ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic - SJ] Good Morning My Love [KangTeuk]

    ลำดับตอนที่ #5 : Good Morning My Love # 5 [KangTeuk]

    • อัปเดตล่าสุด 28 ส.ค. 51


    [ออด...]



    ยืนรอเพียงชั่วอึดใจเจ้าของห้องก็ออกมาเปิดประตูต้อนรับ

    “ดีใจนะที่นายมา” ยองจุนยิ้มบางๆก่อนจะเปิดทางให้รุ่นน้องของเขาเข้ามาในห้อง

    “แล้ว—”

    “หมอนั่นหลับอยู่ในห้อง” ชายหนุ่มบุ้ยปากไปทางห้องนอนของเขา

    “ช่างเขาเถอะ ตกลงพี่มีเรื่องอะไรจะคุยกับผม” ผู้มาเยือนทำเป็นไม่ใส่ใจ อีทึกเดินไปนั่งที่เก้าอี้นวมตัวที่เขามักจะนั่งประจำเวลาที่มาบ้านรุ่นพี่คนนี้ พี่ยองจุนเป็นเพื่อนสนิทกับพี่ซึงฮวาน เขาเลยมีโอกาสติดสอยห้อยตามมาด้วยบ่อยๆ อีทึกจึงเปรียบเหมือนแขกประจำของบ้านหลังนี้อีกคนหนึ่ง

    “พูดกันตรงๆแบบไม่อ้อมค้อมเลยนะ ฉันไม่อยากให้ความรักของนายสองคนจบลงแบบนี้เลยว่ะ”

    “แล้วพี่คิดว่าผมอยากให้มันเกิดขึ้นหรองั้นหรอครับ? จู่ๆเขาก็ประกาศแต่งงานโดยที่ไม่บอกผมซักคำ อย่างน้อยเขาก็น่าจะอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นให้ผมฟัง แต่เขากลับไม่พูดอะไรเลย! นอกจาก...เราเลิกกันเถอะ เขาจบความรักของผมด้วยคำสี่คำ! ในสายตาเขาเห็นผมเป็นอะไรกันแน่!!” น้ำตาที่พยายามกลั้นเอาไว้สุดกำลังในที่สุดก็ทนต่อไปอีกไม่ไหว อีทึกซุกหน้าร้องไห้กับฝ่ามืออย่างช่วยไม่ได้

    “ในเมื่อยังรักกันอยู่แล้วเลิกกันทำไมวะ” ชายหนุ่มเดินมาตบไหล่รุ่นน้องเบาๆ

    “เขาต่างหากที่ขอผมเลิก แถมยังประกาศแต่งงานอีก” ร่างบางเถียงทั้งน้ำตา

    “ก็แค่แต่งงานกับผู้หญิง ทีตอนนายคบกับยูรินไม่เห็นซึงฮวานมันจะโวยวายหาว่านายเลิกรักมันเลย”

    “นั่นมันไม่เหมือนกันซักหน่อย...ผมบอกเหตุผลกับเขาแล้ว” ยูริน? เขาแทบลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าเคยคบกับผู้หญิงคนนี้ มันตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ? ใช่ตอนที่เขาเพิ่งถอยห่างออกมาจากคังอินช่วงแรกๆหรือเปล่า? สงสัยคงจะเป็นช่วงนั้น

    “อย่าปัดความรับผิดชอบหน่ะอีทึก ฉันว่าตอนนี้นายน่าจะรู้สึกได้แล้วนะว่าตอนที่นายคบกับยูรินซึงฮวานมันรู้สึกยังไง...โดนเข้ากับตัวแล้วนี่นะ” ยองจุนตบไหล่บางเบาๆ ก่อนจะผละไปเตรียมเครื่องดื่มมาให้

    “เบียร์? โคล่า?”

    “ขอโคล่าดีกว่าครับ แค่นี้ผมก็เมาเกินพอแล้ว”

    “อะไรกัน~ ฉันพูดแค่นี้ทำเป็นเมา เอ้อ!…เห็นได้ข่าวมาว่ากำลังไปได้ดีกับคังอินนี่นะ”

    “ใครบอกพี่เรื่องนั้น” อีทึกหันมามองด้วยความสงสัย มือเรียวรับกระป๋องโคล่ามาก่อนจะเปิดดื่ม ยองจุนเดินอ้อมมานั่งที่โซฟาก่อนจะตอบคำถามนั้น

