ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : whats the hell happened!! # 8
Title :: What’s the hell happened!!
Part :: 8
Pairing :: WonHyuk
Author :: kobamura
Rating :: PG-13
Author’s Note :: เรื่องทุกอย่างก็เป็นเพียงเหตุการณ์สมมติขึ้นเท่านั้น อ่านเพื่อความบันเทิงนะคะ
ช่วงนี้ขาดๆหายๆไปก็อย่าเพิ่งลืมกันนะคะ
พระเจ้าครับ...วันนี้ผมไม่อยากตื่นเลย
“เอ้า! ตื่นเว้ย! จะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหน” คนที่กำลังหลับอย่างสบายสะดุ้งเฮือกตื่นจากภวังค์ความฝัน แต่ความง่วงก็ยังมีอยู่มากพอที่จะทำให้เจ้าตัวเล็กยังคงขดอยู่ในผ้านวมผืนหนาโดยที่ไม่ได้สนใจเลยว่าเจ้าแม่กำลังเท้าเอวเตรียมของขึ้นอยู่รอมร่อ
คิมฮีซอลถอนใจเซ็งๆก่อนจะเดินไปยืนข้างเตียงแล้วจัดการกระชากผ้าห่มด้วยแรงทั้งหมด ส่งผลให้ดักแด้ตัวน้อยที่นอนขดอยู่ข้างในกลิ้งตกลงไปนอนแอ้งแม้งอยู่กับพื้นพร้อมเสียงโอดโอย
“พี่ฮีซอลอ่า...ผมเจ็บนะ” ยันตัวให้ลุกขึ้นนั่งแล้วลูบแขนขาตัวเองป้อยๆ ชอบทำร้ายกันอยู่เรื่อยเลย พี่เป็นพวกซาดิสต์หรือเปล่าเนี่ย
“ฉันเรียกแกจนเสียงจะหายไปหมดแล้ว วันนี้วันอะไรรู้ตัวบ้างหรือเปล่าห๊ะ?” ไม่พูดเปล่า...ผู้จัดการสุดโหดเตรียมหาของใกล้ตัวมาฟาดกบาลนางงามตัวน้อยๆซักทีสองทีให้รู้สำนึก
“ก็วันประกวดไงครับ”
“เออ! ยังดีที่จำวันได้ ลุกขึ้นไปอาบน้ำให้เรียบร้อยแล้วลงไปข้างล่าง ช่างทำผมเขามารอแล้วอย่าชักช้าเดี๋ยวแม่เหนี่ยวคางเหลือง”
“พี่จะให้ผมอาบน้ำตอนตีสามเนี่ยนะ! พี่จะให้ผมไปประกวดนางงามไก่โห่หรือไง?” คนที่ทำท่าจะไปอาบน้ำในตอนแรกโวยวายขึ้นทันทีเมื่อเหลือบไปเห็นนาฬิกาตรงหัวเตียง...ถึงว่าทำไมรู้สึกเหมือนยังนอนไม่ค่อยพอ
“เออ! ให้ไปอาบก็ไปสิ ต่อผมหน่ะมันไม่ได้ต่อเสร็จแป๊บๆนะเว้ย มันต้องใช้เวลาและความประณีตสูง หุบปากที่จะเถียงฉันแล้วไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นฉันจะให้ซีวอนขึ้นมาอาบให้นะ” คำขู่นั้นได้ผลชะงัดนัก เจ้าลูกไก่ตัวน้อยทำตาโตก่อนจะหายเข้าไปในห้องน้ำอย่างรวดเร็ว ฮีซอลถอนใจหนักๆกว่าจะปลุกเจ้าตัวยุ่งได้ทำเอาเขาหมดแรงไปเยอะ
“นั่นไปปลุกหรือว่าขึ้นไปทำสงคราม? เสียงดังลงมาถึงข้างล่างเลย” เจ้าของบ้านเอ่ยถามพลางหันไปเสิร์ฟกาแฟให้กับบรรดาช่างแต่งหน้าทำผมที่ซีวอนเป็นธุระขับรถไปรับให้ถึงที่ ส่วนรุ่นน้องร่างสูงนั่นหน่ะหรอ? นั่งคอพับคออ่อนอยู่ไม่ไกลกันนักหรอก นี่ก็คงถูกฮีซอลโทรไปปลุกมาเหมือนกัน อีทึกอดยิ้มไม่ได้เมื่อมองท่าทางซีวอนแล้วพาลนึกไปถึงคังอินเมื่อปีก่อน...สภาพเดียวกันเลย
“ฉันไม่จับมันทุ่มใส่ห้องน้ำก็บุญเท่าไหร่แล้ว”
“ฮยอกแจขี้เซาขนาดไหนนายก็รู้” เอ่ยกับเพื่อนยิ้มๆก่อนจะส่งกาแฟให้ซึ่งเจ้าแม่ก็รับมาถือไว้ก่อนจะร้องขอขนมมาเพิ่มเมื่อเห็นว่าในจานมันพร่องไปกว่าครึ่ง กลิ่นหอมกรุ่นของกาแฟพอจะช่วยให้ตาสว่างได้พอสมควร
อีทึกยืนมองฮีซอลที่นั่งคุยกับบรรดาช่างทำผมและช่างแต่งหน้าถึงคอนเซ็ปของชุดที่เดินรอบแรกและชุดที่ใช้ในการแสดง อีกมุมหนึ่งก็เป็นซีวอนที่ดูเหมือนจะอยู่ในสภาพครึ่งหลับครึ่งตื่น ถัดไปก็เป็นสองสหายปลากระต่ายที่นอนเกยกันอยู่...บรรยากาศไม่ได้ต่างไปจากปีก่อนเลยจริงๆนะเนี่ย
“อาบน้ำเสร็จแล้วคร๊าบ~” ร่างบางในชุดเสื้อยืดกางเกงผ้าขายาววิ่งลงมาจากชั้นบนเมื่อได้กลิ่นหอมๆลอยมาจากในครัว อีทึกจึงชะโงกหน้าออกมาบอกให้ไปหาฮีซอลที่อยู่ในห้องรับแขก ไม่นานก็ได้ยินเสียงโวยวายจากเจ้าแม่พร้อมกับไล่ให้ฮยอกแจขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อให้เป็นเสื้อเชิ้ตจะได้ไม่มีปัญญาเวลาต้องถอดเสื้อหลังจากทำผมเสร็จแล้ว
หลังจากเตรียมมื้อเช้าเสร็จก็ปาไปเกือบหกโมงเช้า อีทึกจึงเดินออกมาจากครัวเรียกให้น้องๆไปหาอะไรรองท้องก่อน ฮีซอลที่นอนอยู่บนโซฟาโบกมือสองสามทีเป็นเชิงว่าขอผ่านอาหารเช้าแล้วนอนต่อ ซองมินกับทงเฮเดินสะลึมสะลือไปล้างหน้าแปรงฟัน ส่วนซีวอนเหมือนจะตื่นนานแล้ว ร่างสูงนั่งมองว่าที่นางงามที่นั่งหลับให้ช่างทำผมต่อผมให้แล้วอมยิ้มอยู่ตลอดเวลา
“หลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย?” เอ่ยถามรุ่นน้องก่อนจะยื่นโกโก้ร้อนที่เพิ่งไปชงมาให้เพราะซีวอนบอกว่ายังไม่หิวนัก แต่เขาว่าคงจะรอทานพร้อมเจ้าตัวยุ่งที่ยังคงหลับไม่รู้เรื่องนี่มากกว่า
“ตั้งแต่พี่ช่างผมเขาจับผมช่อแรกมาต่อแหละครับ”
“นอนเก่งจริงๆเลยให้ตาย”
“ให้นอนไปเถอะครับ นอนไม่พอทีไรแผลงฤทธิ์ทุกที” เอ่ยยิ้มๆก่อนจะหันไปรับบรรดาของทานเล่นที่อีทึกหามาให้ทานรองท้องไปก่อน
“วันนี้คงจะเหนื่อยหน่อยนะ” ตบไหล่รุ่นน้อง งานนี้นอกจากเหนื่อยกายแล้วอาจจะเหนื่อยใจด้วย เพราะมีอีกหลายเรื่องเลยที่ต้องปิดเอาไว้ก่อนโดยเฉพาะเรื่องการแสดงที่รู้กันแค่ไม่กี่คน ขืนให้ซีวอนรู้ด้วยก็คงโวยวายไม่ยอมแน่ๆ จะว่าไปตอนแรกเขาก็ไม่ยอมหรอกแต่พอถูกนางมารยุเอาบ่อยๆเข้าก็อดเอนเอียงไม่ได้
ในเมื่อปีที่แล้วนายยังออกไปเต้นชิคาโก้ได้แล้วทำไมปีนี้ฮยอกแจจะทำไม่ได้ล่ะ?
