ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SJ] What's the hell happened!! [WonHyuk]

    ลำดับตอนที่ #2 : What's the hell happened!! # 2

    • อัปเดตล่าสุด 11 ต.ค. 51


    กระดาษสีขาวแผ่นเล็กถูกแปะเอาไว้ที่หน้าล็อคเกอร์เก็บของ เจ้าของถึงกับผ่อนลมหายใจแรงๆ มันเป็นแบบนี้ซ้ำๆมาเกือบอาทิตย์แล้วนะ มือเรียวดึงกระดาษเจ้าปัญหาออกมาขยำทิ้งแล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันจะอะไรก็แค่ข้อความไร้สาระ




    ‘ไปตายซะ!’




    มันก็ไม่ได้มีแค่ข้อความหรอก มีพวกของขวัญนรกๆเหมือนกัน อย่างพวกตุ๊กตาไก่หัวขาดมีเลือดอาบตัว รวมทั้งกระดาษเขียนข้อความสาปแช่งที่ได้รับแทบไม่ซ้ำในแต่ละวัน มันเหมือนที่พวกผู้หญิงเขากลั่นแกล้งกันในการ์ตูนญี่ปุ่นที่เขาเคยแอบหยิบของพี่โซรามาอ่านตอนเด็กๆไม่มีผิด แต่นั่นมันแกล้งนางเอกไม่ใช่หรอ? แล้วมันใช่เรื่องหรือที่เขาซึ่งเป็นถึงศูนย์หน้าทีมฟุตบอลของโรงเรียนจะต้องมาโดนอะไรแบบนี้

    นั่งคิดแทบตายว่าตัวเขาไปทำอะไรผิดใจบรรดาคุณสาวๆหรือเปล่า ทำไมถึงคิดว่าผู้หญิงทำหน่ะหรอ? ถ้าผู้ชายเขามีเรื่องกันก็ท้าชกกันไปแล้ว แต่ทำอะไรแบบนี้…ผู้หญิงชัวร์ เหมือนสวรรค์จะเห็นใจคนบริสุทธิ์ ถึงได้ส่งคำตอบมาให้เขาในวันถัดมา




    ‘กล้าดียังไงไปสารภาพรักกับพี่ซีวอน นายมันไม่เหมาะสมเลยซักนิด เจ้าคนหน้าไก่!’




    ถ้าตบผู้หญิงปากแตกนี่…ระดับความเป็นสุภาพบุรุษของเขาจะลดลงไหมนะ? ฮยอกแจชักนอยแล้วนะ! ก็ไม่เถียงหรอกว่าไปตะโกนสารภาพรักหมอนั่นกลางโรงอาหาร แต่นั่นมันเพราะเขาแพ้เกมส์พี่ฮีซอลต่างหาก ซีวอนเองก็เข้าใจแล้ว แต่…แต่หมอนั่นแหละที่มาสารภาพรักเขาอีกครั้ง



    คนที่สารภาพแบบจริงจังคือซีวอน ไม่ใช่เขาเสียหน่อย

    ไปเขียนด่ามันเซ่~!




    “ไปกินรังแตนที่ไหนมาเนี่ย” สองคู่หูปลากระต่ายถึงกับสะดุ้งเมื่อเจอคนรักท่านประธานนักเรียนโยนกระเป๋าลงบนโต๊ะอย่างแรงก่อนจะกระแทกตัวลงนั่งกอดอกฮึดฮัดอยู่คนเดียว

    “ฉันกำลังจะบ้า!” ถอนใจเซ็งๆก่อนหยิบกระเป๋าสอดเข้าใต้ลิ้นชัก แต่มือเรียวกลับไปสัมผัสถูกอะไรบางอย่าง คิ้วเรียวขมวดฉับก่อนจะดึงกระดาษเจ้าปัญหาออกมาดู ยิงลูกโทษให้มันแม่นแบบนี้บ้างสิวะ!




    ‘ขอให้สอบตกทุกวิชา!’




