คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : หยอดครั้งที่ 1 : ไม่ได้ดีพร้อมเหมือนใคร เเต่จะดีขึ้นไปเพื่อใครซักคน
หยอดครั้งที่ 1
ไม่ได้ดีพร้อมเหมือนใคร เเต่จะดีขึ้นไปเพื่อใครซักคน
"นั่นปาร์คชานยอลป่ะวะไอเเบค"จื่อเทาสะกิดถามเพื่อนข้างกายเมื่อเห็นหนุ่มนักดนตรีดีกรีเดือนมหาลัยมาชะเง้อเเง้เเลมองอยู่หน้าคณะ
"ไม่รู้!"คนที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ตรงข้ามตอบปัดอีกทั้งยังยกหนังสือที่ถืออยู่ขึ้นมาให้อยู่ในระดับเดียวกับหน้า คนเป็นเพื่อนได้เเต่เลิกคิ้วสงสัย
"มึงหงุดหงิดอะไรเนี่ยเเบคฮยอน"
"ป๊าว!"คำตอบที่ได้รับทำเอาจื่อเทายิ้มเพล่อย่างรู้ทัน ยิ่งดวงตาเล็กๆนั่นพยายามหลบตาเขาเเถมยังอ่านหนังสือเเบบจดจ่อนั่นอีก
"กูเป็นเพื่อนมึงมากี่ปีเเล้ว"
"เอ่อ..สามมั้ง"ร่างเล็กทำท่านึกก่อนจะตอบคนตรงข้ามที่มีเเววตาจับผิดอยู่
"เออ ตั้งสามปีคิดว่ากูดูอาการลนๆของมึงไม่ออกหรอ"เพื่อนตัวสูงยังคงพูดหน่ายๆถอนหายใจเฮือกๆเเบบปลงๆร่างเล็กได้เเต่มองตาขวางอย่างหนักใจ เเม่ง! จะรู้ทันกูไปถึงไหนวะ!
"กูไม่ได้ลน!"
"เเล้วสรุปมึงหงุดหงิดอะไร"ผมได้เเต่ท้วงอยู่ในใจว่ากูไม่ได้หงุดหงิด ผมลดระดับหนังสือในมือลงเเล้วเงยหน้าขึ้นสบตากับมัน
"กูร้อน"
"จริง?"
"กูไม่ใช่เทเลทับบี้นะที่จะเเฮปปี้กับพระอาทิตย์"
"ก็เเล้วไป"มันยิ้มออก ผมถึงกับโล่งอกที่มันเชื่อ ผมไม่ได้โกหกมันนะเพียงเเค่พูดไม่หมดเท่านั้นเอง
"งั้นไปนั่งห้องสมุดก่อนไหม อีกสิบห้านาทีคลาสถึงจะเริ่ม"ผมพยักหน้าหงึกหงักตกลงปลงใจกับไอจื่อเทา รวบหนังสือบนโค๊ะเข้ากระเป๋าสะพาย
"บยอนเเบคฮยอน!!!"ร่างบางที่เตรียมอพยพไปที่อื่นถึงกับสะดุ้งตัวโยนเหงื่อเเตกพลั่กๆมือนี่คว้าหมับเข้าที่เเขนของไอเเพนด้าข้างตัว
"อ่อ..อย่างนี้เองสินะ"คนเป็นเพื่อนก้มมองคนที่จับเเขนตัวเองไว้ ร่างขาวบางของเพื่อนสนิทที่มีสีหน้าหวาดวิตกอะไรบางอย่างทำให้คนมองยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย
"บยอนเเบคฮยอน!!"เสียงเรียกร้อยเเปดสิบเดซิเบลดังมาไม่ไกล เเบคฮยอนรีบก้าวฉับๆในใจรู้เเค่ว่าต้องออกห่างจากไอหูกางนี่ให้ไวที่สุด ยิ่งคนทั้งคณะหันมาจ้องชนิดที่ว่าอยากเสือกเต็มที่ยิ่งทำให้คนที่ตกเป็นเป้าสายตารู้สึกร้อนๆที่หน้า
อายโว้ย!!
