คุณเเม่สายลับ [ เปิดจอง + พร้อมลายเซ็น ถึง 31 ม.ค นี้ ]
ตอนที่ 2 : บทที่ 1 : ผู้หญิงที่ต้องตา 2
ปล. เล่มคุณแม่สายลับไม่มีวางขายตามร้านหนังสือนะคะ ถ้าต้องการเล่มมีแต่ต้องสั่งจองกับเฌอมาเท่านั้น แค่รอบนี้รอบเดียวเพราะไม่สามารถสั่งพิมพ์หลายๆรอบได้ มันต้นทุนสูงค่ะ ต้องสั่งพิมพ์พร้อมกันคราวละมากๆ ถึงจะไม่เข้าเนื้อ T_T ยังไงใครต้องการเล่มรบกวนสั่งพร้อมกันทีเดียวน้า ปิดจองเล่มก่อนวันที่ 31 มค นี้จ้า
คลิ๊กเลย >> http://m.me/Chermahome
คุณแม่สายลับ
__________
บทที่ 1
ผู้หญิงที่ต้องตา
"เป็นอะไรไหมครับ!?"
ชายหนุ่มร้องถามน้ำเสียงเป็นห่วงเมื่อเขาแน่ใจแล้วว่าเจ้าวัตถุที่ว่านั้นคือผู้หญิง ทว่าแทบจะในทันทีที่เจ้าของร่างเงยใบหน้าซึ่งสูงเพียงอกของเขาขึ้นมาสบตาด้วย นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนหวานซึ่งอยู่ใกล้เพียงแค่คืบนั้นก็ทำเขา...ชะงักไป
ใครกันหนอที่เสกสร้างปั้นแต่งผู้หญิงตรงหน้าให้ออกมาหมดจดได้ขนาดนี้ ปากของหล่อนเป็นกระจับแต่กลับอวบอิ่มแดงเรื่ออยู่บนใบหน้ารูปไข่เรียวเล็กน่ามอง สีของมันระเรื่ออยู่บนแก้มใสที่ไร้ซึ่งไฝฝ้าให้รำคาญใจ ผิวทั้งเรือนกายขาวจัดจนสะท้อนกับไฟแชนเดอเลียของโถงลิฟท์ ทั้งยังจมูกโด่งเป็นสันกำลังพอดี ทั้งวงคิ้วอ่อนละมุนที่เรียงเส้นสวยไปบนหน้าผากมน
ทว่าที่ตรึงความคิดเขาได้มากที่สุดในบรรดาเครื่องหน้าส่วนอื่นๆคือนัยน์ตากลมโตวาววับของเจ้าหล่อนนั้นต่างหาก นัยน์ตาซึ่งถูกปกป้องเอาไว้อย่างหวนแหนด้วยแพขนตางอนยาว
เขายอมรับว่าตนเองเจอคนสวยมาก็มาก ทั้งนางเอก นางแบบ หรือผู้มีชื่อเสียงมากมายที่ดานหน้าเข้ามาในชีวิตไม่เคยขาด แต่คนที่ทำให้เขาต้องหันกลับมามองซ้ำๆ ต้องพินิจ ไตร่ตรองตรวจสอบว่าสามารถทำให้เขาสะดุดได้อย่างไรเช่นคนตรงหน้า
เขากลับไม่เคยเจอ
หญิงสาวซึ่งมีท่าทางตกใจไม่แพ้กันรีบดันตัวออกจากอ้อมกอดของท่านประธานหนุ่มพร้อมใบหน้าลนลานสำนึกผิด
“ขอโทษค่ะ ฉันรีบไปหน่อยเลยไม่ทันเห็นคุณ”
แม้แต่เสียงยังน่าฟัง
ชายหนุ่มคิดในใจพลางก้มมองฝ่ามือที่ยังมีสัมผัสอ่อนนุ่มของเอวบางหลงเหลืออยู่ก่อนยิ้มปลอบใจ “ไม่เป็นไรครับ ผมเองก็ไม่ทันได้ระวัง”
หญิงสาวยิ้มรับความสุภาพนั้น พักหนึ่งถึงอุทานออกมา ทำหน้าราวกับพึ่งนึกอะไรขึ้นได้ เมื่อหันไปกลับไปมองที่พื้นด้านหลังเธอก็พบถุงจากร้านจำปูนของตนตกอย่างไร้ค่าอยู่บนพื้น อาหารส่วนหนึ่งที่รีบร้อนมาซื้อแทบแย่เทกระจายออกมาด้านนอกเต็มไปหมด หนึ่งในนั้นคือน้ำพริกไข่ปูที่ไม่ว่าใครได้กลิ่นก็ต้องน้ำลายสอ แล้วยังผักเคียงที่ทางภัตคารจัดมาให้ทั้งแบบดิบและแบบต้มนั้นอีก
กระจายเต็มพื้นไปหมดเลย!!
