ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ระบบชิงโชค(ปิดแบบไม่มีกำหนด)

    ลำดับตอนที่ #11 : โลกอีกด้านภาค1​ เมืองสังหารโลหิต

    • อัปเดตล่าสุด 2 มี.ค. 65


    หยุนไห่ได้มองไปที่ด้านหน้าของตนอย่างลังเล
     

     


     

     

    "เอาละหากจำไม่ผิด​ วิธีเข้าสู่โลกอีกด้านนั้นมี2วิธี" หยุนไห่ที่อ่านเอกสารแล้วจึงรู้ข้อมูล​มากมายจากซูซาโนะโอะ

     

     

     

     

     

    "วิธีแรกอาศัยโชค​ จาการที่โลกอีกด้านจะเปิดขึ้นมาเองบางครั้งซึ่งแม้แต่คนธรรมดา​ก็สามารถเข้าไปได้เราจะเรียกคนเหล่านั้นว่าผู้พัดหลงชาตะกรรมนั้นเลวร้ายมากโชคดีอาจจะแข็งแกร่ง​ขึ้นมีพลังขึ้นมาและออกจากโลกอีกด้านได้แต่หากโชคร้ายความตายอาจมีความสุขกว่า" หยุนไห่กล่าวขณะที่ออร่าสีแดงเลือดแผ่ออกมา

     

     

     

    " นี้ระบบชั้นถามหน่อยไม่มีอะไรมาวัดพลังหรือระดับการบ่มเพาะของชั้นเลยหรอ"หยุนไห่คิดในใจขณะที่พื้นดินแตกราวเป็นใยแมงมุม​

     

     

     

    ติ่งตั้งแต่เมื่อใดกันที่สามารถวัดความสามารถที่แท้จริงเป็นตัวเลขได้และตัวอักษรได้

     

     

     

    ระบบกล่าวขึ้นม

     

     

     

    หยุนไห่ยิ้มขึ้นมาและกล่าว

     

     


     

    "นั่นละชั้นถึงชอบนาย"หยุนไห่กล่าว

     

     

     

    " ระบบถึงจะไม่มีเพศแต่ก็ไม่ใช่ไม้ป่าเดียวกันโฮสต์​อย่าแม้แต่จะคิด" ระบบ

    หยุนไห่เกือบจะสะดุดลงแต่ก็กลับมาจริงจังกับมุกงี่เง่าของระบบ

     

     

     

     

    "และวิธีที่สองคือ​ การที่ผู้ใช้พลังแผ่พลังออกไปรอบตัวและนำตัวเองไปสู่โลกอีกด้านอย่างนี้แต่ต้องเป็นคนที่สามารถแผ่พลังออกมาจากร่างกายได้เท่านั้นไม่งั้นก็ฝันที่จะเข้าไปได้เลย" สิ้นเสียงร่างของหยุนไห่ก็หายไปราวกับไม่มีตัวตนไร้ซึ่งปรากฎการณ์ใดๆเหมือนเงาที่อยู่ครู่หนึ่งและหายไป

     

     

     

     

     

    ภายใน

     

     

     

    พื้นดินร่างของหยุนไห่ปรากฎขึ้นมา

     

     

     

    " นี่สินะโลกอีกด้าน"หยุนไห่มองไปรอบๆท้องฟ้าหลากสีชวนรู้สึกอัศจรรย์​

     

     

    หยุนไห่หันไปด้านหลังที่ควรเป็น

     

     

     

    ใน​นี่มีศาลเจ้าปรากฎขึ้นด้านหลัง

     

     

     

    ศาลเจ้าแบบญี่ปุ่น​ที่ดูเก่าแก่มีความงดงามตามสไตล์ญี่่ปุ่น


     

     

     

    " ถามจริงตรรกะ​ของโลกนี้คืออะไร"หยุนไห่ได้แต่ส่ายหัวขณะเดินเข้าไปในศาลเจ้าเก่าแก่

     

     

    ติ่ง

    ท่านได้รับ

    สมบัติมิติ

    ศาลเจ้าแห่งชินโต

    ไม่ได้รับแต้ม

    ท่านได้พบสมบัติ​มิติ

     


     

    น่าเสียดายที่ไม่ได้รางวัล​


     

     


     

    "หยุนไห่เอ่ยหยุนไห่​ ทำไมชั้นถึงสับสนกับชีวิต​จริง" หยุนไห่ถอนหายใจดวงมันจะดีไปไหมแต่น่าสงสัยคือสิ่งนี้ควรจะอยู่ที่ญี่ปุ่นสิหรือว่าโลกอีกด้านสามารถเชื่อมต่อกับทุกที่

     

     

     

