ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SJ] WonHyuk's Birthday Project

    ลำดับตอนที่ #1 : Love Card

    • อัปเดตล่าสุด 9 เม.ย. 51


    Title :: Love Card [WonHyuk’s Birthday Project]
    Pairing :: WonHyuk
    Author :: kobamura
    Rating :: PG-13
    Author’s Note :: เรื่องทุกอย่างก็เป็นเพียงเหตุการณ์สมมติขึ้นเท่านั้น อ่านเพื่อความบันเทิงนะคะ


    ปล.ฟิคฉลองวันเกิดลูกไก่ มาช่วยฮยอกแจถอดรหัสลับกันเถอะคะ



    user posted image



    พระเจ้ามักจะสร้างสิ่งแปลกประหลาดให้เราได้ตกใจอยู่เสมอ

    แล้วตอนนี้พระเจ้าก็กำลังเล่นตลกกับชีวิตของเขา

    เพื่ออะไร?




    “ฮยอกแจ…” เจ้าของชื่อชะงักมือที่กำลังจะกดเปลี่ยนช่องโทรทัศน์ก่อนจะหันมาทางเพื่อนสนิทที่เดินงัวเงียมาหา

    “อะไรซองมิน?” การ์ดใบเล็กถูกยื่นให้ส่งๆก่อนที่สิ่งมีชีวิตสีชมพูจะเดินล่องลอยกลับเข้าไปในครัวโดยไม่พูดอะไรอีก นั่น…ยังตื่นไม่เต็มตาใช่มั้ย?

    “อะไรของเขาเนี่ย” หัวเราะขึ้นจมูกก่อนจะหยิบการ์ดขึ้นมาดู เรียกหรูๆให้ดูดีไปอย่างนั้นแหละ ความจริงมันก็แค่กระดาษแข็งสีขาวที่พิมพ์ข้อความภาษาอังกฤษสั้นๆ แต่ไม่ได้ใจความเอาเสียเลย


    ไม่ได้แก้ตัวอะไรซักหน่อย

    นี่มันเป็นภาษาอังกฤษที่เกินบรรยายจริงๆนะ

    ให้เด็กนอกอย่างคิบอมช่วยแปลยังแป้กเลย



    “ได้กระดาษศัพท์ชวนคิดมาอีกแล้วหรอ?” หัวหน้าวงคนเก่งเดินมานั่งข้างๆพลางเช็ดผมที่เพิ่งสระมาให้หมาด คนถูกถามทำปากยู่ก่อนจะทิ้งตัวเอาหลังกระแทกโซฟาอย่างไม่กลัวเจ็บแขนที่เข้าเฝือกอยู่แม้แต่น้อย

    “ประโยคเดิมแหละพี่ ส่งมาจะครบเดือนอยู่แล้ว แต่ผมก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่ามันจะแปลว่าอะไร” ถอนใจอย่างเซ็งๆพลางมองข้อความในกระดาษราวกับว่ามันเป็นรหัสลับกู้โลกก็ไม่ปาน


    C plead love pain closely

    มันแปลว่าอะไรนะ?



    “ร้องขอรักความเจ็บปวดอย่างใกล้ชิด” คิ้วเรียวยิ่งขมวดมุ่นเมื่อพี่ชายเอ่ยคำแปลชวนปวดหัวออกมา

    “มันน่ากลัวมากเลยนะพี่ทึก” แต่ถ้าลองเอาศัพท์พวกนี้ไปเปิดดิกมันก็ได้ความหมายแบบนี้อยู่ดีแหละ แต่มันก็นะ…คนเขียนต้องการจะสื่ออะไรกันแน่? พวกโรคจิตหรือไงนะ

    “นั่นสิ…เหมือนแอนตี้แฟนยังไงก็ไม่รู้” หัวเราะแห้งๆก่อนจะหันไปรับนมอุ่นแก้วโตที่ซองมินทำมาเผื่อทั้งสองคน กระต่ายอวบหย่อนตัวลงนั่งอีกฟากหนึ่งของฮยอกแจพลางยื่นหน้าเข้ามาดูด้วย

