คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : 2nd story - quarrelsome
“ห้าว..... ว ววววว เฮ้ออออ” ไม่รู้นี่เป็นครั้งที่เท่าไรแล้วที่ผมหาวแบบหมดอาลัยตายอยากแบบนี้ ก็อาจารย์หน้าห้องเลคเชอร์น่ะสิครับ ไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยนักศึกษาของเขาไปพักง่ายๆเลย ดูแกจะยังคงมีความสุขกับการทรมานนักเรียนของแกด้วยระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมอยู่ ไม่เข้าใจจริงๆว่ามันน่าสนใจมากกว่าข้าวกลางวันตรงไหน
“หวังว่านักศึกษาจะสนุกไปกับมันเหมือนอาจารย์นะ” ไม่ใช่ผมคนนึงล่ะ
“วันนี้เอาไว้แค่นี้ก่อน...” เยี่ยมม!! รอมาตั้ง 2 ชั่วโมง
“สวัสดีครับ นักศึกษา” ล่าล่ะครับอาจารย์ รีบลงไปแคนทีนดีกว่าหิวจะแย่แล้ว สงสัยพวกพี่โตโน่คงถึงกันแล้ว ว่าแต่วันนี้จะกินอะไรดีน้า~
“กัน...”
“หืม....” ผมหันไปตามต้นเสียงหวานที่ไม่คุ้นหูเอาซะเลย สายตาผมสบตากับผู้หญิงตัวเล็กๆ เล็กมากจริงๆ (นักศึกษาหรือลูกกอกเนี่ย เล็กกว่าริทอีก อ้ะ หมายถึงตัวนะครับ อย่าคิดไกล อิอิ) เธอสะพายกระเป๋าราคาแพงระยำอยู่บนไหล่ ในมือหอบหนังสือที่เหมือนกับของผมเด้ะๆอยู่ ถ้าจำไม่ผิดเธอชื่อ.....
“แอมฝากนี่ให้พี่โตโน่ด้วยนะ...” อืม ใช่ๆ ชื่อแอม เพื่อนร่วมคณะของผมเอง ว่าแต่อะไรล่ะนั่น??
ผมรับกระดาษโพสอิทสีชมพูมาจากเธอ “อะไรหรอแอม?”
“แอมฝากให้พี่โตโน่ด้วยนะกัน ขอบคุณนะ แอมไปล่ะ”
“อ้าววว” ไปซะละ แล้วสรุปมันอะไรล่ะเนี่ย สงสัยจดหมายสารภาพรักมั้งแต่เล็กไปหน่อยไหม ขณะผมกำลังจ้องกระดาษใบจิ๋วในมือนั้น
...อีกนานไหมเธอจะทำใจได้หรือเปล่า...หากว่ามันยืดยาว...แล้วฉันต้องทำเช่นไร...~
“ใครโทรมาตอนนี้ล่ะเนี่ย”
“ตัวเล็ก”
“ว่าไงริท”
“อยู่ไหน”
“บนตึกภาคฯเดี๋ยวรีบลงไป”
“ให้ไว ริทหิวจนจะกินหัวพี่โตโน่ได้แล้ว”
“อือๆ เดี๋ยวนี้ล่ะ” ผมยัดโพสอิทลงกระเป๋ากางเกงก่อนรีบวิ่งลงจากตึกไป
ให้ตายเหอะ แคนทีนมีแค่หน้าหอ10 หรือไง คนมันถึงได้เยอะแบบนี้ทุกเที่ยงสิน่า แล้วผมจะหาเพื่อนผมเจอไหมล่ะเนี่ย
“กันทางนี้!!!” นั่นไงไอ้ตัวเล็กโบกมือเหย็งๆอยู่นู่น อ้ะ นั่นพี่เก่งนี่ มากันครบหมดแล้วหรอ หวา ผมขอตัวไปทานข้าวก่อนนะครับ คุณผู้อ่านก็อย่าลืมทานข้าวนะ เดี๋ยวไม่มีแรงอ่าน “So Close-เพราะเราใกล้กัน” อิอิ
“พี่โตโน่ ริทขอทอดมันชิ้นนั้นได้ปะ?”
