คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : การสอบจบการศึกษาของนารูโตะ
1
การสอบจบการศึกษาของนารูโตะ
จิฮารุหอบหายใจขณะที่วิ่งวนไปทั่วโคโนฮะ
ใบหน้าของเธอมีหยาดเหงื่อเกาะพราวระยับไปหมด
เด็กหญิงยกหลังขึ้นปาดเหงื่อที่ไหลเข้าดวงตาลวกๆ
ขณะที่กวาดมองหาร่างของเพื่อนชายที่หายตัวไปตั้งแต่ช่วงหลังจากสอบเสร็จ
เธอวิ่งหาจนทั่วแล้วก็ยังไม่เห็นตัวเลย
เด็กหญิงกัดฟันกรอด
หยุดพักหายใจอยู่ตรงหน้าร้านขายของ คำพูดของพวกผู้ใหญ่ที่มาแสดงความยินดีกับลูกหลานของพวกเขาดังก้องขึ้นในหัว
‘สมน้ำหน้า’
เธอไม่รู้ว่านารูโตะได้ยินมันเข้าหรือเปล่าถึงได้หนีหายหน้าไปแบบนี้
แต่เธอบอกตามตรงเลยว่าโกรธยัยป้าสมองนิ่มพวกนั้นเสียเหลือเกินที่ดันพูดอะไรไม่เข้าเรื่องเข้าราว
ก็ไม่รู้หรอกนะว่าจงเกลียดจงชังอะไรเพื่อนของเธอนักหนา
แต่การมาพูดอะไรแบบนั้นกับเด็กมันไม่ใช่เรื่องที่สมควรเลยสักนิด
ยัยป้าพวกนั้นไม่รู้หรอกว่านารูโตะต้องพยายามเท่าไหร่ถึงจะมีทุกวันนี้
เขาต้องจมอยู่กับสายตาเย็นชาของทุกคนในหมู่บ้าน พ่อและแม่ก็ไม่มี เวลาเศร้าก็ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครได้บ้าง
แถมยังถูกเรียกว่าปีศาจตั้งแต่จำความได้ ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำร้ายใครสักหน่อย
นารูโตะก็แค่เกเร
ป่วนประสาทชาวบ้านเขาไปวันๆ เท่านั้นเอง
พวกผู้ใหญ่จะถือสาอะไรกับเด็กที่ต้องการความสนใจคนหนึ่งเล่า
จิฮารุรู้
เธอรู้มาตลอดว่าถึงนารูโตะจะมีรอยยิ้มบนใบหน้า แต่ลึกๆ
แล้วในใจเขาเจ็บปวดมากแค่ไหน เพราะว่าเธออยู่ข้างเขามาตลอด เป็นคนที่อยู่ใกล้ตัวของเขามากที่สุด
แต่ทั้งที่เป็นแบบนั้น...เวลานี้เธอกลับไม่รู้เลยว่าจะต้องไปตามหานารูโตะจากที่ไหน
เธอไปมาแล้วหลายที่...หลายที่ที่คิดว่าเขาจะไป
ทั้งหน้าผารูปสลักโฮคาเงะ ข้างแม่น้ำ ร้านอิจิราคุ วิ่งวนกลับไปที่บ้าน ในตลาด
หรือแม้กระทั่งสนามเด็กเล่นเธอก็ไปดูมาแล้ว แต่กลับไม่เจอแม้แต่เงาของนารูโตะ
ตอนนี้เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะวิ่งไปหาเขาที่ไหนดี
“ตาบ้าเอ้ย
อย่าให้เจอตัวนะ!”