    หยุนไห่เข้าไปในศาลเจ้า

    “กราบไหว้หน่อยก็แล้วกัน”หยุนไห่คิดเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม

     

     

     

    จุดธูปขึ้นมาและจุดไฟ

    หลังจากปักธูปเสร็จ

     

    แสงสีทองก็ส่องราวกับการอวยพรในสายตาของมนุษย์ธรรมดานั้นอาจมองไม่เห็นแต่ในสายตาของแวมไพร์บรรพบุรุษนั้นไม่ใช้

     

     

    ท่านได้รับค่ามานาเพิ่มขึ้น35%ชั่วคราว1ปี

    จากการสักการะ

     

     

     

    พลังของหยุนไห่หลับตาสัมผัสถึงมานาที่มากขึ้นหยุนไห่รู้สึกถึงมานามาตั้งนานแล้วแต่แค่ไม่รู้วิธีใช้ต่างหากเลยทำแค่นำมาเสริมแกร่งร่างกายแบบง่ายที่ใครก็ทำได้เท่านั้น

     

     

     

     

    “นี้ระบบพอบอกได้ไหมนี้ศาลเจ้าอะไร”หยุนไห่รำพึ่งเงียบ

     

     

     

    ศาลเจ้าอินาริ

    “ศาลเจ้าอินาริงั้นหรอ  เดี่ยวก่อนขอลองอะไรบางอย่างก่อน”หยุนไห่สูดหายใจ

    ออร่าสีแดงไหลอกมา

    ราวโลกพลิกกลับ

     

     

    หยุนไห่ได้มาที่โลกปกติแต่มีสิ่งที่ต่างออกไป

     

     

     

    “ที่นี้ที่ไหนที่นี้ควรจะเป็นหน้าบ้านสิ”หยุนไห่มองไปรอบตนอยู่ในศาลเจ้าที่อยู่ในเหมือนในโลกอีกด้านและหยุนไห่ที่ได้เดินทางกลับสู่โลกจริงที่ศาลเจ้ากลับพบว่าตนไม่ได้อยู่ที่ที่ควรอยู่

     

     

    “ไหนดูสิ อยู่ไหน  ”หยุนไห่หยิบมือถือขึ้นมาโชคดีที่ซิมเป็นแบบเชื่อมต่อได้ทั่วโลก

    ญี่ปุ่น เกียวโต

    เมือง เอสากะ

    ศาลเจ้าไรฮะ 

     

     

    บ้าน่า”หยุนไห่ตกใจจริงๆและมองรอบอย่างระแวง

     

     

     

    “นี้ระบบมันคืออะไรกันแน่ชั้นถึงมาที่นี้ได้”หยุนไห่เอ่ยในใจ

     

     

    น่าสนใจมากดูเหมือนศาลเจ้าในโลกอีกด้านจะเชื่อมต่อกับศาลเจ้าที่นี้ มันก็เหมือนกับอยู่คนละมิติและกลัมาตามพิกัดที่ตั้งไว้นั้นละ  หากอยากกลับบ้านโฮสต์ลองเข้าไปในศาลเจ้าละเข้าสู่โลกอีกด้านและออกมาจากศาลเจ้าและออกสู่โลกจริงดู”ระบบเอ่ยอย่างเหยียดหยามราวกับกำลังเยาะเย้ยสติปัญญาของโฮสต์

     

     

     

     

    หยุนไห่ไม่สนคำสบประมาทของระบบ

     

     

     

    วิ่งเข้าไปในศาลเจ้าและเข้าสู่โลกอีกด้านจากนั้นก็วิ่งออกจากศาลเจ้า

     

     

     

    มองท้องฟ้าหลากสีก็ถอนหายใจ  

     

     

     

    “เอาละออกจากโลกอีกด้าน”หยุนไห่คิดและมีแรงที่มองไม่เห็นดึงไปครู่หนึ่ง

     

     

     

     

    หยุนไห่ลืมตาขึ้นท้องฟ้าที่มีสีฟ้า

    มองเห็นบ้านแสนสุขก็แสดงความโล่งใจ

    “แสดงว่าหากชั้นออกจากโลกอีกด้านในศาลเจ้าชั้นจะไปโผล่ที่ญี่ปุ่นสินะ โลกอีกด้านช่างน่าสนใจจริงๆน่าเดียดายที่มันกำลังจะหลอมรวมกับโลกความจริงอีกไม่นาน”หยุนไห่คิดขณะดวงตาทอแสงประหลาดออกมา

     

     

     

    ร่างกลายเป็นชายผมขาวบริสุทธิ์มาก

     

    ปีกสีขาวโบกสะบัดทั้ง6ปีกที่สง่างาม

     

     

     

     

