ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [รวมฟิคสั้น] Super Junior (YAOI)

    ลำดับตอนที่ #2 : [SF] SEOUL LOVE (SJ)

    • อัปเดตล่าสุด 19 ก.พ. 53


    Title :: SEOUL LOVE
    Pairing :: KangTeuk HanChul YeRyeo WonHyuk KiHae KyuMin
    Author :: kobamura
    Rating :: PG-13
    Author’s Note :: เรื่องทุกอย่างก็เป็นเพียงเหตุการณ์สมมติขึ้นเท่านั้น อ่านเพื่อความบันเทิงนะคะ


    ขัดใจโซลซองเป็นการส่วนบุคคล

    เลยรีมิกซ์ใหม่ซะ~




    มาม๊ะ เดี๋ยวจะพาไปเที่ยวโซลนะคะ ^^









    สวนนัมซาน

    สวนนัมซานตั้งอยู่บนเนินเขานัมซาน ที่นี่เป็นที่ตั้งของหอคอยแห่งกรุงโซล ซึ่งบริเวณสวนนี้เป็นที่นิยมสำหรับการชมทัศนียภาพกรุงโซลจากบนหอคอย ซึ่งได้มุมมองที่กว้างไกลและไม่มีอะไรมาบดบัง ที่ฐานของหอคอยก็คือศาลาแปดเหลี่ยมปาลกั๊กจอง สวนสัตว์เล็กๆ สวนพฤกษชาติ อาคารอนุสรณ์ผู้รักชาติ อัน ชุง กุน และสถานที่อำนวยความสะดวก สวนสำหรับออกกำลังกายและเดินพักผ่อนหย่อนใจ





    “มองตรงไปข้างหน้า ทรงตัวเอาไว้ เฮ้ย! อย่าหยุดปั่นดิ”

    “จะล้มแล้ว! จะล้มแล้ว!”

    “ไม่ล้มหรอกหน่า ฉันก็ประคองแกอยู่นี่ไง!” เสียงโวยวายจากคนสวยสองคนที่อยู่ท่ามกลางผู้คนที่มาออกกำลังกายเรียกความ สนใจได้ไม่ยาก เมื่อคนสวยในชุดวอร์มสีแดงร้องเอะอะโวยวายเมื่อไม่สามารถควบคุมจักรยานที่ ตัวเองกำลังฝึกขี่ได้ ส่วนคนสวยในชุดวอร์มสีขาวก็คอยประคองจับเอวเพื่อนไว้มั่น เป็นภาพที่ทำเอาผู้ชายหลายคนต้องมองเหลียวหลังจนบางคนถูกแฟนสาวที่เดินอยู่ ข้างกายดึงหูลากไปเลยก็มี

    “ทำไมมันขี่ยากแบบนี้อ่ะ!” ล้มลุกไปไม่รู้กี่รอบ แขนขาที่แสนจะทะนุถนอมมาตลอดก็ถลอกปอกเปิกหมดแล้ว ชีวิตเขาไม่เคยทุ่มทุนสร้างอะไรแบบนี้มาก่อนเลยนะ!

    “รู้ว่ายากแล้วจะให้ฉันหัดให้ทำไม? วิ่งตามเขาไปไม่เร็วกว่าหรอ?” คนฟังถึงกับปล่อยจักรยานสีแดงของตัวเองลงหงายกับพื้นก่อนจะเดินไปนั่งพักที่ ม้านั่งข้างๆ

    “อีทึกอ่า...แกก็น่าจะรู้ว่าฉันไม่ชอบวิ่ง มันเหนื่อย” วันนั้นก็อุตส่าห์วิ่งเหยาะๆรอแล้วนะ แต่พ่อเจ้าพระคุณก็วิ่งเลยไปไม่ได้หันมาสบตาซักนิด คนจีนเนี่ยความรู้สึกช้าหรือไงนะ ไม่เห็นหรือไงว่าอ่อยอยู่เห็นๆ



    คิมฮีซอลไม่อยากจะเซดดดดดดดดด~







    “งั้นเดี๋ยวช่วยหาวิธีใหม่ เรามีเวลาจนกว่าจะเย็นมันต้องสำเร็จบ้างล่ะหน่า”

    “ฉันไม่ผิดหวังที่คบแกเป็นเพื่อนจริงๆว่ะอีทึก” นางฟ้าทึกกี้ถึงกับต้องลอบหันหน้าออกไปทางอื่นแล้วทำหน้าปุเลี่ยน สถานการณ์มันบีบมาแบบนี้แล้ว ขืนไม่ช่วยเขานั่นแหละที่จะต้องเจอหายนะ



    ว่าแต่...