นั่นสิ...น้องชายเขาคงทำได้แหละ
ความอยากแกล้งคนอื่นมันไม่เข้าใครออกใครจริงๆเลยหนอ...
“ซีวอนเสร็จหรือยัง?” ร่างสูงของประธานนักเรียนสุดหล่อของโรงเรียนที่กำลังตกอยู่ในวงล้อมของสาวๆต่างโรงเรียนหันมามองหน้าผู้มาใหม่อย่างขอความช่วยเหลือ อีทึกส่ายศีรษะยิ้มๆให้กับความป๊อบปูล่าแบบไร้ขีดกำจัดของรุ่นน้องก่อนจะเข้ามาช่วยให้รอดพ้นจากฝูงแร้งกระหายเหยื่อ(?)
“ขอโทษนะครับ พี่ขอตัวประธานนักเรียนไปก่อนได้หรือเปล่า ถ้าอยากจะถ่ายรูปอีกคงต้องรอหลังงานประกวดนะครับ” เอ่ยด้วยความสุภาพก่อนจะพยักหน้าเรียกคนที่ถูกล้อมอยู่กลางวงให้เดินออกมา ซึ่งสาวๆก็ยอมหลีกทางให้แต่โดยดี เพราะเห็นแก่ความสวยสง่ามารยาทงามของอดีตประธานนักเรียนคนสวยที่พวกหล่อนปลื้มไม่แพ้กัน
“ขอบคุณครับพี่ทึก” อีทึกเพียงแค่ยิ้มรับก่อนจะเดินนำไปที่ห้องแต่งตัวของบรรดานางงามที่จัดแยกไว้อย่างเป็นสัดส่วนและยิ่งก้าวเท้าเร็วขึ้นเมื่อโทรศัพท์มือถือเริ่มแผดเสียงลั่นเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ของวัน
ที่เขากับซีวอนต้องมาที่โรงเรียนก่อนเพราะต้องมาร่วมพิธีเปิดและกล่าวสุนทรพจน์อีกทั้งยังมีหน้าที่รับผิดชอบในการดูแลซุ้มฝ่ายกรรมการนักเรียนในช่วงเช้า และที่ต้องกึ่งเดินกึ่งวิ่งขนาดนี้เพราะตอนนี้ก็เกือบจะบ่ายโมงแล้วอีกไม่ถึงชั่วโมงก็จะได้เวลาประกวดมิสบิวตี้ที่ทุกคนรอคอย ซึ่ง...ซีวอนได้รับหน้าที่ให้ควงฮยอกแจขึ้นเดินเปิดตัวรอบแรกบนเวที เสียงโทรศัพท์ที่ได้ยินจึงไม่มีทางเป็นของใครได้ นอกจาก...คิมฮีซอล
“มาแล้วๆ เลิกโทรตามซักที!” มือเรียวเปิดประตูเข้ามาในห้องที่เขียนป้ายชัดเจนว่า [ผู้เข้าประกวดมิสบิวตี้หมายเลข 7 อีฮยอกแจ] ที่หน้ากระจกฮยอกแจยังคงถูกมะรุมมะตุ้มจากช่างแต่งหน้าและช่างทำผมอย่างต่อเนื่อง แต่แล้วผู้มาใหม่สองคนก็ต้องอ้าปากค้างเมื่อเห็นเจ้าแม่ที่ยืนกอดอกอยู่ข้างประตู
แม่เจ้าเว้ยยยยยยยยยยยยยยยย
“นี่นายจะส่งน้องชายฉันเข้าประกวดหรือว่าจะส่งตัวเองเข้าประกวดกันแน่เนี่ย?!” เอ่ยถามร่างโปร่งที่อยู่ในชุดกี่เพ้าสีแดงสด ผมข้างหนึ่งถูกแต่งขึ้นทัดหูแล้วติดดอกไม้เป็นพู่ห้อยลงมาละกับใบหน้า มือเรียวถือพัดขนนกสีขาวพัดไปมา คนถูกถามจิ๊ปากอย่างคนอารมณ์เสีย
“ปีสุดท้ายฉันจะทิ้งทวนมีปัญหาไหม? มาสายแล้วอย่าพูดมาก ไปเปลี่ยนชุดได้แล้วเดี๋ยวต้องมาแต่งหน้าอีก” ประโยคหลังหันไปพูดกับร่างสูงที่ยืนอยู่ด้านหลังเพื่อน ซีวอนพยักหน้ารับก่อนจะเดินตามทงเฮกับซองมินเข้าไปเปลี่ยนชุดและแต่งหน้าอีกเล็กน้อย ไม่นานนักเขาก็พร้อมสำหรับการเป็นชายหนุ่มแสนเพอร์เฟ็คที่หลายคนอิจฉาได้ไม่ยาก แต่แล้วคิ้วเข้มก็ต้องขมวดมุ่นเมื่อเห็นหลายๆคนไปยืนล้อมอยู่ตรงห้องที่ฮยอกแจเข้าไปเปลี่ยนชุดพร้อมกับเสียงโวยวายจนน่าปวดหัว
“เฮ้ยๆ เพิ่มซิลิโคนอีกได้ไหม อกมันดูไม่เต็มยังไงไม่รู้ว่ะ”
“ไม่เอาแล้วพี่ ผมอึดอัด”
“ไม่ได้เว้ย งานนี้ต้องงามพร้อม จะมาแป๊กเพราะอกแฟบไม่ได้ เจ๊ไม่ยอมเว้ย”
“พี่ฮีซอล ผมจะเป็นลมอยู่แล้วนะ”
“ไม่ได้! ประกวดเสร็จค่อยเป็นลมเว้ย” ซีวอนอมยิ้มเมื่อเห็นฮีซอลเอาพัดขนนกของตัวเองพัดให้นางงามวุ่นไปหมด ก่อนที่บรรดาคนมุงจะแตกฮือเมื่อฮีซอลตวาดแว๊ด น้องบอกจะเป็นลมก็ยังยืนมุงอยู่นั่นแหละ เดี๋ยวแม่จับฉีกอก!
