ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ระบบชิงโชค(ปิดแบบไม่มีกำหนด)

    ลำดับตอนที่ #8 : ปีกเมตาตรอน

    • อัปเดตล่าสุด 10 ก.ย. 64


    ในบ้านหยุนไห่นั่งรอการชิงโชคอยู่พอควร

    จากนั้นวังวนสีรุ่งก็สว่างวาบ

     



    คำเตือนไปพื้นที่โล่ง



     

    หยุนไห่สะดุ่งและวิ่งออกจากบ้านทันที

    ที่หลังบ้าน

    แสงสีขาวปะทุออกมา

    หยุนไห่หรี่ตาและกระโดดหนีทันที

     



    ปราาฎปีกสีขาวบริสุทธ์  สามคู่ปรากฎออกมา

    หยุนไห่ถอยหนีทันที



    “เวียนหัวจัง”หยุนไห่กุมหัวขณะถอยออกมา

    เป็นธรรมชาติของแวมไพร์ที่จะแพ้ทางพลังเทวฑูตและอีกอย่างแวมไพร์บรรพบุรุษของหยุนไห่ยังไม่มีพลังต้านทานได้แต่หากมีพลังเต็มที่ก็ไม่แน่

    ติ่ง



    ท่านได้รับปีกทูตสวรรค์ของเมตาตรอนไม่สมบูรณ์

    ระดับสมบัติ 9 



    โบนัสพิเศษสำหรับการได้รับสมบัติระดับ9ครั้งแรกได้รับ

    ตั๋วชิงโชค9ใบ



    ท่านได้รับ 900แต้ม

    แต้มสะสมครบระดับ

    สามารถยกระดับได้แล้ว


     

    “ปีกของฑูตสวรรค์เมตาตรอน?”หยุนไห่รู้สึกคุ้นเคยกับชื่อนี้และหยิบมือถือออกมา

     



    เมตาตรอน

    หยุนไห่พิมพ์เสร็จแล้วก็

    อ่าน

    5นาทีต่อมา



    ดวงตาของหยุนไห่ก็มองบนเมื่อเห็นว่าท้องฟ้าปกติจึงถอนหายใจ



    “ดูเหมือนจะไม่ใช่เมตาตรอนของโลกนี้ไม่สิโลกนี้จะมีฑูตสวรรค์จริงๆหรอ”หยุนไห่มองข้อมูลของปีกนั้น

     



    ปีกฑูตสวรรค์ของเมตาตรอนที่ไม่สนบูรณ์

    เมตาตรอนคือฑูตสวรรค์ผู้แข็งแกร่งที่สุดในหมู่ฑูตสวรรค์

    แม้จะเป็นแค่ปีกของเทวฑูตแต่ด้วยความที่มันเป็นสิ่งที่เกิดจากแก่นแท้พลังของเมตาตรอนถึง3ใน10

    มันสามารถทำลายปีศาจระดับต่ำได้ทันทีมีปีศาจระดับกลางอาจบาดเจ็บสาหัสปีศาจระสูงไม่ไม่อาจสัมผัสได้

    มีผลเล็กน้อยกับปีศาจระดับราชาขึ้นไป

     



    ท่านสามารถติดตั้งปีกแห่งเทวฑูตเข้ากับหลังของท่านได้ต้องการติดตั้งหรือไม่หากติดตั้งไม่สามารถถอนออกได้อีก



    และหากไม่ติดตั้งใน7วันไม่อย่างนั้นจะถูกสวรรค์ดึงกลับคืน



     

    ต้องใช้ตั๋ว9ใบในการติดตั้งต้องการใช้หรือไม่

     



    “ระบบ นายจงใจใช่ไหม”หยุนไห่เอ่ยอย่างไม่สมอารมณ์นี้ไม่ต่างจากไม่ได้อะไรเลยนั้นโอกาสตั้ง9ครั้งเลยนะ

     



    “ระบบไม่ได้บังคับแต่โฮสต์ลองคิดดูหาก9ครั้งนั้นท่านได้ขยะละระบบบอกได้เลยว่าโฮสต์ว่าโฮสต์คงอยากตายแน่แต่สมบัตินี้มีประโยชน์กับโฮสต์มากมายและที่สำคัญไม่มีใครสามารถทำให้แวมไพร์บรรพบุรุษมีใช้ปีกฑูตสวรรค์ได้คงมีเพียงระบบเท่านั้น”ระบบเอ่ยขึ้นอย่างอย่างเด็ดขาดและเย็นชา

