ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ระบบชิงโชค(ปิดแบบไม่มีกำหนด)

    ลำดับตอนที่ #5 : แค่ซื้อของปัญหา​ก็มา

    • อัปเดตล่าสุด 16 ก.ย. 64


    เช้าวันต่อมาหยุนไห่ตื่นขึ้นมาอย่างสดใส



    "ห้าวว ดูเหมือนเราจะขี้เซาขึ้นนะ" หยุนไห่เอ่ยขณะเดินไปอาบน้ำ




    สักพักเมื่ออาบน้ำเสร็จ




    หยุนไห่เดินไปที่ตู้เย็นหยิบกระติกน้ำขณะเทเลือดออกมาหนึ่งเเก้ว



    และดื่มเข้าไป


    "เห้อ​ ช่วยไม่ได้แหะวัตถุดิบ​หมดแล้ววันนี้ลองเข้าเมืองดีกว่าว่าว่าแต่เมืองที่อยู่เเถวนี้คือเมืองหลินซานสินะช่างเถอะแค่ไปไม่ถึงชั่วโมงหรอก" หยุนไห่ปลอบใจตัวเองตั้งแต่เปลี่ยนสืบทอด​สายเลือดมาหยุนไห่มักระแวงมนุษย์​ขึ้นมาเล็กน้อยเพราะขึ้นแวมไพร์​บรรพบุรุษ​จะแข็งแกร่ง​แต่หากถูกระเบิดนิวเคลียร์​ก็ตายได้เช่นกันนี้จะไม่นับเรื่องที่ว่าโลกใบนี้จะมีเรื่องลี้ลับ​อะไรอีกเพราะแบบนั้นหยุนไห่คอดว่าจนกว่าจะมีพลังพอลบประเทศ​ใดๆก็ได้ให้หายไปอย่างสมบูรณ์​ก่อนไม่งั้นคงไม่กล้าประกาศตัวเองว่าเป็นแวมไพร์​บรรพบุรุษ​แน่




    มันไม่ใช่ว่าหยุนไห่กลัวมนุษย์​เพราะหลังจากที่ทดสอบดูแวมไพร์​บรรพบุรุษ​แทบไม่ตายจากมนุษย์​เลยหัวใจก็เต็นร่างกายก็ยังอุ่นอยู่หยุนไห่ก็คิดว่าจะระวังตัวไว้



    เค้ายังไม่ได้ดูดซับพลังทั้งหมดเลยพึ่งได้พลังไปแค่5%จากทั้งหมดเลยแถมนอกจากร่างกายที่เป็นแวมไพร์​บรรพบุรุษ​ก็ยังไม่มีพลังวิเศษ​มาเลยหรือมีแต่ยังใช้ไม่เป็นก็ไม่รู้





    หยุนไห่สวมเสื้อแขนยาวสีดำดูเท่ๆขณะสวมแมส



    หยุนไห่ได้ลงตอนนิยายอีก10ตอนก่อนจะปิดประตูและเดินออกจากบ้าน



    หยุนไห่มองไปรอบเมื่อไม่มีคน


    "เอาละ​ วิ่งสุดแรงเลย" หยุนไห่เริ่มวิ่งทันที


    พริบตาก็ห่างจากจุดเดิมนับร้อยเมตร



    กลายเป็นเงาเบลอๆหายไปตามถนน




    10นาทีต่อมา



    หยุนไห่วิ่งมาถึงหน้าเมืองที่ซอยเล็กๆ



    "เอาละที่เหลือแค่เดินไปอีกไม่กี่นาที"หยุนไห่เดินเข้าไปในเมืองอย่างสงบ




    ภายในเมืองหยุนไห่ที่สวมแมสแต่หลายคนก็ยังคงมองมาทางเค้า


    มุมปากกระตุกหยุนไห่รู้สึกว่าใส่ไม่ใส่ก็ไม่เห็นต่างเลย



    หยุนไห่เดินเข้าไปในห้าง


    ภายในห้างมีผู้คนพลุกพล่าน​



    หยุนไห่เดินเข้าไปในโซนอาหารและเริ่มหาพวกผักและเนื้อสัตว์โดยไม่ลืมเลือดด้วย


    "ไม่ว่าจะอร่อยไหมก็ช่างแค่กินแล้วไม่ตายก็พอแล้ว" หยุนไห่คิดขณะหยิบอาหารเตรียมไว้โดยเลือกอย่างดีเพราะสมัยเด็กหยุนไห่ร่างกายอ่อนแอจึงเล่นอยู่ที่บ้านเป็นส่วนใหญ่​แม่ของเค้ามักสอนเสน่ห์​ปลายจวักให้ลูกชาย? ของเธอเสมอ



