ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Naruto] ผู้หญิงของวีรบุรุษ

    ลำดับตอนที่ #3 : ตัวแถมของหน่วยที่เจ็ด

    • อัปเดตล่าสุด 10 พ.ย. 62


     2

    ตัวแถมของหน่วยที่เจ็ด

     

    จิฮารุลืมตาขึ้นมาในตอนเช้า แสงแดดจากดวงอาทิตย์สาดส่องเข้ามาภายในห้องจากทางหน้าต่าง ผ้าม่านขาวบางขยับปลิวไสวในอากาศจากสายลมที่พัดพาเข้ามา เธอกะพริบตาอยู่สองสามครั้งเพื่อปรับความคมชัดของการมองเห็น ในเวลาต่อมาภาพที่มองก็คมชัดมากขึ้น

     

    เพดานสีขาวสะอาดปรากฏสู่สายตาเป็นอย่างแรกเมื่อเปิดเปลือกตาขึ้น เธอเหลือบซ้ายมองทางซ้ายขวาแล้วพบว่าที่นี่ไม่ใช่ห้องนอนของตัวเอง แต่เป็นห้องหนึ่งภายในโรงพยาบาล

     

    เสียงกรนที่ดังอยู่ข้างตัวเรียกสายตาของจิฮารุให้หันไปมอง เด็กหญิงผุดรอยยิ้มอ่อนใจขึ้นบนใบหน้า ฝ่ามือขาวอมชมพูที่นิ่งอยู่ใต้ผ้าห่มขยับขึ้นปัดเส้นผมที่ปรกใบหน้าของตัวเองครั้งหนึ่ง ก่อนจะเลื่อนไปแตะลงบนผ้าคาดหน้าผากของคนที่หลับอุตุอยู่ข้างเตียง

     

    สัมผัสเย็นเฉียบที่ปลายนิ้วกลับทำให้เธอรู้สึกดี ความรู้สึกคล้ายภาคภูมิใจแต่งแต้มทั่วใบหน้า เด็กหญิงขยับกายลุกขึ้นกับหัวเตียงอย่างเชื่องช้า ริมฝีปากขยับเอ่ยคำยินดีออกมาเสียงแผ่วเบา

     

    ยินดีที่สอบผ่านนะ นารูโตะ

     

    เด็กชายเจ้าของเรือนผมสีทองสว่างขยับกายที่นั่งอยู่บนเก้าอี้เล็กน้อย จิฮารุชักมือกลับราวต้องของร้อน ก่อนจะสีหน้าให้เป็นปกติเมื่อเปลือกตาของคนที่นั่งสัปหงกจนถึงเมื่อกี้ขยับเปิดออก นัยน์ตาสีฟ้าสดใสแลดูง่วงมองมาที่เธออยู่ครู่หนึ่งก็เบิกกว้าง ทอประกายความยินดี

     

    จิฮารุ! ตื่นแล้วเหรอ!”

     

    เบาๆ สิเจ้าบ้า! ที่นี่มันโรงพยาบาลนะ!” จิฮารุอยากจะยกมือเขกกบาลของคนเสียงนัก แต่ก็ป่วยการจะทำเพราะฝ่ามือมีเข็มน้ำเกลือปักอยู่ เธอไม่อยากจะเสี่ยงเจ็บตัวเพิ่มจึงได้แต่ยกมือขึ้นปิดปากเขาเอาไว้แล้วสั่งให้เงียบโดยใช้สายตา อีกฝ่ายพยักหน้ารับแล้วค่อยๆ เบาเสียงลงเมื่อเธอยกฝ่ามือออก

     

    แล้วเธอรู้สึกเป็นยังไงบ้าง

     

    จิฮารุยักไหล่ ก็ปกติดี ไม่เจ็บไม่ปวดอะไร

     

    นารูโตะได้ยินคำพูดของเพื่อนแล้วก็เบาใจลง ตอนที่เห็นจิฮารุล้มไปต่อหน้าต่อตาเล่นเอาหัวใจล่วงไปอยู่ที่ตาตุ่ม เรียกเท่าไหร่เพื่อนสนิทก็นอนนิ่ง ใบหน้าซีดขาวแทบจะไร้สีเลือดและลมหายใจที่แผ่วเบาของจิฮารุเขายังจำมันได้ขึ้นใจ ไอ้ความรู้สึกกังวลจนแทบบ้าแบบนั้น นารูโตะคิดว่าแค่ครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว

