ลำดับตอนที่ #15
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : What the hell happened!! # 13
Title :: What the hell happened!!
Part :: 13
Pairing :: WonHyuk
Author :: kobamura
Rating :: PG-13
Author’s Note :: เรื่องทุกอย่างก็เป็นเพียงเหตุการณ์สมมติขึ้นเท่านั้น อ่านเพื่อความบันเทิงนะคะ
เอ่อ...คือว่า...ลืมไปว่ายังไม่ได้เอาฟิคมาลง =w=
กลายเป็นเรื่องน่าแปลกใจสำหรับบรรดานักเรียนที่จับกลุ่มกันอยู่ในโรงอาหารเมื่อเห็นศูนย์หน้าทีมฟุตบอลที่หลังจากงานประกวดมิสบิวตี้ก็อัพเลเวลความน่ารักพุ่งติดเพดานจนเริ่มมีแฟนคลับกลุ่มผู้ชายเป็นของตนเองเดินมากับชายหนุ่มแปลกหน้าที่สำคัญยังไร้ซึ่งวี่แววของประธานนักเรียนสุดหล่ออย่างทุกครั้ง
เหล่าบรรดาแมงเม้าท์เริ่มบินออกจากรังมารวมตัวกันทันที ยังไม่ทันจะจบหัวข้อสนทนาแรกหัวข้อที่สองตามมาอย่างรวดเร็วแบบติดจรวดเมื่อซีวอนเดินเข้ามาในโรงอาหารพร้อมกับหญิงสาวท่าทางทะมัดทะแมงคนหนึ่งส่งผลให้แรงเม้าท์ทะยานขึ้นฟ้ายิ่งกว่าจุดบั้งไฟตะไลยักษ์ ซือเหวินเห็นแล้วก็ไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไป
“คู่นี้เค้าหวานกันดีเนอะ บอกแล้วว่าระยะทางมันไม่ใช่อุปสรรคสำหรับความรัก” คนฟังได้แต่นั่งเงียบ ขนมปังเนื้อนิ่มที่กำลังเคี้ยวอยู่ในปากกลับแข็งกระด้างจนเคี้ยวไม่ออกขึ้นมาเสียอย่างนั้น
“น้องฮยอกแจเป็นอะไรไปครับ?” เมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่ได้ตอบโต้อะไรมา ชายหนุ่มจึงสะกิดเรียกเบาๆซึ่งก็ได้รอยยิ้มแห้งๆกลับมา
“วันนี้คงซื้อขนมปังมาผิดรสหน่ะครับ ก็เลยไม่อร่อยเท่าไหร่”
“งั้นพี่ไปซื้อมาให้ใหม่นะครับ” ชายหนุ่มกำลังจะลุกขึ้นแต่ก็ต้องชะงักเมื่อมีแขกมาเยือนถึงที่ ซือเหวินยิ้มให้เอลล่าก่อนจะทักทายตามประสาคนรู้จักกัน
“เป็นไงเอลล่า หน้าสดชื่นมากเลยนะเนี่ยความรักกำลังไปได้ดีสิเนี่ย”
“ก็ดี แฟนฉันน่ารักอยู่แล้ว” เมื่อหญิงสาวตอบคำถามเหมือนเล่นด้วย ชายหนุ่มจึงชวนให้ทั้งคู่นั่งร่วมโต๊ะด้วยกัน ยิ่งเห็นสีหน้าที่ไม่อยากจะอยู่ตรงนี้ของน้องชาย เขาก็ยิ่งอยากให้อยู่ ดูดีๆแล้วกันเดี๋ยวพี่จะสวีทให้ดูเป็นขวัญตา
“เดี๋ยวพี่ไปซื้อขนมปังมาให้ใหม่นะครับ” เอื้อมมือไปกุมมือเรียวก่อนจะลอบยิ้มเมื่อฮยอกแจไม่ชักมือกลับเหมือนทุกครั้ง ซือเหวินเดินออกไปจากตรงนั้นอย่างอารมณ์ดี ส่วนซีวอนก็เดินไปนั่งโต๊ะที่อยู่ห่างออกไป เอลล่ามองสิ่งที่เพื่อนทำอย่างขัดใจก่อนจะนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับฮยอกแจแล้วฉีกยิ้มหวานผูกมิตรเต็มที่
“สวัสดีฉันชื่อเอลล่า นายชื่อฮยอกแจใช่ไหม?” หญิงสาวเอ่ยทักตามประสาคนอัธยาศัยดี ถ้าเป็นปกติฮยอกแจคงจะยิ้มรับและคุยกันอย่างถูกคอ แต่ตอนนี้บอกตามตรงว่าเขาไม่มีอารมณ์จะทำความรู้จักกับใคร หรือบางที...อาจจะเฉพาะกับผู้หญิงคนนี้ก็ได้
อย่ามาอมยิ้ม! เขาไม่ได้หึง!
