ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Naruto] ผู้หญิงของวีรบุรุษ

    ลำดับตอนที่ #4 : ตัวแถมของหน่วยที่เจ็ด 2

    • อัปเดตล่าสุด 14 มิ.ย. 63


    3

    ตัวแถมของหน่วยที่เจ็ด 2

     

    จิฮารุไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า...วิธีที่อาจารย์คัดเธอเข้าหน่วยจะเป็นอะไรที่พิลึกขนาดนี้

     

    เด็กหญิงถอนหายใจออกมาเป็นรอบที่ร้อยแล้วหลังจากที่ได้ยินเรื่องวิธีการเข้าหน่วยของตัวเองจากปากของเพื่อนสนิท เธอไม่รู้เลยว่าอาจารย์อิรุกะคิดอะไรของเขาอยู่ถึงได้ก่อกำเนิดวิธีเข้าหน่วยที่ทำให้เธอรู้สึกห่อเหี่ยวชอบกลแบบนี้ขึ้นมา

     

    หน่วยที่เธอได้อยู่มันก็ไม่แย่หรอก มีสมาชิกที่เก่งๆ แถมยังมีสาวน้อยจอมพลังบวกกับเจ้าบื้อมาหนึ่งคน แต่เธอไม่ค่อยดีใจเท่าไหร่เพราะวิธีที่ได้บรรจุลงหน่วยนี่แหละ

     

    วิธีไหนน่ะเหรอ...จับฉลากไงล่ะ!

     

    พอได้ยินแล้วจิฮารุก็อยากจะวิ่งเข้าหัวไปโขกกับกำแพงเสียจริง นี่การบรรจุเข้าหน่วยของเธอต้องมีเรื่องดวงเข้ามาเอี่ยวด้วยเหรอ!

     

    จิฮารุไม่ได้เครียดเรื่องที่จะไม่ได้อยู่กับเพื่อนสนิทอะไรทำนองนั้นหรอก เธอแค่รู้เหมือนว่าใครๆ ก็ไม่ต้องการเธอเท่านั้นเอง!

     

    ขนาดจะยัดเธอเข้าหน่วยใดหน่วยหนึ่งยังต้องใช้วิธีสุ่มเดาเอาเลย! ฮือ... นี่ไม่มีใครเสนอชื่อเธอไปเลยรึไงนะ อย่างน้อยเรื่องฝีมือเธอเองก็มั่นใจเหมือนกันว่าไม่แย่ไปกว่านารูโตะแน่นอน แถมคะแนนสอบของเธอเองก็ติดท็อปของห้องเหมือนกันนะ

     

    แต่คิดมากไปก็พาลปวดหัวเสียเปล่าๆ ต่อให้ตอนนี้เธอไปเรียกร้องความยุติธรรมกับอาจารย์อิรุกะก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้ว เพราะว่าชื่อของเธอถูกบรรจุลงในหน่วยเจ็ดอย่างเป็นทางการไปแล้ว แถมวันนี้พวกเธอก็จะได้เจอกับอาจารย์ประจำกลุ่มแล้วด้วย

     

    ทุกอย่างมันสายเกินไปแล้ว...

     

    ใบหน้าขาวอมชมพูแนบลงกับพื้นโต๊ะอย่างหมดอาลัยตายอยาก เธอกรอกลูกตามองซ้ายมองขวาแล้วพ่นลมหายใจออกมาอีกครั้ง

     

    ทางขวามือของจิฮารุเป็นเด็กผู้ชายผมดำจากตระกูลอุจิวะที่นั่งทำหน้าซักกะตาย เขานั่งจ้องกระดานดำโดยที่ไม่ได้ละสายตาไปจากมันแม้สักวินาทีเดียว ราวกับว่าเจ้ากระดานสีเขียวๆ นั่นมันน่าสนใจมากกว่าเพื่อนร่วมหน่วย จิฮารุไม่รู้ว่าอีกฝ่ายขมุบขมิบปากพูดอะไร แต่ก็คงไม่พ้นเรื่องคนสองคนที่ยืนเถียงกันอยู่ด้านหน้า

     

    เด็กหญิงผมสีชมพูซากุระยาวจรดกลางหลังยืนท้าวเอวเอ็ดเจ้าเพื่อนสนิทหัวทองของเธออยู่ จิฮารุไม่ได้สนใจฟังนักว่าเธอพูดว่าอะไรเพราะรู้ดีอยู่แล้ว แต่เด็กหญิงกลับจ้องเรือนผมที่ขยับปลิวไปมาในอากาศของอีกฝ่ายตาเขม็ง

     

    เธอชอบสีชมพูมากกว่าที่คิด พอเห็นแล้วก็รู้อิจฉาเหมือนกัน

     

