ตอนที่ 13 : Chapter 13 : ขนมพระพาย (100%) รีไรท์
พ ร ะ พ า ย ท า ย รั ก
___________________________________________________________________________________________________________________________
By เฌอมา
ขนมพระพาย
บทที่ 13 ขนมพระพาย
อีกเพียงหนึ่งวันจะถึงวันหมั้น สายพระญาติและพระสหายของวังภานุพงศ์จึงเริ่มทยอยมาที่วังภานุพงศ์อย่างไม่ขาดสาย ท่านธีปและท่านหญิงกมลช่วยกันตอนรับขับสู้ เหล่าคุณพนักงานทำหน้าที่อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ทุกอย่างล้วนราบลื่นและเป็นไปอย่างเรียบร้อยสมบูรณ์ แต่มีสิ่งหนึ่งที่แขกหรือถามหาไม่หยุดคือว่าที่เจ้าสาวอยู่ไหน และทำไมถึงไม่เห็นหน้าค่าตาเลยตั้งแต่มาถึงวังภานุพงศ์
ลึกเข้าไปในวังชั้นในภายในห้องเครื่องของวังภานุพงษ์ ว่าที่เจ้าสาวกำลังหัวหมุนอยู่กับการทำขนมพระพาย [4] ขนมโบราณซึ่งเธอพึ่งได้ทราบจากทางวังวายะวงศ์ว่าในวันหมั้นเธอต้องทำมันให้เจ้าบ่าวทาน อันเป็นทำเนียมอย่างหนึ่งของราชสกุลวายะวงศ์ ซึ่งสืบทอดต่อกันมาตั้งแต่โบราณ โดยส่วนตัวคุณหญิงก้อยไม่ใช่คนเจนงานครัวแต่ก็พอหยิบจับทำเป็นอยู่บ้าง เมื่อได้ทราบว่าเธอจำเป็นต้องทำขนมที่ว่าก็ใช้เวลาศึกษาและลองลงมือทำมันทันที แต่ทุกอย่างมักไม่ง่ายถ้าทำในครั้งแรก เธอจึงใช้เวลาตั้งแต่เช้าจรดเย็นคลุกอยู่แต่ในครัว ตั้งหน้าตั้งตาทำ ล้มเหลว แล้วทำใหม่อยู่อย่างนั้น
กระทะทองเหลืองถูกคุณแก้วกานดาตั้งขึ้นเตาเป็นครั้งที่สี่ของวัน ก่อนคนเป็นคุณหญิงซึ่งสวมผ้ากันเปื้อนสีเขียวอ่อนและรวมผมทรงหางม้าทะมัดทะแมงจะเทถั่วเขียวซึ่งทำการนึ่งและเลาะเปลือกออกไปจนหมดลงไปในอ่างแก้ว หญิงสาวลงมือบดถั่วจนเนื้อละเอียดร่วนซุยก่อนจะใส่ลงไปในกระทะที่เตรียมไว้ ตามด้วยหัวกะทิคั่นสด น้ำตาล แล้วใช้ไม้พายกวนส่วนผสมทั้งสองเข้าด้วยกัน
“ว่ายังไงก้อย ทำไปถึงไหนแล้วลูก”
คุณหญิงก้อยเงยหน้ามองท่านหญิงกมลที่สาวพระบาทเข้ามาในห้อง ใบหน้างามพิลาสของท่านหญิงดูสว่างสดใสมีชีวิตชีวาแม้จะทรงงานอย่างหนักตั้งแต่เช้าเพื่อเตรียมทุกอย่างให้พร้อมทันวันหมั้น
“ทำตัวไส้อยู่เพคะท่านแม่ ก้อยว่าจะลองอบควันเทียนให้มีกลิ่นหอมดู เวลากัดเข้าไปจะได้หอมในปาก”
คุณหญิงก้อยกล่าวก่อนจะก้มหน้าก้มตาสาละวนอยู่กับกระทะทองเหลืองต่อ โดยไม่ทันได้เห็นว่ามีใครบางคนเดินตามมารดาของตนมา
“เหลือแค่ทำแป้งหุ้ม ปั้นไส้ แล้วก็เอาไป...”
