ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Good Morning My Love # 1 [KangTeuk]
-- ONE --
การที่เราจะเข้าไปแทนที่ใครซักคน...มันลำบากเหมือนกันนะ
ภายในห้องพักของสตูดิโอ บรรยากาศเต็มไปด้วยความผ่อนคลาย หลังการอัดเสียงวันสุดท้ายสิ้นสุดลงพวกเขาได้หยุดยาวอีกตั้งสามวัน!! ในกรณีนี้ไม่รวมถึงการทำหน้าที่ดีเจที่ต้องทำกันเป็นปกติหยุดไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็ยังดีกว่าไม่ได้พักเลยก็แล้วกัน ในใจของหนุ่มๆเต็มไปด้วยแผนการหยุดพักผ่อนที่นานๆจะมีผ่านมาซักหน แต่อาจจะยกเว้นอยู่คนหนึ่ง...
“วันนี้คังอินมันนั่งถอนใจมาเกือบสิบรอบแล้วนะ” พี่รองของวงหันมาพูดกับน้องๆที่นั่งอยู่ฝั่งเดียวกัน
“คิดอะไรเครียดๆอยู่มั้งครับ” ฮยอกแจออกความเห็นก่อนจะหันไปขอเสียงสนับสนุนจากซองมินที่นั่งอยู่ข้างกัน
“ผมก็ว่าอย่างนั้น”
“นั่งเหม่อแบบนี้เดี๋ยวโน้ตบุคก็ดูดเข้าไปหรอก” หัวหน้าวงคนสวยเข้าไปสะกิดเรียกร่างสูงที่ดูเหมือนสติจะหลุดลอยไปไกลพอสมควร โคล่ากระป๋องถูกส่งให้พร้อมรอยยิ้ม
“อ๊ะ...ขอบคุณครับพี่” ชายหนุ่มยิ้มตอบก่อนจะเปิดดื่ม
“นี่ ทึกกี้ นายซื้อมาให้คังอินคนเดียวหรอไง?” ฮีซอลที่วันนี้ว่างทั้งวันเลยมานั่งดูเพื่อนร่วมวงอัดเสียงยูนิตใหม่เอ่ยอย่างกัดๆ
“ใครจะลืมน้ำผลไม้ของแม่นางไปได้ลงคอล่ะ” อีทึกว่าพลางส่งน้ำผลไม้กระป๋องให้ ซึ่งร่างโปร่งก็รับมาก่อนจะเปิดดื่มอย่างสบายใจ
“แล้วของพวกผมล่ะ” น้องๆเริ่มท้วงบ้าง อีทึกยิ้มอย่างเอ็นดู
“ไม่ลืมหรอก พี่ฝากพี่ซึงฮวานถือมาหน่ะ เดี๋ยวก็คงมาถึง” พูดยังไม่ทันขาดคำประตูห้องก็เปิดออกพร้อมกับร่างสูงที่คุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี ผู้จัดการวงคนเก่งที่พ่วงตำแหน่ง คนรักของปาร์ค จองซู
“ฮยอกแจ นมรสสตรอเบอรี่ยี่ห้อประจำของนายหมดหน่ะ พี่ก็เลยซื้อยี่ห้ออื่นมา กินได้ใช่ไหม?” เจ้าพ่อขาแดนซ์ประจำวงพยักหน้ารับเร็วๆก่อนจะลุกมารับกล่องนมรสโปรดไปดื่ม อีทึกจัดแจงแจกจ่ายเสบียงให้สมาชิกแต่ละคนอย่างครบถ้วนก่อนจะเปิดโคล่ากระป๋องดื่มบ้าง
“นี่ อีทึก” ร่างสูงกระซิบเรียกเบาๆข้างหูเมื่อคนรักเดินมานั่งข้างๆ
“ครับ? มีอะไรหรอ?”
“คืนนี้ไปค้างบ้านพี่ไหม?”