“เอาล่ะ...ฉันเองก็ไม่ใช่คนอ้อมโลก เพราะงั้นจะพูดตรงๆเลยนะ”
“..................” หน่วยกล้าตายหมายเลขหนึ่งของทีมกามเทพถอนใจเบาๆเมื่ออีกฝ่ายมีท่าทีเงียบใส่ พูดกับคนใบ้มันไม่ใช่เรื่องสนุกเลยนะเนี่ย
“ฉันไม่รู้หรอกนะว่าหมอนั่นจะพูดอะไรกับนายมาบ้าง” บุ้ยปากไปทางคนที่กำลังยืนต่อแถวซื้อขนมปังอยู่ที่ร้านค้าก่อนจะเอ่ยเข้าประเด็น
“แต่ฉันกับซือหยวนไม่ได้เป็นแฟนกัน เราเป็นแค่เพื่อนที่ดีต่อกัน” เมื่อเห็นอีกฝ่ายเริ่มจะเปลี่ยนจุดรวมสายตาจากขนมปังในมือมาที่ตัวเอง เอลล่าก็เริ่มใจชื้นมากขึ้น
“คือว่า...เมื่อกี้ซือหยวนพาฉันไปแวะร้านขนมหน้าโรงเรียนมา เขาเอาแต่ยืนจ้องนมกล่องนี้ที่ตู้แช่แต่ก็ไม่ยอมหยิบซักที ฉันอยากรู้ก็เลยแอบซื้อมา” เลื่อนกล่องนมสตรอเบอรี่สีสันสดใสมาตรงหน้าก่อนจะเอ่ยต่อ
“จากการเป็นเพื่อนหมอนั่นมานานหลายปี ซือหยวนชอบกินนมช็อคโกแลตหรือไม่ก็กาแฟไปเลย ส่วนฉันก็ชอบกินนมกล้วย นายพอจะรู้ไหมว่าใครชอบกินนมรสนี้” เมื่อเห็นแก้มเนียนเริ่มซับสีระเรื่อก็ยิ่งมีกำลังใจจะบุกต่อ
“ซือหยวนเคยเล่าความลับอย่างหนึ่งให้ฉันฟัง” ร่างบางเงยหน้ามองคู่สนทนาทันทีแต่ก็ต้องแปลกใจเมื่ออีกฝ่ายไม่ได้เอ่ยอะไรต่อนอกจากยื่นกระดาษสีขาวแผ่นเล็กให้
“นายจะรู้ด้วยตัวเองฮยอกแจ แล้วก็...มีคนฝากมาให้อีกอย่าง” ยื่นกระดาษอีกใบให้แต่คราวนี้เป็นกระดาษสีแดง ฮยอกแจจึงเก็บกระดาษสีขาวใส่กระเป๋าก่อนจะอ่านกระดาษแผ่นสีแดงก่อน คิ้วเรียวขมวดมุ่นเมื่อจำได้ว่านี่คือลายมือของทงเฮผสมกับลายมือซองมิน
พวกนี้เล่นอะไรกัน?
...จงนิ่งอย่าไหวติง มองอย่างสงบ แล้วจะพบความจริง...
“เอาเป็นว่าตามนี้นะ ส่วนกระดาษอีกใบเก็บไว้ดีๆล่ะ” หญิงสาวส่งยิ้มผูกมิตรมาให้อีกครั้งก่อนจะเดินไปสะกิดให้ซีวอนลุกขึ้นเดินตามไป แต่แล้วร่างสูงก็ต้องชะงักเมื่อมีเสียงเรียกข้อความเข้า ริมฝีปากได้รูปยกยิ้มได้อย่างเต็มที่ในรอบหลายวัน
-MU-
ปลายนิ้วพิมพ์ตอบกลับไปอย่างรวดเร็วก่อนจะเดินตามเพื่อนสาวออกไปจากโรงอาหาร เสียงแมงเม้าท์ฮือฮากับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่จะมีใครรู้ดีไปกว่าเจ้าของโทรศัพท์มือถือที่กำลังนั่งอมยิ้มมองข้อความเข้าของตัวเองอยู่
-MUT-
ขนมปังถ้ารสชาติมันแย่นักลองแก้ด้วยนมสตรอเบอร์รี่ซักกล่องก็พอใช้ได้ล่ะนะ
“อรุณสวัสดิ์” เสียงทักของผู้มาใหม่เรียกให้สองคนที่กำลังจัดการกับมื้อเช้าของตัวเองเงยหน้าขึ้นมอง ฮยอกแจได้แต่ขมวดคิ้วสงสัยว่าทำไมวันนี้ถึงมีแต่คนพาเหรดเข้ามาหาเขานักนะ? แต่พอเห็นสายตาของรุ่นพี่คนสวยก็เลยเอะใจนึกไปถึงข้อความในกระดาษสีแดง เขาเลยได้แต่เก็บอาการไว้ตามที่บอก
“เพื่อนเราหรอฮยอกแจ? พี่ไม่เห็นคุ้นหน้าเลย” โปรยยิ้มหวานใส่ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ก่อนจะถือวิสาสะนั่งลงข้างๆ ซือเหวินถึงกับมองตาปรอยเมื่อเจอคนงามในระยะประชิดตัว โรงเรียนนี้ทำไมมีแต่คนสวยนะ?
