ตอนที่ 19 : Chapter 19 : คนดีจ๋า? (100%)
ฉันเตือนหล่อนล้าววว! ฉันเตือนล้าว!! ว่าอย่าหลงพิมานมากไป เห็นไหมฉันจัดให้อิบี๋หายาสลับละ ว่ะฮ่าๆๆๆ (คลุ้มคลั่ง) ส่วนพระเอก เดี๋ยวตอนนี้มาแน่ ดูชื่อตอนเสะ อ้ายยยย เดี๋ยวระทวย บอกเลย เดี๋ยวมีระทวย ย ย~~
สาม!
สี่!
แยก!
เม้นกันบ้างสิย๊ะ! รู้จักนักเขียนมาเฟียไหม!?
บทที่ 19 คนดีจ๋า?
เสียงเปิดประตูบ้านเรียกความสนใจให้เจ้าส้มแสดซึ่งกำลังนั่งพิงขาผกายฤทธิ์อยู่ มันลุกพรวดก่อนจะออกตัววิ่งล้อฟรีไปหาร่างแบบบางที่ก้าวเข้ามาในบ้าน
“ไม่ต้องดีใจเลยนะอ้วน ไม่ได้ซื้อของกินมาให้หรอก”
ตรีประดับกล่าวกับเจ้าสุนัขตัวกลมก่อนจะทำหน้าสะใจ เจ้าส้มแสดที่ฟังไม่รู้เรื่องยังคงส่ายหางดิก เชิดหน้าขึ้นมองตรีประดับด้วยนัยน์ตาพราว ยืนยันจะรอของกินแบบเดิม
หญิงสาวละความสนใจจากเจ้าหมาจอมดื้อ เธอเงยหน้ามองบิดาที่กำลังวางหูโทรศัพท์กลับไปที่เดิม
“ใครโทรมาเหรอพ่อ แล้วทำไมทำหน้าแบบนั้น”
เธอถามก่อนจะเดินไปไกลอีกฝ่าย
“นักเรียนโทรมา...บอกว่าจะสมัครเรียน”
หญิงสาวร้องอ่อก่อนจะดึงมือผกายฤทธิ์มานั่งลงบนโซฟาแล้วเริ่มอธิบาย
“โรงเรียนสอนดนตรีงั้นเหรอ?”
“ก็หาอะไรให้พ่อทำไง จะได้ไม่เหงา”
“พ่อไม่เหงา...ก็หนูจะกลับมาอยู่บ้านแล้วไง”
ผู้เป็นพ่อเอ่ยแก้ แต่นั้นกลับเป็นประโยคยืนยันแก่บุตรสาวว่าแท้จริงตลอดหลายปีมานี้ เมื่อไม่มีเธออยู่คนเป็นพ่อรู้สึกเหงาจริงๆ
“แล้วช่วงกลางวันที่หนูไปทำงานล่ะ? บางทีงานเยอะอาจต้องทำโอ บางทีต้องนอนค้างที่บริษัท พ่อก็กลับไปเหงาอีก” เธอว่าขณะวางกระเป๋าและกล่องแอเมสไปบนโต๊ะ “อีกอย่างหนูรู้ว่าพ่อน่ะคิดถึงดนตรี ได้เล่นโชว์ให้พวกลูกศิษย์ดูบ้าง เท่ดีออก”
ผกายฤทธิ์ยิ้มก่อนจะยกมือขึ้นลูบศีรษะของตรีประดับ “ก็ได้ถ้าหนูว่าดี แต่ถ้าจะให้สอนก็ต้องเตรียมตัวหน่อย อุปกรณ์อะไรก็คงต้องหาซื้อเพิ่ม”
“หว้า ทีนี้พ่อจะวุ่นจนลืมหนูหรือเปล่าน้า”
“...เราก็ต้องอดทนหน่อยแล้วกัน”
กล่าวจบสองพ่อลูกก็หัวเราะพร้อมกัน ก่อนตรีประดับจะโน้มตัวกอดบิดา
ผกายฤทธิ์ก้มหอมกลุ่มผมปรกศีรษะของบุตรสาว พลันนั้นสายตาของเขาก็สังเกตุเห็นกล่องสีส้มกล่องใหญ่ที่อีกฝ่ายถือเข้าบ้าน
“นั้นกล่องอะไร เมื่อเช้าไม่เห็นว่าถือไปด้วย”
ตรีประดับรีบถลันตัวออกจากอกบิดาอย่างเด็กที่ต้องการอวดของ เธอคว้ากล่องกระเป๋าเปิดออก แล้วดึง Hermès Himalayan ออกมาโชว์
“ทาด๊าาาาาาา!!”
หญิงสาวยกกระเป๋าสุดหรูขึ้นเสมอหน้าพลางยิ้มกว้าง ผกายฤทธิ์ผู้พ่อจึงรับมันมาไว้ในมือก่อนจะถอยใบหน้าออกห่างเพราะสายตาเริ่มยาว
“กระเป๋าหนังจระเข้เหรอ?”