“จะหาคนทำกับข้าวให้ล่ะสิ” ร่างบางถามอย่างรู้ทัน
“เปล่าซักหน่อย...แต่เราไม่ได้อยู่ด้วยกันตามลำพังนานแล้วนะ” แขนแกร่งโอบเอวบางไว้หลวมๆ ใบหน้าหวานแดงระเรื่อเมื่อเจอสายตาล้อเลียนจากน้องๆ
“วันนี้ต้องขอแสดงความเสียใจจริงๆครับ พี่ลืมไปแล้วหรอว่าผมต้องจัดรายการกับฮยอกแจตอนสี่ทุ่ม” ร่างโปร่งถามยิ้มๆ
“สงสัยคุณพี่คงจะลืมจริงๆนั่นแหละว่าดาร์ลิงต้องไปทำหน้าที่ดีเจ ฮ่าๆๆ น่าสงสารจังเลยน๊า...แห้วซะแล้ว” ฮีซอลหัวเราะอย่างเริงร่า เรื่องซ้ำเติมคนอื่นขอให้บอก ไม่มีพลาด
“ขำตายล่ะฮีซอล”
“โอ๊ะ...มีเคืองด้วย งั้นผมคงจะต้องรีบกลับเดี๋ยวศพจะไม่สวย ฮ่าๆๆๆ บายทุกคน” ว่าแล้วก็เผ่นแผล็วหายเข้ากลีบเมฆไปอย่างสวยงาม
“งั้นพวกผมลงไปหาอะไรกินข้างล่างนะพี่ทึก” เมื่อเห็นว่าสมควรแก่เวลาที่จะปล่อยให้คนรักกันได้อยู่กันตามลำพัง สมาชิกที่เหลือจึงค่อยๆสลายตัวกันไปทีละคนสองคนอย่างแนบเนียน ยังผลให้เหลือสิ่งมีชีวิตในห้องเพียงแค่ สาม
“โดดรายการซักวันไม่ได้หรออีทึก คืนนี้พี่อยากอยู่กับนายนะ” เรียวนิ้วเริ่มลูบไล้ไปตามใบหน้าหวาน ร่างสูงเชยคางคนรักขึ้นเล็กน้อยก่อนจะโน้มตัวลงเข้าใกล้...ทีละนิด
“พี่ซึงฮวาน...คังอินยังอยู่ที่นี่นะ รู้จักอายซะบ้าง” ร่างบางผลักคนรักออกห่างก่อนจะกระซิบเขินๆ
“คังอินไม่ว่าอะไรหรอก”
“ผมจะไปว่าอะไรพวกพี่ได้ล่ะ โอเค...ผมกลับล่ะ” คังอินลุกขึ้นเก็บของก่อนจะกล่าวลา
“โกรธหรือเปล่าคังอิน พี่ไม่ได้ไล่นายนะ” ผู้จัดการหนุ่มยังไม่วายแหย่ต่อ
“ไม่ได้โกรธ แค่ไม่อยาก...ขัดความสุขใคร” ร่างสูงยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจแล้วเดินออกไป อีทึกได้แต่มองตามแต่ก็ไม่พูดอะไร
“เป็นอะไรรึเปล่าอีทึก?”
“เปล่าครับ...งั้นผมกลับไปเตรียมตัวที่หอก่อนนะ น่าเสียดายจัง เราน่าจะได้อยู่ด้วยกันนานกว่านี้” ร่างบางหันมายิ้มแห้งๆ มือเรียวคว้ากระเป๋ามาสะพาย แต่ก่อนจะกลับก็ยังไม่ลืมจูบลาคนรักอย่างที่เคยทำกันเป็นประจำ ร่างสูงลูบริมฝีปากตัวเองเบาๆ
“พี่สมควรจะดีใจหรือเศร้าใจดีนะที่นายยังไม่รู้ใจตัวเอง”
“นี่มันเรื่องอะไรเนี่ย!!” กระป๋องเบียร์แทบหลุดจากมือเมื่อเห็นข้อความประกาศหลาในเว็บเพจ ซึงฮวานประกาศเรื่องการแต่งงานกับนางแบบสาวสวยชื่อดัง มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่? คังอินพยายามค้นหาต้นตอของข่าว บางทีพวกแฟนคลับอาจจะเข้าใจผิดก็เลยโพสเอาชุ่ยๆ แต่แล้วชายหนุ่มก็ต้องอึ้งไปเมื่อเจ้าของกระทู้ยืนยันแหล่งที่มาจากโฮมเพจส่วนตัวของซึงฮวานเอง!