ภีธารันต์มองตามร่างสมส่วนของคู่กรณีที่รีบร้อนก้มลงเก็บเมนูขึ้นชื่อของร้านจำปูน พออีกฝ่ายเห็นพนักงานร้านปลี่ออกมาหาก็ยิ่งเร่งเก็บของที่ทำเกลื่อนพื้นเข้าถุงพร้อมเอ่ยปากขอโทษขอโพยไม่หยุด คำกล่าวเหล่านั้นทำเขานึกเอ็นดูท่าทีขี้เกรงใจของเธอ
ชายหนุ่มย่างสามขุมเข้าไปหา ย่อตัวนั่งยองมองคนลนลานก่อนปรามมือเธอโดนการแตะที่หลังมือบางอย่างถือวิสาสะ “มันเลอะหมดแล้วครับ ผมว่าซื้อใหม่ดีกว่า”
หญิงสาวพลิกมือหนีอย่างระวังตัวก่อนเงยมองตอบ “มันหมดแล้วค่ะ ฉันมาทันซื้อน้ำพริกไข่ปูชุดสุดท้ายพอดี คุณคงไม่รู้ว่าเจ้านี่เป็นเมนูดังของร้านนี้ ทั้งวันมีขายแค่ห้าสิบชุดเท่านั้น”
หญิงสาวกล่าวอย่างเสียดาย สีหน้าท่าทีราวกับกำลังเสียใจที่ตนอดกินของโปรดพลอยทำให้บอสหนุ่มซึ่งอยากจะกินน้ำพริกไข่ปูกี่ร้อยชุดต่อวันก็ได้รู้สึกผิดตามไปด้วย คิดในใจว่าหลังจากนี้จะต้องสั่งให้ผู้จัดการโรงแรมเพิ่มปริมาณน้ำพริกไข่ปูที่ทำขายต่อวันให้มากขึ้นอีกหน่อย
มาแกล้ง 'ลูกค้าของเขา' ให้ร้อนใจกันอย่างนี่ได้ยังไง ใจร้ายจริงๆ
“ยังมีอีกครับ มาเถอะเดียวผมจัดการให้”
ชายหนุ่มยิ้มใจดี ก่อนจะดึงถุงที่ดูเลอะเทอะในมือของหญิงสาวไปทิ้งในถังขยะใกล้ๆ ก่อนเดินนำเธอเข้าไปในภัตตาคารอาหารไทยของโรงแรม ตอนแรกอีกฝ่ายดูลังเล แต่เมื่อเห็นเขาหันกลับมาเลิกคิ้วยิ้มให้ เธอก็จำใจเดินตามเขาไปแต่โดยดี
ภีธารันต์เดินนำหญิงสาวมาที่โต๊ะตัวหนึ่งทางด้านในสุดของภัตตาคาร กระจกแบบพาโนราม่าภายในห้องทำให้คนที่ก้าวตามเข้ามาใหม่สามารถมองเห็นวิวทะเลสีฟ้าครามด้านนอกห้องได้อย่างสบายๆ ภายใน้ห้องอาหารแบบส่วนตัวตกแต่งอย่างหรูหราได้อารมณ์โรแมนติก ทั้งห้องมีโต๊ะเพียงตัวเดียววางไว้ตรงกึ่งกลาง
“นั่งก่อนสิครับ เดี๋ยวผมจัดการให้” เขายิ้ม พอดีกับที่ผู้จัดการร้านเดินตรงเข้ามาแล้วยื้นเมนูให้ภีธารันต์ด้วยท่าทางนอบน้อม
“คุณพงศ์”
“ครับคุณภีม”
"ช่วยจัดน้ำพริกไข่ปูใส่กล่องให้คุณผู้หญิงคนนี้ทีนะครับ” ภีธารันต์พูดพรางมองหญิงสาวตรงหน้าไปพราง รอยยิ้มของเขาทำให้คนที่ทำท่าจะพูดบางอย่างหยุดชะงัก ใบหน้าหวานเสหลบสายตาเขาโดยที่ตัวเธอเองก็ยังรู้สึกแปลกใจ
“ทำไมเหรอครับ คุณเหมือนกำลังสงสัยอะไร?”