    “ประโยคเดิมอีกแล้ว? เบื่อแล้วอ่ะ”

    “บางทีถ้าเราแปลประโยคนี้ออกได้ คราวหน้าอาจจะมีประโยคใหม่มาก็ได้นะ” อีทึกหัวเราะเอ็นดูในความคิดของน้องชายที่แสนจะมองโลกในแง่ดีคนนี้ แต่ไม่ว่านี่จะเป็นเรื่องเล่นๆยังไง เขาคงต้องคอยสอดส่องเสียหน่อยแล้ว


    user posted image


    “มันคืออะไรกันนะ” เอ่ยอย่างจนปัญญากับกระดาษหลายสิบใบที่ถูกนำมาวางเรียงตรงหน้า เขาไม่เข้าใจเจตนาของคนทำจริงๆนะเนี่ย กระดาษพวกนี้ถูกนำมาวางที่หน้าประตูห้องของพวกเขาวันละใบทุกวัน ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมจนตอนนี้ก็ปลายเดือนแล้ว เขาก็ยังไม่เข้าใจประโยคภาษาอังกฤษนี่ซักที เขียนบ้าอะไรมาก็ไม่รู้

    “อ๊ะ!” ฮยอกแจรีบกระโดดลงจากเตียงวิ่งไปค้นกระเป๋าคว้าเจ้ามือถือเครื่องจิ๋วมากดรับทันทีเมื่อได้ยินเสียงเรียกเข้าที่ตั้งไว้สำหรับคนๆเดียว


    เพื่อนคนพิเศษของฮยอกแจ


    [นอนหรือยังเนี่ย] เสียงทุ้มที่เอ่ยมาตามสายเรียกรอยยิ้มกว้างได้เป็นอย่างดี

    “ถ้านอนไปแล้วจะได้ยินเสียงโทรศัพท์มั้ยหล่ะ นายก็น่าจะรู้ว่าฉันนอนขี้เซาจะตาย” ร่างบางเดินมากลับมานั่งที่เตียงอีกครั้งพลางเหลือบมองรูปพวกเขาที่ถ่ายพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งวงที่หัวเตียง ใครคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างเขา ผู้ชายตัวสูงที่ทุกคนในวงต่างยกให้เป็นคนที่หน้าตาดีที่สุด เจนเทิลแมนที่สุด


    ชเว ซีวอน


    [วันนี้เจ็บข้อมือหรือเปล่า?] ถามไถ่เป็นประโยคเริ่มต้นทุกครั้งที่โทรมาหา ซีวอนแปลงร่างเป็นหมอประจำตัวเขาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย?

    “ไม่เจ็บเลย วันนี้ฉันเป็นเด็กดีนะ” ทิ้งตัวลงนอนก่อนจะยกแขนเจ้าปัญหาขึ้นมาดู ไม่น่าซนเลยเรา ซ้อมเต้นลำบากชะมัดเลย

    [ไม่เชื่อ]

    “ทำไมหล่ะ?”

    [เมื่อคืนตอนจัดคิสมือนายกระแทกกับโต๊ะ ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ด้วยซ้ำไป] ขนาดคนเจ็บยังลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่ามือกระแทกกับโต๊ะ นี่ไปทำงานถึงจีนยังจะมาจับผิดเขาอีกนะ

    “ซีวอน…เฝือกมันหนาจะตายไป”

    [แล้วมันเจ็บมั้ยหล่ะ?]