    หยุนไห่คิดซักพักก่อนจะมองไปที่รถเข็น




    และไปที่เคาน์เตอร์​


    " เออ​  ไม่ทราบว่าคุณเป็นดารารึป่าวคะ" พนักงาน​ถามขึ้นเพราะตอนนี้หยุนไห่ไม่ใส่แมสแล้วความงามบริสุทธิ์​ไร้การแต่งหน้าใด


    เค้าเรียกว่าเกิดเลือกไม่ได้




    หยุนไห่เงียบขณะส่ายหัว



    พนักงาน​ก็ตาเป็นประกายและคิดในใจ

    "เห้อ​ ทำไมคุณสวยคนนี้ไม่เป็นดารากันนะช่างเถอะแต่ว่าดูยังไงก็สวยกว่าเทพธิดาอันดับ1ของเมืองยังเทียบไม่ได้เลย" พนักงานได้แต่ถอนหายใจงามล่มเมืองยังมีงามครองแผ่นดิน​


    เหนือฟ้าก็ยังมีฟ้าจริงๆ


    "ทั้งหมด300หยวนคะ" พนักงานกล่าวขึ้น

    หยุนไห่สแกนในมือถือ


    หลังจากชำระเสร็จแล้วหยุนไห่ก็ใส่ฮูดสีดำของชุดคลุมไว้เพราะหน้าตามันสะดุดเกินไป



    ในระหว่างที่หยุนไห่กำลังเดินออกจากห้างอยู่นั้นจู่ก็มีคนมาชน



    "โอ๊ยยย​  นี้แก" เสียงชายหนุ่มดังขึ้น



    หยุนไห่หันไปมองพบชายหนุ่มดูร่ำรวยในชุดสูทกำลังนั่งอยู่บนพื้นขณะมือถือและกาแฟหกใส่


    ด้านหลังพบคนใส่ชุดสูทและแว่นดำอีกหกคนและยังมีชายชราในชุดโบราณเดินตามมา



    "นี้ไม่มองทางรึไง" เสียงตวาดของชาบหนุ่มดังมากจนคนเริ่มไปสนใจและซุบซิบ​


    "นั้นมันคุณชายสามของตระกูลมู่   มู่หลงชุน  ตระกูล​อันดับ2ของเมืองหลงซานไม่ใช้​ เห็นว่าเป็นคนรวยรุ่นสามนะแถมมีข่าวลือว่าเป็นเพลย์​บอยด้วยนะ" คนที่มุงดูได้ซุบซิบ​นินทาไป



    หยุนไห่มองอยู่สักพักก่อนจะนิ่งไม่ใช้เพราะอะไร

    "ทำไงดีพอดีคุยกับคนแปลกหน้าไม่ค่อยเป็นด้วยสิ"หยุนไห่คิดในใจ



    ขณะที่หยุนไห่นิ่ง



    ชายที่ดูใส่สูทก็เอ่ย



    " นี้แกไม่คิดจะขอโทษนายน้อยงั้นหรอ"ชายคนนั้นเอ่ยขณะพยายาม​จะกระชากมา


    แต่หยุนไห่ได้คว้าข้อมืออีกฝ่ายเอาไว้



    และออกแรงเล็กน้อยแต่คงลืมว่าตัวเองไม่ใช่มนุษย์​แล้ว


    แกรก​ เสียงกระดูก


    "อ๊ากกก​   ปล่อยนะ"ชายคนนั้นกรีดร้องขณะพยายาม​จะทำให้หยุนไห่ปล่อย


    เหล่าบอดี้การ์ดที่เหลือก็พุ่งเข้ามาหมายจะช่วย



    " หยุดก่อน"ชายชราที่เดินอยู่ข้างหลังพยายาม​จะตะโกนบอกแต่



    มันสายเกินไป



    ปัง



    ร่างทั้ง6ปลิวไปหลายเมตรหลายคนกระเลือดออกมา


    หากถอดเสื้อออกคงพบรอยฟ้ามือบนท้องของทักคนแน่นอนแต่ดูเหมือนพวกนี่จะเจ็บแล้วไม่จำ



    ยังพยายาม​จะขู่


    "นี้แกคงรู้ใช้ไหมว่ากำลังยั่วยุ​ตระกูล​มู่อยู่นะ" ชายคนหนึ่งที่ลุกขึ้นได้สบดออกมาอย่างดุร้าย