“พี่ซึงฮวานมันทำนรกอะไรของมันวะเนี่ย!” ปลายนิ้วพิมพ์ป้อนชื่อเว็บอย่างรวดเร็ว เว็บเพจหน้าที่ต้องการถูกเปิดออกมาเพื่อพิสูจน์ความจริง
ในไดอารี่ส่วนตัวมีข้อความที่ซึงฮวานเขียนถึงการจดทะเบียนสมรสระหว่างตนเองกับแฟนสาวที่เพิ่งจะรู้จักกันได้ไม่นาน ร่างสูงไล่อ่านทุกตัวอักษรเพื่อกันความผิดพลาด แต่แล้วมันก็ไม่พลาดซักตัว!! แล้วอีทึกล่ะ? พี่ซึงฮวานเอาอีทึกของเขาไปไว้ที่ไหน? กว่าชายหนุ่มจะรู้ตัวก็กดเบอร์โทรหาอีกฝ่ายไปซะแล้ว เสียงหวานๆที่มักจะได้ยินทุกครั้งที่โทรหากลับดูเศร้าจนอดที่จะหดหู่ไปด้วยไม่ได้
[มีอะไรหรอคังอิน?]
“เอ่อ...ตอนนี้พี่...พี่ทำอะไรอยู่?” เพราะว่าไม่ได้ตั้งใจจะโทรจึงไม่ได้เตรียมตัวไว้ให้พร้อม คำถามที่ถามออกไปเลยดูเหมือนโง่จนเจ้าตัวยังอยากจะเอาหัวโขกกระป๋องเบียร์ตาย
[ก็คุยโทรศัพท์กับนายไง] อีทึกตอบขำๆ ทักษะการพูดโทรศัพท์ของรุ่นน้องเขายังอยู่ในระดับแย่อย่างคงเส้นคงวาไม่เปลี่ยนเลย
“ไม่...ผมไม่ได้ถามแบบนั้น ผมหมายถึงพี่...เอ่อ...โอเคไหม?” ชายหนุ่มอดที่จะด่าตัวเองในใจไม่ได้ บางทีเขาน่าจะเตรียมคำถามหรือเตรียมใจเอาไว้ก่อน สถานการณ์แบบนี้เขาไม่ชอบเลยจริงๆให้ตายเหอะ!
[พี่โอเค นายไม่ต้องห่วงหรอก] น้ำเสียงอีกฝ่ายแผ่วไปจนเห็นได้ชัดจนร่างสูงอดที่จะโทษตัวเองไม่ได้...บางทีเขาไม่สมควรจะถามอีทึกในตอนนี้
“พี่รู้ว่าผมถามเรื่องอะไร?”
[รู้สิ...เพราะฮยอกแจ ฮีซอล ชินดง ซองมิน หรือแม้แต่เยซองเพิ่งจะโทรมาถามเรื่องนี้ก่อนนายไม่กี่นาที พี่รู้นะว่าทุกคนเป็นห่วง...แต่พี่ไม่เป็นอะไรจริงๆ]
“พี่อีทึก...เสียงพี่แย่มากเลยนะ”
[ดื่มเบียร์มากไปล่ะมั้ง เอาเถอะ...ขอพี่ซักวันก็แล้วกัน] อีทึกหัวเราะเบาๆ เขาอยากให้คนรอบข้างเบาใจ ก็รู้สึกดีอยู่หรอกนะที่มีคนเป็นห่วง แต่บางทีมันรู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอยังไงก็ไม่รู้
“พี่ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวนะ” ถ้าเป็นคนอื่นๆคงจะเบาใจแล้วก็วางหูไป แต่ไม่ใช่คังอินคนนี้แน่นอน อีทึกกำลังแย่แค่ไหนทำไมเขาจะไม่รู้ ทั้งน้ำเสียงทั้งการพูดจา ทำไมต้องไปแคร์ไอ้นรกส่งมาเกิดมากขนาดนั้นก็ไม่รู้!
[พี่รู้คังอิน...พี่มีนาย มีน้องๆทุกคน มีเอล์ฟที่น่ารักคอยอยู่เคียงข้างเสมอ]
“แล้วไม่มีพี่ซึงฮวานหรือไง” หลุดปากถามไปด้วยอยากจะประชด แต่แล้วก็แทบอยากจะตบปากตัวเอง ทำไมโง่อย่างนี้นะ คิม ยองอุน!!