“พี่ซือเหวินหน่ะครับ เป็นพี่ชายของซีวอน” นางพญาพยักเข้าใจแล้วหันไปทักทายชายหนุ่มที่นั่งข้างๆด้วยไมตรี
“ผมคิมฮีซอลเป็นรุ่นพี่ของฮยอกแจ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ” สองสายตาประสานกันอย่างมีความหมาย คนระดับเพลย์บอยอย่างซือเหวินทำไมจะดูไม่ออกว่าคนงามส่งสายตาแบบไหนมาให้เขา
เชิญชวนและ...ยั่วยวน
“เช่นกันครับ” ฮีซอลนั่งคุยสัพเพเหระกับทั้งสองอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะขอตัวไปที่ชมรมเพราะมีซ้อมการแสดงตั้งแต่เช้า ชายหนุ่มรู้สึกถึงแรงแตะเบาๆที่ต้นขาก่อนจะอมยิ้มเมื่อเห็นคนที่จากไปฝากอะไรเอาไว้กับเขา
เบอร์โทรศัพท์
ร่างบางทิ้งตัวลงนอนกับเตียงพลางคิดถึงสิ่งที่เกิดกับตัวเองมาตลอดทั้งวันไม่ว่าจะเป็นคำพูดของเอลล่า ข้อความในกระดาษสีแดง ท่าทีของพี่ฮีซอลที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าสนใจพี่ซือเหวินและถ้าเขาไม่คิดไปเองเขารู้สึกว่าพี่ชายคนจีนของเขาก็อยากจะเล่นด้วยเหมือนกัน แต่คงติดอยู่ที่เขานั่งหัวโด่อยู่ตรงนั้น
หากถามว่าน้อยใจหรือเสียใจไหม? เขาค่อนข้างแปลกใจที่ตัวเองไม่ได้รู้สึกอะไรเลยด้วยซ้ำ คิดแล้วก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าที่เขาเฝ้าคิดถึงและจมปรักอยู่กับการรอคอยมาตลอดห้าปีมันคืออะไรกัน? และ...เพื่ออะไร?
ร่างบางดีดตัวลุกขึ้นนั่งก่อนจะหยิบกระดาษแผ่นเล็กที่เอลล่าให้เขามาตั้งแต่เข้า พอเปิดออกดูก็ไม่เห็นจะมีอะไรนอกจากคำจีนสองคำ
แต่ถึงจะเป็นคำที่เขาไม่รู้ความหมายแต่เขาก็จำคำสองคำนี้ได้ดี มือเรียวคว้ากรอบรูปตรงหัวเตียงมาดู นำคำในกระดาษมาเทียบกับคำลงชื่อในการ์ดที่เขาเก็บไว้อย่างดี แล้วก็ไม่ผิด...มันเป็นคำเดียวกัน
“แล้วเอลล่าจะให้ชื่อพี่ซือเหวินมาทำไม?” บ่นกับตัวเองเบาๆก่อนจะนึกไปถึงเหตุการณ์เมื่ออาทิตย์ก่อนที่ซีวอนขึ้นมาหาเขาบนห้องแล้วเอาแต่ยืนจ้องการ์ดแสนรักของเขาด้วยสีหน้าที่เดาไม่ออก
‘สิ่งเดียวที่ยึดฉันไว้กับพี่ชายหน่ะ’
‘หรอ...นั่นของพี่ชายที่นายรักเขาหนักหนาหรอ?’
“หรือว่า...” ลุกพรวดวิ่งไปที่โต๊ะเขียนหนังสือแล้วค้นกระเป๋าหยิบโทรศัพท์มือถือออกมากดโทรหาคนที่แทบจะไม่ได้คุยกันเลยตั้งแต่พี่ซือเหวินมา แต่แล้วก็ต้องเปลี่ยนใจกดตัดสายแล้วโทรไปหาอีกคนเพราะเขายังหาคำเริ่มต้นบทสนทนากับซีวอนในตอนนี้ไม่ได้
[ว่าไงจ๊ะน้องรัก]
“พี่โซรา...” นานๆทีจะได้ยินเสียงพี่สาวที่ไปเรียนต่อโทอยู่ที่ต่างประเทศ น้ำตาก็พาลรื้นขึ้นมาเสียเฉยๆ ปลายสายอุทานอย่างตกใจเมื่อน้องชายเป่าปี่ใส่เสียอย่างนั้น
[คนดีของพี่เป็นอะไร ซีวอนแกล้งอะไรน้องพี่งั้นหรอ?] ระหว่างเขากับพี่โซราไม่เคยมีความลับต่อกัน ทั้งเรื่องของพี่ชายคนจีนหรือแม้แต่เรื่องของซีวอน พี่โซราก็รับรู้แล้วคอยเป็นที่ปรึกษาให้เขาเสมอ ครั้งนี้ก็เช่นกันที่เขาระบายทุกอย่างให้พี่สาวที่น่ารักฟังอีกครั้ง โซราเองก็เป็นผู้ฟังที่ดี หล่อนรอให้น้องชายเล่าทุกอย่างจนจบก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
[ฮยอกแจ...]
“ครับ?”
[เราจำไม่ได้จริงๆหรอว่าซีวอนกับซือหยวนคือคนๆเดียวกัน]
“เอ๋?”
[จำตอนที่บ้านคุณลุงชเวมาพักร้อนที่บ้านเราได้ไหม? น้องพี่จำไม่ได้หรือว่าคุณลุงชเวท่านพาลูกชายมาสองคน]
“ไม่ใช่พี่ซือเหวินคนเดียวหรอครับ?” ถามออกไปอย่างใจคิด นี่เขาหลงลืมอะไรที่สำคัญไปหรือไงนะ
[สองคนต่างหากเจ้าตัวเล็ก เราจำเด็กผู้ชายแว่นหนาๆที่พี่ชอบเข้าไปคุยด้วยได้ไหม คนที่ชอบชงโกโก้มาให้เราทุกเช้า แถมก่อนกลับยังเอาการ์ดใบเล็กๆวิ่งมาให้เราด้วยไง นั่นแหละ...ซือหยวน]
“ผม...” ความรู้สึกผิดถาโถมเข้ามาจนพูดอะไรไม่ออก ความทรงจำเกี่ยวกับเด็กชายท่าทางแปลกๆคนนั้นกลับเข้ามาในความคิดอีกครั้ง ซึ่งเขาได้ทำร้ายจิตใจของเด็กผู้ชายคนนั้นโดยไม่ตั้งใจเข้าไปเสียแล้ว
‘นายเอามาให้ฉันหรอ?’ มือเล็กๆรับแก้วเซรามิกลายลูกเจี๊ยบมาถือไว้ก่อนจะเงยหน้ามองคนที่ยืนถูมือไปมาอยู่ตรงหน้า เด็กแว่นนี่ขี้อายชะมัด
‘อืม!’
