ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    :: 'พ่ อ ค้ า หมี่ เ กี๊ ย ว |{ Chanbaek ft.exo }

    ลำดับตอนที่ #2 : หยอดครั้งที่ 1 : ไม่ได้ดีพร้อมเหมือนใคร เเต่จะดีขึ้นไปเพื่อใครซักคน

    • อัปเดตล่าสุด 14 พ.ค. 58


    หยอดครั้งที่ 1

    ไม่ได้ดีพร้อมเหมือนใคร เเต่จะดีขึ้นไปเพื่อใครซักคน

     

     

    "นั่นปาร์คชานยอลป่ะวะไอเเบค"จื่อเทาสะกิดถามเพื่อนข้างกายเมื่อเห็นหนุ่มนักดนตรีดีกรีเดือนมหาลัยมาชะเง้อเเง้เเลมองอยู่หน้าคณะ

     

     

     

    "ไม่รู้!"คนที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ตรงข้ามตอบปัดอีกทั้งยังยกหนังสือที่ถืออยู่ขึ้นมาให้อยู่ในระดับเดียวกับหน้า คนเป็นเพื่อนได้เเต่เลิกคิ้วสงสัย

     

     

     

    "มึงหงุดหงิดอะไรเนี่ยเเบคฮยอน"

     

     

     

    "ป๊าว!"คำตอบที่ได้รับทำเอาจื่อเทายิ้มเพล่อย่างรู้ทัน ยิ่งดวงตาเล็กๆนั่นพยายามหลบตาเขาเเถมยังอ่านหนังสือเเบบจดจ่อนั่นอีก

     

     

     

    "กูเป็นเพื่อนมึงมากี่ปีเเล้ว"

     

     

     

    "เอ่อ..สามมั้ง"ร่างเล็กทำท่านึกก่อนจะตอบคนตรงข้ามที่มีเเววตาจับผิดอยู่

     

     

     

    "เออ ตั้งสามปีคิดว่ากูดูอาการลนๆของมึงไม่ออกหรอ"เพื่อนตัวสูงยังคงพูดหน่ายๆถอนหายใจเฮือกๆเเบบปลงๆร่างเล็กได้เเต่มองตาขวางอย่างหนักใจ เเม่ง! จะรู้ทันกูไปถึงไหนวะ!

     

     

     

    "กูไม่ได้ลน!"

     

     

     

     

    "เเล้วสรุปมึงหงุดหงิดอะไร"ผมได้เเต่ท้วงอยู่ในใจว่ากูไม่ได้หงุดหงิด ผมลดระดับหนังสือในมือลงเเล้วเงยหน้าขึ้นสบตากับมัน

     

     

     

    "กูร้อน"

     

     

     

    "จริง?"

     

     

     

    "กูไม่ใช่เทเลทับบี้นะที่จะเเฮปปี้กับพระอาทิตย์"

     

     

     

    "ก็เเล้วไป"มันยิ้มออก ผมถึงกับโล่งอกที่มันเชื่อ ผมไม่ได้โกหกมันนะเพียงเเค่พูดไม่หมดเท่านั้นเอง

     

     

     

    "งั้นไปนั่งห้องสมุดก่อนไหม อีกสิบห้านาทีคลาสถึงจะเริ่ม"ผมพยักหน้าหงึกหงักตกลงปลงใจกับไอจื่อเทา รวบหนังสือบนโค๊ะเข้ากระเป๋าสะพาย

     

     

     

    "บยอนเเบคฮยอน!!!"ร่างบางที่เตรียมอพยพไปที่อื่นถึงกับสะดุ้งตัวโยนเหงื่อเเตกพลั่กๆมือนี่คว้าหมับเข้าที่เเขนของไอเเพนด้าข้างตัว

     

     

     

     

    "อ่อ..อย่างนี้เองสินะ"คนเป็นเพื่อนก้มมองคนที่จับเเขนตัวเองไว้ ร่างขาวบางของเพื่อนสนิทที่มีสีหน้าหวาดวิตกอะไรบางอย่างทำให้คนมองยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย

     

     

     

    "บยอนเเบคฮยอน!!"เสียงเรียกร้อยเเปดสิบเดซิเบลดังมาไม่ไกล เเบคฮยอนรีบก้าวฉับๆในใจรู้เเค่ว่าต้องออกห่างจากไอหูกางนี่ให้ไวที่สุด ยิ่งคนทั้งคณะหันมาจ้องชนิดที่ว่าอยากเสือกเต็มที่ยิ่งทำให้คนที่ตกเป็นเป้าสายตารู้สึกร้อนๆที่หน้า

     

     

     

    อายโว้ย!!