"ไอเเพนด้ามึงเล่นอะไรเนี่ย!!"ถ้าเป็นไปได้ตอนนี้อยากจะกระโดดเท้าคู่ถีบใส่หน้าไอเพื่อนที่เล่นไม่รู้เรื่อง ขืนตัวเองไว้จนทำเอาคงที่พยายามเดินหนีพร้อมยังลากเพื่อนร่างควายให้ตามมาไปไหนไม่ได้
ฮ่วย! กูทิ้งมึงไว้นี่ละกัน!
ผมตัดสินใจปล่อยเเขนไอจื่อเทา เเต่เหมือนการตัดสินใจผมมันจะช้าไปนิดหน่อย
หมับ!
"สวัสดีนะเเบคฮยอน"เสียงทุ้มที่ใครๆก็ชอบบอกว่ามันมีเสน่ห์ พร้อมกับมือกร้านที่คว้าหมับที่ข้อมือของผม รอยยิ้มกว้างเอกลักษณ์ประจำตัวจนตาโตๆนั่นเเทบปิดใครเห็นเเล้วก็ต้องมีระทวยกันบ้างไม่มากก็น้อย
เเต่ที่เเน่ๆกูไม่ละหนึ่งคน
สถานการณ์เเบบนี้ผมควรจะตอบเขาไปยังไงดี ยิ่งคนรอบข้างหยุดกิจกรรมทุกอย่างจนมันเงียบกริบเหมือนลุ้นอยู่กับคำตอบของผมอยู่
เสือกกันได้เปิดเผยมาก
"นายเป็นใคร"ผมตีหน้ามึนเหมือนไม่เคยเจอมันมาก่อน จริงๆก็ไม่เคยเจอนะเจอครั้งเเรกคือตอนที่มันผันตัวไปเป็นพ่อค้าหมี่เกี๊ยวอยู่หน้าปากซอย
"โห่.."พอผมพูดจบเท่านั้นเเหละเสียงเห่าเสียงหอนจากเพื่อนร่วมคณะก็ดังขึ้นมาทันที เเต่ไอหูกางมันยังคงยืนยิ้มเเล้วตอบอย่างมั่นใจ
"เป็นคนที่พร้อมยกหัวใจให้นายไง"
"ฮิ้วววววว"
"กูไม่อยากได้หัวใจเน่าๆของมึง!"แบคฮยอนสะบัดเเขนตัวเองให้หลุดออกมาจากการเกาะกุมของอีกฝ่ายเเถมยังส่งสายตาไม่เป็นมิตรให้อย่างเเรง ผมเบ้ปากออกอย่างไม่พอใจก่อนจะรีบสะบัดบ็อบคว้าเเขนเพื่อนที่ยืนอยู่ไม่ไกลให้ไปด้วย
ไอบ้านั่นก็ยืนยิ้ม เพื่อนกูก็ยืนยิ้ม คนในคณะก็อมยิ้ม
เออดี เป็นบ้ากันให้หมดศรีธัญญาจะได้ครื้นเครง
"เเบคฮยอนนายมีเเฟนเเล้วหรอ"
"นี่ๆ กับชานยอลเป็นยังไงบ้าง"
"มีผัวเเล้วหรอเพื่อนเเบค!"
"นานๆนะจ้ะเเต่ถ้าหลุดมาเจ๊จับไม่ปล่อยเเน่"
"อีกคนก็เดือนสถาปัตย์อีกคนก็เดือนมหาลัย โอ้ยเเก! เเอบเสียดายเล็กๆ"
"โว้ย!!!!!!! กูต้องไปนั่งไล่อธิบายคนทั้งมหาลัยเลยไหมว่ากูกับปาร์คชานยอลไม่ได้เป็นอะไรกัน!!"
