ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    "So Close-เพราะเราใกล้กัน" {yaoi_Ts6}

    ลำดับตอนที่ #4 : 4th story - unexpected guest

    • อัปเดตล่าสุด 2 พ.ค. 54


    “เซน?”

    “กัน?”

    “เซนจริงด้วยยย อ้ากกกกกก มาแล้วหรออออออ!!
    ผมโถมตัวใส่เพื่อนที่พึ่งกลับจากอเมริกา ทำไงได้คนมันคิดถึงนี่น่า

    “ฮ่าๆๆๆ โอ้ย จะคิดถึงอะไรขนาดนั้น หายใจไม่ออกกก”
    “ไหนดูดิ้ ของฝากอยู่ไหน”
    “ฮ่าๆ วันนี้ไม่ได้เอามาอะ มาแต่ตัว ไงเซอร์ไพร์สไหม”

    เซอร์ไพร์ส.... คำนี้ทำไมมันก้องอยู่ในหัวผมแปลกๆ เซอร์ไพร์ส........เซอร์ไพร์สส
    !!!!
    เฮ้ยจริงด้วยปาร์ตี้!!!!


    “กันเป็นไรไปอะ ทำไมทำหน้ายังกับเห็นผีแบบนั้น”
    “อะ..เอ่อ เปล่าๆ” อันที่จริงก็ตกใจไม่น้อยไปกว่าเห็นผีสักเท่าไร  แขกวีไอพีที่กะว่ามาถึงเมื่อไรจะจัดปาร์ตี้ทำเซอร์ไพร์สสักหน่อย ดันโผล่มาทำเซอร์ไพร์สใส่ซะแบบนี้ เห็นทีปาร์ตี้เซอร์ไพร์สจะกลายเป็นปาร์ตี้โดนเซอร์ไพร์สซะล่ะมั้ง
    = =


    “ว่าแต่คนอื่นล่ะ?”
    “คือว่า.....”


    “กัน ใครมาหรอ เสียงดังไปถึง......เซน?”
    อยากรู้จังว่าหน้าพี่เก่งตอนนี้กับหน้าผมเมื่อ1นาทีที่แล้วใครเหวอกว่ากัน แต่มั่นใจว่าพี่เก่งคงมาวิน เพราะเป็นโต้โผทำเซอร์ไพร์ส แต่ดันเจอเซอร์ไพร์สใส่ซะเอง


    “พี่เก่งงงงงงงงงงงงงงง
    ~
    “อะ...อ่ะ เดี๋ยว ระวังเลอะ ไหนว่าจะมาเย็นไม่ใช่หรอ?” เซนวิ่งไปโถมกอดพี่เก่งที่ใส่ผ้าคลุมอยู่ คิดว่าคงพึ่งเดินออกมาจากครัว เพราะเสียงเอะอะเมื่อกี้นี้

    “ก็อยากมาหาพวกพี่เก่งนิ โอ้ยยยย คิดถึงชะมัด
    !
    “อ้ากกก พอๆ พี่หายใจไม่ออก ไม่ต้องรัดแน่นขนาดนั้น บอกว่าพอ อ้ากกกก”
    ฮ่าๆ ปากก็บอกพอๆนะ แต่ใจจริงคงอยากจะกอดเซนจะแย่ล่ะ ไม่งั้นหน้าขาวๆคงไม่แดงไปถึงหูหรอก

     

    คิดถึงจะแย่แต่ไม่ยอมบอก วางฟอร์มไม่เปลี่ยนเลยนะพี่คนนี้

     

    “เฮ้อออออ โผล่มาผิดเวลาแบบนี้ ปาร์ตี้ก็ล่มน่ะสิ”
    “ปาร์ตี้? ปาร์ตี้อะไรหรอ”
    “ก็ปาร์ตี้...”

