เม.ย. 55 / 20:23 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
     
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
       มันเป็นวันอันแสนหงอยเหงาเสียนี่กระไร แต๊ก แต๊กมองดู BB ราคาเรือนหมื่นในมือที่แม่รัตน์กัดฟันซื้อให้โทษฐานสอบได้เกรดเอทุกวิชา เธอเห็นเงาตัวเองสะท้อนอยู่บนหน้าจอ แต๊ก แต๊ก แลบลิ้นล้อตัวเองอย่างประชดประชัน เพื่อนๆพากันลืมเราหมดแล้วรึไง ถึงไม่มีใครโทรศัพย์มาคุยด้วยซักคน ไอ้ครั้นที่จะเป็นฝ่ายโทร. ไปหาเองค่าโทรศัพท์ของเดือนที่แล้วก็ยังตามหลอกหลอนอยู่ทุกวัน แม่รัตน์ขู่ว่าจะไม่ยอมจ่ายค่าโทรศัพท์ให้อีก หากเธอยังใช้โทรศัพท์ราวกับว่ามีพ่อแม่เป็นเจ้าของบริษัทมือถืออย่างงี้

      “หรือว่าจะสไก๊ไปหาติ๊ต่างดี” แต๊ก แต๊ก คิดถึงน้องสาวชื่อแปลกๆที่ถ่อไปเรียนถึงญี่ปุ่น เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีก้าวขั้นจนถึงขั้นสามารถมองเห็นหน้ากันข้ามประเทศข้ามทวีปกันแล้วอย่างกับนั่งคุยกันอยู่ต่อหน้า แต่เธอก็เบื๊อเบื่อ ที่จะมานั่งคุยกับน้องสาวอาโนเนะ ไฮ้ ไฮ้เสียแล้ว ก็หนูเอาแต่บ่นเรื่องการเรียนภาษาญี่ปุ่นจนฉุดเกรดจนต่ำเตี้ยติดดินทุกครั้งที่เห็นหน้ากันผ่านจอคอมพิวเตอร์ เธอนึกถึงตติน้องสาวคนสุดท้องหากตติอยู่ที่บ้านยังพออาศัยได้แกล้งน้องแก้เซงได้บ้าง แต่นี่น้องก็หนีไปอยู่โรงเรียนประจำเสียอีก

         แต๊ก แต๊ก ถอนหายใจเฮือกพลางนอนนิ่งอยู่บนเตียงต่อไป ทั้งๆที่ดวงอาทิตย์โผล่หน้ามาเยี่ยมเยียนตั้งเป็นนานสองนานแล้ว การลุกจากทานอนก่อนเที่ยงเป็นเรื่องที่ยากเย็นเสียนี่กระไร ราวกับว่าเตียงนอนนั้นทาเคลือบกาวตาช้างติดอยู่

         ทันใดนั้น ราวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์รับรู้ความทุกข์ของสาวน้อย เสียงสายเรียกเข้าดังก๊องแก๊งๆดังมาจาก BB ตัวเก่ง แต๊กๆลิงโลดแทบกระโดดจากเตียง แต่หมายเลขที่ปรากฎบนจอทำให้เธอทำหน้ามุ่ย มันเป็นหมายเลขประหลาดที่เธอไม่เคยพบในสารบบของโทรศัพท์มือถือในแผ่นดินสยามแห่งนี้ มันเป็นเลข 0 ทั้งเก้าตัวอย่างน่าประหลาดเธอลังเลที่จะรับสายเพราะเกรงว่ามันอาจจะเป็นพวกขายประกันแอบแฝงมาแต่ความประหลาดของหมายเลขก็ทำให้เธออยากรู้

      “ฮัลโหล สวัสดีค่ะ” แต๊กๆตัดสินใจรับสายแล้วเอ่ยทักทายขึ้นก่อนตามมารยาทของกุลสตรีไทย

      “สวัสดีครับแต๊กๆ”

      ...ว้าว...เสียงชายหนุ่มเสียด้วย... แต๊กๆเบิกตาโพลง

      “น...นั่นใครอ้ะ” เธอเอ่ยถามด้วยความแปลกใจเพราะเธอมั่นใจว่าเธอไม่เคยได้ยินเสียงนั่นมาก่อนแต่เจ้าของเสียงกลับรู้ชื่อของเธอ มันเป็นเสียงที่ก้องกังวาลและไพเราะจนทำให้เธอเคลิบเคลิ้มราวกับถูกมนต์ของแฮร์รี่ พอตเตอร์สะกด เพื่อนชายของเธอแต่ละคน ก้อเสียงเหมือนแมวป่วยไม่น่าฟังเหมือนเสียงที่กำลังพูดอยู่กับเธอตอนนี้เลยซักนิด