    หนุ่มจีนนั่นมีอะไรดีเพื่อนเขาถึงได้เพ้อถึงนักหนากันนะ?










    อีแทวอน

    จากสี่แยกอีแทวอนนั้น จะมีเขตท่องเที่ยวยาวเหยียดไปจนผ่านโรงแรมแฮมิลตันจนถึงฮัมนัมดง ณ ที่นี้เต็มไปด้วยร้านรวงประมาณ 2,000 ร้านและบาร์ดนตรีแจ๊ส คลับ และร้านอาหารพื้นเมือง รอบๆ บริเวณโรงแรมแฮมิลตันก็มีร้านอยู่รวมๆ กันถึง 1,000 ร้าน ขายเครื่องหนัง กระเป๋า เสื้อผ้า รองเท้า และของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยว ตามทางเท้าก็มีแผงขายของกว่า 400 แผง ขายของที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการช้อปปิ้ง เช่น หมวก เสื้อยืด และอื่นๆ อีกมากมาย อีแทวอนยังเป็นแหล่งขายอาหารนานาชาติเช่น อิตาลี สวิส เยอรมัน เม็กซิกัน อินเดีย ไทย เป็นต้น




    “วันนี้ได้ซีดีกลับไปซักแผ่นท่าจะดีแฮะ” ชายหนุ่มเปรยกับตัวเองเบาๆเมื่อเห็นว่าข้างหน้าเป็นร้านซีดีเจ้าประจำ เขาเดินเข้าไปในร้านพลางส่งยิ้มให้กับพนักงานหน้าเคาท์เตอร์ที่เอ่ยต้อนรับ ก่อนจะเดินไปที่มุมเพลงโปรด

    “S-E-O-U-L~” เสียงร้องที่คลอกับเพลงที่เปิดในร้านเรียกให้เขาละสายตาจากแผ่นซีดีตรงหน้า มาหยุดที่ร่างเล็กข้างๆตัว เด็กนี่เสียงดีซะมัด

    “อ๊ะ ขอโทษครับ ผมทำให้คุณรำคาญหรือเปล่า?” ดวงตากลมโตจ้องมองเขาอย่างขลาดอาย คงจะเพิ่งรู้ตัวว่าเผลอร้องเพลงออกมาเสียงดัง แต่น่าแปลกเขาไม่ได้รู้สึกรำคาญสักนิด

    “เปล่าหรอก แค่กำลังคิดว่าเสียงเธอเพราะดีนะ” คนถูกชมถึงกับยิ้มเขิน แก้มที่แดงระเรื่อทำเอาเขาอดยิ้มตามไม่ได้

    “วันนี้เขามีงานกันที่แม่น้ำฮัน คงจะใช้เพลงนี้เป็นธีมหลักของงาน ไปฟังเพลงนี้ที่นั่นด้วยกันไหม?”

    “เอ๋?”

    “เผื่อเธออยากไปร้องเพลงพร้อมกับคนโซลอีกหลายพันคนไง” คนตัวเล็กมีท่าทีลังเลอยู่ครู่หนึ่งแต่พอสบสายตาคนที่ยืนรอฟังคำตอบอยู่ ก็อดไม่ได้ที่จะพยักหน้าตอบรับไป




    “ฉันคิมจงอุน”





    “ผมคิมเรียวอุคครับ”














    อินชาดง

    ตามแนวถนนอินซาดงนั้นมีร้านรวงนับร้อยๆร้าน ซึ่งแน่นขนัดไปด้วยภาพวาดด้วยหมึกแบบพื้นเมือง งานประดิษฐ์อักษรต่างๆ เครื่องเรือนแบบโบราณ งานฝีมือ เครื่องเคลือบ และเครื่องแต่งกายพื้นเมืองสมัยใหม่ ในทำนองเดียวกันตามตรอกด้านหลังอินซาดง จะเต็มไปด้วยร้านกาแฟ และร้านอาหารพื้นเมืองมากมาย ทุกวันอาทิตย์นั้น ถนนอินซาดง จะเป็นถนนคนเดิน โดยปิดไม่ให้รถวิ่งเลย ตามทางที่เดินไปนั้นยังมีการแสดงรื่นเริงต่างๆ โดยเฉพาะเครื่องดนตรีให้จังหวะ






