ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [รวมฟิคสั้น] Super Junior (YAOI)

    ลำดับตอนที่ #3 : [SF] FLAME (KyuHyuk) -NC-

    • อัปเดตล่าสุด 19 ก.พ. 53


    Title :: FLAME
    Pairing :: Kyuhyun x Hyukjae
    Author :: kobamura
    Rating :: NC-17
    Author’s Note :: เรื่องทุกอย่างก็เป็นเพียงเหตุการณ์สมมติขึ้นเท่านั้น อ่านเพื่อความบันเทิงนะคะ

    อ่านชื่อคู่ ไม่ผิดหรอกพี่น้อง ของจริง -*-

    ฟิคแก้บนย้อนหลังที่ทำให้ได้เป็น 1 ใน 3000 ในงานแถลงข่าว


    ปล.ใครชอบลองความแปลกใหม่กรุณาอ่าน
    แต่ถ้าใครไม่ชอบ...ลองอ่านดูก่อนก็ได้นะ ฮ่า~

    ปล.อีกที ลองฟังเพลง sorry sorry - answer ไปด้วยอาจจะได้อารมณ์มากขึ้น ฮ่า~












    ...ผมคงจะ เป็นแมงเม่า






    เพราะผมชอบบินเข้ากองไฟ...











    พลัก!!



    หมัดหนักๆกระแทกเข้าที่สันกรามอย่างจัง ชายหนุ่มถึงกับล้มลงไปนอนกับพื้นท่ามกลางเสียงกรีดร้องของหญิงสาวที่ถูกคุม ตัวอยู่ที่ฟากหนึ่ง ผู้ถูกกระทำเพียงแค่ยันตัวลุกขึ้นนั่งแล้วใช้หลังมือเช็ดเลือดที่มุมปากพลาง จ้องมองร่างสูงใหญ่ที่ก้าวเท้ามายืนอยู่ตรงหน้า

    “นี่คือบทเรียนเล็กๆน้อยๆของคนที่คิดจะมายุ่งกับผู้หญิงของฉัน” ปลายดาบญี่ปุ่นแตะเบาๆที่คางก่อนจะดันให้คนที่เป็นรองต้องเงยหน้าขึ้นสบสาย ตาดุดัน

    “หากแกยังอยากมีชีวิตอยู่ล่ะก็...หวังว่าฉันคงจะไม่เห็นแม้แต่เงาแกในถิ่น ของฉันอีก จำใส่หัวไว้ซะด้วยล่ะก่อนที่จะไม่มีหัวไว้ให้จำ!” ดาบแหลมคมตวัดกลับเข้าฝักด้วยความเร็วหากก็ยังตั้งใจที่จะฝากรอยไว้ที่ใบ หน้าคมเป็นทางยาวหรือแม้แต่ปอยผมที่อยู่ตรงหน้าก็มีชะตาไม่ต่างกัน

    “กลับ!” ผู้กระทำเพียงแค่ยกยิ้มที่มุมปากเมื่อเห็นเลือดซึมเป็นทางตามรอยแผลที่ตนเอง เป็นคนฝากเอาไว้ มือหนาคว้าแขนหญิงสาวเดินกลับไปที่รถคันหรูท่ามกลางลูกน้องที่มาอารักขานับ สิบคน เสียงล้อบดกับถนนแผ่วลงเรื่อยๆจนเหลือเพียงความเงียบสงัด ชายหนุ่มยันตัวลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล ไอ้พวกบ้านั่นซ้อมเขาไม่มียั้งมือยั้งเท้ากันบ้างเลย

    “แม่ง! หน้าหล่อๆของกู” ยกมือขึ้นแตกรอยแผลแล้วต้องครางซี้ด ถ้าไม่ติดว่าเป็นมาเฟียแล้วมีลูกน้องมันยืนล้อมอยู่เป็นสิบเขาจะกระโดดถีบ ให้รู้แล้วรู้รอด!