“โอ๊ยพ่อมันไม่ใช่หนังธรรมด๊าาา มันเป็นหนังจระเข้แม่น้ำไนล์ ที่เขาเลี้ยงไว้ในบ่อหินอ่อนเพื่อไม่ให้หนังมันมีรอยขีดข่วน”
“คงแพงมาก”
“แพงมากพ่อ ดูปากหนูนะ แพงมากกกก! ใบนี้แหละที่หนูอยากได้มานานมากกกกก”
“ที่ทำงานเป็นบ้าเป็นหลังเพื่อจะเก็บตังค์ซื้อน่ะเหรอ”
“ช่ายยยย มันสวยเน้อพ่อ”
“...ก็ไหนตอนนั้นบอกขาดอีกเยอะกว่าจะครบ แล้วใบนี้...ใครซื้อให้”
“ก็...ก็ลูกชายบ้านข้างๆ เขาซื้อมาใช้แทนใบเก่าที่เอามารองอ้วกหนู”
“หื้ม?”
เมื่อเห็นผู้เป็นพ่อไม่ค่อยสนใจราชินีกระเป๋าของเธอ ตรีประดับก็รับกลับคืนก่อนจะมองค้อน ไม่ลืมเล่าเรื่องย้อนยาวไปถึงเหตุการณ์เมื่อหลายอาทิตย์ก่อน มือพลางเช็ดพลางถูกระเป๋าที่สะอาดหมดจดดีอยู่แล้วไปด้วย
“เรื่องมันก็เป็นยังงี้ล่ะค่ะคุณตำรวจ”
ผกายฤทธิ์มองบุตรสาวที่ดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษก่อนจะเหลือบตากลับไปที่กระเป๋า
“ให้กระเป๋าใบละตั้งสามล้านมันหวังผลอะไรอยู่หรือเปล่า? อีกอย่าง อย่าลืมซะล่ะว่ามันทำเราเสียใจไว้ขนาดไหน”
ตรีประดับชะงักก่อนจะโถมกายเข้าหาบิดาอีกรอบ
“โอ๊ยหนูไม่ลืมง่ายๆหร้อกกก พ่อคอยดูหนูเอาไว้ให้ดีๆแล้วกัน”
“เออ แล้วพ่อจะคอยดู...”
“แต่จะว่าไปปุณณ์ก็เป็นคนดีอยู่เหมือนกันนาพ่อนา เขาไม่ได้แย่ไปซะทีเดียวหรอกพ่อ”
“นั้นไงกูว่าแล้ว เดี๋ยวได้เสร็จมันอีกแน่”
ตรีประดับเบิกตาครั้นเสียงบิดาดังขึ้นฉุดกระชากสติ หญิงสาวนั่งตัวตรงก่อนจะยกมือตบใบหน้าตัวเอง
อะไรกันเนี้ย! นี้ฉันเป็นอะไรไป!? ได้กระเป๋าใบเดียวถึงกับเอ่ยปากชมไอหมอบ้านั้นเลยเหรอ
หญิงสาวคิดก่อนจะยันตัวลุกขึ้นด้วยท่าทางมาดมั่นและมีสติ
ไม่! แค่กระเป๋าใบเดียวมันจะนับเป็นอะไรได้! เพราะความรู้สึกของเธอนะมันถูกหมอนั้นทำให้ตายซากไปนานแล้ว!
ตรีประดับคิดและพยายามเรียกสติ เรียกความตั้งใจก่อนหน้าที่จะได้กระเป๋าราชินีในมือมา
เธอคือมาดามปริมผู้สวย เลิศ เชิด หยิ่งอย่า ลืมสิ!
เธอคือผู้หญิงเก่ง คือครีเอทีฟสาวที่บริษัทโฆษณากว่าครึ่งประเทศต้องการซื้อตัว
ตอนนี้ปัญหาเดียวในชีวิตที่เธอควรให้ความสำคัญที่สุด คือทำทุกทางเพื่อให้กำเนิดเด็กซักคนก่อนปีกมดลูกข้างสุดท้ายจะถูกความซวยเด้งที่หกพรากเอาไป! เพราะงั้นเธอไม่มีเวลามาสนใจผู้ชายอย่างปุริมหรอก เป้าหมายเธอได้เลือกไปแล้ว และผู้ชายคนนั้นคือคุณเผ่าทอง วิเศษโยธิน ไม่ใช่ปุริมคนที่เป็นรักฝังใจโว้ย!
ตรีประดับกำมือแน่นก่อนจะนึกถึงนามบัตรขอบทองที่ปุริมยึดเอาไป
“ไอ้หมอปุณณ์กลับบ้านมาหรือยังพ่อ!”
ผกายฤทธิ์ที่ลอบสังเกตบุตรสาวอยู่ตลอดเอ่ยตอบทั้งที่กำลังคิดเรื่องบางอย่าง
“ยังหรอก...ปกติก็กลับดึกงี้ทุกวัน”
“หึ! มัวติดพันกับนังหมอมิ้มอยู่สินะ! ร้อนวันพันปีก็ไม่คิดจะปรับปรุงตัว!”
“...”
“เดี๋ยวหนูมานะพ่อ!”