“ไอ้เก่งก็มี ขอมันสิ...”
“ไม่เอาอะ พี่เก่งเรียนหนัก แย่งพี่เขา เดี๋ยวสลบตายคาคลินิกขึ้นมา จะทำไง”
“ทอดมันชิ้นเดียว เพื่อนพี่มันไม่สลบหรอก ถึงสลบคงมีคนแห่มาแบกมันอยู่แล้วล่ะ ไม่อาววว เอาส้อมออกไป!!”
“น่าๆ ขอหน่อยนะๆ นะตัวเองงงง” เพื่อนผมมารยาเยอะจริงๆ ทำตาปิ้งๆใส่พี่โตโน่ด้วย
“อย่ามา ในจานยังกินไม่หมดเลย ม่ายยยยย ออกปายยยยยยยย” อ้าวๆ เริ่มเลื้อยไปบนตัวพี่โตโน่แล้ว เฮ้ย!! บางทีก็แค่ทอดมันชิ้นเดียว ลงทุนไปไหม อ้าวนั่น แขนพันกันหมดแล้ว เพื่อนเราสภาพ (= =)
พรึบบบ...
“อ้าว ไปแล้วหรอพี่เก่ง?” พี่ชายอีกคนข้างๆผมกำลังลุกขึ้นพร้อมจานข้าวในมือ
“พี่มีต่อภาคบ่ายที่ตึกอธิการฯน่ะ ไปก่อนนะเดี๋ยวสาย”
พี่เก่งตบไหล่ผมแล้วเดินออกไปจากโต๊ะ แต่ก่อนไปพี่เขายังอุตส่าแซวผมว่าระวังโดนลูกหลงนะ ก็จริงของพี่เขา เมื่อคิดถึงสภาพที่ตัวเองต้องมานั่งดูไอ้พี่น้องสองคนนี้เล่นกันแล้ว ไอ้เรื่องที่จะโดนลูกหลงไปด้วยคงไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมาย
แล้วนี่มันอะไรเนี่ย....
“พี่โตโน่ปล่อยสิ ริทอึดอัดดดดด”
“ปล่อยก็เสียทอดมันดิ เราอะปล่อยส้อมก่อน”
“ปล่อยริทก่อนเหอะ อึดอัดจะแย่แล้วววววว”
ภาพผิดธรรมชาติตรงหน้านี่มันอะไรกัน เฟรชชี่คณะแพทย์ปี1 หน้าตาน่ารักกำลังอยู่ในอ้อมกอด เดือนคณะสุดฮอต 4 ปีซ้อน คนผ่านไปผ่านมาคงจินตนาการไปไกลว่าไอ้สองคนนี้กำลังเล่นบทอัศจรรย์กอดรัดฟัดเหวี่ยงป้อนข้าวป้อนน้ำกันกลางแคนทีน ซึ่งความจริงภาพทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะทอดมันชิ้นเดียว ชีวิต (= =)
“ยอมซะแต่แรกก็สิ้นเรื่อง”
นั่นเพื่อนผมมันยอมแพ้แล้วครับ ยอมปล่อยส้อมซะที พี่โตโน่เลยยอมคลายกอดที่รัดมันอยู่
“อะ...เอาไปเหอะ”
“อ้าว ไม่กินหรอ?” ผมเห็นพี่โตโน่นั่งอมยิ้ม ฮัมเพลง ไม่ส่งเสียงตอบเพื่อนผมแต่อย่างใด
“กันมีเรียนภาคบ่ายต่อหรือเปล่า?” อ้าวเลิกฮัมเพลงแล้วหรอครับ
“ไม่นะ แต่ว่าจะไปหอสมุดหน้าตึกวิทย์หน่อย”
“ไออำไออ่ะ” (ไปทำไรอะ) เสียงไอ้ริทครับ มันเคี้ยวทอดมันอยู่
“ว่าจะไปหาหนังสือมาทำรายงานน่ะ อาจารย์พิชิตแกจัดหนักว่ะ จริง จริง”
“วันนี้ภาคบ่ายริทลงเรียนไว้ที่ตึกวิทย์ เดี๋ยวไปพร้อมกันก็ได้”
“อืมม”
หวังว่าตอนบ่ายแดดคงไม่แรง เพราะแคนทีนกับตึกวิทย์มันช่างห่างไกลกันเหลือเกิน
