ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Short fic Jessica (exo snsd)

    ลำดับตอนที่ #3 : Just love (Kyungsoo Jessica) (100%)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 497
      1
      25 ก.ย. 57




              Just love…










    ใครๆก็บอกว่า โด คยองซู เป็นผู้ชายที่ดูเย็นชาและน่ากลัว ไม่น่าเข้าใกล้

     

    แต่จะเป็นแบบนั้นจริงๆเหรอ

     

     

     

     

                “หวัดดี”  เสียงใสของเจสสิก้า จอง เอ่ยทักทายอย่างเป็นมิตร เรียกความสนใจให้คยองซูละสายตาจากตัวหนังสือขึ้นมาจ้องเธออย่างเอาเรื่อง เขากำลังเพลิดเพลินกับหนังสือ แต่ผู้หญิงคนนี้ที่จู่ๆเพิ่งเข้ามาก็มาขัดจังหวะเขาซะได้

     

                “ฉันเรียนอยู่คณะเดียวกับนายไง จำได้ปะ?

     

                “

     

                เงียบกริบไม่มีคำพูดใดออกจากปากคยองซูเลย มีเพียงแค่เสียงถอนหายใจเบาๆ เขาไม่ชอบสุงสิงกับใคร ไอ้เรื่องที่จะจำเพื่อนร่วมคณะได้น่ะไม่มีทางซะหรอก สิ่งเดียวที่เขาสนใจคืออาจารย์และหนังสือเท่านั้น

     

                “นายคงจำไม่ได้จริงๆสินะ ไม่เป็นไร ฉันจะแนะนำตัวให้รู้ละกัน ฉันชื่อเจสสิก้า”

     

                “ไม่ได้อยากรู้

     

                ออกจะดูเสียมารยาทที่ตอบไปแบบนั้นแต่จะช่วยอะไรได้ล่ะ คยองซูไม่ได้สนใจเธอและไม่คิดจะรู้จักชื่อเธอซักนิด ที่สำคัญยังแอบคิดว่าตอบไปอย่างนั้น ผู้หญิงคนนี้อาจจะลุกหนีเขาไปอย่างโดยเร็วอีกด้วย แต่เปล่าเลย

     

     

                ใบหน้าของเธอกลับมีรอยยิ้มส่งมอบมาให้

     

     

                โรคจิตรึเปล่า!!

     

     

                คยองซูขมวดคิ้วอย่างสงสัย เขาไม่ได้พูดดีหรือทำอะไรที่แบบดูน่าประทับใจให้เธอแม้แต่น้อย แต่เธอกลับยิ้มให้เขาเนี่ยนะ

     

                “ฉันอยากเป็นเพื่อนกับนาย”

     

                “ฉันไม่ต้องการ” ตอบออกไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะลุกขึ้นออกจากเก้าอี้ หยิบหนังสือ ปรายตามองผู้หญิงที่ยังนั่งตรงข้ามอย่างรำคาญ แล้วเดินออกไปทันที ทิ้งให้เจสสิก้านั่งอยู่อย่างนั้น รอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้าก็ไม่ได้จางหายไปไหน

     

     

                เธอเชื่อแล้วว่าโด คยองซูน่ากลัวจริงๆ

     

                แต่ในใจเธอ เขาดูเป็นผู้ชายที่ดูน่าค้นหาและมีเสน่ห์จนอยากจะอยู่ใกล้



     

    ..........Just  love.........




     

                และดูเหมือนว่าเจสสิก้า ผู้หญิงที่น่ารำคาญในสายตาคยองซูกลับไม่สะทกสะท้านในท่าทีอันแสนเย็นชาของเขาแม้แต่น้อย เพราะนับตั้งแต่วันนั้น เจสสิก้าก็ตามติดคยองซูตลอด ยิ่งคยองซูห้าม เธอก็ยิ่งได้ใจ

     

                “คยองซูอ่า..นายชอบกินอะไรเหรอ”

     

                “

     

                “แล้วนายชอบดูหนังเรื่องอะไรล่ะ”

     