     

    “ก็ปาร์ตี้ต้อนรับไอ้เพื่อนตัวดีที่หนีไปทัวร์อเมริกาไง”
    ใครแย่งซีนผมพูดเนี่ย เสียงคุ้นๆเหมือนจะเป็นเพื่อนตัวเล็กของผมนะ

     

    “พี่โตโน่!!? ริท!!?
    “หยุด
    !! ช่วยกันหิ้วของเข้าไปในร้านก่อน” ริทยื่นมือที่หิ้วของพะรุงพะรังไปเบรกคนข้างหน้าที่ทำจะวิ่งมากอดไว้ ทำให้เซนที่วิ่งไปถึงกับผงะ

     

    ผมก็ไปช่วยพี่โตโน่บ้างดีกว่า ว่าแต่ไปเหมาของมาหมดบรองมาเช่เลยหรือเปล่าเนี่ย ทำไมมันถึงได้เยอะแบบนี้

     

    “เยอะขนาดนี้จะกินกันหมดหรอ?” พี่เก่งถามขึ้น ตอนนี้ของที่พี่โตโน่กับริทซื้อมาทั้งหมดถูกพวกเราหิ้วเอามาไว้ที่ครัวหลังร้าน สังเกตคร่าวๆด้วยสายตาแล้ว ปริมาณขนาดนี้คงต้องมีอ้วกกันบ้างล่ะ


    “เอาเถอะ เดี๋ยวมีคนมาช่วยอีก” เสียงเซนที่กำลังง่วนอยู่กับการล้างผักดังขึ้น เรียกความสนใจให้เพื่อนในห้องครัว รวมถึงผมหันไปมองด้วย

    “ใคร?”


    “อื้อหือ พร้อมใจกันถามเชียวนะ เพื่อนเซนเองเจอกันที่อเมริกาน่ะ ว่าจะพามาแนะนำให้รู้จัก”

    “เพื่อนหรอ?” พวกเราสี่คนมองหน้ากันอย่างสงสัย เพื่อน? เพื่อนที่ไหน?

     

    “เรื่องนั้นช่างมันเถอะ มานี่”
    “เฮ้ย
    !!” เซนแทรกตัวมาระหว่างผมกับริทที่กำลังหั่นผักบุ้งกันอยู่ สองแขนบางของเซนพาดลงบนหลังคอผมและริท


    “คิดถึงมากเลยยยย”
    “อ้าก หายใจไม่ออก” เซนกระชับแขนที่พาดคอผมกับริทให้แน่นขึ้น แทบไม่ต้องบอกเลยว่าอ้อมแขนนี้ส่งผ่านความคิดถึงมามากมายแค่ไหน ตั้งแต่เด็กผม ริท แล้วก็เซนอยู่ด้วยกันเสมอ วันที่เซนไปอเมริกา ผมรู้สึกใจหายบอกไม่ถูก ช่วงเวลานั้นรู้สึกมันยากเหลือเกินกับการที่จะฉีกยิ้มออกมาแต่ล่ะครั้ง

    เหงา? ไม่รู้สิครับ ผมเองก้บอกไม่ถูก รู้สึกเหมือนมันอะไรบางอย่างมันขาดหายไป

    แต่ตอนนี้เราสามคนกลับมาอยู่ด้วยกันอีก เพียงแค่นี้ก็พอแล้วครับ ผมอดยิ้มไม่ได้กับความอบอุ่นที่เกิดขึ้นจากอ้อมแขนของเซน รวมถึงริทเองก็เช่นกัน

     

    ผมเห็นพี่โตโน่และพี่เก่งยิ้มมองการกระทำของพวกเราอยู่ห่างๆ

     

    “วันนี้ต้องฉลองให้เต็มที่!!!
    พี่โตโน่ใช้มีดสับหมูแทนแก้วไวน์ชูขึ้นทำสัญญาณสู้ตาย รีบเตรียมของกันต่อดีกว่า เสร็จเมื่อไรจะได้ตั้งหม้อกันเลย

     

    กริ้ง...กริ้ง

    “หืม ใครมาตอนนี้เนี่ย”

    “ไม่เป็นไรพี่เก่ง เดี๋ยวกันออกไปดูเอง” ผมรีบวางมีดหั่นผักแล้ววิ่งออกไปดูหน้าร้านที่ไม่น่าจะมีใครเปิดประตูเข้ามาอีก

     

    พอออกมาหน้าร้านก็พบก็เจอวัยรุ่นหนุ่มคนหนึ่งในเสื้อโปโลสีขาวกำลังหันหลังให้


    “โทษนะครับพอดีร้านปิดแล้ว” เสียงของผมทำให้เด็กหนุ่มตรงหน้าหันมา


    “เฮ้ยยย!!!! นาย!!!!!!!!!!!!