‘ใครฝากมา? พี่ซือเหวินใช่ไหม?’
‘คือ...’
‘พี่ซือเหวินนี่น่ารักจริงๆเลย รู้ด้วยว่าฉันชอบกินโกโก้รสชาตินี้’
‘ขอบคุณที่เอามาให้นะแว่น!’
‘การ์ดนี่พี่ซือเหวินฝากมาให้ใช่ไหม?’ เอ่ยถามเด็กแว่นที่ยืนหอบอย่างดีใจเมื่ออีกฝ่ายส่งการ์ดใบเล็กมาให้
‘คือ...’
‘ฝากบอกพี่ซือเหวินด้วยนะว่าฉันจะเก็บรักษาอย่างดี’
‘ขอบใจมากนะแว่น!’
[ตัวเล็ก...] ปลายสายเอ่ยเรียกอย่างเป็นห่วงเมื่อน้องชายเอาแต่สะอื้น อยากจะไปหาแต่ระยะทางก็ไกลกันคนละซีกโลก พี่จะทำยังไงดีนะ
“ผม...ผมคิดว่าพี่ซือเหวินชงโกโก้ให้ผมกินตลอด ผมคิดว่าเจ้าของการ์ดใบนั้นคือพี่ซือเหวิน ผมไม่เคยรู้เลยว่าทุกอย่างที่ทำให้ผมจดจำมาตลอดคือสิ่งที่ซีวอนทำไม่ใช่พี่ซือเหวินเลย ”
[พี่นึกว่าซีวอนบอกเราแล้วเสียอีก]
“ซีวอนไม่เคยบอกอะไรผมเลย เขาพูดกับผมอย่างเดียวว่าจะรอผม ”
‘ฉันมีคนที่ฉันรักอยู่แล้ว ฉันรอเขาอยู่ ถ้านายคิดจะจริงจังกับฉัน ต้องขอโทษจริงๆ ฉันรับความหวังดีของนายไม่ได้จริงๆ’
‘รอ? นายจะรอเขาถึงเมื่อไหร่’
‘จนกว่าเขาจะเป็นฝ่ายมาบอกเลิกฉันเอง ’
‘ฮยอกแจ ’
‘ฉันรักเขาจริงๆนะซีวอน ขอโทษที่บางครั้งฉันอาจจะเผลอใจไปกับนายบ้าง เพราะความอ่อนโยนของนายมันทำให้ฉันนึกถึงเขา มันทำให้ฉันเห็นนายเป็นเขา!’
‘ฉันจะรอ ’
‘ฉันจะรอนาย อย่างที่นายรอเขา’
‘บ้าหน่า!’
‘ขอให้ฉันได้รับรู้ความรู้สึกของนายบ้างนะ ความรู้สึกของการรอคอย คนที่รัก’
‘ฉันจะไม่ร้องขอให้นายรักฉัน แต่ฉันขอ ขอแค่ได้ดูแลนายอยู่ข้างๆก็พอแล้ว’
นายทนความรู้สึกแบบนั้นได้ยังไงกันนะซีวอน
หัวใจของนายทนได้ยังไงกัน...บอกฉันที
[คงเพราะเรายึดติดกับซือเหวินมั้ง ซีวอนเลยไม่กล้าบอกความจริง]
“.........”
[ตอนนี้น้องพี่เข้าใจอะไรมากขึ้นแล้วใช่ไหม? คนฉลาดอย่างน้องของพี่โซราคงจะคิดได้แล้วว่าจะต้องทำยังไง จริงไหมจ๊ะ?]
“ครับ”
[เด็กดี...พี่หวังว่าครั้งต่อไปพี่จะได้ยินเรื่องดีๆจากเรานะ]
[ฝันดีนะจ๊ะน้องรัก] ร่างบางมองโทรศัพท์ในมือพลางถอนใจเฮือกใหญ่ มือเรียวคว้ากรอบรูปที่หัวเตียงมาดูอีกครั้ง หากครั้งนี้สายตาที่มองการ์ดใบนั้นเปลี่ยนจากทุกที
เจ้าบ้า...นายทำฉันเสียศูนย์ไปตั้งห้าปี ฉันจะเอาคืนแบบทบต้นทบดอกเลยคอยดู!
TBC.
สั้นไปไหนตอนนี้?
อ่า...ก็เค้าแบ่งตอนนี้มาแบบนี้นี่นา **นิ้วจิ้มกันจึ้กๆ**
คือว่า...ปอลืมแหละว่ายังลงเฮลไม่จบ =w=
ขอโทษด้วยนะคะ
ปล. ตอนหน้าจบ คึคึ~
ปะแอะ~!
