ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ปิงป่องช่า
4
วันนี้มีกิจกรรมที่โรงเรียน ซึ่งมันไม่เกี่ยวกับฉันเลย(ไม่รู้จะให้มาโรงเรียนทำไม)มาทำไมห๊า โรงเรียนเนี้ยมาแล้วไม่ให้ขึ้นห้อง มาแล้วก็ไม่ได้รวมประกอบกิจกรรมอะไรกับเค้า จะให้ฉันมาทำไม หงุดหงิดๆ -..-
คนยิ่งหงุดหงิดอยู่
วันนี้ทำไมฉันถึงได้หงุดหงิดแบบนี้ ทุกคนคงอยากจะรู้มั้ง???
ย้อนไปเหตุการณ์เมื่อคืน
กลับมาถึงบ้าน นายเทร๊ปก็ขออนุญาติเฮียปิงขอดูใจกับฉันไปก่อน ส่วนเฮียปิงก็กระโดโลดเต้นในบัดดลที่น้องสาวสุดสวย(เหรอ)มีคน ไอคิวลบร้อยแปดสิบ(โง่) มาแอบชอบ
“เออๆ ฉันอนุญาติ แต่ห้ามท้องก่อนแต่งนะโว้ย ไม่งั้นแกตาย” เฮียปิงพูดขึ้น
“คร้าบ คร้าบ”นายเทร๊ปคำเฮียปิงอย่างเรียกว่าไรดีอ่ะทั้งกลัวและดีใจรึเปล่า??
กลับมาปัจจุบัน
ด้วยสาเหตนี้บวกกับมาโรงเรียนหายใจทิ้งขว้างมันเลยทำให้ฉัน หงุดหงิดแบบยกกำลังสองสามสี่เลย เฮอะ ไอ้พี่บ้าไม่หวงน้องสาวเลย
“ซิน มาเล่นกัน”
“เล่นอะไรของแก ห๊ะหงส์”
“ปิงป่องชา”
“-_-“
เล่นอะไรเป็นเด็กๆ โตจนหมาเลียก้นไม่ถึงแล้วยังมาเล่นอะไรเป็นเด็กๆอีก จะว่าไปเล่นแก้เซงก็ดีเหมือนกัน
“ตกลงแกจะเล่นมั้ย??”
“เล่นสิเว้ย”
ในที่สุดศึกเจ้าปิงป่องชาของฉันกับยัยหงส์ก็เริ่มขึ้น โดยมีกติกาอยู่ว่าใครทำผิดต้องทำตามคำสั่งทุกอย่างของอีกคน เกมส์นี้ไม่มีอะไรมากแค่ตอบมือแล้วก็เป่ายิงชุบ คนชนะยกมือขึ้นข้างบน คนแพ้เอาลงข้างล่าง ถ้าเสมอก็เอามือเตะไหล่ ฮ่าๆฉันมันเซียนเกมนี้อยู่แล้ว
ปิงป่องชา ปิงป่องช่าๆ ปิงป่องชา ปิงป่องช่าๆ ปิงป่องชา ปิงป่องช่าๆ ปิงป่องชา ปิงป่องช่าๆ ปิงป่องชา ปิงป่องช่าๆ
เฮ้ยฉันทำอะไรลงไปเสมอกับเอามือลงข้างล่างสะอย่างนั้น ไม่นะม้ายยยย
“โทษทีว่ะแกแพ้”
“TOT” ยัยหงส์แกจำไว้เลยนะ แกชนะฉันได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น
“ฉันจะให้ซินซิน สาวสวยสุดโหดของโรงเรียนทำอะไรดีน้า”
จะให้ฉันทำอะไรก็รีบคิดเถอะฉันปลงแล้วล่ะ TOT
“ทำอะไรดีน้า~”