    “เมียแกมาเล่นกับฉันก่อนชัดๆ” ถ่มน้ำลายปนคาวเลือดลงพื้น ยกนาฬิกาขึ้นดูแล้วต้องเร่งฝีเท้าให้ไปยังจุดหมายเร็วขึ้นถึงแม้จะปวดไปทั้ง ตัวก็ตาม แต่ถ้าเขาไปสายอีกงานนี้คงจะไม่มีชีวิตรอดอีกแน่

    “นี่แกไปวิ่งหาตีนใครมาวะ?” อีทึกยืนกอดอกมองบาร์เทนเดอร์มือทองประจำร้านที่วิ่งกระย่องกระแย่งเข้า ประตูมาทันเวลาแบบฉิวเฉียด แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขาสงสัยมากไปว่าใบหน้าหล่อเหลาที่เสียหายไปพอสมควร

    “หรือว่าไปยุ่งกับผู้หญิงใครเขามาอีกล่ะ” เอ่ยถามด้วยความเคยชินกับการใช้ชีวิตโลดโผนแบบผิดๆของลูกน้องในร้าน คนสวยเพียงแค่ถอนใจหนักๆเมื่อร่างสูงยกนิ้วโป้งให้

    “ทึกกี้ยังแจ๋วเหมือนเดิมเลยนะ”

    “แจ๋วบ้านเตี่ยแกสิ ไปทำแผลแล้วเปลี่ยนชุดมาให้เรียบร้อย อีกครึ่งชั่วโมงร้านจะเปิดแล้ว” สั่งด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่ายแล้วผละออกไปดูความเรียบร้อยในส่วนอื่นโดยไม่ฟัง เสียงโอดครวญจากคนที่เอ็นดูเหมือนน้องชายแม้แต่น้อย

    “ทึกกี้อ่า...แทนที่จะให้ผมหยุดไปรักษาตัว มีรอยแผลยาวตรงหน้าแบบนี้เดี๋ยวสาวๆแฟนคลับผมได้ตกอกตกใจกันยกใหญ่หรอก” คนฟังได้หัวเราะฮึในลำคอ ข้อแก้ตัวโคตรจะฟังขึ้นเชียวนะไอ้ตัวดี

    “อยากแส่หาเรื่องเองทำไมล่ะ? ถ้าสาวคนไหนถามแกก็บอกเขาไปว่าเมื่อคืนร้อนแรงไปหน่อยสาวเจ้าทนไม่ไหวเลย ข่วนเข้าให้ตรงหน้าเป็นรอยรักฝากกลับมา” ถึงจะเป็นชายหนุ่มหน้าสวยร่างอรชรยิ่งกว่าหญิงสาว แต่เขาสาบานได้เลยว่าเรื่องฝีปากแกว่งหาเท้าเนี่ย มาสเตอร์ของเขาไม่เป็นรองใครจริงๆ

    “ถ้าพูดแล้วเรตติ้งผมเพิ่มผมก็เอานะ” ยกยิ้มให้กวนๆก่อนจะรีบชิ่งหนีไม่งั้นอาจจะมีบาทาพิฆาตให้เจ็บตัวเปล่าๆ เห็นอีทึกตัวเล็กแบบนั้น...



    ขอโทษเถอะครับ ตีนหนักเป็นบ้า!









    คนเป็นมาสเตอร์ได้แต่ยืนมองลูกน้องแล้วถอนใจเฮือกใหญ่ ชีวิตคนกลางคืนส่วนใหญ่ก็เป็นกันแบบนี้ ไม่ว่าจะความรักฉาบฉวยแบบวันไนท์สแตนด์ หรือการแลกเปลี่ยนคู่นอนแบบสวิงกิ้ง แต่ดูเหมือนคยูฮยอนจะผ่านมาทุกรูปแบบและดูเหมือนเด็กคนนี้จะมีชื่อเสียงโด่ง ดังเสียจนสาวๆมาทอดตัวให้ไม่เว้นแต่ละวัน ถึงแม้ชีวิตของเราก็แล้วแต่เราจะเลือกเดิน แต่ถ้ามองในฐานะคนเป็นพี่