                “

     

                “อืม..ฉันเห็นนายชอบอ่านหนังสือ มีเรื่องไหนที่เป็นเรื่องโปรดรึเปล่า”

               

                “

     

                ไม่ว่าเจสสิก้าจะถามอะไรไป คำตอบที่ได้ก็มักจะเงียบ คยองซูเอาแต่เดินหนีเธออยู่เรื่อยไป ส่วนเธอก็จะเดินอยู่ข้างหลังเสมอ

     

                แม้เขาจะไม่พูด จะไม่ตอบ แต่เจสสิก้าก็ยังยิ้มได้ไม่รู้เป็นเพราะอะไรเหมือนกัน รู้แต่ว่ามีความสุขที่ได้ทำอย่างนี้

     

                “คยองซู

     

                “หยุดเรียกชื่อนี้ซักที ฉันไม่ชอบให้คนที่ไม่สนิทมาเรียกชื่อจริงฉัน”

     

                เจสสิก้าดูจะอึ้งอยู่เล็กน้อยเมื่อคยองซูที่เอาแต่เดินไปข้างหน้าหันกลับมาด้านหลังพร้อมตวาดเธออีกต่างหาก สีหน้าของเขาดูจริงจัง แต่เธอกลับคิดว่าน่ารักซะได้ พร้อมยกมือขึ้นมานับเลข จนเรียกความหงุดหงิดให้เขา

     

                “1 2 3… บราโว!! เยี่ยมจริงๆ วันนี้นายพูดเกิน3คำด้วย ทุกครั้งวันๆนึงนายก็จะพูดแต่คำว่า ยัยบ้า, ซื่อบื้อ, รำคาญ หรือไม่ก็เงียบไปเลย”

     

                คยองซูแทบพูดอะไรไม่ออกเมื่อได้ฟังคำพูดของเธอ และท่าทีที่ล้อเลียนเขา ผู้หญิงคนนี้ดูแปลกจากผู้หญิงทั่วไปจริงๆ

     

                “เงียบอีกแล้ว.. อย่าเงียบสิคยองซูอ่า..ฉันชอบฟังเสียงนายนะ”

     

                “เธอมันบ้า”

     

                ประโยคสั้นๆที่น่าจะเรียกว่าเป็นคำด่าของคยองซู แต่เจสสิก้าถึงกับยิ้มออก อย่างน้อยเขาก็พูดกับเธอ

     

     

     

     

     

                “คยองซูอ่า อันนี้มันทำยังไง”

     

                “คยองซู ฉันไม่เข้าใจเลย อธิบายอีกรอบได้ไหม”

     

                “คยองซู ทำไมมันยากอย่างนี้”

     

                “ย๊าส์!! ยัยบื๊อ  ถามจริงๆ นี่เธอสอบเข้ามหาลัยนี้ได้ไง คำถามข้อนี้ง่ายๆเธอยังไม่เข้าใจเลย“

     

                คยองซูบ่นอย่างหงุดหงิดเพราะคนข้างๆเขาเอาแต่สร้างปัญาหาไม่หยุดหย่อน คอยถามอันนู้นอันนี้เขาอยู่เรื่อย พออธิบายเสร็จก็กว่าจะเข้าใจ ทำให้เขาไม่มีสมาธิอ่านหนังสือแม้แต่น้อย

     

                “ก็ฉันไม่เก่งเหมือนคยองซูนี่ ส่วนเรื่องเข้ามามหาลัยนี้ได้ไงก็อาจจะเพราะฉันมั่วกาข้อสอบถูกละมั้ง โอ๊ย!!

     

                มือเล็กของเจสสิก้าเอื้อมไปลูบหน้าผากตัวเองป้อยๆเมื่อถูกมะเหงกจากคยองซูเข้า ตั้งแต่เจสสิก้าตามติดห้อยตามเขา ก็เหมือนจะโดนชายหนุ่มประทุษร้ายบ่อยๆ และอยากจะบอกว่าคยองซูมือหนักเอามากๆ

     

                นี่อาจจะเป็นเหตุผลอีกข้อที่ใครๆหลายๆคนกลัวเขา

     

                “เธอมันบ้า แล้วบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเรียกคยองซู”

     

                “ทำไมฉันจะเรียกไม่ได้ นายบอกฉันว่าให้แต่คนสนิทเรียกเท่านั้น แล้วนี่ฉันยังสนิทไม่มากพออีกเหรอ เป็นเดือนแล้วนะ”

     

                “ไม่ซักนิด!!