“คือ…ตอนแรกพนักงานบอกว่าน้ำพริกไข่ปูเหลือชุดสุดท้ายแล้วนี่คะ แล้วทำไมคุณถึงได้…”
ภีธารันต์หัวเราะเบาๆ
“เอาเป็นว่าผมคือคนที่มีอภิสิทธิ์ และผมยกส่วนของผมให้คุณก็แล้วกัน ถือว่าเป็นการขอโทษที่ดันไปชนของโปรดของคุณจนเละเทะ”
หญิงสาวทำหน้าฉงน “รู้ได้ยังไงคะว่ามีลิน..เอ่อ ฉันชอบ”
ท่านประธานหนุ่มปิดเมนูลงแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงสบายๆ ทว่าสายตากลับมองตอบนัยน์ตาหวานที่พยายามเสหลบเพราะเอียงอายสายตาของเขาอยู่ตลอด
“ก็ตอนที่คุณเห็นว่ามันกระเด็นเกลื่อนพื้น คุณทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ซะให้ได้เลยนี่” ภีธารันต์หัวเราะล้อเลียน ในใจปรากฏชื่อของเธอที่เขาได้ยินเต็มสองหูเมื่อครู่
..มีลิน
“ผมชื่อภีธารันต์ครับคุณมีลิน หรือจะเรียกว่าภีมก็ได้” ชายหนุ่มแนะนำตัวเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบไป
หญิงสาวทำท่าสงสัยเรื่องที่เขาเรียกชื่อเธอถูก แต่ก็คลายความสงสัยเหล่านั้นลงในเวลาต่อมา คงพึ่งนึกได้ว่าเธอเป็นคน 'หลุดปาก' บอกเขาไปเอง
“ค่ะคุณภีม แต่เรื่องน้ำพริกไข่ปูน่ะไม่เป็นไรหรอกค่ะ ไว้ฉันมาซื้อใหม่พรุ่งนี้ก็ได้ ฉันยังอยู่เที่ยวที่ภูเก็ตอีกหลายวัน”
คนบอกปัดยังคงปฎิเสธ ภีธารันต์เองก็คร้านจะเถียงกับผู้หญิงจึงเอ่ยสรุปทันที
“คุณก็เกรงใจผมก็เกรงใจ งั้นเราสองคนก็ทานด้วยกันที่นี่เถอะครับ เพราะถึงยังไงเราก็คงกินเจ้าน้ำพริกไข่ปูกันตามลำพังไม่หมดอยู่แล้ว...นะ?”
หญิงสาวชะงักเมื่อจู่ๆ ชายหนุ่มก็ใช้เสียงอ้อนอ่อนขอร้องเธอ ใบหน้าทำราวกับจะบอกว่าหากเธอไม่รับคำเขาคงรู้สึกผิดไม่เลิกทำให้หญิงสาวไม่อาจหาคำปฎิเสธใดๆได้อีก สุดท้ายจึงทำได้เพียงพยักหน้าเบาๆ จากนั้นก็นั่งฟังคนอารมณ์ดีสั่งเมนูอื่นๆสำหรับเขาและเธอต่อไปเงียบๆ
ไม่นานอาหารก็ถูกเสริฟ์โดยเชฟใหญ่ของร้านจำปูน นอกจากน้ำพริกไข่ปูเจ้าปัญหาแล้ว ยังมีเมนูแนะนำจานอื่นๆที่ส่งกลิ่นหอมอร่อยอย่างบ้าคลั่งอยู่กลางโต๊ะระหว่างเขาและเธอ ชวนให้คนหิวข้าวทั้งสองยิ่งหิวเข้าไปใหญ่!