    “เจ็บ” ตอบกลับเสียงอ่อยเมื่อถูกย้อนมาแบบนั้น แต่ก็ไม่ได้เจ็บมากมายนะ แค่ปวดแปลบๆเอง

    [งั้นก็ทานยาด้วยนะ แล้วนี่ทานยาหลังอาหารเช้าหรือยัง อย่าดื้อเรื่องทานยานะรู้มั้ย] คนเจ็บหัวเราะคิกคักเมื่ออีกฝ่ายเก็กเสียงดุราวกับกำลังสอนเด็กตัวน้อย

    “พี่ทึกคอยบังคับให้กินอยู่เรื่อยแหละ สบายใจได้”

    [ฮยอกแจ…]

    “หืม?”

    [คิดถึงนะ] ใบหน้าขาวร้อนวูบขึ้นมาทันที มาล้อเล่นอะไรกันเนี่ย ไม่ตลกเลยนะ เดี๋ยววางสายจากเขาก็คงโทรไปอ้อนพี่ทึกหรือไม่ก็พี่ซินอีกนั่นแหละ ทำไมนายชอบทำให้ฉันหลงดีใจไปกับคำพูดของนายเรื่อยเลยนะซีวอน

    “ฉันก็คิดถึง ทั้งนาย ทงเฮ พี่ฮันคยอง คยูฮยอน แล้วก็เรียวอุค คิดถึงทุกคนเลย กลับมาเมื่อไหร่จะเลี้ยงต้อนรับนะ” หัวเราะเสียงใสกลบเกลื่อนความรู้สึกภายในใจของตัวเอง ไม่อยากให้อีกฝ่ายต้องมารับรู้ความรู้สึกของเขา บอกตามตรง…เขากลัวจะเสียเพื่อนที่ดีๆไป


    ถึงจะรักกันไม่ได้ ขอแค่ได้อยู่ใกล้ๆก็พอ


    [อ้อ! ได้ข่าวว่ามีคนส่งการ์ดมาให้หรอ?] หัวข้อสนทนาที่เปลี่ยนไปทำเอาฮยอกแจปรับอารมณ์ไม่ทัน มือข้างที่ใส่เฝือกเขี่ยกระดาษเหล่านั้นไปมาก่อนจะตอบ

    “อือ…ส่งมาเกือบเดือนแล้ว ประโยคเดิมๆ C plead love pain closely จะบอกอะไรก็ไม่รู้”

    “คนเก่งภาษาอังกฤษอย่างนายเดี๋ยวก็แปลออก” ริมฝีปากบางเบ้งอนเมื่อได้ยินเหมือนกับว่าอีกฝ่ายพยายามจะกลั้นเสียงหัวเราะมากแค่ไหน ฉันไม่ได้เก่งเหมือนนายนะเว้ย! อย่ามาทับถมกันแบบนี้ มันฉุน!

    “เออ! ฉันเก่ง! ต่อให้พายุเข้าเกาหลีฉันก็พูดได้แค่ nice weather เท่านั้นแหละ!” กดตัดสายอย่างโมโหก่อนจะชิงปิดเครื่องกันคนโทรมายั่วให้โมโหเข้าไปอีก ร่างบางพลิกตัวนอนตะแคงมองกระดาษเจ้าปัญหาด้วยสายตาโกรธเคือง

    “เพราะพวกแกฉันถึงได้ถูกซีวอนแซวเรื่องภาษาอังกฤษ! ถ้าไม่ติดว่ายังแก้ปัญหาไม่ออก ฉันจะเอาพวกแกไปเผาเดี๋ยวนี้เลย ฮึ่ย!~” โยนความผิดให้กระดาษชะตาขาดเสร็จก็เดินดุ่มๆว่าจะออกมานั่งดูโทรทัศน์ที่ห้องนั่งเล่น แต่ยังไม่ทันจะหย่อนก้นนั่งอีทึกก็เดินเอามือถือมายื่นให้

    “ครับ?”