ผกายฤทธิ์มองบุตรสาวที่เดินถือกระเป๋าทำจากหนังจาระเม็ดแม่น้ำไนล์อะไรนั้น ออกจากบ้านไป ก่อนคนเป็นพ่อจะรำพันถึงสิ่งที่พอจะดูออกมานาน
“เหอะ ดูท่าแล้วได้เสร็จมันอีกจนได้สินา”
อรุนรำไพกำลังจัดโต๊ะอาหารอยู่ในตอนที่ตรีประดับเดินกึ่งวิ่งเข้ามาถึง มารดาปุริมมองหญิงสาวอย่างดีใจ ก่อนจะเลื่อนสายตาลงไปยังกระเป๋าสีขาวที่เธอถือมาด้วย ตอนนั้นเองที่รอยยิ้มซึ่งมีอยู่จะขยายกว้างไปถึงดวงตา
“แหมมม ใช้กระเป๋าใหม่เลยน้า”
ตรีประดับชะงักเท้าที่กำลังเดินก่อนจะก้มมองกระเป๋าในมือ เธอเผลอถือมันมาด้วยเหรอเนี้ย!
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองอรุนรำไพอีกครั้งก่อนจะกวาดมองไปยังไกรราชบิดาของปุริม ที่หยุดอ่านหนังสือแล้วมองเธอผ่านแว่นตาอย่างแซวๆ
“เข้ากับคนถือนะคุณ”
บิดามารดาของปุริมหันหน้ายิ้มให้กันก่อนจะหัวเราะงุงิ และกิริยานั้นทำเอาตรีประดับผู้รู้สึกว่าตนมีแต่ได้กลับได้ ไม่เข้าใจมันซักเท่าไร
คุณลุงคุณป้าดีใจอะไรกัน ลูกชายเขาเสียเงินซื้อกระเป๋าให้เธอตั้งสามล้านเลยนะ!
ตรีประดับคิดก่อนจะเดินไปนั่งบนเก้าอี้ข้างไกรราช เป็นเหตุให้ฝ่ายนั้นปิดหนังสือในมือลง ส่วนอรุนรำไพก็พยักหน้าให้ลูกเนียงที่ยืนมองกระเป๋าตรีประดับอยู่ไม่ไกล ยกจานข้าวชุดใหม่มาวางเพิ่ม
“กระเป๋าใบนี้ราคาตั้ง 3 ล้านเลยนะคะ!”
ตรีประดับเริ่ม ก่อนจะสังเกตท่าทีของผู้ใหญ่ทั้งสอง ทว่าสิ่งที่ได้ตอบกลับมาคือการพยักหน้ารับแล้วยิ้มตอบ แล้วมันหมายความว่าไงเนี้ย
“ป้ารุนไม่ว่าอะไรหรือคะ ปุณณ์ซื้อกระเป๋าใบละตั้งสามล้านให้ปริม!?”
“ก็ปริมอยากได้นี้จ้ะ”
“ปริมก็พูดไปงั้นเอง ไม่คิดว่าตาบ้าน้ันจะซื้อให้จริงๆ”
อรุนรำไพลอบส่งสายตากลับไปหาไกรราชอีกครั้งก่อนจะรินน้ำดื่มใส่แก้วใบใสให้ตรีประดับ
“แล้วไม่ดีใจหรือจ้ะ”
“ดีสิคะ แต่พ่อบอกว่ามันอาจมีลับลมคมใน”
“หื้ม ไอ้เจ้าฤทธิ์มันก็ระแวงไปหมดละ” ไกรราชกล่าวก่อนจะแสร้งเปิดหนังสือขึ้นอ่านแล้วหลบสายตา
“นั้นสิจ้ะ ปุณณ์เขาคงแค่อยาก ‘ชดเชย’ คืนให้ปริมเท่านั้น อีกอย่างเงินเดือนเขาก็มาก ได้เอาออกไปใช้บ้างบัญชีจะได้หมุนเวียน”
ตรีประดับมองสองสามีภรรยาอย่างจับผิด เมื่อสุดท้ายมองเห็นแต่รอยยิ้ม ยิ้ม และก็ยิ้ม หญิงสาวก็ถอนหายใจแล้วเอนพิงผนัง
เมื่ออรุนรำไพเห็นหญิงสาวเลิกสงสัย ก็เอื้อมยกโถข้าวตักข้าวสวยใส่จานให้
“ไม่เป็นไรค่ะปริมไม่หิว” ตรีประดับร้องปฎิเสธ “ปริมแค่จะมาเอาของที่ห้องปุณณ์เท่านั้น”
อรุนรำไพยังไม่หยุดมือ มารดาหมอปุริมยังคงตัดข้าวจนพูนจาน ก่อนจะเลื่อนชามต้มจืดหมูบะช่อมาทางตรีประดับหมายโน้มน้าวใจ
“ทานซักหน่อยเถอะจ้ะ ป้าเห็นปริมพึ่งกลับมาถึงบ้านเมื่อกี้ คงยังไม่ได้ทานอะไร” ว่าจบอรุนรำไพก็หันไปมองลูกเนียง “ยกอาหารกับลูกตาลลอยแก้วที่ฉันทำไปให้คุณฤทธิ์ด้วยนะ กำชับว่าถ้าไม่กินให้เกลี้ยง ฉันจะตัดขาดกับบ้านนู้นเข้าจริงๆ”
“ค่ะคุณ”
ตรีประดับมองลูกเนียงที่ยกถาดอาหารละลานตาจากไปก่อนจะถอนใจ
นั้นไงละ บ้านเธอกับปุริมก็เป็นแบบนี้ เกิดเรื่องเกิดราวอะไรก็ตัดกันไม่ได้ซักที เพราะทั้งสองบ้านเป็นมากกว่าเพื่อนบ้านทั่วไป เป็นมากกว่าครอบครัวของเพื่อนสนิท เราผูกพันกันมากกว่านั้น
และนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผล ที่เธอไม่คิดกลับไปคบกับปุริม…
หญิงสาวคิดก่อนจะถอนใจ เอื้อมมือขึ้นตักข้าวเข้าปากอย่างกลัวเสียมารยาท ปากก็พูดคุยกับบิดามารดาปุริมที่รอบส่งสายตายิ้มกริ่มให้กันอยู่เนื่องๆ
“แล้ววันนี้ปุณณ์จะกลับกี่โมงคะ”
“คงจะสามสี่ทุ่มจ้ะ เห็นโทรมาบอกตอนเที่ยงว่าติดเคสผ่าตัด ปริ่มมีธุระอะไรหรือเปล่าลูก อย่าบอกนะว่า...จะเอากระเป๋ามาคืน?”