     

    เด็กหญิงมองหน้าเพื่อนชายแล้วเอียงคอด้วยความงุนงง ไอ้ท่าทางโล่งอกโล่งใจแบบนั้นมันอะไรกัน

     

    จะว่าไปนี่กี่โมงแล้ว ฉันหลับไปนานแค่ไหน?จิฮารุมองออกไปนอกหน้าต่างห้อง แสงแดดที่ส่องประกายดูไม่คล้ายว่าจะเป็นช่วงสายของวันเลยสักนิด หลังจากที่โลกมือสนิทไป ดูเหมือนว่าเธอจะหลับไปแค่ไม่กี่ชั่วโมงเองสินะ

     

    นารูโตะได้ยินคำถามแล้วก็ยกแขนขึ้นกอดอก เพิ่งจะสิบโมง แต่เธอหลับไปสามวัน

     

    จิฮารุหลุดร้องออกมาเสียงหลงหลังจากได้ยินคำตอบ เธอกะพริบตาปริบเมื่อสมองประมวลคำพูดของอีกคนได้ไม่ชัดเจนเท่าไหร่

     

    สามวัน? เธอหลับไปสามวันเชียวเหรอ!

     

    เรื่องจริงเหรอ? สามวันเนี่ยนะ!”

     

    ใช่ รู้มัยว่าทำให้คนอื่นเขาเป็นห่วงน่ะนารูโตะทำหน้ามุ่ยใส่ทั้งที่ยังยกแขนขึ้นกอดอก จิฮารุเห็นท่าทางแบบนั้นแล้วก็รู้สึกหมั่นไส้ อยากจะฟาดฝ่ามือใส่

     

    ให้น้อยๆ หน่อยย่ะ นายก็ทำคนอื่นเขาเป็นห่วงเหมือนกันนั่น...จิฮารุยังพูดไม่ทันจบประโยคดีนารูโตะก็วางมือลงบนเตียงของเธอ ใบหน้าที่ยังคงมุ่ยจนถึงเมื่อกี้นี้เปลี่ยนเป็นจริงจังจนเธอเองยังตกใจ เขาจ้องเธอเขม็ง ก่อนจะพูดขึ้น

     

    เพราะฉะนั้น...ห้ามเป็นแบบนี้อีก!”

     

    จิฮารุอึ้งกับพูดของเพื่อนชาย เธอมองเห็นว่าดวงตาสีฟ้าของเขาสั่นระริกอยู่ไม่น้อย เด็กหญิงที่ตั้งท่าจะเอ็ดเขาพ่นลมหายใจออกมาบางเบา ผุดรอยยิ้มที่ริมฝีปากแล้วกล่าวว่า

     

    ได้ จะไม่มีครั้งหน้าอีก

     

    นารูโตะยกรอยยิ้มขึ้นบนริมฝีปาก ดวงตากระจ่างใสขึ้นกว่าเมื่อครู่มาก เด็กชายยกฝ่ามือขึ้นวางบนศีรษะของจิฮารุแล้วเริ่มขยี้มันอยู่หลายครั้งจนทรงผมของเพื่อนชี้ฟู จิฮารุที่อารมณ์ดีๆ กลับมาหงุดหงิดอีกครั้งหนึ่ง

     

    นารูโตะ!” เด็กสาวประทานฝ่ามือลงบนท่อนแขนของเพื่อนเสียงดังลั่นห้อง และเป็นโชคดีอย่างหนึ่งที่ภายในห้องพักแห่งนี้มีเธอเป็นผู้ป่วยอยู่เตียงเดียวเท่านั้น ทำให้ไม่ว่าเธอจะดุด่าว่ากล่าวหรือลงไม้ลงมือเสียงดังแค่ไหนก็ไม่มีใครว่าอะไรหรอก ยกเว้นว่าเสียงจะลอดออกไปนอกห้อง

     

