ลำดับตอนที่ #12
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : What the hell happened!! # 11.1
Title :: What the hell happened!!
Part :: 11.1
Pairing :: WonHyuk
Author :: kobamura
Rating :: PG-13
Author’s Note :: เรื่องทุกอย่างก็เป็นเพียงเหตุการณ์สมมติขึ้นเท่านั้น อ่านเพื่อความบันเทิงนะคะ
งานเข้าซะแล้ว...
ก็บอกแล้วไงว่าเรื่องนี้มันดิ้นได้ -*-
“ตอนนี้เรารักกันอยู่หรือเปล่า?”
ซีวอนรู้สึกเหมือนหัวใจของเขากำลังเต้นอ่อนลงเรื่อยๆเมื่อสิ่งที่ได้กลับมามีเพียงความเงียบ มือเรียวชะงักที่จะตักขนมหวานของโปรดทานต่อก่อนจะวางมันลงช้าๆ เขารู้ดีว่าซักวันซีวอนจะต้องถามเขาแบบนี้ ทั้งที่รู้...แต่เขาก็ไม่เคยเตรียมคำตอบเอาไว้เลย
“ฮยอกแจ...”
“...............”
“ฮยอกแจครับ”
“ไหนบอกว่ารอได้ไง” ร่างบางไม่รู้ว่าวันนี้อีกฝ่ายเป็นอะไร ซีวอนไม่เคยทำท่าเหมือนจะเป็นจะตายขนาดนี้ อาการเซื่องซึมจนดูเหมือนคนหมดกำลังใจทำให้ฮยอกแจตัดสินใจคว้ามือคนที่นั่งข้างๆมากุมไว้
“รอได้ เพราะรอมานานแล้ว...รอมาตลอด”
“ซีวอน?” คนฟังได้แต่เอียงคองงๆ ยิ่งพูดยิ่งแปลกแฮะ คิดอะไรอยู่นะ
“ถ้า...เขากลับมา นายจะทำยังไงกับเรื่องของเรา? ฉันสามารถยืนข้างนายได้หรือว่าจะต้องเดินถอยออกไปอย่างคนไม่มีสิทธิ์” คิ้วเรียวขมวดมุ่นเมื่อได้ยินประโยคดังกล่าว ไม่เข้าใจเลยว่าซีวอนเป็นอะไรทำไมถึงได้พูดเรื่องนี้ขึ้นมา
“พูดอะไรหน่ะ?”
“ฉันไม่อยากทำให้นายหงุดหงิดหรอกนะฮยอกแจ เพราะฉันรู้ว่าเราคุยเรื่องนี้กันแล้วตั้งแต่แรก แต่ตอนนี้ฉันก็แค่อยากรู้ว่าฉันสามารถที่จะปกป้องความรู้สึกของเราได้หรือเปล่า หรือว่าฉันจะทำได้แค่ปล่อยให้มันหายไป”
“ฉันไม่เข้าใจที่นายพูดซักอย่าง นายกำลังจะบอกอะไรฉัน”
“ก็แค่นายตอบฉันว่าเรารักกันอยู่หรือเปล่าเท่านั้นเอง ขอแค่นายตอบฉัน”
“ฉันไม่ตอบอะไรทั้งนั้นแหละ”
“ฮยอกแจ...”
“ฉันกลับก่อนนะ แล้วก็...ไม่ต้องไปส่ง” คว้ากระเป๋าข้างตัวก่อนจะเดินจ้ำอ้าวไปที่ประตู ร่างบางจิ๊ปากอย่างไม่สบอารมณ์นักเมื่อคนตัวโตตามมาขวางเขาไว้
“ขอโทษที่ถามอะไรแบบนั้น ฉันจะไม่ถามอีก ฉันขอโทษนะ ฮยอกแจอย่าโกรธนะ” นัยน์ตาเรียวตวัดมองคนตรงหน้าอย่างฉุนเฉียว เขาโกรธ...โกรธที่ซีวอนกำลังขุดเรื่องยุ่งยากใจขึ้นมาให้เขาปวดหัว
“ในเมื่อรู้ว่าฉันจะโกรธแล้วจะถามทำไม”
“เพราะเขากำลังจะมา” คำบอกนั้นทำเอามือที่กำลังยื้อจะเปิดประตูชะงักกึก ซีวอนพูดว่าอะไรนะ?
“อะไรนะ?”
“เพราะพี่ชายสุดที่รักของนายกำลังจะมา” ถึงแม้ถ้อยคำที่เอ่ยออกมาจะแผ่วเบา แต่ฮยอกแจกลับได้ยินมันอย่างชัดเจน พี่ชายกำลังจะกลับมา...
แล้วซีวอนรู้ได้ยังไง?
“......................”
“เฮ้ย...ไอ้หยวนไปกันหรือยัง?” แรงผลักจากประตูทำให้ฮยอกแจผงะถอยออกมา เมื่อเห็นผู้มาใหม่ก็ยิ่งไม่เข้าใจ ซีวอนรู้จักแขกของพี่อีทึกกับพี่ฮีซอลด้วยหรอ? แล้วไอ้หยวนที่ว่านี่...ใคร?