ตรีประดับชะงักก่อนจะคว้ากระเป๋าที่ตนวางอยู่ข้างๆ ขึ้นมากอด
เรื่องอะไรล่ะ ถึงยังไงเธอก็ไม่คืนหรอก ในเมื่ออ้อยเข้าปากช้างแล้ว ช้างตัวนี้ก็จะเคี้ยวให้แหลกเลย! เคี้ยวแล้วกลืน จนอ้อยออกมาเป็นขี้ ก็จะเอากลับมากินใหม่อีกรอบ! ให้ตายก็ไม่คืนเด็ขขาด!
หญิงสาวคิดพลางลอบมองนาฬิกาบนผนังซึ่งบอกเวลาทุ่มครึ่ง “เปล่าค่ะ ปริมจะมาเอาของที่ห้องปุณณ์เท่านั้น แต่เขาไม่อยู่ก็ดีแล้ว”
เธอจะได้หานามบัตรได้สะดวก อีกอย่างเกิดเจ้าตัวนึกเสียดายเงินสามล้านขึ้นมา จะเอากระเป๋าคืนล่ะก็แย่เลย
อรุนรำไพพยักหน้ายิ้มก่อนจะลงมือตักกับข้าวใส่จานของสามีและตรีประดับ ไม่ลืมเอี้ยวหน้ามองลูกเนียงแล้วพยักหน้าเบาๆ อย่างส่งสัญญาณลับกัน…
ตรีประดับไม่คิดว่าการกินข้าวและถูกสองผู้ใหญ่ชวนคุยนั่นนี้จะทำเธอเสียเวลาขนาดนี้ จึงจัดหนักจัดเต็มจนเวลาเลยไปเกือบสองทุ่มครึ่ง หญิงสาวรีบรวบช้อนแล้วดื่มน้ำ ขออนุญาตเจ้าบ้านทั้งสอง แล้ววิ่งขึ้นห้องบุตรชายของท่าน ไม่ลืมหิ้วกระเป๋าใบหรูติดตัวมาได้
ให้ตายก็ไม่ยอมให้ห่างตัวหรอก กลัวคนบ้านนี้จะขอคืน!
ห้องนอนของปุริมอยู่บนชั้นสองในส่วนที่ลึกที่สุดของโถทางเดิน บริเวณนี้เงียบและเป็นส่วนตัวมาก เพราะครอบครัวชวนากรเว้นไว้ให้เป็นที่สงวนเสียง สำหรับให้ปุริมมีสมาธิเวลาอ่านหนังสือสอบ
ตรีประดับย่างเท้าเข้าสู่อาณาเขตของปุริมอย่างรวดเร็วเพราะเคยชิน ผนังทั้งสองข้างที่ทอดสู่ห้องนอนของชายหนุ่มถูกทำเป็นชั้นหนังสือซึ่งอัดแน่นไปด้วยหนังสือวิชาการและหนังสือพันธุ์แคคตัส ทว่าเธอกลับไม่เสียเวลาหยุดดูเลยด้วยซ้ำ เดินจ้ำอ้าวตรงเข้าสู่ห้องหลังประตูดีไซน์เรียบอย่างเดียว
แอร์ในห้องถูกเปิดอยู่ ตรีประดับทราบเพราะทันทีที่เปิดประตูเข้าไปอาการเย็นเฉียบภายในก็ถูกดันออกมาทันที คงเพราะอีกไม่นานเจ้าของห้องจะกลับมาแล้วคนเป็นมารดาจึงสั่งให้สาวใช้มาเปิดรอไว้ เธอคิดก่อนจะรีบไล่เปิดไฟทีละดวงๆ เผยห้องนอนสีเรียบขนาดใหญ่ ซึ่งแบ่งโซนห้องนอนกับโซนห้องนั่งเล่นเอาไว้อย่างชัดเจน
ภายในห้องของปุริมตกแต่งอย่างเรียบง่ายตามสไตล์ห้องผู้ชายทั่วไป เฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างมีอยู่ครบครัน แต่กลับไม่มีของกระจุกกระจิกอย่างเช่นของประดับตกแต่งวางไว้ให้รกตาแม้แต่ชิ้นเดียว ซึ่งในความคิดของตรีประดับ ห้องของชายหนุ่มดูโล่งมากกกกกก
หญิงสาวคิดในใจขณะกวาดตามองโดยรอบเพื่อหาจุดที่น่าจะมีนามบัตรสีทองวางอยู่ แต่ก็อย่างที่บอกว่ามันไม่มีของวางทิ้งให้รกเลย เธอจึงสรุปได้ว่า เธอต้องค้นหาตามลิ้นชักแล้วล่ะ
ชริดูสิ! ตานั้นจะมีระเบียบเกินไปแล้วนะ แม้แต่รีโมทแอร์ รีโมททีวี รีโมทไฟห้อง เขายังวางเรียงไล่ระดับความยาวเลย
เครียด!