ตอนจบเอาเมื่อไหร่ดี? อีก 4 วันดีไหม? (พอดีชอบเลข 4 คนเกิดวันที่ 4 ก็ชอบบนะ ฮ่า~)
**เผ่น**
ปล. อีกทึ ในเด็กดีถ้าจะคุยกับรีดเดอร์ปอต้องทำยังไงคะ? เล่นไม่เป็นซักทีเด็กดีเนี่ย =w=
Part :: 13
Pairing :: WonHyuk
Author :: kobamura
Rating :: PG-13
Author’s Note :: เรื่องทุกอย่างก็เป็นเพียงเหตุการณ์สมมติขึ้นเท่านั้น อ่านเพื่อความบันเทิงนะคะ
เอ่อ...คือว่า...ลืมไปว่ายังไม่ได้เอาฟิคมาลง =w=
กลายเป็นเรื่องน่าแปลกใจสำหรับบรรดานักเรียนที่จับกลุ่มกันอยู่ในโรงอาหารเมื่อเห็นศูนย์หน้าทีมฟุตบอลที่หลังจากงานประกวดมิสบิวตี้ก็อัพเลเวลความน่ารักพุ่งติดเพดานจนเริ่มมีแฟนคลับกลุ่มผู้ชายเป็นของตนเองเดินมากับชายหนุ่มแปลกหน้าที่สำคัญยังไร้ซึ่งวี่แววของประธานนักเรียนสุดหล่ออย่างทุกครั้ง
เหล่าบรรดาแมงเม้าท์เริ่มบินออกจากรังมารวมตัวกันทันที ยังไม่ทันจะจบหัวข้อสนทนาแรกหัวข้อที่สองตามมาอย่างรวดเร็วแบบติดจรวดเมื่อซีวอนเดินเข้ามาในโรงอาหารพร้อมกับหญิงสาวท่าทางทะมัดทะแมงคนหนึ่งส่งผลให้แรงเม้าท์ทะยานขึ้นฟ้ายิ่งกว่าจุดบั้งไฟตะไลยักษ์ ซือเหวินเห็นแล้วก็ไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไป
“คู่นี้เค้าหวานกันดีเนอะ บอกแล้วว่าระยะทางมันไม่ใช่อุปสรรคสำหรับความรัก” คนฟังได้แต่นั่งเงียบ ขนมปังเนื้อนิ่มที่กำลังเคี้ยวอยู่ในปากกลับแข็งกระด้างจนเคี้ยวไม่ออกขึ้นมาเสียอย่างนั้น
“น้องฮยอกแจเป็นอะไรไปครับ?” เมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่ได้ตอบโต้อะไรมา ชายหนุ่มจึงสะกิดเรียกเบาๆซึ่งก็ได้รอยยิ้มแห้งๆกลับมา
“วันนี้คงซื้อขนมปังมาผิดรสหน่ะครับ ก็เลยไม่อร่อยเท่าไหร่”
“งั้นพี่ไปซื้อมาให้ใหม่นะครับ” ชายหนุ่มกำลังจะลุกขึ้นแต่ก็ต้องชะงักเมื่อมีแขกมาเยือนถึงที่ ซือเหวินยิ้มให้เอลล่าก่อนจะทักทายตามประสาคนรู้จักกัน
“เป็นไงเอลล่า หน้าสดชื่นมากเลยนะเนี่ยความรักกำลังไปได้ดีสิเนี่ย”
“ก็ดี แฟนฉันน่ารักอยู่แล้ว” เมื่อหญิงสาวตอบคำถามเหมือนเล่นด้วย ชายหนุ่มจึงชวนให้ทั้งคู่นั่งร่วมโต๊ะด้วยกัน ยิ่งเห็นสีหน้าที่ไม่อยากจะอยู่ตรงนี้ของน้องชาย เขาก็ยิ่งอยากให้อยู่ ดูดีๆแล้วกันเดี๋ยวพี่จะสวีทให้ดูเป็นขวัญตา
“เดี๋ยวพี่ไปซื้อขนมปังมาให้ใหม่นะครับ” เอื้อมมือไปกุมมือเรียวก่อนจะลอบยิ้มเมื่อฮยอกแจไม่ชักมือกลับเหมือนทุกครั้ง ซือเหวินเดินออกไปจากตรงนั้นอย่างอารมณ์ดี ส่วนซีวอนก็เดินไปนั่งโต๊ะที่อยู่ห่างออกไป เอลล่ามองสิ่งที่เพื่อนทำอย่างขัดใจก่อนจะนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับฮยอกแจแล้วฉีกยิ้มหวานผูกมิตรเต็มที่
“สวัสดีฉันชื่อเอลล่า นายชื่อฮยอกแจใช่ไหม?” หญิงสาวเอ่ยทักตามประสาคนอัธยาศัยดี ถ้าเป็นปกติฮยอกแจคงจะยิ้มรับและคุยกันอย่างถูกคอ แต่ตอนนี้บอกตามตรงว่าเขาไม่มีอารมณ์จะทำความรู้จักกับใคร หรือบางที...อาจจะเฉพาะกับผู้หญิงคนนี้ก็ได้
อย่ามาอมยิ้ม! เขาไม่ได้หึง!