จิฮารุเป็นห่วงเขาจนจะประสาทกิน
ตอนนี้ในชีวิตของเธอ...มีแค่นารูโตะคนเดียวเท่านั้น
แม่ของเธอเสียไปเมื่อสามปีก่อนเพราะโรคประจำ
พ่อเองก็หายตัวไปตั้งแต่เธออายุหกขวบ
ครอบครัวฝั่งพ่อนั้นไม่ค่อยยอมรับตัวเธอกับแม่เท่าไหร่นัก
เลยไม่ได้ติดต่อกันมานานมากแล้ว อาจจะเจอหน้ากันบ้างแต่ก็ไม่มีการทักทาย
เพียงแค่เดินผ่านไปอย่างเงียบเชียบ
ดังนั้น
ตอนนี้เธอจึงมีแค่นารูโตะ เพื่อนสนิทเพียงหนึ่งเดียวที่รู้จักกันมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก
หลังจากที่พ่อหายตัวไป
แม่ก็พาเธอออกมาจากบ้านของพ่อ มาอยู่ห้องเช่าเล็กๆ ข้างกับห้องของเด็กปีศาจที่ทุกคนพูดถึง
หลังจากนั้นแม่ก็เปลี่ยนให้เธอใช้นามสกุลของแม่แทนนามสกุลของพ่อ
ด้วยไม่ต้องการจะยุ่งเกี่ยวกับตระกูลฝ่ายพ่อให้มากที่สุด
ครั้งแรกที่รู้ว่าตัวเองต้องมาอยู่ห้องข้างๆ
กับเด็กที่ทุกคนขนานนามว่าปีศาจ จิฮารุไม่ค่อยจะสบายใจเท่าไหร่นัก
แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ยังไงซะคนเราก็คงจะไม่ได้เจอหน้ากันบ่อยอะไรมากมายอยู่แล้ว
หากแต่ความจริงมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลยสักนิด
จิฮารุเจอเขาตั้งแต่ที่ย้ายเข้าห้องใหม่ได้ไม่กี่ชั่วโมง
แถมเหตุการณ์ที่เจอยังเป็นอะไรที่น่าหดหู่ใจอีกด้วย
เด็กเกเรสองสามคนพากันหยิบก้อนหินปาใส่เด็กชายผมทองที่เนื้อตัวมอมแมมไปหมด
เขาพยายามหลบแล้วแต่ก็ยังโดนไปหลายก้อน บนใบหน้าของเด็กผู้ชายคนนั้นมีรอยฟกช้ำอยู่สองสามจุด
จิฮารุมองแล้วรับไม่ได้สุดๆ กับการรังแกคนเพียงคนเดียวอย่างหน้าด้านๆ แบบนี้
ดังนั้นเธอจึงพุ่งเข้าไปกระโดดถีบยอดหน้าของหนึ่งในเด็กเกเรจนกระเด็นไปไกล
เจ้าพวกที่เหลือพอเห็นเพื่อนล้มก็พากันมองตากลม เสียงร้องไห้ของเด็กดังระงมไปทั่วบริเวณเรียกสายตาของพวกผู้ใหญ่ได้เป็นอย่างดี
จิฮารุจำเรื่องต่อจากนั้นไม่ค่อยได้เท่าไหร่นัก
รู้แต่ว่าพ่อแม่ของพวกนั้นต่อว่าเธอยกใหญ่ก่อนจะพากันกลับบ้าน
หลังจากวันนั้นเธอกับนารูโตะก็เริ่มสนิทกันมากขึ้น
จิฮารุไม่เห็นเลยว่านารูโตะจะเป็นพวกอันตรายหรือปีศาจอย่างที่คนชอบพูด
เจ้าคนที่แม้กระทั่งใช้คาถาแยกเงาไม่ได้เนี่ยนะจะเป็นปีศาจ
พวกผู้ใหญ่น่ะเพ้อเจ้อกันไปเองเสียมากกว่า
“ไปอยู่ที่ไหนกันนะ
นารูโตะ” จิฮารุมองท้องฟ้าที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีหมึกแล้วรู้สึกร้อนใจมากกว่าเดิม
เธอกังวลใจมากเสียจนลืมเรื่องความฝันไร้สาระที่กวนมาตั้งแต่เมื่อตอนเช้าไปจนหมดสิ้น
เด็กหญิงพ่นลมหายใจออกมาครั้งหนึ่งแล้ววิ่งผ่านหน้าร้านค้าไป ตรงไปยังที่พักของอาจารย์ประจำชั้น
ถ้าเป็นครูอิรุกะล่ะก็...จะต้องช่วยเธอหานารูโตะเจอแน่!
เพราะว่าครูอิรุกะน่ะใจดี
เขาคอยดูแลนารูโตะมาโดยตลอด แม้ว่าจะเข้มงวดไปบ้างแต่ก็ไม่เคยเรียกนารูโตะว่าเด็กปีศาจ
สายตาของครูอิรุกะยามที่มองนารูโตะน่ะ...อบอุ่นเสมอ
จิฮารุพุ่งกายไปยังที่พักของอาจารย์ประจำชั้นด้วยความรวดเร็ว
เธอเหยียบหลังคาบ้านหลายหลังเพื่อเร่งฝีเท้าของตัวเอง ใช้เวลาอยู่ไม่เท่าไหร่ร่างบอบบางก็มาหยุดอยู่หน้าประตูบ้านของอาจารย์ประจำชั้นได้อย่างปลอดภัย
เด็กหญิงสูดลมหายใจเข้าปอดแล้วจรดหลังมือเคาะประตูบ้านของอาจารย์ด้วยความแรงในระดับหนึ่ง
“ครูอิรุกะคะ อยู่มั้ยคะ?!”