    “เอาละไปที่ที่แม่หายไปกัน”หยุนไห่ทะยานขึ้นสู่ฟากฟ้าตอนนี้สิ่งสำคัญก็คือการตามหามารดาของตนเท่านั้นแม้ว่าความหวังจะริบหรี่แต่มันก็คุ้มค่าที่จะพยายาม

     

     

     

    ผ่านระดับเหนือเมฆ  

    และพุ่งไปทางทิศเหนือของประเทศด้วยความเร็วราวเครื่องบิน

     

     

     

    “แม่ครับ  อย่าเป็นอะไรนะ”หยุนไห่คิดในใจแม้ความเป็นไปได้ที่มารดาจะตายไปแล้วสูงมากแต่เค้าก็ไม่อยากทิ้งความหวังต่อให้ใครหน้าไหนก็ตามมันจะไม่มีทางยอมแพ้จนกว่าจะถึงที่สุด

     

     

     

    ตูมมมมม

     

    โซนิกบูมปรากฏที่ด้านหลังออกมาสายรุ้ง7สีปรากฎออกมาเป็นวงแหวนจากนั้นร่างของหยุนไห่ก็พุ่งหายไป

     

     

     

    เสียงระเบิดความเร็วการบิน

     

     

    “แม่ของชั้นประสบอุบัติเหตุรถตกเขาเจอรถแต่ไม่เจอศพอะไรเลยมีแค่รอยเลือดบางส่วน ภูเขาที่เกิดเหตุคือภูเขาซินซางมลฑลชิงไห่ เราอยู่เกือบติดชายแดนทิเบต  ระยะทางไกลมากจริงๆ”หยุนไห่คิดมันไกลหากเดินทางด้วยรถยนต์แต่หากบินไปมันจะเร็วมากๆ

     

     

     

     

     

    ในภูเขาซินซาน

     

     

     

     

    โลกอีกด้าน

    ท้องฟ้าสีแดงชาด

    มีมนุษย์ในชุดโบราณถือกระบี่และหน้าไม้ทุกคใบหน้ามีความดุร้ายและโหดเหี้ยม

    หลายคนบนกำแพงที่ทำมาจากองกระดูกไรู้ว่ามีกี่ชีวิตที่ต้องตายไปแล้ว

    ในเมืองที่มีผู้ที่อยู่ในชุดสมัยใหม่แต่มีปลอกคอลากอยู่

    ใบหน้าเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง

    ดูเเล้วมีอยู่ราว10000คนในเมือง

     

     

     

     

    “เร็วเข้าอยากตายเร็วรึไง”ชายในชุดเกราะกล่าวอย่างดุร้ายขณะฟาดแส้ใส่ชายในชุดสูทสูท

     

     

    “  อ๊ากกกก   ได้โปรดปล่อยชั้นไปเถอะนายอยากได้เงินไหมเดียวชั้นให้”ชายในชุดสูทที่ถูกฟาดจนโชกเลือดได้กอดขาทหารในชุดเกราะเอาไว้อย่างอ้อนวอน

     

     

     

     

    “เฮอะ เศษกระดาษแบบนั้นมันไม่มีค่าในเมืิองสังหารโลหิตแห่งนี้หรอก ฮ่าๆๆ”ทหารยามเอ่ยขณะหัวเราะเยาะอีกฝ่ายอย่างเย้ยหยันและเตะชายในชุทสูทจนปลิวอัดกำแพงจนอีกฝ่ายลุกออกมาไม่ได้อีดแสดงให้เห็นอย่าชัดเจนว่าพลังนั้นเกินขอบเขตของมมนุษย์ธรรดาไปไกลมากแล้ว 

     

     

     

    เหล่าผู้พลัดหลง(พวกที่ถูกพามาโลกอีกด้านโดยไม่เต็มใจหรือถูกลักพาตัวมา)ต่างหวาดกลัวพวกเขามาที่นี้ได้อย่างไร

    ไม่มีใครกล้าส่งเสียง

     

     

     

    “นี้อย่าให้มันตายเยอะละไม่งั้นท่านเจ้าเมืองคงโกรธแน่ที่ทำให้ทรัพยกรการฝึกฝนของท่านหายไปนะ”ทหารอีกคนเตือนเพื่อนร่วมงานของตนไม่ให้ฆ่่่่าคนที่เก็บรวบรวมมาหลายสิบปีต้องหายไป

     

     

     

     

    “โอเคเอาไงก็ได้แต่ว่า  จะเอาไงกับพวกผู้หญิงพวกนี้ละ”ทหารชี้เหล่าผู้หญิง

    ที่หน้าตายังดูไม่เกิน30แต่เสื้อผ้าดูเหมือนจะไปหลุดรุ่ยราวกับว่าถูกกระทำอย่างบ้าเถื่อนและโหดร้ายแววตาของพวกเธอสูญเสียประกายแห่งชีวิตไปแล้ว