ภีธารันต์เอื้อมตักน้ำพริกไข่ปูให้หญิงสาวเป็นลำดับแรก นัยน์ตาของเขาพราวหัวเราะขณะสบตาเธอ ยังคงล้อเลียนคนอยากกินน้ำพริกไข่ปูไม่เลิก แน่นอนว่านั้นทำให้หญิงสาวค้อนเขาไปวงหนึ่ง
ปฎิกิริยาของเจ้าหล่อนทำให้ภีธารันต์ยิ้มกว้างกว่าเก่า รู้สึกคุ้นเคยและอยากที่จะเขาหาคนตรงหน้ามากยิ่งขึ้น เขาตักไข่เจียวปูฟูนุ่มให้เธอแถมไปด้วย ไม่ลืมอธิบายว่าเพราะอะไร
“ลองทานคู่กันนะครับ นี้เป็นเมนูโปรดของคุณแม่ผมเลย ท่านชอบกินน้ำพริกไข่ปูของที่นี่มาก แล้วยังชอบทานคู่กับไข่เจียวปูแบบนี้อีก”
เธอยิ้มคืนเขาบางๆ ก่อนยอมรับขึ้นทานอย่างว่าง่าย ภีธารันต์พอใจท่าทีของเธอมาก รู้สึกเหมือนอีกฝ่ายเป็นลูกกระต่ายที่เคยเลี้ยงสมัยเด็กๆ หยิบอะไรให้ทานก็ทาน เห็นดังนั้นเขาพลันรู้สึกว่าอยากจะตักให้อีก รู้สึกว่าเป็นหน้าที่ของเขาแล้วที่จะเลี้ยงแม่กระต่ายตัวนี้ให้อิ่มท้องก่อนปล่อยกลับไป รู้ตัวอีกทีเขาก็คอยตักนั้นนี้ให้เธอไม่หยุด หญิงสาวเองก็กินไปเรื่อยๆ ด้วยท่าทางสบายๆ นั่งทานเงียบๆ มองวิวไปเคี้ยวไป เขาตักอะไรก็ทานทั้งหมด ไม่เลือกกินหรือเขี่ยสิ่งใดออกจากจาน สีหน้าก็ดูสบายใจและอารมณ์ดีไม่น้อย ทว่ามีอยู่ครั้งที่ชายหนุ่มตักแกงเหลืองรสเผ็ดร้อนให้ลอง แม้หญิงสาวจะยอมกินเช่นเดิมทว่าแก้มที่แดงเห่อขึ้นมากลับทำให้เขารู้ว่าเธอคงทานเผ็ดไม่เก่งนัก จากนั้นจึงสั่งขอหวานมาแก้เผ็ดให้อย่างใส่ใจ แล้วก็ไม่ตักอะไรที่มีรสเผ็ดให้อีกฝ่ายอีกเลย
“มีลินมาเที่ยวเหรอครับ”
ภีธารันต์ชวนคุยเมื่อเห็นหญิงสาวเริ่มผ่อนคลายท่าทีที่มีระหว่างกันลงแล้ว เขาถือวิสาสะเรียกชื่อเธออย่างสนิทสนม และดูเธอจะไม่ว่าอะไรเสียด้วย
“ค่ะ เห็นคุณพ่อบอกว่าทะเลที่นี่สวยมาก พอมีเวลาว่างมีลินก็เลยมาเที่ยวดูซักครั้ง แล้วก็ไม่ผิดหวังเลย ทะเลที่นี่สวยจริงๆ ”
เธอพูดตาพราวขณะที่ปากก็กำลังเคี้ยวตุ้ยๆ ภีธารันต์ไม่ถือสาแต่กลับมองว่าคนตรงหน้าเป็นธรรมชาติดี ผิดกับผู้หญิงคนอื่นๆที่เขาเคยไปทานข้าวด้วย
ผิดกันมากจริงๆ
“แปลว่าคุณไม่เคยมาภูเก็ต?”
“ไม่เคยค่ะ ถึงฉันเป็นคนไทย แต่ไม่ได้โตที่ประเทศไทย” เธอกล่าว
“งั้นแปลว่าคุณมาเที่ยวคนเดียวเหรอครับ”
หญิงสาวพยักหน้ารับเป็นคำตอบ เพราะปากไม่ว่าง เคี้ยวอยู่
ภีธารันต์ยิ้มก่อนจะยื่นกระดาษทิชชูส่งให้เธอเพื่อเช็ดปาก หญิงสาวหัวเราะเขินๆ ก่อนจะรับมาไว้ในมือแล้วกล่าวขอบคุณ
“งั้นในฐานะเจ้าภาพที่ดี ผมขออาสาเป็นไกด์นำเที่ยวให้นะ” เขาอาสาแล้วเหลือบมองไปทางศจี อีกฝ่ายก้มใบหน้าลงอย่างเข้าใจในความนัยน์แฝงคำสั่ง ก่อนจะเดินออกไปจากห้องนั้นเพื่อโทรไปเลื่อนไฟล์บินให้คนด้านใน
ดูท่าคุณภีมคงติดใจอะไรที่ภูเก็ตเข้าให้แล้ว แต่ว่า…แล้วน้ำพริกไข่ปูของคุณหญิงแก้มจันทร์เล่า?
ทว่าคนได้รับข้อเสนอไหนเลยจะทราบว่าตนถูกไกด์กิตติมศักดิ์ตรงหน้าถูกใจเข้าให้แล้ว หญิงสาวเพียงทำตาโตอย่างดีใจ ไม่ปฎิเสธการนำเที่ยวจากเจ้าถิ่น นั่นเพราะ…เธอเองก็อยากจะใกล้ชิดเขาเช่นกัน...