“โหย...หล่อน่าอิจฉา” คนหล่อถึงกับสะดุ้งเมื่อคนตัวเล็กเดินมาหยุดอยู่หน้าเขาด้วยท่าทางที่ดูทุลักทุเลพอสมควร เนื่องจากรองเท้าส้นสูงที่ยังไม่ค่อยชินนัก มือหนาจึงยื่นออกไปให้อีกฝ่ายจับแล้วค่อยๆประคองให้เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า ยามเมื่อใบหน้าหวานเงยขึ้นสบตากับเขา ซีวอนถึงกับชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็นคนงามใกล้ๆ
ใบหน้าหวานถูกแต่งแต้มด้วยสีสันของเครื่องสำอางจนไม่สามารถละสายตาไปไหนได้ แก้มเนียนชมพูระเรื่อ ริมฝีปากบางมันวาวด้วยลิปกลอสสีชมพูหวาน นัยน์ตาเรียวเฉี่ยวคมด้วยอายไลน์เนอร์บางเฉียบ ผมที่เคยสั้นเคลียหน้าก็ถูกต่อให้ยาวรวบเป็นทรงอยู่ด้านหลังแล้วยึดไว้ด้วยปิ่นเงินรูปตัวผีเสื้อ
วันนี้ฮยอกแจสวยจนเขาชักไม่อยากให้ออกไปประกวดเสียแล้วสิ
“หน้าฉันตลกมากเลยหรอ?” เมื่อถูกจ้องอยู่อย่างนั้นฮยอกแจจึงเริ่มออกอาการไม่มั่นใจ ก็บอกแล้วว่ามันต้องประหลาดแน่ๆ เห็นไหมล่ะ...ซีวอนหน้าเหวอไปแล้วเนี่ย
“สวยมากต่างหาก” บอกยิ้มๆให้อีกฝ่ายมั่นใจก่อนจะถอยออกไปหนึ่งก้าวทั้งที่สองมือยังจับกันไว้ ริมฝีปากได้รูปอมยิ้มเมื่อชุดที่เขาเลือกให้นั้นเข้ากับฮยอกแจได้อย่างไม่มีที่ติ
ชุดเกาะอกสีขาวสะอาดตาเข้ารูป ตัวชุดเป็นแบบกระโปรงสั้นแต่ด้านหลังยาวลากพื้น ในส่วนของกระโปรงเป็นผ้าชีฟองเป็นริ้วซ้อนเป็นชั้นไปตลอดทั้งตัว เป็นแบบชุดแต่งงานที่เหมาะกับเจ้าสาววัยรุ่นอย่างแท้จริง ซึ่งกว่าฮยอกแจจะได้ใส่ชุดนี้ต้องแลกกับการที่เขาจะต้องขึ้นไปเดินบนเวทีด้วย
แน่นอนว่า...ซีวอนไม่ปฏิเสธ
“เอ้าเฮ้ย! ปลากัดเตรียมก่อหวอดแล้วเว้ย” ราวกับฟ้าผ่าตรงกลางคู่หวาน ฮยอกแจรีบปล่อยมือออกจากซีวอนแล้วเดินมาหลบอยู่ข้างๆอีทึกที่ยืนยิ้มอยู่ ส่วนซีวอนก็เพียงแค่ส่งยิ้มแห้งให้กับฮีซอลที่ร้องแซวเมื่อครู่ เมื่อดูเวลาแล้วใกล้ประกวดเข้าไปทุกที ทุกคนจึงทยอยกันไปหลังเวทีเพื่อเตรียมความพร้อม
บรรยากาศในห้องแต่งตัวว่าวุ่นวาย(เพราะฮีซอล)แล้วหลังเวทียิ่งชุลมุนกว่าหลายเท่านัก เหล่าสาวงามกว่ายี่สิบชีวิตพร้อมพี่เลี้ยงอีกนับไม่ถ้วนต่างยืนตามจุดของตัวเองที่เจ้าหน้าที่จัดไว้ให้ ฮีซอลยกยิ้มอย่างถูกใจเมื่อเพียงแค่ก้าวแรกเข้าไปก็เรียกเสียงฮือฮาได้ไม่ยาก
นอกจากสายตาหลายสิบคู่จะถูกกระแทกด้วยกี่เพ้าสีแดงสดของนางพญาประจำโรงเรียนแล้ว เหล่าบรรดาสาวงามหลายคนถึงกับออกอาการอิจฉาอย่างชัดเจนเมื่อเห็นว่าซีวอนเป็นนายแบบที่จะเดินขึ้นพร้อมฮยอกแจ และนี่ยังไม่รวมถึงสายตาของชายหนุ่มที่ต่างมองร่างบางอย่างไม่เชื่อ
นี่หรือศูนย์หน้าทีมฟุตบอลโรงเรียน
ฮยอกแจน่ารักได้ขนาดนี้เลยหรือเนี่ย?
“ไปไหน” ซีวอนรีบคว้าแขนจอมซนในคราบคนงามเอาไว้เมื่อเห็นคนตัวเล็กจะพุ่งไปไหนซักที่ แต่ไม่วายกวาดตามองหนุ่มๆหลายคนให้รู้ตัวว่าเจ้าของเขายืนอยู่ตรงนี้ให้เห็นหัวกันบ้าง ซึ่งทำเอาหลายคนสะดุ้งหลบตากันให้วุ่น
“ไปหาพี่ชินดง” เอ่ยถึงอีกคนที่ลงประกวดเหมือนกัน ชินดงเป็นตัวแทนจากชมรมยกน้ำหนักที่ลงประกวดเอาฮาเฉยๆ เรียกได้ว่าคนๆนี้ถูกวางตัวว่าต้องเป็นตัวสร้างสีสันให้งานนี้ได้ไม่ยาก เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นรุ่นพี่คนสนิทของฮยอกแจ ซีวอนจึงปล่อยให้ตัวป่วนถลาเข้าไปหาเป้าหมายโดยที่ตัวเองเดินตามไม่ห่าง ฮีซอลมองหน้าอีทึกก่อนจะหัวเราะฮึ
ดูท่าจะหวงจริงจังเว้ย
“พี่ชินดง!” กระโดดเข้าไปเกาะแขนจ้ำม่ำจนอีกฝ่ายสะดุ้งหันมามองก่อนจะทักเสียงใส
“วันนี้พี่น่ารักจังเลยอ่ะ” มองหนุ่มร่างท่วมที่อยู่ในชุดราตรียาวสีชมพู ผมที่สั้นจนแทบจะเป็นสกินเฮดก็ถูกปกปิดด้วยวิกผมหยิกสีทองยาวถึงกลางหลัง ใบหน้าถูกแต่งด้วยเครื่องสำอางจนแทบจำไม่ได้ว่าคนๆนี้คือนักยกน้ำหนักคนสำคัญของโรงเรียน
“ฮยอกแจ? โอ้...น้องรัก วันนี้แกสวยจนพี่จำไม่ได้เลยว่ะ” ชินดงมองรุ่นน้องตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าซ้ำแล้วซ้ำอีกก่อนจะเอ่ยชมเสียงดัง มือข้างหนึ่งที่ถือขนมอยู่จึงแบ่งป้อนให้น้องอย่างที่เคยทำประจำ เจ้าลูกเจี๊ยบที่ขอเป็นนางหงส์ซักวันยิ้มกว้างกินขนมจนแก้มตุ่ย