    จิฮารุจับปลายเส้นผมที่สั้นระบ่าของตัวเองแล้วถอนหายใจอีกครั้ง เส้นผมของเธอไม่ได้เป็นเงางามเหมือนกับเด็กผู้หญิงคนอื่นๆ สักนิด นอกจากจะชี้ฟูมากๆ ในตอนเช้าแล้วมันยังทั้งแห้งทั้งกรอบ พอจับแล้วก็อยากจะกระชากมันทิ้งหมดทั้งหัวเหมือนกัน

     

    แบบ...โกนทิ้งแล้วเลี้ยงผมใหม่ แต่เธอดันใจไม่ถึงพอนี่สิ

     

    ความคิดของเธอวนเวียนไปมาอยู่ไม่กี่เรื่อง ถ้าหากไม่ใช่เรื่องของนารูโตะก็เป็นเรื่องความฝันบอกอนาคตที่ฝังอยู่ในหัว อ้อ...ยังมีเรื่องอุจิวะ ซาสึเกะเข้ามาในหัวเป็นพักๆ อีกด้วย

     

    เพราะว่ามีความฝันบอกอนาคตอยู่ จิฮารุจึงรู้เรื่องของครอบครัวเขาทั้งหมด ตื้นลึกหนาบางแค่ไหนเธอก็รู้ เรื่องบางอย่างที่คนทั่วไปหรือเจ้าตัวไม่เคยรับรู้มาก่อนจิฮารุก็ยังจำได้ฝังหัว เด็กหญิงจึงรู้สึกลังเลว่าตัวเองควรจะบอกอีกฝ่ายดีไหม

     

    อย่างเช่น...เรื่องความแค้น

     

    แต่คิดไปคิดมาจิฮารุว่าไม่บอกดีกว่า ถ้าเธอไปก้าวก่ายเรื่องของคนอื่นมากเกินไป อนาคตของนารูโตะอาจจะเปลี่ยนไปก็ได้ เอาเป็นว่า ถ้าเธอเห็นว่าการบอกอุจิวะ ซาสึเกะเรื่องความแค้นฝังใจของเขาไม่ส่งผลต่ออนาคต ถึงวันนั้นแล้วเธอจะพูดก็แล้วกัน

     

    เสียงกรุกกรักของเก้าอี้เรียกสายตาของจิฮารุให้ยกขึ้นมอง ใบหน้าที่แนบเข้ากับโต๊ะยกขึ้น นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนมองไปยังฮารุโนะ ซากุระที่พูดคำว่า โธ่ออกมาคำเดียวก็เงียบไปกับเพื่อนสนิทตัวดีที่กระโดดลงจากเก้าอี้ จิฮารุลุกพรึ่บ เตรียมตัวจะฟาดฝ่ามือลงกลางกบาลของเจ้าบื้อตัวแสบ

     

    เจ้าหมอนี่...บอกจนปากเปียกปากแฉะแล้วว่าอย่าซน!

     

    นารูโตะ!” จิฮารุพูดออกไปได้คำเดียวประตูห้องก็ถูกเปิดออก แปลงลบกระดานที่ถูกวางคั่นเอาไว้ล่วงลงมากระทบกับศีรษะสีขาวชี้ฟูเล็กน้อย เสียงกระทบกันดังไปทั่วห้องที่ไร้ผู้คน เด็กหญิงมองเหตุการณ์ตรงหน้าตาปริบ

     

    ทุกอย่างตกอยู่ท่ามกลางความเงียบ จนกระทั่ง...

     

    ฮ่าๆ โดนเข้าแล้ว!” นารูโตะหัวเราะร่าที่กับดักของเขาสำเร็จลุล่วง ในขณะที่ซากุระละล่ำละลักขอโทษออกไป

     

    ขะ ขอโทษนะคะคุณครู หนูบอกเขาแล้ว แต่นารูโตะไม่ยอมฟังเลยจิฮารุได้ยินคำพูดของซากุระแล้วทำหน้าตาย เธอรู้ดีอยู่หรอกว่าในใจแม่สาวน้อยคนนี้คิดอะไรอยู่ เด็กหญิงเดินลงไปหาเพื่อนชายตัวดีแล้วลอบบิดที่เอวอีกฝ่าย

     

    มันน่าบิดจนเนื้อเขียวจริงๆ!