    เมื่อไหร่จะเลิกเล่นกับไฟเสียที




















    เสียงดนตรีอึกทึกครึกโครมพร้อมกับแสงไฟวูบวาบกระตุ้นให้เหล่าผีเสื้อกลางคืน ทั้งหลายออกลีลาท่าเต้นกันอย่างเมามันแบบไม่มีใครยอมใคร นัยน์ตาคมกวาดมองบรรยากาศกลางฟลอร์เต้นแล้วยกยิ้ม มือหนาคว้าแก้วที่ชั้นมารองรับค็อกเทลอย่างคล่องแคล่วก่อนจะยื่นให้บริกรที่ ยืนรออยู่ก่อนแล้วนำไปเสิร์ฟ

    “คยูกี้ไปทำอะไรมาคะ ทำไมหน้าตาหล่อๆถึงเป็นแบบนี้” นิ้วเรียวแตะเบาๆที่รอยแผลผิดกับน้ำเสียงห่วงใยที่ต้องตะโกนแข่งกับความดัง ของเครื่องเสียง ชายหนุ่มเลื่อนแก้วค็อกเทลสีสวยที่เพิ่งทำเสร็จให้บริกรที่อยู่ทางขวามือ ก่อนจะหันมายิ้มให้สาวสวยเจ้าประจำที่มักจะมาจองพื้นที่อยู่ตรงหน้า เคาท์เตอร์เสมอ นัยน์ตาคมเหลือบมองชายหนุ่มที่น่าจะเป็นแฟนสาวเจ้าครู่หนึ่ง เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้ให้ความสนใจมาทางนี้ เข้าจึงยกมือเรียวขึ้นมาจุมพิตเบาๆทำเอาหญิงสาวอายม้วน

    “อุบัติเหตุนิดหน่อยหน่ะครับ เดี๋ยวก็หาย”

    “ดูแลตัวเองหน่อยสิคะ”

    “ก็กำลังมองหาคนดูแลอยู่เหมือนกันครับ” ส่งสายตาสื่อความนัยประกอบคำพูดอย่างชัดเจน ริมฝีปากได้รูปยกยิ้มอย่างพึงพอใจเมื่อเห็นใบหน้าหวานขึ้นสีระเรื่อ

    “แต่ว่านะครับ มินอามาคุยกับผมอยู่แบบนี้ คุณผู้ชายที่โต๊ะจะไม่ว่าเอาหรือครับ?” จงใจโน้มตัวเข้าไปกระซิบใกล้ๆ หญิงสาวถึงกับสะดุ้งหันไปมองที่โต๊ะซึ่งแฟนหนุ่มก็กำลังจ้องมองมาทางหล่อน จริงๆ

    “เอาไว้...ถ้ามินอามาคนเดียวเมื่อไหร่ เราค่อยมาผูกมิตรกันต่อนะครับ” เลื่อนแก้วค็อกเทลให้พร้อมกับรอยยิ้ม ซึ่งหล่อนก็ตอบรับไมตรีนั้นด้วยการยกค็อกเทลสีฟ้าใสขึ้นจิบแล้วลุกเดินกลับ ไปที่โต๊ะ

    “บาร์เทนเดอร์ร้านนี้เสน่ห์แรงสมคำร่ำลือจริงๆแฮะ” ชายหนุ่มหันกลับมามองคนที่เดินมานั่งที่นั่งของหญิงสาวเมื่อครู่ คิ้วเข้มขมวดมุ่นเมื่อเห็นว่าคนที่เข้าหาเขาในคืนนี้เป็น...ผู้ชาย?

    “ขอบคุณสำหรับคำชมครับ”

    “หรือว่าที่เรตติ้งดีเพราะรอยแผลนั่นกันล่ะ?” ปลายนิ้วเผลอยกแตะแผลเมื่อได้ยินคำถามนั้น ริมฝีปากได้รูปยกยิ้มมุมปากก่อนจะเอ่ยแบบที่มาสเตอร์คนสวยเคยแซวเอาไว้

    “เมื่อคืนสนุกมากไปหน่อยหน่ะครับ” คนฟังเพียงแค่ยักคิ้วรับคำบอกที่ดูจะพรีเซนต์ความเก่งกาจเรื่องบนเตียงของ ตัวเองเหลือเกิน

    “รอยข่วนคมดีนะ”

    “.................”