    “กระดาษอะไรหน่ะฮยอกแจ จดหมายรักหรอ?” ซองมินที่เห็นเพื่อนกำลังสนใจกระดาษในมือนักหนาเลยขอมาร่วมแจมด้วย คนถูกถามถึงกับทำหน้าบอกบุญไม่รับก่อนจะยื่นให้เพื่อนสองคนอ่านบ้าง

    “ถ้าบอกรักฉันแบบนี้ ฉันก็ไม่เอาหรอกนะ”

    “เฮ้ย! นี่มันตั้งแต่เมื่อไหร่?!” แช่งกันแบบนี้มานัดชกกันเลยดีกว่า

    “เกือบจะอาทิตย์นึงแล้วตั้งแต่ฉันสารภาพรักซีวอนกลางโรงอาหาร”

    “ซวย…” นั่นเป็นคำอุทานเดียวที่ออกมาจากปากทงเฮ ไก่น้อยถึงกับถอนใจเซ็งกับชีวิตที่ถูกคุกคามจากบรรดานักเรียนหญิงในเงามืดที่ไม่ยอมเปิดเผยตัว เขาต้องเจออะไรแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่

    “ซวยสิ…ซวยตั้งแต่ไอ้ผู้ชายคนแรกที่ก้าวเท้าเข้ามาในโรงอาหารเป็นหมอนั่นนั่นแหละ!”

    “แล้วนี่บอกซีวอนหรือยัง?” กระต่ายน้อยได้แต่ตบหลังปลอบเพื่อน จะว่าสิ่งที่พวกเขาสังเกตได้ตั้งแต่เหตุการณ์สารภาพรักวันนั้นก็คือ…นักเรียนหญิงในห้องมีปฏิกิริยากับฮยอกแจเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด…พูดให้ถูกก็คือผู้หญิงกว่าครึ่งโรงเรียนนั่นแหละ แต่เขากับทงเฮก็ไม่คิดว่าจะมีเรื่องพวกเขียนสาปแช่งเหมือนในละครวัยรุ่นหลังข่าวแบบนี้เกิดขึ้น ฮยอกแจกำลังเจอศึกหนักเข้าเสียแล้ว

    “บอกทำไม? หมอนั่นช่วยอะไรได้”

    “คนเป็นแฟนกัน…”

    “พอๆ ซองมิน” มือเรียวรีบยกขึ้นปรามเพื่อน พูดเรื่องนี้ยิ่งหงุดหงิดเข้าไปใหญ่ ตั้งแต่วันนั้นเขาก็ไม่ได้คุยกับซีวอนอีกเลย เพราะอะไรหรอ? ก็หลบหน้าเจ้าโย่งนั่นอยู่หน่ะสิ ไม่น่าสติหลุดตอนถูกจูบเลย ไม่งั้นคงปฏิเสธคำสารภาพรักนั่นไปแล้ว



    ว่าแต่ทำไมเขาสติหลุดนานจังแฮะ?



    “แล้วนี่ไม่เห็นซีวอนเลย หายไปไหนเสียล่ะ?”

    “เรื่องของหมอนั่นสิ! แต่ไม่มาหน่ะดีแล้ว ฉันยังไม่อยากโดนพวกขัดขาให้ล้มหรือไม่ก็สาดน้ำใส่หรอกนะ” สองสหายพยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดของเพื่อน นักเรียนหญิงโรงเรียนเราใช่ย่อยเสียที่ไหน บทจะโหดก็เล่นพวกผู้ชายหลบมุมเหมือนกัน

    “แล้วนายจะรอรับการ์ดอวยพรนรกๆแบบนี้ต่อไปหรือไง”

    “จะให้ฉันทำยังไงล่ะ? ตัวคนทำเป็นใครก็ไม่รู้…แล้วจะไปเคลียร์กันยังไง? โอ้ย! ปวดหัวเว้ย” ทงเฮมองเพื่อนที่นอนฟุบลงไปกับโต๊ะก่อนจะดีดนิ้วเปาะเมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้

    “โธ่~! เลิกเครียดได้แล้วฮยอกแจ อย่าลืมสิว่าเราอยู่ในกลุ่มผู้ทรงอิทธิพลของโรงเรียน” ไก่น้อยเงยหน้าขึ้นมามองหน้าเพื่อนก่อนเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ฟังอย่างซังกะตาย