[...พี่หน่ะมีเขาเสมอแหละ เพียงแต่ตอนนี้เขาไม่มีพี่แล้วก็เท่านั้น] อีทึกนิ่งไปพักใหญ่ก่อนจะตอบ นิ้วเรียวจิ้มวงน้ำที่อยู่บนโต๊ะกระจกลากไปมาเขียนเป็นข้อความสั้นๆ “ซึงฮวาน” หยาดน้ำตาใสไหลเอ่อรอบดวงตาจนภาพข้างหน้าพล่าเลือน ในสมองมีคำๆเดียวก้องซ้ำไปซ้ำมา...ทำไม ?
“พี่จะให้ผมไปอยู่เป็นเพื่อนไหม?”
[ ]
“พี่อีทึก?”
[โทษที...พอดีคิดอะไรเพลินไปหน่อย] นิ้วเรียวรีบปาดน้ำตาทิ้ง เขาไม่ควรทำตัวเป็นคนอ่อนแอสินะ
“พี่...ร้องไห้” เสียงสั่นแบบนี้ทำไมเขาจะไม่รู้
[เปล่า...พอดีพี่หาวหน่ะ]
“หาว?” ข้อแก้ตัวฟังไม่ขึ้นซักนิด
[ใช่...พี่ง่วงแล้วล่ะ โดนเบียร์กระป๋องทำพิษเข้าซะแล้ว พี่ขอตัวไปนอนก่อนนะ]
“งั้นผมไม่รบกวนแล้วล่ะ ฝันดีนะครับ”
[อืม...ขอบใจนะ] คังอินนั่งมองโทรศัพท์มือถือในมือเงียบๆ เท่าที่ลองคุยกับอีทึก อีกฝ่ายอาการแย่พอควร เขาไม่รู้หรอกนะว่าสองคนนั่นมีเรื่องอะไรกัน แต่การที่พี่ซึงฮวานทำแบบนี้มันไม่โหดร้ายกับพี่ชายเขาเกินไปหรอ?
“พี่คิดอะไรอยู่นะพี่ซึงฮวาน?”
TBC.
เป็นครั้งแรกที่เอาฟิคที่เขียนจบแล้วมาลง บรรยากาศดินพอกหางหมูคราวนี้คงหมดไป **หัวเราะ**
ขอฝากฟิคเรื่องนี้ไว้อีกซักเรื่องนะคะ
โฆษณานิดนึง
อย่าลืมช่วยกันอุดหนุนฟิคเรื่อง Love Accident [wonhyuk] กันนะคะ
การที่เราจะเข้าไปแทนที่ใครซักคน...มันลำบากเหมือนกันนะ
ภายในห้องพักของสตูดิโอ บรรยากาศเต็มไปด้วยความผ่อนคลาย หลังการอัดเสียงวันสุดท้ายสิ้นสุดลงพวกเขาได้หยุดยาวอีกตั้งสามวัน!! ในกรณีนี้ไม่รวมถึงการทำหน้าที่ดีเจที่ต้องทำกันเป็นปกติหยุดไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็ยังดีกว่าไม่ได้พักเลยก็แล้วกัน ในใจของหนุ่มๆเต็มไปด้วยแผนการหยุดพักผ่อนที่นานๆจะมีผ่านมาซักหน แต่อาจจะยกเว้นอยู่คนหนึ่ง...
“วันนี้คังอินมันนั่งถอนใจมาเกือบสิบรอบแล้วนะ” พี่รองของวงหันมาพูดกับน้องๆที่นั่งอยู่ฝั่งเดียวกัน
“คิดอะไรเครียดๆอยู่มั้งครับ” ฮยอกแจออกความเห็นก่อนจะหันไปขอเสียงสนับสนุนจากซองมินที่นั่งอยู่ข้างกัน
“ผมก็ว่าอย่างนั้น”
“นั่งเหม่อแบบนี้เดี๋ยวโน้ตบุคก็ดูดเข้าไปหรอก” หัวหน้าวงคนสวยเข้าไปสะกิดเรียกร่างสูงที่ดูเหมือนสติจะหลุดลอยไปไกลพอสมควร โคล่ากระป๋องถูกส่งให้พร้อมรอยยิ้ม
“อ๊ะ...ขอบคุณครับพี่” ชายหนุ่มยิ้มตอบก่อนจะเปิดดื่ม
“นี่ ทึกกี้ นายซื้อมาให้คังอินคนเดียวหรอไง?” ฮีซอลที่วันนี้ว่างทั้งวันเลยมานั่งดูเพื่อนร่วมวงอัดเสียงยูนิตใหม่เอ่ยอย่างกัดๆ
“ใครจะลืมน้ำผลไม้ของแม่นางไปได้ลงคอล่ะ” อีทึกว่าพลางส่งน้ำผลไม้กระป๋องให้ ซึ่งร่างโปร่งก็รับมาก่อนจะเปิดดื่มอย่างสบายใจ
