ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : [Series] Love Is -1- (เยเรียว)
Title :: [Series] Love Is
Part :: เมื่อรักคือ ความคิดถึง
Pairing :: Yesung Ryeowook
Author :: kobamura
Rating :: PG-13
Author’s Note :: เรื่องทุกอย่างก็เป็นเพียงเหตุการณ์สมมติขึ้นเท่านั้น อ่านเพื่อความบันเทิงนะคะ
ครั้งแรกกับฟิคคู่นี้
เพราะพี่เยซอง บอกได้แค่นี้จริงๆ
ใครฟังเพลง Love Is Really Pain ของพี่เย่แล้วบ้าง?
ไรเตอร์จะร้องไห้ TT^TT มันจี๊ดใจมากมาย
‘วันนี้ผมง่วงมากเลย ไว้ค่อยคุยกันนะครับ’
‘ผมต้องไปทำงานต่อแล้วล่ะ แค่นี้นะพี่เยซอง’
‘เหนื่อยจัง ผมอยากพักแล้วล่ะ พี่ไม่มีธุระสำคัญอะไรใช่ไหม? งั้นผมขอวางสายก่อนนะ’
หัวใจของผมเต้นช้าลงตั้งแต่เมื่อไหร่?
ชายหนุ่มวางมือถือลงที่โต๊ะแล้วถอนใจหนักๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะที่เราคุยกันไม่เคยเกินสามนาที ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะที่เราอยู่ห่างกันแบบนี้ ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เขารู้สึกว่า มันไม่เหมือนเดิม
“พี่เยซองยังไม่นอนอีกหรอครับ?” ร่างบางของน้องชายร่วมวงที่เพิ่งกลับมาจากจัดรายการเดินเข้ามาหา คนเป็นพี่เพียงแค่ยิ้มแต่ก็ไม่ได้ตอบอะไร
“มันดึกแล้วนา พี่จะยังมาท่องเว็บไซต์อีกหรอ? อ่า นี่มันคลิปเอสเจเอ็มนี่” ฮยอกแจยื่นหน้าเขามาดูด้วยคน ยังไม่ทันจะได้คุยอะไรกันต่อ เสียงโทรศัพท์ของน้องชายก็ดังขึ้นมาเสียก่อน ไก่น้อยหันมายิ้มแหยๆให้พี่ชายก่อนจะขอตัวไปนอน แต่เสียงคุยก็แว่วมาพอที่จะจับใจความได้
‘อืม เพิ่งมาถึง’
‘ครับๆ จะรีบเข้านอนครับผม’
‘ซีวอนนี่ขี้บ่นจริง’
ถ้าบอกว่าอิจฉา มันคงไม่ผิดใช่ไหม?
“ยังไม่นอนอีกหรอ?” เสียงทักของผู้มาใหม่เรียกให้เขาหันกลับไปมองอีกครั้ง หัวหน้าวงความรู้สึกไวเป็นเลิศเพียงแค่ยืนมองคนที่มีศักดิ์เป็นน้องชายอยู่เงียบๆก่อนจะเดินมานั่งที่โซฟาที่อยู่ไม่ไกลกันนัก
“ก็มันไม่ง่วง”
“คิดถึงทำไมไม่โทรไปหาล่ะ แค่คลิปมันไม่ช่วยให้ความคิดถึงลดลงได้หรอก” กาแฟกระป๋องของฝากจากแฟนรายการถูกส่งให้ซึ่งชายหนุ่มก็รับมาเปิดดื่มโดยไม่พูดอะไรจนอีทึกต้องเอ่ยเรียกอีกครั้ง
“เยซอง ”
“สำหรับนายความรักคืออะไรหรออีทึก?”
“ถามทำไม”
“เปล่า ฉันก็แค่กลัวความหมายมันกำลังจะเปลี่ยนไปก็เลยถามให้แน่ใจเท่านั้นเอง” ร่างสูงลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องนอนของตัวเอง โดยมีสายตาที่เป็นห่วงของคนเป็นพี่มองตามไปแต่ก็ทำอะไรมากไม่ได้ เพราะมันเป็นเรื่องของคนสองคนที่จะต้องเคลียร์กันเอง
ฟูกนุ่มยุบลงไปกว่าครึ่งเมื่อชายหนุ่มทิ้งตัวลงนอนเต็มแรง รู้สึกอยากจะจมหายไปกับผ้านวมผืนหนานี้จริงๆ เขาไม่ใช่คนที่คิดอะไรมาก แต่สภาพที่ดูไม่ได้อย่างตอนนี้มันคืออะไรกันนะ? หรืออาจจะเป็นเพราะเขาว่างเกินไป
ซุปเปอร์จูเนียร์แฮปปี้ก็ปิดโปรเจคไปแล้ว ซุปเปอร์จูเนียร์ทีก็เตรียมรีเดบิวที่ญี่ปุ่น สงสัยที่เกาหลีคงจะเหลือเพียงแค่เขาที่ไม่มีอะไรจะทำกับคิบอมที่กำลังถ่ายละครจนหัวปั่น หรือว่าเขาจะหาอะไรทำดีนะ อย่างน้อยก็จะได้ลดความฟุ้งซ่านที่กำลังรบกวนเขาอยู่ตอนนี้
เขากำลังมีความทุกข์
ทุกข์เพราะความคิดถึง
คิดถึงใครอีกคนที่เหมือนจะเปลี่ยนไป
“นั่นนายจะไปไหน” อีทึกที่เงยหน้าขึ้นมาจากอาหารเช้ามื้อเร่งด่วนเอ่ยถามเมื่อเห็นร่างสูงเดินออกมาจากห้องพร้อมกระเป๋าเดินทางใบย่อม ซึ่งดูเหมือนสมาชิกคนอื่นๆก็แปลกใจไม่แพ้กัน เพราะแต่ละคนออกอาการคิ้วขมวดเหมือนเป็นถามอยู่กรายๆเช่นเดียวกัน
“กลับบ้าน”
“แล้วบอกพี่คิบอมหรือยัง?”