    “อะไรทงเฮ?” ซองมินรีบลากเก้าอี้เข้ามานั่งฟังใกล้ๆให้พอได้ยินกันแค่สามคน

    “นายไม่เอะใจหรือว่าทำไมฮยอกแจถึงได้แค่พวกกระดาษสาปแช่งหรือไม่ก็ของขวัญสยองๆ ทั้งที่เมื่อไม่นานมานี้พวกนักเรียนหญิงโรงเรียนเราทำแรงกว่านั้นด้วยซ้ำไป” กระต่ายน้อยนึกตามก่อนจะพยักหน้าเข้าใจทันที ซักสองสามเดือนก่อนมีกรณีแย่งหนุ่มหน้าตาดีกัน แม่เจ้าประคุณตบกันกลางโรงอาหารเลยด้วยซ้ำไป ชามเอย จานเอย ปลิวว่อนไปหมด พวกผู้ชายรอบนอกก็ส่งเสียงเชียร์ยังกับนั่งดูมวยคู่เอก เป็นภาพที่ไม่เจริญตาจริงๆ

    “แล้วยังไง?”

    “อย่าลืมสิว่าฮยอกแจเป็นลูกพี่ลูกน้องกับใคร ตำแหน่งน้องชายพี่อีทึกอดีตประธานนักเรียนก็สามารถช่วยชีวิตเจ้าไก่ได้มากโขอยู่แล้ว ไหนจะยังเป็นลูกรักพี่คังอินกัปตันทีมฟุตบอลโรงเรียนอีก แล้วที่สุดของที่สุด ใครจะกล้าทำร้ายของเล่นสุดรักสุดหวงของพี่ฮีซอล เจ้าแม่ขาวีนที่แม้แต่อาจารย์ยังไม่ค่อยอยากจะยุ่ง”

    “เพราะฉะนั้น…ถ้าอยากจะตัดไฟแต่ต้นลม คนที่ช่วยฮยอกแจได้ดีที่สุดในสถานการณ์แบบนี้คือพี่ฮีซอล รับรองว่า…เรื่องจะเงียบราวกับว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นเลยทีเดียว”

    “อย่าไปรบกวนพี่เขาเลย เรื่องแค่นี้เองปล่อยๆไปเถอะ เดี๋ยวก็คงเลิกไปเอง” มือเรียวปัดไปมาในอากาศก่อนจะดันเพื่อนให้กลับไปนั่งที่เมื่ออาจารย์ประจำชั้นเดินเข้ามาในห้องแล้ว ความจริงมันก็อย่างที่ทงเฮพูดนั่นแหละ ให้พี่ฮีซอลออกโรงนิดเดียวทุกอย่างก็เรียบร้อย แต่เขาก็ไม่อยากให้ถึงมือพี่แกอยู่ดี…พี่ฮีซอลยิ่งไม่เคยยั้งมืออยู่ด้วยกลัวจะเล่นแรงเกินไป ยังไงอีกฝ่ายก็ผู้หญิงล่ะนะ



    ชีวิตฉันต้องวุ่นวายเพราะนายแท้ๆเลยชเว ซีวอน!




    user posted image




    “แล้ววันนี้ไอ้ที่ถืออยู่นั่นนายจะอ่านจบไหม?” เสียงร้องทักจากเพื่อนรักที่พ่วงตำแหน่งรองประธานนักเรียนเรียกสติร่างสูงให้กลับมาอยู่ที่แฟ้มในมืออีกครั้ง คิบอมอมยิ้มก่อนจะเดินมาที่ริมหน้าต่าง สมาชิกในชมรมฟุตบอลกำลังซ้อมกันอย่างขยันขันแข็งโดยมีพี่คังอินคอยยืนกำกับอยู่ข้างสนาม

    “เป็นแฟนกันแล้วไม่ใช่หรอ? ทำไมยังต้องคอยแอบมองอยู่แบบนี้อีกล่ะ?”