“แล้วของพวกผมล่ะ” น้องๆเริ่มท้วงบ้าง อีทึกยิ้มอย่างเอ็นดู
“ไม่ลืมหรอก พี่ฝากพี่ซึงฮวานถือมาหน่ะ เดี๋ยวก็คงมาถึง” พูดยังไม่ทันขาดคำประตูห้องก็เปิดออกพร้อมกับร่างสูงที่คุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี ผู้จัดการวงคนเก่งที่พ่วงตำแหน่ง คนรักของปาร์ค จองซู
“ฮยอกแจ นมรสสตรอเบอรี่ยี่ห้อประจำของนายหมดหน่ะ พี่ก็เลยซื้อยี่ห้ออื่นมา กินได้ใช่ไหม?” เจ้าพ่อขาแดนซ์ประจำวงพยักหน้ารับเร็วๆก่อนจะลุกมารับกล่องนมรสโปรดไปดื่ม อีทึกจัดแจงแจกจ่ายเสบียงให้สมาชิกแต่ละคนอย่างครบถ้วนก่อนจะเปิดโคล่ากระป๋องดื่มบ้าง
“นี่ อีทึก” ร่างสูงกระซิบเรียกเบาๆข้างหูเมื่อคนรักเดินมานั่งข้างๆ
“ครับ? มีอะไรหรอ?”
“คืนนี้ไปค้างบ้านพี่ไหม?”
“จะหาคนทำกับข้าวให้ล่ะสิ” ร่างบางถามอย่างรู้ทัน
“เปล่าซักหน่อย...แต่เราไม่ได้อยู่ด้วยกันตามลำพังนานแล้วนะ” แขนแกร่งโอบเอวบางไว้หลวมๆ ใบหน้าหวานแดงระเรื่อเมื่อเจอสายตาล้อเลียนจากน้องๆ
“วันนี้ต้องขอแสดงความเสียใจจริงๆครับ พี่ลืมไปแล้วหรอว่าผมต้องจัดรายการกับฮยอกแจตอนสี่ทุ่ม” ร่างโปร่งถามยิ้มๆ
“สงสัยคุณพี่คงจะลืมจริงๆนั่นแหละว่าดาร์ลิงต้องไปทำหน้าที่ดีเจ ฮ่าๆๆ น่าสงสารจังเลยน๊า...แห้วซะแล้ว” ฮีซอลหัวเราะอย่างเริงร่า เรื่องซ้ำเติมคนอื่นขอให้บอก ไม่มีพลาด
“ขำตายล่ะฮีซอล”
“โอ๊ะ...มีเคืองด้วย งั้นผมคงจะต้องรีบกลับเดี๋ยวศพจะไม่สวย ฮ่าๆๆๆ บายทุกคน” ว่าแล้วก็เผ่นแผล็วหายเข้ากลีบเมฆไปอย่างสวยงาม
“งั้นพวกผมลงไปหาอะไรกินข้างล่างนะพี่ทึก” เมื่อเห็นว่าสมควรแก่เวลาที่จะปล่อยให้คนรักกันได้อยู่กันตามลำพัง สมาชิกที่เหลือจึงค่อยๆสลายตัวกันไปทีละคนสองคนอย่างแนบเนียน ยังผลให้เหลือสิ่งมีชีวิตในห้องเพียงแค่ สาม
“โดดรายการซักวันไม่ได้หรออีทึก คืนนี้พี่อยากอยู่กับนายนะ” เรียวนิ้วเริ่มลูบไล้ไปตามใบหน้าหวาน ร่างสูงเชยคางคนรักขึ้นเล็กน้อยก่อนจะโน้มตัวลงเข้าใกล้...ทีละนิด
“พี่ซึงฮวาน...คังอินยังอยู่ที่นี่นะ รู้จักอายซะบ้าง” ร่างบางผลักคนรักออกห่างก่อนจะกระซิบเขินๆ
“คังอินไม่ว่าอะไรหรอก”
“ผมจะไปว่าอะไรพวกพี่ได้ล่ะ โอเค...ผมกลับล่ะ” คังอินลุกขึ้นเก็บของก่อนจะกล่าวลา
“โกรธหรือเปล่าคังอิน พี่ไม่ได้ไล่นายนะ” ผู้จัดการหนุ่มยังไม่วายแหย่ต่อ
“ไม่ได้โกรธ แค่ไม่อยาก...ขัดความสุขใคร” ร่างสูงยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจแล้วเดินออกไป อีทึกได้แต่มองตามแต่ก็ไม่พูดอะไร
“เป็นอะไรรึเปล่าอีทึก?”