“ฉันว่าชมรมฟุตบอลคงต้องปรับแผนใหม่แล้วล่ะมั้งเนี่ย” ชินดงละประโยคที่ว่า [รวมทั้งประธานนักเรียน] เอาไว้ด้วยเมื่อเห็นซีวอนยืนส่งยิ้มมาให้ไม่ไกลนัก
“แผนอะไรอ่ะพี่?” เจ้าตัวที่ไม่เคยรู้เรื่องมาก่อนถึงแผนดูแลไข่ในหินของชมรมฟุตบอลได้แต่ถามอย่างไม่เข้าใจ ชินดงเพียงแค่ยิ้มแต่ก็ไม่ได้ไขความกระจ่างอะไรต่อ ทำเอาคนน่ารักอมลมจนแก้มป่องเมื่อพี่ชายไม่น่ารักเหมือนเดิม
“ลูกเจี๊ยบ! เติมแป้งเว้ย!” กำลังจะซักไซ้ต่อแต่ก็ต้องสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงพี่เลี้ยงสุดโหดดังมาจากอีกด้านหนึ่ง ฮยอกแจเพียงแค่ส่งยิ้มแหยให้ชินดงก่อนจะคว้ามือซีวอนที่ยืนคุมอยู่ข้างๆให้เดินกลับไปที่ของตัวเองด้วยกันก่อนที่ฮีซอลจะพ่นไฟเผาหลังเวทีจนวอดไปหมด
แล้วช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอยมาถึง พื้นที่หน้าเวทีประกวดต่างถูกจับจองด้วยกลุ่มนักเรียนที่ต่างมาเชียร์เพื่อนของตัวเองหรือไม่ก็คนที่หมายตาไว้ ด้านหน้าสุดเป็นโต๊ะของกรรมการและแขกกิตติมศักดิ์ ถัดมาเป็นพื้นที่ของเหล่าผู้สื่อข่าวของชมรมหนังสือพิมพ์โรงเรียน
“มุมนี้เจ๋งเลยว่ะคังอิน” เยซองสะทุ้งศอกบอกเพื่อนที่เดินนำเหล่าสมาชิกชมรมฟุตบอลมานั่งที่ที่จองเอาไว้ กัปตันทีมยกยิ้มมุมปาก แค่บอกนางมารว่าอยากได้อะไรเดี๋ยวก็ได้ นี่แหละข้อดีที่มีอยู่บ้างของคิมฮีซอลในความคิดของเขา
ก็จะไม่ให้ดีได้อย่างไร...นี่มันที่นั่งหลังแขกกิตติมศักดิ์เลยนะเนี่ย
“อ้าว...แล้วแกจะเว้นที่ว่างสองที่ไว้ตรงนั้นทำไม?”
“ของผมครับ” คิบอมเอ่ยยิ้มๆก่อนก้มหัวให้รุ่นพี่ทั้งสอง ซึ่งเยซองก็จำได้ทันทีว่าเป็นคิมคิบอมที่อยู่ชมรมหนังสือพิมพ์ งั้นอีกที่นั่งที่เว้นไว้อีกตัวคงเป็นของซีวอนล่ะมั้ง
“แล้วนี่ไม่ไปถ่ายรูปหรอ? พี่ว่าส่วนของชมรมหนังสือพิมพ์มุมดีกว่าตรงนี้อีกนะ” คังอินหันมาถามคนที่นั่งลงข้างๆ หนุ่มแก้มป่องเพียงยิ้มจนตาหยีก่อนจะตอบให้คลางแคลงใจเข้าไปอีก
“วันนี้มาเรื่องส่วนตัวครับ” ยังไม่ทันจะได้ถามอะไรต่อ พิธีกรก็ออกมากล่าวเริ่มการประกวด ทุกคนจึงต่างหันไปให้ความสนใจบนเวทีกันหมด
การประกวดเริ่มต้นด้วยการเปิดตัวสาวงามทั้งยี่สิบคนที่เดินออกมาพร้อมนายแบบหนุ่ม เสียงกรี๊ดจากนักเรียนหญิงและเสียงเชียร์จากเหล่านักเรียนชายดังไม่ขาดสาย จนกระทั่งถึงหมายเลขที่เหล่าชายฉกรรจ์ชมฟุตบอลต่างเฝ้ารอ
ผู้เข้าประกวดหมายเลข 7 อีฮยอกแจ
สิ้นเสียงการประกาศชายหนุ่มร่างสูงในชุดสูทภูมิฐานก็ก้าวเท้าออกมาเรียกเสียงฮือฮาได้ไม่ยาก ซีวอนโปรยยิ้มพอให้สาวๆเคลิ้มเล่นก่อนจะหันไปประคองสาวงามคู่ของตัวเองขึ้นมาบนเวที ฮยอกแจมีท่าทีเขินอายอยู่ไม่น้อย แต่พอคิดถึงสิ่งที่อีทึกและฮีซอลช่วยกันบิ้วอยู่หลังเวทีแล้วร่างบางจึงสูดลมหายใจลึกก่อนจะคล้องแขนซีวอนที่เหมือนสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจสิ่งสุดท้ายในตอนนี้เดินออกไปอย่างมาดมั่น ในหัวมีคำสั่งของฮีซอลดังก้องอยู่เหมือนอัดเทปไว้
โปรยยิ้มหวานเข้าไว้
รอยยิ้มหวานที่เหมือนเขินอายอยู่ในทีเหมือนจะกระชากหัวใจชายหนุ่มหลายคนไปแล้วในตอนนี้ แทนที่จะได้เสียงโห่อย่างที่เคยกังวลเอาไว้กลับกลายเป็นว่าผิดคาดจนตั้งตัวรับไม่ทัน
น้องฮยอกแจ~ วันนี้น่ารักจังเลย
ฮยอกแจนูน่า~ อย่าน่ารักไปกว่านี้เลยครับ...
หัวใจของผมรับไว้ด้วยเถอะคร๊าบบบบ...
คนถูกแซวเพียงแค่ยิ้มเขินก่อนจะหันไปโบกมือให้อย่างดีใจเมื่อเห็นสมาชิกในชมรมฟุตบอลมาเชียร์กันโดยพร้อมหน้าพร้อมตา รอยยิ้มน่ารักนั่นทำเอาสมาชิกหลายคนต่างปฏิญาณกับตัวเองว่าพวกเขาจะต้องอัพเลเวลการป้องกันคนน่ารักของชมรมมากขึ้นอีกสิบเท่า พอๆกับซีวอนที่ตอนนี้เริ่มตีหน้ายุ่งเมื่อเห็นว่าเสียงตอบรับของสุดที่รักนั้นดีเกินคาด รู้จักชเวซีวอนน้อยไปซะแล้ว...
คิดได้แบบนั้นริมฝีปากได้รูปก็กดยิ้มลึก นายแบบหนุ่มก้มหน้าลงไปกระซิบเบาๆที่ข้างหูเป็นเชิงว่าให้เข้าไปหลังเวทีได้แล้ว ซึ่งฮยอกแจไม่ทันได้ฟังจึงเอียงหูเข้าไปใกล้เพื่อจับใจความประโยคนั้น เท่านี้ก็เรียกเสียงกรี๊ดจากสาวๆได้มากโขอยู่ นี่ยังไม่รวมถึงมุมกล้องที่เหล่าตากล้องชมรมหนังสือพิมพ์ได้ไป จะหอมแก้มจริงๆก็กลัวแม่คุณฟาดเข้าให้กลางเวที ขอหอมแก้มแบบมุมกล้องให้คนอื่นอิจฉาเล่นหน่อยแล้วกัน
TBC.