    “คิดไม่ผิดเลยที่เลือกมาวันนี้” ร่างเล็กเอ่ยกับตัวเองอย่างอารมณ์ดีเมื่อมาถึงที่อินซาดงก็พบผู้คนมาทำ กิจกรรมกันที่นี่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเหล่าจิตรกรที่ต่างนำผลงานออกตัวเองมาจัดแสดง หรือจะเป็นผู้คนหลากหลายที่ต่างหลั่งไหลกันมาที่นี่


    แบบนี้ได้ภาพสวยๆกลับไปเยอะแน่ๆเลย





    นิ้วเรียวกดชัตเตอร์ทันที่ทีได้มุมภาพที่ถูกใจ ริมฝีปากบางยกยิ้มเมื่อเห็นเด็กน้อยวิ่งไปขอลูกโป่งจากคุณหมาป่าตัวโต ทั้งที่เรื่องหนูน้อยหมวกแดงบอกว่าหมาป่าเป็นคนไม่ดีแต่ทำไมเด็กๆถึงห้อม ล้อมแบบนั้นนะ


    เพราะคุณหมาป่าคนนี้อาจจะใจดีกับเด็กๆก็ได้ไง





    คิ้วเรียวขมวดมุ่นเมื่อเห็นเด็กๆวิ่งกรูมาตรงหน้าเขาแล้วเข้าแถวเหมือนจะทำ อะไรซักอย่าง แล้วก็ต้องกระพริบตาปริบๆอย่างไม่เข้าใจเมื่อเด็กน้อยที่ถือลูกโป่งสีแดงนับ สิบคนกำลังแปลเป็นรูปหัวใจ ตากล้องคนเก่งมองเลยไปที่คุณหมาป่าที่ถอดหัวออกแล้วยิ้มร่าส่งมาให้เขา

    “เซอร์ไพร์สไหม?”

    “มากๆเลย”

    “ครบรอบหนึ่งปีที่เราคบกันมันก็ต้องไม่ธรรมดาอยู่แล้วจริงไหมครับกระต่าย น้อย” คยูฮยอนเดินมาพร้อมถุงใส่ชุดกระต่ายส่งให้คนรัก ซึ่งร่างเล็กก็รับมันมาถือแต่โดยดี

    “นั่นสินะ...จะธรรมดาได้ยังไงล่ะพ่อหมาป่าจอมเจ้าเล่ห์”






    แล้ววันนี้ที่อินซาดงก็มีคุณหมาป่ากับคุณกระต่ายยืนแจกลูกโป่งสีแดงให้กับ เด็กๆอย่างสนุกสนาน













    ยออีโด

    อาคาร KLI 63 เป็นจุดเด่นและไฮไลท์ของยออีโด มีหลายสิ่งหลายอย่างในอาคารที่ให้ความสนุกสนาน รวมทั้งโรงหนังจอยักษ์ IMAX พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่โดดเด่น หอดูดาว ร้านขายของและร้านอาหาร

    ห้อง โถง LG ในอาคารแฝด LG จะมีห้องแสดงโลกทางวิทยาศาสตร์ของอนาคต นอกจากนี้ยังมีสวนยออีโด สวนริมน้ำฮันกัง เหมาะแก่การพักผ่อน และกีฬากลางแจ้งหลายประเภท






    “ครูทงเฮคะ วันนี้เราจะไปที่ไหนกันหรือคะ” เด็กหญิงตัวน้อยที่เดินนำอยู่หน้าเพื่อนๆเอ่ยถามคุณครูที่พาพวกเธอมา ทัศนศึกษานอกสถานที่ในวันนี้

    “วันนี้เราจะไปพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่อาคาร KLI63 แล้วก็ห้องแสดงโลกทางวิทยาศาสตร์อนาคตที่อาคาร LG ครับ” เอ่ยบอกพลางสำรวจเด็กๆไม่ให้เดินแตกแถวไปทางอื่น

    “แล้ววันนี้คุณพี่ตำรวจคนนั้นจะมาพาพวกเราข้ามถนนอีกไหมคะ?” ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันเมื่อเจอคำถามไร้เดียงสาจากลูกศิษย์ตัวน้อย อ่า...เด็กหนอเด็ก ถามมาแบบนี้ได้ยังไงหนอ