    “หืม นาย?”

     

    “มีอะไรหรอกัน ร้องซะดังลั่นเชียว” เพราะเสียงของผมทำให้เซนรีบวิ่งออกมาจากครัว

     

    “เซน”

    “อ้าว ไอซ์?”

    “ไอซ์? ไอซ์ไหน? เซนรู้จักไอ้หมอนี่ด้วยหรอ?” ผมส่งคำถามไปให้คนที่วิ่งมาดูอาการผม ถ้าเซนรู้จักหมอนี่ และหมอนี่รู้จักเซน หรือว่าหมอนี่จะเป็น “เพื่อน” ที่เซนบอก

     

    “รู้จักสิทำไมหรอ?”

    “ปะ...เปล่าไม่มีอะไร”  


    “นี่ไอซ์เพื่อนเซนเอง” นั่นไงครับ นภัทรโชคร้ายซ้ำซากอีกแล้ว
    TT ก็ใครจะไปคิดว่าเพื่อนที่ไอซ์บอกจะเป็นคนเดียวกับไอ้เด็กนักเรียนที่ทำผมวุ่นวายที่ห้องสมุดเมื่อวาน แถมยัง..........โอ้ยยยยย พระเจ้าใครก็ได้บอกที่ว่าผมกำลังฝันร้ายอยู่


    “เรารู้จักกันแล้วล่ะเซน” ไอ้เด็กนั่นส่งยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้ผม

    “หืม รู้จักกันแล้วหรอ?”
    “ไม่
    !!!” ผมตอบอย่างชัดเจนและหนักแน่น


    “อ้าว ยังไงกัน?”
    “รู้กันเมื่อกี้ไง ยินดีที่รู้จักนะพี่กัน”
    ใครยินดีที่รู้จักนายไม่ทราบ ถามพี่สักคำไหมว่าอยากรู้จักไอซ์หรือเปล่า
    = = แต่ถึงยังไงก็ต้องเออออตามไปก่อน เดี๋ยวมีพิรุธขึ้นมาแล้วจะยุ่งเอา

    “อะ อื้มม ยินดี เซน กันกลับเข้าไปในครัวก่อนนะ” ผมรีบปลีกตัวออกมาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

     


    เฮ้อ ให้ตายสิ ไม่คิดว่าชีวิตจะโชคร้ายขนาดนี้ ตอนแรกคิดว่าคู่กรณีที่ทำเราชวดหนังสือทำงานดันโผล่มาที่ร้านก็โชคร้ายพอแล้ว แต่ไอ้หมอนั่นดันมาเป็นเพื่อนของเพื่อนซะอีก มิหนำซ้ำ เมื่อวานเรายัง.........เผลอไป...... โอ้ยยยยยยยยยยยย มันอะไรกันเนี่ย

     

    ผมเกาหัวตัวเองแกรกๆ พลางคิดถึงภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ยิ่งคิดถึงก็ยิ่ง.............

    ...................................หงุดหงิด!!!!!

     

    “กันเป็นอะไร เจ็บปากหรอ เอามือจับปากอยู่ได้” เซนโผล่มาไม่ให้สุ้มให้เสียง ทำให้ผมเผลอสะดุ้งตัว

    “อ้ะ...ปะ...เปล่า ไม่ได้เป็นอะไร”

    “แล้วเอามือจับปากทำไม”

    “บ้า! คะ...ใครบอกว่ากันจับ”

    “ก็กันนั่นแหละจับอยู่เห็นๆ มีอะไรหรือเปล่า”

    “มะ...ไม่มีไรหรอก!!” ผมรีบส่ายหัวตอบเซนไป แย่ล่ะสิ เผลอทำอะไรมีพิรุธไปซะแล้ว ดันไปคิดถึงเรื่องเมื่อวานซะได้ หวังว่าเซนคงจะไม่สงสัยเอานะ


    “พี่กันนี่ตลกดีนะครับ” คนตัวสูงข้างๆเซน หัวเราะแซวผม

    “งี้แหละ กันเค้าเป็นคนร่าเริง”
    “อ๊อออออ หรอครับ” ให้ตายสิ ทำไมหมอนั่นต้องทำเสียงสูงด้วยฟระ มีปัญหาอะไรกับนิสัยพี่หรอ
    !