8.5 มาต่อแล้วอ่านได้เลยนะคะ~
Part :: 8
Pairing :: WonHyuk
Author :: kobamura
Rating :: PG-13
Author’s Note :: เรื่องทุกอย่างก็เป็นเพียงเหตุการณ์สมมติขึ้นเท่านั้น อ่านเพื่อความบันเทิงนะคะ
ช่วงนี้ขาดๆหายๆไปก็อย่าเพิ่งลืมกันนะคะ
พระเจ้าครับ...วันนี้ผมไม่อยากตื่นเลย
“เอ้า! ตื่นเว้ย! จะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหน” คนที่กำลังหลับอย่างสบายสะดุ้งเฮือกตื่นจากภวังค์ความฝัน แต่ความง่วงก็ยังมีอยู่มากพอที่จะทำให้เจ้าตัวเล็กยังคงขดอยู่ในผ้านวมผืนหนาโดยที่ไม่ได้สนใจเลยว่าเจ้าแม่กำลังเท้าเอวเตรียมของขึ้นอยู่รอมร่อ
คิมฮีซอลถอนใจเซ็งๆก่อนจะเดินไปยืนข้างเตียงแล้วจัดการกระชากผ้าห่มด้วยแรงทั้งหมด ส่งผลให้ดักแด้ตัวน้อยที่นอนขดอยู่ข้างในกลิ้งตกลงไปนอนแอ้งแม้งอยู่กับพื้นพร้อมเสียงโอดโอย
“พี่ฮีซอลอ่า...ผมเจ็บนะ” ยันตัวให้ลุกขึ้นนั่งแล้วลูบแขนขาตัวเองป้อยๆ ชอบทำร้ายกันอยู่เรื่อยเลย พี่เป็นพวกซาดิสต์หรือเปล่าเนี่ย
“ฉันเรียกแกจนเสียงจะหายไปหมดแล้ว วันนี้วันอะไรรู้ตัวบ้างหรือเปล่าห๊ะ?” ไม่พูดเปล่า...ผู้จัดการสุดโหดเตรียมหาของใกล้ตัวมาฟาดกบาลนางงามตัวน้อยๆซักทีสองทีให้รู้สำนึก
“ก็วันประกวดไงครับ”
“เออ! ยังดีที่จำวันได้ ลุกขึ้นไปอาบน้ำให้เรียบร้อยแล้วลงไปข้างล่าง ช่างทำผมเขามารอแล้วอย่าชักช้าเดี๋ยวแม่เหนี่ยวคางเหลือง”
“พี่จะให้ผมอาบน้ำตอนตีสามเนี่ยนะ! พี่จะให้ผมไปประกวดนางงามไก่โห่หรือไง?” คนที่ทำท่าจะไปอาบน้ำในตอนแรกโวยวายขึ้นทันทีเมื่อเหลือบไปเห็นนาฬิกาตรงหัวเตียง...ถึงว่าทำไมรู้สึกเหมือนยังนอนไม่ค่อยพอ
“เออ! ให้ไปอาบก็ไปสิ ต่อผมหน่ะมันไม่ได้ต่อเสร็จแป๊บๆนะเว้ย มันต้องใช้เวลาและความประณีตสูง หุบปากที่จะเถียงฉันแล้วไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นฉันจะให้ซีวอนขึ้นมาอาบให้นะ” คำขู่นั้นได้ผลชะงัดนัก เจ้าลูกไก่ตัวน้อยทำตาโตก่อนจะหายเข้าไปในห้องน้ำอย่างรวดเร็ว ฮีซอลถอนใจหนักๆกว่าจะปลุกเจ้าตัวยุ่งได้ทำเอาเขาหมดแรงไปเยอะ
“นั่นไปปลุกหรือว่าขึ้นไปทำสงคราม? เสียงดังลงมาถึงข้างล่างเลย” เจ้าของบ้านเอ่ยถามพลางหันไปเสิร์ฟกาแฟให้กับบรรดาช่างแต่งหน้าทำผมที่ซีวอนเป็นธุระขับรถไปรับให้ถึงที่ ส่วนรุ่นน้องร่างสูงนั่นหน่ะหรอ? นั่งคอพับคออ่อนอยู่ไม่ไกลกันนักหรอก นี่ก็คงถูกฮีซอลโทรไปปลุกมาเหมือนกัน อีทึกอดยิ้มไม่ได้เมื่อมองท่าทางซีวอนแล้วพาลนึกไปถึงคังอินเมื่อปีก่อน...สภาพเดียวกันเลย
“ฉันไม่จับมันทุ่มใส่ห้องน้ำก็บุญเท่าไหร่แล้ว”
“ฮยอกแจขี้เซาขนาดไหนนายก็รู้” เอ่ยกับเพื่อนยิ้มๆก่อนจะส่งกาแฟให้ซึ่งเจ้าแม่ก็รับมาถือไว้ก่อนจะร้องขอขนมมาเพิ่มเมื่อเห็นว่าในจานมันพร่องไปกว่าครึ่ง กลิ่นหอมกรุ่นของกาแฟพอจะช่วยให้ตาสว่างได้พอสมควร
อีทึกยืนมองฮีซอลที่นั่งคุยกับบรรดาช่างทำผมและช่างแต่งหน้าถึงคอนเซ็ปของชุดที่เดินรอบแรกและชุดที่ใช้ในการแสดง อีกมุมหนึ่งก็เป็นซีวอนที่ดูเหมือนจะอยู่ในสภาพครึ่งหลับครึ่งตื่น ถัดไปก็เป็นสองสหายปลากระต่ายที่นอนเกยกันอยู่...บรรยากาศไม่ได้ต่างไปจากปีก่อนเลยจริงๆนะเนี่ย
“อาบน้ำเสร็จแล้วคร๊าบ~” ร่างบางในชุดเสื้อยืดกางเกงผ้าขายาววิ่งลงมาจากชั้นบนเมื่อได้กลิ่นหอมๆลอยมาจากในครัว อีทึกจึงชะโงกหน้าออกมาบอกให้ไปหาฮีซอลที่อยู่ในห้องรับแขก ไม่นานก็ได้ยินเสียงโวยวายจากเจ้าแม่พร้อมกับไล่ให้ฮยอกแจขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อให้เป็นเสื้อเชิ้ตจะได้ไม่มีปัญญาเวลาต้องถอดเสื้อหลังจากทำผมเสร็จแล้ว
หลังจากเตรียมมื้อเช้าเสร็จก็ปาไปเกือบหกโมงเช้า อีทึกจึงเดินออกมาจากครัวเรียกให้น้องๆไปหาอะไรรองท้องก่อน ฮีซอลที่นอนอยู่บนโซฟาโบกมือสองสามทีเป็นเชิงว่าขอผ่านอาหารเช้าแล้วนอนต่อ ซองมินกับทงเฮเดินสะลึมสะลือไปล้างหน้าแปรงฟัน ส่วนซีวอนเหมือนจะตื่นนานแล้ว ร่างสูงนั่งมองว่าที่นางงามที่นั่งหลับให้ช่างทำผมต่อผมให้แล้วอมยิ้มอยู่ตลอดเวลา
“หลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย?” เอ่ยถามรุ่นน้องก่อนจะยื่นโกโก้ร้อนที่เพิ่งไปชงมาให้เพราะซีวอนบอกว่ายังไม่หิวนัก แต่เขาว่าคงจะรอทานพร้อมเจ้าตัวยุ่งที่ยังคงหลับไม่รู้เรื่องนี่มากกว่า
“ตั้งแต่พี่ช่างผมเขาจับผมช่อแรกมาต่อแหละครับ”
“นอนเก่งจริงๆเลยให้ตาย”
“ให้นอนไปเถอะครับ นอนไม่พอทีไรแผลงฤทธิ์ทุกที” เอ่ยยิ้มๆก่อนจะหันไปรับบรรดาของทานเล่นที่อีทึกหามาให้ทานรองท้องไปก่อน
“วันนี้คงจะเหนื่อยหน่อยนะ” ตบไหล่รุ่นน้อง งานนี้นอกจากเหนื่อยกายแล้วอาจจะเหนื่อยใจด้วย เพราะมีอีกหลายเรื่องเลยที่ต้องปิดเอาไว้ก่อนโดยเฉพาะเรื่องการแสดงที่รู้กันแค่ไม่กี่คน ขืนให้ซีวอนรู้ด้วยก็คงโวยวายไม่ยอมแน่ๆ จะว่าไปตอนแรกเขาก็ไม่ยอมหรอกแต่พอถูกนางมารยุเอาบ่อยๆเข้าก็อดเอนเอียงไม่ได้
ในเมื่อปีที่แล้วนายยังออกไปเต้นชิคาโก้ได้แล้วทำไมปีนี้ฮยอกแจจะทำไม่ได้ล่ะ?