    “อ้าว...ครูทงเฮหน้าแดงเลย พูดถึงพี่ตำรวจคนนั้นทีไรครูทงเฮหน้าแดงทุกที” คุณครูยิ่งทำอะไรไม่ถูกเมื่อเด็กๆในแถวต่างพากันหัวเราะคิกคักจนนึกอยากจะ ไล่เขกศีรษะกันคนละทีสองที


    แก่แดดนักนะเด็กพวกนี้





    “วันนี้คุณพี่ตำรวจคนนั้นไม่มาหรือเนี่ย” เสียงแสดงความผิดหวังจากเด็กๆคงไม่ต่างอะไรจากคนเป็นครูนัก เพราะทงเฮเองก็เหลียวซ้ายแลขวาอยู่บ่อยครั้งจนครูที่มาด้วยกันร้องเตือนว่า สัญญาณไฟให้เดินข้ามทางม้าลายได้แล้ว คุณครูเลยจำต้องพาเด็กๆข้ามถนนโดยไม่มีคุณตำรวจคอยดูแลอย่างเช่นทุกครั้ง

    “ขอโทษครับ!” คนที่กำลังใจจดใจจ่ออยู่เด็กนักเรียนถึงกับสะดุ้งหันไปมองคนที่ยืนหอบอยู่ ข้างๆ ร่างสูงในชุดเครื่องแบบรีบเข้ามาช่วยด้วยรอยยิ้มเช่นเคย

    “คุณคิบอม?”

    “พอดีผมไปตรวจเวรแทนเพื่อนทางด้านโน้นมาหน่ะครับ เอ้า! เด็กๆเดินกันให้เป็นระเบียบสิครับ จะได้ข้ามถนนกันเร็วๆนะครับ” เอ่ยบอกถึงสาเหตุที่มาช้าก่อนจะหันไปบอกเด็กๆที่เริ่มจะหันมาหัวเราะคิกคัก ใส่พวกเขาสองคนให้เดินข้ามถนนก่อนที่สัญญาณไฟจะเปลี่ยน

    “ขอบคุณมากนะครับ” กำลังจะเดินกลับไปหากลุ่มนักเรียนที่ยืนรออยู่แต่ก็ต้องชะงักเมื่อถูกเรียก ไว้

    “คุณทงเฮครับ!”

    “ครับ?” คุณตำรวจใจดีไม่ได้เอ่ยอะไรอีกนอกจากเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะยื่นกระดาษแผ่น เล็กให้ ทงเฮมองการกระทำนั้นอย่างไม่เข้าใจ แต่ก็รับมาอ่านแต่โดยดี คุณครูเพียงแค่เงยหน้าขึ้นมามองชายหนุ่มที่ยืนรอคำตอบอยู่ ใบหน้าน่ารักพยักรับก่อนจะรีบเดินกลับไปที่กลุ่มเด็กแล้วเดินจากไป





    เย็นนี้ที่แม้น้ำฮันมีงาน เราไปเดินเล่นกันไหมครับ?









    เมียงดอง

    เมียงดอง ได้ชื่อว่าเป็นศูนย์รวมแฟชั่นชั้นนำของเกาหลี และเป็นแหล่งนิยมของวัยรุ่นเกาหลี ที่นี่มีทั้งห้างสรรพสินค้าล็อตเต้ เมโทรมิโดป้า และห้างสรรพสินค้าชินเซแก และร้านมิกลิออร์ ซึ่งตั้งอยู่ทั้งใต้ดินและบนดิน ขายเครื่องแต่งกายสำเร็จรูป รองเท้า เครื่องใช้เครื่องประดับ และเครื่องสำอาง เป็นที่พึงปรารถนาของนักซื้อ นักแต่งตัวทั้งหลาย ตามตรอกด้านหลังจะมีร้านกาแฟและร้านอาหาร เพื่อแวะรับประทานได้ก่อนไปช็อปกันต่อ







    ‘คอฟฟี่ชิค ยินดีต้อนรับครับ~’