     

    ตอนนี้เซนพาไอซ์ไปแนะนำตัวกับทุกคนที่อยู่ในครัว
    “ทุกคนนี่ไอซ์นะ เพื่อนที่เซนบอกไง”
    “ยินดีที่รู้จักครับ” ไอซ์ยิ้มให้กับสมาชิกทุกคนในครัว ทุกคนดูสนุกกันมากขึ้น เมื่อมีสมาชิกใหม่มาเพิ่ม
    รวมถึงผมด้วย

     

    เว้ยเสียแต่สมาชิกใหม่จะไม่ใช่ไอ้หมอนี่!!!!

     

     

    ตอนนี้ไอซ์ใส่ผ้ากันเปื้อน มาช่วยพวกเราเตรียมของแล้วครับ ขณะเตรียมของไปก็แวะเวียนไปคุยกับเซนที พี่เก่งที พี่โน่ที ริทที ครบหมดทุกคนแล้ว เพราะฉะนั้นตอนนี้ความซวยจึงไม่ตกอยู่ที่ใคร ถ้าไม่ใช่ผม!

     

    “ทำอะไรอยู่หรอพี่กัน” ไอซ์ ชะโงกหน้ามาจากข้างหลังผม
    “รีดนมวัว
    !
    “โหว คนเขาอุตส่าห์ถามดีๆนะ”
    “ก็เห็นอยู่ว่าหั่นหมูยังจะถามอีก” ผมล่ะไม่ค่อยอยากคุยกับไอ้หมอนี่เท่าไรเล้ยยย จริงๆเถอะ


    “มาผมช่วย” เฮ้ยย คนเขาหันหมูอยู่ดีๆก็มาแย่งมีดไปซะงั้น แถมดันผมออกมาจากเขียงอีก ดูมันทำ= =
    เออ...แต่ก็คล่องดีแฮะ ปล่อยให้ทำไปละกัน ผมขอตัวล่ะ ไปช่วยริทกับเซนหั่นผักดีกว่า


    “จะไปไหนอะ”
    “ไปช่วยริทกับเซนหั่นผัก พี่ฝากไอซ์หั่นหมู่ต่อละกัน” ผมเดินไปทางริทกับเซนที่กำลังนั่งหั่นผักกันอยู่ ก่อนที่ไอ้เพื่อนตัวดีทั้งสองจะแหกปากไล่ผมกลับมาหั่นหมูต่อ ด้วยสาเหตุที่ว่าไม่อยากให้ผมไปแย่งเก้าอี้มัน

     

    “ฮ่าๆ สมน้ำหน้าโดนไล่กลับมารีดนมวัวต่อเลย” เพราะเอ็งนั่งแหละ= =
    ผมกลับมาช่วยไอซ์หั่นหมูต่อด้วยความไม่เต็มใจสักเท่าไรนัก

     

    “ไม่รู้นะเนี่ยว่าเซนกับพี่กันรู้จักกัน”

    “หรอ”

    “แล้วเซนกับพี่กันรู้จักกันได้ไงอะ”

    “พอดีวันนั้นฝนตกน่ะ พี่ไปเจอเซนนอนอยู่ในตะกร้า สงสารก็เลยเก็บมาเลี้ยงที่ร้าน”

    “กวนอีกแล้วไงๆ คนนะไม่ใช่แมว นี่ถามดีๆนะ”

    “อ้าวพี่ตอบไม่ดีหรอ งั้นเอาใหม่ วันนั้นฝนกตกหนั้กหนัก พี่เห็นเซนนอนดูดนมแม่อยู่ที่ตะกร้า สงสารก็เลย...”