“โทรไปบอกแล้ว พี่เขาบอกว่าตอนนี้ฉันไม่มีตารางงาน ถ้ามีจะโทรไปเรียกตัวกลับมา” คนว่างงานเดินมานั่งร่วมโต๊ะโดยเลือกที่จะนั่งที่ว่างตรงข้างๆฮยอกแจ
“กลับมาแล้วอย่าลืมของฝากนะพี่ ขนมจากบ้านพี่คราวก่อนอร่อยมากเลย ผมชอบ”
“เดี๋ยวเจอขนมแปลกๆจะซื้อมาฝากนะ” ฮยอกแจยิ้มกว้างก่อนจะลงมือทานข้าวต่อเมื่อได้เวลาที่เขาจะต้องไปถ่ายรายการกับพี่อีทึกแล้ว สมาชิกที่มีงานในช่วงเช้าต่างทยอยกันออกไปทำงาน ใครที่มีงานช่วงบ่ายหลังทานข้าวเสร็จก็ไปเลื้อยกันต่อที่ห้องรับแขก บ้างก็เล่นเนท บ้างก็ดูโทรทัศน์ เยซองยืนมองเพื่อนร่วมวงอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเดินออกไปจากห้องพัก ถ้าออกเดินทางช้าบางทีเขาอาจจะถึงบ้านเย็นหรือไม่ก็มืดเลยก็ได้
“ทำอะไรอยู่หรอเรียวอุค?” เสียงพี่ใหญ่ของทีมเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าน้องชายให้ความสนใจกับโน้ตบุคมาตั้งแต่ช่วงเช้าแล้ว
“ก็เข้าไปอ่านไซเวิร์ลของคนอื่นๆหน่ะครับ แล้วก็ตอบคำถามแฟนๆในยูเอฟโอด้วย”
“ฉันนึกว่านายจมอยู่ในไซเวิร์ลพี่เยซองเสียอีก” ซีวอนที่กำลังนอนคุยโทรศัพท์อยู่ที่โซฟาเอ่ยแซวก่อนจะกลับไปอยู่ในโลกส่วนตัวต่อ คนถูกแซวก็ไม่ได้เถียงอะไรนอกจากทำเป็นไม่ได้ยินอะไรแล้วนั่งสนใจหน้าคอมต่อไป และไซเวิร์ลของคนที่ซีวอนพูดถึงก็ถูกเรียกหน้าเพจขึ้นมา พี่เยซองอัพไซแต่เช้าเลยแฮะ
[ตอนนี้ไม่มีอะไรทำ]
[มันน่าเบื่อ]
[ผมอยากกลับบ้าน]
ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มเมื่อคนรักคงจะว่างจนหงุดหงิดเลยต้องมาระบายใส่ไซเวิร์ล หากสายตาไม่เหลือบไปเห็นสถานะที่ถูกเปลี่ยนไป
Love Is Really Pain
เรียวอุคยังคงนั่งนิ่งอยู่อย่างนั้นจนฮันคยองที่เดินเข้าไปเอาเอาขนมในครัวออกมาแจกน้องๆต้องสงสัยอีกรอบ หันไปหาใครก็ต่างส่ายหน้าว่าไม่รู้ทั้งนั้น แต่เขาก็เชื่อว่าต้องมีคนหนึ่งที่รู้ มีสายอยู่ในเกาหลีตลอดเวลาจะไม่รู้เรื่องอะไรเลยหรือไง
“ฉันคิดว่านายรู้นะซีวอน” หย่อนตัวลงนั่งข้างน้องชายที่กำลังนั่งมองเรียวอุคอยู่เหมือนกัน ชายหนุ่มส่ายศีรษะช้าๆ
“เรื่องของคนสองคนแหละพี่ ผมเองก็ไม่รู้จะพูดอะไร”
“ทะเลาะกันหรอ?”
“ผมไม่รู้เหมือนกัน แต่เห็นฮยอกแจบอกว่าพี่เยซองก็อาการประมาณนี้แหละ แล้วนี่ก็กลับบ้านที่ต่างจังหวัดไปแล้วด้วย” ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรกันต่อเสียงข้อความเรียกเข้าก็ดังขึ้น ซีวอนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก่อนจะรีบโทรกลับทันที
“มีอะไรหรอเปล่า? เราเพิ่งวางหูกันไปเมื่อกี้เองนะ คิดถึงหรอ?” แซวคนปลายสายอย่างอารมณ์ดีก่อนจะทำปากยู่เพราะดูท่าจะโดนสวดกลับอยู่ไม่น้อย เจ้าชายของวงพยักหน้ารับให้กับคนปลายสายก่อนจะลุกขึ้นไปหาเรียวอุคที่ยังคงนั่งมองหน้าเพจนั้นนิ่งๆ
“ฮยอกแจจะคุยด้วย” ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจนักแต่ก็รับโทรศัพท์จากร่างสูงมารับแต่โดยดี
“มีอะไรหรอ?”