ตรีประดับเริ่มลงมือคุ้ยห้องปุริม เธอเริ่มหาของที่หมายใจจากห้องนั่งเล่นซึ่งอัดไปด้วยหนังสืออย่างเช่นโถด้านนอก ไล่หาไปยังโต๊ะทำงาน ชั้นทีวี ไปจนถึงมุมต้นแคคตัสที่วางเรียงเป็นระเบียบอยู่ เมื่อหาไม่เจอก็ละจากจุดนั้นเดินสาวเท้าเข้าไปในทางห้องนอนที่ถูกแบ่งโซนอย่างชัดเจน ทิ้งลิ้นชักที่ถูกดึงออกมาไว้ด้านลัง ไม่คิดดันเก็บเข้าที่
ห้องนอนของปุริมยังคงคุมโทนสีทึมแบบห้องนั่งเล่นด้านนอก ทว่าข้างในกลับมีเฟอร์นิเจอร์เพียงสามชิ้น นั้นคือเตียงนอนขนาดใหญ่และตู้ข้างเตียงฝั่งซ้ายขวา
ตรีประดับถอนหายใจก่อนจะวางกระเป๋าใบหรูไปบนเตียงขนาดคิงไซส์ซึ่งถูกคลุมผ้าเอาไว้ซะตึงเรียบ อ้อมไปนั่งย่องตรงลิ้นชักหัวเตียงด้านหนึ่ง เริ่มค้นหานามบัตรขอบทองด้วยความหวังสุดท้ายที่ล้นปริ่ม
“เอาไปเก็บไว้ที่ไหนเนี้ย ไม่ใช่หมอนั้นพกติดตัวไปด้วยหรอกนะ!”
คนบุกห้องบ่นอย่างหัวเสีย เลื่อนๆ เปิดๆ ลิ้นชักตรงหน้าออกทีละชั้นๆ ก่อนจะพบโทรศัพท์เครื่องบาง ซึ่งมันกำลังกระพริบแจ้งเตือนเนื่องจากมีสายโทรเข้า
“นี้มันโทรศัพท์ปุณณ์นี้ หมอนั้นไม่ได้เอาโทรศัพท์ไป?”
ตรีประดับหยิบเจ้าเครื่องมือสื่อสารขึ้นมา เธอพึ่งเข้าใจสาเหตุที่ชายหนุ่มไม่ยอมตอบข้อความหรือรับโทรศัพท์ของเมื่อช่วงบ่าย ทว่าในทันทีที่เห็นรายชื่อคนโทรเข้า ในใจเธอก็พลันสะดุดกึก
‘มิ้ม’
อ่านใหม่ตั้งแต่ตรงนี้ชั่วแปบสายนั้นก็ตัดไป และนั้นทำให้ตรีประดับเห็นว่าเบอร์เมื่อครู่ไม่ได้โทรมาแค่เพียงสายเดียวแต่เป็นสิบสาย ความรู้สึกบางอย่างไหววูบในใจ มันบีบรัด ชวนอึดอัด แน่นอนว่าความอยากรู้เข้าแทรกซึมจนหญิงสาวเลือกที่จะเสียงมารยาท ถือวิสาสะกดดูโทรศัพท์ของปุริมทันที
ทว่าหน้าจอของอุปกรณ์สื่อสารกลับแจ้งเตือนให้กรอกรหัสอย่างแสนรู้ นิ้วเรียวขาวจึงกดรหัสลงไปอย่างเคยชินด้วยวันเดือนปีเกิดของตัวเอง อันเป็นรหัสเครื่องที่ปุริมใช้ตั้งครั้นทั้งคู่ยังคบกัน แต่วินาทีต่อมาตรีประดับก็พึ่งนึกได้ ว่าเขาและเธอเลิกรากันไปนมนานแล้ว และป่านนี้อีกฝ่ายคงเปลี่ยนรหัสไปแล้วด้วย แต่ใครจะไปคิดละว่า...
หน้าจอกลับถูกปลดอย่างเชื่อฟัง แน่นอนว่านั้นทำให้ความอึดอัดตอนที่เห็นสายโทรเข้า คลายลงในทันที
หญิงสาวผู้หัวใจกำลังเต้นรัวเปลี่ยนจากนั่งยองมานั่งลงบนเตียง ขณะที่สายตาและมือเขี่ยไปมาบนโทรศัพท์มือถือของปุริม ตรวจสอบดูประวัติการโทรเข้าโทรออกของเบอร์นี้กับสายที่เมมชื่อไว้ว่า ‘มิ้ม’โดยที่เธอไม่ได้รู้ตัวเลยว่าบัดนี้ที่ด้านหลัง ปุริมผู้เป็นเจ้าของห้องและเจ้าของโทรศัพท์
กำลังยืนมองเธออยู่ตรงประตู...