    เสียงต้อนรับจากเจ้าของร้านอารมณ์ดีเรียกรอยยิ้มจากผู้มาเยือนได้เสมอ ในวันที่ลูกค้าเยอะเป็นพิเศษขนาดนี้เจ้าของร้านจึงต้องลงมาดูความเรียบร้อย ต่างๆด้วยตัวเอง มือเรียวหยิบเมนูที่เคาท์เตอร์ก่อนจะยื่นให้ลูกค้าพร้อมรอรับออร์เดอร์ด้วย รอยยิ้ม

    “ซาวารินกับเลมอนสแควส์นะครับ เครื่องดื่มรับเป็นชากุหลาบนะครับ รอซักครู่นะครับ” ส่งยิ้มให้อีกครั้งเป็นการตบท้ายก่อนจะเดินมาส่งเมนูให้พนักงานที่ เคาท์เตอร์ เด็กหนุ่มร่างสูงมองเจ้าของร้านด้วยสายตาเป็นห่วง ตั้งแต่เปิดร้านมาเขายังไม่เห็นมาสเตอร์หยุดเดินเลยนะเนี่ย

    “ผมว่าพี่ฮยอกแจเข้าไปพักข้างในเถอะนะครับ เดี๋ยวพวกผมจัดการต่อเอง อีกอย่างคนก็เบาลงแล้วด้วย”

    “อืม...พี่ก็ว่าจะเข้าตรวจบัญชีอยู่เหมือนกัน” ส่งยิ้มให้หนุ่มรุ่นน้องก่อนจะสะดุ้งเมื่อถูกเจ้าตัวเล็กวิ่งเข้ามากอดแขน หมับ

    “พี่ฮยอกแจ~ วันนี้มีงานที่แม่น้ำฮันแหละ ปิดร้านเร็วหน่อยเถอะ น้องคีย์อยากไปเที่ยว น๊า~” คนเป็นพี่ได้แต่หัวเราะคิกกับความน่ารักของลูกพี่ลูกน้องที่มาช่วยงานที่ ร้านทุกวันเสาร์อาทิตย์ ถ้าไม่ได้เจ้าพวกนี้เขาก็คงแย่เหมือนกัน

    “คีย์...พี่ฮยอกแจกำลังจะเข้าไปพัก ส่วนนายหน่ะเอานี่ไปเสิร์ฟที่โต๊ะมุมนั้นที” ร่างสูงหน้าเคาท์เตอร์เลื่อนถาดเสิร์ฟให้ด้วยสีหน้าเรียบเฉย คนน่ารักถึงกับตีหน้ายุ่ง

    “โหย~ ฉันยังไม่ได้หยุดเดินเลยนะ นายหน่ะแค่ยืนหน้าเคาท์เตอร์อย่ามาทำเป็นสั่งหน่อยเลย” เจ้าของร้านเห็นท่าไม่ดีรีบเข้ามาแทรกก่อนจะเกิดการวางมวย คีย์กับมินโฮเนี่ยอยู่ใกล้กันไม่ได้เชียว หาเรื่องกันตลอด

    “เดี๋ยวพี่เอาไปเสิร์ฟเองก็ได้ เสร็จจากตรงนั้นจะเข้าไปพักจริงจังแล้ว ฝากร้านด้วยล่ะ”

    “ครับ/คร๊าบ~”

    “คอฟฟี่ ชินนามอน คัพ เค้ก กับเอสเปรสโซ่ได้แล้วครับ” ชายหนุ่มละสายตาออกจากหน้าจอเนทบุคก่อนจะส่งยิ้มให้กับบริกรคนงาม

    “วันนี้กรีดตาสวยนะ”

    “ขอบคุณครับ”

    “รบกวนอะไรอย่างนึงสิ...ขอมือหน่อย” ฮยอกแจเพียงแค่เอียงคองงๆ แต่ก็ยอมยื่นมือให้ร่างสูงแต่โดยดี สร้อยเงินห้อยจี้รูปดาวถูกใส่ให้อย่างรวดเร็ว

    “เห?”