    “เห็นหน้าหล่อเลวแบบนี้นึกว่าจะเป็นเอสที่แท้เป็นเอ็มหรอกหรอ?” รอยยิ้มยั่วจุดที่ริมฝีปากอิ่มสีเชอรี่ คยูฮยอนได้แต่ลอบเลียริมฝีปากอย่างลืมตัว...นี่ถ้าเป็นหญิงสาวทั่วไปมาทำกับ เขาแบบนี้มีเฮหลังเลิกงานแน่ๆ

    “ขอค็อกเทลเจ๋งๆซักแก้วมาแก้เซ็งหน่อยสิ”

    “ของผมเจ๋งทุกแก้วครับ” คนเป็นลูกค้าถึงกับเลิกคิ้วสูงให้กับความมั่นใจในตัวเองสูงของอีกฝ่าย แต่มันก็ทำให้ดูมีเสน่ห์ไปอีกแบบเหมือนกัน

    “งั้นก็ทยอยเสิร์ฟมาแล้วกัน” เอ่ยจบก็หันหน้าไปทางฟลอร์เต้นรำ เพลงโปรดเสียด้วยสิแต่ความเซ็งของเขามันมีมากเกินกว่าที่จะยอมออกไปสนุกได้

    “ดูท่าคุณจะชอบเพลงนี้นะครับ” คนที่นั่งตรงเคาท์เตอร์เพียงแค่เหลือบตามองเพียงครู่เดียวก็หันไปสนใจกลุ่ม คนที่กำลังสนุกสนานกันต่อ

    “ทำไมคิดแบบนั้นล่ะ”

    “คุณหน่ะอยากจะออกไปเต้นจะตายไป” เลื่อนแก้วค็อกเทลสีสวยให้พลางเลื่อนปลายนิ้วไปที่มือเรียวที่วางอยู่บน เคาท์เตอร์ก่อนจะกดเบาๆที่นิ้วเรียวที่กำลังเคาะตามจังหวะเพลง ฮยอกแจเหลือบมองการกระทำนั้นแต่ก็ไม่คิดจะเอ่ยค้านแต่อย่างใด

    “มีเรื่องอะไรที่ทำให้คุณเซ็งหรือครับ?”

    “จะแก้เซ็งให้หรือไง?”

    “ถ้าคุณต้องการ...”

    “นายนี่ได้ทั้งชายและหญิงเลยหรือไงนะ”

    “ผู้หญิงหน่ะเรื่องปกติ แต่ผู้ชาย...คุณเป็นคนแรกครับ” มือเรียวคว้าปกเสื้อคนอวดดีก่อนจะดึงให้โน้มลงมาใกล้ กระซิบเสียงแผ่วพอได้ยินกันเพียงแค่สองคน

    “งั้นหรอ?...”









    “ถ้าจูบเก่งจะลองคิดดูก็แล้วกัน”














    สองร่างกอดก่ายกันอยู่บนเตียงนุ่ม เสียงครางหวานหูจากคนที่อยู่เบื้องล่างดังขึ้นทุกครั้งที่ริมฝีปากหนาขบเม้ม สร้างรอยรักบนผิวเนื้อเนียน ขาเรียวตวัดเกี่ยวเอวหนาเพื่อเปิดรับความหฤหรรษ์ให้มากขึ้น

    “คุณนี่แปลกจัง”

    “อื้ม...อะ...อะไร?” ริมฝีปากบางเม้มแน่นก่อนจะเอ่ยถามเสียงกระท่อนกระแท่นเมื่อคนที่อยู่ด้านบน ขยับกายเข้าหาหนักหน่วงขึ้น มือเรียวที่จับอยู่ตรงท่อนแขนจำต้องเลื่อนขึ้นไปโอบคอร่างสูงไว้เมื่ออารมณ์ วาบหวามแทรกเข้าหาจนแทบมือไม้อ่อน

    “ตัวคุณหอม”

    “แน่นอน...อ๊ะ...เบาหน่อยสิ...น้ำหอมฉันไม่ใช่ราคาถูกๆนะ”