    “ก็อยากไปหาอยู่หรอก แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ค่อยอยากเจอหน้าฉันเท่าไหร่” ริมฝีปากได้รูปยกยิ้มบางๆเมื่อร่างเล็กที่เขามองหามานานเริ่มวิ่งเข้ามาในโฟกัสสายตาแล้ว

    “ทำมาเป็นหงอย ตอนนั้นก็ออกจะกล้าไปจูบเขาก่อนนี่”

    “ไม่ต้องมาซ้ำเติม เครียดนะเว้ย” แฟ้มรายละเอียดของแต่ละชมรมถูกโยนส่งๆไปที่โต๊ะใกล้ๆ เนคไทถูกดึงให้คลายออกเล็กน้อยแต่นัยน์ตาคมก็ยังคงจับจ้องไปที่ร่างบางที่วิ่งอยู่กลางสนาม คิ้วเข้มขมวดมุ่นเมื่อฮยอกแจวิ่งไปกระโดดขี่หลังเพื่อนร่วมทีมที่ยิงประตูเมื่อครู่ได้อย่างสวยงาม



    รีบลงมาเดี๋ยวนี้เลยก่อนที่ไอ้หมอนั่นจะไม่มีเงาหัว!



    “แล้วก็มานั่งฮึดฮัดเพราะหึงอยู่บนห้องประธานเนี่ยนะ? โคตรดูดีเลยว่ะเพื่อน” ร่างสูงหันกลับมามองหน้าคนแก้มป่องครู่เดียวก็กลับไปสนใจร่างบางที่สนามต่อ คิบอมได้แต่หัวเราะอยู่ในลำคอ

    “นี่…แฟนนายกำลังมีปัญหา ไม่คิดจะลงไปช่วยหน่อยหรอ?”

    “ปัญหาอะไร?”

    “ถูกพวกสาวๆที่ชื่นชอบนายตามป่วนหน่ะสิ ทั้งข้อความด่าทอ สาปแช่ง เยอะแยะไปหมด” ซีวอนหันขวับกลับมามองคนส่งข่าวทันที ทำไมเรื่องนี้เขาถึงไม่เคยรู้เลย

    “รู้ได้ไงคิบอม?”

    “อย่าลืมสิว่าฉันอยู่ชมรมหนังสือพิมพ์”

    “ตั้งแต่เมื่อไหร่?”

    “ก็ตั้งแต่วันที่ฮยอกแจสารภาพรักกับนาย” นั่นมันเกือบอาทิตย์นึงแล้วไม่ใช่หรือไง

    “แล้วทำไมเพิ่งมาบอกวะ?”

    “ก็ไม่ได้ถามนี่” ณ เวลานี้เขารู้สึกอยากเปลี่ยนคนตรงหน้าเป็นกระสอบทรายขึ้นมาติดหมัด ซีวอนลุกขึ้นจัดเนคไทให้เข้าที่ก่อนจะคว้าสูทนักเรียนที่พาดไว้ที่เก้าอี้มาสวมแล้วเดินออกไปอย่างหงุดหงิด

    “นั่นจะไปไหน ยังไม่เลิกเรียนเลยนะ” ถามด้วยรอยยิ้มเพราะรู้แก่ใจอยู่แล้วว่าท่านประธานนักเรียนกำลังจะไปไหน

    “ไปหาแฟน”




    user posted image




    “วันนี้ดูเนือยๆนะเรา” มือหนาตบไหล่น้องชายที่วิ่งเข้ามาหาน้ำดื่มที่ข้างสนามเบาๆ ฮยอกแจเงยหน้ามองพี่ชายก่อนจะยิ้มแห้งๆ

    “นิดหน่อยครับ…แค่ก!” กระดกน้ำเย็นเข้าไปอึกใหญ่ก่อนจะสำลักออกมาร้อนถึงพี่ชายต้องรีบลูบหลังให้อย่างเป็นห่วง

    “ใจเย็นๆสิ ไม่มีใครมาแย่งกินหรอกหน่า” เอ่ยอย่างเอ็นดูก่อนจะนึกเอะใจเมื่อสายตาน้องรักไม่ได้อยู่ที่เขา คังอินจึงหันไปมองข้างหลังแล้วก็ถึงบางอ้อ ริมฝีปากได้รูปยกยิ้มเจ้าเล่ห์จนฮยอกแจหน้ามุ่ย

    “พี่ไม่ต้องแซวอะไรทั้งนั้นเลยนะ ผมซีเรียส” คว้าผ้าขนหนูผืนเล็กในมือพี่ชายมาเช็ดหน้าแล้วทำท่าจะวิ่งลงสนามต่อ แต่กลับถูกซีวอนคว้าแขนเอาไว้เสียก่อน