ประตูตรงหน้าเปิดอออกมา
ใบหน้าของอาจารย์ประจำชั้นปรากฏอยู่ตรงหน้าของเธอ จิฮารุปรับสีหน้าที่คงจะร้อนรนตามอารมณ์ของตัวเองให้เป็นปกติแล้วค่อยเอ่ยถามเป้าหมายที่มารบกวนอาจารย์ในเวลาแบบนี้
“อ้าว จิฮารุ
มีอะไรจะคุยกับครูงั้นเหรอ?”
“ครูเห็นนารูโตะบ้างมั้ยคะ
คือว่าเขา...” จิฮารุพูดไม่ทันจบประโยคดีก็มีแขกอีกคนพุ่งตัวเข้ามา
เธอมองใบหน้าของผู้มาใหม่แล้วเลิกคิ้วขึ้น
ครูมิซึกินี่...เขามาทำอะไรที่นี่
แถมสีหน้าแบบนั้น...
มิซึกิมองใบหน้าของเด็กตัวน้อยที่คุ้นหน้าคุ้นตาดีเร็วๆ
ครั้งหนึ่งแล้วค่อยแจ้งเหตุผลที่เขามาหาอิรุกะด้วยน้ำเสียงร้อนรน
“รีบไปรวมตัวกันที่บ้านของท่านโฮคาเงะ
เร็วเข้า!”
“เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ?”
“ดูเหมือนนารูโตะจะแอบขโมยคัมภีร์สะกดปีศาจไปแล้ว!”
จิฮารุที่ฟังบทสนทนาของผู้ใหญ่ทั้งสองคนเงียบๆ
ก็เบิกตากว้างขึ้นด้วยความตกใจ ที่นารูโตะหายตัวไปตั้งแต่หลังสอบเสร็จเพราะว่าแอบไปขโมยคำภีร์งั้นเหรอ!
ไม่...ไม่มีทางหรอก
เจ้าหมอนั่นถึงจะบ้าบอและมุทะลุแค่ไหนแต่ก็ไม่โง่ขนาดนั้น
เขาจะแบบนั้นได้ยังไงกัน...
เว้นแต่ว่า...มีคนบอกเขาแบบนั้น
อิรุกะได้ยินแล้วก็ตกใจไม่แพ้กัน
เขาเม้มริมฝีปากแน่น คิดไม่ถึงเลยว่านารูโตะจะทำเรื่องแบบนั้นได้
“ครูคะ...” จิฮารุเรียกอิรุกะที่มีสีหน้าเครียดขึงเสียงเบา
เธอกุมฝ่ามือแน่นพร้อมกับจิกเล็บลงบนผิวหลังมือ
ความกังวลทั้งหลายกำลังตีกันไปมาในร่างกายของเธอผสมกับอารมณ์โกรธและความเป็นห่วง
อิรุกะมองหน้าของจิฮารุแล้วเอ่ยสั่งเสียงเรียบ
“จิฮารุเธอกลับบ้านไปก่อน”
“แต่ว่าครูคะ
คือหนู...”
อิรุกะถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
เขาย่อกายลงให้อยู่ในระดับเดียวกับความสูงของเด็กน้อย
วางฝ่ามือลงบนกลุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนยาวประบ่าของคนตรงหน้าแล้วลูบครั้งหนึ่ง รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของชายหนุ่ม
“กลับไปรอที่บ้านก่อน
แล้วเดี๋ยวครูจะพานารูโตะไปส่งนะ”
จิฮารุได้แต่จำใจพยักหน้ารับ
เด็กหญิงตัวน้อยถอยฝีเท้าออกมาพร้อมกับมองร่างของครูทั้งสองคนที่กระโดดหายไปท่ามกลางความมืดมิด
เธอควรจะวางใจที่อาจารย์อิรุกะออกไปดูนารูโตะให้แล้ว
แต่บางอย่างในร่างกายมันร่ำร้องว่าทุกอย่างมันไม่ใช่อย่างที่คิด
ตอนนั้นเองที่ภาพความฝันซึ่งเธอลืมมันไปแล้วเด้งขึ้นมาในห้วงความคิด
ภาพของอาจารย์อิรุกะที่มีแผลเต็มตัวและนารูโตะที่แบกม้วนคัมภีร์ เด็กหญิงบีบฝ่ามือแน่น
ริมฝีปากอิ่มเหยียดตรง
เธอจะไม่รอ
เธอจะแอบตามครูอิรุกะไป!