     

     

     

     

    “ท่านเจ้ามือสั่งให้เอาไปขังไว้ที่ห้องใต้ดินก่อนท่านจะใช้ผู้หญิงเหล่านี้เป็นเตาแห่งชีวิต”ทหารอีกคนกล่างและรู้สึกเห็นใจเล็กน้อย

     

     

    เตาแห่งชีวิตคือการกลั่นผู้หญิงที่อายุไม่เกิน30 ในเตาขนาดใหญ่ทั้งเป็นจนกลั่นเป็นเม็ดยาหยินบริสุทธ์เพื่อบ่มเพาะเป็นวิธีที่ชั่วร้ายอย่างมากเพราะมันต้องใช้ชีวิตของมนุษย์เป็นเครื่องสังเวย 

     

     

     

     

    “หะ  นี้มันรอบที่8แล้วนะ”ทหารยามอีกคนกล่าวด้วยความกลัวไม่น้อย

    การกลั่นแต่ละครั้งต้องใช้หญิงสาว999คนทุกครั้ง ผ่านมามา8รอบแล้ว

    มันต้องใช้ชีวิตมากขนาดไหนกัน

     

     

     

    "ก็ช่วยไม่ได้นิแม้จะมีโลกอีกด้านก็เถอะแต่คิดว่ามีผู้บ่มเพาะหญิงรึไงความจริงมันใช้แค่9คนที่เป็นผู้บ่มเพาะและยังบริสุทธ์ก็พอแล้วแต่แกคิดว่าหากมันง่ายเหมือนสมัยโบราณที่การบ่มเพาะยังรุ่งเรื่องรึไง ไม่งั้นคิดหรือว่านายท่านจะเอาคนธรรมดามาบ่มเพาะ

     

     

     

     

    ทหารคนนี้แม้จะบ่มเพาะมานับสิบปีแต่ก็ยังอยู่แค่ระดับเริ่มต้นทหารในเมืองทุกคนก็เป็นแบบนั้น

    เมื่องนี้มีอยู่มาหลายร้อยปีแล้วพวกเค้ารู้ว่าเจ้าเมืองสังหารโลหิตมีอายุมามากกว่าร้อยปีแล้ว

    ไม่มีใครรู้ว่าเค้าอยู่ขั้นใด

    ในชั้นใต้ดินของตำหนักเจ้ามืิอ

     

     

     

    มีกลุ่มหญิงสาวถูกขังอยู่ในนี้เกือบร้อย

    และยังมีกรงขังอีกนับร้อยอยู่ใต้ดินแห่งนี้

    เต็มไปด้วยหญิงสาวและเด็ก

     

     

     

    ในกรงขังแห่งหนึ่งในมุมหนึ่ง

    มีหญิงสาวที่ดูงดงามอายุราว28ปีผมสีดำดวงตาสีดำงดงามแต่ตตอนนี้ถูกปกปิดด้วยฝุ่นดินเข้าไว้แต่ก็ยังดูดีอยู่

    หญิงสาวคนนี้คือหยุนหยุน  อายุ44ปีแม้จะอายุมากแต่ก็ยังคงดูดีเสมอ

    นั้นคือมารดาของหยุนไห่นั้งเอง

    ตอนนี้ดวงตากำลังแสดงความเศร้าบางอย่างอยู่ฃ

    “หยุนไห่ เจ้าจะสบายดีไหม ลูกเป็นไงบางนะจะทานยารึยัง ตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่นะ ชั้นเป็นแม่ที่แย่จริงๆคอยดูเถอะว่าแต่เมืองนี้มันยังไงกัน  หรือนี้คืิอโลกอีกด้านในตำนานของบรรพบุรุษเคยเล่าให้ฟัง”หยุนหยุนคิดในใจอย่างกังวล

    ใจหนึ่งก็คิดถึงลูกเพราะยังไงเด็กคนนั้นก้ไม่สบายมาตั้งแต่เด็กๆแล้วยิ่งโตมายิ่งอาการหนัก

    แถมยังน่ารักและสวยด้วยคุณแม่คนี้กลัวคนมา

    ความคิดในหัวตีกันถึงเรื่องลูกสาวเอ้ย ลูกชายสุดหล่ออยู่จนไม่กังวลเรื่องอะไรอยู่

     

     

    หากหยุนไห่ได้ยินความคิดของหยุนหยุนคงบินร่วงฟ้าแน่

    “ขอเถอะเเม่ช่วยกังวลความปลอดภัยของตัวเองหน่อยเถอะ”หยุนไห่คงกล่าวแบบนั้น

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×