“-_-”
“อะไรดีหว่า~”
“แกคิดออกแล้วปลุกฉันนะ”
“ออกและ แกเห็นกลุ่มผู้ชายสามคนนั้นมั้ย ที่นั่งอยู่ตรงร้านน้ำปั่นอ่า”
“อือ”มันต้องให้ฉันทำอะไรแปลกๆอีกแน่เลย
“คนตรงกลางที่ขาวๆสูงๆหน้าตาดีๆ เห็นม่ะ”
“เออ”
เห็นสิฟร่ะสว่างกว่าหลอดตะเกียบที่บ้านอีก
“แกเดินเข้าไปบอกว่า เราชอบนายมานานแล้วเป็นแฟนกับเรานะ”
เฮือก มันผิดจากที่ฉันคิดที่ไหนมันทำพิเรนท์แบบสุดยอดพิเรนท์เลยอ่าให้ฉันไปขอใครที่ไหนไม่รู้มาเป็นแฟนถ้าเกิดนายเทร๊ปรู้เข้าฉันจะทำยังไงดีเนี้ย แล้วทำไมฉันต้องกังวลความรู้สึกเขาด้วยเนี้ย ไหนๆก็หลวมตัวมาเล่นเกมกับยัยหงส์แล้วนี่นาจะทำไงได้
และในที่สุดฉันก็จำใจเดินไปที่ม้านั่งหน้าร้านน้ำปั่นผลไม้ เพื่อไปขอใครที่ไหนไม่รู้มาเป็นแฟน(ถึงผู้โชคร้ายคนนั้นจะดูดีก็เหอะ)
“หวัดดี นายชื่ออะไรหรอ” ฉันพูดพร้อมมองหน้าบุคคลที่ต้องมาบอกรักตามคำสั่งของยัยหงส์
“ฉันหรอ??” เขาเอานิ้วชี้อันงดงามชี้เข้าหาตัวเองพร้อมทำสีหน้างงงวยกับการกระทำของฉัน มันก็จึงอ่านะขนาดฉันยังคิดเลยว่าทำลงไปไดยังไง
“อ่ะอืม นายนั่นแหละ”
“ถ้าเป็นฉัน ฉันชื่อเดี่ยว เธอมีอะไรหรอ”
“อ๋อ พอดีฉันเล่นเกมกับเพื่อน แล้วพอดีฉันแพ้”
“แล้วไง”
“ไม่แล้วงงแล้วไงหรอก เพื่อนมันก็สั่งให้ฉัน มาขอนายเป็นแฟนแค่นั้นเอง”
“แล้วเธอก็ทำตามงั้นสิ”
เออสิเฟ้ย ไม่ทำแล้วใครมันมายืนอยู่หน้าแกล่ะเว้ย
“อะไรประมาณนั้น”
“เธออาจจะคิดว่าคำว่ารักมันพูดกันง่ายๆหรือไง ถึงได้เอามาเป็นของเล่นแบบนี้”
“กล้านะมาพูดกับฉันแบบนี้”
“ไม่กล้าจะพูดหรือไง”
ไอ้ทุเรศ ไอ้บ้า แกมัน..... ค่อยดูนะฉันจะฟ้องเทร๊ปให้มาจัดการแก อ้าวเฮ้ยทำไมฉันต้องคิดถึงอีตาเทร๊ปนั่นด้วย จัดการเองก็ได้ว่ะ ว่าแล้วฉันก็หยิบปืนที่ซ่อนไว้อยู่ในที่ลึกลับซึงไม่สามารถบอกใครได้รวมทั้งทุกคนในที่นี้
“เฮ้ย”
“เฮ้ย”
“มาเฮ้ยทำไม แค่ปืนเอง”
“เธอ ใจเย็นๆก่อนก็ได้ค่อยพูดค่อยจากันก่อนนะ”
ทีนี้ล่ะทำมากลัว จะบอกอะไรให้นะ ว่าปืนที่อยู่ในมือฉันมันเป็นปืนปลอม...