    “ไม่เห็นหรือไงว่าฉันกำลังซ้อม” หันมาบอกคนตัวสูงด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด อุตส่าห์หลบมาเกือบทั้งอาทิตย์นึกว่าจะรู้ตัวแล้วห่างกันออกไปแท้ๆ วันนี้เกิดบ้าอะไรถึงลงมาหาเขาที่สนามเนี่ย

    “เรามีเรื่องต้องคุยกัน” เอ่ยเสียงเรียบก่อนจะดึงคนตัวเล็กให้เข้าไปที่ห้องชมรมฟุตบอลที่อยู่ไม่ไกลนัก สมาชิกหลายคนทำท่าจะตามไปช่วยเพราะเห็นฮยอกแจดิ้นไม่ยอมท่าเดียว แต่คังอินก็ยกมือปรามให้ทุกคนกลับไปซ้อมต่อพร้อมกับประโยคที่ใครฟังแล้วก็ต้องสะอึก

    “มันเรื่องส่วนตัวของเขา พวกแกจะเสนอหน้าเข้าไปทำไม”




    user posted image




    “อะไรของนายเนี่ย! เห็นฉันเป็นตัวอะไรจู่ๆอยากจะลากก็ลากมา มาชกกันเลยดีกว่ามา!” ฮยอกแจโวยวายลั่นหลังจากถูกปล่อยให้เป็นอิสระ คนบ้าอะไรแรงเยอะชะมัด กีฬาอะไรก็ไม่เห็นจะเคยเล่นแต่ทำไมกลับลากเขาได้ง่ายขนาดนี้เนี่ย

    “ถ้าไม่ทำแบบนี้แล้วจะได้คุยกันไหม?” คว้าแขนเรียวไว้ก่อนที่จะคนตัวเล็กจะวิ่งออกไปนอกห้อง สุดท้ายก็เลยต้องออกแรงกระชากให้มานั่งตักแล้วกอดเอาไว้โดยไม่สนว่าคนในอ้อมกอดจะดิ้นปัดๆขนาดไหน

    “ปล่อยนะเว้ย! ฉันไม่ใช่ผู้หญิงนะถึงได้มาทำอะไรแบบนี้” ว่าพลางแกะมือหนาออกจากเอวตัวเองแต่ก็ดูจะยากเหลือเกิน นายเป็นปลาหมึกกลับชาติมาเกิดหรือไงเนี่ย ชเว ซีวอน!

    “ฉันไม่เคยให้ผู้หญิงนั่งตัก นายเป็นคนแรก” มือที่กำลังจะแงะแขนอีกฝ่ายออกถึงกับชะงักเมื่อได้ยินประโยคเมื่อครู่ นึกโกรธตัวเองที่จู่ๆก็ร้อนไปทั้งหน้าเพราะคำพูดของคนที่ขังเขาเอาไว้ด้วยอ้อมกอดตอนนี้

    “นั่นมันคนละเรื่องแล้ว! จะคุยอะไรก็คุยแต่ไม่ต้องทำแบบนี้” สุดท้ายซีวอนก็ยอมปล่อยคนตัวเล็กแต่โดยดี ฮยอกจึงถอยไปยืนพิงตู้ล็อคเกอร์แล้วกอดอกมองร่างสูงที่นั่งยิ้มอยู่ที่ม้านั่งกลางห้อง เพียงครู่เดียวใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มนั้นก็เปลี่ยนเป็นเครียดขรึมเสียจนไก่น้อยขยับตัวอย่างอึดอัด อย่ามาเก็กขรึมแถวนี้นะเว้ย…เขาทำอะไรให้ไม่พอใจอีกแล้วล่ะเนี่ย

    “ทำไมไม่บอกฉันเรื่องข้อความพวกนั้น”

    “รู้ด้วยหรือไง?!” เออ…ดี รู้แล้วไม่คิดจะช่วย ปล่อยให้เขาหัวเสียกับเรื่องบ้าๆนั่นคนเดียวอยู่ได้ตั้งนาน

    “ฮยอกแจ…เราเป็นแฟนกันนะ มีเรื่องอะไรนายก็ต้องบอกฉันสิ” คนฟังถึงกับอ้าปากพะงาบๆ นี่พูดออกมาได้ไม่อายปากเลยนะ ใครเป็นแฟนนายกันห๊ะ?!