    โอ้ย ฉันขอโทษๆ!” นารูโตะเบี่ยงแขนหนีฝ่ามือของเพื่อนพลางเอ่ยขอโทษรัวๆ เขาเอียงแขนไปจ้องหน้าของจิฮารุไปจนเด็กหญิงหยุดมือ เธอมองใบหน้าของนารูโตะที่กลับมาหม่นหมองอีกครั้งหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยปากถามอย่างอดไม่ได้

     

    เป็นอะไรไป นารูโตะ

     

    สักวันหนึ่ง...เธอจะทิ้งฉันไปมั้ย?นารูโตะบีบฝ่ามือของตัวเองแน่น คำถามนี้มาพร้อมกับภาพจิฮารุที่นอนนิ่งอยู่บนพื้นเมื่อสามวัน ตอนนั้นเขารู้สึกกลัวขึ้นมา กลัวว่าในวันข้างหน้าจะไม่มีคนตรงหน้าอยู่ข้างตัวอีก

     

    จิฮารุถอนหายใจ ทำไมวันนี้เจ้าหมอนี่ถึงได้อ่อนไหวนักนะ

     

    เด็กหญิงเอี้ยวตัวหันมองเพื่อนด้วยสายตาจริงจัง ฝ่ามือทั้งสองข้างวางลงบนไหล่ของเขาพลางบีบมันเอาไว้ ก่อนที่ริมฝีปากจะขยับ

     

    ฟังให้ดีนะ นารูโตะจิฮารุสบสายตากับอีกคนอย่างแน่วแน่ ฉันจะอยู่กับนาย เราจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป

     

    ใช่ เธอจะอยู่กับนารูโตะ คอยดูแลเขาจนกว่าจะถึงวันที่เธอทำไม่ได้

     

    นารูโตะฉีกยิ้มกว้างเมื่อได้ยินคำตอบของเพื่อนสาวคนสนิท ความกังวลภายในใจถูกปัดเป่าออกไปจนโล่งสบาย เด็กชายยกนิ้วก้อยของตัวเองขึ้น พร้อมกับพูดว่า

     

    สัญญาสิ

     

    จิฮารุยกนิ้วก้อยขึ้นเกี่ยวกับนิ้วของอีกฝ่าย ยกรอยยิ้มขึ้น

     

    ฉันสัญญา

     

    ครืด...

     

    ประตูห้องถูกเปิดออก เรียกสายตาของสองเด็กให้หันไปมอง เมื่อเห็นว่าเป็นใครจิฮารุก็ยิ้มกว้างจนนัยน์ตาโค้งเป็นพระจันทร์เสี้ยว ปลายนิ้วก้อยของเธอหลุดจากการเกาะเกี่ยวเพราะเพื่อนชายผุดกายลุกขึ้นจากเก้าอี้ หันไปพูดกับผู้มาใหม่

     

    ครูอิรุกะ จิฮารุตื่นแล้วล่ะ!”

     

    อ่า เห็นแล้วล่ะอิรุกะเดินเข้ามาพร้อมกับถุงกระดาษ เขาหย่อนกายลงนั่งบนเก้าอี้ที่ว่างอยู่แล้วยื่นถุงกระดาษให้กับเด็กหญิงบนเตียงนอน ดวงตามองสภาพของลูกศิษย์ที่กลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้วรู้สึกโล่งใจขึ้น

     

    จิฮารุมองถุงกระดาษที่อาจารย์ยื่นมาให้ด้วยความงุนงง เธอยกสายตาขึ้นมองเขาแล้วเอียงคอเล็กน้อย

     

    เสื้อผ้าน่ะอิรุกะตอบ เขาเว้นช่วงไปเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้นต่อ พอดีครูเจอพวกซากุระเข้าก็เลยวานให้ช่วยเก็บเสื้อผ้าของเธอมาให้น่ะ ไม่ได้เข้าไปเก็บเองหรอกนะ

     

    จิฮารุมองท่าทางรนรานเล็กๆ ของอาจารย์แล้วหลุดหัวเราะเสียงเบา เธอยังไม่ได้พูดอะไรสักคำ อาจารย์ก็ออกท่าทางแบบนี้ซะแล้ว

     

    นารูโตะมองรอยยิ้มบนใบหน้าของจิฮารุแล้วรู้สึกไม่ชอบใจยังไงชอบกล เขานอนเฝ้ามาตั้งแต่ตอนเช้า พูดคุยเล่นกันมาตั้งพักหนึ่งแล้วจิฮารุยังไม่หัวเราะให้เขาสักคำ แต่กับอาจารย์อิรุกะเพียงแค่คำพูดไม่เท่าไหร่ฝ่ายนั้นก็หัวเราะออกมาแล้ว

     

    ไม่ยุติธรรมเลย!