      “ผมเป็นเพื่อนของคุณครับ” เสียงชายหนุ่มตอบกลับมา ภาษาของเขาสุภาพสุดๆ

         แต๊กๆแน่ใมจว่าไม่เคยมีเพื่อนเสียงแบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต และก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมเขาถึงรู้จักชื่อของเธอ เธอเริ่มระแวงว่าอาจจะเป็นเพื่อนคนใดคนนึงพยายามเป็นแม่สื่อแนะนำให้ชายหนุ่มโทร. มาถึงเธอก็ได้ ฟังจากน้ำเสียงแล้วชวนให้จินตนาการถึงใบหน้าของเจ้าของเสียง เขาน่าจะเป็นชายหนุ่มรูปงานสไตล์กิมจิแนวเจ้าชายผู้สง่างามอะไรประมาณนั้น

      ...อย่าฝันไป แต๊กๆน่าจะเป็นเจ้าชายกบมากกว่า...

      สติสัมปชัญญะของแต๊กๆเตือนตัวเองไม่ให้หลงเพ้อไปกับเสียงของชายแปลกหน้า เธอคิดว่าผู้ชายเวลาโทร. หาสาวๆจะต้องทำสียงหล่อแบบนี้ทุกคน

      “แต่ว่าคุณเป็นใครคะ เราเคยรู้จักกันด้วยหรอคะ??” เธอซักอีก

      “เรากำลังจะรู้จักกันเดี๋ยวนี้ไงครับ ไม่ต้องกลัวนะครับ ผมเพีงต้องการจะเป็นเพื่อนกับคุณเท่านั้น”

      “ขอโทษค่ะ คุณชื่ออะไรคะ”

      “ลาทินยาครับ เรียกผมว่าลาทินยา”

      ...ว้าว ลูกครึ่งซะด้วยอ้ะ ฟังดูอิตาลี้~อิตาลี่...

      ...ความฝันบรรเจิดขึ้นอีกครั้ง...
      “แล้วคุณรู้เบอร์โทร. ของแต๊กๆได้ไงอ้ะคะ??”

      “ผมรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับคุณครับ คุณเรียนเก่งมาก ชอบแต่งตัว ขี้เกรงใจเพื่อนแล้วก็เอ่อ...ต๊องๆนิดหน่อย”ชายหนุ่มนิรนามหัวเราะเบาๆ

      ...แม้แต่เสียงหัวเราะก็ยังเพราะอย่างกับไวโอลิน...

      แต๊กๆชื่นชมในใจ

      “เอ๊ะ! คุณรู้ได้ไง”

      แต๊กๆสงสัย เธอคิดว่าคงมีใครล้อเล่นเธอแน่ๆ หรือไม่ก็พวกสิบแปดมงกุฎ เธอเริ่มรู้สึกกลัวจนจี๊ดขึ้นสมอง

      แต๊กๆกดปิดโทรศัพท์ทันทีพลางหายใจหอบราวกับว่ากกำลังวิ่งหนีผีปอบรอบหมู่บ้าน เธอจ้องมองจอ BB อีก เธอสดุ้งเมื่อเสียงเรียกเข้าดังขึ้นอีก หมายเลข 0 เก้าตัวปรากฏขึ้นอีกครั้ง เธอกดทิ้งทันทีด้วยความตกใจแต่ความอยากรู้หว่านล้อมให้เธอโทร. กลับไปที่หมายเลขประหลาดนั่น

       ไม่มีเสียงสัญญาณเหมือนเสียงสัญญาณโทรศัพท์ที่เธอคุ้นเคย แต่มันกลับเป็นเสียงวี้ๆเหมือนเสียงยุงน่ารำคาญบินอยู่ข้างหู

      “สวัสดีอีกครั้งครับ” เสียงชายหนุ่มคนเดิมพูด “นึกแล้วว่าคุณต้องโทร. กลับมา”

      ...บ้าจริงโทร. ติดได้ไง...