    “พอๆ ไม่ได้ดีขึ้นจากเมื่อกี้เลย” คนตัวสูงข้างๆผมเริ่มมีท่าทีเหนื่อยใจ จึงหยุดถามเพราะกลัวจะได้คำตอบไม่มีสาระจากผมอีก


    “แล้วไอซ์กับเซนอะ รู้จักกันได้ไง?”

    “อยากรู้หรอ?”

    “ไม่อยากหรอก ถามไปงั้นล่ะ”

    “โธ่ เราก็คิดว่าจะอยากรู้” คนตัวสูงข้างๆทำหน้าเซงที่ผมไม่เล่นด้วย อย่าว่าแต่เล่นเลยครับ อยู่ใกล้ๆผมยังไม่อยากเลยตอนนี้กลัวงานจะเข้า

     

    “คุยกันถูกคอเชียวนะ” พี่โตโน่ที่เดินมาหยิบจานหมูที่ผมเชือดแล้ว ทิ้งระเบิดลูกใหญ่ไว้ให้

    “ถะ...ถูกคอที่ไหน
    !!! ผมประท้วงพี่โตโน่ ยิ่งพี่เขาแซวแบบนี้ผมยิ่งกลัวความจะแตกเข้าไปใหญ่ แต่คนข้างๆผมกลับดูไม่มีทีท่าเป็นเดือดเป็นร้อนอะไร

     

    “ฮ่าๆ”

    “ขำไร = =?”

    “เปล๊า” ไอซ์เลิกคิ้ว ทำหน้าเจ้าเล่ห์ใส่ผม ไอ้หมอนี่มันตั้งใจแกล้งกันชัดๆ         

     

     

    .....................................................

    ตอนนี้ของกินทั้งหมดถูกจัดเตรียมเรียบร้อยแล้วครับ ได้เวลาแล้ว ปาร์ตี้ชาบูเริ่มได้!!

    “ในฐานะที่เป็นพี่คนโตในโต๊ะนี้ ขออนุญาตพูดอะไรสักหน่อยหนึ่ง” พี่โตโน่ลุกขึ้นเบรกพวกเราทั้งหมดที่กำลังจะลงมือจัดการอาหารตรงหน้า

    “สำหรับผมแล้ว สิ่งที่ทำให้มีความสุขที่สุดในตอนนี้ คือการได้อยู่พร้อมหน้าคนที่เรารัก ได้ใช้ชีวิตอย่างที่เราฝันไว้ มีครอบครัว มีเพื่อน มีพี่ มีน้อง คอยอยู่ข้างๆ และวันนี้เป็นวันที่ผมมีความสุขที่สุดวันนึง เพราะเซนน้องรักของผมได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง และยังได้รู้จักไอซ์ น้องชายคนใหม่ของกลุ่มอีก ดังนั้นวันนี้จึงอยากให้ทุกคนสนุกกันเต็มที่ จะได้เก็บช่วงเวลาดีๆนี้ไว้” คำพูดของพี่โตโน่ ถ่ายทอดความรู้สึกของทุกคนออกมาได้จับใจจริงๆ ความสุข ความเศร้า จะไม่ค่าให้จดจำเลย ถ้าเราไม่สร้างมันพร้อมกับเพื่อน พี่ น้องที่เรารัก


    ผมยอมรับว่าซาบซึ้งกับคำพูดของพี่โตโน่มากจริงๆ แต่จะกินใจกว่านี้ถ้าไม่ส่งให้ไอ้หมอนี่มานั่งข้างผม

    “อะ น้ำ” ไอซ์ยื่นแก้วน้ำอัดลมมาให้ผม ให้ตายเหอะ จะมีใครโชคร้ายเท่าผมอีกไหมเนี่ย ก็พวกเพื่อนที่น่ารักของผมน่ะสิ ส่งไอซ์มานั่งข้างๆ ด้วยเหตุผลบ้าบอที่ว่า เห็นคุยกันถูกคอ ตัวผมเองยังจำไม่ได้ว่าไปคุยถูกคอกับไอ้หมอนี่ตั้งแต่เมื่อไร

     

    “ทุกคนพร้อมไหมครับ..?”
    .....

    “ถ้าพร้อมแล้ว....”

    ......

    “เทเลย!!!!!