นั่นสิ...น้องชายเขาคงทำได้แหละ
ความอยากแกล้งคนอื่นมันไม่เข้าใครออกใครจริงๆเลยหนอ...
“ซีวอนเสร็จหรือยัง?” ร่างสูงของประธานนักเรียนสุดหล่อของโรงเรียนที่กำลังตกอยู่ในวงล้อมของสาวๆต่างโรงเรียนหันมามองหน้าผู้มาใหม่อย่างขอความช่วยเหลือ อีทึกส่ายศีรษะยิ้มๆให้กับความป๊อบปูล่าแบบไร้ขีดกำจัดของรุ่นน้องก่อนจะเข้ามาช่วยให้รอดพ้นจากฝูงแร้งกระหายเหยื่อ(?)
“ขอโทษนะครับ พี่ขอตัวประธานนักเรียนไปก่อนได้หรือเปล่า ถ้าอยากจะถ่ายรูปอีกคงต้องรอหลังงานประกวดนะครับ” เอ่ยด้วยความสุภาพก่อนจะพยักหน้าเรียกคนที่ถูกล้อมอยู่กลางวงให้เดินออกมา ซึ่งสาวๆก็ยอมหลีกทางให้แต่โดยดี เพราะเห็นแก่ความสวยสง่ามารยาทงามของอดีตประธานนักเรียนคนสวยที่พวกหล่อนปลื้มไม่แพ้กัน
“ขอบคุณครับพี่ทึก” อีทึกเพียงแค่ยิ้มรับก่อนจะเดินนำไปที่ห้องแต่งตัวของบรรดานางงามที่จัดแยกไว้อย่างเป็นสัดส่วนและยิ่งก้าวเท้าเร็วขึ้นเมื่อโทรศัพท์มือถือเริ่มแผดเสียงลั่นเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ของวัน
ที่เขากับซีวอนต้องมาที่โรงเรียนก่อนเพราะต้องมาร่วมพิธีเปิดและกล่าวสุนทรพจน์อีกทั้งยังมีหน้าที่รับผิดชอบในการดูแลซุ้มฝ่ายกรรมการนักเรียนในช่วงเช้า และที่ต้องกึ่งเดินกึ่งวิ่งขนาดนี้เพราะตอนนี้ก็เกือบจะบ่ายโมงแล้วอีกไม่ถึงชั่วโมงก็จะได้เวลาประกวดมิสบิวตี้ที่ทุกคนรอคอย ซึ่ง...ซีวอนได้รับหน้าที่ให้ควงฮยอกแจขึ้นเดินเปิดตัวรอบแรกบนเวที เสียงโทรศัพท์ที่ได้ยินจึงไม่มีทางเป็นของใครได้ นอกจาก...คิมฮีซอล
“มาแล้วๆ เลิกโทรตามซักที!” มือเรียวเปิดประตูเข้ามาในห้องที่เขียนป้ายชัดเจนว่า [ผู้เข้าประกวดมิสบิวตี้หมายเลข 7 อีฮยอกแจ] ที่หน้ากระจกฮยอกแจยังคงถูกมะรุมมะตุ้มจากช่างแต่งหน้าและช่างทำผมอย่างต่อเนื่อง แต่แล้วผู้มาใหม่สองคนก็ต้องอ้าปากค้างเมื่อเห็นเจ้าแม่ที่ยืนกอดอกอยู่ข้างประตู
แม่เจ้าเว้ยยยยยยยยยยยยยยยย
“นี่นายจะส่งน้องชายฉันเข้าประกวดหรือว่าจะส่งตัวเองเข้าประกวดกันแน่เนี่ย?!” เอ่ยถามร่างโปร่งที่อยู่ในชุดกี่เพ้าสีแดงสด ผมข้างหนึ่งถูกแต่งขึ้นทัดหูแล้วติดดอกไม้เป็นพู่ห้อยลงมาละกับใบหน้า มือเรียวถือพัดขนนกสีขาวพัดไปมา คนถูกถามจิ๊ปากอย่างคนอารมณ์เสีย
“ปีสุดท้ายฉันจะทิ้งทวนมีปัญหาไหม? มาสายแล้วอย่าพูดมาก ไปเปลี่ยนชุดได้แล้วเดี๋ยวต้องมาแต่งหน้าอีก” ประโยคหลังหันไปพูดกับร่างสูงที่ยืนอยู่ด้านหลังเพื่อน ซีวอนพยักหน้ารับก่อนจะเดินตามทงเฮกับซองมินเข้าไปเปลี่ยนชุดและแต่งหน้าอีกเล็กน้อย ไม่นานนักเขาก็พร้อมสำหรับการเป็นชายหนุ่มแสนเพอร์เฟ็คที่หลายคนอิจฉาได้ไม่ยาก แต่แล้วคิ้วเข้มก็ต้องขมวดมุ่นเมื่อเห็นหลายๆคนไปยืนล้อมอยู่ตรงห้องที่ฮยอกแจเข้าไปเปลี่ยนชุดพร้อมกับเสียงโวยวายจนน่าปวดหัว
“เฮ้ยๆ เพิ่มซิลิโคนอีกได้ไหม อกมันดูไม่เต็มยังไงไม่รู้ว่ะ”
“ไม่เอาแล้วพี่ ผมอึดอัด”
“ไม่ได้เว้ย งานนี้ต้องงามพร้อม จะมาแป๊กเพราะอกแฟบไม่ได้ เจ๊ไม่ยอมเว้ย”
“พี่ฮีซอล ผมจะเป็นลมอยู่แล้วนะ”
“ไม่ได้! ประกวดเสร็จค่อยเป็นลมเว้ย” ซีวอนอมยิ้มเมื่อเห็นฮีซอลเอาพัดขนนกของตัวเองพัดให้นางงามวุ่นไปหมด ก่อนที่บรรดาคนมุงจะแตกฮือเมื่อฮีซอลตวาดแว๊ด น้องบอกจะเป็นลมก็ยังยืนมุงอยู่นั่นแหละ เดี๋ยวแม่จับฉีกอก!