ท่านหญิงกมลมองตามสายตาของบุตรสาว ก่อนจะยิ้มแล้วแกล้งถามต่อ “แล้วก็เอาไปทำอะไรจ้ะ”
คุณหญิงก้อยสะดุ้ง ก่อนจะอึกอักตอบคำถามพระมารดาไป แต่สายตาก็ไม่วายมองตามร่างสูงของดลวัฒน์อย่างหวาดระแวง เพราะว่าที่เจ้าบ่าวเริ่มเคลื่อนตัวมาใกล้ แล้วหยุดยืนอยู่ข้างๆ เขาไม่พูดไม่จา แต่กลับมียิ้มที่มุมปาก
“...เอ่อ”
ดลวัฒน์ที่กำลังมองไส้ขนมพระพายในกระทะทองเหลืองเอียงใบหน้ามองคนพูดตะกุกตะกัก “หื้ม”
คุณหญิงก้อยจ้องเข้าไปในม่านตาของเขาก่อนหลบสายตา เธอค้นพบว่าตัวเองหาเสียงไม่เจอ โดยปกติแล้วเธอควรจะแสดงความรังเกียจกลับไป เพราะเราคือศัตรูที่ไม่ถูกกันมาตั้งแต่จำความได้ แต่พอนึกถึงเรื่องเมื่อวันก่อนเธอก็ทำได้เพียงยืนนิ่งเงียบกริบ ไม่แน่ใจว่าควรพูดอะไรก่อน และควรใช้โหมดไหนคุยกับเขา
“จริงๆไส้ไม่ต้องกวนให้แห้งมากหรอกนะจะ” ท่านหญิงกมลกล่าวคั่นความอึดอัดภายในห้องเครื่อง ก่อนจะรับผ้าผืนบางจากคุณพนักงานมาเช็ดพระหัตแล้วรับไม้พายจากบุตรสาวที่ถวายให้มาถือแทน “ถ้าเรากวนจนแห้งไปไส้จะแข็ง เราจะจับปั้นเป็นก้อนก่อนหุ้มแป้งไม่ได้เลย ที่สำคัญต้องปรุงให้แก่หวานเข้าไว้ เพราะขนมมงคลนี้มันมีความหมายในตัวอยู่ ”
คุณหญิงก้อยที่ถอยห่างออกจากหน้าเตาทำอาหารเพื่อให้พระมารดาเข้าไปแทนที่เหล่ตามองคลวัฒน์ที่ถอยตามเธอราวกับเงาตามตัว
‘เริ่มกวนประสาทแล้วสินะ!’
“ความหมายของขนมพระพายคือขนมแห่งการครองคู่ ความหวานของไส้คือความรักอันหวานชื่นของสามีภรรยา แป้งห่มต้องนุ่มเหนียวแนบแน่นให้เหมือนกับความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นมั่งคงไม่พลันแปร สุดท้ายราดด้วยน้ำกะทิ เพื่อความมัน กลมกล่ม”
ท่านหญิงกมลว่าขณะกวนไส้ขนมพระพายไปมา เรียวพระโอษฐ์แย้มสรวล ดั่งว่าทรงกำลังห้วนถึงเรื่องราวในอดีต ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเกิดขึ้นในชีวิต
คุณหญิงก้อยเลิกสนใจคนที่ทำเป็นเงาตามตัว เดินเข้ามาใกล้พระมารดาแล้วเอ่ยบ้าง
“ยุ่งยากว่าไหมเพคะท่านแม่ ทำนงธรรมเนียมอะไรของพวกวายะวงศ์ก็ไม่รู้ คิดว่าพอกินขนมโบราณแล้วจะช่วยให้ชีวิตรักไปรอดหรือยังไง!”
ปลายประโยคคนเป็นคุณหญิงหันไปว่าแดกดันคนเพียงคนเดียวที่มาจากราชสกุลว่ายะวงศ์ และนั้นเป็นสัญญาณว่าเธอได้ปรับสภาพอารมณ์เข้าสู่การเป็นอริราชตรูกับเขาได้แล้ว และเธอจะไม่อ่อนข้ออีก! เริ่ม!!