    หมับๆ หมับๆ

    สิ้นคำสั่งประธานเปิดงาน พวกเราทุกคนพร้อมใจกันเทของในมือลงหม้อสุกี้ที่เดือดรอตั้งแต่ก่อนเริ่มปาร์ตี้ ดูจากลักษณะแล้วทุกคนของหิวมากจริงๆ พริบตาเดียวของสดนับสิบจานลงไปนอนดิ้นอยู่ในหม้อสุกี้แล้ว ผมว่าดูท่าแล้วเผลอๆของสดที่ว่าเยอะในตอนแรกทำท่าจะไม่พอด้วยซ้ำ เฮ้อออ ==”

    ปาร์ตี้เป็นไปอย่างสนุกสนานครับ หม้อสุกี้กลางโต๊ะตอนนี้เหมือนคลังอาหารย่อมๆของซีพีเลย หมูเอย กุ้งเอย ผักเอย ลูกชิ้นเอย ลอยอืดเต็มหม้อไปหมด นับว่าเยอะเกินปริมาณที่คนธรรมดาบริโภคกันมากจริงๆ
    แต่ที่น่ากลัวกว่าคือเจ้าพวกที่นั่งจ้องหม้อยู่ครับ แต่ละคนที่นั่งใกล้หม้อก็ตัวโหดกันทั้งนั้น ไหนจะริท ไหนจะเซน ไหนจะพี่โตโน่ ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเทกันง่ายๆ

     

    “อะ...ลูกชิ้นกุ้ง”
    “เอาผักด้วยดิๆ ให้แต่เนื้อลงพุงกันพอดี”
    “โห่ กินเข้าไปเหอะ อย่าเรื่องมาก เลือกมากแบบนี้ไงถึงได้ตัวแค่เนี้ย”
    “โห่ พี่โน่อะ จะเอาผักๆ ผักๆ ผ้ากกกก”
    !#$%^*(&$#@@#$%^&*()@#$%^&*()
    คู่นี้เอาอีกแล้วไง เฮ้อออ วันไหนกินกันสงบๆอาหารตรงหน้ามันจะไม่อร่อยเหรอ แล้วใครอัญเชิญให้นั่งข้างกันล่ะนั่น

     

    “อะ หมู”
    “กินไปมั่งดิพี่เก่ง ให้เซนมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ”
    “พี่กินเยอะแล้ว กินเข้าไปเถอะเราอะ”
    “เฮ้ออออ
    ~” ผมเห็นเซนถอนหายใจเบาๆ กับท่าทางของพี่หมอข้างๆ    ก็เล่นจ้วงหมูให้เขาท่าเดียว จนแทบจะล้นถ้วยอยู่แล้ว

    ว่าแต่ทำไมหม้ออยู่ไกลจัง แล้วผมจะมีโอกาสได้ตักกับเขาไหมล่ะ พอแอบชำเลืองมองคนข้างๆที่แขนยาวไม่แพ้กัน แถมฝีมือการจ้วงอาหารในหม้อก็จัดว่าไม่ขี้เหร่เท่าไร


    “อะ...พี่กัน”
    “หืมม...อะไรอะ”
    “เห็นพี่นั่งจ้องหม้ออยู่ คงตักไม่ถึง จะเอาอะไรบอกไอซ์นะ เดี๋ยวไอซ์ตักให้”
    “ไม่ต้องอะ พี่ตักเองได้” มีหวังรับของกินจากหมอนี่ เพื่อนคงแซวกันทั้งโต๊ะ

    “ทำพูดไป ถ้วยสะอาดเชียว”  

    “เรื่องของพี่น่า”

    “ไม่ต้องมาวางฟอร์ม เอาถ้วยมานี่” ไอซ์ฉวยโอกาสตอนที่ผมยกน้ำขึ้นดื่ม คว้าเอาถ้วยผมไป

    “เฮ้ยย ไม่ต้อง!!