     





    หยุนไห่เงียบตามและครุนคิด

    “มันจะไม่เป็นไรหรอแวมไพร์ก็เป็นปีศาจไม่ใช่หรอ”หยุนไห่เอ่ยถามเพราะไม่ยากเป็นแวมไพร์ที่โง่ขนาดถูกปีกของฑูตสวรรค์ฆ่าตาย

     




    ติ่ง

    เเวมไพร์ไม่ได้เป็นปีศาจตั้งแต่ต้นแต่เป็นมนุษย์ที่วิวัฒนาการต่างหากแต่มนุษย์ธรรมดายอมรับไม่ได้จึงถูกขับไล่จนเข้าร่วมกับปีศาจและเป็นส่วนหนึ่งจึงได้ครอบครองพลังปีศาจมา

    หากเปรียบเทียบกันแล้วหากมีปีศาจตนใดคิดจะล้างบางมนุษย์ไม่มีทางเป็นแวมไพร์แน่นอนต่อให้อีกฝ่ายเลวร้ายแค่ไหนก็ตามยกเว้นเพียงมันจะบ้าจริงๆ

     



    ระบบเอ่ยยืนยันแล้วหยุนไห่จึงทำเพียงเชื่อเท่านั้น

     



    “เอาเลย”หยุนไห่ผ่อนคลายคงขณะนำมือสัมผัสปีกแต่มีเพียงควันสีดำที่ออกจากมือของหยุนไห่แต่หยุนไห่กลับสัมผัสมันได้

     


    ติ่งทำการความรวมและติดตั้ง

     



    จากนั้นพลังปริศนาราวกับทำได้ทุกอย่างก็ปรากฎออกมาปีกที่ดูราวกับสิ่งที่จับต้องไม่ได้พุ่งเข้าไปในร่างของหยุนไห่ทันที

     



    ไอปีศาจสีดำลอยออกมาอย่างมหาศาล

     



    ใบหน้าของหยุนไห่ดูสดชื่นมาก

    อบอุ่น

    อ่อนโยน

    บริสุทธ์

    กล้าหาญ

    ปกป้อง

    ต้องแข็งแกร่งในสวรรค์



    หยุนไห่ถูกแสงสีขาวล้อมรอบราวกับมีชีวิต

     


    ผมสีดำกลายเป็นสีขาวดวงตาสีขาวบริสุทธ์ไร้มลทิน



    ผมยาวถึงสะโพก

    ใบหน้าดูหล่อเหลาราวเทพเจ้า(ร่างนี้โครตหล่อ)

    ร่างของหยุนไห่ได้ลอยขึ้น

    พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า

    ราวมีปีก

     


    ทะยานจนเหนือเมฆ

     



    ราวจึงหยุดลง

    ดวงตาสีขาวที่บริสุทธ์มองพื้นด้านด้วยสายตาซับซ้อน

     



    ปีกสีขาวทั้ง3คู่เริ่มงอกออกมาด้านหลังปีกสีขาวอันบริสุทธ์สยายปีกออกมา

     



    รัศมีแสงสีขาวแผ่ออกมาดูราวกับเทพ

     




    น่าเสียได้ที่ไม่มีผู้ได้พบเห็น

    โดยไม่รู้หยุนไห่ได้แผ่พลังที่มองไม่เห็นกระจายออกไป





    ในโบสถ์เก่าแก่แห่งหนึ่งในวาติกัน





    มีบาทหลวงและแม่ชีหลายคนกำลังภาสนาต่อพระผู้เป็นเจ้าทันใดนั้น




    ไม้กางเขนก็ส่องสว่างออกมา





    ปรากฎเงาลางของฑูตสวรรค์​ออกมาอีกทั้ง6สยายออกมา



    ทุกคนในโบสถ์ตกตะลึง




    "พระผู้เป็นเจ้า​" แม่ชีคนหนึ่งเริ่มภาวนา




    "1ใน7มีทูตสวรรค์​ผู้ยิ่งใหญ่​ได้จุติมาบนโลกใบนี้แล้ว" บาทหลวงคนหนึ่งกล่าวด้วยความตื่นเต้น





    "เร็วเข้ารีบแจ้งพระสันตะปาปา" บาทหลวงที่นึกได้กำลังจะวิ่งไปแต่กลับพบ



    ชายชราผมขาวในชุดสีขาวมาอยู่ตรงหน้าตน




    "เรารู้แล้ว" ชายชราเอ่ยขึ้นด้วยเสียงอ่อนโยนราวฤดูใบไม้ผลิ​มันทำให้คนฟังรู้สึกสบายใจ