[ฉันไม่มีหรอก แต่พี่ทึกเขาอยากคุยกับนาย รอเดี๋ยวนะ] ปลายสายถูกเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว ร่างเล็กขยับตัวอย่างอึดอัดเมื่อรู้สึกเหมือนว่าการคุยครั้งนี้คงไม่ใช่เรื่องสนุกๆแน่
[พี่จะคุยเรื่องส่วนตัวกับเรา ถ้าไม่สะดวกก็หาที่เงียบๆคุยกับพี่ก็ได้นะ ] คนเป็นพี่เอ่ยอย่างรู้ใจเพราะรู้ดีว่าตอนนี้สมาชิกเอสเจเอ็มทุกคนคงจะนั่งรวมด้วยกันหมดที่ห้องรับแขก จะให้คุยเลยเรียวอุคคงจะไม่สะดวกใจ
“งั้นขอเวลาเดี๋ยวนะครับพี่ทึก” บอกกับคนปลายสายก่อนจะลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้องของตัวเอง ฮันคยองมองตามแล้วหันกลับมาที่ซีวอนเหมือนจะขอคำตอบ แต่พ่อคุณชายก็แค่ยักไหล่ก่อนจะเดินเข้าไปหาอะไรกินในครัวบ้าง
[งานที่จีนเยอะหรือเปล่า] ทันทีที่บอกว่าพร้อมแล้วพี่ชายคนโตก็เอ่ยถามทันที
“ก็เยอะครับ เดินสายตลอดเลย”
[คงจะเหนื่อยสินะ]
“ก็พอสมควรครับ”
[คุยๆกันบ้างก็ดีนะ พี่ไม่รู้หรอกว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ว่า พี่ก็อยากให้เราสองคนคุยกัน]
“ ”
[มันอาจจะดูเหมือนก้าวก่าย แต่พี่ก็แค่เป็นห่วงน้องของพี่เท่านั้นเอง เรียวอุคไม่โกรธพี่ใช่ไหม?]
“ไม่หรอกครับ เพียงแค่ ผมเองก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นเหมือนกัน”
[ไม่มีใครเข้าใจเยซองเท่าเราอีกแล้วล่ะ เยซองเป็นแบบไหน พี่ว่าเรารู้ดีที่สุด ลองคุยกันดูนะ ตอนนี้เยซองไม่มีตารางงานเลย หมอนั่นก็เลยกลับบ้านไปแล้ว ถ้าเราว่างๆก็ลองโทรไปแล้วกัน เยซองคงไม่ติดธุระอะไรหรอก]
“ครับ”
[อ่า เดี๋ยวพี่ต้องไปอัดรายการต่อแล้วล่ะ คุยกันดีๆนะ]
“ขอบคุณนะครับพี่ทึก” นัยน์ตากลมโตนั่งมองโทรศัพท์มือถือในมือก่อนจะวางมันไว้ข้างๆตัว มือเรียวเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ของตัวเองที่ซื้อมาแบบเป็นคู่กับของพี่ชายที่รักมาเพื่อต่อสายหาใครอีกคนที่อยากจะคุยด้วย จะว่าไป ตั้งแต่เขามาทำยูนิตใหม่ที่จีน นี่คงเป็นครั้งแรกที่เขาเป็นฝ่ายโทรไปหาพี่เยซองก่อน
ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะที่เขาทำตัวละเลยแบบนี้?
[สวัสดีครับ] คิ้วเรียวขมวดมุ่นเมื่อคนที่มารับสายกลับไม่ใช่คนที่คิดถึง แต่พอปลายสายเอ่ยย้ำมาอีกครั้งเขาก็จำได้ว่าใคร
“จงจิน พี่เยซองอยู่ไหม?”
[อ่า พี่เรียวอุค? พี่เยซองนั่งเล่นที่สวนหลังบ้านหน่ะครับ รอเดี๋ยวนะครับ] เด็กหนุ่มเอ่ยอย่างเป็นกันเองก่อนจะมีเสียงแว่วๆเหมือนคุยกับใครอยู่อยู่ไกลๆซักพักเสียงที่คุ้นเคยก็ตอบรับมาที่ปลายสาย
[วันนี้ไม่มีงานหรอ?]
“ไม่มีครับ วันนี้ได้พัก”
[ก็ดีแล้ว ทำงานหนักติดต่อกันมากๆเดี๋ยวก็ได้ไม่สบายกันพอดี วันหยุดทั้งที่ต้องพักผ่อนมากๆนะ แล้วก็ไม่ต้องตามเจ้าพวกนั้นไปกินเบียร์ล่ะ เสียงเราเป็นเรื่องที่ต้องดูแล เข้าใจที่พี่พูดใช่ไหม?] ไม่รู้ว่าทำไม เพียงแค่ได้ยินประโยคที่มีแต่ความห่วงใยนั้นน้ำตาเขาถึงได้ไหลออกมาดื้อๆ
[เรียวอุค?]