     

                “ได้ไงอ่ะ นอกจากฉันก็ไม่เห็นนายจะสนิทกับใครเลย”

     

                “อย่ามั่วไปหน่อยเลย ฉันไม่เคยสนิทกับเธอซักนิด ออกจะรำคาญด้วยซ้ำ เพราะเธอตามฉันตลอด”

     

                คยองซูยังคงจ้องมองเจสสิก้า ต่อปากต่อคำอย่างไม่ยอมแพ้ เรียกรอยยิ้มให้ใบหน้าเนียนเป็นอย่างดี เพราะตั้งแต่วันนั้นจนถึงทุกวันนี้ คยองซูพูดเยอะขึ้นมากๆ

     

                “จะบอกอะไรให้นะ ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นคงจะหนีนายไม่ยอมให้โดนด่าอย่างนี้หรอก แต่เพราะฉันชะ..

     

                แทบปิดปากตัวเองไม่ทัน เมื่อรู้ตัวว่ากำลังจะพูดอะไรออกไป รีบเบือนหน้าหนีจากคยองซู จนเขาต้องหรี่ตามองตาม

     

                “เธอยังไม่พูดไม่จบ..

     

                “พูดอะไร นายหูฝาดรึเปล่า” เจสสิก้าพยายามไม่สนใจชายหนุ่มข้างกาย ทั้งๆที่ตอนนี้ใบหน้าเธอร้อนผ่าว ตัวก็เริ่มสั่นอย่างควบคุมไม่อยู่ ยิ่งรับรู้ว่าเขามองอยู่ เธอก็แทบบ้า ยกมือขึ้นมาตีปากตัวเองทีแล้วทีเล่า

                ท่าทีของเธออยู่ในสายตาของคยองซูหมด เขาไม่ได้เซ้าซี้ถามเธออีก เพราะมันไม่ใช่นิสัยของเขาอยู่แล้ว ทำได้แค่มองจนไม่รู้ตัวว่าเผลอลอบยิ้มออกมา

     

     

     

     

               

     

                ซ่า

     

                ดูเหมือนว่าท้องฟ้าของตอนเย็นวันนี้จะไม่เป็นใจซักเท่าไหร่ เจสสิก้ายืนอยู่หน้าอาคารเรียนพร้อมแหงนหน้ามองเม็ดฝนที่ตกลงมาไม่หยุด ในหัวสมองก็เอาแต่คิดหาทางกลับบ้านจนลืมไปแล้วว่าเธอไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว

     

                พรึบ!!

     

                ร่มสีดำสนิทถูกกางออกโดยคนใกล้ตัว เรียกให้เจสสิก้าหลุดออกจากความคิดหันไปมองคยองซูที่ถือร่มแล้วค่อยๆเดินออกไปจากตัวอาคาร ใบหน้าสวยได้แต่ทำหน้าอย่างผิดหวัง เธอรู้ดีว่าคยองซูไม่สนใจหรือเป็นห่วงเธอหรอก เพราะเธอมันเป็นตัวน่ารำคาญ เขาคงจะปล่อยให้เธอยืนอย่างนี้ส่วนตัวเขาเองก็กลับบ้านไปนอนบนเตียงนุ่มๆอย่างสบายใจ

     

                “นี่

     

                เจสสิก้าค่อยๆเงยหน้าขึ้นตามเสียงเรียก คยองซูผู้ถือร่มดำทำหน้าเข้มก่อนจะพูดสิ่งที่ไม่คาดฝันขึ้น

     

                “จะกลับรึเปล่า บ้านน่ะ??