ตอนนี้บอกเลยว่าอารมณ์ของบยอนเเบคฮยอนตอนนี้ไม่พร้อมพบปะประชาชนอย่างเเรง ทั้งหงุดหงิด อึดอัด โกรธ หลายอารมณ์ผสมปนเปกันไปหมดไอเพื่อนรักที่อยู่ในเหตุการณ์กลับมานอนสบายใจเฉิบนอนเเคะขึ้มูกตากแอร์อยู่หอ ในขณะที่ปล่อยให้มนุษย์โลกตัวน้อยๆอย่างเขาต้องไปเรียนอย่างเดียวดายท่ามกลางเสียงซุบซิบเเละคำถามร้อยพันที่ถูกส่งตรงเข้ามาจากหูซ้ายเเต่ดันไม่ทะลุหูขวาหยุดอยู่ตรงกลางและจบที่การเก็บเอามาคิดมากแล้วหงุดหงิดกับตัวเองเเบบเนี่ย!
"มึงก็คิดมาก เดี๋ยวผ่านไปซักอาทิตย์เรื่องมันก็เงียบไปเองอ่ะเเหละ"มันว่าอย่างไม่ทุกข์ร้อน
"ก็มึงไม่ใช่กูก็พูดได้สิ! ภาพพจน์เพลย์บอยของกูอันตธานหายไปกับตากลายเป็นไอเตี้ยเมียเดือนมหาลัยไปเเล้ว! ฮืออ!"ผมฟุบหน้าลงกับหมอนอีกทั้งยังดิ้นไปดิ้นมาเหมือนเด็กถูกขัดใจ จนเพื่อนที่นอนอยู่เตียงข้างๆต้องหยิบหูฟังขึ้นมาใส่เเล้วปล่อยให้อีกคนบ่นคนเดียวไป
"ความเป็นเพลย์บอยของมึงน่ะหมดไปตั้งเเต่มึงเกิดมาเเล้วนะเเบคฮยอน"
"ฮือออ ก็กูอยากเป็น!!"ร่างบางยังคงดิ้นไปมาอยู่บนเตียง จื่อเทาถอนหายใจก่อนจะตบเเปะๆบนเตียงที่ตัวเองนอนอยู่
"มานี่"เเบคฮยอนเงยหน้าจากหมอนใบโปรดมองหน้าอีกคนที่มีใบหน้าจริงจังอยู่ไม่น้อย ตาสองชั้นที่เเทบจะเห็นเป็นขีดเดียวกระพริบปริบๆอย่างงงๆเเต่ก็เดินไปนั่งเเหมะบนพื้นที่ที่เหลืออยู่บนเตียงเดี่ยวเเคบๆนั่น
ร่างสูงของเพื่อนสนิทขยับลุกขึ้นก่อนจะมานั่งซ้อนอยู่ข้างหลัง เเบคฮยอนหลับตาลงเหมือนรู้ว่าอีกฝ่ายคิดจะทำอะไร
"อืม..จื่อเทาอ่า..นายนี่มือเบาจริงๆ"ผมครางในลำคอเบาๆอย่างถูกใจ เมื่อมือของอีกฝ่ายกำลังกดนวดไปตามหัวเเละขมับอย่างเบามือ นี่ไม่ใช่ครั้งเเรกที่เขาทำให้เเต่ไม่ว่าครั้งไหนๆผมก็รู้สึกดีเเละมันช่วยทำผมลดความเครียดลงได้ทุกครั้ง
"เลิกคิดมากรึยัง"เสียงทุ้มดังขึ้นข้างหู ผมครางรับอืมอือในลำคอพออีกฝ่ายทำท่าจะหยุดผมก็รีบคว้ามือเขาไว้ก่อน
"นวดจนกว่ากูจะหลับได้ไหม?"ผมพูดขึ้นมาเบาๆก่อนจะทิ้งน้ำหนักตัวไปด้านหลังใช้อกเเข็งๆนั่นเเทนเบาะพิง
"ถ้าเป็นมึงจนตายกูก็ทำได้นะเเบคฮยอน"
ผมรู้สึกตัวอีกทีก็เป็นเช้าวันใหม่ซะเเล้ว ผมยันตัวขึ้นมาหลังจากหลับไปอย่างเต็มอิ่ม ผมตื่นขึ้นมาบนเตียงของไอจื่อเทาซึ่งเดาว่ามันคงย้ายตัวเองไปนอนเตียงผม มันคงรู้ว่าผมไม่ชอบให้ใครมากวนตอนนอนผ้าห่มก็ห่มอย่างมิดชิดถึงคอเสียจนผมอดสงสัยไม่ได้ว่ามันกลัวประเทศไทยจะหนาวหรือยังไง
ผมเดินหาวออกมาจากส่วนของห้องนอนก็เจอห้องนั่งเล่นมีโพสอิทส์ใบเล็กๆแปะไว้ตรงตู้เย็น ผมอมยิ้มเล็กๆกับลายอันหน้ารักมุ้งมิ้งไม่เข้ากับหน้าของไอเพื่อนสนิทเลยซักนิด ไอจื่อเทาเป็นเพื่อนผมมาสามปีเเล้วกินด้วยกันอยู่ด้วยกันตลอดเสียจนเหมือนเป็นผัวเมียหนีตามกัน จริงๆเเล้วผมไม่เคยมีความคิดที่จะเเชร์ห้องผมกับใครหรอกเเต่ตอนปีหนึ่งที่มันย้ายมาจากจีนคุยกับใครก็ไม่ค่อยรู้เรื่องไหนจะหน้าเถื่อนๆไม่หน้าคบหานั่นอีก เเต่ยิ่งอยู่กับมันไปยิ่งรู้สึกว่า
มันก็เด็กน้อยดีๆนี่เอง..