“โหย...หล่อน่าอิจฉา” คนหล่อถึงกับสะดุ้งเมื่อคนตัวเล็กเดินมาหยุดอยู่หน้าเขาด้วยท่าทางที่ดูทุลักทุเลพอสมควร เนื่องจากรองเท้าส้นสูงที่ยังไม่ค่อยชินนัก มือหนาจึงยื่นออกไปให้อีกฝ่ายจับแล้วค่อยๆประคองให้เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า ยามเมื่อใบหน้าหวานเงยขึ้นสบตากับเขา ซีวอนถึงกับชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็นคนงามใกล้ๆ
ใบหน้าหวานถูกแต่งแต้มด้วยสีสันของเครื่องสำอางจนไม่สามารถละสายตาไปไหนได้ แก้มเนียนชมพูระเรื่อ ริมฝีปากบางมันวาวด้วยลิปกลอสสีชมพูหวาน นัยน์ตาเรียวเฉี่ยวคมด้วยอายไลน์เนอร์บางเฉียบ ผมที่เคยสั้นเคลียหน้าก็ถูกต่อให้ยาวรวบเป็นทรงอยู่ด้านหลังแล้วยึดไว้ด้วยปิ่นเงินรูปตัวผีเสื้อ
วันนี้ฮยอกแจสวยจนเขาชักไม่อยากให้ออกไปประกวดเสียแล้วสิ
“หน้าฉันตลกมากเลยหรอ?” เมื่อถูกจ้องอยู่อย่างนั้นฮยอกแจจึงเริ่มออกอาการไม่มั่นใจ ก็บอกแล้วว่ามันต้องประหลาดแน่ๆ เห็นไหมล่ะ...ซีวอนหน้าเหวอไปแล้วเนี่ย
“สวยมากต่างหาก” บอกยิ้มๆให้อีกฝ่ายมั่นใจก่อนจะถอยออกไปหนึ่งก้าวทั้งที่สองมือยังจับกันไว้ ริมฝีปากได้รูปอมยิ้มเมื่อชุดที่เขาเลือกให้นั้นเข้ากับฮยอกแจได้อย่างไม่มีที่ติ
ชุดเกาะอกสีขาวสะอาดตาเข้ารูป ตัวชุดเป็นแบบกระโปรงสั้นแต่ด้านหลังยาวลากพื้น ในส่วนของกระโปรงเป็นผ้าชีฟองเป็นริ้วซ้อนเป็นชั้นไปตลอดทั้งตัว เป็นแบบชุดแต่งงานที่เหมาะกับเจ้าสาววัยรุ่นอย่างแท้จริง ซึ่งกว่าฮยอกแจจะได้ใส่ชุดนี้ต้องแลกกับการที่เขาจะต้องขึ้นไปเดินบนเวทีด้วย
แน่นอนว่า...ซีวอนไม่ปฏิเสธ
“เอ้าเฮ้ย! ปลากัดเตรียมก่อหวอดแล้วเว้ย” ราวกับฟ้าผ่าตรงกลางคู่หวาน ฮยอกแจรีบปล่อยมือออกจากซีวอนแล้วเดินมาหลบอยู่ข้างๆอีทึกที่ยืนยิ้มอยู่ ส่วนซีวอนก็เพียงแค่ส่งยิ้มแห้งให้กับฮีซอลที่ร้องแซวเมื่อครู่ เมื่อดูเวลาแล้วใกล้ประกวดเข้าไปทุกที ทุกคนจึงทยอยกันไปหลังเวทีเพื่อเตรียมความพร้อม
บรรยากาศในห้องแต่งตัวว่าวุ่นวาย(เพราะฮีซอล)แล้วหลังเวทียิ่งชุลมุนกว่าหลายเท่านัก เหล่าสาวงามกว่ายี่สิบชีวิตพร้อมพี่เลี้ยงอีกนับไม่ถ้วนต่างยืนตามจุดของตัวเองที่เจ้าหน้าที่จัดไว้ให้ ฮีซอลยกยิ้มอย่างถูกใจเมื่อเพียงแค่ก้าวแรกเข้าไปก็เรียกเสียงฮือฮาได้ไม่ยาก
นอกจากสายตาหลายสิบคู่จะถูกกระแทกด้วยกี่เพ้าสีแดงสดของนางพญาประจำโรงเรียนแล้ว เหล่าบรรดาสาวงามหลายคนถึงกับออกอาการอิจฉาอย่างชัดเจนเมื่อเห็นว่าซีวอนเป็นนายแบบที่จะเดินขึ้นพร้อมฮยอกแจ และนี่ยังไม่รวมถึงสายตาของชายหนุ่มที่ต่างมองร่างบางอย่างไม่เชื่อ
นี่หรือศูนย์หน้าทีมฟุตบอลโรงเรียน
ฮยอกแจน่ารักได้ขนาดนี้เลยหรือเนี่ย?
“ไปไหน” ซีวอนรีบคว้าแขนจอมซนในคราบคนงามเอาไว้เมื่อเห็นคนตัวเล็กจะพุ่งไปไหนซักที่ แต่ไม่วายกวาดตามองหนุ่มๆหลายคนให้รู้ตัวว่าเจ้าของเขายืนอยู่ตรงนี้ให้เห็นหัวกันบ้าง ซึ่งทำเอาหลายคนสะดุ้งหลบตากันให้วุ่น
“ไปหาพี่ชินดง” เอ่ยถึงอีกคนที่ลงประกวดเหมือนกัน ชินดงเป็นตัวแทนจากชมรมยกน้ำหนักที่ลงประกวดเอาฮาเฉยๆ เรียกได้ว่าคนๆนี้ถูกวางตัวว่าต้องเป็นตัวสร้างสีสันให้งานนี้ได้ไม่ยาก เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นรุ่นพี่คนสนิทของฮยอกแจ ซีวอนจึงปล่อยให้ตัวป่วนถลาเข้าไปหาเป้าหมายโดยที่ตัวเองเดินตามไม่ห่าง ฮีซอลมองหน้าอีทึกก่อนจะหัวเราะฮึ
ดูท่าจะหวงจริงจังเว้ย
“พี่ชินดง!” กระโดดเข้าไปเกาะแขนจ้ำม่ำจนอีกฝ่ายสะดุ้งหันมามองก่อนจะทักเสียงใส
“วันนี้พี่น่ารักจังเลยอ่ะ” มองหนุ่มร่างท่วมที่อยู่ในชุดราตรียาวสีชมพู ผมที่สั้นจนแทบจะเป็นสกินเฮดก็ถูกปกปิดด้วยวิกผมหยิกสีทองยาวถึงกลางหลัง ใบหน้าถูกแต่งด้วยเครื่องสำอางจนแทบจำไม่ได้ว่าคนๆนี้คือนักยกน้ำหนักคนสำคัญของโรงเรียน
“ฮยอกแจ? โอ้...น้องรัก วันนี้แกสวยจนพี่จำไม่ได้เลยว่ะ” ชินดงมองรุ่นน้องตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าซ้ำแล้วซ้ำอีกก่อนจะเอ่ยชมเสียงดัง มือข้างหนึ่งที่ถือขนมอยู่จึงแบ่งป้อนให้น้องอย่างที่เคยทำประจำ เจ้าลูกเจี๊ยบที่ขอเป็นนางหงส์ซักวันยิ้มกว้างกินขนมจนแก้มตุ่ย
“ฉันว่าชมรมฟุตบอลคงต้องปรับแผนใหม่แล้วล่ะมั้งเนี่ย” ชินดงละประโยคที่ว่า [รวมทั้งประธานนักเรียน] เอาไว้ด้วยเมื่อเห็นซีวอนยืนส่งยิ้มมาให้ไม่ไกลนัก
