ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    焰曲 บทเพลงแห่งเปลวเพลิง

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 16 มี.ค. 66





    บทนำ

    คลื่นพลังสีเพลิงแผดเผาแปรปรวน มันสาดกระแสพลังไร้รูปยุ่งเหยิงออกมาจากร่างบอบบางที่นั่งหลับตาเหงื่อผุดเต็มใบหน้าอยู่ตรงกึ่งกลางวงล้อม

    รอบด้านทั้งแปดทิศของค่ายกลโบราณมีบุรุษและสตรีในรูปลักษณ์แตกต่างนั่งขมวดคิ้วทำมทุราชช่วยร่างนั้นควบคุมมวลพลัง

    ทว่ามวลพลังราวเพลิงนรกขุมนั้นราวมีชีวิตและมีความนึกคิดเป็นของตนเอง มันต่อต้าน ไม่ยินยอมที่จะถูกกักขังให้อยู่ในร่างอ่อนแอของหญิงสาวซึ่งเป็นนายของมันอีกต่อไป

    ระวัง!

    พลันจู่ๆ กระแสพลังที่ว่าคล้ายค้นพบจุดอ่อนของร่างในชุดแดงชาดร่างนั้น มันสะท้อนย้อนกลับเข้าไปหาหญิงสาวที่กึ่งกลางค่ายกลอีกครั้ง ขุมพลังที่ไหลย้อนกลับอย่างรุนแรงทำให้ร่างบอบบางสะท้านวูบ ท้ายสุด เรียวปากสั่นระริกกระอักโลหิตออกมา

    อึก

    เยวี๋ยนเอ๋อ!

    ผู้เฒ่าชุดเทาเครายาวถลันตัวลุกจากค่ายกลทางทิศใต้ รีบผวาเข้าหาศิษย์รักก่อนนั่งลงโคจรพลังปราณของตนตรงหน้านาง หมายเข้ากอบกู้ ส่งจิตตนเข้าข่มปราณสับสนวุ่นวายแทน

    เจ้าหงส์ถอนจิตออกมา! เจ้าไม่อาจบุกทะลวงจิตต่อไปได้ ฐานจิตของเจ้าคงไร้การเยี่ยวยาแล้วจริงๆ! เชื่ออาจารย์! อย่าฝืนอีกเลย ถอนออกมา!

    แต่หญิงสาวจะฟังไหม เหล่าอาจารย์แห่งสำนักยอดเขาดอกชากลับเห็นคำตอบอย่างชัดเจนด้วยเลือดสีชาดที่กระอักอาบย้อมไปบนอาภาร์ของนางคำแล้วคำเล่า 

    นางไม่ยอมแพ้

    นางไม่ยินยอม

    เวลานี้ ‘เยวี๋ยนเฟิ่ง’ ไม่ได้รับรู้ถึงความตื่นตระหนกเหล่านั้นจากคนรอบข้างเลยแม้แต่น้อย นางไม่รู้ถึงความเป็นห่วงของใคร ไม่สนว่าหลังจากนั้นบรรดาศิษย์พี่จะวิ่งเข้ามาห้อมล้อม หรือพูดปลอมนางอย่างไรบ้าง

    ยามนี้จิตสับสนปรวนแปรของนางกำลังดำดิ่งสู้ภาพเหตุการณ์ในอดีต สายตาของนางจับจ้องเพียงปิ่นหงส์สยายของตนที่หลุดกระเด็นอยู่บนพื้น

    ปิ่นหงส์ที่เขาคนนั้นส่งมาถึงนาง เป็นของหมั้นหมายตัวนาง...

    นี่ก็ผ่านมาเกือบปีแล้วสินะ 

    ผ่านวันที่ความภาคภูมิใจทั้งหลายของนาง ความหวัง การตั้งตารอคอย และความทระนงทั้งหมดทั้งมวลถูกกระชากลงสู่พื้นดินและเหยียบย่ำให้แหลกสลายคาฝ่าเท้า

    แม้ก่อกำเนิดสูงส่งเพียงใด ถูกยกย่อง สรรเสริญ แซ่ซ้องเพียงใด แต่เมื่อจิตแตกร้าว คนอย่างนางก็หนีไม่พ้นคำว่าไร้ค่า...ตกต่ำเสียงยิ่งกว่าหมูตัวหนึ่ง

    แต่เวลาหลายต่อหลายปีที่นางเฝ้าบำเพ็ญเพียรอย่างยากลำบากเล่า?

    ที่ถูกเคียวกรำเคล็ดวิชาจากปรามาจารย์ทั้งหลายอย่างไม่ซ้ำหน้า เพียงเพื่อให้ผู้นำตระกูลพอใจ เพียงเพื่อจะได้เหมาะสมพอจะเป็นผู้หญิงของคนผู้นั้น เพียงเพื่อให้มีฐานะเทียบเคียงเขา ที่นางเฝ้าอุส่าห์ผ่านความยากลำบากเกินกว่าที่ผู้บำเพ็ญเพียรคนอื่นจะรับได้ ที่ละทิ้งความสนุกสนานในวัยเยาว์ ก้าวสู่เส้นทางบำเพ็ญอันยากลำบาก โดดเดี่ยว เพียงลำพัง ความทรมานเหล่านั้นจะยอมให้เสียเปล่าหรืออย่างไร?

    สุดท้ายความบากบั่นทั้งหลายของนางกลับกลายเป็นของไร้ค่าไปได้อย่างไรกัน!

    มือบางเอื้อมหยิบปิ่นหงส์สยายของตนขึ้นมามองดู นางพบว่าตนไม่ได้โกธรแค้น แต่นางกลับเศร้าสร้อย

    หากย้อนเวลากลับไปได้คงดี

    หากย้อนได้นางจะมีชีวิตตามแต่ใจตนเอง มีอิสระเสรี

    นางจะจับกระบี่ จะไม่ยอมเป็นเพียงสตรีอ่อนหวาน ที่มีอาวุทคู่กายเป็นเพียงเครื่องดนตรีอ่อนแอบอบบางอย่างที่ใครต่อใครกำหนดให้นางเป็น

    แต่

    ยามนี้นางก็เป็นอิสระแล้วนี้ นับแต่นางกลายเป็นคนไร้ค่า ไม่อาจฝึกฝนวิชาใดๆได้อีก ผู้คนเหล่านั้นก็ไม่ต้องการนาง...เขาคนนั้นก็เช่นกัน

    ทว่าทั้งที่นางควรจะดีใจ ทั้งที่นางจะมีชีวิตอิสระได้แล้วแท้ๆ แต่ทำไมนางถึงยังเจ็บปวด 

    ทำไมภาพในวันคัดตัวว่าที่พระชายาไท่จื้อครั้งนั้น ปลายนิ้วมือของเขาคนนั้นที่ชี้นิ้วเลือกพระชายาของเขาซึ่งไม่ใช่นาง ทำไมลบออกไปจากใจไม่ได้เสียที

    ทำไมกัน

    อึก!

    นางสำรอกเลือดสีชาดออกมาอีกคำโต

     

     _________________

    ฟุ้งซ่านเลือกนิยายที่จะเขียนไม่ถูก เลยเขียนมันทุกเรื่องเลยค่ะ ฝากด้วยน้า 55

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×