ผมเปิดตู้เย็นหยิบอาหารที่ไอจื่อเทามันทำไว้ให้มาอุ่นในไมโครเวฟ เนื่องจากผมมีความเป็นเเม่บ้านเเม่เรือนค่อนข้างสูงส่งผลให้อาหารที่ทำออกมานั้นกินไม่ค่อยจะได้ ทำงานบ้านก็ดันทำของพัง เเต่ก่อนเลยใช้วิธีจ้างเเม่บ้านกับกินอาหารเเช่เเข็งเอาพอไอจื่อเทาย้านเข้ามานี่ด่าผมยับเลย เเล้วมันก็อาสาทำทุกอย่างเองให้ผมอยู่เงียบๆอย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัว
อ่อ..ไอเทามันเรียนคนละเอกกับผมถึงเเม้จะพยายามลงตัวเดียวกันเเต่ก็มีบางวิชาที่ผมเรียนเเต่มันไม่เรียนมันเรียนเเต่ผมไม่เรียนบ้าง อีกอย่างตอนลงเรียนนี้อย่างกับสงครามโลกครั้งที่สองการที่จะได้ครบทุกตัวตามเวลาที่อยากได้นี่ฝันเลย
ก็อกๆ
หือ?
เสียงเคาะประตูจากหน้าห้องเรียกความสนใจจากผมที่กำลังง่วนอยู่กับการเอาจานข้าวออกมาจากไมโครเวฟอยู่ ผมวางจานข้าวไว้บนโต๊ะกินข้าวก่อนจะเดินไปปิดประตูหน้าห้อง
เเกร็ก
"ไง"
ปั้ง!
วินาทีที่ผมเปิดออกไปเป็นวินาทีเดียวกับที่ผมดึงประตูปิดอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นใบหน้าของผู้มาใหม่
ไงพ่องสิ!!
ไอปาร์คชานยอล!!
ก็อกๆๆๆ
"เห้! ผมเเค่เอาหมี่เกี๊ยวกับขนมมาฝากน่ะ ผมไม่รู้ว่าเเบคฮยอนชอบอะไรเลยเอามาเยอะเลย"เสียงเคาะประตูรัวๆพร้อมกับเสียงคนที่ตะโกนโหวกเหวกอยู่หน้าห้องพอให้ผมจับใจความได้เนื่องจากประตูเเละผนังห้องมันค่อนข้างบาง
"กูอิ่มเเล้ว!"ผมตะโกนตอบมันไป
"เอาเก็บไว้ก็ได้ครับ!"มันตื๊อต่อ
ตื๊อไปไหนวะเนี่ย!
"กูไม่อยากกิน! จบไหม!"