ท่านหญิงกมลมองบุตรสาวและว่าที่ลูกเขยที่กำลังเข่นเขี้ยวกันด้วยสายตา ก่อนจะทรงส่ายพระพักตร์งามอย่างจนใจ ไม่คิดห้ามปรามใดๆ กระทั่งไส้ขนมเข้าที่ดีแล้วว่าที่เจ้าสาวถึงได้เลิกส่งสายตามาดร้ายไปให้ว่าที่เจ้าบ่าว เปลี่ยนเป็นเดินเข้ามาข้างพระมารดาแล้วถือชามทองเหลืองรับไส้ขนมที่ท่านหญิงกมลเป็นคนตักลงพัก
คุณแก้วกานดารับไส้ขนมไปอบควันเทียนต่อ คุณหญิงก้อยจึงเริ่มผสมแป้งซึ่งมีส่วนผสมของแป้งข้าวเหนียวและแป้งมันจากนั้นจึงลงมือนวด ในตอนนั้นเองที่ว่าที่เจ้าบ่าวเดินมาประชิดกว่าเก่า โดยส่งมือเข้ามาอยู่ในอ่างแก้วแล้วนวดๆแป้งไปพร้อมคุหญิงก้อย
เขานวดไปทั้งแป้ง ทั้งมือคน!
“นายดล!”
“อยากช่วย”
“ไม่ต้องมายุ่งได้ไหม ถอยออกไปห่างๆเลย”
คุณหญิงก้อยว่าก่อนจะใช้ข้างเอวดันร่างสูงที่มายืนข้างกัน ทว่าดลวัฒน์ไม่ยอม เขาดันตัวเองกลับ ขณะที่สองมือยังคงช่วยนวดแป้งต่อไป
“ช่วยๆกันสิ โดยเฉพาะแป้งเนี้ยเราต้องช่วยกันนวดให้เหนียวๆเลยนะ” เขาว่าก่อนจะหันมองหญิงสาว “ความรักของเราจะได้เหนียวววหนึบ! อย่างท่านแม่ตรัสไง”
คุณหญิงก้อยทำตาโตเมื่อได้ยินฝ่ายตรงข้ามเรียกพระมารดาของเธอว่าท่านแม่! แต่ก่อนที่จะได้จัดการอะไรเขา เสียงสรวลของท่านหญิงกมลที่กำลังง้วนอยู่กับการช่วยคุณแก้วกานดาอบควันเทียนก็ดังไล่หลังอย่างไม่ถือสาหาความ เป็นเหตุให้คนได้รับอนุญาตยักคิ้วหลิวตาให้คุณหญิงก้อยอย่างคนที่เหนือกว่า
“ฉันเกลียดนาย!”
หม่อมหลวงดลวัฒต์หัวเราะชอบใจ ก่อนจะโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้หญิงสาวแล้วกระซิบให้ได้ยินกันแค่สองคน
“เด็กผู้หญิงคนเดิมกลับมาแล้วสินะ โอ๊ย!”
ยังไม่ทันที่หมอหนุ่มจะพูดจนจบประโยค คุณหญิงก้อยก็กระโดดโขกศีรษะของตัวเองไปบนปลายคิ้วของเขา เธอมองท่าทางเจ็บปวดของว่าที่เจ้าบ่าวที่ริอาจยกเรื่องนั้นขึ้นมาแซว
‘สมน้ำหน้า!อยากปากมากดีนัก เด็กผู้หญิงบ้าบออะไรล่ะ!’
“ดล! เป็นอะไรมากหรือเปล่า!”