     

                เพียงแค่นั้น รอยยิ้มก็ปรากฏบนใบหน้าสวยอีกครั้ง เจสสิก้ากอดกระเป๋าไว้แน่น วิ่งผ่าฝนไปเบียดตัวอยู่ในร่มคันเดียวกับคยองซู

     

                ตึกตักๆๆ

     

                ยิ่งใกล้กันเท่าไหร่ หัวใจดวงน้อยๆก็เต้นไม่เป็นจังหวะ เจสสิก้าจึงได้แต่เงียบตลอดทาง ทั้งๆที่ทุกครั้งเธอจะเป็นฝ่ายพูด ฝ่ายถาม แต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนครั้งไหนๆ มันใกล้ไปจนเธอทำอะไรไม่ถูกจริงๆ

     

                “ขอบคุณนะคยองซู..

     

                “อืม

     

                คยองซูได้แต่พยักหน้าช้าๆ โดยที่ไม่หันไปมองคนตัวเล็กข้างกายซักนิด ก่อนจะค่อยๆก้าวเดินไปอย่างช้าๆพร้อมกัน และละอองฝนที่สาดเข้ามาก็ไม่สะทกสะท้านผิวบางของเจสสิก้าแม้แต่น้อย เพราะตอนนี้เธอรู้สึกอบอุ่นกว่าที่เคยเพราะคยองซู ใบหน้าสวยที่เอาแต่ก้มหน้ากำลังเผยรอยยิ้มอยู่

     

     

                อยากอยู่แบบนี้นานๆจัง….

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                “ฮัดชิ้ว!!” เสียงจามไม่รู้ครั้งที่เท่าไหร่ของคยองซู เขาขยี้จมูกไปมาจนแดงไปหมด คงเป็นเพราะฝนตกเมื่อวานทำให้เขาเป็นแบบนี้

     

     

                ก็แน่ล่ะสิไอ้ร่มเมื่อวานนี้น่ะ เขาแทบไม่ได้กางให้ตัวเองเลย

     

     

     

     

     

                “ถึงแล้ว ขอบคุณอีกครั้งนะคยองซู..” เจสสิก้ายิ้มลาให้กับชายหนุ่มที่หุบร่มเรียบร้อย ฝนที่ตกหนักเมื่อครู่ ตอนนี้หยุดไปซะแล้ว

     

              “อืมงั้นฉันกลับละ”

     

              “เดี๋ยวสิ ทำไมนายตัวเปียกขนาดนี้”

     

              มือเล็กของเจสสิก้าคว้าแขนของคยองซูไว้ ในใจนึกแต่สงสัยว่ากางร่มเดินมาด้วยกันแต่ตัวคยองซูกลับเปียกโชก ลองมองสำรวจตัวเองดูอีกครั้งก็พบว่าไม่มีส่วนไหนเปียกเลย

     

              นี่เขากางร่มให้เธอ แต่ไม่ได้กางให้ตัวเองเลยงั้นเหรอ

     

              “ก็ฝนมันตกหนักไง”

     

              “ตกหนักมากกก แต่ฉันกลับไม่เปียกซักนิด สารภาพมาซะดีๆว่านายไม่ได้กางร่มให้ตัวเอง”

     

              เจสสิก้าเท้าเอวยิ้มให้คนตรงหน้า จนคยองซูเงียบไป

     

              “ใครว่า ก็เธออ้วน เลยแย่งที่ในร่มฉันไปต่างหาก”

     

              คยองซูยังไงก็เป็นคยองซุอยู่วันอย่างค่ำ คำพูดแต่ละอย่างย่อมไม่ตรงกับใจเสมอ ทั้งๆที่มันก็จริงอย่างที่เธอพูด เขากางร่มให้เธอ เขากลัวเธอจะไม่สบาย

     

     

     

     

                แต่ตอนนี้คยองซูกลับไม่สบายซะเอง

     

                “ไหวไหมคยองซูอ่า

     

                เสียงหวานใสเอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วง แต่คยองซูก็เอาแต่ส่ายหน้าอย่างเดียว

     

                “ดื้อจริงๆเลยนะ แล้วเมื่อวานได้กินยายัง??