    “พอดีคุณพ่อให้ไปติดต่องานที่ห้างอื่น เห็นว่าสวยดีเลยซื้อมาฝาก” ชายหนุ่มปิดเนทบุคและเคลียร์ของทุกอย่างบนโต๊ะก่อนจะรับจานคัพเค้กที่ร่าง บางเลื่อนมาให้มาวางตรงหน้าพร้อมกับกาแฟแก้วโปรด ยังไม่ทันจะได้คุยอะไรกันหนูคีย์ก็ถลาเข้ามาหาพร้อมกับถาดเสิร์ฟ

    “เครปอลาครีมกับช็อคโกแลตเฟรปเป้ครับ นั่งคุยตามสบายนะครับพี่เขย งานวันนี้ของพี่ฮยอกแจหมดแล้ว ผมกับมินโฮขอยึดร้านตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป มีความสุขกับของหวานแสนอร่อยจากคอฟฟี่ชิคนะครับ” เอ่ยตบท้ายด้วยสโลแกนร้านแล้วเผ่นแผล็วหายไปแทบจะทันที ฮยอกแจได้แต่เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันก่อนจะหันมาแยกเขี้ยวใส่คนรักที่นั่งกลั้น ยิ้มจนแก้มบุ๋ม


    พอถูกเรียกว่าพี่เขยเนี่ย ลัลล๊าเชียวนะ





    “น้องเขาก็อยากให้นายพักบ้าง เห็นมินโฮบอกว่าตั้งแต่เปิดร้านยังไม่ได้หยุดเลยนี่”

    “งานบริการมันก็แบบนี้แหละ” เสหน้ามองไปทางอื่นแต่ก็ต้องสะดุ้งเมื่อมือหนาเลื่อนมากุมมือตัวเองไว้ พยายามจะเก็กหน้าเฉยแต่ก็อดหลุดยิ้มออกมาไม่ได้ เขาทนสายตาหวานๆจากซีวอนไม่ได้ซักที เฮ่อ~

    “วันนี้ปิดร้านเร็วหน่อยสิ”

    “ทำไมล่ะ?”

    “จะพาไปรำลึกความหลังที่แม่น้ำฮัน” คนฟังถึงกับยิ้มเขิน จะไม่ให้เขินได้ยังไงไหว ก็เพราะแม่น้ำฮันเป็นสถานที่ที่เป็นทั้งรักแรกพบ เดทแรก จูบแรก และอีกหลากหลายความทรงจำที่เกี่ยวกับเขาสองคน มันก็น่าดีใจอยู่หรอกที่ซีวอนยังคงนึกถึงอยู่เสมอ




    แต่ประเด็นหลักมันอยู่ที่ว่า...

    กลับจากแม่น้ำฮันทีไร เค้าไม่เคยได้นอนซักทีหน่ะสิ!












    กลับมาที่ ...สวนนัมซาน





    “เอางี้จริงอ่ะ อีทึก” คนสวยชุดแดงมองเพื่อนรักด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก ก็ไม่อยากจะเถียงหรอกว่าวิธีนี้มันทำให้เขาขี่จักรยานได้อย่างดี แต่มัน...


    ติดเป็นสามล้อแบบเด็กเนี่ยนะ?

    คิมฮีซอลอยากลงไปนอนตายในท่าที่สวยที่สุด!






    “งั้นก็ไม่รู้จะช่วยอะไรแล้ว หลังจากอยู่กับแกมาทั้งวัน ฉันรู้เลยว่าทักษะกีฬาของแกเนี่ยเข้าขั้นติดลบ เพราะฉะนั้นก็เลือกเอาเองแล้วกัน แต่...อีกห้านาทีเป้าหมายจะมาแล้วนะ” คนฟังถึงกับหัวฟัดหัวเหวี่ยงแต่ก็ยอมขึ้นขี่จักรยานทั้งที่จิตใต้สำนึกกรีด ร้องว่าอายเสียแทบแย่


    แต่เพื่อคนจีน...ยอมเว้ยยยยยย!




    “เอ้ย! มาแล้วฮีซอล” นางฟ้าทึกกี้ยกกล้องขึ้นมาส่องก่อนจะส่งสัญญาณให้เพื่อนขี่จักรยานออกไปขนาบ ข้าง


    สำเร็จ...