“ผมขอเวลาสักครู่นะครับพี่หานเกิง” ร่างสูงเอ่ยพร้อมกับส่งสายตาเป็นเชิงว่าขอเวลาส่วนตัว ซึ่งคนเป็นพี่ก็พยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนจะเดินออกไปรอด้านนอกอย่างรู้งาน พอหันมาซีวอนก็ต้องสะดุ้งเมื่อเจอสายตาช่างสงสัยจากคนข้างกาย
“นายรู้จักพี่เขาด้วยหรอ?”
“อืม เป็นรุ่นพี่ที่รู้จักกันหน่ะ”
“แต่เขาอยู่จีนนะ” คนตัวเล็กไม่วายซักไซ้ต่อ
“ก่อนมาเรียนที่นี่ฉันก็อยู่จีนมาเหมือนกันแหละ” อยู่ที่จีนมาก่อน...ซีวอนเนี่ยนะ?
“ฉันไม่เห็นเคยรู้...”
“เพราะนายไม่เคยถามฉันเลยต่างหาก” เอ่ยยิ้มๆก่อนจะคว้ากระเป๋าเป้ของร่างบางมาถือไว้เสียเอง
“จะกลับบ้านเลยใช่ไหม? งั้นเดี๋ยวฉันไปส่งนะ”
“อ้าว...แล้วพี่คนจีนนั่นล่ะ? นัดกันไว้ไม่ใช่หรอ?”
“พี่หานเกิงเขาขอไปนอนที่บ้านหน่ะ รายนั้นเขาขี้เกียจจองโรงแรม เลยมาขูดรีดขอที่พักฟรีอาหารฟรีจากบ้านฉันแทน”
“แปลว่าสนิทกันมากเลยนะเนี่ย”
“คุณพ่อคุณแม่รู้จักกันหน่ะ แล้วตอนอยู่จีนพี่หานเกิงก็เหมือนพี่ชายแท้ๆของฉัน เขาช่วยเหลือฉันมาตลอด เพราะฉะนั้นคำขอแค่นี้เรื่องเล็ก” คนตัวเล็กพยักหน้าเข้าใจกับคำบอกนั้นก่อนจะปล่อยให้ร่างสูงถือกระเป๋าเดินตามออกมาจากห้องประธานนักเรียน หานเกิงที่ยืนรออยู่ด้านนอกยักคิ้วให้รุ่นน้องที่สนิทกันก่อนจะปล่อยให้คู่รักเดินนำไปแล้วเดินตามอย่างอารมณ์ดี
ทุกอย่างดูเรียบร้อยดี
สงสัยคงจะไม่ใช่เสียแล้ว
“นี่ตกลงแกยังไม่ได้บอกน้องเขาหรอวะ” หนุ่มหน้าตี๋ผุดลุกจากผ้านวมผืนหนาขึ้นมามองหน้าน้องชายที่นั่งหน้าเครียดอยู่ตรงปลายเตียง
“ก็ยังหน่ะสิพี่”
“แล้วแกดันโทรไปตามไอ้เหวินมาเนี่ยนะ? ไม่บรรลัยหมดหรอ?” เอ่ยถามเสียงเครียดก่อนจะถอนใจไปอีกเฮือกใหญ่ แกไปเอาเชื้อสุภาพบุรุษล้านตลบนี่มาจากไหนวะไอ้คุณชาย
“อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดแหละพี่ ถ้าฮยอกแจเลือกพี่ซือเหวิน ผมก็คงต้องถอยออกมา” ถึงจะพูดเหมือนคนปลงตก แต่ซีวอนกลับรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะขาดอากาศหายใจไปเรื่อยๆ
“พระเอกเกินไปแล้วแก เมื่อเย็นหน่ะคาตาชัดๆเลยนะว่าน้องเขาก็ชอบแก” คนเป็นพี่พยายามขุดหาเหตุผลร้อยแปดพันเก้า ชักแม่น้ำทั้งประเทศเกาหลีและประเทศจีนมารวมกันเพื่อปลุกแรงฮึดของน้องชาย แต่ดูท่าจะไร้ผล...
“ไม่หรอก”
“อะไรนะ?” ถามย้ำอีกครั้งให้แน่ใจเมื่อพ่อราชสีห์หนุ่มตอบมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาราวกับคนจะขาดใจ เขาว่าภาษาเกาหลีของเขาเข้าขั้นโอเคแล้วนะ แล้วทำไมซือหยวนมันถึงไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพยายามหว่านล้อมเลย
“ฮยอกแจหน่ะไม่ชอบผมหรอก”
“รู้ได้ไง ถามเขาแล้วหรอ?”
“ถามแล้ว ก็ที่ยืนกันอยู่หน้าประตูห้องนั่นแหละ เขากำลังโกรธที่ผมถามเขาเรื่องนั้น แต่พอดีพี่มาก่อนก็เลยช่วยดึงประเด็นออกไป ฮยอกแจถึงยอมให้ผมไปส่งที่บ้าน” เอ่ยจบก็ล้มตัวนอนลงกับเตียง ท่าทางหมดอาลัยตายอยากทำเอาคนเป็นพี่ถอนใจอีกรอบ
“ไอ้เหวินมันดีขนาดนั้นเลยหรอ?”