      แต๊กๆงุนงง...เบอร์โทรศัพท์ 0 เก้าตัวมีจริงๆด้วย หรือไม่ก็ต้องเป็นเบอร์โทร. ของพวกองค์กรลับใต้ดินอะไรซักอย่างแน่ๆ...ความกลัวแล่นขึ้นสมองอีกครั้ง เธอรีบตัดสายทิ้งทันที โชคยังดีที่เธอมีสติพอที่จะโยน BB ลงบนเตียงนอนนุ่มๆแทนที่จะโยนลงพื้น มือไม้สั่นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

        แต๊กๆตั้งสติเธอคว้า BB ขึ้นมาแล้วกดหาเพื่อนซี้ร่วมก๊วน เธอใจชื้นเมื่อปรายทางรับสายแทบจะทันที

      “ยายเอม แกให้ใครโทร. มาแกล้งฉันหรือเปล่า?” แต๊กๆเหวใส่ทันทีโดยที่อีกฝ่ายยังไม่ทันตั้งตัว

      “เฮ้ย...อะไรกัน อยู่ๆกอใส่เอาๆ” ยายเอมแว๊ดกลับ

      แต๊กๆเล่าเรื่องโทรศัพท์จากชายนิรนามให้เพื่อนรักฟัง

      “ฉันไม่รู้เรื่องด้วยนะโว๊ย”

      “แกช่วยโทรไปหาเขาทีสิ ฉันอยากรู้ว่าเขาเป็นใคร”

      เอมวางสายไปชั่วครู่ก่อนจะโทรกลับมาอีก

      “ไม่เห็นติดเลย มันเงียบกริบไม่เห็นมีสัญญาณอะไรเลย เบอร์บ้าๆมีแต่เลข 0 จะโทรติดได้ไง” เอมบอก “แกละเมอไปหรือเปล่า หรือว่ากินยาลืมเขย่าขวด”

      ...เสียคนเลยเรา เฮ้อ...

      แต๊กๆถอนหายใจ

      “นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเรานะ” เธอมองไปที่ปฎิทินบนผนัง “ตายล่ะ นี่มันปี 2012นี่! งานนี้โลกคงแตกจริงๆแน่ๆ”

      ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เตียงนอนก็ยังเป็นที่พักพิงที่ดีที่สุดของเธอ แต๊กๆล้มตัวลงนอน สายตาจ้องมองเพดานราวกับว่าจะปล่อยให้มันทะลุไปยังท้องฟ้า

       

      เสียงโทรศัพท์ปลุกให้แต๊กๆงัวเงียตื่นขึ้นอีกครั้งจากการนอนรอบสองของวัน เธอความหา BB และพบหมายเลข 0 เก้าตัวบนหน้าจอเหมือนเคย เธอไม่ลังเลที่จะรับสาย

      “คุณเป็นใครกันแน่??” แต๊กๆวีนใส่ทันทีด้วยอารมณ์อันคลุกรุ่นราวกับภูเขาไฟ เฮเลน

      “ก็บอกแล้วผมเป็นเพื่อนกันคุณ” ชายหนุ่มตอบอย่างใจเย็น

      “คุณให้เพือนของคุณโทร. หาผมเหรอครับ??”

      แต๊กๆสอึก “ค...คุณรู้ได้ไง”

      “ไม่มีใครติดต่อผมได้นอกจากคุณ”

      “ขอร้องล่ะ บอกมาเถอะค่ะ ว่าคุณเป็นใครกันแน่รู้จักแต๊กๆได้ยังไง” แต๊กๆอ้อน

      “ขอร้องล่ะครับ อย่าถามเลย แล้วพรุ่งนี้ผมจะไปหาคุณเอง...”

      ...อะไรนะ นี่เขาจะมาหาเราเหรอ ?!?...