    “เราไม่ได้…!...” แย้งออกมายังไม่ทันจบประโยคก็ดันเกิดอาการพูดไม่ออกขึ้นมาเสียอย่างนั้น ซีวอนมองท่าทางนั้นอย่างอารมณ์ดีก่อนจะถามกลับเสียงนุ่ม

    “ไม่ได้อะไร?”

    “ไม่ได้…” ไม่ได้เป็นแฟนกัน! ประโยคแค่นี้ทำไมพูดไม่ออกว๊า! อี ฮยอกแจ ไอ้ไก่ติดอ่าง! ไอ้บ้า!

    “หืม…ว่าไงนะ?” ไอ้หน้าหล่อนี่ได้ทีแล้วต้อนใหญ่เชียว คนมันพูดไม่ออกเข้าใจกันบ้างเซ่~!

    “แล้วนายไม่คิดจะจัดการอะไรบ้างหรือไง ผู้หญิงพวกนั้นแฟนคลับนายนะ!” เมื่อทำยังไงก็พูดไม่ออกฮยอกแจจึงแถออกไปอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งซีวอนก็ไม่คิดจะแกล้งต่อเพราะกลัวสุดที่รักจะหัวเสียไปมากกว่านี้

    “ฉันจะประกาศลงหนังสือพิมพ์โรงเรียนว่าเราคบกันดีไหม?” พระเจ้าครับหัวใจลูกไก่ตัวน้อยๆอย่างผมกำลังจะหยุดเต้น ไอ้บ้านี่เอาอะไรมาคิด อ๊ากกกกกกกกกกกกกก

    “ห้ามทำแบบนั้นเด็ดขาดนะ!”

    “ทำไมล่ะ? ก็มันเรื่องจริง ฉันไม่ได้กุข่าวเสียหน่อย” อย่ามาทำหน้าซื่อๆใส่ฉันนะเว้ย ไม่ขำเลย…ไม่ขำ!!

    “มันเรื่องจริงที่ไหนกัน?! ก็บอกแล้วไงว่าพี่ฮีซอลสั่งให้ฉันพูด”

    “ฉันว่าวันนั้นฉันพูดชัดแล้วนะ ฉันขอนายคบซึ่งนายก็ไม่ได้ปฏิเสธ เพราะฉะนั้นถือว่าเป็นการตกลง”

    “นั่นเพราะนายจูบปากฉันต่างหากเล่า!” แหวขึ้นมาเสียงดังก่อนจะก้มหน้างุดเมื่อสบกับนัยน์ตาคมที่ฉายแวววิบวับทันทีที่เขาพูดจบ อย่าทำเป็นส่งสายตากินความนัยใส่ฉันนะไอ้คนตัวสูง ไม่เคลิ้มเว้ย…ไม่เคลิ้ม!

    “งั้นวันนี้ฉันยังไม่ได้จูบนาย เพราะฉะนั้นลองพูดมาสิว่าตกลงจะคบกับฉัน” ลุกขึ้นเดินเข้าไปใกล้ก่อนจะกางแขนคร่อมดักทางลูกไก่ตัวน้อยเอาไว้ ฮยอกแจตีหน้ายุ่ง

    “มันเรื่องอะไรที่ฉันต้องพูดแบบนั้น!”

    “งั้นก็แค่พูดว่าไม่…แล้วทุกอย่างจะจบทันที” อ้อมกอดคลายออกอย่างรวดเร็วจนอดใจหายไม่ได้ ริมฝีปากบางเม้มแน่น ซีวอนเองก็เปิดทางให้เขาขนาดนี้แล้วทำไมไม่รีบคว้าเอาไว้นะ?



    มันก็อยากจะคว้าอยู่หรอก แต่มันพูดไม่ออกนี่สิ ทำไงดี?



    “แค่นายพูดออกมาเท่านั้นฮยอกแจ…ใช่หรือไม่ใช่?” ซีวอนยังคงต้อนลูกไก่ตัวน้อยไปเรื่อยๆ ร่างสูงรู้สึกใจชื้นขึ้นมานิดหน่อยเมื่อเห็นอาการลังเลฉายออกมาอย่างชัดเจนจากคนตรงหน้า

    “แล้วคิดเอาเองไม่ได้หรือไง! เห็นใครๆเขาก็ชมกันให้ทั่วว่าฉลาด”

    “โอเค…เราเป็นแฟนกัน” คนฟังถึงกับถลึงตาใส่ นี่เขาเรียกว่าฉลาดแล้วหรือเนี่ย มาตั้งสังเวียนชกกันเลยดีกว่ามา!