“เพราะในความทรงจำของฮยอกแจมีแต่พี่ซือเหวินนี่ครับ” พี่ชายที่ฮยอกแจจำได้มีแต่พี่ซือเหวิน ช่างน่าเศร้าที่ฮยอกแจไม่เคยคิดจะจำหรือสนใจพี่ซือหยวนเลย ทำไงได้ตอนเด็กเขาไม่เคยสู้พี่ซือเหวินได้ซักอย่าง มันก็สมควรแล้วที่ฮยอกแจจะเลือกจดจำแต่คนที่น่าประทับใจมากกว่าคนที่ไม่มีอะไรเตะตาเลย
“ถ้าแกบอกว่าตัวเองคือพี่ซือหยวนนะ ฉันว่า...”
“ฮยอกแจก็จะรีบบอกให้ผมติดต่อพี่ซือเหวินทันทีหน่ะสิครับ”
“แกมองโลกในแง่ร้ายไปหรือเปล่า? เรื่องมันอาจจะไม่เลวร้ายขนาดนั้นก็ได้”
“พี่ครับ พี่ไม่ได้เจอแบบผมพี่ไม่มีทางรู้หรอกว่าการที่เราบอกรักและทำดีกับใครซักคนที่เขาเอาแต่พูดว่าเขายังคงรอใครคนหนึ่งของเขาอยู่ตลอดเวลาหน่ะ...มันปวดหัวใจขนาดไหน สิ่งที่ผมทำมาตลอดมันเหมือนกับความฝันที่พร้อมจะหายไปได้ทุกเมื่อถ้าผมลืมตาตื่น แล้วนี่ก็คงได้เวลาที่ผมต้องตื่นแล้ว” นัยน์ตาคมทอดมองฝ้าเพดานด้วยจิตใจที่เลื่อนลอย ที่ผ่านมาเขาพยายามไม่คิดถึงวันนี้ เพราะมันช่างเป็นเรื่องที่ชวนปวดหัวจริงๆ แต่สุดท้ายเขาก็หนีไม่พ้น
ก็อย่างที่เขาพูดกัน...ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย
“ซือหยวน พี่ว่าแกดีเกินไปจริงๆว่ะ” คนเป็นพี่ได้แต่ถอนใจหนักๆก่อนจะตบไหล่น้องชายเบาๆ
“แต่พี่อยากถามแกซักคำถามนะ คำถามเดียวที่อยากให้แกเอาไปคิดให้หนัก”
“ครับ?”
“แกคิดว่ามันดีแล้วหรอที่แกจะปล่อยฮยอกแจให้กับคนอย่างไอ้เหวินหน่ะ ไม่มีใครรู้จักซือเหวินเท่าแกแล้วนะ...คำถามนี้หน่ะคิดให้ดีๆล่ะ” เหลือบมองน้องชายอีกครั้งก่อนจะล้มตัวลงนอนเอาผ้านวมคลุมหัวทำเป็นไม่สนใจ แต่ในหัวคนเป็นพี่กำลังเร่งระดมความคิดอย่างหนักก่อนจะลอบดีดนิ้วเปาะเมื่อสามารถหาตัวช่วยที่ดีที่สุดได้แล้ว
“สงสัยฉันคงต้องขอยืมมือเธออีกครั้งแล้วล่ะ”
‘พี่ชายสุดที่รักของนายกำลังจะมา’
“เฮ่อ...” เสียงทอดถอนใจเรียกความสนใจจากคนที่นั่งอยู่ข้างๆได้เป็นอย่างดี อีทึกเหลือบมองน้องชายที่ตั้งแต่กลับมาจากโรงเรียนก็ดูซึมๆไปแถมยังนั่งถอนใจจนนับครั้งไม่ถ้วนอีกต่างหาก
“เป็นอะไรหรือเปล่า?” เอ่ยถามพลางกระทุ้งศอกใส่สีข้างอีกฝ่าย คนที่กำลังตกอยู่ในภวังค์สะดุ้งเฮือกแล้วหันมามองพี่ชายคนสวยที่กำลังมองตัวเองอย่างสงสัย
“ครับ?”
“พี่ถามว่าเราเป็นอะไรหรือเปล่า”
“ก็...ไม่นี่ครับ” ถึงจะเอ่ยปฏิเสธแต่เขาก็รู้ดีว่าภาพที่เคลื่อนไหวอยู่ตรงหน้าไม่ได้ทำให้เขาสนใจได้แม้แต่น้อยเมื่อในหัวมีแต่คำพูดของซีวอนเมื่อตอนเย็นดังก้องไปมาราวกับฉายหนังซ้ำ
“ดูเหมือนตอนนี้จะมีเรื่องให้คิดอยู่นะ”
“ก็นิดหน่อยครับ”
“ซีวอน?” คนฟังถึงกับสะดุ้งอีกครั้งเมื่อพี่ชายเอ่ยได้ตรงจุดจนแทบหยุดหายใจ
“ทำไมพี่อีทึกถึงคิดว่าเป็นซีวอนล่ะครับ ผมอาจจะคิดถึงพี่ชายคนดีของผมอยู่ก็ได้”
“เราเลิกคิดถึงหมอนั่นนานแล้วล่ะ” ริมฝีปากได้รูปแย้มยิ้มเมื่อน้องชายหันมามองหน้าเขาเหมือนไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาเอ่ยนัก มือเรียวลูบศีรษะคนเป็นน้องแผ่วเบาก่อนจะเอ่ยให้คลายความสงสัย
“เดี๋ยวนี้หน่ะ อะไรๆที่เราคิดถึงก็มีแต่ซีวอนเท่านั้นแหละ ไม่เหมือนฮยอกแจตัวน้อยเมื่อห้าปีก่อนที่เอาแต่นั่งมองการ์ดใบนั้นแล้วเอาแต่ร้องไห้ ไม่เหมือนฮยอกแจตัวน้อยที่คอยวิ่งมาถามพี่ว่ามีโทรศัพท์มาจากจีนบ้างหรือเปล่า”
“ตอนนี้มีแต่ฮยอกแจที่วิ่งมาฟ้องพี่ว่าวันนี้ซีวอนแกล้งอย่างนั้นอย่างนี้ ซีวอนซื้อขนมอะไรมาให้บ้าง ซีวอนพาไปเที่ยวไหนบ้าง มีแต่ฮยอกแจที่แอบย่องมาหาพี่ก่อนเข้านอนแล้วบอกว่าพรุ่งนี้ให้ทำกับข้าวอย่างโน้นอย่างนี้เพราะซีวอนบ่นว่าอยากกิน และอีกสารพัดเรื่องของซีวอนที่พี่ได้ยินจากปากของเรา”
“ผมเป็นมากขนาดนั้นเลยหรอครับ?” อีทึกยิ้มให้กับคำถามนั้นก่อนจะดึงน้องชายมากอดหลวมๆ
“มันไม่มากไปสำหรับคนรักกันหรอก” คำบอกของพี่ชายช่างเสียดแทงหัวใจ นึกย้อนไปถึงคำถามที่ซีวอนถามเขาด้วยน้ำเสียงจริงจัง คำถามที่เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะตอบยังไง
‘ตอนนี้เรารักกันอยู่หรือเปล่า?’