     

     

     

    "ไอเเพนด้ามึงเล่นอะไรเนี่ย!!"ถ้าเป็นไปได้ตอนนี้อยากจะกระโดดเท้าคู่ถีบใส่หน้าไอเพื่อนที่เล่นไม่รู้เรื่อง ขืนตัวเองไว้จนทำเอาคงที่พยายามเดินหนีพร้อมยังลากเพื่อนร่างควายให้ตามมาไปไหนไม่ได้

     

     

     

    ฮ่วย! กูทิ้งมึงไว้นี่ละกัน!

     

     

     

    ผมตัดสินใจปล่อยเเขนไอจื่อเทา เเต่เหมือนการตัดสินใจผมมันจะช้าไปนิดหน่อย

     

     

     

    หมับ!

     

     

     

    "สวัสดีนะเเบคฮยอน"เสียงทุ้มที่ใครๆก็ชอบบอกว่ามันมีเสน่ห์ พร้อมกับมือกร้านที่คว้าหมับที่ข้อมือของผม รอยยิ้มกว้างเอกลักษณ์ประจำตัวจนตาโตๆนั่นเเทบปิดใครเห็นเเล้วก็ต้องมีระทวยกันบ้างไม่มากก็น้อย

     

     

     

    เเต่ที่เเน่ๆกูไม่ละหนึ่งคน

     

     

     

    สถานการณ์เเบบนี้ผมควรจะตอบเขาไปยังไงดี ยิ่งคนรอบข้างหยุดกิจกรรมทุกอย่างจนมันเงียบกริบเหมือนลุ้นอยู่กับคำตอบของผมอยู่

     

     

     

     

    เสือกกันได้เปิดเผยมาก

     

     

     

    "นายเป็นใคร"ผมตีหน้ามึนเหมือนไม่เคยเจอมันมาก่อน จริงๆก็ไม่เคยเจอนะเจอครั้งเเรกคือตอนที่มันผันตัวไปเป็นพ่อค้าหมี่เกี๊ยวอยู่หน้าปากซอย

     

     

     

    "โห่.."พอผมพูดจบเท่านั้นเเหละเสียงเห่าเสียงหอนจากเพื่อนร่วมคณะก็ดังขึ้นมาทันที เเต่ไอหูกางมันยังคงยืนยิ้มเเล้วตอบอย่างมั่นใจ

     

     

     

    "เป็นคนที่พร้อมยกหัวใจให้นายไง"

     

     

     

     

    "ฮิ้วววววว"

     

     

     

     

    "กูไม่อยากได้หัวใจเน่าๆของมึง!"แบคฮยอนสะบัดเเขนตัวเองให้หลุดออกมาจากการเกาะกุมของอีกฝ่ายเเถมยังส่งสายตาไม่เป็นมิตรให้อย่างเเรง ผมเบ้ปากออกอย่างไม่พอใจก่อนจะรีบสะบัดบ็อบคว้าเเขนเพื่อนที่ยืนอยู่ไม่ไกลให้ไปด้วย

     

     

     

    ไอบ้านั่นก็ยืนยิ้ม เพื่อนกูก็ยืนยิ้ม คนในคณะก็อมยิ้ม

     

     

     

    เออดี เป็นบ้ากันให้หมดศรีธัญญาจะได้ครื้นเครง

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    "เเบคฮยอนนายมีเเฟนเเล้วหรอ"

     

     

     

    "นี่ๆ กับชานยอลเป็นยังไงบ้าง"

     

     

     

    "มีผัวเเล้วหรอเพื่อนเเบค!"

     

     

     

    "นานๆนะจ้ะเเต่ถ้าหลุดมาเจ๊จับไม่ปล่อยเเน่"

     

     

     

     

    "อีกคนก็เดือนสถาปัตย์อีกคนก็เดือนมหาลัย โอ้ยเเก! เเอบเสียดายเล็กๆ"

     

     

     

     

    "โว้ย!!!!!!!  กูต้องไปนั่งไล่อธิบายคนทั้งมหาลัยเลยไหมว่ากูกับปาร์คชานยอลไม่ได้เป็นอะไรกัน!!"