“ไม่ต้องมาทำเป็นพูดดีกับฉันเลย”
“อย่า อย่านะไว้ชีวิตฉันด้วย”
“ไม่ เมื่อกี้นายด่าฉัน ว่าฉันสารพัด นายอย่ามีชีวิตอยู่ต่อไปเลย”
ว่าแล้วฉันก็เหนี่ยวปืนในบัดดล มันทำให้มีเสียงดังที่ดังมากๆๆ แล้วหลังจากนั้นฉันก้วิ่งกลับไปหายัยหงส์จอมบงการนั่นด้วยความไวปรอท
“เฮ้ย ตูไม่ตาย”
ตอนที่ฉันกำลังวิ่งฉันก็ได้ยินเสียงนี้แล แต่ไม่ทันไรก็ได้ยินอีกว่า
“แล้วจะได้เห็นดีกัน”
โอ้ว ม่ายน้า ฉันไม่อยากเห็นของดีของนายมันอาจไม่ดีในสายตาของฉันก็ได้ อ้ายฉันคิดอะไรไปเนี้ย ไม่นะๆ เป็นผู้หญิงต้องเป็นกุลสตรีสิ ไม่ใช่...แบบนี้
ฉันวิ่งกลับมาหายัยหงส์พร้อมกับหอบ แฮ่กๆใส่หน้าาของมันเป็นที่เรียบร้อยก่อนที่ต้องมาตอคำถามที่มันตั้งขึ้นต่างๆนาๆ อาทิ เช่น ไปนานจัง แล้วได้เป็นแฟนมั้ย?? แล้วได้เบอร์มาหรือเปล่า?? นี่ถ้านายนนท์รู้ว่าแกบ้าผู้ชายขนาดนี้ นายนนท์จะทำหน้ายังไงนะ ฮ่าๆ แผนการณ์ชั่วร้ายเริ่มบังเกิดในหัวของไป๋หลินแล้ว ฮ่าๆ(ได้แต่คิกแหละไม่กล้าทำจริงๆหรอก ฉันรักเพื่อนจะตาย รักจนตายอ่ะนะ)
“ทำไรกันอยู่หรอ”
“เปล่าจ๊ะ” ยัยหงส์ตอบ
เอ่ออยู่ๆนายเทร๊ปก็เดินเข้ามา มันทำให้ฉันคิดได้ว่าโชคดีที่เขาเข้ามาในตอนนี้ถ้ามาเร็วกว่านี้นิดนึงฉันจะทำยังไงล่ะเนี้ย
“แล้วเจ้าหญิงทำอะไรอยู่อ่า”
“ไม่ใช่เรื่องของคนขับรถ”
“เดี๊ยวนี้ฉันไม่ได้เป็นคนขับรถแล้วนะ ฉันเป็นเจ้าชายแล้ว”
“หลงตัวเองชะมัด เนอะหงส์”
เฮ้ย ยัยหงส์หายไปไหน เวรแล้วไงเวลาฉันต้องการกำลังหนุนล่ะหายได้รวดเร็วเหมือนสายลมเลยนะ ทีรอหัวเราะฉันล่ะอยู่ได้อยู่ดี มันน่าน้อยใจนัก
“ถูกถ้าว่าเพื่อนเจ้าหญิง จะหายไปกับสายลมแล้วนะ”
“รู้แล้วน่า ไม่ต้องมาย้ำเลย” เชอะงอน
“เฮ้ย ไม่เอาน่ะ ไม่เอานะ อย่างอนเลยนะ”
อย่า อย่า อย่าทำแบบนี้ อย่ามาทำน่ารักแถวนี้นะฉันยิ่งเป็นโรคกลัวคนน่ารักอยู่ ถ้าไม่รักนะจะเจอดี โอ้ว ม้ายยยย ฉันคิดอะไรพิเรนท์ๆอีกแล้ว ไม่นะ ม่ายยยย
“จะงอน ทำไม”
“ก็เธองอนมันทำให้ใจฉัน มันไม่สดชื่นอ่า”
“น้ำเน่า”
“ถึงน้ำจะเน่า แต่น้ำเน่านั้นก็ยังเห็นเงาจันทร์ไม่ใช่หรอ?? ”
“ถึงน้ำจะเน่า แต่น้ำเน่านั้นก็ยังเห็นเงาจันทร์ไม่ใช่หรอ?? ”
เฮือก คำพูดของเขา มัน มัน มัน มันทิ่มแทงหัวใจอันบอบบางของฉันถึงที่สุดตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีใครเคยพูดได้แทงลึกเข้าไปในหัวใจฉันได้มากขนาดนี้ จะผิดไหมถ้าฉันจะบอกว่าหัวใจฉันเต้นแรงขึ้น เร็วขึ้น จนเป็นจังหวะของกลองชุดได้แล้ว
ถึงฉันจะพบกับเขาด้วยความบังเอิญโดยไม่ได้ตั้งใจ และหลังจากนั้นไม่นานเขาก็มาขอฉันเป็นแฟน โดยฉันอ้างว่าให้ไปขอเฮียปิงแต่เขาก็ยังโชคดีที่เฮียปิงดันอนุญาติให้เขาคบกับฉันอีก อะไรมันจะโชคดีได้ขนาดนั้น หรือไม่อาจไม่ใช่ความบังเอิญให้เขามาพบมันอาจจะเป็นพรหมลิขิตก็ได้หนิ เฮ้ย ไม่มั้งฉันไม่ใช่คนเชื่อเรื่องพรหมลิขิตอะไรขนาดนั้นสักหน่อย แค่ฉันรู้สึกว่าเวลาที่อยู่ใกล้เขามันอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก
“ป่ะไปซ้อมละครกัน”
“...”