“พี่อีทึกครับ...”
“หืม?”
“วันนี้ซีวอนถามผมว่า...เราสองคนรักกันหรือเปล่า”
“แล้วตอบเขาไปว่ายังไงล่ะ?”
“ไม่ได้ตอบครับ” อีทึกถึงกับผละออกมามองน้องชายอย่างสงสัย แต่เมื่อเห็นดวงตาเรียวเล็กเริ่มมีน้ำใสๆคลออยู่ก็ไม่คิดจะถามอะไรอีกนอกจากลูบผมอีกฝ่ายเบาๆให้รู้ว่าไม่ว่ายังไงพี่ชายคนนี้ก็อยู่เคียงข้างเสมอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
“ผมตอบไม่ได้หรอก เพราะผมก็ไม่รู้เหมือนกัน” ไหล่บางเริ่มสั่นไหวกลายเป็นเสียงสะอื้น อีทึกเองก็ไม่อยากจะบีบน้องในเวลานี้เลยได้แต่ปล่อยให้เจ้าตัวเล็กค่อยๆคลายปัญหาในใจออกมา
“แล้วซีวอนก็บอกผมว่า...พี่ชายกำลังจะมา”
“พี่ชายคนจีน?”
“ครับ”
“ซีวอนรู้ได้ยังไง?”
“ผมไม่รู้ ตอนนี้ผมไม่อยากรู้อะไรทั้งนั้น” ร่างเล็กโถมเข้ากอดพี่ชายแน่น อีทึกมองน้องชายแล้วรู้สึกหนักในอกขึ้นมากะทันหัน ปัญหาที่พวกเขากลัวที่สุดกำลังจะมา มาแบบตั้งตัวไม่ทันเสียด้วย ถ้าจนปัญญาจริงๆเขาคงต้องใช้ไม้ตาย
คิมฮีซอล นายได้ฆ่าคนอย่างที่นายเคยพูดแน่ๆ
TBC. Part 11.2 coming soon
แอบเอามาปล่อยก่อนเดี๋ยวจะมาปล่อยอีกระรอก
เอาล่ะ ตอนนี้ติดต่อตัวละครครบแล้ว
ฉากหน้าเตรียมเข้าฉากครบทุกคนค่ะ
**ผู้กำกับโบกมือขอยาดม**
Part :: 11.1
Pairing :: WonHyuk
Author :: kobamura
Rating :: PG-13
Author’s Note :: เรื่องทุกอย่างก็เป็นเพียงเหตุการณ์สมมติขึ้นเท่านั้น อ่านเพื่อความบันเทิงนะคะ
งานเข้าซะแล้ว...
ก็บอกแล้วไงว่าเรื่องนี้มันดิ้นได้ -*-
“ตอนนี้เรารักกันอยู่หรือเปล่า?”
ซีวอนรู้สึกเหมือนหัวใจของเขากำลังเต้นอ่อนลงเรื่อยๆเมื่อสิ่งที่ได้กลับมามีเพียงความเงียบ มือเรียวชะงักที่จะตักขนมหวานของโปรดทานต่อก่อนจะวางมันลงช้าๆ เขารู้ดีว่าซักวันซีวอนจะต้องถามเขาแบบนี้ ทั้งที่รู้...แต่เขาก็ไม่เคยเตรียมคำตอบเอาไว้เลย
“ฮยอกแจ...”
“...............”