“ผม ผมขอโทษ” เอ่ยออกมาได้เท่านั้นก็สะอื้นฮัก เพราะความเหน็ดเหนื่อยหรือยังไง ทำไมที่ผ่านมาเขาถึงได้ทำตัวไม่ดีกับพี่เยซองเลย ทั้งที่พี่เยซองห่วงเขามากขนาดนี้
[ขอโทษพี่เรื่องอะไร]
“ผมทำตัวไม่น่ารักเลย ผมเอาแต่จะวางสายหนีพี่เพราะผมเหนื่อย โดยที่ผมก็ลืมไปว่าพี่เองก็ทำงานเหนื่อยไม่แพ้ผม”
[เด็กบ้า พี่จะโกรธเราเพราะเรื่องแค่นี้ได้ยังไง] ริมฝีปากได้รูปยกยิ้มในรอบหลายวัน หัวใจที่เหมือนจะเต้นช้าลงกลับมีแรงที่เต้นต่ออีกครั้ง
นายเป็นยาวิเศษหรือไงนะ คิม เรียวอุค?
[พี่เปลี่ยนสถานะในไซ ทั้งที่พี่สัญญากับผมแล้วว่าผมจะต้องเป็นคนคิดสถานะให้พี่ทุกครั้งที่พี่อยากจะเปลี่ยน แสดงว่าพี่ต้องโกรธผม] รอยยิ้มยิ่งกว้างมากขึ้นเมื่อได้ยินน้ำเสียงติดกังวลนั้น เรียวอุคยังคงใส่ใจกับทุกรายละเอียดเกี่ยวกับเขาไม่เคยเปลี่ยน
“พี่ขอโทษ”
[ผมไม่ชอบเลย Love Is Really Pain อะไรกัน ความรักมันไม่ได้น่าเจ็บปวดขนาดนั้นหรอก พี่กำลังทำให้ผมใจไม่ดีนะ] ปลายสายดูเหมือนหางเสียงจะสั่นเครืออีกครั้ง เยซองยิ้มให้กับความขี้แยของคนรัก ดูเหมือนระยะทางที่ห่างกันกับความคิดถึงของเขาจะทำให้ตัวเองมีความคิดเกี่ยวกับความรักเปลี่ยนไป ความจริงเรียวอุคอาจจะไม่ได้เปลี่ยน แต่เขานั่นแหละ ที่กังวลมากเกินไป
“พี่ถูกเลือกให้ร้องเพลงประกอบละคร Love Is Really Pain มันเป็นชื่อเพลง พี่ชอบ ก็เลยเปลี่ยนโดยไม่บอก อย่าคิดมากเลยนะ” การโกหกบ้างบางครั้งมันก็ดีกว่าที่เราจะพูดความรู้สึกของเราออกไปทุกอย่างจนเกิดความหมางเมินกัน อย่ารู้เลยว่าพี่เคยคิดมากเกี่ยวกับตัวเรา อย่าร้องไห้กับความเข้าใจผิดของเราสองคนอีกเลย หัวใจของพี่
[จริงหรอครับ?]
“จริงสิ พี่จะโกหกเราทำไมกัน พี่คงนอนเล่นที่บ้านได้อีกซักสองสามวัน เดี๋ยวก็ต้องกลับไปเข้าห้องอัดแล้ว”
[ผมจะรอฟังนะ]
“อืม พี่จะตั้งใจสุดฝีมือเลย” ที่เขาว่ากันว่ายาดีก็คือกำลังใจจากคนใกล้ตัว เขาเชื่อแล้วว่ามันเป็นความจริง
[พี่เยซอง ]
“หืม?”
[เปลี่ยนสถานะในไซได้ไหม?]
“ได้สิ เรียวอุคอยากให้พี่เขียนว่าอะไรล่ะ” คนที่อยู่ทางจีนนิ่งไปครู่ใหญ่ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงอ้อมแอ้ม
[ คิดถึง ]
“คิดถึง?”
[อย่าลืมเปลี่ยนนะ ผมจะเข้าไปเชคด้วย] ชายหนุ่มหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อเสียงหวานๆนั้นพยายามเก็กข่มขู่เขา ร่างสูงเดินตรงไปที่คอมพิวเตอร์ของน้องชายที่เปิดทิ้งไว้ ก่อนจะล็อคอินเข้าไซตัวเองด้วยรอยยิ้ม
“ลองเข้าไปดูสิ” บอกกับคนปลายสายเมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยภายในเวลาไม่นาน เรียวอุครีบวิ่งออกจากห้องนอนก่อนจะตรงไปนั่งที่หน้าคอมอย่างรวดเร็วทำเอาสมาชิกที่ทำกิจกรรมยามว่างอยู่ในห้องนั่งเล่นถึงกับหันมามองอย่างมาเข้าใจ
หน้าเพจถูกเรียกขึ้นมาก่อนที่ริมฝีปากบางจะแย้มยิ้ม ที่สถานะถูกเปลี่ยนไปอย่างที่เขาร้องขอ หากที่ดูเหมือนจะมีอะไรบางอย่างเกินกว่าที่บอกไป
[ คิดถึง ]
[เมื่อความรักคือความคิดถึง]
[รีบกลับมานะ]
END.
จบแล้ว~!
series Love Is...