    หยุนไห่ไม่ได้สนใจแต่หรี่ตามองชายชราผมขาวที่แตกต่างจากคนทั่วไป


    มีออร่าสีแดงแผ่ออกมามากกว่าคนปกติหลายเท่า



    หยุนไห่รู้อย่างหนึ่งคือดวงตาของเค้าสามารถมองเห็นพลังชีวิต​ของคนอื่นได้ยิ่งออร่าสีแดงใหญ่เท่าไรก็หมายถึงพลังชีวิต​หรืออายุขัยนั้นยังยาวนาน


    แต่ปกติคนแก่ไม่ควรมากแบบนี้ยกเว้นเพียง



    "ผู้ฝึกตน?" หยุนไห่เอ่ยเบามาก



    แต่ชายชราเหมือนจะได้ยินและพยักหน้า​



    "สหายเต๋าพวกเราไปคุยกันที่อื่นเถอะ" ชายชรามองไปรอบที่มีหลายคนถ่ายรูป

    "ท่านผู้อาวุโส​มู่พวกเราจะ-" ก่อนที่ชายคนนั้นจะพูดจบเค้าก็ถูกเอ่ยเสียงเย็นชา



    "เงียบซะเค้าไม่ใช่คนที่เจ้าจะยั่วยุได้​ คุณชายตามข้ามาส่วนพวกเจ้ากลับตระกูล​ไป"ผู้อาวุโส​มู่เอ่ยเพียงแค่นั้นและเดินออกจากห้าง



    หยุนไห่เดินออกไปก่อนก้าวเดียวก็เคลื่อนไปนับสิบเมตรสบาย



    ซึ่งคนที่เห็นก็ตกใจคนอุทานว่า

    "ผี!" หรืออะไรอีก


    แต่ไม่ใช้แค่หยุนไห่ผู้อาวุโส​มู่ก็ก้าวตามไปเช่นกันแม้จะก้าวช้าๆแต่ก็เคลื่อนไหว​ไปเร็วมากกว่าที่ชายชราปกติทำได้


    คุณชายมู่หลงชุนได้แต่ยิ้มอย่างขมขืน

    "ชั้นแค่มาซื้อกาแฟและชนคนเองนะแล้วมันเป็นนี้ได้ไง" มู่หลงชุนพอเข้าใจคำที่ปู่3เค้ากล่าวกับ

    คนในฮู้ดอยู่



    ไม่นานหยุนไห่ก็มาหยุดที่สวนสาธารณะ​ใกล้ๆห้าง


    "สหายเต๋าข้าขอโทษกับการเสียมารยาท​ของคนตระกูลข้าหวังว่าสหายเต๋าจะไม่เอาความ" ผู้อาวุโสมู่โค้งคำนับ



    หยุนไห่เห็นอย่างนั้นจึงเอ่ยแน่นอนว่าน้อยเสียงนิ่งมาก

     "เจ้าควรอบรมคนของตัวเองให้ดีกว่านี้ครั้งนี้เป็นแค่การตักเตือนแต่ครั้งหน้าข้าจะฝังพวกมันซะ" เสียงอันเยือกเย็น​ดังขึ้น


    " ออกมาเถอะเจ้าหนู"หยุนไห่มองไปที่ต้นไม้ด้านหลัง


    มู่หลงชุนก้าวออกมาอย่างมั่นคง



    และโค้ง


    "ข้าขอโทษที่ไม่ดูทางหวังว่าผู้อาวุโสจะไม่เอาความ"


    หยุนไห่ที่ใบหน้าที่สวมอยู่ในฮู้ดของหยุนไห่กำลังคิ้วกระตุก


    " นี้มันบ้าอะไรกันแค่ออกมาวันแรกทำไมเป็นแบบนี้แล้วที่เราตอบไปก็แค่สร้างมาดผู้ลึกลับเท่านั้นไง" 