    “ซึงฮวานมันเพ้อหน่ะ ละเมอตลอดเลยว่านายกลับไปรักคังอินแล้ว นายคงลืมมันแล้ว”

    “เขาต่างหากที่ลืมผม เขาต่างหากที่ตัดเยื่อใยจนไม่เหลือชิ้นดี” ทั้งๆที่ไม่รักเขาแล้วจะมาสนใจทำไมว่าเขาจะคิดยังไงกับคังอิน

    “ฉันกล้าพูดเลยนะอีทึก...ซึงฮวานมันรักนายยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด”

    “รักผม? ถ้ารักผมจริงทำไมถึงเลิกกับผมล่ะ”

    “ก็เพราะตัวนายนั่นแหละ” อีทึกหันมามองรุ่นพี่คนสนิทอย่างไม่เข้าใจ เพราะเขางั้นหรอ?

    “เพราะผม?” ร่างบางทวนคำพูดนั้นเหมือนต้องการคำยืนยันที่แน่นอน

    “ใช่...เพราะนายนั่นแหละ ทั้งที่ตัวนายอยู่กับซึงฮวาน แต่ใจนายล่ะ นายลองถามตัวเองให้ดีสิว่าใจนายอยู่ที่ใคร...คังอิน?”

    “เกี่ยวอะไรกับคังอิน”

    “นายลืมไปแล้วหรอว่านายเคยรักคังอิน”

    “มันก็ใช่ แต่นั่นมันนานมาแล้วนะครับ” ยังไงอีทึกก็ไม่เข้าใจอยู่ดี ทำไมจู่ๆเรื่องมันถึงได้วนมาที่คังอินล่ะ?

    “ซึงฮวานมันเปรยให้ฉันฟังบ่อยๆ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน สายตาของนายที่มองคังอินมันไม่เคยเปลี่ยนไปเลย บางครั้งนายดูห่วงใยคังอินมากกว่ามันเสียด้วยซ้ำ มันก็เลยน้อยใจหน่ะ”

    “ก็เลยจบปัญหาทุกอย่างด้วยการเลิกกัน? นี่หรอวิธีแก้ปัญหาของคนที่เป็นถึงผู้จัดการวง!!” ร่างบางหัวเราะสมเพศในโชคชะตาของตัวเอง

    “ถ้ามันไม่ใช่เรื่องจริง นายน่าจะอธิบายหรือไม่ก็แสดงให้ซึงฮวานเห็นว่านายไม่ได้เป็นแบบนั้น”

    “มันสายไปแล้วล่ะครับพี่ยองจุน เขามีผู้หญิงคนนั้นอยู่ข้างกายแล้ว” อีทึกเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ทุกอย่างมันผ่านพ้นไปจนแทบจะเรียกคืนกลับมาไม่ได้อีกแล้ว

    “แล้วเมื่อก่อนนายก็มียูรินข้างกายไม่ใช่หรอ? ในเมื่อซึงฮวานยอมให้นายมียูรินได้ ทำไมนายจะยอมให้หมอนั่นมีคนอื่นบ้างไม่ได้ล่ะ?” มันเหมือนกันที่ไหน?! ตอนนั้นที่เขายังคบกับอยู่กับยูรินเพราะเขาไม่มั่นใจที่จะตอบรับความรู้สึกของพี่ซึงฮวาน แต่พอมั่นใจว่าจะคบกันเขาก็เลิกกับยูริน แน่นี่…พี่ซึงฮวานแต่งงานไปแล้ว จะให้ผมเล่นบทตีท้ายครัวบ้านอื่นหรือยังไงกัน?

    “ฉันว่าตอนนี้นายต้องเลือกแล้วล่ะ ซึงฮวานหรือว่าคังอิน”

    “ทำไมผมต้องเลือก” คิ้วเรียวขมวดมุ่น พี่ยองจุนต้องการทำอะไรกันแน่

    “นายน่าจะตัดสินใจได้ง่ายๆนะอีทึก นายรักใครตัวนายเองรู้ดีที่สุด”

    “ถ้าผมไม่เลือกใครเลยล่ะ?”