    “ผู้หญิงที่ผมผ่านมาทุกคนก็ใช้น้ำหอมราคาแพงไม่แพ้คุณหรอก แต่คุณหอมกว่าทุกคนจริงๆนะ” โน้มตัวลงสูดกลิ่นหอมหวานตรงซอกขาวโดยไม่ลืมที่ขบเม้มสร้างรอยกุหลาบฝากไว้ เป็นการตีตรา

    “น้ำหอมกลิ่นนี้คุณซื้อมาจากไหนกันนะ ผมชักติดใจเสียแล้วสิ”







    “ผมชอบกลิ่นน้ำนมของคุณจริงๆ”













    เพศรส....หาก ได้ลิ้มลองจนติดใจ



    คงจะยากที่จะคิดถอนตัว









    “วันนี้ขอแบบแรงที่สุดซักแก้วสิ” ชายหนุ่มหันกลับมาที่หน้าเคาท์เตอร์ก่อนจะยิ้มให้กับร่างบางที่เริ่มเป็นขา ประจำของผับแห่งนี้ไปเสียแล้ว และแน่นอนว่า...หลังผับเลิกพวกเขาก็กลับไปพร้อมกันทุกครั้ง

    “ทำไมวันนี้ถึงได้อยากเมาเร็วนักล่ะครับ?” เอ่ยถามทั้งที่มือก็เริ่มผสมเครื่องดื่มตามสั่งไปแล้ว นัยน์ตาคมเหลือบมองคนงามที่วันนี้แต่งตัวล่อเสือล่อตะเข้อย่างไม่แคร์สายตา กลืนกินจากผู้ชายที่อยู่โดยรอบ

    “มองแบบนี้หมายความว่ายังไง? ชุดฉันไม่สวยหรอ” ฮยอกแจเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม มือเรียวรับเครื่องดื่มจากมือร่างสูงมาจิบ คยูฮยอนจ้องมองริมฝีปากอิ่มที่แตะขอบแก้วแล้วลอบเลียริมฝีปาก เพียงแค่เห็นร่างบางตรงหน้าร่างกายเขาก็ร้อนไปหมด



    ริมฝีปากสีสดที่เขารู้ว่ามันหยุ่นนุ่ม ขนาดไหน…





    ซอกคอขาวที่หอมกลิ่นน้ำนมอ่อนๆ…







    ผิวเนื้อนวลเนียนน่าสัมผัส…









    ช่องทางที่ตอดรัด...












    “....?!....” เผลอสะดุ้งตัวเมื่อถูกแตะเบาๆจากเพื่อนบาร์เทนเดอร์ที่ยืนอยู่ข้างกัน คิ้วเข้มขมวดมุ่นเมื่อร่างบางตรงหน้าหายไปเสียแล้ว เหลือเพียงกระดาษแผ่นเดียวที่อยู่ตรงหน้า

    “ไปห้องน้ำ ถ้าหายไปนาน ก็ไปตามด้วยก็แล้วกัน” เพียงแค่อ่านข้อความที่อีกฝ่ายทิ้งไว้ให้เขาก็รู้ได้ทันทีว่าช่วงเวลา หฤหรรษ์ได้มาถึงแล้ว คยูฮยอนเอ่ยฝากงานให้เพื่อนก่อนจะขอตัวไปเข้าห้องน้ำ เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็เจออีกฝ่ายนั่งไขว่ห้างอยู่บนเคาท์เตอร์สำหรับล้าง มือ

    “นึกว่าจะไม่มาซะแล้ว” สองสายตาสบให้กันอย่างมีความหมาย ชายหนุ่มจัดการเปลี่ยนป้ายหน้าห้องน้ำเป็น ‘กำลังทำความสะอาด’ และล็อคประตูอีกชั้นเพื่อความปลอดภัย ก่อนจะเดินเข้ามาหาร่างบางที่ส่งยิ้มหวานมาให้

    “คุณนี่แปลกจัง” คนฟังถึงกับหัวเราะออกมาเบาๆ พลางเอื้อมมือไปโอบรอบคอคนตัวสูงไว้

    “ทำไมนายถึงชอบว่าฉันแปลกจังเลยนะ แล้วคราวนี้ฉันแปลกตรงไหน”