     

    โอ้ยๆ จิฮารุๆนารูโตะเอี้ยวกายหนีปลายนิ้วของจิฮารุที่บิดเนื้อช่วงเอวจนสะดุ้ง เด็กชายหนีออกมาได้สำเร็จก็จริง แต่เนื้อที่โดนบิดก็รู้สึกแสบแปร๊บไปหมดแล้ว

     

    จิฮารุมองคนเด้งตัวหนีด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจ พูดลอดฟันให้พอได้ยินกันสองคนว่า

     

    กลับบ้านไปนายเจอดีแน่

     

    นารูโตะได้ยินแบบนั้นรู้สึกว่าขนตัวกายพากันลุกพรึ่บ ใบหน้าที่ยังคงยิ้มแย้มจนถึงเมื่อกี้ซีดลงถนัดตาแม้ว่ารอยยิ้มจะยังอยู่ก็ตาม เด็กหญิงไม่ได้พูดอะไรต่อเมื่อเห็นท่าทางคล้ายจะเก็บความซนลงกรุของนารูโตะ เธอย้ายสายตาไปมองอาจารย์ประจำหน่วย

     

                ผ้าคาดศีรษะที่ปิดดวงตาข้างนั้น...เธอจำได้แล้วว่าเขาคือใคร

     

                เพราะว่าภาพความฝันมันเยอะมากจริงๆ บางครั้งเธอก็อาจจะหลงลืมไปบ้างว่าใครเป็นใคร แต่คนตรงหน้านี้ถึงเธอจะลืม ก็ลืมไม่หมดทุกส่วน เพราะว่าชายคนนี้เป็นคนที่มีบทบาทมากคนหนึ่ง เกือบจะทุกช่วงในความฝันที่เธอเห็นชายคนนี้

     

                ฮาตาเกะ คาคาชิ หนึ่งในลูกศิษย์ของโฮคาเงะรุ่นที่สี่

     

                ความประทับแรกกับพวกเธอก็คือ...สายตาของคนมาใหม่กวาดมองเด็กนักเรียนสี่คนอย่างถี่ถ้วน ก่อนที่จะพูดประโยคต่อมา เหม็นขี้หน้า

     

                คล้ายว่าบรรยากาศภายในห้องเรียนหนักอึ้งขึ้นมาเล็กน้อย จิฮารุหุบรอยยิ้มบนใบหน้าแล้วถอนหายใจเสียงเบา...

     

                ก็...กะไว้แล้วว่าจะเป็นแบบนี้

     

     

     

                หน่วยเจ็ดทั้งหมดย้ายขึ้นมาบนด่านฟ้า เด็กสี่คนนั่งลงบนพื้นบันไดขณะที่ครูเพียงหนึ่งเดียวยืนพึงรั้วเท่ๆ จิฮารุเลือกที่จะนั่งบันไดชั้นล่างสุดเพราะสามารถเหยียดขาได้อย่างสะดวกสบายกว่าชั้นอื่น สายตาของเธอมองสำรวจครูประจำหน่วยอย่างระมัดระวัง

     

                อืม...จะว่าเป็นคนหนุ่มที่หน้าตาไม่เลวก็ไม่ผิดนักหรอก แต่ติดนิสัยกวนประสาทเข้าไปด้วยนี่สิ

     

                ถ้าตัดเรื่องนั้นออกไปก็เป็นครูที่ดีแล้วแท้ๆ เชียว...

     

                เด็กหญิงเหยียดขาแล้วปรับท่านั่งให้สบายมากที่สุด เธอนั่งฟังการแนะนำตัวของอาจารย์ประจำหน่วยแล้วเบ้ปากในใจ ไม่รู้ว่าโรงเรียนไหนสอนการแนะนำตัวแบบนี้ให้เขา นอกจากชื่อแล้วเธอก็แทบจะไม่รู้อย่างอื่นของอาจารย์คนนี้เลยสักนิด

     

                เวลาผ่านไปการแนะนำตัวของสมาชิกหน่วยเจ็ดก็เวียนมาถึงหนุ่มหล่อประจำห้อง จิฮารุเอียงศีรษะมองใบหน้าที่ดำคล้ำของอีกฝ่ายแล้วลอบพ่นลมหายใจออกมาคนเดียว รู้สึกคล้ายจะว่าเหนื่อยหน่ายใจไม่น้อย

     

                ความแค้นของอุจิวะ ซาสึเกะมีมากจนบางทีเธอก็เหนื่อยแทนเขาเหมือนกัน

     

                ต้องมานั่งแค้นเคืองใครคนหนึ่งตลอดหลายปี ถ้าเป็นจิฮารุ...เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทนแค้นได้นานเหมือนเขาไหม

     

                สำหรับเด็กหญิงแล้ว เรื่องแบบนี้มันน่าอึดอัดไม่น้อยเลยล่ะ แถมยังทำให้จิตตกเอาง่ายๆ อีกด้วย

     

                ต่อไปตาเธอจิฮารุมองนิ้วชี้ของอาจารย์แล้วเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าเธอเป็นคนสุดท้ายของหน่วยที่ต้องแนะนำตัว เด็กหญิงกระแอมออกมาครั้งหนึ่งแล้วค่อยเอ่ย