“4 โมงเจอกันที่ร้านนะ”
“คร้าบบบบ~” ผมกับไอ้ตัวเล็กข้างๆโบกมือลาพี่โตโน่ แต่เอ้ะ เหมือนจะลืมอะไรไป....ช่างเถอะ
“กันๆ รถรางงง!!” ลัคกี้~ รถลางมาพอดีเลย โชคดีจังไม่ต้องลากเท้าไปตึกวิทย์แล้ว แต่เฮ้ย!! มันกำลังจะออกนิ ไอ้ตัวเล็กข้างหน้าลากผมวิ่งสุดชีวิตไปยังรถลางที่กำลังเคลื่อนตัวออกไป
เราสองคนยืนหอบอยู่บนรถ ไม่นานนักรถรางก็จอดเทียบท่าหน้าตึกวิทยาศาสตร์
ริทเดินไปสมทบกับเพื่อนหน้าตึก ส่วนผมก็ข้ามถนนมายังหอสมุด
ว่าแต่...ทำไมแอร์ที่นีมันถึงได้เย็นนัก ผิดกับข้างนอกลิบลิบ หรือกลัวหนังสือเหงื่อออกกัน
................................
“เศรษฐกิจและสังคมโลกของดร.xxxx ครับ”
“สักครู่นะคะ” พี่พนักงานคนสวยกำลังเสิร์ชหาข้อมูลหนังสือที่ผมต้องการให้อยู่ ไม่นานหมายเลขตู้ ชั้น แล้วก็เลขที่หนังสือก็ถูกจดลงกระดาษแผ่นเล็กยื่นมาให้
“อยู่โซน B นะคะ ตู้เบอร์ 402 หนังสือจะอยู่ชั้นที่ 2 ทางซ้ายมือค่ะ”
“ขอบคุณมากครับ”
ผมรับกระดาษจดหมายเลขหนังสือมาจากพี่พนักงาน ก่อนที่จะเดินไปยังโซนB ตามที่แกบอก
จะว่าไปวันนี้ที่นี่คนน้อยจังแฮะ ปกตินักศึกษามากกว่านี้ตั้งเยอะ สงสัยมีเรียนภาคบ่ายกัน
ใช้เวลาไม่นานผมก็มาถึงโซนB ของห้องสมุด
“ตู้ 402 ก็ตู้นี้ ............ ชั้น 2 ทางซ้ายมือ หนังสือหมายเลข 11028
11028 ..... 11028........ “ ผมใช้นิ้วไล่กวาดหาหนังสือที่บนสันปกมีตัวเลข 11028 แปะอยู่
“11026 ... 11027 .... นี่ไง 11028 เจอแล้วโชคดีชะมัด เหลือเล่มสุดท้ายแล้วด้วย อะ...อ้าว เฮ้ย!”
หนังสือรหัส 11028 ที่ตั้งใจจะหหยิบ อยู่ๆก็ลอยออกจากชั้นไปก่อนที่มือผมจะได้สัมผัสมัน พอหันไปก็พบกับเด็กผู้ชายคนนึงในชุดนักรียนมัธยมปลาย ดูจากสีกางเกงแล้วคาดว่าคงเป็นเด็กจากรร.เอกชนไม่ใกล้ไม่ไกล กำลังถือหนังสือ เศรษฐกิจและสังคมโลก ที่ผมหมายตาไว้อยู่
“อะ...เอ่อ ขอโทษนะครับ คือว่าหนังสือเล่มนั้น”
“หืม มีอะไรหรอครับ?” เด็กคนนั้นพลิกหนังสือในมือไปมา
“คือว่า .... “ จะให้ผมพูดว่า ‘พี่จะเอาหนังสือเล่มนั้น’ มันก็ยังไงอยู่ แต่จะให้ปล่อยเขาเอาหนังสือไปก็คงจะแย่ ทำยังไงดีล่ะเนี่ย
“ถ้าไม่มีไร ผมขอตัวนะครับ” นักเรียนคนนั้น กำลังเดินจากไปพร้อมหนังสือเล่มสำคัญ(ต่อชิวิตผม)
กลับมาก่อนนน!