     

     

     

    ตอนนี้บอกเลยว่าอารมณ์ของบยอนเเบคฮยอนตอนนี้ไม่พร้อมพบปะประชาชนอย่างเเรง ทั้งหงุดหงิด อึดอัด โกรธ หลายอารมณ์ผสมปนเปกันไปหมดไอเพื่อนรักที่อยู่ในเหตุการณ์กลับมานอนสบายใจเฉิบนอนเเคะขึ้มูกตากแอร์อยู่หอ ในขณะที่ปล่อยให้มนุษย์โลกตัวน้อยๆอย่างเขาต้องไปเรียนอย่างเดียวดายท่ามกลางเสียงซุบซิบเเละคำถามร้อยพันที่ถูกส่งตรงเข้ามาจากหูซ้ายเเต่ดันไม่ทะลุหูขวาหยุดอยู่ตรงกลางและจบที่การเก็บเอามาคิดมากแล้วหงุดหงิดกับตัวเองเเบบเนี่ย!

     

     

     

    "มึงก็คิดมาก เดี๋ยวผ่านไปซักอาทิตย์เรื่องมันก็เงียบไปเองอ่ะเเหละ"มันว่าอย่างไม่ทุกข์ร้อน

     

     

     

    "ก็มึงไม่ใช่กูก็พูดได้สิ! ภาพพจน์เพลย์บอยของกูอันตธานหายไปกับตากลายเป็นไอเตี้ยเมียเดือนมหาลัยไปเเล้ว! ฮืออ!"ผมฟุบหน้าลงกับหมอนอีกทั้งยังดิ้นไปดิ้นมาเหมือนเด็กถูกขัดใจ จนเพื่อนที่นอนอยู่เตียงข้างๆต้องหยิบหูฟังขึ้นมาใส่เเล้วปล่อยให้อีกคนบ่นคนเดียวไป

     

     

     

    "ความเป็นเพลย์บอยของมึงน่ะหมดไปตั้งเเต่มึงเกิดมาเเล้วนะเเบคฮยอน"

     

     

     

    "ฮือออ ก็กูอยากเป็น!!"ร่างบางยังคงดิ้นไปมาอยู่บนเตียง จื่อเทาถอนหายใจก่อนจะตบเเปะๆบนเตียงที่ตัวเองนอนอยู่

     

     

     

    "มานี่"เเบคฮยอนเงยหน้าจากหมอนใบโปรดมองหน้าอีกคนที่มีใบหน้าจริงจังอยู่ไม่น้อย ตาสองชั้นที่เเทบจะเห็นเป็นขีดเดียวกระพริบปริบๆอย่างงงๆเเต่ก็เดินไปนั่งเเหมะบนพื้นที่ที่เหลืออยู่บนเตียงเดี่ยวเเคบๆนั่น

     

     

     

    ร่างสูงของเพื่อนสนิทขยับลุกขึ้นก่อนจะมานั่งซ้อนอยู่ข้างหลัง เเบคฮยอนหลับตาลงเหมือนรู้ว่าอีกฝ่ายคิดจะทำอะไร

     

     

     

    "อืม..จื่อเทาอ่า..นายนี่มือเบาจริงๆ"ผมครางในลำคอเบาๆอย่างถูกใจ เมื่อมือของอีกฝ่ายกำลังกดนวดไปตามหัวเเละขมับอย่างเบามือ นี่ไม่ใช่ครั้งเเรกที่เขาทำให้เเต่ไม่ว่าครั้งไหนๆผมก็รู้สึกดีเเละมันช่วยทำผมลดความเครียดลงได้ทุกครั้ง

     

     

     

    "เลิกคิดมากรึยัง"เสียงทุ้มดังขึ้นข้างหู ผมครางรับอืมอือในลำคอพออีกฝ่ายทำท่าจะหยุดผมก็รีบคว้ามือเขาไว้ก่อน

     

     

     

    "นวดจนกว่ากูจะหลับได้ไหม?"ผมพูดขึ้นมาเบาๆก่อนจะทิ้งน้ำหนักตัวไปด้านหลังใช้อกเเข็งๆนั่นเเทนเบาะพิง

     

     

     

     

    "ถ้าเป็นมึงจนตายกูก็ทำได้นะเเบคฮยอน"

     

     

     

     

     

     

     

     

    ผมรู้สึกตัวอีกทีก็เป็นเช้าวันใหม่ซะเเล้ว ผมยันตัวขึ้นมาหลังจากหลับไปอย่างเต็มอิ่ม ผมตื่นขึ้นมาบนเตียงของไอจื่อเทาซึ่งเดาว่ามันคงย้ายตัวเองไปนอนเตียงผม มันคงรู้ว่าผมไม่ชอบให้ใครมากวนตอนนอนผ้าห่มก็ห่มอย่างมิดชิดถึงคอเสียจนผมอดสงสัยไม่ได้ว่ามันกลัวประเทศไทยจะหนาวหรือยังไง