จิฮารุนั่งแอบอยู่หลังต้นไม้ต้นหนึ่ง
เธอเอียงใบหน้าออกไปมองครูอิรุกะที่มีรอยแผลเต็มตัวด้วยความตกใจ
ฝ่ามือบางยกขึ้นปิดริมฝีปากแน่น
เสียงหัวใจที่หน้าอกด้านซ้ายเต้นกระหน่ำจนแทบจะไม่ได้ยินเสียงรอบกายเลยสักนิด
เด็กหญิงหอบอากาศเข้าปอดถี่กระชั้น
เหลือบสายตามองอาจารย์มิซึกิที่ยืนอยู่บนกิ่งไม้ด้วยความรู้สึกที่ไม่อยากจะเชื่อ
เธอได้ยินบทสนทนาของพวกเขา
อาจารย์มิซึกิคนนั้นหลอกนารูโตะเพื่อชิงคัมภีร์มาเป็นของตัวเอง
แถมยังบอกความลับอีกอย่างหนึ่งให้ฟัง...
ความลับที่ว่า...นารูโตะเป็นจิ้งจอกเก้าหาง
จิฮารุรู้สึกปวดหัวจี๊ดขึ้นมากะทันหัน
ฝ่ามือที่ปิดปากของตัวเองเคลื่อนย้ายขึ้นไปกุมศีรษะ ภาพของความฝันเมื่อเช้าผุดขึ้นมาอย่างกับดอกเห็น
เธอเห็นจิ้งจอกเก้าหางกำลังอาละวาดยกใหญ่
มีนินจาของหมู่บ้านมากมายที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนั้น
และเด็กทารกที่เพิ่งเกิด
เด็กทารกคนนั้น...คือนารูโตะงั้นเหรอ
ตอนนี้จิฮารุแทบจะไม่ได้สนใจบุคคลทั้งสามเลย
เธอจมอยู่ในห้วงความฝันที่มองว่าไร้สาระและหาแก่นสารไม่ได้
แต่บางอย่างในความฝันนั้นกลับเป็นความจริงที่เธอไม่เคยรู้
มันมีความจริงผสมอยู่ในนั้น ตอนนี้ทุกอย่างตีกันไปมาอยู่ในหัวของเธอ
ทั้งภาพจากความฝันและภาพจากความทรงจำ มันวิ่งวุ่นวนไปมาจนเธอสับสนไปหมด
ความฝันนั่น… มันเป็นความจริงอย่างนั้นเหรอ แล้วทำไมในความฝันถึงไม่มีตัวเธออยู่เลยล่ะ…
เสียงร้องตะโกนของนารูโตะเรียกความสนใจจากเธอไป
ความวุ่นวายและสับสนในหัวถูกไล่ออกไปให้พ้นแล้วแทนที่ด้วยสติที่เริ่มจะกลับมา เด็กหญิงมองครูประจำชั้นและเพื่อนสนิทด้วยความเป็นกังวล
เธออยากเข้าไปช่วยพวกเขา แต่หากเข้าไปดูก็รู้ว่าเป็นการเพิ่มภาระให้กับครูอิรุกะ
จิฮารุขยับขาเตรียมจะออกไปเพื่อเรียกโจนินที่พากันกระจายกำลังตามหานารูโตะเพื่อให้มาช่วยอาจารย์ประจำชั้นของเธอและเพื่อนชาย
แต่ขยับได้เพียงแค่ครึ่งก้าวเสียงของอาจารย์มิซึกิก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงของอาจารย์อิรุกะ
เธอหันกลับไปมองก่อนจะเบิกตากว้าง
ครูอิรุกะ!