    " กางเขนแห่งสวรรค์​ทำงานหรือตั้งแต่เมื่อ5ปีที่แล้วครั้งนี้มันก็ทำงานขึ้นมาอีกหรือท่านผู้ยิ่งใหญ่​คนใดกันที่ก้าวลงมาสู่โลกมนุษย์​นี้" พระสันตะปาปา​เอ่ยขณะมองไปที่กางเขนปีกทั้ง3คู่แสดงถึงชนชั้นกันสูงส่งที่สามารถยืนต่อหน้าพระองค์ได้

     


     เซราฟิม(เมตาตรอนที่มี12ปีกำหมัด)​


     



    ไม่มีใครทราบได้ว่าใครที่ลงมา

     


    " พอจะทราบหรือไม่ถึงที่อยู่"สันตะปาปา​เอ่ยขณะฝ่ามือส่องแสงสีทอง





     

     ปรากฎแผนที่โลกขึ้นมา


    จากหลายทวีปเริ่มขยายจากนั้น


    ก็ซูมลงมาที่



    ประเทศจีน



    ทางภาคตะวันตกของประเทศ




    เพล้ง


    อัก


    พระสันตะปาปา​กระอักเลือดออกมา

    หน้าที่ซีดเซียว



    บาทหลวงรีบมาพยุง

    "ท่านสันตะปาปา​เป็นอะไรหรือไม่" เกิดอะไรขึ้นทำไมพระสันตะปาปา​ถึงกระอักเลือดมันแค่เวทย์​ค้นหาไม่ใช้หรือไม่มีใครรู้ว่าพระสันตะปาปา​มีพลังเหนือล้ำเพียงใด





    พระสันตะปาปา​ชราเสียหัวเบาและยิ้มแย้ม​ออกมา

    "ไม่เป็นไรท่านผู้นั้นแค่ไม่อยากให้พวกเรามายุ่งเท่านั่นแต่ไม่เป็นไรพวกเจ้าติดต่อท่านแอนนาให้ไปหาท่านผู้นั้นดีกว่า" พระสันตะปาปา​เอ่ยถึงชื่อหญิงสาวคนนั้นที่ถือกำเนิดมาบนโลหรือเทวดานั้นเอง

     

     



     "ครับ" บาทหลวงรีบไปจัดการ




    พระสันตะปาปา​มไม้กางเขนและเอ่ยขึ้น





    " จะมีอะไรเกิดขึ้นในอนาคตอีกหรือไม่พระผู้เป็นเจ้าโปรดอวยพรพวกเราด้วย"พระสันตะปาปา​เอ่ยด้วยเสียงเบา

    พระสันตะปาปา​ผู้ยึดเส้นทางแหความดีมาทั้งชีวิต​ผู้ศรัทธา​ต่อพระผู้เป็นเจ้าอย่างยิ่ง

     






    ตัดมาทางหยุนไห่ที่ยังไม่รู้เรื่องอะไรอีกตามเคย




    กำลังบินอยู่บนท้องฟ้าด้วยปีกสีขาวบริสุทธิ์​อย่างสง่างาม





    " พลังนี้คืออะไร"หยุนไห่คิดในใจขณะมีบอลแสงสีขาวออกมา




    ติ่ง

    นี้คือพลังเวทย์​ของเทวฑูตมันมีพลังมากกว่าพลังเวทย์​ที่มีบนโลกนับ10เท่าไม่สิต้องบอกว่ามันคงละชั้นกัน



    "แน่ชั้นกลายเป็นฑูตสวรรค์​ไปแล้วหรอ?" หยุนไห่เอ่ยขึ่นอย่างสงสัยเพราะรู้สึกมีพลังแบ่นภายในร่างอย่างมากมาย





    ติ่งจะบ้าหรือ

    โง่รึไง

    การกลายเป็นฑูตสวรรค์​ก็เหมือนกลายเป็นเทพเซียนนั้นละ




    หากลองเปรียบเทียบ​กันง่ายนะ



    ฑูตสวรรค์​ทั้ง7ก็เหมือนองค์ยูไล่, เง็กเซียน, จักรพรรดิ​เหลือง, ราชานรก, ไท่ซางเหล่าจวินเป็นต้น