“เอาล่ะ...ฉันเองก็ไม่ใช่คนอ้อมโลก เพราะงั้นจะพูดตรงๆเลยนะ”
“..................” หน่วยกล้าตายหมายเลขหนึ่งของทีมกามเทพถอนใจเบาๆเมื่ออีกฝ่ายมีท่าทีเงียบใส่ พูดกับคนใบ้มันไม่ใช่เรื่องสนุกเลยนะเนี่ย
“ฉันไม่รู้หรอกนะว่าหมอนั่นจะพูดอะไรกับนายมาบ้าง” บุ้ยปากไปทางคนที่กำลังยืนต่อแถวซื้อขนมปังอยู่ที่ร้านค้าก่อนจะเอ่ยเข้าประเด็น
“แต่ฉันกับซือหยวนไม่ได้เป็นแฟนกัน เราเป็นแค่เพื่อนที่ดีต่อกัน” เมื่อเห็นอีกฝ่ายเริ่มจะเปลี่ยนจุดรวมสายตาจากขนมปังในมือมาที่ตัวเอง เอลล่าก็เริ่มใจชื้นมากขึ้น
“คือว่า...เมื่อกี้ซือหยวนพาฉันไปแวะร้านขนมหน้าโรงเรียนมา เขาเอาแต่ยืนจ้องนมกล่องนี้ที่ตู้แช่แต่ก็ไม่ยอมหยิบซักที ฉันอยากรู้ก็เลยแอบซื้อมา” เลื่อนกล่องนมสตรอเบอรี่สีสันสดใสมาตรงหน้าก่อนจะเอ่ยต่อ
“จากการเป็นเพื่อนหมอนั่นมานานหลายปี ซือหยวนชอบกินนมช็อคโกแลตหรือไม่ก็กาแฟไปเลย ส่วนฉันก็ชอบกินนมกล้วย นายพอจะรู้ไหมว่าใครชอบกินนมรสนี้” เมื่อเห็นแก้มเนียนเริ่มซับสีระเรื่อก็ยิ่งมีกำลังใจจะบุกต่อ
“ซือหยวนเคยเล่าความลับอย่างหนึ่งให้ฉันฟัง” ร่างบางเงยหน้ามองคู่สนทนาทันทีแต่ก็ต้องแปลกใจเมื่ออีกฝ่ายไม่ได้เอ่ยอะไรต่อนอกจากยื่นกระดาษสีขาวแผ่นเล็กให้
“นายจะรู้ด้วยตัวเองฮยอกแจ แล้วก็...มีคนฝากมาให้อีกอย่าง” ยื่นกระดาษอีกใบให้แต่คราวนี้เป็นกระดาษสีแดง ฮยอกแจจึงเก็บกระดาษสีขาวใส่กระเป๋าก่อนจะอ่านกระดาษแผ่นสีแดงก่อน คิ้วเรียวขมวดมุ่นเมื่อจำได้ว่านี่คือลายมือของทงเฮผสมกับลายมือซองมิน
พวกนี้เล่นอะไรกัน?
...จงนิ่งอย่าไหวติง มองอย่างสงบ แล้วจะพบความจริง...
“เอาเป็นว่าตามนี้นะ ส่วนกระดาษอีกใบเก็บไว้ดีๆล่ะ” หญิงสาวส่งยิ้มผูกมิตรมาให้อีกครั้งก่อนจะเดินไปสะกิดให้ซีวอนลุกขึ้นเดินตามไป แต่แล้วร่างสูงก็ต้องชะงักเมื่อมีเสียงเรียกข้อความเข้า ริมฝีปากได้รูปยกยิ้มได้อย่างเต็มที่ในรอบหลายวัน
-MU-
ปลายนิ้วพิมพ์ตอบกลับไปอย่างรวดเร็วก่อนจะเดินตามเพื่อนสาวออกไปจากโรงอาหาร เสียงแมงเม้าท์ฮือฮากับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่จะมีใครรู้ดีไปกว่าเจ้าของโทรศัพท์มือถือที่กำลังนั่งอมยิ้มมองข้อความเข้าของตัวเองอยู่
-MUT-
ขนมปังถ้ารสชาติมันแย่นักลองแก้ด้วยนมสตรอเบอร์รี่ซักกล่องก็พอใช้ได้ล่ะนะ
“อรุณสวัสดิ์” เสียงทักของผู้มาใหม่เรียกให้สองคนที่กำลังจัดการกับมื้อเช้าของตัวเองเงยหน้าขึ้นมอง ฮยอกแจได้แต่ขมวดคิ้วสงสัยว่าทำไมวันนี้ถึงมีแต่คนพาเหรดเข้ามาหาเขานักนะ? แต่พอเห็นสายตาของรุ่นพี่คนสวยก็เลยเอะใจนึกไปถึงข้อความในกระดาษสีแดง เขาเลยได้แต่เก็บอาการไว้ตามที่บอก
“เพื่อนเราหรอฮยอกแจ? พี่ไม่เห็นคุ้นหน้าเลย” โปรยยิ้มหวานใส่ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ก่อนจะถือวิสาสะนั่งลงข้างๆ ซือเหวินถึงกับมองตาปรอยเมื่อเจอคนงามในระยะประชิดตัว โรงเรียนนี้ทำไมมีแต่คนสวยนะ?