“แผนอะไรอ่ะพี่?” เจ้าตัวที่ไม่เคยรู้เรื่องมาก่อนถึงแผนดูแลไข่ในหินของชมรมฟุตบอลได้แต่ถามอย่างไม่เข้าใจ ชินดงเพียงแค่ยิ้มแต่ก็ไม่ได้ไขความกระจ่างอะไรต่อ ทำเอาคนน่ารักอมลมจนแก้มป่องเมื่อพี่ชายไม่น่ารักเหมือนเดิม
“ลูกเจี๊ยบ! เติมแป้งเว้ย!” กำลังจะซักไซ้ต่อแต่ก็ต้องสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงพี่เลี้ยงสุดโหดดังมาจากอีกด้านหนึ่ง ฮยอกแจเพียงแค่ส่งยิ้มแหยให้ชินดงก่อนจะคว้ามือซีวอนที่ยืนคุมอยู่ข้างๆให้เดินกลับไปที่ของตัวเองด้วยกันก่อนที่ฮีซอลจะพ่นไฟเผาหลังเวทีจนวอดไปหมด
แล้วช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอยมาถึง พื้นที่หน้าเวทีประกวดต่างถูกจับจองด้วยกลุ่มนักเรียนที่ต่างมาเชียร์เพื่อนของตัวเองหรือไม่ก็คนที่หมายตาไว้ ด้านหน้าสุดเป็นโต๊ะของกรรมการและแขกกิตติมศักดิ์ ถัดมาเป็นพื้นที่ของเหล่าผู้สื่อข่าวของชมรมหนังสือพิมพ์โรงเรียน
“มุมนี้เจ๋งเลยว่ะคังอิน” เยซองสะทุ้งศอกบอกเพื่อนที่เดินนำเหล่าสมาชิกชมรมฟุตบอลมานั่งที่ที่จองเอาไว้ กัปตันทีมยกยิ้มมุมปาก แค่บอกนางมารว่าอยากได้อะไรเดี๋ยวก็ได้ นี่แหละข้อดีที่มีอยู่บ้างของคิมฮีซอลในความคิดของเขา
ก็จะไม่ให้ดีได้อย่างไร...นี่มันที่นั่งหลังแขกกิตติมศักดิ์เลยนะเนี่ย
“อ้าว...แล้วแกจะเว้นที่ว่างสองที่ไว้ตรงนั้นทำไม?”
“ของผมครับ” คิบอมเอ่ยยิ้มๆก่อนก้มหัวให้รุ่นพี่ทั้งสอง ซึ่งเยซองก็จำได้ทันทีว่าเป็นคิมคิบอมที่อยู่ชมรมหนังสือพิมพ์ งั้นอีกที่นั่งที่เว้นไว้อีกตัวคงเป็นของซีวอนล่ะมั้ง
“แล้วนี่ไม่ไปถ่ายรูปหรอ? พี่ว่าส่วนของชมรมหนังสือพิมพ์มุมดีกว่าตรงนี้อีกนะ” คังอินหันมาถามคนที่นั่งลงข้างๆ หนุ่มแก้มป่องเพียงยิ้มจนตาหยีก่อนจะตอบให้คลางแคลงใจเข้าไปอีก
“วันนี้มาเรื่องส่วนตัวครับ” ยังไม่ทันจะได้ถามอะไรต่อ พิธีกรก็ออกมากล่าวเริ่มการประกวด ทุกคนจึงต่างหันไปให้ความสนใจบนเวทีกันหมด
การประกวดเริ่มต้นด้วยการเปิดตัวสาวงามทั้งยี่สิบคนที่เดินออกมาพร้อมนายแบบหนุ่ม เสียงกรี๊ดจากนักเรียนหญิงและเสียงเชียร์จากเหล่านักเรียนชายดังไม่ขาดสาย จนกระทั่งถึงหมายเลขที่เหล่าชายฉกรรจ์ชมฟุตบอลต่างเฝ้ารอ
ผู้เข้าประกวดหมายเลข 7 อีฮยอกแจ
สิ้นเสียงการประกาศชายหนุ่มร่างสูงในชุดสูทภูมิฐานก็ก้าวเท้าออกมาเรียกเสียงฮือฮาได้ไม่ยาก ซีวอนโปรยยิ้มพอให้สาวๆเคลิ้มเล่นก่อนจะหันไปประคองสาวงามคู่ของตัวเองขึ้นมาบนเวที ฮยอกแจมีท่าทีเขินอายอยู่ไม่น้อย แต่พอคิดถึงสิ่งที่อีทึกและฮีซอลช่วยกันบิ้วอยู่หลังเวทีแล้วร่างบางจึงสูดลมหายใจลึกก่อนจะคล้องแขนซีวอนที่เหมือนสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจสิ่งสุดท้ายในตอนนี้เดินออกไปอย่างมาดมั่น ในหัวมีคำสั่งของฮีซอลดังก้องอยู่เหมือนอัดเทปไว้
โปรยยิ้มหวานเข้าไว้
รอยยิ้มหวานที่เหมือนเขินอายอยู่ในทีเหมือนจะกระชากหัวใจชายหนุ่มหลายคนไปแล้วในตอนนี้ แทนที่จะได้เสียงโห่อย่างที่เคยกังวลเอาไว้กลับกลายเป็นว่าผิดคาดจนตั้งตัวรับไม่ทัน
น้องฮยอกแจ~ วันนี้น่ารักจังเลย
ฮยอกแจนูน่า~ อย่าน่ารักไปกว่านี้เลยครับ...
หัวใจของผมรับไว้ด้วยเถอะคร๊าบบบบ...
คนถูกแซวเพียงแค่ยิ้มเขินก่อนจะหันไปโบกมือให้อย่างดีใจเมื่อเห็นสมาชิกในชมรมฟุตบอลมาเชียร์กันโดยพร้อมหน้าพร้อมตา รอยยิ้มน่ารักนั่นทำเอาสมาชิกหลายคนต่างปฏิญาณกับตัวเองว่าพวกเขาจะต้องอัพเลเวลการป้องกันคนน่ารักของชมรมมากขึ้นอีกสิบเท่า พอๆกับซีวอนที่ตอนนี้เริ่มตีหน้ายุ่งเมื่อเห็นว่าเสียงตอบรับของสุดที่รักนั้นดีเกินคาด รู้จักชเวซีวอนน้อยไปซะแล้ว...
คิดได้แบบนั้นริมฝีปากได้รูปก็กดยิ้มลึก นายแบบหนุ่มก้มหน้าลงไปกระซิบเบาๆที่ข้างหูเป็นเชิงว่าให้เข้าไปหลังเวทีได้แล้ว ซึ่งฮยอกแจไม่ทันได้ฟังจึงเอียงหูเข้าไปใกล้เพื่อจับใจความประโยคนั้น เท่านี้ก็เรียกเสียงกรี๊ดจากสาวๆได้มากโขอยู่ นี่ยังไม่รวมถึงมุมกล้องที่เหล่าตากล้องชมรมหนังสือพิมพ์ได้ไป จะหอมแก้มจริงๆก็กลัวแม่คุณฟาดเข้าให้กลางเวที ขอหอมแก้มแบบมุมกล้องให้คนอื่นอิจฉาเล่นหน่อยแล้วกัน
TBC.
8.5 มาต่อแล้วอ่านได้เลยนะคะ~
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น