ทว่าจู่ๆเสียงร้องของใครบางคนก็ดังขึ้นตรงทางเข้าห้องเครื่อง เมื่อคุณหญิงก้อยหันมอง ก็พบเกวลินหรือหมอเกล ยืนทำหน้าตกอกตกใจอยู่ ก่อนร่างแบบบางในชุดเดรสสีหวานดูเรียบร้อย จะวิ่งเข้ามาหาดลวัฒน์ โอบประคองศีรษะอย่างตรวจตรามองหาความเจ็บป่วย
“ไม่เป็นไร...เกลเอามืออกไปก่อนได้ไหม”
หมอเกลชักมือของตัวเองกลับอย่างตกใจ ก่อนจะทำน่าเจือนๆมองตอบชายหนุ่ม ขอโทษขอโพยคุณหญิงก้อย และกราบท่านหญิงกมล
“...ไม่เป็นไรคะฉันไม่ถือสา แต่ไม่รู้ว่านายดลพาหมอเกลมาด้วย”
คุณหญิงก้อยกล่าวก่อนจะหันมองชายหนุ่มที่กำลังใช้หลังมือคลึงตำแหน่งที่โดนเธอทำร้ายไปมา
“เอ้ย! ดลไม่ได้พามานะ”
แต่แล้วว่าที่เจ้าบ่าวก็แสดงความชัดเจนออกมา ทำให้หมอเกลที่ไม่ได้รับการแทคแคร์เริ่มพูดแก้ต่างให้ตัวเอง
“เกลมาเองค่ะคุณหญิง พอดีเกลไปหาดลที่วังวายะวงศ์แล้วไม่เจอ คุณแม่...เอ่อ คุณจุก็เลยบอกว่าดลอยู่ที่นี้ เกลก็เลย...”
คุณหญิงก้อยเลิกคิ้วก่อนจะเปลี่ยนสายตามองดลวัฒน์ซึ่งเขา...ก็เลิกคิ้วมองหมอเกลเช่นกัน
“ความจริงเกลรอเราอยู่ที่วังก็ได้ไม่เห็นต้องลำบากมา เน้อก้อย”
ท้ายประโยคคนเป็นเจ้าบ่าวหันมาพยักพเย่นกับว่าที่เจ้าสาว แต่คุณหญิงก้อยไม่เล่นด้วย เธอสะบัดใบหน้าไปทางอื่น ไม่นงไม่นวดมันแล้วแป้งน่ะ!!!
ดลวัฒน์ถอนใจก่อนจะหันกลับมามองเกวลินที่ทำหน้าจ๋อยอยู่ข้างๆ “ก็เราบอกแล้วไงว่าคุณหญิงนะขี้หึงจะตาย ทีหลังอย่ามาทำตัวสนิทกับเรามากนะเกล”
ประโยคเหล่านั้นดังพอให้ทุกคนในห้องเครื่องได้ยิน โดยเฉพาะคุณหญิงที่รีบตวัดตัวกลับมามองชายหนุ่มอย่างไม่พอใจ
“นายว่าอะไรน้ะ!”
ดลวัฒน์ยิ้มแต้ ก่อนจะรีบก้าวเท้ายาวๆออกจากห้องเครื่องไป เพราะคุณหญิงก้อยทำท่าจะปาดเข้ามาตีเขา
คนเป็นคุณหญิงมองตามแผ่นหลังกว้างที่หนีไปไกลแล้ว ก่อนจะเลื่อนสายตากลับไปที่หมอเกล แล้วเธอก็ต้องชะงักเมื่อผสานเข้ากับสายตาไม่เป็นมิตร ที่ถึงแม้จะแสดงออกมาให้เห็นเพียงแค่วูบหนึ่งแต่ก็สามารถบอกอารมณ์คนเป็นเจ้าของได้ทั้งหมด
“...งั้นเกลลานะคะคุณหญิง หม่อมฉันทูลลาเพคะท่านหญิง”
หญิงสาวคนเดียวกันนี้ว่า ก่อนจะหันไปกราบลาท่านหญิงกมลแล้วเดินตามหลังดลวัฒน์ไป
ท่านหญิงกมลที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดสาวพระบาทเข้ามาใกล้บุตรสาวที่ยืนนิ่งงัน “ก้อย ผู้หญิงคนเมื่อครู่คือใครกันจ้ะ”
คนเป็นคุณหญิงมองพระมารดาก่อนจะเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงที่ตัวเธอพยายามคงไว้ซึ่งความเป็นธรรมชาติที่สุด
“เพื่อนของนายดลเขาเพคะท่านแม่...”