    “นายเริ่มโลเลแล้วนะ”

    “ผมเหนื่อยที่จะต้องใช้ชีวิตแบบนี้เต็มทนแล้วเหมือนกันนะพี่จองยุน บางทีผมน่าจะหยุดความสัมพันธ์ทุกอย่างให้มันจบลงซักที” ร่างบางเอนตัวลงพิงหลังกับเก้าอี้นวม รอยยิ้มเศร้าๆปรากฎขึ้นบนริมฝีปากอิ่มสวย

    “ถ้านายตัดสินใจแบบนั้น ฉันก็ไม่รู้จะว่ายังไง” ยองจุนถอนหายใจเบาๆ

    “นี่อาจจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดก็ได้” อีทึกลุกขึ้นคว้ากุญแจรถเตรียมออกจากบ้าน

    “จะกลับแล้วหรอ?”

    “ครับ...ขอโทษด้วยที่ผมพาเขากลับไปไม่ได้”

    “ไม่เป็นไร”

    “ขอบคุณนะครับ”

    “อือ…ไว้คราวหน้าไปดื่มกันนะ”

    “ถ้าว่างผมไปแน่นอนครับ” โค้งตัวลาก่อนจะเปิดประตูออกไป ส่วนเจ้าของห้องก็ได้แต่มองตาม จะรั้งไว้ก็ยังไงอยู่ในเมื่อเจ้าตัวเขาต้องการแบบนั้นจะทำยังไงได้


    “ขอภาวนาให้พระเจ้าช่วยให้นายรู้ใจตัวเองเร็วๆเถอะนะอีทึก”







    ร่างบางถึงกับชะงักเท้าเมื่อเห็นรุ่นน้องของเขา ร่างสูงนั่งกอดเข่าหลับอยู่หน้าประตูห้อง นี่หรือนักร้องหนุ่มผู้มีมาดแบดบอยที่สาวๆต่างโหวตให้ทั่วบ้านทั่วเมือง? นอนแบบไม่เกรงใจว่านักข่าวจะย่องมาถ่ายรูปไปประจานเลยนะเนี่ย อีทึกเดินเข้าไปสะกิดเรียกเบาๆจนคนขี้เซาพอจะมีสติขึ้นมาบ้าง

    “หืม? พี่ไปไหนมา” คังอินพูดพลางขยี้ตา วันนี้ไม่มีจัดรายการแทนที่จะอยู่ห้องกลับหายไปไหนก็ไม่รู้

    “ไปบ้านพี่ยองจุนมาหน่ะ”

    “พี่ยองจุน? ไปทำไม ดื่มหรอ?” ร่างสูงถามพลางเดินตามร่างบางเข้ามาในห้อง

    “พี่เขาจะให้พี่ไปรับพี่ซึงฮวานหน่ะ”

    “แล้วพี่ก็ไป”

    “ก็...นะ” อีทึกยักไหล่อย่างไม่คิดอะไรมากมาย

    “เมื่อไหร่พี่จะลืมหมอนั่นซักที!!” ชายหนุ่มโพล่งออกมาอย่างเหลืออด อะไรก็พี่ซึงฮวาน แล้วเขาล่ะ? ไม่คิดจะเหลือช่องว่างให้เขาบ้างหรือไง

    “แล้วนายจะมาตะคอกพี่ทำไมเนี่ย นี่มันเรื่องส่วนตัวของพี่นะ”

    “พี่นี่เจ็บแล้วไม่รู้จักจำนะ”

    “แล้วทำไม? เกี่ยวอะไรกับนาย นี่มันชีวิตพี่!อย่ามายุ่งนักเลยหน่ะ” อีทึกเดินเลี่ยงเข้าไปในห้องนอน เขาไม่อยากทะเลาะกับรุ่นน้องร่วมวงด้วยเรื่องแบบนี้เท่าไหร่หรอกนะ

    “แล้วถ้าผมอยากเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตพี่ล่ะ!” มือหนารั้งแขนเรียวเอาไว้ ก่อนจะดึงคนตัวบางเข้ามาในอ้อมกอด อีทึกตกใจจนทำอะไรแทบไม่ถูก

    “ปล่อยนะคังอิน”

    “ผมไม่ปล่อย ผมรักพี่”

    “พี่บอกให้ปล่อย” ไม่ว่าจะออกแรงดันแค่ไหน คนแข็งแรงก็ไม่มีท่าทีว่าจะสะทกสะท้านแต่อย่างใด ร่างบางเริ่มจิ๊ปากอย่างขัดใจ

    “ต้องทำยังไงพี่ถึงจะรักผม”

    “หยุดซักทีคังอิน พี่ไม่ชอบ” มือเรียวยังคงพยายามที่จะดันให้เขาออกห่าง พี่รังเกียจผมมากนักหรือไง ยังไงผมก็คงไม่มีวันแทนคนๆนั้นของพี่ได้สินะ เมื่อความน้อยใจแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธ ร่างสูงจึงเหวี่ยงคนที่รักจนกลิ้งไปนอนบนเตียงแล้วก้าวตามขึ้นไปทันที

    “อ๊ะ! หยุดนะคังอิน” ร่างบางพยายามกระถดถอยหนี แต่ก็ต้องหยุดแค่นั้นเมื่อถึงทางตันที่หัวเตียง

    “ทำไมครับ? พี่รังเกียจผมขนาดนั้นเลยหรอ?”