     

    แฮ่ม เดี๋ยวพอพยาบาลเข้ามาถอดสายน้ำเกลือแล้วก็รีบเปลี่ยนชุดซะนะอิรุกะกระแอมเสียงเบา เขาหันไปมองหน้านารูโตะที่มุ่ยลงแล้วอมยิ้ม พอออกจากโรงพยาบาลแล้วครูจะพาไปเลี้ยงราเม็งเอง ทั้งคู่เลย!”

     

    จิฮารุเพียงหลุดเสียงขำออกมาเบาๆ ผิดกับนารูโตะที่ดีใจจนออกนอกหน้า ฝ่ายนั้นฉีกยิ้มกว้างจนปากแทบจะบานไปถึงใบหู เขาคงจะวิ่งไปเรียกพยาบาลที่หน้าห้องแล้วถ้าหากว่าประตูไม่ถูกเปิดเข้ามาเสียก่อน

     

    เด็กหญิงถอนหายใจออกมากับท่าทางที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาของเพื่อนชาย แต่เห็นเขาเป็นแบบนี้แล้วเธอก็สบายใจ

     

    นิ้วก้อยข้างที่เพิ่งเกี่ยวพันกับอีกฝ่ายไปขยับเล็กน้อย ในขณะที่ใบหน้าของจิฮารุค่อยๆ ชืดลง

     

    สัญญา...งั้นเหรอ

     

     

     

    จิฮารุเปิดประตูห้องหลังจากที่ไปกินราเม็งโดยใช้เงินของอาจารย์ประจำอิ่มเป็นที่เรียบร้อย เด็กหญิงปิดประตูลงอย่างแผ่วเบาแล้วล็อคมันเอาไว้ ถอดรองเท้าวางเอาไว้บนชั้นข้างประตูอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้วค่อยเดินตรงไปยังห้องนอนของตัวเอง

     

    ไฟภายในห้องถูกเปิดเมื่อเจ้าของกลับมา จิฮารุไม่ได้ตรงไปยังเตียงนอนของตัวเองในทันที เธอก้าวไปยังโต๊ะเล็กๆ ที่ไว้ใช้สำหรับเขียนงานและทำการบ้าน ฝ่ามือขาวเรียวเล็กคว้าหยิบดินสอที่เสียบเอาไว้ในกระปุกเล็กๆ ขึ้นมาก่อนจะเปิดสมุดสีฟ้าอ่อนที่วางอยู่บนโต๊ะ

     

    ปลายดินสอจรดลงบนกระดาษว่างเปล่า เขียนเป็นตัวอักษรที่สวยงามออกมาบรรทัดหนึ่ง

     

    จิฮารุขีดเขียนเรื่องความฝันของตัวเองลงในสมุดอย่างเชื่องช้าเพราะต้องใช้เวลาในการทบทวนเรื่องราวในหัวไปด้วย ปลายดินสอค่อยๆ ตวัดขึ้นลงเป็นจังหวะ ภายในห้องนอนที่แสนจะเงียบเฉียบของเด็กหญิงมีเพียงเสียงขูดกันระหว่างดินสอและหน้ากระดาษ

     

    ความคิดภายในหัวแล่นไปมาระหว่างภาพความทรงจำของตัวเองและภาพความฝันที่คล้ายจะเป็นเรื่องจริง จิฮารุไม่เชื่อเลยสักนิดว่าฝันบ้าๆ นั่นจะเกิดขึ้นมาจริงๆ ในตอนแรก จนกระทั่งเธอไปพบเห็นเหตุการณ์เรื่องอาจารย์มิซึกิมาจะๆ กับตาตัวเอง

     