      “ว่าไงนะ เขาจะไปหาแกหรอ!” เอมตกใจมากกว่าเจ้าทุกข์เสียอีก

      “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันหากเขามาบ้านจริงๆ”

      “อย่าให้เขาเข้าบ้านเชียวนะ ฉันว่าต้องเป็นพวกขายเครื่องกรองน้ำหรือมูลนิธิปลอมๆแน่” เอมร้องห้ามเสียงหลง

      “แต่เสียงเขาแมนมาก เหมือนพวกนักร้องเลยนะแก อาจจะเป็นพวก AF ก็ได้ ฉันคงเผลอให้ V ไหนไป V หนึ่งแน่ ตอนเชียร์รอบที่แล้ว”

      “เอาเหอะๆ ถ้าเขาไปหาแกจริงๆแกก็ตามญาติพี่น้อง อบต. อบจ. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผีปอบผีฟ้ามาอยู่รวมกันเยอะๆนะ ถ้าเขาหล่อจริงค่อยโทรตามฉัน แต่ถ้ากน้าเหมือนถั่วแระ ก้อไม่ต้อง”

      “โอ๊ย!...ตื่นเต้นจัง แต่ยังไงก้อต้องผ่านด่านป๊ะป๋าฉันก่อนละ ขืนพูดผิดหูมีหวังไปเกิดใหม่แน่!

       

      ....................................................

      แต๊กๆนั่งเฝ้า BB ไม่ยอมห่างตั้งแต่เช้าราวกับมันเป็นสมบัติโบราณอันล้ำค่าหัวใจเต้นระทึกขนาด 9.5 ริกเตอร์ เธอแต่งตัวรอด้วยชุดแบรนเนมที่เพิ่งถอยออกมาจากห้าง หูหนึ่งฟังเสียงโทรศัพท์อย่างใจจดใจจ่อ อีกหูหนึ่งก็คอยฟังเสียงกริ่งประตูบ้าน เธอไม่กล้าบอกใคร เพราะถ้าเกิดเขาไม่มาและเป็นการอำเล่นก็จะหน้าแตกเสียยี่ห้อสาวมั่นซะเปล่า

            ทันใดนั้น

         แต๊กๆสดุ้งเมื่อเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น มันขึ้นเลข 0 มาอีกแล้วเธอลังเลก่อนที่จะรับสายอย่างกล้าๆกลัวๆ

      “สวัสดีครับ แต๊กๆ” ชายหนุ่มนิรนามทักทายขึ้นก่อนด้วยเสียงชวนหลงใหล

      “สะ...สวัสดีค่ะ...คะ...คุณ...” แต๊กๆพูดเสียงตะกุกตะกักแบบเสียฟอร์ม

      “ผมมาหาคุณตามสัญญาแล้วนะครับ”

      “อะ...ไรนะคะ...คะ...คุณอยู่หนะ...ไหนคะ???” แต๊กๆเอ่ยถามความกลัวแล่นขึ้นสมองอีก

      “ข้างนอกนี่ไงครับ แต๊กๆมาที่หน้าต่างสิครับ”

         แต๊กๆทำหน้างงๆเธอค่อยๆเดินไปรูดม่านให้เปิดออกแล้วเลื่อนบานหน้าต่างสีชาให้เปิดกว้าง เธอกวาดสายตาไปทั่วบริเวณว่าง แต่ไม่เห็นใครเลยนอกจากความว่างเปล่า

      ...นี่จะเล่นตลกอะไรอีกล่ะ...

      เธอชักฉุน “ไหนคะ คุณอยู่ไหนกันแน่คะ???”

      “ข้างบนนี่ไงครับ มองขึ้นมาข้างบนนี้” เสียงชายหนุ่มบอกทางโทรศัพท์

      แต๊กๆเงยหน้าขึ้นไปมองบนท้องฟ้า สิ่งที่ปารกฎแก่สายตาของเธอในเวลานี้ทำให้เธอเผลอปล่อย BB หลุดมือโดยไม่รู้ตัว

           จานบินลำมหึมาลำหนึ่งลอยนิ่งอยู่เหนือยอดไม่พร้อมกับส่งเสียงครางเบาๆมันเป็นสีเงินยวงสะท้อนแสงอาทิตย์วาววับ ส่วนบนของมันเป็นโดมครึ่งวงกลมเรียงรายอยู่รอบๆ

      แต๊กๆมองไปที่ช่องหน้าต่างบานหนึ่ง ชายนิรนามกำลังโบกมือให้เธออยู่หลังหน้าต่างนั้น

        

      ร่างกายของเขาเป็นสีเขียวมรกต หัวโตราวลูกฟักทองยักษ์และไร้เส้นผม เขาจ้องมองเธอด้วยตาที่เรียวยาวเหมือนลูกลักบี้สีดำสนิท เผยยิ้มด้วยปากอันบางเฉียบบบบบบ...

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×