    ส่วนระดับชั้นลงมา

    ชั้นเอกโทตรี



    ก็เหมือน​ ราขาวานร, นาจา, ฉ่านเออร์, ราชามังกรทั้ง4, 





    หากเปรียบเทียบพระผู้เป็นเจ้า​ก็คิดว่าเป็นผานกู่เบิกสวรรค์​ก็ได้





    สวรรค์​ทั้งสองมีความหมายเดียวกัน



    แค่อีกฝ่ายบ่มเพาะจอมเวทย์เท่านั้นและกลายเป็นเทพ

    และอีกฝั่งบ่มเพาะเซียนและกลายเป็นเทพเซียน



     ทุกเส้นทางคือการก้าวสู่ความนิรันดร์​



    ระบบเอ่ยอย่างยิ่งใหญ่



    หยุนไห่เงียบ




    "นี่ไม่ใช่ปีกนี่มีพลัง3ใน10ส่วนของคุณเมตาตรอนหรอ" หยุนไห่เรียกอีกฝ่ายว่าคุณเพราะไม่รู้จะเอ่ยยังไงไม่ได้นับถือคริสต์สะด้วย




    ติ่ง

    มีพลัง3ใน10ก็จริงแต่พลัง2ส่วนถูกใช้ในการปรับแต่งร่างกายของโฮสต์​ให้รองรับพลังได้จึงเหลือพลังเพียง1ใน10




    ซึ่งหากเทียบจริงก็คือพลังเวทย์1ใน10ของเมตาตรอนอยู่ในปีกของโฮสต์​ถาวร

     

     




    "หะ​ เหลือ1ใน10ทำไมรู้สึกเหมือนถูกปล้นจังนะ" หยุนให้รู้สึกว่าพลังมันน้อยไปหน่อย




    ระบบพูดไม่ออกมันอยากจะพูดบางอย่างแต่ก็เลิกพูดไปก็เสียพลังงานเปล่า




    "หยุนไห่นะหยุนไห่​  โลกใบนี่ช่างน่าสนใจกว่าที่คิดเสียอีกหรือนี่จะเป็นบททดสอบของพระเจ้ากันความทุกข์​นับ20ปี​ จากนั้นคือความสุขงั้นหรอ"หยุนไห่ที่ยังลอยเหนือท้องฟ้าได้เอ่ยอย่างหลงตัวเอง





    "หืมนั้นอะไรนะ" หยุนไห่ที่พึ่งลอยพ้นเมฆ

     



     เห็นเครื่องบินขนาดใหญ่พุ่งมา





    " เวรกรรม"หยุนไห่คิดขณะกลับตาและนำแขนมากัน



    ปัง


    หยุนไห่ถูกชนจนแขนบิดรูปแต่ก็ฟื้นตัวในเสี่ยววินาที


    " เมื่อกี้นายได้ยินเสียงอะไรไหม"นักบินเอ่ยขึ้น



    " จะบ้ารึไงนี้มันเหนือเมฆแม้แต่นกก็บินไม่ถึงหรอก" นักบินอีกคนกล่าวพวกเขาแค่อยากลองบินสไลด์​กับก้อนเมฆเท่านั้นไม่คิดว่ามันรู้สึกดีแค่ไหนกัน





    หยุนไห่ตอนนี่ปีกได้สลายหายกลับไปในหลัง


    ร่างสีขาวได้หายไปกลับมาสู่ร่างบอบบาง​งดงามเหมือนเดิม



    หยุนไห่ตอนนี้หมดสติไปครู่หนึ่ง



    " จะร่วงจะร่วง"หยุนไห่คว้ายอดไม้ไว้ได้ทันก่อนจะตกลงพื้นขณะลอบปาดเหงื่อเย็นๆ



    "แค่กๆๆ​  ให้ตายเถอะเครื่องบินบัดซบอย่าให้บิดารู้นะขับเครื่องบินสไลด์​ตามเมฆเพื่ออะไร?" หยุนไห่รุ้สึกสงสัยในชีวิต​หากเค้าไม่ได้เป็นแวมไพร์​บรรพบุรุษ​แต่เป็นมนุษ​ย์ธรรมดาแม้จะบ่มเพาะมานานจะรอดไหมเหมือนกัน




    หยุนไห่ได้แต่สาปแช่งเงียบขณะถอนหายใจ


    "เลิกซะเลิก​  เลิกเบียวซะที"ระบบเอ่ยกรอกหู



    " หนวกหูนะนายไม่เข้าใจทุกคนบนโลกมันก็เบียวเหมือนกันหมดละ" หยุนไห่บ่นและคิดจะไปดื่มเลือดยอมใจซักหน่อย





     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×