ฟันธง! โอเน็ตสอบครั้งเดียว แอดมิชชันเกณฑ์เดิมปี 49 ปรนัยล้วน
สทศ.สรุปให้สอบโอเน็ตได้ครั้งเดียวต่อปี ไม่อนุญาตให้นักเรียนสอบโอเน็ตครั้งที่ 2 สอดคล้องกับการพิจารณาของมหาวิทยาลัยที่เลือกคะแนนโอเน็ตครั้งแรกคัดเด็กเท่านั้น สำหรับองค์ประกอบแอดมิชชันปี 2550 ยังคงเดิมเหมือนปี 2549 ข้อสอบโอเน็ตและเอเน็ต ปี 50 เป็นปรนัยอย่างเดียว โดยใช้การตรวจด้วยเครื่องอ่าน
|
ศ.ดร.อุทุมพร จามรมาน ผู้อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหาร สทศ.ว่า ที่ประชุมมีมติให้ สทศ.จัดสอบการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) เพียงครั้งเดียวต่อปี ส่วนมหาวิทยาลัยจะนำผลการสอบไปใช้อย่างไร ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของมหาวิทยาลัยแต่ละแห่ง ซึ่งการสอบโอเน็ตนั้น โรงเรียนระดับมัธยมปลายประมาณ 6,000 แห่งจะจัดส่งรายชื่อนักเรียนมาให้ สทศ.โดยไม่ต้องมีการสมัครสอบ ยกเว้นนักเรียนที่โรงเรียนไม่ได้ส่งชื่อมาให้สมัครสอบ วันที่ 1-15 ธันวาคม ดังนั้น เมื่อมติคณะกรรมการบริหาร สทศ. เห็นควรให้มีการจัดสอบโอเน็ตเพียงครั้งเดียว ซึ่งก่อนหน้านี้มีนักเรียนนักศึกษาที่เรียนมหาวิทยาลัยอยู่แล้ว สนใจจะสมัครสอบโอเน็ตเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งเท่าที่ทราบมีประมาณ 30,000 คน ก็จะไม่รับอนุญาตให้สอบ แต่ขอชี้แจงว่าถึงจะได้สอบก็ไม่สามารถนำผลโอเน็ตครั้งที่ 2 ไปให้มหาวิทยาลัยพิจารณาคัดเลือกได้ เนื่องจากมหาวิทยาลัยจะพิจารณาผลสอบโอเน็ตในครั้งแรกเท่านั้น ศ.ดร.อุทุมพร กล่าวด้วยว่า ดังนั้น แอดมิชชันในปี 2550 จะยังคงใช้สัดส่วนที่ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ได้ประกาศไว้ล่วงหน้าแล้ว คือ ผลการเรียนเฉลี่ยตลอดหลักสูตรมัธยมตอนปลาย (จีแพ็ก) ร้อยละ 10 ผลคะแนนเฉลี่ยตลอดหลักสูตรตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ (จีพีเอ) ร้อยละ 20 และผลคะแนนโอเน็ต ตั้งแต่ร้อยละ 35-70 หรือใช้โอเน็ตร้อยละ 70 และผลคะแนนการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นสูง (เอเน็ต) ตั้งแต่ร้อยละ 0-35 ทั้งนี้ ข้อสอบทั้งโอเน็ต และเอเน็ต จะเป็นปรนัยเท่านั้น ไม่มีอัตนัย วิธีสอบใช้การระบายด้วยดินสอขนาด 2B แล้วตรวจข้อสอบด้วยการผ่านเครื่องอ่าน ยกเลิกการใช้ตรวจด้วยวิธีสแกน ผู้อำนวยการ สทศ.กล่าวอีกว่า สำหรับการปรับระบบแอดมิชชันในปี 2552 นั้น ขณะนี้ตนในฐานะประธานแอดมิชชันฟอรัมของ ทปอ.ด้วย ได้ทำพิมพ์เขียวเสร็จเรียบร้อยแล้ว และมอบให้กับ ศ.ดร.ปรัชญา เวสารัชช์ ประธาน ทปอ. เพื่อพิจารณาโดยหารือกับมหาวิทยาลัยจะได้ประกาศให้นักเรียนทราบล่วงหน้า โดย สทศ.จะจัดสอบโอเน็ตที่จะนำไปผูกรวมกับผลประเมินของโรงเรียนออกมาเป็นจีพีเอ ให้มหาวิทยาลัยนำไปใช้ และจัดสอบเอเน็ต รวมทั้งความถนัดสาขาต่างๆ ความถนัดทั่วไปในวิชาชีพ เพื่อให้มหาวิทยาลัยพิจารณาว่าจะนำผลสอบใดไปใช้คัดเลือกเด็กเข้ามหาวิทยาลัยบ้าง ส่วนเอเน็ตนั้นได้เปลี่ยนชื่อเป็นพีเน็ตหมายถึงข้อสอบที่ลึกซึ้งในความรู้ระดับมัธยมปลาย
| ขอขอบคุณ manager.co.th |
|
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น