นัยน์ตาหวานกวาดขึ้นลงก่อนจะเลื่อนดูวันและเวลาของการโทรเข้าโทรออก พบว่ามีแต่สายของยัยหนอนมิ้มเท่านั้นที่โทรเข้ามา ปุริมไม่เคยโทรกลับหรือรับสายด้วยซ้ำ เห็นแค่นั้นเธอก็สบายใจ
เอ๊ะ! แล้วฉันสบายใจอะไรเนี้ย!
ตรีประดับออกแรงกดไปบนสมาร์ทโฟนของปุริมราวกับกำลังลงโทษเขาและลงโทษตัวเอง! ก่อนจะเขี่ยๆเจ้าเครื่องมือสื่อสารอีกหน ไหนๆก็ถือวิสาสะไปแล้ว...งั้นก็ถือวิสาสะไปยาวๆเลยแล้วกัน
เอาให้สุดค่ะ! คนอย่างตรีประดับทำอะไรต้องทำให้สุด!
ภายในโทรศัพ์ของปุริมดูว่างและโล่งมากเหมือนห้องนอนของเขา เพราะมันไม่มี App อะไรเลย นอกจาก ‘บีทวิน’ ซึ่งโชว์เด่นหราอยู่เพียง App เดียวในเครื่อง
เดี๋ยว! นี้เขาไม่เล่นอะไรเลยงั้นเหรอ ทั้ง Facebook ไลน์ วอสแอม อินสตาแกรม ทั้งที่เมื่อก่อนก็มีแอคเค้าท์อยู่ทั้งหมด แบบนี้ไอพวกข้อความที่เธอส่งไปให้ เขาก็ไม่ได้อ่านเลย?
ตรีประดับคิดทว่าใจและสายตากลับจดจ่ออยู่แต่ที่ App บีทวิน แอพยอดฮิตเมื่อสิบปีก่อน ใจกำลังลังเลว่าจะกดเข้าไปดูดีไหม นั้นเพราะเธอกลัวว่าจะเห็นอะไรที่ไม่ควรได้เห็นในนั้น เนื่องจากบีทวินเป็นโปรแกรมแชทของคู่รัก คล้ายๆไลน์ แต่ผู้ใช้จะมีเพียงคู่รักสองคนเท่านั้นที่เข้าไปใช้ติดต่อกันได้ การใช้งานคือต้องใช้เบอร์คู่รักสองเบอร์ผูกกัน และมีเพียงคู่รักเท่านั้นที่จะติดต่อหากันในนั้น ตอนยังคบกันเธอและปุริมใช้ App นี้ มันจึงเป็นเหมือนกล่องเก็บความทรงจำเมื่อสิบปีก่อนของคนทั้งคู่ แต่ที่เธอลังเลจะกดไม่กดอยู่ตอนนี้ เพราะเธอไม่รู้ว่า ถ้าเกิดเธอกดเข้าไปดูแล้วเห็นว่าปุริมไม่ได้ผูกบีทวินไว้กับเบอร์ของเธอแล้ว เธอจะรู้สึกเช่นไร? ที่สำคัญคือ ถ้าเขาดันผูกมันเข้ากับเบอร์ ‘มิ้ม’ เธอจะรับความรู้สึกหลังจากนั้นไหวไหม?
กลัว
เสียงเล็กๆ ในใจกระซิบบอกมาแบบนั้น ทว่าความอยากรู้กลับมีมากกว่า นิ้วเรียวสั่นระริกจึงค่อยๆ แตะไปบน App สีฟ้าอ่อนนั้นเบาๆ แตะไปพร้อมหัวใจที่เต้นรัว ทั้งกลัว ทั้งเตรียมพร้อมรับความเสียใจที่ตนเองรนหากับมือ
หน้าจอเครื่องมือสื่อสารเปลี่ยนวูบไหวก่อนจะต้อนรับตรีประดับสู่รูปแอคเคาท์ที่ปุริมใช้เมื่อสิบปีก่อน รูปของเขาในชุดนักศึกษาแพทย์คือรูปโปรไฟล์อันเดิมที่ใช้ และ...ผู้หญิงผมยาวที่ยืนยิ้มร่าอยู่ค้างๆปุริมในรูปนั้น
คือตัวเธอเอง
ตรีประดับตอบไม่ได้ว่าตนเองกำลังรู้สึกเช่นไรเพราะเธอแบลงค์ไปเลยหลังจากเห็นรูปนั้น ไม่รู้ว่าตอนที่นิ้วปัดผ่านไปดูยังเบอร์คู่รักที่เชื่อมอยู่ แล้วพบว่ายังเป็นเบอร์ของเธอ เธอรู้สึกเช่นไร? ไม่รู้ว่าตอนที่กดไปตรงหมวด ‘กิจกรรมของเรา’ และเห็นรูปถ่ายกว่าร้อยๆ รูปของปุริมและเธอ เธอรู้สึกเช่นไร? เธอไม่รู้อะไรทั้งนั้น แม้กระทั่งตอนเปิดอ่านแชท แล้วพบคำพูดมากมายที่ปุริมพิมพ์เอาไว้ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาแต่เธอกลับไม่เคยเปิดมันอ่าน ว่าเธอกำลังรู้สึกเช่นไร!?