    “ไม่ใช่นะคังอิน มันต้องไม่เป็นแบบนี้”

    “เลิกพูดคำบ้าๆแบบนี้ซักทีเถอะ! ผมเบื่อจนจะอาเจียนอยู่แล้ว!”

    “อ๊ะ! อย่านะ!” เสื้อเชิ้ตสีขาวถูกกระชากออกจนกระดุมกระเด็นหลุดออกทั้งแถบ ใบหน้าคมเข้าซุกไซร้ซอกคอขาว เชยชมความเย้ายวนตรงหน้าโดยไม่สนใจอาการดิ้นรนขัดขืนจากร่างบางแม้แต่น้อย ไม่มีคำว่ารุ่นพี่รุ่นน้องในเวลานี้อีกแล้ว ณ ตรงนี้มีเพียงผู้ชายที่กำลังบ้าคลั่งกับเหยื่ออารมณ์ที่เข้ามาถูกจังหวะเท่านั้นเอง

    อีทึกพยายามดิ้นจนสุดกำลัง เขาเข้าใจดีว่าคังอินกำลังรู้สึกยังไง แต่เขาก็ไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ทั้งที่คังอินบอกว่ารักเขา แต่พอโกรธจนควบคุมตัวเองไม่ได้กลับทำกับเขาราวกับว่าเขาเป็นสิ่งของรองรับอารมณ์ ความรักแบบนี้เขาไม่ต้องการ!

    หยาดน้ำตาไหลรินจากนัยน์ตาเรียวสวย ร่างบางสะอื้นฮักด้วยไม่สามารถเก็บความรู้สึกได้อีกต่อไป ผู้รุกรานหยุดการกระทำทุกอย่างทันที อีทึกหลับตาลงแล้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆ

    “พี่รู้ว่านายรู้สึกยังไง แต่อย่าทำเหมือนพี่ไม่มีชีวิตจิตใจแบบนี้” หยดน้ำเย็นๆตกลงสัมผัสแก้มเนียนสวย อีทึกลืมตาขึ้นมองแล้วก็ต้องตกใจ หยดน้ำนั่นมาจากนัยน์ตาคมที่กำลังทอดมองมาที่เขา

    “ผม...ผมขอโทษ” ร่างสูงผละออกไปนั่งที่ปลายเตียงอย่างรวดเร็ว

    “คังอิน—” อีทึกเอื้อมมือหวังจะสัมผัสต้นแขนอีกฝ่าย แต่ชายหนุ่มกลับลุกขึ้นหนี

    “ผมเสียใจกับสิ่งที่ผมทำลงไป ผมไม่น่าทำแบบนี้กับพี่” ร่างสูงพูดทั้งที่ยังหันหลังให้ เขายอมรับว่าตอนนี้เขาไม่กล้าแม้แต่จะสบตากับอีทึกด้วยซ้ำ

    “ทั้งที่ผมรักพี่ ผมอยากทำให้พี่มีความสุขด้วยมือของผม แต่วันนี้…มือของผมกลับทำร้ายพี่ ทำให้พี่ร้องไห้ ทำไม!!” คังอินเดินตรงไปที่กำแพงก่อนจะก็รัวหมัดใส่อย่างบ้าคลั่ง

    “หยุดนะคังอิน! นายบ้าไปแล้วหรือไง” อีทึกรีบวิ่งเข้ามาห้าม เขาไม่อยากเห็นคังอินเจ็บไปกว่านี้อีกแล้ว มือเรียวประคองมืออีกฝ่ายอย่างระมัดระวัง ยิ่งเห็นเลือดออกยิ่งใจเสีย

    “เลือดออกด้วย กระดูกจะแตกไหมเนี่ย! นายเจ็บมากไหมคังอิน” ร่างบางละล่ำละลักถามด้วยความเป็นห่วง