    “เฮ้ย! แล้วที่ฉันอุตส่าห์หลบหน้านายมาตลอดอาทิตย์นี่มันเพื่ออะไรกันห๊ะ!”

    “นายคงเขิน ฉันเข้าใจ” ตอบพร้อมกับทำสีหน้าเข้าใจเสียเต็มประดา นึกอยากจะแปลงร่างเป็นไก่ยักษ์แล้วจิกๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จิกให้ตายไปเลย หมั่นไส้คนหลงตัวเองเว้ย!

    “เขินบ้าอะ…!...” ริมฝีปากบางรีบหุบฉับเมื่อใบหน้าคมยื่นเข้ามาใกล้จนริมฝีปากแตะกัน ฮยอกแจเม้มปากแน่นหลับตาปี๋ จะยื่นหน้าเข้ามาทำไมเนี่ย

    “ขอจูบหน่อยไม่ได้หรอ” คนถูกถามถึงกับส่ายศีรษะเร็วๆทั้งที่ไม่ยอมลืมตาด้วยซ้ำ ซีวอนมองอาการนั้นอย่างนึกเอ็นดู มือหนาเชยคางร่างบางให้เชิดขึ้น ปลายนิ้วโป้งกดเบาๆที่ริมฝีปากล่างซึ่งทำให้ฮยอกแจเผยอริมฝีปากรอรับจุมพิตโดยไม่รู้ตัว

    “ไม่ต้องกังวลเรื่องอะไรทั้งนั้น เดี๋ยวเรื่องทุกอย่างฉันจะเคลียร์ให้เรียบร้อยเอง แต่ขอค่าเหนื่อยล่วงหน้าก่อนแล้วกันนะ” เร็วเกินกว่าที่สมองไก่ตัวน้อยๆจะคิดอะไรได้ทัน ริมฝีปากได้รูปก็โฉบลงมาทาบทับกลีบปากบางเสียสนิท ฮยอกแจดิ้นขลุกขลักอยากจะดันอีกฝ่ายให้พ้นตัวหากก็ทำไม่ได้เมื่อมือหนาวางซ้อนท้ายทอยเขาเอาไว้พร้อมปรับองศาการจูบให้แนบแน่นขึ้น รสจูบในแบบที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนในชีวิตทำเอาขาเรียวอ่อนแรงจนแทบทรงตัวไม่อยู่ หากไม่ได้อ้อมกอดของซีวอนป่านนี้เขาอาจจะลงไปกองกับพื้นแล้วก็ได้ แขนเรียวไต่โอบไหล่กว้างโดยอัตโนมัติแต่แล้วก็ต้องสะดุ้งตกใจเมื่อจู่ๆก็มีแสงไฟสว่างวาบขึ้นมาพร้อมกับเสียงกดชัตเตอร์ซึ่งร่างสูงเองก็ถอนริมฝีปากออกอย่างรวดเร็วแล้วหันไปทางประตูชมรม

    “อะ…อะไร ซีวอน?”

    “มีคนแอบถ่ายรูปเรา”

    “อะไรนะ!!”





    พระเจ้าครับ…ได้โปรดเอ็นดูผมหน่อยเถอะครับ






    TBC.


    เรื่องนี้มันมาแบบเหนือเมฆ พลอตก็เลยเหนือเมฆ

    พลอตมันดิ้นได้ทุกเวลา คิกๆ ((หัวเราะทั้งน้ำตา))

    **เผ่นแผล็ว~**



    ย้ำอะเกน

    ขอฝากบอร์ดฟิคซักบอร์ด เอาฟิคไปลงไว้เยอะมาก อยากหาคนไปลงฟิคด้วย -*-

    http://fixland.19.forumer.com

    ไปเยี่ยมกันบ้างนะคะ ~~!!!

    สำหรับใครที่รอเรื่อง After Sensitive เตรียมได้เลยนะคะ  จัดให้~!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×