    “ซีวอน” บอกแค่นั้นก่อนจะเดินเข้าไปหาอะไรทานเล่นในครัว ปล่อยให้น้องชายได้คุยกับคนที่อยู่ปลายสายตามลำพัง แต่มันไม่เป็นอย่างที่พี่ชายที่ดีคิด ฮยอกแจเพียงมือโทรศัพท์ในมือเพียงครู่เดียวก่อนจะกดตัดสายโดยไม่พูดอะไรซักคำ

    “พี่ทึก…ผมวางมือถือไว้ที่โซฟานะครับ” บอกกับพี่ชายเสร็จก็เดินกลับเข้าไปในห้องแล้วล้มตัวลงนอน นายทำอะไรอยู่เนี่ยฮยอกแจ นายทำเหมือนงอนหมอนั่นทำไมกันนะ? ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะ…อย่าทำอีก


    user posted image


    “ฮยอกแจ…” กระดาษแผ่นเดิมถูกส่งมาให้เป็นประจำทุกเช้าโดยฝีมือซองมินที่มักจะชอบเดินไปสอดส่องหน้าประตูเป็นประจำทุกเช้าเผื่อมีแฟนคลับเอาของขวัญมาวางไว้สำหรับสมาชิกภายในวง

    “มาแล้ว” จากที่ประหลาดใจ กังวลใจ จนตอนนี้เริ่มกลายเป็นติดใจ เขาเริ่มรอคอยกระดาษแผ่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ? ถึงจะรู้ว่ามันเป็นประโยคเดิมๆ แต่เขาก็รอคอยมันอย่างใจจดจ่อ ราวกับว่าซักวันหนึ่งมันคงมีคำใบ้โผล่มาบ้างแหละ แล้วมันก็จริงๆด้วย!

    “พี่ทึก! ซองมิน! มันมีคำใบ้มาแล้วหล่ะ” เอ่ยออกมาอย่างดีใจจนสมาชิกที่วันนี้ส่วนใหญ่พักกันอยู่ที่บ้านต่างพาตัวเองย้ายกันมาที่ห้องนั่งเล่นอย่างพร้อมเพรียงกัน นี่เหมือนรวมกลุ่มเล่นเกมส์กันเลยนะเนี่ย

    “ล่าม…ภาษาเมืองยิ้มสวย” อะไรกันเนี่ย! คำใบ้นี่มันคืออะไรกัน? มองหน้าสมาชิกแต่ละคนก็ดูจะมึนไม่แพ้กัน มันเป็นเกมส์ถอดรหัสที่ยากที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอมาเลยนะเนี่ย

    “เดี๋ยว! หลังกระดาษเขียนว่าอะไรหน่ะ” ฮยอกแจรีบพลิกดูตามที่ฮีซอลบอก คิ้วเรียวขมวดมุ่นก่อนจะอ่านออกเสียงให้เพื่อนๆพี่ๆได้ฟังด้วย

    “วันสุดท้าย 4 เมษายน”

    “วันเกิดนายนี่” ซองมินเอ่ยบอกกับเจ้าตัวที่ดูเหมือนจะกำลังอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก

    “พี่ว่าวันนั้นเราคงต้องระวังตัวกันเป็นพิเศษแล้วหล่ะ มันชักไม่น่าไว้ใจแล้วสิ” อีทึกเริ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงเครียด จู่ๆก็มีการขีดเส้นตายขึ้นมาเสียอย่างนั้น มันไม่ผิดถ้าพวกเขาจะต้องระวังตัวเอาไว้ก่อนทั้งที่ความจริงแฟนคลับอาจจะแค่ต้องการเซอร์ไพร์สฮยอกแจเฉยๆก็ได้ แต่กันไว้ก็ดีกว่าแก้หล่ะนะ

    “ตกลงมันแปลว่าเนี่ย” กำหนดเวลาดูจะเลื่อนเข้ามาใกล้ทุกที อีกสี่วัน…สี่วันเท่านั้นเอง


    ซีวอน…ถ้าเป็นนาย นายจะปวดหัวเหมือนที่ฉันเป็นอยู่ตอนนี้มั้ยนะ?



    End of part love card.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×