“พี่ซือเหวินหน่ะครับ เป็นพี่ชายของซีวอน” นางพญาพยักเข้าใจแล้วหันไปทักทายชายหนุ่มที่นั่งข้างๆด้วยไมตรี
“ผมคิมฮีซอลเป็นรุ่นพี่ของฮยอกแจ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ” สองสายตาประสานกันอย่างมีความหมาย คนระดับเพลย์บอยอย่างซือเหวินทำไมจะดูไม่ออกว่าคนงามส่งสายตาแบบไหนมาให้เขา
เชิญชวนและ...ยั่วยวน
“เช่นกันครับ” ฮีซอลนั่งคุยสัพเพเหระกับทั้งสองอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะขอตัวไปที่ชมรมเพราะมีซ้อมการแสดงตั้งแต่เช้า ชายหนุ่มรู้สึกถึงแรงแตะเบาๆที่ต้นขาก่อนจะอมยิ้มเมื่อเห็นคนที่จากไปฝากอะไรเอาไว้กับเขา
เบอร์โทรศัพท์
ร่างบางทิ้งตัวลงนอนกับเตียงพลางคิดถึงสิ่งที่เกิดกับตัวเองมาตลอดทั้งวันไม่ว่าจะเป็นคำพูดของเอลล่า ข้อความในกระดาษสีแดง ท่าทีของพี่ฮีซอลที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าสนใจพี่ซือเหวินและถ้าเขาไม่คิดไปเองเขารู้สึกว่าพี่ชายคนจีนของเขาก็อยากจะเล่นด้วยเหมือนกัน แต่คงติดอยู่ที่เขานั่งหัวโด่อยู่ตรงนั้น
หากถามว่าน้อยใจหรือเสียใจไหม? เขาค่อนข้างแปลกใจที่ตัวเองไม่ได้รู้สึกอะไรเลยด้วยซ้ำ คิดแล้วก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าที่เขาเฝ้าคิดถึงและจมปรักอยู่กับการรอคอยมาตลอดห้าปีมันคืออะไรกัน? และ...เพื่ออะไร?
ร่างบางดีดตัวลุกขึ้นนั่งก่อนจะหยิบกระดาษแผ่นเล็กที่เอลล่าให้เขามาตั้งแต่เข้า พอเปิดออกดูก็ไม่เห็นจะมีอะไรนอกจากคำจีนสองคำ
แต่ถึงจะเป็นคำที่เขาไม่รู้ความหมายแต่เขาก็จำคำสองคำนี้ได้ดี มือเรียวคว้ากรอบรูปตรงหัวเตียงมาดู นำคำในกระดาษมาเทียบกับคำลงชื่อในการ์ดที่เขาเก็บไว้อย่างดี แล้วก็ไม่ผิด...มันเป็นคำเดียวกัน
“แล้วเอลล่าจะให้ชื่อพี่ซือเหวินมาทำไม?” บ่นกับตัวเองเบาๆก่อนจะนึกไปถึงเหตุการณ์เมื่ออาทิตย์ก่อนที่ซีวอนขึ้นมาหาเขาบนห้องแล้วเอาแต่ยืนจ้องการ์ดแสนรักของเขาด้วยสีหน้าที่เดาไม่ออก
‘สิ่งเดียวที่ยึดฉันไว้กับพี่ชายหน่ะ’
‘หรอ...นั่นของพี่ชายที่นายรักเขาหนักหนาหรอ?’
“หรือว่า...” ลุกพรวดวิ่งไปที่โต๊ะเขียนหนังสือแล้วค้นกระเป๋าหยิบโทรศัพท์มือถือออกมากดโทรหาคนที่แทบจะไม่ได้คุยกันเลยตั้งแต่พี่ซือเหวินมา แต่แล้วก็ต้องเปลี่ยนใจกดตัดสายแล้วโทรไปหาอีกคนเพราะเขายังหาคำเริ่มต้นบทสนทนากับซีวอนในตอนนี้ไม่ได้
[ว่าไงจ๊ะน้องรัก]
“พี่โซรา...” นานๆทีจะได้ยินเสียงพี่สาวที่ไปเรียนต่อโทอยู่ที่ต่างประเทศ น้ำตาก็พาลรื้นขึ้นมาเสียเฉยๆ ปลายสายอุทานอย่างตกใจเมื่อน้องชายเป่าปี่ใส่เสียอย่างนั้น
[คนดีของพี่เป็นอะไร ซีวอนแกล้งอะไรน้องพี่งั้นหรอ?] ระหว่างเขากับพี่โซราไม่เคยมีความลับต่อกัน ทั้งเรื่องของพี่ชายคนจีนหรือแม้แต่เรื่องของซีวอน พี่โซราก็รับรู้แล้วคอยเป็นที่ปรึกษาให้เขาเสมอ ครั้งนี้ก็เช่นกันที่เขาระบายทุกอย่างให้พี่สาวที่น่ารักฟังอีกครั้ง โซราเองก็เป็นผู้ฟังที่ดี หล่อนรอให้น้องชายเล่าทุกอย่างจนจบก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
[ฮยอกแจ...]
“ครับ?”
[เราจำไม่ได้จริงๆหรอว่าซีวอนกับซือหยวนคือคนๆเดียวกัน]
“เอ๋?”
[จำตอนที่บ้านคุณลุงชเวมาพักร้อนที่บ้านเราได้ไหม? น้องพี่จำไม่ได้หรือว่าคุณลุงชเวท่านพาลูกชายมาสองคน]
“ไม่ใช่พี่ซือเหวินคนเดียวหรอครับ?” ถามออกไปอย่างใจคิด นี่เขาหลงลืมอะไรที่สำคัญไปหรือไงนะ
[สองคนต่างหากเจ้าตัวเล็ก เราจำเด็กผู้ชายแว่นหนาๆที่พี่ชอบเข้าไปคุยด้วยได้ไหม คนที่ชอบชงโกโก้มาให้เราทุกเช้า แถมก่อนกลับยังเอาการ์ดใบเล็กๆวิ่งมาให้เราด้วยไง นั่นแหละ...ซือหยวน]
“ผม...” ความรู้สึกผิดถาโถมเข้ามาจนพูดอะไรไม่ออก ความทรงจำเกี่ยวกับเด็กชายท่าทางแปลกๆคนนั้นกลับเข้ามาในความคิดอีกครั้ง ซึ่งเขาได้ทำร้ายจิตใจของเด็กผู้ชายคนนั้นโดยไม่ตั้งใจเข้าไปเสียแล้ว
‘นายเอามาให้ฉันหรอ?’ มือเล็กๆรับแก้วเซรามิกลายลูกเจี๊ยบมาถือไว้ก่อนจะเงยหน้ามองคนที่ยืนถูมือไปมาอยู่ตรงหน้า เด็กแว่นนี่ขี้อายชะมัด
‘อืม!’