    “.............” คนเจ็บไม่ได้ตอบอะไรนอกจากโผเข้ากอดคนที่รักแล้วสะอื้นออกมาเบาๆ

    “...คังอิน”

    “ผมขอโทษ”

    “อย่ามัวแต่ขอโทษเลย ให้พี่ทำแผลให้นายก่อนดีกว่า” อีทึกลุกขึ้นไปหยิบเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวใหม่มาใส่แทนตัวเก่าที่กระดุมหลุดกระจายไปไหนต่อไหนเพราะแรงกระชากจากร่างสูง ก่อนจะรีบไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลมาทำแผลให้อย่างตั้งอกตั้งใจ คังอินได้แต่นั่งนิ่งๆให้อีกฝ่ายทำความสะอาดแผลและใส่ยาให้

    “พี่อีทึก”

    “หือ? เจ็บหรอ? เดี๋ยวพี่จะเบามือกว่านี้นะ” พยาบาลจำเป็นพูดพลางเป่าเบาๆที่แผล

    “ผมไม่ได้เจ็บแผล”

    “งั้น...นายมีอะไรจะพูดกับพี่ล่ะ?” สำลีชุบยาแตะลงเบาๆที่รอยแผล

    “พี่ลืมไปหรือเปล่าว่าเมื่อกี้ผมทำอะไรกับพี่ไว้” ร่างบางชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะกลับไปสนใจกับแผลที่มืออีกข้าง

    “ไม่ลืมหรอก แล้วก็ไม่มีวันลืมด้วย”

    “ผมขอโทษ”

    “ช่างมันเถอะ เรื่องมันผ่านไปแล้ว พี่ขอแค่ว่านายอย่าทำกับพี่แบบนี้อีกก็พอแล้ว”

    “ผมสัญญา ผมจะไม่ทำแบบนี้อีก ถ้าพี่ไม่อนุญาต” อีทึกยิ้มรับคำบอกนั้นก่อนจะทำแผลต่อจนเสร็จ หลังจากเอาอุปกรณ์ปฐมพยาบาลไปเก็บ ร่างบางก็เดินมานั่งข้างๆชายหนุ่มที่เตียง

    “คังอิน…”

    “ครับ?”

    “พี่ไปที่บ้านพี่ยองจุนมา”

    “ครับ” ชายหนุ่มพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะนั่งเงียบเพื่อรอให้อีกฝ่ายเล่าในสิ่งที่อยากจะบอก

    “พี่ยองจุนบอกว่าพี่ซึงฮวานยังรักพี่อยู่”

    “รัก? คนรักกันจะทำกันแบบนี้หรอ พี่ถูกพี่ยองจุนปั่นหัวมาหรือไง” คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันอย่างไม่พอใจเมื่อได้ยินร่างสูงเอ่ยแบบนั้น

    “ไม่มีใครปั่นหัวพี่ได้หรอกนะคังอิน”

    “พี่จะกลับไปหาเขาอีกหรือไง”

    “ถ้าเขายังรักพี่อยู่ พี่ก็พร้อมที่จะกลับไปหาเขาอีกครั้ง” อีทึกยิ้มบางๆ ช่วงเวลาที่ดีต่างๆที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับพี่ซึงฮวานมันสวยงามจนไม่อยากให้มันจางหายไปแบบนี้

    “ไม่ว่ายังไงพี่ก็เลือกเขา เหมือนกับตอนนั้น” คังอินลุกขึ้นเดินออกไปนอกห้องอย่างฉุนเฉียว ถ้าขืนเขายังนั่งฟังต่อไปก็คงลงเอยที่เขาเผลอไปทำร้ายจิตใจอีทึกอีกจนได้ ซึ่งเขาไม่ต้องการแบบนั้น

    “ตอนนั้น? นี่มันเรื่องอะไรกันคังอิน” ร่างบางรีบเดินตามออกมา มีอะไรบางอย่างที่เขายังไม่ได้รับรู้งั้นหรือ?