     

                ชื่อมิยาซากิ จิฮารุค่ะ ของที่ชอบคือไดฟุกุ ของที่เกลียดไม่มีเลยสักอย่างเดียวเด็กหญิงเว้นช่วงไว้สักเสี้ยววินาทีก่อนจะพูดถึงงานอดิเรก นัยน์ตากลมโตเหล่มองเพื่อนคนสนิทข้างตัวครั้งหนึ่งเงียบๆ แล้วจึงเอ่ยต่อ งานอดิเรกคือทำอาหารค่ะ

     

                ใจจริงก็อยากจะตอบไปเหลือเกินว่าคอยคุมความประพฤติของตัวปัญหา แต่ถ้าพูดไปแบบนั้นคงจะน่าตลกพิลึก ดังนั้นเธอเงียบๆ เอาไว้หน่อยจะดีกว่า

     

                หลังจากจบการแนะนำตัวของสมาชิกทั้งหน่วย คาคาชิก็พูดถึงเรื่องการทดสอบที่จะมีในวันพรุ่งนี้และบอกให้พวกเธอเตรียมตัวกันมาแต่เช้า จิฮารุที่รู้อยู่แล้วก็ได้แต่ฟังพร้อมทั้งเหม่อมองท้องฟ้ายามโปร่งใสของวันนี้ไปเรื่อยเปื่อย

     

                มารู้สึกตัวอีกครั้งก็ตอนที่คาคาชิพูดเตือนเรื่องไม่ให้กินข้าวก่อนสั่งแยกย้าย เด็กหญิงกรอกตามองฟ้าแล้วเบ้ปากอย่างไม่ชอบใจนัก

     

                บอกไม่ให้กินข้าวเช้า ทั้งๆ ที่ตัวเองมาซะสายขนาดนั้น!

     

                ฉันคงจะยอมทำหรอกนะ!!

     

     

     

                ไกลห่างออกไปจากหมู่บ้านโคโนฮะ ร่างสูงโปร่งในชุดคลุมสีดำลายเมฆแดงเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า เส้นผมสีดำสนิทที่ถูกตัดสั้นระต้นอย่างเป็นระเบียบขยับเล็กน้อยยามสายลมพัดผ่านมา ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนยกขึ้นมองท้องฟ้าแล้วพึมพำเสียงเบา

     

                สงบดีจังน้า...

     

                ชายหนุ่มย่อตัวลงนั่งบนกิ่งไม้ที่ดูเหมือนจะรับน้ำหนักตัวของเขาได้อย่างสบาย เสียงกระดิ่งดังขึ้นทุกครั้งที่เขาขยับข้อมือไปมา ชายที่ยืนอยู่ด้านล่างเงยหน้ามองเข้าแล้วพูดเสียงเข้ม

     

                กระดิ่งโง่ๆ ถอดออกไปซะ

     

                ชายหนุ่มบนต้นไม้หัวเราะ รับคำอย่างไม่จริงจังนัก คร้าบๆ

     

                เริ่มภารกิจสักทีพูดจบชายที่ยืนอยู่ใต้ต้นไม้ก็กระโดดหายเข้าไปด้านในป่า ทิ้งให้ชายหนุ่มผมดำนั่งเหม่อมองฟ้าไปแต่เพียงผู้เดียว

     

                เขาเงยหน้ารับแสงแดด ผิวปากออกมาอย่างคนอารมณ์ดี

     

                อ่า ฉันชอบสายลมของวันนี้จังเลยน้า

     

                ไม่มีเสียงใดตอบรับเขานอกจากใบไม้ที่เสียดสีกัน ร่างสูงโปร่งขยับกายลุกขึ้นเมื่อคิดว่าตนเอ้อระเหยลอยชานไปมาจนเสียเวลาไปนานโขแล้ว หากทำตัวเอื่อยเฉื่อยแบบนี้มากเข้าๆ จะกลายเป็นว่าเขาจะถูกเอ็ดเข้าให้อีก

     

                เป็นคนลุงแล้วแท้ๆ...แต่กลับต้องมาโดนพวกคนหนุ่มดุนี่ก็ไม่ไหวน้า...

     

                ก่อนที่ชายผมดำจะขยับกายลงจากต้นไม้ นัยน์ตาของเขามองตรงไปยังทิศทางของหมู่บ้านโคโฮนะแล้วผุดรอยยิ้มขึ้นบนริมฝีปาก

     

                อยากเจอไวๆ จังเลยน้า...เก้าหาง

    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    พอดีป่วย ต้องแอดมิทที่โรงพยาบาลสองวันค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×