     

    ผมเดินหาวออกมาจากส่วนของห้องนอนก็เจอห้องนั่งเล่นมีโพสอิทส์ใบเล็กๆแปะไว้ตรงตู้เย็น ผมอมยิ้มเล็กๆกับลายอันหน้ารักมุ้งมิ้งไม่เข้ากับหน้าของไอเพื่อนสนิทเลยซักนิด ไอจื่อเทาเป็นเพื่อนผมมาสามปีเเล้วกินด้วยกันอยู่ด้วยกันตลอดเสียจนเหมือนเป็นผัวเมียหนีตามกัน จริงๆเเล้วผมไม่เคยมีความคิดที่จะเเชร์ห้องผมกับใครหรอกเเต่ตอนปีหนึ่งที่มันย้ายมาจากจีนคุยกับใครก็ไม่ค่อยรู้เรื่องไหนจะหน้าเถื่อนๆไม่หน้าคบหานั่นอีก เเต่ยิ่งอยู่กับมันไปยิ่งรู้สึกว่า

     

     

     

    มันก็เด็กน้อยดีๆนี่เอง..

     

     

     

     ผมเปิดตู้เย็นหยิบอาหารที่ไอจื่อเทามันทำไว้ให้มาอุ่นในไมโครเวฟ เนื่องจากผมมีความเป็นเเม่บ้านเเม่เรือนค่อนข้างสูงส่งผลให้อาหารที่ทำออกมานั้นกินไม่ค่อยจะได้ ทำงานบ้านก็ดันทำของพัง เเต่ก่อนเลยใช้วิธีจ้างเเม่บ้านกับกินอาหารเเช่เเข็งเอาพอไอจื่อเทาย้านเข้ามานี่ด่าผมยับเลย เเล้วมันก็อาสาทำทุกอย่างเองให้ผมอยู่เงียบๆอย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัว

     

     

     

    อ่อ..ไอเทามันเรียนคนละเอกกับผมถึงเเม้จะพยายามลงตัวเดียวกันเเต่ก็มีบางวิชาที่ผมเรียนเเต่มันไม่เรียนมันเรียนเเต่ผมไม่เรียนบ้าง อีกอย่างตอนลงเรียนนี้อย่างกับสงครามโลกครั้งที่สองการที่จะได้ครบทุกตัวตามเวลาที่อยากได้นี่ฝันเลย

     

     

     

    ก็อกๆ

     

     

     

    หือ?

     

     

     

    เสียงเคาะประตูจากหน้าห้องเรียกความสนใจจากผมที่กำลังง่วนอยู่กับการเอาจานข้าวออกมาจากไมโครเวฟอยู่ ผมวางจานข้าวไว้บนโต๊ะกินข้าวก่อนจะเดินไปปิดประตูหน้าห้อง

     

     

     

    เเกร็ก

     

     

     

    "ไง"

     

     

     

    ปั้ง!

     

     

     

    วินาทีที่ผมเปิดออกไปเป็นวินาทีเดียวกับที่ผมดึงประตูปิดอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นใบหน้าของผู้มาใหม่

     

     

     

    ไงพ่องสิ!!

     

     

     

    ไอปาร์คชานยอล!!

     

     

     

    ก็อกๆๆๆ

     

     

    "เห้! ผมเเค่เอาหมี่เกี๊ยวกับขนมมาฝากน่ะ ผมไม่รู้ว่าเเบคฮยอนชอบอะไรเลยเอามาเยอะเลย"เสียงเคาะประตูรัวๆพร้อมกับเสียงคนที่ตะโกนโหวกเหวกอยู่หน้าห้องพอให้ผมจับใจความได้เนื่องจากประตูเเละผนังห้องมันค่อนข้างบาง

     

     

     

     

    "กูอิ่มเเล้ว!"ผมตะโกนตอบมันไป

     

     

     

     

    "เอาเก็บไว้ก็ได้ครับ!"มันตื๊อต่อ

     

     

     

    ตื๊อไปไหนวะเนี่ย!

     

     

     

    "กูไม่อยากกิน! จบไหม!"