เป็นเรื่องสั้นหลายคู่ค่ะ เริ่มโปรเจคด้วยคู่ของพี่เย่กับหนูอุค
ติดตามกันต่อไปว่า...คู่ไหนจะมาเป็นคู่ต่อไป
และความรักนั้นจะเปรียบเหมือนอะไร
((รู้สึกเหมือนหาเรื่องให้ตัวเองมีฟิคที่ต้องเขียนเยอะมากขึ้นยังไงไม่รู้สิ -*-))
Part :: เมื่อรักคือ ความคิดถึง
Pairing :: Yesung Ryeowook
Author :: kobamura
Rating :: PG-13
Author’s Note :: เรื่องทุกอย่างก็เป็นเพียงเหตุการณ์สมมติขึ้นเท่านั้น อ่านเพื่อความบันเทิงนะคะ
ครั้งแรกกับฟิคคู่นี้
เพราะพี่เยซอง บอกได้แค่นี้จริงๆ
ใครฟังเพลง Love Is Really Pain ของพี่เย่แล้วบ้าง?
ไรเตอร์จะร้องไห้ TT^TT มันจี๊ดใจมากมาย
‘วันนี้ผมง่วงมากเลย ไว้ค่อยคุยกันนะครับ’
‘ผมต้องไปทำงานต่อแล้วล่ะ แค่นี้นะพี่เยซอง’
‘เหนื่อยจัง ผมอยากพักแล้วล่ะ พี่ไม่มีธุระสำคัญอะไรใช่ไหม? งั้นผมขอวางสายก่อนนะ’
หัวใจของผมเต้นช้าลงตั้งแต่เมื่อไหร่?
ชายหนุ่มวางมือถือลงที่โต๊ะแล้วถอนใจหนักๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะที่เราคุยกันไม่เคยเกินสามนาที ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะที่เราอยู่ห่างกันแบบนี้ ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เขารู้สึกว่า มันไม่เหมือนเดิม
“พี่เยซองยังไม่นอนอีกหรอครับ?” ร่างบางของน้องชายร่วมวงที่เพิ่งกลับมาจากจัดรายการเดินเข้ามาหา คนเป็นพี่เพียงแค่ยิ้มแต่ก็ไม่ได้ตอบอะไร
“มันดึกแล้วนา พี่จะยังมาท่องเว็บไซต์อีกหรอ? อ่า นี่มันคลิปเอสเจเอ็มนี่” ฮยอกแจยื่นหน้าเขามาดูด้วยคน ยังไม่ทันจะได้คุยอะไรกันต่อ เสียงโทรศัพท์ของน้องชายก็ดังขึ้นมาเสียก่อน ไก่น้อยหันมายิ้มแหยๆให้พี่ชายก่อนจะขอตัวไปนอน แต่เสียงคุยก็แว่วมาพอที่จะจับใจความได้
‘อืม เพิ่งมาถึง’
‘ครับๆ จะรีบเข้านอนครับผม’
‘ซีวอนนี่ขี้บ่นจริง’
ถ้าบอกว่าอิจฉา มันคงไม่ผิดใช่ไหม?
“ยังไม่นอนอีกหรอ?” เสียงทักของผู้มาใหม่เรียกให้เขาหันกลับไปมองอีกครั้ง หัวหน้าวงความรู้สึกไวเป็นเลิศเพียงแค่ยืนมองคนที่มีศักดิ์เป็นน้องชายอยู่เงียบๆก่อนจะเดินมานั่งที่โซฟาที่อยู่ไม่ไกลกันนัก
“ก็มันไม่ง่วง”
“คิดถึงทำไมไม่โทรไปหาล่ะ แค่คลิปมันไม่ช่วยให้ความคิดถึงลดลงได้หรอก” กาแฟกระป๋องของฝากจากแฟนรายการถูกส่งให้ซึ่งชายหนุ่มก็รับมาเปิดดื่มโดยไม่พูดอะไรจนอีทึกต้องเอ่ยเรียกอีกครั้ง
“เยซอง ”
“สำหรับนายความรักคืออะไรหรออีทึก?”
“ถามทำไม”
“เปล่า ฉันก็แค่กลัวความหมายมันกำลังจะเปลี่ยนไปก็เลยถามให้แน่ใจเท่านั้นเอง” ร่างสูงลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องนอนของตัวเอง โดยมีสายตาที่เป็นห่วงของคนเป็นพี่มองตามไปแต่ก็ทำอะไรมากไม่ได้ เพราะมันเป็นเรื่องของคนสองคนที่จะต้องเคลียร์กันเอง
ฟูกนุ่มยุบลงไปกว่าครึ่งเมื่อชายหนุ่มทิ้งตัวลงนอนเต็มแรง รู้สึกอยากจะจมหายไปกับผ้านวมผืนหนานี้จริงๆ เขาไม่ใช่คนที่คิดอะไรมาก แต่สภาพที่ดูไม่ได้อย่างตอนนี้มันคืออะไรกันนะ? หรืออาจจะเป็นเพราะเขาว่างเกินไป
ซุปเปอร์จูเนียร์แฮปปี้ก็ปิดโปรเจคไปแล้ว ซุปเปอร์จูเนียร์ทีก็เตรียมรีเดบิวที่ญี่ปุ่น สงสัยที่เกาหลีคงจะเหลือเพียงแค่เขาที่ไม่มีอะไรจะทำกับคิบอมที่กำลังถ่ายละครจนหัวปั่น หรือว่าเขาจะหาอะไรทำดีนะ อย่างน้อยก็จะได้ลดความฟุ้งซ่านที่กำลังรบกวนเขาอยู่ตอนนี้
เขากำลังมีความทุกข์
ทุกข์เพราะความคิดถึง
คิดถึงใครอีกคนที่เหมือนจะเปลี่ยนไป
“นั่นนายจะไปไหน” อีทึกที่เงยหน้าขึ้นมาจากอาหารเช้ามื้อเร่งด่วนเอ่ยถามเมื่อเห็นร่างสูงเดินออกมาจากห้องพร้อมกระเป๋าเดินทางใบย่อม ซึ่งดูเหมือนสมาชิกคนอื่นๆก็แปลกใจไม่แพ้กัน เพราะแต่ละคนออกอาการคิ้วขมวดเหมือนเป็นถามอยู่กรายๆเช่นเดียวกัน
“กลับบ้าน”
“แล้วบอกพี่คิบอมหรือยัง?”