    การตอบสนองมันไม่เหมือนตั้งแต่ที่หยุนไห่พบชายชราเค้าก็คิดถึงเนื่อเรื่องของนิยายแนวกำลังภายในและตอบตามพล็อตเรื่องไปเท่านั้นละสหายเต๋าบ้านแกสิบิดาผู้นี้เป็นแวมไพร์​ไม่ใช้ผู้ฝึกตนถึงอนาคตจะไม่แน่ก็เถอะ



    หยุนไห่รวบรวมความคิดอย่างรวดเร็วก่อนจะถอด

    ฮู้ดออก


    เมื่อใบหน้าปรากฎ


    ทั้งชายชราและนายน้อยทั้งสองตกตะลึก


    "งดงามยิ่งนักงดงามกว่าหลิวหยุนเสียอีก" มู่หลงชุนเผลอหลุดปากออกมาอย่างไม่ตั้งใจแต่ก็ช่วยไม่ได้หยุนไห่ตอนนี้ผมยาวถึงกลางหลังดวงตากลมโตผิวขาวราวไข่มุก​คิ้วเรียวบางใบหน้าแสดงความสงบไม่มีเย็นชาหรืออ่อนโยนมีเพียงความสงบนิ่ง


    แต่บรรยากาศ​กลับเย็นคงทันใด



    "หลงชุนเสียมารยาทขอโทษเดียวนี้" ผู้อาวุโสตระกูล​มู่เอ่ยเสียงดังเขารู้แล้วว่าอีกฝ่ายน่ากลัวเพียงใดแค่จิตสังหารกลับทำให้บรรยากาศ​เย็นลงแบบนี้มีเพียงยอดฝีมือ​เป็นแน่



    ผู้อาวุโส​ตระกูล​มู่ไม่รู้เลยว่าคำพูดของเค้าเมื่อครู่ทำให้พวกเขารอดพ้นจากความน่ากลัวสุดขีดมาได้



    " ข้าน้อยขอโทษผู้อาวุโสโปรดรับสิ่งนี้แทนคำขอโทษด้วย" หลงชุนไม่ใช่คนโง่การที่ผู้อาวุโส​ตระกูล​บอกเค้าแบบนี้แสดงว่าอีกฝ่ายทรงพลังมาก



    หยุนไห่มองการ์ดที่ยื่นมาและถอดหายใจ


    "ช่างเถิด" หยุนไห่รู้ว่าหากตนไม่รับอีกฝ่ายคงไม่สบายใจเป็นแน่และการต้อนอีกฝ่ายให้จนมุมก็ไม่ใช่ทางออกเช่นกัน



    ทั้งสองคนถอนหายใจเมื่อเห็นว่าบรนยากาศกดดันน้อยลง



    หยุนไห่รับบัตรสีดำออกมาเงียบเค้ารู้ว่านี้คือบัตรรูดไม่จำกัดของธนาคาร&$&สามารถรับวงเงินสูงสุดไม่ต่ำกว่าสิบล้านหยวน


    "สหายเต๋าไม่ทราบว่าท่านมีชื่อเสียงเรียงนามว่าเข่นไร" ชายชราตระกูล​มู่ถามอย่างระมัดระวัง



    "ข้าสกุลหยุน​ แค่นี้ก็พอสหายเต๋า​เราขอเตือนสักหน่อยการหายใจท่านไม่ดีเลยนะระวังด้วยละ" หยุนไห่กล่าวขณะพุ่งหายไปในพริบตาก็ห่างออกไปนับร้อยเมตร



    ทั้งสองคนตกใจมาก


    " ปู่สามพวกเราพบกับใครกันแน่"มุ่หลงชุนตกตะลึง​มาก


    "หลงชุนเอ๋ย​ เจ้าคงไม่รู้หรอกว่าโลกใบนี้มันน่ากลัวกว่าที่เจ้าเยอะแต่เจ้าจงจำไว้อย่าได้ยั่วยุ​พวกเขาในอนาคตควบคุม​อารมณ์​ให้ดีอย่ามองคนแต่ภายนอก" ผู้อาวุโส​ตระกูล​มู่เอ่ยขึ้นอย่างเรียบเฉยขณะเดินทางกลับ



    " เห้อ​ การฝึกฝนตลอดชีวิตของชั้นไม่พอจะทำอะไรได้เลยโถ่  ชีวิต​หนอ​ชีวิต​"


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×