เธอยอมรับว่าไม่รู้อะไรสักอย่าง รู้เพียงแต่ว่าเธออยากร้องไห้ และเธอ...ไม่น่าเปิดเข้ามาดูเลยจริงๆ
แอพนั้นฉันใช้กับแฟนฉันเอง ถถ มีความเอาตัวเองมาแต่ง มาดามคือชีวิตฉัน 98% ฉันอินเหลือเกินทุกคน แงงงง
-----------------------------------------------
*ประกาศเปลี่ยนชื่อไอ้ตัวจี๊ด จากเอวารินเป็นพราวระยับ
น้องสาวฝาแฝดของพริบพันดาว พริบพันดาว กับ พราวระยัย โอเค้น้ะ? >_<
ภาคต่อของ พริบพันดาว กับ พราวระยับ (ตัวจี๊ด)
ซีรี่ย์ : คานทอง
- มาดามคานทอง (ตรีประดับ) : https://goo.gl/7ypIkO
- ป๊ะป๋าขนตางอน (พริบพันดาว) : https://goo.gl/q6IFiV
- บัลลังก์ดารา (พราวระยับ) : https://goo.gl/9bGChE
Pooky : แน่นอน เดียวหมอขอดูขาอ่อนมาดาม...เฮ้ย!
Sisira ศิศิรา : จัดให้ เจ้จัดห้ายยยย
princessm : มัวไปอยู่ไหนมาพึ่งมาอ่านนน ตอบบบ!
อ้อนจัง : ได้เล้ยย เดี๋ยวมาดามจะบุกห้องหมอปุณ์ แล้ว แล้ววววว อ้ายยย
เพรียว : อย่ามาย้ำสิย๊ะ มาแล้วเนี้ยย
N' Namfon : พรุ่งนี้นางจะสละสูท คอบดูนาา
som.vrs : ต้องยอมแม่
kakfern23 : ลืมไปว่าตัวเองไม่ได้เป็นหัวหน้าแล้ว 55
Fairy.tail : อะ ฉันยกให้แกทั้งหมดเลยพระรอง ไปตบกับอิบี๋เอาละกัน ถถถ
Jubjang : อย่ามาหลอกถามเลยย เดียวฉันสปอยยาวไม่ต้ององต้องอ่านกันละทีนีเ!
porpla7279 : อย่าพูดคำนี้ให้ฉันได้ยินนนน ฉันโกดดด
kunniam : ขอบคุณนะค่ะ เขินนน ฝากตามอ่านไปนานๆน้าา
yuya : ฉันพึ่งตื่น T_T
BunnyPK : มาแล้วๆๆๆ
Faii26120 : เดี๋ญวนางจะโดนหลักกกว่านี้
PgusNinae : แน่นอน ฉันเจียระไนมากับมือออ
kanokradaparima : นางจะไม่ซื้ออะไรให้อีกตลอดชีวิต พอแค่กระเป๋า กรีากก
Mei Kagamine Len : ครีเอทีฟเขาไม่ใส่ก๊านนนน
ambestfriend : รับทราบจ้าา กอดแน่นน
Ray_1312 : โอเคค่าา เดี๋ยวกำลังจะเริ่มแล้วน้าา
เป็ดย่างลนไฟ~ : ไม่เปลี่ยนแล้วน้า เดียวคนที่อ่านไปแล้วจะงง
mine : ให้เวลาฉันบ้างเส้
~love the air~ : นาจะแบกไปด้วยทุกที่ หมอปลื้มมาก
หมูน้อยเหล็กดัด : เผ่าทองก็ทำไม่ได้ พิมานเหรอ อย่าหวังเลย!
somluck : น่ารักกกก
Riboflavin : ชอบบบบบ เดียวจัดคนรำหน้ากองยาวมาด้วย
Prissana Achsacorn : ถ้าทำแบบนั้น เกรงว่าฉันคงโดนคนอ่านถล่ม 555
Moonlight_597 : หมอเปยืย่อมมีเหตุผลลล
paesunflowerpn : กร๊ากกก เธอมาได้ทันเวลาพอดีีีอย่างกับรู้ใจ เพลง
princessemma : ขอบคุณค่าา ชื้นใจล้าวววว
สุภาณี ประสิทธิกุลวัฒน : ได้เร้ยยย รออ่านน้าา
Dark sky : นิ่งๆแต่หยิบชิ้นปลามันนะจะ
m i n t * : ถ้าแกไม่กลับอีก ฉันคงต้องไปเผาบ้านแก!
pretty-p : ไม่ใช่พูดไม่คิด แค่คิดแล้วก็ยังจะพูด ดีกว่าเสียหน้าาาา
taispp : รักมากก รักคำนี้
Pang : กร๊าก หมอไม่เอาโทรศัพท์ไปเพราะมิ้มชอบโทรมา ว้ายสปอยยย
plum123 . : เฌอมาใช่ไหมน่ารัก?