“ฮยอกแจครับ”
“ไหนบอกว่ารอได้ไง” ร่างบางไม่รู้ว่าวันนี้อีกฝ่ายเป็นอะไร ซีวอนไม่เคยทำท่าเหมือนจะเป็นจะตายขนาดนี้ อาการเซื่องซึมจนดูเหมือนคนหมดกำลังใจทำให้ฮยอกแจตัดสินใจคว้ามือคนที่นั่งข้างๆมากุมไว้
“รอได้ เพราะรอมานานแล้ว...รอมาตลอด”
“ซีวอน?” คนฟังได้แต่เอียงคองงๆ ยิ่งพูดยิ่งแปลกแฮะ คิดอะไรอยู่นะ
“ถ้า...เขากลับมา นายจะทำยังไงกับเรื่องของเรา? ฉันสามารถยืนข้างนายได้หรือว่าจะต้องเดินถอยออกไปอย่างคนไม่มีสิทธิ์” คิ้วเรียวขมวดมุ่นเมื่อได้ยินประโยคดังกล่าว ไม่เข้าใจเลยว่าซีวอนเป็นอะไรทำไมถึงได้พูดเรื่องนี้ขึ้นมา
“พูดอะไรหน่ะ?”
“ฉันไม่อยากทำให้นายหงุดหงิดหรอกนะฮยอกแจ เพราะฉันรู้ว่าเราคุยเรื่องนี้กันแล้วตั้งแต่แรก แต่ตอนนี้ฉันก็แค่อยากรู้ว่าฉันสามารถที่จะปกป้องความรู้สึกของเราได้หรือเปล่า หรือว่าฉันจะทำได้แค่ปล่อยให้มันหายไป”
“ฉันไม่เข้าใจที่นายพูดซักอย่าง นายกำลังจะบอกอะไรฉัน”
“ก็แค่นายตอบฉันว่าเรารักกันอยู่หรือเปล่าเท่านั้นเอง ขอแค่นายตอบฉัน”
“ฉันไม่ตอบอะไรทั้งนั้นแหละ”
“ฮยอกแจ...”
“ฉันกลับก่อนนะ แล้วก็...ไม่ต้องไปส่ง” คว้ากระเป๋าข้างตัวก่อนจะเดินจ้ำอ้าวไปที่ประตู ร่างบางจิ๊ปากอย่างไม่สบอารมณ์นักเมื่อคนตัวโตตามมาขวางเขาไว้
“ขอโทษที่ถามอะไรแบบนั้น ฉันจะไม่ถามอีก ฉันขอโทษนะ ฮยอกแจอย่าโกรธนะ” นัยน์ตาเรียวตวัดมองคนตรงหน้าอย่างฉุนเฉียว เขาโกรธ...โกรธที่ซีวอนกำลังขุดเรื่องยุ่งยากใจขึ้นมาให้เขาปวดหัว
“ในเมื่อรู้ว่าฉันจะโกรธแล้วจะถามทำไม”
“เพราะเขากำลังจะมา” คำบอกนั้นทำเอามือที่กำลังยื้อจะเปิดประตูชะงักกึก ซีวอนพูดว่าอะไรนะ?
“อะไรนะ?”
“เพราะพี่ชายสุดที่รักของนายกำลังจะมา” ถึงแม้ถ้อยคำที่เอ่ยออกมาจะแผ่วเบา แต่ฮยอกแจกลับได้ยินมันอย่างชัดเจน พี่ชายกำลังจะกลับมา...
แล้วซีวอนรู้ได้ยังไง?
“......................”
“เฮ้ย...ไอ้หยวนไปกันหรือยัง?” แรงผลักจากประตูทำให้ฮยอกแจผงะถอยออกมา เมื่อเห็นผู้มาใหม่ก็ยิ่งไม่เข้าใจ ซีวอนรู้จักแขกของพี่อีทึกกับพี่ฮีซอลด้วยหรอ? แล้วไอ้หยวนที่ว่านี่...ใคร?
“ผมขอเวลาสักครู่นะครับพี่หานเกิง” ร่างสูงเอ่ยพร้อมกับส่งสายตาเป็นเชิงว่าขอเวลาส่วนตัว ซึ่งคนเป็นพี่ก็พยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนจะเดินออกไปรอด้านนอกอย่างรู้งาน พอหันมาซีวอนก็ต้องสะดุ้งเมื่อเจอสายตาช่างสงสัยจากคนข้างกาย
“นายรู้จักพี่เขาด้วยหรอ?”
“อืม เป็นรุ่นพี่ที่รู้จักกันหน่ะ”
“แต่เขาอยู่จีนนะ” คนตัวเล็กไม่วายซักไซ้ต่อ
“ก่อนมาเรียนที่นี่ฉันก็อยู่จีนมาเหมือนกันแหละ” อยู่ที่จีนมาก่อน...ซีวอนเนี่ยนะ?
“ฉันไม่เห็นเคยรู้...”
“เพราะนายไม่เคยถามฉันเลยต่างหาก” เอ่ยยิ้มๆก่อนจะคว้ากระเป๋าเป้ของร่างบางมาถือไว้เสียเอง
“จะกลับบ้านเลยใช่ไหม? งั้นเดี๋ยวฉันไปส่งนะ”
“อ้าว...แล้วพี่คนจีนนั่นล่ะ? นัดกันไว้ไม่ใช่หรอ?”