ไวเท่าความคิด มือผมคว้าเสื้อนักเรียนน้องคนนั้นเอาไว้ ทำให้เขาหันมามองหน้าผมอย่างงงๆ หวังว่าเขาจะไม่หันมาต่อยผมนะ
“ว่าไงครับ?”
“คะ...คือว่า พี่ตะ..ต้องใช้หนังสือเล่มนั่นอะ” พูดออกไปแล้ว อาป๊า อาม๊า คุ้มครองกันด้วยTT
“เล่มไหน?”
“ละ...เล่มนั้น” ปลายนิ้วผมชี้ไปยังหนังสือเจ้าปัญหาในมือเด็กนักเรียนตรงหน้า
“เล่มนี้?” นักเรียนคนนั้น เขย่าๆหนังสือในมือเพื่อย้ำความแน่ใจ
“อะ..อืม”
“พี่ก็ไปหาเล่มอื่นสิ เล่มนี้ผมจะยืม”
ยืม!? หวา น้องจะยืมไม่ได้นะครับ! รู้ไหม หนังสือเล่มนั้นสำคัญกับพี่แค่ไหน!
“ไปก่อนนะ”
“ดะ...เดี๋ยว” มือของผมรั้งเสื้อน้องนักเรียนคนนั้นไว้อีกครั้ง ยังไงก็ต้องลองเจรจาดูก่อน พี่มั่นใจว่าหนังสือเล่มนั้นสำคัญสำหรับพี่มากกว่าที่สำคัญสำหรับน้องแน่นนอน
“อะไรอีกล่ะ?”
“คือ พี่ต้องใช้หนังสือเล่มนั้นทำรายงานน่ะ ถ้ายังไงอ่านเสร็จแล้วเอาให้พี่ที่โต๊ะกลางได้ไหม” ผมพยายามอธิบายให้นักเรียนตรงหน้าฟัง ภาวนาให้น้องเขาเข้าใจและยอมจำนนส่งหนังสือนั่นมาโดยดี(?) แต่ถ้าไม่ล่ะ จะทำยังไง ไอ้ครั้นจะใช้กำลังแย่งมาก็คงไม่ไหว เพราะน้องเขาตัวสูงนำผมไปไม่น้อย มีหวังได้สลบคาห้องสมุดแน่ แต่จะปล่อยไปแบบนี้ก็ไม่ได้ โธ่ ทำไมต้องมาเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝันแบบนี้ด้วย
“แล้วมันเกี่ยวไรกับผมอะ พี่อยากมาช้าเอง”
“อ้าวว พูดแบบนี้ก็ไม่ถูกนะ พี่มาถึงก่อนน้องอีก แต่แค่......พลาด หยิบไม่ทัน!” ใช่ๆ อีกไม่กี่นาโนเมตรมือพี่ก็ถึงหนังสือเล่มนั้นแล้ว ถ้าไม่ติดว่าน้องหยิบไปก่อน
“ช่วยไม่ได้ อยากหยิบไม่ทันเอง ขอโทษนะ ขอตัวล่ะ พอดีผมรีบ”
“ดะ..เดี๋ยว คุยกันให้รู้เรื่องก่อน” คราวนี้ผมรีบวิ่งไปคว้าแขนของนักเรียนคนนั้นไว้เลย ใจจริงก็ไม่อยากทำแบบนี้เท่าไร แต่ก็คงไม่มีทางเลือกแล้ว
“เฮ้ยยย อะไรเนี่ย!”