ร่างของครูประจำชั้นที่คร่อมร่างของนารูโตะเพื่อปกป้องเขาสะท้อนในดวงตาของเด็กหญิงท่ามกลางความมืดที่ไร้แสงไฟ
แสงของดวงจันทร์สลัวๆ
บนท้องฟ้าพอส่องให้เห็นเส้นทางและพื้นที่บริเวณโดยรอบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
จิฮารุรู้สึกคล้ายเลือดล้มกำลังตีกลับ
ความโกรธพุ่งขึ้นสูงจนเธอแทบจะคุมเอาไว้ไม่อยู่
ครูอิรุกะเป็นคนที่แสนดี
เขาดีกับนารูโตะและยังเผื่อแผ่มาถึงเธออีกด้วย
ในสายตาของจิฮารุมองว่าอิรุกะเป็นที่พึ่งเพียงหนึ่งเดียวของนารูโตะ เธอเคารพเขาเหมือนที่นารูโตะเคารพ
ดังนั้นพอเห็นอีกฝ่ายเจ็บขนาดนั้นก็รู้สึกทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว
คุไนที่เหน็บอยู่ข้างต้นขาของเด็กหญิงถูกปาออกไปอย่างแม่นยำ
โดยเป้าหมายคือชายหนุ่มที่ยืนอยู่บนกิ่งไม้พร้อมหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
จิฮารุขยับกายเปลี่ยนที่ทันทีที่เธอปาคุไนออกไป
เพื่อเป็นการเลี่ยงการปะทะในระยะประชิดกับโจนินที่ฝีมือสูงส่งกว่าเธอ
“นั่นใคร!” มิซึกิหลบคุไนที่ถูกปามาแล้วหันไปมองยังจุดที่มันพุ่งมาหาตน
แต่สิ่งที่พบเป็นเพียงพุ่มไม้ที่ไหวไปตามแรงลม
ชายหนุ่มหงุดหงิดมากที่ไม่เห็นตัวของคนลอบกัด แต่เขาหาตัวมันได้ไม่นานนักเพราะเป้าหมายของตัวเองวิ่งหนีเตลิดไปไกลแล้ว
ชายหนุ่มทิ้งคุไนไร้ที่มาลงพื้นพร้อมกับจิ๊ปาก
เขากระโดดไปตามกิ่งไม้ด้วยความรวดเร็วเพื่อไล่ล่าเด็กชายผมทอง
โดยที่ไม่รู้เลยว่าเจ้าของคุไนปริศนานั้นกำลังก้มตัวหลบอยู่หลังพุ่มไม้ใกล้ๆ นั้นเอง
จิฮารุมองอดีตอาจารย์ของตัวเองที่หายไปในความมืดแล้วผ่อนลมหายใจ
เมื่อกี้ที่ปาคุไนออกไปเป็นสาเหตุมาจากอารมณ์ที่สุมอกล้วนๆ ไร้การไตร่ตรองจากสมอง
แต่มันก็มีดีอย่างที่พอจะถ่วงให้นารูโตะหนีอาจารย์มิซึกิไปได้
เธอจะอาศัยจังหวะสั้นๆ นี้ไปพาครูอิรุกะออกมาก่อน
เด็กหญิงลูบหน้าอกของตัวเองแล้วหันไปมองยังที่ที่อาจารย์ของเธอนอนอยู่ก่อนหน้านี้ด้วยสายตาเป็นกังวล
แต่กลับต้องพบว่าที่ตรงไร้เงาของอิรุกะเสียแล้ว
“อย่าบอกนะว่า...”
จิฮารุอยากจะกรีดร้องออกมาสักครึ่งชั่วโมง
ไม่รู้ว่าศิษย์อาจารย์คู่นี้เขาเป็นอะไร ถึงได้มุทะลุบ้าบิ่นกันขนาดนี้
ทั้งนารูโตะทั้งอิรุกะ ทั้งสองคนนิสัยไม่ต่างกันเลยสักกะนิดเดียว!
อาจารย์อิรุกะหายไปแบบนี้มีอยู่อย่างเดียว
เขาตามนารูโตะไป!