“พี่หานเกิงเขาขอไปนอนที่บ้านหน่ะ รายนั้นเขาขี้เกียจจองโรงแรม เลยมาขูดรีดขอที่พักฟรีอาหารฟรีจากบ้านฉันแทน”
“แปลว่าสนิทกันมากเลยนะเนี่ย”
“คุณพ่อคุณแม่รู้จักกันหน่ะ แล้วตอนอยู่จีนพี่หานเกิงก็เหมือนพี่ชายแท้ๆของฉัน เขาช่วยเหลือฉันมาตลอด เพราะฉะนั้นคำขอแค่นี้เรื่องเล็ก” คนตัวเล็กพยักหน้าเข้าใจกับคำบอกนั้นก่อนจะปล่อยให้ร่างสูงถือกระเป๋าเดินตามออกมาจากห้องประธานนักเรียน หานเกิงที่ยืนรออยู่ด้านนอกยักคิ้วให้รุ่นน้องที่สนิทกันก่อนจะปล่อยให้คู่รักเดินนำไปแล้วเดินตามอย่างอารมณ์ดี
ทุกอย่างดูเรียบร้อยดี
สงสัยคงจะไม่ใช่เสียแล้ว
“นี่ตกลงแกยังไม่ได้บอกน้องเขาหรอวะ” หนุ่มหน้าตี๋ผุดลุกจากผ้านวมผืนหนาขึ้นมามองหน้าน้องชายที่นั่งหน้าเครียดอยู่ตรงปลายเตียง
“ก็ยังหน่ะสิพี่”
“แล้วแกดันโทรไปตามไอ้เหวินมาเนี่ยนะ? ไม่บรรลัยหมดหรอ?” เอ่ยถามเสียงเครียดก่อนจะถอนใจไปอีกเฮือกใหญ่ แกไปเอาเชื้อสุภาพบุรุษล้านตลบนี่มาจากไหนวะไอ้คุณชาย
“อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดแหละพี่ ถ้าฮยอกแจเลือกพี่ซือเหวิน ผมก็คงต้องถอยออกมา” ถึงจะพูดเหมือนคนปลงตก แต่ซีวอนกลับรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะขาดอากาศหายใจไปเรื่อยๆ
“พระเอกเกินไปแล้วแก เมื่อเย็นหน่ะคาตาชัดๆเลยนะว่าน้องเขาก็ชอบแก” คนเป็นพี่พยายามขุดหาเหตุผลร้อยแปดพันเก้า ชักแม่น้ำทั้งประเทศเกาหลีและประเทศจีนมารวมกันเพื่อปลุกแรงฮึดของน้องชาย แต่ดูท่าจะไร้ผล...
“ไม่หรอก”
“อะไรนะ?” ถามย้ำอีกครั้งให้แน่ใจเมื่อพ่อราชสีห์หนุ่มตอบมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาราวกับคนจะขาดใจ เขาว่าภาษาเกาหลีของเขาเข้าขั้นโอเคแล้วนะ แล้วทำไมซือหยวนมันถึงไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพยายามหว่านล้อมเลย
“ฮยอกแจหน่ะไม่ชอบผมหรอก”
“รู้ได้ไง ถามเขาแล้วหรอ?”
“ถามแล้ว ก็ที่ยืนกันอยู่หน้าประตูห้องนั่นแหละ เขากำลังโกรธที่ผมถามเขาเรื่องนั้น แต่พอดีพี่มาก่อนก็เลยช่วยดึงประเด็นออกไป ฮยอกแจถึงยอมให้ผมไปส่งที่บ้าน” เอ่ยจบก็ล้มตัวนอนลงกับเตียง ท่าทางหมดอาลัยตายอยากทำเอาคนเป็นพี่ถอนใจอีกรอบ
“ไอ้เหวินมันดีขนาดนั้นเลยหรอ?”
“เพราะในความทรงจำของฮยอกแจมีแต่พี่ซือเหวินนี่ครับ” พี่ชายที่ฮยอกแจจำได้มีแต่พี่ซือเหวิน ช่างน่าเศร้าที่ฮยอกแจไม่เคยคิดจะจำหรือสนใจพี่ซือหยวนเลย ทำไงได้ตอนเด็กเขาไม่เคยสู้พี่ซือเหวินได้ซักอย่าง มันก็สมควรแล้วที่ฮยอกแจจะเลือกจดจำแต่คนที่น่าประทับใจมากกว่าคนที่ไม่มีอะไรเตะตาเลย
“ถ้าแกบอกว่าตัวเองคือพี่ซือหยวนนะ ฉันว่า...”
“ฮยอกแจก็จะรีบบอกให้ผมติดต่อพี่ซือเหวินทันทีหน่ะสิครับ”
“แกมองโลกในแง่ร้ายไปหรือเปล่า? เรื่องมันอาจจะไม่เลวร้ายขนาดนั้นก็ได้”
“พี่ครับ พี่ไม่ได้เจอแบบผมพี่ไม่มีทางรู้หรอกว่าการที่เราบอกรักและทำดีกับใครซักคนที่เขาเอาแต่พูดว่าเขายังคงรอใครคนหนึ่งของเขาอยู่ตลอดเวลาหน่ะ...มันปวดหัวใจขนาดไหน สิ่งที่ผมทำมาตลอดมันเหมือนกับความฝันที่พร้อมจะหายไปได้ทุกเมื่อถ้าผมลืมตาตื่น แล้วนี่ก็คงได้เวลาที่ผมต้องตื่นแล้ว” นัยน์ตาคมทอดมองฝ้าเพดานด้วยจิตใจที่เลื่อนลอย ที่ผ่านมาเขาพยายามไม่คิดถึงวันนี้ เพราะมันช่างเป็นเรื่องที่ชวนปวดหัวจริงๆ แต่สุดท้ายเขาก็หนีไม่พ้น
ก็อย่างที่เขาพูดกัน...ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย
“ซือหยวน พี่ว่าแกดีเกินไปจริงๆว่ะ” คนเป็นพี่ได้แต่ถอนใจหนักๆก่อนจะตบไหล่น้องชายเบาๆ
“แต่พี่อยากถามแกซักคำถามนะ คำถามเดียวที่อยากให้แกเอาไปคิดให้หนัก”
“ครับ?”