    จรวดนำวิถีชื่อคิมฮีซอลถูกปล่อยออกจากฐานไปแล้ว







    “มาเล่นสนุกอะไรอยู่แถวนี้ครับ?” คนที่ยืนแอบอยู่ตรงต้นไม่ใหญ่ถึงกับสะดุ้งหันมามองร่างสูงที่กอดอกมองเขา อยู่

    “ซ้อมชกมวยเสร็จแล้วหรอ?” ชายหนุ่มในชุดวอร์มสีเขียวเข้มพยักหน้ารับก่อนจะเดินมายืนซ้อนหลังคนรักแล้ว หยิบกล้องส่องทางไกลมาส่องบ้าง

    “เจ๊ฮีแรงนะเนี่ย ถึงขั้นยอมขี่จักรยานสี่ล้ออ่ะ” เอ่ยขำๆก่อนจะร้องโอดโอยเมื่อมือเรียวตีเข้าให้ดังเพี๊ยะ

    “ทึกกี้ตีผมทำไมเนี่ย”

    “อย่ามาล้อเพื่อนฉันนะ”

    “อ้าว...ทึกกี้ก็ดูสิ แล้วไม่ให้ผมขำยังไงไหว?” มันก็จริงที่ภาพตรงหน้ามันน่าขำอยู่ไม่น้อยที่คนอย่างฮีซอลจะมาตั้งหน้าตั้ง ตาขี่จักรยานตามใครก็ไม่รู้...ที่รู้เพียงแค่ว่าเป็นคนจีน

    “ไม่ต้องเลย ทีนายอ่ะ ตอนที่มาจีบฉันใหม่ๆก็ทำเป็นมาติดต่อเทรนเนอร์เหมือนกันนี่”

    “อ้าว? รักต้องทุ่มสิครับที่รัก” ชิงหอมแก้มเนียนไปฟอดใหญ่ก่อนจะรีบชี้ให้ดูความคืบหน้าของคู่ที่อยู่ลานกีฬา ถ้าไม่รีบดึงความสนใจเขาอาจจะโดนมือบอบบางนี้ตีจนช้ำในตายก็เป็นได้








    “หนีห่าว~” คนที่กำลังฟังเพลงจากไอพอตเพลินๆ ถึงกับหลุดจากภวังค์หันมามองคนที่ขี่จักรยานอยู่ข้างๆ หานเกิงดึงหูฟังออกข้างหนึ่งทั้งที่ไม่หยุดวิ่ง

    “ครับ?”

    “แค่ทักเฉยๆ”

    “อ่อ...ครับ” พยักหน้ารับก่อนจะเร่งฝีเท้าขึ้นเล็กน้อย แต่แล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อคนสวยชุดแดงยังขี่จักรยานตามมาเสมอเขาจนได้

    “มาอยู่โซลนานหรือยัง?” ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจอีกฝ่ายนักแต่เขาก็เลือกที่จะตอบไปตามความจริง

    “เดือนกว่าๆเองครับ”

    “คืนนี้มีงานที่แม่น้ำฮัน นายน่าจะชอบโซลมากขึ้นถ้านายไปที่นั่น”

    “คุณกำลังชวนผมเดทหรอครับ?” ฮีซอลถึงกับสะดุ้งเมื่ออีกฝ่ายปล่อยหมัดฮุกเสียจนตั้งตัวไม่ทัน ไอ้ตี๋นี่ไม่ใช่ย่อยๆเหมือนกันแฮะ แต่ก็ดี...พอฟัอพอเหวี่ยงแบบนี้เขาชอบ

    “แล้วตกลงว่าไง?”

    “ก็โอเคนะถ้า...คุณจะเป็นไกด์ให้ผม”

    “แต่ก่อนอื่น....”

    “ขอวิ่งอีกซักสองรอบก่อนนะครับ”




    โอ้ยยย อึด! นี่แหละสเป็ก!












    โซลมีอะไร มากกว่าที่คุณคิดนะ

    **อมยิ้ม**









    ฮ่า~







    แต่งอะไรออกไป? **นั่งขำ**
    ไม่เคยเขียนทีเดียว 6 คู่แบบนี้เลยนะ
    นี่ถ้าไม่ฮึดเพราะเอสเจได้ 3 รางวัลจาก Golden Disk นี่ไม่มีแรงเขียนต่อนะเนี่ย
    โอย...งานนี้ซีวอนหล่อเกินไปแล้ว
    ส่วนฮยอกแจสวยค่ะ พี่ทึกนี่ยิ่งสวยยยยยยย **ปล้ำพี่ทึก**

    ลองกลับไปอ่านดูแล้วรู้สึกว่า...
    กรี๊ดโฮกฮากกับคิเฮ แล้วก็คยูมินมาก

    ไรท์เตอร์เมนวอนฮยอกนะเฮ้ย -*-
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×