‘ใครฝากมา? พี่ซือเหวินใช่ไหม?’
‘คือ...’
‘พี่ซือเหวินนี่น่ารักจริงๆเลย รู้ด้วยว่าฉันชอบกินโกโก้รสชาตินี้’
‘ขอบคุณที่เอามาให้นะแว่น!’
‘การ์ดนี่พี่ซือเหวินฝากมาให้ใช่ไหม?’ เอ่ยถามเด็กแว่นที่ยืนหอบอย่างดีใจเมื่ออีกฝ่ายส่งการ์ดใบเล็กมาให้
‘คือ...’
‘ฝากบอกพี่ซือเหวินด้วยนะว่าฉันจะเก็บรักษาอย่างดี’
‘ขอบใจมากนะแว่น!’
[ตัวเล็ก...] ปลายสายเอ่ยเรียกอย่างเป็นห่วงเมื่อน้องชายเอาแต่สะอื้น อยากจะไปหาแต่ระยะทางก็ไกลกันคนละซีกโลก พี่จะทำยังไงดีนะ
“ผม...ผมคิดว่าพี่ซือเหวินชงโกโก้ให้ผมกินตลอด ผมคิดว่าเจ้าของการ์ดใบนั้นคือพี่ซือเหวิน ผมไม่เคยรู้เลยว่าทุกอย่างที่ทำให้ผมจดจำมาตลอดคือสิ่งที่ซีวอนทำไม่ใช่พี่ซือเหวินเลย ”
[พี่นึกว่าซีวอนบอกเราแล้วเสียอีก]
“ซีวอนไม่เคยบอกอะไรผมเลย เขาพูดกับผมอย่างเดียวว่าจะรอผม ”
‘ฉันมีคนที่ฉันรักอยู่แล้ว ฉันรอเขาอยู่ ถ้านายคิดจะจริงจังกับฉัน ต้องขอโทษจริงๆ ฉันรับความหวังดีของนายไม่ได้จริงๆ’
‘รอ? นายจะรอเขาถึงเมื่อไหร่’
‘จนกว่าเขาจะเป็นฝ่ายมาบอกเลิกฉันเอง ’
‘ฮยอกแจ ’
‘ฉันรักเขาจริงๆนะซีวอน ขอโทษที่บางครั้งฉันอาจจะเผลอใจไปกับนายบ้าง เพราะความอ่อนโยนของนายมันทำให้ฉันนึกถึงเขา มันทำให้ฉันเห็นนายเป็นเขา!’
‘ฉันจะรอ ’
‘ฉันจะรอนาย อย่างที่นายรอเขา’
‘บ้าหน่า!’
‘ขอให้ฉันได้รับรู้ความรู้สึกของนายบ้างนะ ความรู้สึกของการรอคอย คนที่รัก’
‘ฉันจะไม่ร้องขอให้นายรักฉัน แต่ฉันขอ ขอแค่ได้ดูแลนายอยู่ข้างๆก็พอแล้ว’
นายทนความรู้สึกแบบนั้นได้ยังไงกันนะซีวอน
หัวใจของนายทนได้ยังไงกัน...บอกฉันที
[คงเพราะเรายึดติดกับซือเหวินมั้ง ซีวอนเลยไม่กล้าบอกความจริง]
“.........”
[ตอนนี้น้องพี่เข้าใจอะไรมากขึ้นแล้วใช่ไหม? คนฉลาดอย่างน้องของพี่โซราคงจะคิดได้แล้วว่าจะต้องทำยังไง จริงไหมจ๊ะ?]
“ครับ”
[เด็กดี...พี่หวังว่าครั้งต่อไปพี่จะได้ยินเรื่องดีๆจากเรานะ]
[ฝันดีนะจ๊ะน้องรัก] ร่างบางมองโทรศัพท์ในมือพลางถอนใจเฮือกใหญ่ มือเรียวคว้ากรอบรูปที่หัวเตียงมาดูอีกครั้ง หากครั้งนี้สายตาที่มองการ์ดใบนั้นเปลี่ยนจากทุกที
เจ้าบ้า...นายทำฉันเสียศูนย์ไปตั้งห้าปี ฉันจะเอาคืนแบบทบต้นทบดอกเลยคอยดู!
TBC.
สั้นไปไหนตอนนี้?
อ่า...ก็เค้าแบ่งตอนนี้มาแบบนี้นี่นา **นิ้วจิ้มกันจึ้กๆ**
คือว่า...ปอลืมแหละว่ายังลงเฮลไม่จบ =w=
ขอโทษด้วยนะคะ
ปล. ตอนหน้าจบ คึคึ~
ปะแอะ~!
ตอนจบเอาเมื่อไหร่ดี? อีก 4 วันดีไหม? (พอดีชอบเลข 4 คนเกิดวันที่ 4 ก็ชอบบนะ ฮ่า~)
**เผ่น**
ปล. อีกทึ ในเด็กดีถ้าจะคุยกับรีดเดอร์ปอต้องทำยังไงคะ? เล่นไม่เป็นซักทีเด็กดีเนี่ย =w=
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น