     

     

     

     

    "เเต่ผม...!"มันเหมือนจะพูดอะไรซักอย่างเเต่ก็ถูกขัดด้วยอีกเสียงที่ดังกว่า

     

     

     

     

    "ฮ่วย!! จะยืนตะโกนคุยกันนานอีกไหมฮะ!! มันรบกวนคนอื่น!!!"ผมสะดุ้งเฮือกเเทนคนข้างนอก นี่มันเสียงของป้ามหาภัยห้องข้างๆ คงจะเปิดประตูออกมาตะโกนด่าพวกผม

     

     

     

    "ขอโทษครับ.."เสียงหงอยๆของคนข้างนอกที่ลดความดังลงเล็กน้อย ผมเงี่ยหูฟังอยู่ซักพักก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรอีกได้ยินเเค่เสียงปิดประตูจากห้องข้างๆดังปั้งเท่านั้น

     

     

     

    คงไปแล้วสินะ..

     

     

     

    ผมถอนหายใจก่อนจะค่อยๆเเง้มประตูออกชะโงกหน้ามองซ้ายขวาก็ไม่พบใครอยู่เเถวนั้น ในจังหวะที่กำลังจะปิดประตูผมดันไปสะดุดตากับถุงก็อบเเก็บที่ถูกเเขวนไว้ที่ลูกบิดประตู

     

     

     

    มองซ้าย..

     

     

     

    มองขวา..

     

     

     

    หมับ! ปั้ง!

     

     

    มือเรียวคว้าไวๆพร้อมกับปิดประตูอย่างรวดเร็วเปิดดูภายในถุงมีขนมไทยอยู่สองสามถุงกับถุงหมี่เกี๊ยวที่ไม่ใส่เกี๊ยวเหมือนที่ผมเคยสั่งเมื่อตอนนั้นเเละเศษกระดาษที่ถูกพับอย่างลวกๆ

     

     

     

     

    ผมโยนกระดาษลงถังขยะหยิบพวกถุงขนมเเละหมี่เกี๊ยวไปใส่ตู้เย็นก่อนจะมานั่งประจำที่นั่งกินข้าวที่อุ่นจนตอนนี้มันเกือบจะเย็นชืดเสียเเล้ว

     

     

     

     

    ข้าวก็กินเเล้ว..จานก็เเช่ไว้เเล้ว..

     

     

     

    น้ำก็อาบเเล้ว..ขนมก็กินเเล้ว..

     

     

     

    การ์ตูนกูก็ดูเเล้ว..หนังสือก็จับเเล้ว..

     

     

     

     

    ทำไมกูยังรู้สึกค้างๆคาๆเหมือนลืมทำอะไรซักอย่าง..

     

     

     

     

    โอ้ย!!!น้องเเบคจะไม่ทน!!

     

     

     

    ในที่สุดคนอย่างบยอนเเบคฮยอนก็ทนความอยากรู้อยากเห็นของตัวเองไว้ไม่ไหวไปคุ้ยถังขยะหยิบเศษกระดาษที่ดูเหมือนถูกฉีกออกมาจากสมุดอย่างลวกๆ

     

     

    ถึงเเบคฮยอนคนน่ารัก                

     

     

    ขอให้อร่อยนะ ผมไม่รู้ว่านายชอบกินอะไรก็ลองซื้อไปให้ทุกอย่างเท่าที่พ่อค้าหมี่เกี๊ยวคนนี้จะหาได้ ถึงผมจะไม่ได้ดีพร้อมเหมือนใคร เเต่จะดีขึ้นไปเพื่อใครซักคนนะ

     

     

    จากปาร์คชานยอลอนาคตเเฟนคนอ่าน

     

     

     

    "แหวะ!"ผมเเทบจะปากระดาษนั่นทิ้งเเทบจะทันทีที่อ่านจบ เหมือนของเก่าที่กระเดือกลงไปมันขึ้นมาจุกอยู่ที่คอหอยเเต่ไม่ทันที่จะยัดมันลงถังขยะอีกครั้งก็เห็นข้อความเล็กๆตรงมุมกระดาษ

     

     

     

    อ่านต่อหน้าหลัง->

     

     

     

    ผมก็บ้าจี้พลิกตามที่มันเขียนไว้

     

     

     

    เเค่อ่านที่ผมเขียนถึงกับอ้วกเลยหรอ เชื้อผมคงเเรงมากที่ทำให้นายเเพ้ท้องได้เพียงเเค่อ่าน..

     

     

     

    ฟึ่บ

     

     

     

    ไม่รอให้ถึงบรรทัดสุดท้ายผมขยำมันเป็นกก้อนกลมๆเเล้วโยนลงถังขยะเเบบไม่มีนึกเสียดาย

     

     

     

     

    นี่มันไม่ใช่ความชิบหายธรรมดาเเล้ว..

     

     

     

    โคตรชิบหาย!

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×