“จริงเหรอคะ”
“จริงสิครับ เริ่มโปรแกรมกันตั้งแต่ตอนนี้ยังได้เลยนะ”
“...ไม่ได้ค่ะ วันนี้มีลินมีธุระ เอาไว้พรุ่งนี้ได้ไหมคะ” เธอถามพลางทำหน้าเสียดาย ภีธารันต์ตกปากรับคำ
การสนทนาดำเนินต่อไปจนกระทั่งพวกเขาอิ่ม ภีธารันต์จึงเดินมาส่งหญิงสาวหน้าโรงแรม ไม่นานรถยุโรปคันหรูก็ขับมาจอดที่ด้านหน้า หญิงสาวจึงก้าวขึ้นไปบนรถ ก่อนจากเธอโบกมือลาเขาพร้อมรอยยิ้มสดใส ซึ่งมันทำให้ชายหนุ่มที่ยืนรอส่งยิ้มตามไปด้วย
ภีธารันต์มองส่งเธออยู่หน้าโรงแรมจนสุดสายตาก่อนจะหันหลังเดินกลับเข้าไปในตัวโรงแรม ความจริงเขาสะสางงานที่นี่เสร็จหมดแล้ว และมีกำหนดกลับกรุงเทพฯ ฯ ในคืนนี้ ทว่าแบบนี้คงต้องเลื่อนไปอีกนิด
ก็ที่ภูเก็ตมีอะไรน่าสนใจขึ้นแล้วนี่
ชายหนุ่มยิ้มอย่างอารมณ์ดีทว่าไม่ลืมส่ายหน้าให้ตัวเองเบาๆ ในหัวของเขาตอนนี้มีแต่ภาพหญิงสาวนัยน์ตาสีน้ำตาลที่พึ่งจากกันไม่ถึงสิบวินาทีคนเมื่อครู่
เฮ้อ ช่างเป็นผู้หญิงที่ไม่อยากจะละสายตาไปไหนเลยจริงๆ..
------------------------
หวังว่าจะชอบน่าา งานเขียนไว้นานแล้ววว เอามาปัดฝุ่นนนนนๆ
ฝากติดตามเพจเฌอมาด้วยนะย่ะ ติชมได้ หุหุ
เปิด pre-order #เล่มคุณแม่สายลับ #พร้อมลายเซ็น แล้วจย้าาา
- ราคาเล่ม : 350 บาท
- จำนวนหน้า: 350 - 400 หน้า
จองพร้อมโอนได้ตั้งแต่วันนี้ - 31 ม.ค. 62
** เริ่มจัดส่งหนังสือ 20 ก.พ.62 เป็นต้นไป **
สั่ง pre-order ได้ที่:
แฟนเพจ : http://m.me/Chermahome
____________________________________________________________________________________________
นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นตามจิตนาการและความคิดของผู้แต่งเท่านั้น ทั้งตัวละคร เนื้อเรื่อง สถานที่ ไม่มีอยู่จริง เป็นเพียงบุคคลที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเพิ่มอรรถรสเนื้อหาของนิยายให้มีความน่าสนใจขึ้นเท่านั้น ผู้อ่านที่รักโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะคะ
นิยายเรื่องนี้สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามคัดลอก ทำซ้ำ ดัดแปลงหรือนำส่วนใดส่วนหนึ่งใน นิยายไปเผยแพร่ต่อโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงาน การละเมิดลิขสิทธิ์ถือเป็นการกระทำที่มีความผิดทางกฎหมายตาม พรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ผู้กระทำความผิดต้องรับโทษตามพระราชบัญญัติที่ได้ระบุไว้และจ่ายค่าเสียหายตามแต่เจ้าของผลงานจะกำหนด
[ สำนักลิขสิทธิ์ กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ สมาคมนักเขียน ]
ว่าแต่ว่ามี e-book มั้ยคะ
เพิ่งเข้ามาอ่าน ก็ติดใจน้ำพรกปูไข่แล้วววววค่า
พี่ภีมติดใจสาวน้อยซะแล้ว
คำผิดเยอะมากกกกกก
รบกวนหาคนตรวจแก้ภาษา
ก่อนลง ebook จะเป็นพระคุณอย่างมาก
อ่านเจอคำผิดมากมายแล้วเสียอรรถรสค่ะ
เจอสาวแล้วลืมกลับบ้านเลยนะคุณภีม
อ้าว อ้าว น้ำพริกคุณหญิงแม่ล่ะค่ะ
แล้วยังหน้าตาคุณลูกอีก
เจอสาวแล้วลืมเหรอคะ เนี่ยยยยยย