"เเต่ผม...!"มันเหมือนจะพูดอะไรซักอย่างเเต่ก็ถูกขัดด้วยอีกเสียงที่ดังกว่า
"ฮ่วย!! จะยืนตะโกนคุยกันนานอีกไหมฮะ!! มันรบกวนคนอื่น!!!"ผมสะดุ้งเฮือกเเทนคนข้างนอก นี่มันเสียงของป้ามหาภัยห้องข้างๆ คงจะเปิดประตูออกมาตะโกนด่าพวกผม
"ขอโทษครับ.."เสียงหงอยๆของคนข้างนอกที่ลดความดังลงเล็กน้อย ผมเงี่ยหูฟังอยู่ซักพักก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรอีกได้ยินเเค่เสียงปิดประตูจากห้องข้างๆดังปั้งเท่านั้น
คงไปแล้วสินะ..
ผมถอนหายใจก่อนจะค่อยๆเเง้มประตูออกชะโงกหน้ามองซ้ายขวาก็ไม่พบใครอยู่เเถวนั้น ในจังหวะที่กำลังจะปิดประตูผมดันไปสะดุดตากับถุงก็อบเเก็บที่ถูกเเขวนไว้ที่ลูกบิดประตู
มองซ้าย..
มองขวา..
หมับ! ปั้ง!
มือเรียวคว้าไวๆพร้อมกับปิดประตูอย่างรวดเร็วเปิดดูภายในถุงมีขนมไทยอยู่สองสามถุงกับถุงหมี่เกี๊ยวที่ไม่ใส่เกี๊ยวเหมือนที่ผมเคยสั่งเมื่อตอนนั้นเเละเศษกระดาษที่ถูกพับอย่างลวกๆ
ผมโยนกระดาษลงถังขยะหยิบพวกถุงขนมเเละหมี่เกี๊ยวไปใส่ตู้เย็นก่อนจะมานั่งประจำที่นั่งกินข้าวที่อุ่นจนตอนนี้มันเกือบจะเย็นชืดเสียเเล้ว
ข้าวก็กินเเล้ว..จานก็เเช่ไว้เเล้ว..
น้ำก็อาบเเล้ว..ขนมก็กินเเล้ว..
การ์ตูนกูก็ดูเเล้ว..หนังสือก็จับเเล้ว..
ทำไมกูยังรู้สึกค้างๆคาๆเหมือนลืมทำอะไรซักอย่าง..
โอ้ย!!!น้องเเบคจะไม่ทน!!
ในที่สุดคนอย่างบยอนเเบคฮยอนก็ทนความอยากรู้อยากเห็นของตัวเองไว้ไม่ไหวไปคุ้ยถังขยะหยิบเศษกระดาษที่ดูเหมือนถูกฉีกออกมาจากสมุดอย่างลวกๆ
ถึงเเบคฮยอนคนน่ารัก
ขอให้อร่อยนะ ผมไม่รู้ว่านายชอบกินอะไรก็ลองซื้อไปให้ทุกอย่างเท่าที่พ่อค้าหมี่เกี๊ยวคนนี้จะหาได้ ถึงผมจะไม่ได้ดีพร้อมเหมือนใคร เเต่จะดีขึ้นไปเพื่อใครซักคนนะ
จากปาร์คชานยอลอนาคตเเฟนคนอ่าน
"แหวะ!"ผมเเทบจะปากระดาษนั่นทิ้งเเทบจะทันทีที่อ่านจบ เหมือนของเก่าที่กระเดือกลงไปมันขึ้นมาจุกอยู่ที่คอหอยเเต่ไม่ทันที่จะยัดมันลงถังขยะอีกครั้งก็เห็นข้อความเล็กๆตรงมุมกระดาษ
อ่านต่อหน้าหลัง->
ผมก็บ้าจี้พลิกตามที่มันเขียนไว้
เเค่อ่านที่ผมเขียนถึงกับอ้วกเลยหรอ เชื้อผมคงเเรงมากที่ทำให้นายเเพ้ท้องได้เพียงเเค่อ่าน..
ฟึ่บ
ไม่รอให้ถึงบรรทัดสุดท้ายผมขยำมันเป็นกก้อนกลมๆเเล้วโยนลงถังขยะเเบบไม่มีนึกเสียดาย
นี่มันไม่ใช่ความชิบหายธรรมดาเเล้ว..
โคตรชิบหาย!
ความคิดเห็น