“เปล่าครับ...งั้นผมกลับไปเตรียมตัวที่หอก่อนนะ น่าเสียดายจัง เราน่าจะได้อยู่ด้วยกันนานกว่านี้” ร่างบางหันมายิ้มแห้งๆ มือเรียวคว้ากระเป๋ามาสะพาย แต่ก่อนจะกลับก็ยังไม่ลืมจูบลาคนรักอย่างที่เคยทำกันเป็นประจำ ร่างสูงลูบริมฝีปากตัวเองเบาๆ
“พี่สมควรจะดีใจหรือเศร้าใจดีนะที่นายยังไม่รู้ใจตัวเอง”
“นี่มันเรื่องอะไรเนี่ย!!” กระป๋องเบียร์แทบหลุดจากมือเมื่อเห็นข้อความประกาศหลาในเว็บเพจ ซึงฮวานประกาศเรื่องการแต่งงานกับนางแบบสาวสวยชื่อดัง มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่? คังอินพยายามค้นหาต้นตอของข่าว บางทีพวกแฟนคลับอาจจะเข้าใจผิดก็เลยโพสเอาชุ่ยๆ แต่แล้วชายหนุ่มก็ต้องอึ้งไปเมื่อเจ้าของกระทู้ยืนยันแหล่งที่มาจากโฮมเพจส่วนตัวของซึงฮวานเอง!
“พี่ซึงฮวานมันทำนรกอะไรของมันวะเนี่ย!” ปลายนิ้วพิมพ์ป้อนชื่อเว็บอย่างรวดเร็ว เว็บเพจหน้าที่ต้องการถูกเปิดออกมาเพื่อพิสูจน์ความจริง
ในไดอารี่ส่วนตัวมีข้อความที่ซึงฮวานเขียนถึงการจดทะเบียนสมรสระหว่างตนเองกับแฟนสาวที่เพิ่งจะรู้จักกันได้ไม่นาน ร่างสูงไล่อ่านทุกตัวอักษรเพื่อกันความผิดพลาด แต่แล้วมันก็ไม่พลาดซักตัว!! แล้วอีทึกล่ะ? พี่ซึงฮวานเอาอีทึกของเขาไปไว้ที่ไหน? กว่าชายหนุ่มจะรู้ตัวก็กดเบอร์โทรหาอีกฝ่ายไปซะแล้ว เสียงหวานๆที่มักจะได้ยินทุกครั้งที่โทรหากลับดูเศร้าจนอดที่จะหดหู่ไปด้วยไม่ได้
[มีอะไรหรอคังอิน?]
“เอ่อ...ตอนนี้พี่...พี่ทำอะไรอยู่?” เพราะว่าไม่ได้ตั้งใจจะโทรจึงไม่ได้เตรียมตัวไว้ให้พร้อม คำถามที่ถามออกไปเลยดูเหมือนโง่จนเจ้าตัวยังอยากจะเอาหัวโขกกระป๋องเบียร์ตาย
[ก็คุยโทรศัพท์กับนายไง] อีทึกตอบขำๆ ทักษะการพูดโทรศัพท์ของรุ่นน้องเขายังอยู่ในระดับแย่อย่างคงเส้นคงวาไม่เปลี่ยนเลย
“ไม่...ผมไม่ได้ถามแบบนั้น ผมหมายถึงพี่...เอ่อ...โอเคไหม?” ชายหนุ่มอดที่จะด่าตัวเองในใจไม่ได้ บางทีเขาน่าจะเตรียมคำถามหรือเตรียมใจเอาไว้ก่อน สถานการณ์แบบนี้เขาไม่ชอบเลยจริงๆให้ตายเหอะ!
[พี่โอเค นายไม่ต้องห่วงหรอก] น้ำเสียงอีกฝ่ายแผ่วไปจนเห็นได้ชัดจนร่างสูงอดที่จะโทษตัวเองไม่ได้...บางทีเขาไม่สมควรจะถามอีทึกในตอนนี้
“พี่รู้ว่าผมถามเรื่องอะไร?”