    “คุณทำให้ผมโหยหา ทำให้ผมหลงใหล ผมไม่เคยเป็นแบบนี้กับใคร” ฝังจูบที่ซอกคอขาว ก่อนจะสอดมือเข้าใต้เสื้อตัวบางลูบไล้ผิวเนื้อลื่นมือคนจนที่นั่งอยู่บน เคาท์เตอร์เผลอถอนใจออกมาหนักๆด้วยความซ่านเสียว

    “ทำให้ฉันรู้สิว่านายหลงใหลฉันขนาดไหน แค่บอกหน่ะฉันไม่รู้หรอกนะ” วาจายั่วยวนนั้นทำเอาเลือดในกายร้อนขึ้นทันควัน มือหนาเชยคางมนขึ้นก่อนจะมอบจุมพิตวาบหวามให้อย่างร้อนแรง สองกายสอดประสานรวมเป็นหนึ่งเดียวในสถานที่อันเป็นที่สาธารณะ บทรักถูกจุดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนกว่าจะถึงจุดแห่งความเต็มอิ่มของทั้งสองคน






    คืนที่เร่าร้อนผ่านไปอีกหนึ่งคืน















    ในสถานที่ที่เสียงดนตรีอึกทึกครึกโครม มือหนายังคงคว้าแก้วที่ชั้นมารองรับค็อกเทลได้อย่างคล่องแคล่วเหมือนทุก ครั้งก่อนจะยื่นให้บริกรที่ยืนรออยู่ก่อนแล้วนำไปเสิร์ฟ หากคิ้วเข้มต้องขมวดมุ่นเมื่อถูกร้องทักจากพนักงานตรงหน้า

    “ลูกค้าไม่ได้สั่งแก้วนี้นะพี่” คยูฮยอนมองแก้วค็อกเทลตรงหน้าแล้วถอนใจ วันนี้เขาทำพลาดเป็นแก้วที่ห้าแล้วนะ

    “ไม่สบายหรือเปล่าวะ?” เพื่อนบาร์เทนเดอร์ที่ยืนอยู่ข้างกันเอ่ยถามเมื่อเห็นเขายกมือขึ้นมานวดขมับ

    “มันไม่รู้ตัวว่ะ มือมันไปเอง” แล้วบรรดาค็อกเทลที่เขาทำพลาดออกไปก็ล้วนแต่เป็นแก้วโปรกของฮยอกแจทั้งนั้น นี่เขาคิดถึงร่างบางกลิ่นน้ำนมขนาดนี้เลยหรือ?

    “นี่มันไม่ใช่ตัวแกเลยนะคยูฮยอน” นั่นสิ...นี่มันไม่ใช่ตัวเขาเลย




    ก็แค่ร่างบางที่เคยกกกอดทุกคืนไม่ได้มาหา เขาที่นี่จนครบอาทิตย์แล้วเท่านั้นเอง










    “ขอค็อกเทลพิเศษซักแก้วสิ” คนที่กำลังหันหลังก้มหน้าพักสายตาอยู่ถึงกับรีบหมุนตัวกลับมาแล้วก็ต้องเก็บ ยิ้มไว้ไม่อยู่เมื่อคนที่คิดถึงมายืนอยู่ตรงหน้าแล้ว แต่ดูเหมือนจะไม่ได้มาคนเดียวเมื่อเอวบางมีมือใครบางคนโอบไว้หลวมๆ

    “ตอนที่ฉันไม่อยู่นายมาเที่ยวที่ผับนี้บ่อยหรอ?” ระหว่างที่กำลังทำหน้าที่บาร์เทนเดอร์ หูของเขาก็แว่วเสียงบทสนทนาจากคู่ที่นั่งอยู่ตรงเคาท์เตอร์ ชายหนุ่มร่างสูงในชุดสูทภูมิฐานที่มีร่างบางนั่งอยู่บนตัก...