“โทรไปบอกแล้ว พี่เขาบอกว่าตอนนี้ฉันไม่มีตารางงาน ถ้ามีจะโทรไปเรียกตัวกลับมา” คนว่างงานเดินมานั่งร่วมโต๊ะโดยเลือกที่จะนั่งที่ว่างตรงข้างๆฮยอกแจ
“กลับมาแล้วอย่าลืมของฝากนะพี่ ขนมจากบ้านพี่คราวก่อนอร่อยมากเลย ผมชอบ”
“เดี๋ยวเจอขนมแปลกๆจะซื้อมาฝากนะ” ฮยอกแจยิ้มกว้างก่อนจะลงมือทานข้าวต่อเมื่อได้เวลาที่เขาจะต้องไปถ่ายรายการกับพี่อีทึกแล้ว สมาชิกที่มีงานในช่วงเช้าต่างทยอยกันออกไปทำงาน ใครที่มีงานช่วงบ่ายหลังทานข้าวเสร็จก็ไปเลื้อยกันต่อที่ห้องรับแขก บ้างก็เล่นเนท บ้างก็ดูโทรทัศน์ เยซองยืนมองเพื่อนร่วมวงอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเดินออกไปจากห้องพัก ถ้าออกเดินทางช้าบางทีเขาอาจจะถึงบ้านเย็นหรือไม่ก็มืดเลยก็ได้
“ทำอะไรอยู่หรอเรียวอุค?” เสียงพี่ใหญ่ของทีมเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าน้องชายให้ความสนใจกับโน้ตบุคมาตั้งแต่ช่วงเช้าแล้ว
“ก็เข้าไปอ่านไซเวิร์ลของคนอื่นๆหน่ะครับ แล้วก็ตอบคำถามแฟนๆในยูเอฟโอด้วย”
“ฉันนึกว่านายจมอยู่ในไซเวิร์ลพี่เยซองเสียอีก” ซีวอนที่กำลังนอนคุยโทรศัพท์อยู่ที่โซฟาเอ่ยแซวก่อนจะกลับไปอยู่ในโลกส่วนตัวต่อ คนถูกแซวก็ไม่ได้เถียงอะไรนอกจากทำเป็นไม่ได้ยินอะไรแล้วนั่งสนใจหน้าคอมต่อไป และไซเวิร์ลของคนที่ซีวอนพูดถึงก็ถูกเรียกหน้าเพจขึ้นมา พี่เยซองอัพไซแต่เช้าเลยแฮะ
[ตอนนี้ไม่มีอะไรทำ]
[มันน่าเบื่อ]
[ผมอยากกลับบ้าน]
ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มเมื่อคนรักคงจะว่างจนหงุดหงิดเลยต้องมาระบายใส่ไซเวิร์ล หากสายตาไม่เหลือบไปเห็นสถานะที่ถูกเปลี่ยนไป
Love Is Really Pain
เรียวอุคยังคงนั่งนิ่งอยู่อย่างนั้นจนฮันคยองที่เดินเข้าไปเอาเอาขนมในครัวออกมาแจกน้องๆต้องสงสัยอีกรอบ หันไปหาใครก็ต่างส่ายหน้าว่าไม่รู้ทั้งนั้น แต่เขาก็เชื่อว่าต้องมีคนหนึ่งที่รู้ มีสายอยู่ในเกาหลีตลอดเวลาจะไม่รู้เรื่องอะไรเลยหรือไง
“ฉันคิดว่านายรู้นะซีวอน” หย่อนตัวลงนั่งข้างน้องชายที่กำลังนั่งมองเรียวอุคอยู่เหมือนกัน ชายหนุ่มส่ายศีรษะช้าๆ
“เรื่องของคนสองคนแหละพี่ ผมเองก็ไม่รู้จะพูดอะไร”
“ทะเลาะกันหรอ?”
“ผมไม่รู้เหมือนกัน แต่เห็นฮยอกแจบอกว่าพี่เยซองก็อาการประมาณนี้แหละ แล้วนี่ก็กลับบ้านที่ต่างจังหวัดไปแล้วด้วย” ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรกันต่อเสียงข้อความเรียกเข้าก็ดังขึ้น ซีวอนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก่อนจะรีบโทรกลับทันที
“มีอะไรหรอเปล่า? เราเพิ่งวางหูกันไปเมื่อกี้เองนะ คิดถึงหรอ?” แซวคนปลายสายอย่างอารมณ์ดีก่อนจะทำปากยู่เพราะดูท่าจะโดนสวดกลับอยู่ไม่น้อย เจ้าชายของวงพยักหน้ารับให้กับคนปลายสายก่อนจะลุกขึ้นไปหาเรียวอุคที่ยังคงนั่งมองหน้าเพจนั้นนิ่งๆ
“ฮยอกแจจะคุยด้วย” ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจนักแต่ก็รับโทรศัพท์จากร่างสูงมารับแต่โดยดี
“มีอะไรหรอ?”