     

                “

     

                “แสดงว่ายังไม่ได้กิน”

     

                เจสสิก้าตอบเองเออเอง อยู่กันมาจนขนาดนี้ ถึงแม้คยองซูจะไม่พูดไม่ตอบอะไรเหมือนเคย แต่แค่มองหน้า เธอก็รู้แล้ว

     

                “เฮ้ย!! เธอทำอะไร”

     

                คยองซูพูดออกมาอย่างตกใจ เมื่อจู่ๆเจสสิก้าก็ประชิดเข้าตัวแล้ววางมือนุ่มนิ่มไว้บนหน้าผากเขา ใบหน้าสวยที่ห่างกันไม่ถึงคืบ เล่นเอาชายหนุ่มหายใจไม่ทั่วท้อง และยิ่งไปกว่านั้น เขากลัวว่าคนอื่นๆที่นั่งเรียนและอาจารย์กำลังสอนจะเห็นเข้าน่ะสิ

     

                “ตัวร้อนขนาดนี้ เรียนเสร็จแล้ว ฉันจะต้องพานายไปสถานพยาบาลอย่างด่วน”

     

                พูดจบก็ละมือออกแล้วหันไปสนใจบทเรียนที่อยู่บนจอโปรเจ็กต์เตอร์ต่อ ทิ้งไว้เพียงความอบอุ่นไว้บนหน้าผากคยองซู นับวันผู้หญิงคนนี้ก็เริ่มทำให้หัวใจอันเย็นชาของเขาสั่นไหวได้ ทั้งๆที่เธอไม่ได้มีอะไรดีมากมาย เป็นแค่ผู้หญิงที่น่ารำคาญที่ตามติดเขาไปตลอดเวลา แต่ทำไมถึงมีอิทธิพลได้ถึงขนาดนี้

     

     

     

     

     

                ตอนนี้คยองซูได้แต่เดินเงียบๆ ปล่อยให้หญิงสาวคนตรงหน้าพูดพล่ามไป เขาถนัดเป็นผู้ฟัง และเธอก็ถนัดเป็นผู้พูด

                “คยองซู อย่าเอาแต่เงียบสิ นายเข้าใจที่ฉันบอกไหม”

     

                เจสสิก้ายื่นใบหน้าเข้าไปใกล้ๆเขามากขึ้น หรี่ตามองอย่างจับผิดว่าเขาได้ฟังที่เธอพูดรึเปล่า

     

                “เข้าใจ”

     

                “เข้าใจว่า..

     

                “ห้ามกินของเย็น” คยองซูตอบอย่างว่าง่าย เลยโดนฝ่ามือตีเข้าที่ไหล่อย่างจังจนสะดุ้ง หันไปถลึงตาโตๆใส่ แต่รายนั้นก็ไม่กลัวซักนิด จ้องกลับมาที่เขาเหมือนกัน

     

                “มีแค่นี้เหรอ!! นายนี่ไม่ฟังอะไรเลย ฉันบอกว่าห้ามกินของเย็น แล้วก็ต้องกินยาหลังอาหาร พักผ่อนเยอะๆ เป็นไปได้ดื่มน้ำผลไม้จะช่วยได้มาก เข้าใจไหม?

     

                “อืม..

     

                ไม่เห็นจะต้องอะไรยุ่งยากเลย นอนพักอีกซักคืน รับรองเดี๋ยวก็หายชัวร์ คยองซูส่ายหน้าเบาๆให้กับความคิดตัวเอง นี่เขาแค่เป็นหวัดนะ ไม่ได้เป็นโรคอะไรร้ายแรง แต่เธอกลับตกใจไปได้

     

     

     

                “วันนี้ฉันจะไปส่งนายถึงบ้านเองนะคยองซู” เจสสิก้าตบบ่าชายหนุ่มเบาๆ พร้อมส่งยิ้มไปให้ แต่คยองซูกลับปฏิเสธเอาเสียดื้อๆ

     