    ดังนั้นเมื่อเจ้าความฝันนี่มีเค้ารางว่าจะเกิดขึ้นจริง เธอจึงตัดสินใจที่จะจดบันทึกมันเอาไว้ อย่างน้อยๆ ก็สามารถใช้เป็นลู่ทางได้ในอนาคต

     

    ก็ ถ้ามันเกิดขึ้นจริงๆ ล่ะนะ

     

    ภาพในความฝันบอกกับเธอว่านารูโตะจะได้เป็นโฮคาเงะตามที่ใจปรารถนา เขาจะกลายเป็นวีรบุรุษของหมู่บ้าน ทุกคนในหมู่บ้านจะยอมรับในตัวของเขา นารูโตะจะได้รับแต่สายตาชื่นชมยินดีและรักใคร่เทิดทูน จะไม่มีใครหน้าไหนบังอาจว่ากล่าวเขาได้

     

    หากว่ามันจะเกิดขึ้นจริง เธอจะยินดีเป็นอย่างมาก

     

    จิฮารุวางดินสอลงเมื่อจดบันทึกเรื่องราวความฝันของตัวเองเสร็จเป็นที่เรียบร้อย เธอไม่ได้เขียนลงรายละเอียดมากนักเพราะกลัวว่านารูโตะจะมาเจอสมุดเล่มนี้เข้า เธอเขียนเป็นหัวข้อย่อๆ ที่ตัวเองพอจะเข้าใจคนเดียว

     

    เรื่องแบบนี้ไปบอกคนอื่นเขาได้ยังไง พูดไปเขาก็จะหาว่าบ้า เพ้อเจ้อ เอาน่ะสิ

     

    เด็กหญิงเหลือบสายตามองออกไปนอกหน้าต่างห้องนอน เธอเห็นดวงจันทร์ทอประกายแสงสีนวลตาออกมา มองแล้วให้ความรู้สึกโดดเดี่ยวและอ้างว้าง หากแต่มันก็สวยงามอยู่ไม่น้อย จิฮารุถอนหายใจออกมาแผ่วเบา ก้มลงมองฝ่ามือของตัวเองแล้วรู้สึกห่อเหี่ยวใจ

     

    คำสัญญาของนารูโตะ...เธอจะทำได้รึเปล่านะ

     

    เธออยากจะดูแลเขาให้ได้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ไม่รู้ว่าจะทำได้จนถึงเมื่อไหร่ เธอรู้อนาคตของคนนับสิบ แต่กลับไม่รู้เลยว่าอนาคตของตัวเองจะเดินไปทางไหน จะดีจะร้ายแค่ไหน เธอไม่อาจจะรู้ได้เลยสักนิดเดียว

     

    คิดแล้วก็พาลให้รู้สึกปวดสมองจริงๆ

     

    จิฮารุรู้สึกจิตตกได้ไม่นานก็กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง เธอไม่ใช่พวกชอบคิดมากแล้วก็มากดดันตัวเอง ถูกที่ว่าเธอไม่รู้หรอกว่าอนาคตของตัวเองจะเป็นอย่างไร แต่เธอรู้ว่าอนาคตของนารูโตะจะเป็นยังไง เพราะฉะนั้นตอนนี้เธอแค่ทำตามที่ความฝันมันบอกก็พอ

     

    เพื่อที่สุดท้ายแล้วนารูโตะจะได้เป็นอย่างที่หวัง...

     

    เอาล่ะ พรุ่งนี้ก็มาพยายามกันเถอะ!” จิฮารุร้องอยู่คนเดียวเบาๆ ปลุกกำลังใจให้พร้อมเดินหน้าในวันพรุ่งนี้ สมุดบันทึกความฝันพ่วงด้วยความลับสุดยอดถูกเก็บเอาไว้อย่างดีที่ใต้หมอน จิฮารุปิดหน้าต่างที่เปิดค้างเอาไว้แล้วยกยิ้มให้กับดวงจันทร์

     

    อนาคตของเธอจะเป็นยังไงก็ช่าง! เอาเป็นว่าทำพรุ่งนี้ให้ดีที่สุดก็พอ!

    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    เราชอบสีฟ้ามากเลยล่ะค่ะ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×