[รู้สิ...เพราะฮยอกแจ ฮีซอล ชินดง ซองมิน หรือแม้แต่เยซองเพิ่งจะโทรมาถามเรื่องนี้ก่อนนายไม่กี่นาที พี่รู้นะว่าทุกคนเป็นห่วง...แต่พี่ไม่เป็นอะไรจริงๆ]
“พี่อีทึก...เสียงพี่แย่มากเลยนะ”
[ดื่มเบียร์มากไปล่ะมั้ง เอาเถอะ...ขอพี่ซักวันก็แล้วกัน] อีทึกหัวเราะเบาๆ เขาอยากให้คนรอบข้างเบาใจ ก็รู้สึกดีอยู่หรอกนะที่มีคนเป็นห่วง แต่บางทีมันรู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอยังไงก็ไม่รู้
“พี่ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวนะ” ถ้าเป็นคนอื่นๆคงจะเบาใจแล้วก็วางหูไป แต่ไม่ใช่คังอินคนนี้แน่นอน อีทึกกำลังแย่แค่ไหนทำไมเขาจะไม่รู้ ทั้งน้ำเสียงทั้งการพูดจา ทำไมต้องไปแคร์ไอ้นรกส่งมาเกิดมากขนาดนั้นก็ไม่รู้!
[พี่รู้คังอิน...พี่มีนาย มีน้องๆทุกคน มีเอล์ฟที่น่ารักคอยอยู่เคียงข้างเสมอ]
“แล้วไม่มีพี่ซึงฮวานหรือไง” หลุดปากถามไปด้วยอยากจะประชด แต่แล้วก็แทบอยากจะตบปากตัวเอง ทำไมโง่อย่างนี้นะ คิม ยองอุน!!
[...พี่หน่ะมีเขาเสมอแหละ เพียงแต่ตอนนี้เขาไม่มีพี่แล้วก็เท่านั้น] อีทึกนิ่งไปพักใหญ่ก่อนจะตอบ นิ้วเรียวจิ้มวงน้ำที่อยู่บนโต๊ะกระจกลากไปมาเขียนเป็นข้อความสั้นๆ “ซึงฮวาน” หยาดน้ำตาใสไหลเอ่อรอบดวงตาจนภาพข้างหน้าพล่าเลือน ในสมองมีคำๆเดียวก้องซ้ำไปซ้ำมา...ทำไม ?
“พี่จะให้ผมไปอยู่เป็นเพื่อนไหม?”
[ ]
“พี่อีทึก?”
[โทษที...พอดีคิดอะไรเพลินไปหน่อย] นิ้วเรียวรีบปาดน้ำตาทิ้ง เขาไม่ควรทำตัวเป็นคนอ่อนแอสินะ
“พี่...ร้องไห้” เสียงสั่นแบบนี้ทำไมเขาจะไม่รู้
[เปล่า...พอดีพี่หาวหน่ะ]
“หาว?” ข้อแก้ตัวฟังไม่ขึ้นซักนิด
[ใช่...พี่ง่วงแล้วล่ะ โดนเบียร์กระป๋องทำพิษเข้าซะแล้ว พี่ขอตัวไปนอนก่อนนะ]
“งั้นผมไม่รบกวนแล้วล่ะ ฝันดีนะครับ”
[อืม...ขอบใจนะ] คังอินนั่งมองโทรศัพท์มือถือในมือเงียบๆ เท่าที่ลองคุยกับอีทึก อีกฝ่ายอาการแย่พอควร เขาไม่รู้หรอกนะว่าสองคนนั่นมีเรื่องอะไรกัน แต่การที่พี่ซึงฮวานทำแบบนี้มันไม่โหดร้ายกับพี่ชายเขาเกินไปหรอ?
“พี่คิดอะไรอยู่นะพี่ซึงฮวาน?”
TBC.
เป็นครั้งแรกที่เอาฟิคที่เขียนจบแล้วมาลง บรรยากาศดินพอกหางหมูคราวนี้คงหมดไป **หัวเราะ**
ขอฝากฟิคเรื่องนี้ไว้อีกซักเรื่องนะคะ
โฆษณานิดนึง
อย่าลืมช่วยกันอุดหนุนฟิคเรื่อง Love Accident [wonhyuk] กันนะคะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น