[ฉันไม่มีหรอก แต่พี่ทึกเขาอยากคุยกับนาย รอเดี๋ยวนะ] ปลายสายถูกเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว ร่างเล็กขยับตัวอย่างอึดอัดเมื่อรู้สึกเหมือนว่าการคุยครั้งนี้คงไม่ใช่เรื่องสนุกๆแน่
[พี่จะคุยเรื่องส่วนตัวกับเรา ถ้าไม่สะดวกก็หาที่เงียบๆคุยกับพี่ก็ได้นะ ] คนเป็นพี่เอ่ยอย่างรู้ใจเพราะรู้ดีว่าตอนนี้สมาชิกเอสเจเอ็มทุกคนคงจะนั่งรวมด้วยกันหมดที่ห้องรับแขก จะให้คุยเลยเรียวอุคคงจะไม่สะดวกใจ
“งั้นขอเวลาเดี๋ยวนะครับพี่ทึก” บอกกับคนปลายสายก่อนจะลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้องของตัวเอง ฮันคยองมองตามแล้วหันกลับมาที่ซีวอนเหมือนจะขอคำตอบ แต่พ่อคุณชายก็แค่ยักไหล่ก่อนจะเดินเข้าไปหาอะไรกินในครัวบ้าง
[งานที่จีนเยอะหรือเปล่า] ทันทีที่บอกว่าพร้อมแล้วพี่ชายคนโตก็เอ่ยถามทันที
“ก็เยอะครับ เดินสายตลอดเลย”
[คงจะเหนื่อยสินะ]
“ก็พอสมควรครับ”
[คุยๆกันบ้างก็ดีนะ พี่ไม่รู้หรอกว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ว่า พี่ก็อยากให้เราสองคนคุยกัน]
“ ”
[มันอาจจะดูเหมือนก้าวก่าย แต่พี่ก็แค่เป็นห่วงน้องของพี่เท่านั้นเอง เรียวอุคไม่โกรธพี่ใช่ไหม?]
“ไม่หรอกครับ เพียงแค่ ผมเองก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นเหมือนกัน”
[ไม่มีใครเข้าใจเยซองเท่าเราอีกแล้วล่ะ เยซองเป็นแบบไหน พี่ว่าเรารู้ดีที่สุด ลองคุยกันดูนะ ตอนนี้เยซองไม่มีตารางงานเลย หมอนั่นก็เลยกลับบ้านไปแล้ว ถ้าเราว่างๆก็ลองโทรไปแล้วกัน เยซองคงไม่ติดธุระอะไรหรอก]
“ครับ”
[อ่า เดี๋ยวพี่ต้องไปอัดรายการต่อแล้วล่ะ คุยกันดีๆนะ]
“ขอบคุณนะครับพี่ทึก” นัยน์ตากลมโตนั่งมองโทรศัพท์มือถือในมือก่อนจะวางมันไว้ข้างๆตัว มือเรียวเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ของตัวเองที่ซื้อมาแบบเป็นคู่กับของพี่ชายที่รักมาเพื่อต่อสายหาใครอีกคนที่อยากจะคุยด้วย จะว่าไป ตั้งแต่เขามาทำยูนิตใหม่ที่จีน นี่คงเป็นครั้งแรกที่เขาเป็นฝ่ายโทรไปหาพี่เยซองก่อน
ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะที่เขาทำตัวละเลยแบบนี้?
[สวัสดีครับ] คิ้วเรียวขมวดมุ่นเมื่อคนที่มารับสายกลับไม่ใช่คนที่คิดถึง แต่พอปลายสายเอ่ยย้ำมาอีกครั้งเขาก็จำได้ว่าใคร
“จงจิน พี่เยซองอยู่ไหม?”
[อ่า พี่เรียวอุค? พี่เยซองนั่งเล่นที่สวนหลังบ้านหน่ะครับ รอเดี๋ยวนะครับ] เด็กหนุ่มเอ่ยอย่างเป็นกันเองก่อนจะมีเสียงแว่วๆเหมือนคุยกับใครอยู่อยู่ไกลๆซักพักเสียงที่คุ้นเคยก็ตอบรับมาที่ปลายสาย
[วันนี้ไม่มีงานหรอ?]
“ไม่มีครับ วันนี้ได้พัก”
[ก็ดีแล้ว ทำงานหนักติดต่อกันมากๆเดี๋ยวก็ได้ไม่สบายกันพอดี วันหยุดทั้งที่ต้องพักผ่อนมากๆนะ แล้วก็ไม่ต้องตามเจ้าพวกนั้นไปกินเบียร์ล่ะ เสียงเราเป็นเรื่องที่ต้องดูแล เข้าใจที่พี่พูดใช่ไหม?] ไม่รู้ว่าทำไม เพียงแค่ได้ยินประโยคที่มีแต่ความห่วงใยนั้นน้ำตาเขาถึงได้ไหลออกมาดื้อๆ
[เรียวอุค?]