“ไปซ้อมละครกัน”
“...”
“ไปซ้อมละครกันนนนน”
“นายจะตะโกนทำไมห๊า” แก้วหูจะแตกโว้ย
“เอ่อ ฉันว่าฉันเรียกเธอมาสามรอบแล้วนะ”
“เหรอ”
“นายจะตะโกนทำไมห๊า” แก้วหูจะแตกโว้ย
“เอ่อ ฉันว่าฉันเรียกเธอมาสามรอบแล้วนะ”
“เหรอ”
ถ้าเขาเรียกฉันมาสามรอบ ฉันก็หน้าแตกอ่ะสิ ไม่น่าเลยฉันมัวแต่คิดเรื่องพรหมลิขิตที่เป็นไปไม่ได้อยู่นั้นแหละ ไม่ไว้เลยจริงๆ
“แล้วเรียกทำไม”
“แล้วเรียกทำไม”
“ก็ผู้กำกับเรียกอ่ะ พอดีฉันลืม”
เวรแล้วไง ผู้กำกับยิ่งไม่ชอบการไม่ตรงต่อเวลาอีก อีตานี่ก็กระไรลืมเรื่องอะไรไม่ลืมดันมาลืมเรื่องผู้กำกับให้มาตามฉันไปซ้อมละครเวที ถ้าฉันถูกด่านะนายต้องรับผิดชอบ
เป็นไปตามคาดฉันโดนด่าเป็นชุดจากผู้กำกับแต่ไม่ได้โดนคนเดียวหรอก ก็โดนด่าพร้อมกับนายเทร๊ปนั่นแหละต้นเหตุของการมาสายในวันนี้ ผิดอะไร เพราะฉันทำผิดอะไร ทำไมถึงต้องด่าช้านนน
“อย่างที่ทุกคนรู้ๆกันอยู่นะ อาทิตย์หน้าเราก็จะแสดงแล้ว ทุกคนต้องตั้งใจซ้อมให้มากๆเพื่อเข้าถึงอารมณ์ตัวละครนั้นๆให้มากขึ้น”
เมื่อท่านผู้กำกับที่มีอำนาจสูงสุดเริ่มพูด ทุกคนในโรงละครก็เริ่มเงียบและไม่นานมันก็เงียบสนิทไม่เหลือเสียงใดออกมาอีก
“เนื่องจากเหตุนี้เอง หลังจากวันนี้เป็นต้นไปนักแสดงทุกคนจะได้รับสิทธิ์พิเศษ”
เป็นไปตามคาดฉันโดนด่าเป็นชุดจากผู้กำกับแต่ไม่ได้โดนคนเดียวหรอก ก็โดนด่าพร้อมกับนายเทร๊ปนั่นแหละต้นเหตุของการมาสายในวันนี้ ผิดอะไร เพราะฉันทำผิดอะไร ทำไมถึงต้องด่าช้านนน
“อย่างที่ทุกคนรู้ๆกันอยู่นะ อาทิตย์หน้าเราก็จะแสดงแล้ว ทุกคนต้องตั้งใจซ้อมให้มากๆเพื่อเข้าถึงอารมณ์ตัวละครนั้นๆให้มากขึ้น”
เมื่อท่านผู้กำกับที่มีอำนาจสูงสุดเริ่มพูด ทุกคนในโรงละครก็เริ่มเงียบและไม่นานมันก็เงียบสนิทไม่เหลือเสียงใดออกมาอีก
“เนื่องจากเหตุนี้เอง หลังจากวันนี้เป็นต้นไปนักแสดงทุกคนจะได้รับสิทธิ์พิเศษ”
“...” ทุกคนยังเงียบต่อไป
“สิทธิ์พิเศษนั่นก็คือ...ทุกคนได้หยุดเรียนตลอดหนึ่งอาทิตย์ที่จะถึงนี้และอาจได้หยุดเพิ่มอีกถ้ามีการเพิ่มรอบการแสดงเพื่อมาซ้อมละคร”
กรี๊ดดดดดดด หยุดเรียนหนึ่งอาทิตย์แต่ต้องมาซ้อมละครนี่นะ ชีวิตที่ไม่สงบสุขของฉันทำไมมันถึงได้มีความสุขอย่างนี้ หยุดเรียนมาซ้อมละครกับนายเทร๊ปตลอดหนึ่งอาทิตย์ เอาอีกแล้วฉันทำไมทำอะไรถึงได้มีแต่นายเทร๊ปในสมอง ไม่เข้าใจเลย ไม่เข้าใจจริงๆ
“หลังจากนี้ต่อไปเราจะก้าวไปด้วยกันนะทุกคน”
“เฮ้”