    “อยู่คอนโดหน่ะน่าเบื่อจะตาย ก็เลยมาขับรถเล่นแล้วก็เจอที่นี่ บรรยากาศก็ดี บริการก็ดี” ประโยคหลังจงใจเอ่ยราวกับจะส่งความนัยให้กับอีกคนที่อยู่ที่ฝากหนึ่งของ เคาท์เตอร์ คยูฮยอนเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มให้ครู่หนึ่งก่อนจะทำเมนูต่อไปให้กับชายหนุ่ม อีกคน

    “บรรยากาศดีจริงๆนั่นแหละ รสนิยมดีจริงๆเลยนะ” จูบเบาๆที่ลาดไหล่เนียนที่โผล่พ้นเสื้อตัวบางจนคนตัวเล็กหัวเราะคิกก่อนจะ โอบคอคนที่ตัวเองนั่งตักเอาไว้

    “ก็ซีวอนหนีฉันไปทำงานนี่ ปล่อยฉันไว้คนเดียวมันก็ต้องเหงาเป็นธรรมดา”

    “ไปดูไบหน่ะมันไม่เจริญหูเจริญตาหรอก คราวหน้าไปฝรั่งเศสเดี๋ยวพานายไปด้วย ใกล้เปิดคอลเลคชั่นใหม่ที่นั่นแล้วด้วย จะได้ไปช็อปปิ้งกันไง”

    “อ่า...ซีวอนนี่น่ารักจริง”

    “น่ารักแล้วต้องทำยังไงครับ?” คนฟังหัวเราะคิกก่อนจะโอบคอร่างสูงแล้วรั้งเข้ามาประทับจูบดูดดื่ม ร่างบางครางแผ่วในลำคอเมื่อมือหนาเลื่อนมารั้งท้ายทอยเขาเอาไว้เพื่อสร้างรส จูบที่แนบแน่นขึ้น เมื่อซีวอนถอนจูบออกฮยอกแจถึงกับเอนตัวซบไหล่กว้างพลางหอบสะท้าน

    “อยากกลับห้องแล้วล่ะ”

    “ซีวอนเพิ่งดื่มไปแก้วเดียวเองนะ เมาแล้วหรอ?” เอ่ยถามเสียงกระเซ้าทั้งที่รู้ดีว่าคนรักของเขาต้องการอะไร

    “มีอะไรที่ต้องทำอีกเยอะเลย ถ้ามัวแต่นั่งอยู่ที่นี่เวลาทำจะลดลงนะ” เอ่ยเป็นหลักเป็นการทั้งที่เรื่องที่ต้องการสื่อถึงมันไม่ได้เป็นการเป็นงาน ขนาดนั้น ก็แค่...กิจกรรมรักบนเตียงเท่านั้นเอง

    “จริงด้วย”

    “กลับกันนะ”

    “ตามใจซีวอนแล้วกัน” ร่างสูงเลื่อนแพลตตินัมการ์ดให้บริกรนำไปชำระค่าบริการ ก่อนจะตวัดโอบเอวบางพาเดินออกไปนอกร้านโดยไม่มีคำลาใดๆ คยูฮยอนยืนมองเด็กเสิร์ฟในร้านหยิบแก้วหน้าเคาท์เตอร์ก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อ เห็นกระดาษสีขาวแผ่นเล็กสอดอยู่ใต้แก้วค็อกเทลของร่างบาง เพียงเท่านั้นรอยยิ้มของเขาก็กลับมาอีกครั้งได้อย่างไม่ยากเย็น









    ว่างๆจะแวะมา หา ทำตัวให้ว่างด้วยล่ะ









    ผมบอกแล้วไง ว่า...




    ผมคงจะเป็นแมงเม่า...




    เพราะผมชอบบินเข้ากองไฟ...








    END.


    เริ่มต้นด้วยคยูฮยอก จบด้วยวอนฮยอก กร๊าซซซซซซซซซซซซซ
    ชเวซีวอนมาได้ไงไม่รู้ ไม่รู้ตัวจริงๆนะ =w=

    ของแก้บนจบแล้ว คราวหน้าจะไม่บนอะไรแบบนี้แล้ว โฮกกกกกกกกกกกกกกกก
    ว่าแต่...ยังเหลือที่น้องๆไปบนแล้วเอาชื่อไรท์เตอร์ไปอ้างอีกเรื่องใช่ไหม?

    **ขุดหลุมฝังตัวเอง**
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×