-------------------------------------------------
ต่อนี้จ้า
หมอเกล!!
อาหารว่างที่เหล่าคุณพนักงานนำมาปรนเปรออยู่ไม่ขาดทำให้หม่อมลัลนาอยากที่จะออกมาเดินย่อยซักพัก ตาณและมะลิลา เพื่อนสาวของเธอและว่าที่เจ้าสาวซึ่งมาถึงตั้งแต่หัวค่ำจึงอาสามาเดินเป็นเพื่อน
“ไม่คิดว่าไอ้สองคนนี้จะได้แต่งกันนะว่าไหม คิดดูสิคู่กัดกลายเป็นคู่รัก น่าเชื่อตาย”
ตาณที่กำลังประคองลัลนาให้ก้าวลงสู่สวนสวยของวังภานุพงศ์กล่าว
“นั้นสิ ตอนไอ้ไม้โทรไปบอกฉันถึงได้คิดว่ามันอำเล่นไง ดลกับไอ้ก้อยเนี้ยนะ นรกสั่งสวรรค์สาปชัดๆ”
ลัลนาหันมองสองเพื่อนสาวที่เดินประกบเธอตามคำสั่งของหม่อมเจ้ากิตติกร ก่อนจะหัวเราะอย่างอารมณ์ดีแล้วเริ่มพูดบ้าง
“เชื่อฉันเถอะว่ามันสองคนสวีทกันมากกว่าที่พวกแกคิด”
“รู้ดี” ตาณกล่าว
“ก็ฉันเห็นมากับตาเมื่อวาน มันงี้กอดกันกลมเลยนะ พวกเรามากกว่าโดนสองคนนั้นต้มจนเปื่อย”
“ทำเป็นพูดดี แล้วแกละไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยหรือไง แฟนเก่าจะแต่งกับเพื่อนนะ”
ลัลนามองตาณก่อนจะชี้นิ้ว “แกไปเอามีดมาคว้านท้องตัวเองเดี๋ยวนี้เลยนะไอ้ตาณ เพื่อนจะแต่งกันอยู่แล้วยังมาพูดแบบนี้อีก”
ตาณทำตาโตพร้อมทั้งยกมือปฎิเสธ “เปล่านะ ฉันถามความเห็นแกเฉยๆ”
“ฉันน่ะไม่สนหรอก ก็แค่เคยคบแบบเด็กๆ แต่ฉันไม่อยากให้ไอ้ก้อยคิดถึงเรื่องพวกนั้น แกก็รู้ว่าไอ้ก้อยนะมัน...เฮ้ยเดี๋ยว นั้นดลนี้!”
สองสาวหันตามเสียงของลัลนา และพบว่าที่เจ้าบ่าวกำลังยืนคุยอะไรบางอย่างอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง
“...ผู้หญิงคนนั้นใครวะไม้ หน้าตาไม่คุ้นเลย”
ตาณถามก่อนจะขมวดคิ้วเช่นเดียวกับมะลิลาที่พยักหน้าตาม ทว่าลัลนากลับมีสีหน้าเข้มขึ้นราวกับว่าเธอรู้จักผู้หญิงปริศนาคนนั้นดี
“หึ ก็ยัยเกวลิน คู่จิ้นดลน่ะสิ!”
ตาณกับมะลิลาหันมองลัลนาพร้อมกันอย่าสงสัย “หื้ม/หื้ม”
“ยัยนั้นแอบชอบดลมานานแล้วตั้งแต่สมัยฉันคบกับดล หล่อนสนิทกับทั้งแม่ทั้งน้องสาวของดลมากกก เชื่อเถอะว่ายัยเนี้ยมันร้าย!”