    ไม่ทันแล้วครับ ไอซ์จัดหมู กุ้ง ผักแถมด้วยลูกชิ้นอีกหลายลูกลงถ้วยผมไปแล้ว

     

    “อะ” ไอซ์ ยื่นถ้วยของกินร้อนๆที่พึ่งตักออกจากหม้อมาให้
    “อะ....เอ่ออ” ใจจริงก็ไม่อยากรับแฮะ แต่กลิ่นของกินในถ้วยมันช่างเย้ายวนใจจริงๆ

     

    “ขอบใจ” เอาวะ ดีกว่านั่งจ้องหม้ออย่างเดียว ผมรับถ้วยนั้นมาจากไอซ์ ก่อนที่ไอซ์จะหันไปใช้ทัพพีควานหาลูกชิ้นในหม้อต่อ

     

    ปาร์ตี้ยังคงดำเนินต่อไปอย่างสนุกสนาน ตอนนี้อาหารเริ่มพร่องลงไปบ้าง แต่คนบนโต๊ะยังดูมีแรงเหลือเฟือ ตราบใดที่หม้อสุกี้ยังไม่ดับ เจ้าพวกนี้ก็คงไม่หยุดเหมือนกัน ผมเห็นแต่ละคนจ้วงเอา จ้วงเอา เห็นแล้วอืดแทน โชคดีที่คนตัวโตข้างๆผมมือไว ตักของในหม้อมาแบ่งผมกินบ้าง

    “น้ำแข็งหมดแล้ว...”
    “เดี๋ยวผมไปเอาให้พี่โตโน่” ก็คนมันเริ่มอิ่มแล้วนิ จะนั่งอยู่เฉยๆก็กลัวหมู กับ กุ้งที่กินไปไหลไปกองที่พุง สู้ลุกไปยืดเส้นยืดสายหน่อยดีกว่า

     

    “แตงค์กิ้วนะกัน” ผมยิ้มให้พี่โตโน่ ก่อนจะถือกระติกน้ำแข็งเดินหายเข้าไปในครัว

     

    แครกก ... แครกกก
    ผมที่กำลังก้มหยิบในแข็งใส่ถังอยู่นั้น รู้สึกว่ามีใครเปิดประตูครัวแทรกเข้ามา

     

    “จะเอาไรเพิ่มหรอพี่โน่”

    “พี่โน่ที่ไหน ดูให้ดีก่อนดิ” พอหันหลังไปก็ต้องผงะ ไอ้หมอนี่อีกแล้วหรอ = =

    “จะเอาไรล่ะ?” ผมถามไอซ์ที่กำลังเปิดตู้เย็นสำรวจอยู่


    “ว่าจะมาหาไรนิดหน่อย”

    “หา? หาไรล่ะ?”

     

    “หาคน”

    “คน? คนอะไร?” คนบ้าไรจะไปอยู่ในตู้เย็น เพี้ยนซะล่ะมั้งไอ้หมอนี่

     

    “ก็.....”

    จู่ๆไอซ์ก็ปิดตู้เย็นแล้วเดินสาวเท้าเข้ามาใกล้ผมอย่างช้าๆ

     

    “ก็.............

     

    .................................คนรับผิดชอบที่มาหอมแก้มไอซ์ไง”

     

    !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

      
    .......................................................................................................................................................


    Knotterdamn’ script

    จบไปอีกตอนแล้วครับ เป็นไงมั่ง สนุกกันไหมเอ่ย
    ขอโทษนะครับ ที่ดองนานจนเริ่มส่งกลิ่น ช่วงนี้มือไม่ค่อยว่างเลย
    จะพยายามมาอัพตอนต่อไปให้เร็วที่สุดนะครับ

    To Angel ' Fern
    พี่เซนมาแว้ววววววววววววว ฝากติดตามพี่เซนด้วยอีกคนนะครับ :]

     

    To แฟนโคนัน2596
    พี่เซนไม่ได้มาเร็วไป หรือพี่โนพี่ริทมาช้าไป แต่นาฬิกาแค่เดินไม่ตรงใจเท่านั้น ฮ่าๆๆๆ (มุกแป๊กTT)
    จะพยายามอัพบ่อยๆครับ สู้ตาย!! ขอบคุณสำหรับกำลังใจ :]

     

    To ZenGeng
    ขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ :]


    ตอนที่ 4 แล้วววว ขอบคุณที่ติดตามกันเหมือนเดิมครับ ไรเตอร์สู้ตายยย
    !!!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×