    “ผมมักจะทำอะไรช้ากว่าพี่ซึ่งฮวานหนึ่งก้าวเสมอ” ริมฝีปากได้รูปยกยิ้มเศร้า

    “ทั้งที่ตอนนั้นผมมั่นใจแล้วว่าเราใจตรงกัน แต่สุดท้าย...พี่ก็เลือกเขาให้มายืนเคียงข้าง ทั้งที่ความจริงแล้วที่ตรงนั้นมันน่าจะเป็นของผมมากกว่า”

    “นั่นเพราะนายไม่เคยทำให้พี่มั่นใจเลยต่างหาก”

    “แต่—” ชายหนุ่มหยุดคำพูดทุกอย่างไว้แค่นั้นเมื่อมีเสียงโทรศัพท์ดังขัดบทสนทนาระหว่างพวกเขาขึ้นมาเสียก่อน เจ้าของห้องจำต้องเดินไปรับโทรศัพท์อย่างช่วยไม่ได้

    “ครับ อีทึกพูดครับ”

    [...อีทึก]

    “พี่ซึงฮวาน?” ร่างสูงหันขวับทันทีที่อีทึกเอ่ยชื่อนั้น และนี่ก็คงเป็นอีกครั้งที่เขาก้าวช้ากว่าผู้ชายที่ชื่อซึงฮวานอีกหนึ่งก้าว

    [พี่...พี่ไม่อยากฝืนตัวเองอีกแล้ว พี่อยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีนาย]

    “พี่เพิ่งจะรู้หรอครับ? ผมหน่ะรู้ตัวตั้งแต่วันแรกที่พี่บอกเลิกแล้วว่าผมคงอยู่ไม่ได้ถ้าขาดพี่” คังอินถึงกับเดินเลี่ยงไปทางอื่น เขาทนไม่ได้จริงๆที่อีทึกพูดแบบนั้น จะมีบ้างไหมนะที่อีทึกจะพูดกับเขาแบบนี้

    [พี่ขอโทษสำหรับทุกอย่าง พี่ไม่สบายใจเลยที่เห็นนายเป็นแบบนี้]

    “ตอนนี้พี่ซึงฮวานอยู่ไหนครับ? พี่สร่างเมาแล้วหรือยัง” เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง

    [ก็ดีขึ้นแล้ว ตอนนี้กำลังจะกลับบ้าน ไอ้ยองจุนมันไล่ให้กลับหน่ะ]

    “...............”

    [อยากเจอนายเหลือเกินอีทึก]

    “เอ่อ...แต่ว่า...ผม...” อีทึกมองไปทางรุ่นน้องร่วมวงที่ยืนอยู่ไม่ไกลนักอย่างหนักใจ ซึ่งร่างสูงก็เข้าใจความหมายนั้นดี ริมฝีปากได้รูปขยับพูดแต่ไม่ออกเสียง


    – ผมกลับก่อนนะ –


    [มีอะไรหรออีทึก?]

    “ป...เปล่าครับ” อีทึกเอื้อมมือไปแตะประตูเบาๆ บางทีเขาน่าจะรั้งคังอินเอาไว้ ร่างบางส่ายหัวกับความคิดของตัวเองก่อนจะเดินกลับเข้าไปด้านใน โดยที่ไม่รู้เลยว่าอีกฝากหนึ่งของประตูมีใครบางคนกำลังหัวใจสลายจนแทบจะเดินไปไหนไม่ไหวยืนรอด้วยความหวังที่ว่าร่างบางอาจจะเปิดประตูมาเรียกเขาเอาไว้ เมื่อทุกอย่างยังคงเงียบ ชายหนุ่มจึงเอื้อมมือแตะบานประตูเบาๆก่อนที่ร่างสูงจะเดินจากมาพร้อมกับหยดน้ำตา



    ผมคงไม่คู่ควรกับพี่จริงๆสินะ



     



    [จะเป็นอะไรไหมถ้าพี่จะขอไปหานายที่บ้าน]

    “ก็...ไม่เห็นเป็นอะไรนี่ครับ พี่จะมาที่นี่เมื่อไหร่ก็ได้”

    [งั้นเดี๋ยวพี่ไปหานายนะ]

    “ครับ” ความเงียบเข้าครอบคลุมห้องนี้อีกครั้งหลังจากซึงฮวานวางสายไป อะไรบางอย่างกำลังทำให้อีทึกไขว้เขว

    “อีกไม่นานเราก็จะมีความสุข เราต้องดีใจสิ” พูดกำชับตัวเองอย่างหนักแน่น แต่ใจหนึ่งก็พะวงเป็นห่วงใครบางคนที่เพิ่งออกไปจากห้อง จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้?

    “เป็นอะไรไปอีทึก นายต้องไม่ไขว้เขว ท่องเอาไว้สิ!” หรือพระเจ้าจะเล่นตลกกับชีวิตเขาอีกครั้งกันนะ?






    TBC.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×