เด็กสาวเงยหน้ามองท้องฟ้าที่เริ่มเปลี่ยนสีอีกครั้งแล้ววิ่ง
ความรู้สึกกรุ่นโกรธยังคงตีรวนอยู่ภายในร่างกายไม่เลิกรา
แถมยิ่งหัวร้อนมากขึ้นเท่าไหร่ภาพความฝันบ้าบอนั่นยิ่งไหลทะลักเข้ามาราวเขื่อนแตก
เธอกระโดดไปตามกิ่งไม้พร้อมกับคิ้วที่ขมวดเข้าหากันแน่น
“หนอย
อย่าให้เจอตัวนะนารูโตะ ไม่งั้นล่ะน่าดูเชียว!” เด็กหญิงกัดฟันกรอด
เธอยกมือขึ้นข้างหนึ่งเพื่อกุมขมับที่เริ่มปวดตุบๆ อย่างไม่อาจจะหาสาเหตุได้
สายตาเองก็สอดส่องมองหาทั้งเพื่อนทั้งอาจารย์ไปอย่างไม่ลดละ
เธอไม่รู้หรอกว่าพวกเขาวิ่งหายกันไปไหน แต่คิดว่าคงจะเจอกันได้ไม่ยาก
แล้วก็เป็นอย่างที่คิด
จิฮารุใช้เวลาอยู่เกือบครึ่งชั่วโมงในการตามหาตัวของคนทั้งสาม ตอนไปถึงที่นั่นท้องฟ้าก็เริ่มสว่างขึ้นมาบ้างแล้ว
แถมบนพื้นยังมีร่างสะบักสะบอมของอาจารย์มิซึกินอนอยู่อีกต่างหาก
นารูโตะยิ้มหน้าระรื่นพร้อมกับผ้าคาดหน้าผาก
เด็กหญิงกระโดดลงจากกิ่งไม้
มองสำรวจร่างของเพื่อนชายแล้วก็ต้องถอนหายใจด้วยความโล่งอกที่เขาไม่ได้บาดเจ็บมากนัก
มีเพียงรอยถลอกเล็กๆ ตามตัวเท่านั้นเอง ผิดกับอาจารย์ประจำชั้นที่มีแผลเต็มตัว
แถมยังมีเลือดไหลออกมาอยู่เรื่อยๆ อีกต่างหาก
“อ๊ะ! จิฮารุ!” นารูโตะมองคนหน้ายักษ์ที่เดินมาพร้อมกับท่าทางและรังสีคุกคามด้วยใบหน้าซีดขาว
เขาวิ่งแผล่วไปหลบหลังของอิรุกะพร้อมกับแก้ตัวด้วยน้ำเสียงขาดๆ หายๆ
ใบหน้าของอาจารย์ประจำชั้นมีรอยยิ้มแหยปรากฏอยู่บางเบา
อิรุกะอยากจะดุที่จิฮารุขัดคำสั่งของเขาออกมาตามหานารูโตะ
แต่พอเห็นสีหน้าที่ทั้งเป็นกังวล ทั้งโกรธแบบนั้นแล้วก็ดุไม่ลง
“ไม่ต้องมา ‘อ๊ะ จิฮารุ!’ เลย รู้มั้ยว่าทำให้คนอื่นเขาเป็นห่วงน่ะ
หา!!” จิฮารุขมวดคิ้ว กดข่มความรู้สึกปวดตุบๆ ที่ขมับไปแล้วยกมือขึ้นชี้หน้านารูโตะอย่างเอาเรื่อง
เด็กหญิงแทบจะตรงดิ่งเข้าไปบีบคอแล้วเขย่าร่างของเพื่อนชายพร้อมกับถามว่าเขาเอาส่วนไหนคิดถึงได้เชื่อคำพูดคนอื่นง่ายแบบนี้
“คือว่า...แบบว่า...”
นารูโตะพยายามแก้ตัวแต่ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกไป
เด็กชายหลุบตามองพื้นพลางเขี่ยหญ้าที่ใต้ฝ่าเท้าไปมาเบาๆ
ก่อนจะเงยหน้ามองเพื่อนสนิทที่กำลังโกรธเป็นฝืนเป็นไฟ แต่ก็ต้องกดหัวคิ้วเมื่อสังเกตได้ถึงสิ่งที่ผิดปกติบนใบหน้าของอีกฝ่าย
“จิฮารุ ทำไมหน้าซีดขนาดนั้นล่ะ”
“หา อะไร
จะเปลี่ยนเรื่อง...รึไง” จิฮารุกะพริบตาปริบเมื่อภาพตรงหน้าเริ่มไม่ชัดเจน
ใบหน้าของอาจารย์อิรุกะเบลอราวกับว่าเธอมองพวกเขาผ่านม่านน้ำใสๆ
เด็กหญิงพูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่ขาดห้วง
ความรู้สึกปวดตุบที่ขมับเริ่มรุนแรงขึ้นพร้อมกับความรู้สึกมวนท้อง
แย่ล่ะสิ...
เริ่มจะยืนไม่ไหวแล้ว...
ตุบ!!
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนใหม่มาเสิร์ฟแล้วจ้าาา
ชอบไม่ชอบยังไงคอมเมนต์ติชมได้นะ เราจะพยายามปรับปรุงและแก้ไข
ความคิดเห็น