                “ไม่ต้อง”

     

                “อย่ามาปฏิเสธนะ นายไม่สบายอยู่ เกิดหน้ามืด เป็นลมขึ้นมากลางทางทำไง”

     

                เอาอีกแล้ว….นี่ทำไมผู้หญิงคนนี้คิดอะไรไม่เข้าเรื่องเลย คยองซูได้แต่เงียบแล้วรีบก้าวขึ้นรถประจำทางที่มาจอดพอดี และแน่นอนว่าเจสสิก้าก็ต้องตามขึ้นมาด้วย

     

     

                บ้านเจสสิก้าและคยองซูไม่ห่างกันมากนะ ชายหนุ่มก็เพิ่งมารู้เร็วๆนี้ ตั้งแต่ที่เธอเข้ามาป้วนเปี้ยนในชีวิต ทำให้เขาทั้งสองคนกลับบ้านด้วยกันบ่อยๆ อันที่จริง จะว่ากลับด้วยกันบ่อยๆก็ไม่ถูก เรียกว่าเจสสิก้าตามเขากลับมากกว่าแต่เมื่อวาน วันที่ฝนตก นับว่าเป็นครั้งแรก ที่

    พวกเขาสองคนกลับพร้อมกันจริงๆ โดยที่เจสสิก้าไม่ต้องวิ่งตามอย่างทุกครั้ง

     

     

                เพราะจะไม่ให้วิ่งตามได้อย่างไร ในเมื่อเธอต้องรีบขึ้นไปแย่งที่นั่งเพื่อจะได้นั่งใกล้ชายหนุ่มให้ได้!!

     

     

               

                “วันนี้ยังไงฉันก็ต้องไปส่งนาย!!” บอกกับตัวเองอย่างมุ่งมันแต่สุดท้าย….

     

     

     

     

     

     

     

     

               

                คนป่วยอย่างคยองซูกลับต้องมาแบกร่างเล็กๆของเจสสิก้าซะเอง  ใบหน้าสวยที่ซบลงไหล่ของเขา ลมหายใจเป่ารดรินอย่างสม่ำเสมอเป็นเครื่องการันตีว่าเธอหลับจริงๆ

     

                วันนี้เจสสิก้าคงเหนื่อยมากกับการที่วิ่งวุ่นหาเจ้าหน้าที่ที่ประจำอยู่สถานพยาบาลเพื่อขอยา แล้วไหนจะกิจกรรมอีกเยอะแยะ นึกแล้วก็แอบสงสัย ว่าไปเอาพลังมาจากไหน

    เป็นผู้หญิงที่อึดเกินทนจริงๆ

     

     

               

     

                “คยองซู ฉัน

     

     

                จู่ๆ เสียงอู้อี้ดังขึ้นข้างหูเขา ทำให้ขาของชายหนุ่มหยุดชะงัก มันเป็นคำที่แผ่วเบาแต่เขากลับได้ยินมันชัดเจน

     

     

                ไม่นานนักคนที่นอนหลับก็ค่อยๆลืมตาตื่นขึ้น ขยี้ตาตัวเองเบาๆ ก่อนจะเข้าใจว่าตอนนี้เธออยู่บนหลังคยองซู..

     

     

                “ตื่นซักที ถึงแล้ว”

     

                “อืมๆ”

     

                เจสสิก้าลงจากหลังชายนุ่มด้วยสีหน้ามึนงงเล็กน้อย แต่ในใจเธอแทบบ้า รู้สึกตัวเองหน้าร้อนผ่าวอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งเห็นสีหน้าอันเย็นชาของคยองซู ใจมันก็ยิ่งเต้นเข้าไปอีก

     

                “หลับไปตอนไหนไม่รู้เรื่องเลย ขอบคุณนะคยองซู..