“พี่ขอล่ะ หนังสือเล่มนั้นพี่รีบใช้จริงๆ”
“พี่นี่ยังไงอะ จับแขนผมไว้แบบนี้แล้วยังพูดจาไม่รู้เรื่องอีก ผมก็รีบใช้เหมือนกัน พี่ก็ใช้เล่มอื่นไปก่อนสิครับ”
“มันหนังสือเด็กมหาลัยฯนะ น้องคงไม่ต้องใช้หรอก ขอพี่นะ นะ นะ” ให้ตายเหอะ นี่ผมต้องยอมลงทุนขอร้องขนาดนี้เพื่อแลกกับหนังสือเล่มเดียวเลยหรอ ลงทุนขนาดนี้ ถ้าเกรดออกมาได้ต่ำว่า3 คงต้องขอเข้าพบอาจารย์พิชิตซะแล้ว แต่แกคงไม่อยากพบผมซักเท่าไร
“พี่นี่ประสาทหรือเปล่า= = โทษทีนะ ผมไม่มีเวลาว่างมาเล่นด้วยหรอก” นักเรียนคนนั้นสะแบดแขนจนผมเซไปชนเข้ากับตู้
ความหวังเริ่มริบหรี่เมื่อน้องคนนั้น กำลังเดินตรงไปที่เคาท์เตอร์บรรณารักษ์พร้อมหนังสือสองเล่มในมือ
โธ่ ไม่! หนังสือ เศรษฐกิจและสังคมโลก อันเป็นที่รักกำลังจะจากผมไป! แค่คิดภาพตอนทำรายงานโดยปราศจากหนังสือเล่มนั้นแล้ว ผมก็หมดกำลังใจจะมีชีวิตอยู่ (เว่อร์ไปไหม?)
เดี๋ยวพอน้องเขายืมเสร็จลองไปต่อรองอีกรอบดีกว่า อย่าพึ่งยอมแพ้นภัทร นั่นแค่เด็กม.ปลาย
..
ที่ตัวโตกว่า......เท่านั้นเอง TT
“ถ้าไม่ใช่นักศึกษาของมหาลัยฯ ยืมได้ไม่เกิน 1 เล่มนะคะ”
ความรู้ใหม่นะเนี่ย พึ่งรู้ว่าถ้าไม่ใช่นักศึกษายืมได้แค่ทีละเล่ม ดีล่ะ ดูจากหนังสือในมือน้องคนนั้นแล้ว ระหว่าง ‘รวมข้อสอบentrance 15 พ.ศ.’ กับ ‘เศรษฐกิจและสังคมโลก’ ยังไงๆ น้องคนนั้นก็คงต้องเลือกเล่มแรกอยู่แล้ว โชคช่วยแท้เลยๆ
แต่....เรื่องมันกลับไม่ใช่อย่างนั้น
“ขอยืมเล่มนี้นะครับ” หนังสือเศรษฐกิจและสังคมโลกถูกยื่นให้พี่บรรณารักษ์
“เรียบร้อยแล้วค่ะ”
น้องคนนั้นตัดสินใจยืมหนังสือเล่มสำคัญของผม แถมตอนนี้หนังสือเจ้ากรรมดันลงไปนอนก้นถุงกระดาษของมหาลัยเรียบร้อยแล้ว
ไวเท่าความคิดผมรีบวิ่งตามน้องนักเรียนคนนั้นออกไป
“น้องครับ เดี๋ยว!”
“หืม...อะไรกัน พี่อีกแล้วหรอ”
สายตาผมจับจ้องไปที่ถุงกระดาษของมหาลัยในมือน้องนนั้น
“ถ้าจะพูดเรื่องนี้อีก ผมไปก่อนนะครับ” เฮ้ย เดี๋ยว! ยังไม่ได้พูดอะไรเลย ให้ตายสิเด็กสมัยนี้
ผมรีบวิ่งลงบันไดตามน้องเขาไป เฮ้ยอย่าพึ่งขึ้นรถรางนะ รอก่อน
“เดี๋ยวสิ ขอร้องล่ะพี่จำเป็นต้องใช้หนังสือละ...หวาๆ อ้ากกกกกกกกกกกกกกก”
..............................................................................
..
Knotterdamn’ script
ตอน2มาแว้ววว เป็นไงมั่งครับสนุกกันรึเปล่า หรือว่าน่าเบื่อไปไหม
ไม่ค่อยมีคนมาอ่าน กับคอมเมนท์เลย YY
หดหู่ใจนิดๆ ไม่เป็นไรสู้ตายยยย!!!!
ความคิดเห็น