ตาณพยักหน้ามองร่างแบบนางของผู้หญิงที่ชื่อเกวลินอย่างมุ่งร้ายตามลัลนา
“แปลว่าการมาของนางต้องไม่ใช่เรื่องดีสำหรับไอ้ก้อย”
ลัลนาพยักหน้ายืนยันอีกครั้งก่อนจะหันไปสบตากับตาณ เป็นจังหวะเดียวกับที่ตาณหันมามองลัลนา
“พวกเราต้องทำอะไรซักอย่าง! / พวกเราต้องทำอะไรซักอย่าง!”
มะลิลากลอกตามองสองเพื่อนทันทีที่ได้ยินทั้งสองพูดประโยคเดียวกันและพร้อมเพียงกัน
“พวกแกคิดจะทำอะไรอีก เพลาๆหน่อยนะ อย่าลืมว่าไอ้ไม้นะกำลังท้องอยู่”
เป็นอีกครั้งที่มะลิลากรอกตาอย่างจนใจเพราะเพื่อนทั้งสองไม่หันมาสนใจเธออีกเลย เจ้าของไร่มะลิ 'มัลลิกา' จึงได้แต่ภาวนาให้ยัยเกวลินอะไรนั้นปลอดภัย เพราะเป็นที่รู้กันว่าเมื่อไอ้แสบสองคนนี้ผนึกกำลังกันเมื่อไร ความพินาศ บรรลัยก็จะบังเกิดเมื่อนั้น!!
------------------------------------
“เรายังไม่กลับ ต้องช่วยก้อยทำขนมก่อน คงอีกซักพักใหญ่ๆ เกลไม่ต้องคอยหรอก”
ดลวัฒน์ปฎิเสธเพื่อนสาวอย่างไม่อ้อมค้อม เพราะตอนนี้เขาอยากจะกลับไปแกล้งว่าที่เจ้าสาวของเขาแล้ว
“ทำไมต้องช่วยด้วยละดล ตามธรรมเนียมเจ้าสาวของงานต้องเป็นคนทำเองไม่ใช่เหรอ”
ดลวัฒน์พยักหน้า “ใช่ แต่ตอนนี้กำลังหัดไม่ได้ทำจริงๆ เราอยากอยู่ช่วยก่อน เกลกลับไปก่อนเถอะ”
“แต่ว่า...แต่คุณแม่ให้เกลมาตามดลกลับนี้”
หญิงสาวยังคงทัดท้านโดยอ้างหม่อมหลวงจุรีมาศ แต่เธอคิดผิดที่คิดว่าดลวัฒน์จะยอมเชื่อฟัง
“เดี๋ยวเราโทรไปเคลียร์กับคุณแม่เอง”
“...” หมอเกลนิ่งงันก่อนจะเริ่มพูดอีกครั้ง “ทำไมดลต้องจริงจัง ทั้งที่ดลก็แต่งตามการเสี่ยงทายไปอย่างนั้นเอง”
ชายหนุ่มยิ้มมุมปากอย่างคนที่มีความลับซ่อนอยู่
“แล้วเกลรู้ได้ยังไง ว่าเราไม่ได้แต่งเพราะรักคุณหญิง”
“...ดล”
---------------------------------------
คอมเม้นคือกำลังใจของคนแต่ง มันสามารถดีดตัวขี้เกลียดออกจากเฌอมาได้จริงๆ >_<
ฝากกดติดตามเพจ ' เฌอมา ' ด้วยน้า เข้าไปฝอย เม้าท์ ตบตีกัน ในเพจได้นะคะ จะแจ้งอัพนิยายในนั้นน้า ตามมาาๆๆๆ
นิยายเรื่องนี้สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามคัดลอก ทำซ้ำ ดัดแปลงหรือนำส่วนใดส่วนหนึ่งใน นิยายไปเผยแพร่ต่อโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงาน การละเมิดลิขสิทธิ์ถือเป็นการกระทำที่มีความผิดทางกฎหมายตาม พรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ผู้กระทำความผิดต้องรับโทษตามพระราชบัญญัติที่ได้ระบุไว้และจ่ายค่าเสียหายตามแต่เจ้าของผลงานจะกำหนด
[ สำนักลิขสิทธิ์ กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ สมาคมนักเขียน ]
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

อย่าได้หลงกล
เอาให้หงายเงิบไปเลยหมอดล