“แกคิดว่ามันดีแล้วหรอที่แกจะปล่อยฮยอกแจให้กับคนอย่างไอ้เหวินหน่ะ ไม่มีใครรู้จักซือเหวินเท่าแกแล้วนะ...คำถามนี้หน่ะคิดให้ดีๆล่ะ” เหลือบมองน้องชายอีกครั้งก่อนจะล้มตัวลงนอนเอาผ้านวมคลุมหัวทำเป็นไม่สนใจ แต่ในหัวคนเป็นพี่กำลังเร่งระดมความคิดอย่างหนักก่อนจะลอบดีดนิ้วเปาะเมื่อสามารถหาตัวช่วยที่ดีที่สุดได้แล้ว
“สงสัยฉันคงต้องขอยืมมือเธออีกครั้งแล้วล่ะ”
‘พี่ชายสุดที่รักของนายกำลังจะมา’
“เฮ่อ...” เสียงทอดถอนใจเรียกความสนใจจากคนที่นั่งอยู่ข้างๆได้เป็นอย่างดี อีทึกเหลือบมองน้องชายที่ตั้งแต่กลับมาจากโรงเรียนก็ดูซึมๆไปแถมยังนั่งถอนใจจนนับครั้งไม่ถ้วนอีกต่างหาก
“เป็นอะไรหรือเปล่า?” เอ่ยถามพลางกระทุ้งศอกใส่สีข้างอีกฝ่าย คนที่กำลังตกอยู่ในภวังค์สะดุ้งเฮือกแล้วหันมามองพี่ชายคนสวยที่กำลังมองตัวเองอย่างสงสัย
“ครับ?”
“พี่ถามว่าเราเป็นอะไรหรือเปล่า”
“ก็...ไม่นี่ครับ” ถึงจะเอ่ยปฏิเสธแต่เขาก็รู้ดีว่าภาพที่เคลื่อนไหวอยู่ตรงหน้าไม่ได้ทำให้เขาสนใจได้แม้แต่น้อยเมื่อในหัวมีแต่คำพูดของซีวอนเมื่อตอนเย็นดังก้องไปมาราวกับฉายหนังซ้ำ
“ดูเหมือนตอนนี้จะมีเรื่องให้คิดอยู่นะ”
“ก็นิดหน่อยครับ”
“ซีวอน?” คนฟังถึงกับสะดุ้งอีกครั้งเมื่อพี่ชายเอ่ยได้ตรงจุดจนแทบหยุดหายใจ
“ทำไมพี่อีทึกถึงคิดว่าเป็นซีวอนล่ะครับ ผมอาจจะคิดถึงพี่ชายคนดีของผมอยู่ก็ได้”
“เราเลิกคิดถึงหมอนั่นนานแล้วล่ะ” ริมฝีปากได้รูปแย้มยิ้มเมื่อน้องชายหันมามองหน้าเขาเหมือนไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาเอ่ยนัก มือเรียวลูบศีรษะคนเป็นน้องแผ่วเบาก่อนจะเอ่ยให้คลายความสงสัย
“เดี๋ยวนี้หน่ะ อะไรๆที่เราคิดถึงก็มีแต่ซีวอนเท่านั้นแหละ ไม่เหมือนฮยอกแจตัวน้อยเมื่อห้าปีก่อนที่เอาแต่นั่งมองการ์ดใบนั้นแล้วเอาแต่ร้องไห้ ไม่เหมือนฮยอกแจตัวน้อยที่คอยวิ่งมาถามพี่ว่ามีโทรศัพท์มาจากจีนบ้างหรือเปล่า”
“ตอนนี้มีแต่ฮยอกแจที่วิ่งมาฟ้องพี่ว่าวันนี้ซีวอนแกล้งอย่างนั้นอย่างนี้ ซีวอนซื้อขนมอะไรมาให้บ้าง ซีวอนพาไปเที่ยวไหนบ้าง มีแต่ฮยอกแจที่แอบย่องมาหาพี่ก่อนเข้านอนแล้วบอกว่าพรุ่งนี้ให้ทำกับข้าวอย่างโน้นอย่างนี้เพราะซีวอนบ่นว่าอยากกิน และอีกสารพัดเรื่องของซีวอนที่พี่ได้ยินจากปากของเรา”
“ผมเป็นมากขนาดนั้นเลยหรอครับ?” อีทึกยิ้มให้กับคำถามนั้นก่อนจะดึงน้องชายมากอดหลวมๆ
“มันไม่มากไปสำหรับคนรักกันหรอก” คำบอกของพี่ชายช่างเสียดแทงหัวใจ นึกย้อนไปถึงคำถามที่ซีวอนถามเขาด้วยน้ำเสียงจริงจัง คำถามที่เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะตอบยังไง
‘ตอนนี้เรารักกันอยู่หรือเปล่า?’
“พี่อีทึกครับ...”
“หืม?”
“วันนี้ซีวอนถามผมว่า...เราสองคนรักกันหรือเปล่า”
“แล้วตอบเขาไปว่ายังไงล่ะ?”