เมื่อสิ้นเสียงของผู้กำกับนักแสดงและทุกคนที่เกี่ยวข้องกับละครเวทีเรื่องนี้ก็ร้องรับคำของผู้กำกับในทันที เพราะอะไรฉันก็ไม่รู้เหมือนกันอาจเป็นเพราะการได้มีส่วนร่วมในละครเรื่องนี้มันทำให้มีความสุขอย่างบอกไม่ถูก
“สิทธิ์พิเศษนั่นก็คือ...ทุกคนได้หยุดเรียนตลอดหนึ่งอาทิตย์ที่จะถึงนี้และอาจได้หยุดเพิ่มอีกถ้ามีการเพิ่มรอบการแสดงเพื่อมาซ้อมละคร”
กรี๊ดดดดดดด หยุดเรียนหนึ่งอาทิตย์แต่ต้องมาซ้อมละครนี่นะ ชีวิตที่ไม่สงบสุขของฉันทำไมมันถึงได้มีความสุขอย่างนี้ หยุดเรียนมาซ้อมละครกับนายเทร๊ปตลอดหนึ่งอาทิตย์ เอาอีกแล้วฉันทำไมทำอะไรถึงได้มีแต่นายเทร๊ปในสมอง ไม่เข้าใจเลย ไม่เข้าใจจริงๆ
“หลังจากนี้ต่อไปเราจะก้าวไปด้วยกันนะทุกคน”
“เฮ้”
เมื่อสิ้นเสียงของผู้กำกับนักแสดงและทุกคนที่เกี่ยวข้องกับละครเวทีเรื่องนี้ก็ร้องรับคำของผู้กำกับในทันที เพราะอะไรฉันก็ไม่รู้เหมือนกันอาจเป็นเพราะการได้มีส่วนร่วมในละครเรื่องนี้มันทำให้มีความสุขอย่างบอกไม่ถูก
เอาล่ะหลังจากนี้คือเวลาซ้อมละครเวทีของฉันแล้ว โย่ว
เวลาผ่านไปสักชั่วโมงครึ่งไวเหมือนโกหก เพราะการซ้อมดำเนินมาถึงครึ่งเรื่องแล้วก็จะต้องพักให้นักแสดงหายเหนื่อยเพราะครึ่งหลังของเรื่องมันจะเป็นเกี่ยวกับผีหมดแล้ว คนนู้นบีบคอคนนี้ คนนี้บีบคอคนนั้น เนื่องจากมีการเปลี่ยนบทประพันธ์ใหม่เพื่อความตื่นเต้นที่มากยิ่งขึ้น ฉันแวะมาบอกแค่นี้แหละผู้กำกับเรียกแล้วเจอกันที่โรงละครของโรงเรียน ได้ในวันที่XX เดือนXX พ.ศ.XX XX นะ (โปรโมทหน่อย เดี๊ยวไม่มีคนไปดู)
เวลาผ่านไปสักชั่วโมงครึ่งไวเหมือนโกหก เพราะการซ้อมดำเนินมาถึงครึ่งเรื่องแล้วก็จะต้องพักให้นักแสดงหายเหนื่อยเพราะครึ่งหลังของเรื่องมันจะเป็นเกี่ยวกับผีหมดแล้ว คนนู้นบีบคอคนนี้ คนนี้บีบคอคนนั้น เนื่องจากมีการเปลี่ยนบทประพันธ์ใหม่เพื่อความตื่นเต้นที่มากยิ่งขึ้น ฉันแวะมาบอกแค่นี้แหละผู้กำกับเรียกแล้วเจอกันที่โรงละครของโรงเรียน ได้ในวันที่XX เดือนXX พ.ศ.XX XX นะ (โปรโมทหน่อย เดี๊ยวไม่มีคนไปดู)
ปล.ซื้อบัตรได้ที่ฝ่ายวิชาการของโรงเรียน และหน้าโรงละครจ๊ะ
ปล 2. อย่าลืมมาให้กำลังใจไป๋หลินคนงามเยอะๆนะค่ะ
“ซินซินมาซ้อมเดี๋ยวนี้เลยนะ”“ค่า ไปเดี๊ยวนี้แล้วค่า”
ผู้กำกับเรียกแล้วขอตัวไปซ้อมก่อนนะค่ะก่อนที่ซินซิน (ไป๋หลิน) จะโดนด่าสะก่อน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น