Tee_Teemaporn : เบ็ตตี้ รีบกลับไปแคะขี้เล็บเหรอ?
bbambieee : ฉันจะฆ่าแกกก
Rapeeporn7050 : มีท้ายอีก รีบไปอ่านนน
ธรมาน : รับไปแล้วถือว่าแต่งแล้ว หมอปุณณ์ว่าเงี้ย
นางฟ้ามายา : ปริมเป็นเมียหมอแล้ววว รู้ตัวบ้างไหมมม
Romana Romana : ขอบคุณค่าาา รักๆๆ
somsanit : ขอบคุณคร่าาา ขอตอมเม้นก่อนน้า
nutanta : คนแต่งพยายามจะให้นางเอกเป้นสาวเก่ง ทำงานเก่งมาก ไม่ใช่ผู้หญิงโวยวายไร้สาระคนหนึ่ง ไม่รู้จะสื่อออกมาถึงคนอ่านไหม T_T
kaTanghaeyo : เม้นยาวจนตกใจนึกว่าเม้นด่าฉัน เดียวแกจะโดนไม่ใช่น้อย ฉันโกดดดด / แน่นอน เดียวหมอจะเอาคำว่า คนดีจ๋า มายั่วนางเอก อ้ายยย
oracha04 : ทีมหมอเย่เย่
noodao : เบ็ตตี้นางว่างไป นางควรโดนไล่ออกมะ? ตอนหน้าจัดแม่มดีกว่า...เฮ้ย
依梅华 : กรีากกก ไม่ฆ่าก็ดะ งั้นให้พิมานโดนอิบี๋ปล้ำไปละกัน ว้ายยยย
Wawaran : ใช้คำว่าหลงงง! ฉันโกดเกรี้ยวแกเหลือเกิน! เจอกันหน้าปากซอยเส้!!! ฉันผูกกางเกงขาก้วยรอมีเรื่องแล้ว!!
GirLGen99 : มีแต่ฉากหมอหื่นจะทดแทนกันได้ม้าย?
Khunjanh : คนจริงไม่พูดเยอะ คิดว่าหมอจะจนหรืองาย โธ่ววว
sunshine-day : หมอเรียนเฉพาะทาง
Suthida Ukham : มาลุ้นกันให้เยี่ยวเล็ด
หมูอ้วง : ฉันชอบความติดหนึบของแก อยู่ใกล้ๆจะซื้อปูไทยให้กิน
chernat : เราควรหาสามีให้ได้แบบนาง เฮ้อ
LittlEl2oseS : ม่ายรู้ม่ายชี้ แบรๆๆ
kaihunisreal : ใช่แล้ว แกพูดถูกทุกอย่าง ทุกคนมาอ่านเม้นที่ 3327 เร็ววววว แล้วเข้าใจหมอฉันสะที ปล. หมอรวยนะเว้ย เพราะตั้งแต่เป็นหมอมา แม่งไม่ซื้ออะไรเลย กร๊ากกก
tam-nan : ฉันกระโดดกอดเอวแกไม่ให้ไป พอดีกางเกงย้วย รูดลงมาหนุ่มซ้ายขวาแกแตกกระเจิง จบนะ!
punny manasuth : ไม่ต้องห่วง เพราะฉันกำลังจะกำจัดมันออกไปที่ละคน...ที่ละคน หึหึ
YulSica : ซื้อคำนี้ ฉันดีล!
ManKwz : มันจะผิดนาาา ผู้หญิงไทยควรมีผัวเดียวนาาา เอาไงงงงงงงง
Pandajung : ยั้งใจไว้ก่อน เราเป็นหญิงไทยหัวใจใสสะอาดดด
ryokicharlotte : แตะแล้ววิ่งเลย กลัวเกิน ถถ
Bfern_1998 : ฉันคงเขียนผิด ตรงไหนหวา?
tangmo0 : ทำไมหักโหมม ไม่ต้องทำงานทำงานเหร๊อออ!
io gail : นางดี๊ดีามาก ถึงจะกลัวก็ไม่คืน ถถ
Mello : ข้ามศพฉันไปก่อนนนนน
เข้าไปคุยเล่น ด่าเฌอมา นินทาเฌอมาได้
กราบเรียนเชิญทู้กท่านจ้า (มาเด้ถ้าแน่จริง! ) คลิ๊ก! >> เพจเฌอมา <<
__________________________________________________________________________________________________________________________________________
นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นตามจิตนาการและความคิดของผู้แต่งเท่านั้น ทั้งตัวละคร เนื้อเรื่อง สถานที่ ไม่มีอยู่จริง เป็นเพียงบุคคลที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเพิ่มอรรถรสเนื้อหาของนิยายให้มีความน่าสนใจขึ้นเท่านั้น ผู้อ่านที่รักโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะคะ
นิยายเรื่องนี้สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามคัดลอก ทำซ้ำ ดัดแปลงหรือนำส่วนใดส่วนหนึ่งใน นิยายไปเผยแพร่ต่อโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงาน การละเมิดลิขสิทธิ์ถือเป็นการกระทำที่มีความผิดทางกฎหมายตาม พรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ผู้กระทำความผิดต้องรับโทษตามพระราชบัญญัติที่ได้ระบุไว้และจ่ายค่าเสียหายตามแต่เจ้าของผลงานจะกำหนด
[ สำนักลิขสิทธิ์ กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ สมาคมนักเขียน ]
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

งี้ขอมโนว่าตัวเองเป็นนางเอกละกัน วินวิน
5555 หยอกๆนะค้าาาา
โอ้ยยยย สาดรัวๆเลยไรท์ ก่อนจะหลงพิมานแล้วกู่ไม่กลับ