“ผม ผมขอโทษ” เอ่ยออกมาได้เท่านั้นก็สะอื้นฮัก เพราะความเหน็ดเหนื่อยหรือยังไง ทำไมที่ผ่านมาเขาถึงได้ทำตัวไม่ดีกับพี่เยซองเลย ทั้งที่พี่เยซองห่วงเขามากขนาดนี้
[ขอโทษพี่เรื่องอะไร]
“ผมทำตัวไม่น่ารักเลย ผมเอาแต่จะวางสายหนีพี่เพราะผมเหนื่อย โดยที่ผมก็ลืมไปว่าพี่เองก็ทำงานเหนื่อยไม่แพ้ผม”
[เด็กบ้า พี่จะโกรธเราเพราะเรื่องแค่นี้ได้ยังไง] ริมฝีปากได้รูปยกยิ้มในรอบหลายวัน หัวใจที่เหมือนจะเต้นช้าลงกลับมีแรงที่เต้นต่ออีกครั้ง
นายเป็นยาวิเศษหรือไงนะ คิม เรียวอุค?
[พี่เปลี่ยนสถานะในไซ ทั้งที่พี่สัญญากับผมแล้วว่าผมจะต้องเป็นคนคิดสถานะให้พี่ทุกครั้งที่พี่อยากจะเปลี่ยน แสดงว่าพี่ต้องโกรธผม] รอยยิ้มยิ่งกว้างมากขึ้นเมื่อได้ยินน้ำเสียงติดกังวลนั้น เรียวอุคยังคงใส่ใจกับทุกรายละเอียดเกี่ยวกับเขาไม่เคยเปลี่ยน
“พี่ขอโทษ”
[ผมไม่ชอบเลย Love Is Really Pain อะไรกัน ความรักมันไม่ได้น่าเจ็บปวดขนาดนั้นหรอก พี่กำลังทำให้ผมใจไม่ดีนะ] ปลายสายดูเหมือนหางเสียงจะสั่นเครืออีกครั้ง เยซองยิ้มให้กับความขี้แยของคนรัก ดูเหมือนระยะทางที่ห่างกันกับความคิดถึงของเขาจะทำให้ตัวเองมีความคิดเกี่ยวกับความรักเปลี่ยนไป ความจริงเรียวอุคอาจจะไม่ได้เปลี่ยน แต่เขานั่นแหละ ที่กังวลมากเกินไป
“พี่ถูกเลือกให้ร้องเพลงประกอบละคร Love Is Really Pain มันเป็นชื่อเพลง พี่ชอบ ก็เลยเปลี่ยนโดยไม่บอก อย่าคิดมากเลยนะ” การโกหกบ้างบางครั้งมันก็ดีกว่าที่เราจะพูดความรู้สึกของเราออกไปทุกอย่างจนเกิดความหมางเมินกัน อย่ารู้เลยว่าพี่เคยคิดมากเกี่ยวกับตัวเรา อย่าร้องไห้กับความเข้าใจผิดของเราสองคนอีกเลย หัวใจของพี่
[จริงหรอครับ?]
“จริงสิ พี่จะโกหกเราทำไมกัน พี่คงนอนเล่นที่บ้านได้อีกซักสองสามวัน เดี๋ยวก็ต้องกลับไปเข้าห้องอัดแล้ว”
[ผมจะรอฟังนะ]
“อืม พี่จะตั้งใจสุดฝีมือเลย” ที่เขาว่ากันว่ายาดีก็คือกำลังใจจากคนใกล้ตัว เขาเชื่อแล้วว่ามันเป็นความจริง
[พี่เยซอง ]
“หืม?”
[เปลี่ยนสถานะในไซได้ไหม?]
“ได้สิ เรียวอุคอยากให้พี่เขียนว่าอะไรล่ะ” คนที่อยู่ทางจีนนิ่งไปครู่ใหญ่ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงอ้อมแอ้ม
[ คิดถึง ]
“คิดถึง?”
[อย่าลืมเปลี่ยนนะ ผมจะเข้าไปเชคด้วย] ชายหนุ่มหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อเสียงหวานๆนั้นพยายามเก็กข่มขู่เขา ร่างสูงเดินตรงไปที่คอมพิวเตอร์ของน้องชายที่เปิดทิ้งไว้ ก่อนจะล็อคอินเข้าไซตัวเองด้วยรอยยิ้ม
“ลองเข้าไปดูสิ” บอกกับคนปลายสายเมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยภายในเวลาไม่นาน เรียวอุครีบวิ่งออกจากห้องนอนก่อนจะตรงไปนั่งที่หน้าคอมอย่างรวดเร็วทำเอาสมาชิกที่ทำกิจกรรมยามว่างอยู่ในห้องนั่งเล่นถึงกับหันมามองอย่างมาเข้าใจ
หน้าเพจถูกเรียกขึ้นมาก่อนที่ริมฝีปากบางจะแย้มยิ้ม ที่สถานะถูกเปลี่ยนไปอย่างที่เขาร้องขอ หากที่ดูเหมือนจะมีอะไรบางอย่างเกินกว่าที่บอกไป
[ คิดถึง ]
[เมื่อความรักคือความคิดถึง]
[รีบกลับมานะ]
END.
จบแล้ว~!
series Love Is...
เป็นเรื่องสั้นหลายคู่ค่ะ เริ่มโปรเจคด้วยคู่ของพี่เย่กับหนูอุค
ติดตามกันต่อไปว่า...คู่ไหนจะมาเป็นคู่ต่อไป
และความรักนั้นจะเปรียบเหมือนอะไร
((รู้สึกเหมือนหาเรื่องให้ตัวเองมีฟิคที่ต้องเขียนเยอะมากขึ้นยังไงไม่รู้สิ -*-))
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น