“ไม่ได้ตอบครับ” อีทึกถึงกับผละออกมามองน้องชายอย่างสงสัย แต่เมื่อเห็นดวงตาเรียวเล็กเริ่มมีน้ำใสๆคลออยู่ก็ไม่คิดจะถามอะไรอีกนอกจากลูบผมอีกฝ่ายเบาๆให้รู้ว่าไม่ว่ายังไงพี่ชายคนนี้ก็อยู่เคียงข้างเสมอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
“ผมตอบไม่ได้หรอก เพราะผมก็ไม่รู้เหมือนกัน” ไหล่บางเริ่มสั่นไหวกลายเป็นเสียงสะอื้น อีทึกเองก็ไม่อยากจะบีบน้องในเวลานี้เลยได้แต่ปล่อยให้เจ้าตัวเล็กค่อยๆคลายปัญหาในใจออกมา
“แล้วซีวอนก็บอกผมว่า...พี่ชายกำลังจะมา”
“พี่ชายคนจีน?”
“ครับ”
“ซีวอนรู้ได้ยังไง?”
“ผมไม่รู้ ตอนนี้ผมไม่อยากรู้อะไรทั้งนั้น” ร่างเล็กโถมเข้ากอดพี่ชายแน่น อีทึกมองน้องชายแล้วรู้สึกหนักในอกขึ้นมากะทันหัน ปัญหาที่พวกเขากลัวที่สุดกำลังจะมา มาแบบตั้งตัวไม่ทันเสียด้วย ถ้าจนปัญญาจริงๆเขาคงต้องใช้ไม้ตาย
คิมฮีซอล นายได้ฆ่าคนอย่างที่นายเคยพูดแน่ๆ
TBC. Part 11.2 coming soon
แอบเอามาปล่อยก่อนเดี๋ยวจะมาปล่อยอีกระรอก
เอาล่ะ ตอนนี้ติดต่อตัวละครครบแล้ว
ฉากหน้าเตรียมเข้าฉากครบทุกคนค่ะ
**ผู้กำกับโบกมือขอยาดม**
มาแจ้งผังบูทงาน KFC ด้วยค่ะ
อย่างในรูปเลยนะคะ kobamura จะสิงสถิตอยู่บูท G3 ติดกับประตูหาง่ายมาก ไปทักทายกันได้นะคะ ช็อปเสร็จแล้วมานั่งคุยกันก็ได้ ยังไงปอก็ชิวๆ แต่ไม่เอาแบบปีที่แล้วนะ ที่มายืนหน้าบูทปอแล้วกรี๊ดบอกว่ารับวอนฮยอกไม่ได้หน่ะ ปอไม่เอาแบบนั้นแล้วนะคะ ชอบคู่ไหนเราไม่ว่าแต่ขอให้อยู่กันอย่างเป็นมิตรนะคะ ไม่กระทบกระทั่งกันเน้อ
ส่วนฟิคที่จะนำไปวางก็...มี 4 เรื่องค่ะ
Love Accident [WonHyuk]
Two Tone # 1 [WonHyuk]
Two Tone # 2 [WonHyuk]
Do You Feel Love? [KangTeuk]
What the hell happended!! [WonHyuk] เรื่องนี้ไปเปิดตัวที่งานเลยนะคะ ไม่มีการเปิดจองล่วงหน้า
แล้วก็มีกิ๊ฟช็อปเล็กน้อยๆไปวางขายสำหรับใครชื่นชอบของสะสมนะคะ ^^
เจอกันวันที่ 23 สิงหาคมนะคะ สำหรับทางบอร์ด fixland จะมีของสมนาคุณให้กับผู้ที่มาเยี่ยมเยียนค่ะ อย่าลืมแวะไปน๊า~
อย่างในรูปเลยนะคะ kobamura จะสิงสถิตอยู่บูท G3 ติดกับประตูหาง่ายมาก ไปทักทายกันได้นะคะ ช็อปเสร็จแล้วมานั่งคุยกันก็ได้ ยังไงปอก็ชิวๆ แต่ไม่เอาแบบปีที่แล้วนะ ที่มายืนหน้าบูทปอแล้วกรี๊ดบอกว่ารับวอนฮยอกไม่ได้หน่ะ ปอไม่เอาแบบนั้นแล้วนะคะ ชอบคู่ไหนเราไม่ว่าแต่ขอให้อยู่กันอย่างเป็นมิตรนะคะ ไม่กระทบกระทั่งกันเน้อ
ส่วนฟิคที่จะนำไปวางก็...มี 4 เรื่องค่ะ
Love Accident [WonHyuk]
Two Tone # 1 [WonHyuk]
Two Tone # 2 [WonHyuk]
Do You Feel Love? [KangTeuk]
What the hell happended!! [WonHyuk] เรื่องนี้ไปเปิดตัวที่งานเลยนะคะ ไม่มีการเปิดจองล่วงหน้า
แล้วก็มีกิ๊ฟช็อปเล็กน้อยๆไปวางขายสำหรับใครชื่นชอบของสะสมนะคะ ^^
เจอกันวันที่ 23 สิงหาคมนะคะ สำหรับทางบอร์ด fixland จะมีของสมนาคุณให้กับผู้ที่มาเยี่ยมเยียนค่ะ อย่าลืมแวะไปน๊า~
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น