     

                “อืม” คยองซูพยักหน้าช้าๆ แล้วค่อยๆเดินจากไป บ้านของคยองซูอยู่ถัดจากเธอไปอีกซอยเดียวเอง ถ้าจะวิ่งตามเขาก็ยังได้เลย ตอนนี้ถึงแม้ตัวเองจะไม่หายจากอาการง่วง แต่อีกใจก็เป็นห่วงคนป่วย ขาเรียวเตรียมจะก้าวออกไป แต่ก็ต้องหยุดทันที

     

     

                “ไม่ต้องตามมนะ ฉันกลับเองได้”

     

                คยองซูหันมาพูดอย่างรู้ทัน ก่อนจะส่งสัญญาณมือไล่เธอพร้อมถลึงตาโตๆเป็นเชิงขู่ให้รีบเข้าบ้าน เจสสิก้าได้แต่พยักหน้ารับก่อนจะตะโกนบอกเขา

     

               

                “ฝันดีนะ คยองซูอย่าลืมกินยาด้วย”

     

     

                ไม่แม้แต่จะรอเขาตอบกลับอะไร ร่างเล็กก็รีบวิ่งเข้าบ้านปิดประตูดังปัง ทิ้งให้คยองซูยืนอยู่กลางถนนอย่างโดดเดี่ยวพร้อมรอยยิ้มบางๆ แบบที่เขาก็ไม่รู้ตัว

     

     

     

     

                ไม่รู้ตัวเลยซักนิดว่าเวลาที่อยู่กับเจสสิก้า เขามักจะยิ้มบ่อยแค่ไหน

     

     

     

               

     

     

                คยองซูล้มตัวลงนอนบนเตียงนุ่ม เผลอคิดอะไรไปหลายอย่าง รวมถึงประโยคนั้นด้วย ประโยคที่เขาได้ยินคนเดียว

     

     

                “คยองซู..ฉัน..ชอบ..นาย..นะ”

     

                ไม่รู้ทำไมได้ยินประโยคนี้ใจเขาถึงได้เต้นแรงนัก แต่มันจะเป็นไปได้จริงๆเหรอ ที่เธอชอบเขา พยายามหวนคิดถึงวันที่เจอกันครั้งแรก ไม่สิตั้งแต่ตอนที่ก้าวเข้ามาเหยียบมหาลัยแห่งนี้ ก็รู้สึกถึงสายตาที่มองเขาตลอด เป็นไปได้ไหมที่คนๆนั้นจะเป็นเธอ เจสสิก้า จอง

     

     

                แต่ทำไมเธอถึงมาชอบคนอย่างเขาล่ะ โด คยองซู หรือดีโอ ผู้ที่แสนเย็นชาคนนี้

     

     

                คิดแล้วก็อยากจะบ้าตาย

     

     

                “ฉันคงไม่ได้ชอบเธอหรอก”

     

                เอ่ยขึ้นมาอย่างเหม่อลอย อยู่มาจนเข้ามหาลัยเขาไม่เคยแม้แต่จะไปแอบชอบใคร ไม่รู้ด้วยซ้ำรักมันคืออะไร?

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                เวลาแต่ละวันมันช่างผ่านไปอย่างช้าๆ เจสสิก้าก็ยังคงตามติดคยองซูตลอด เรียกว่าเป็นเงาตามตัวเลยก็ว่าได้ จนผู้คนพากันสงสัยในความสัมพันธ์ของสองคนนี้ เจสสิก้าเองก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน ไม่รู้ว่าเขาจะมองเห็นเธอเป็นอะไร ยังเป็นตัวน่ารำคาญอยู่รึเปล่านะ

     

     

     

     

                “เฮ้อ”  ถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจ แล้วเท้าคางปล่อยให้สายตาได้เหม่อลอยไม่โฟกัสอะไรทั้งสิ้น และแน่นอนคยองซูที่นั่งอยู่ข้างๆก็สังเกต

     

     

                คราวนี้เป็นอะไรอีกล่ะ?

     

     

                “เครียดเรื่องสอบเหรอ?” เอ่ยถามด้วยเสียงเรียบเฉยตามฉบับของเขาเอง แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือการส่ายหน้าอย่างรัวๆ

     

     

                “แล้วเป็นอะไรกินยาไม่เขย่าขวดหรือไง?

     

                เดี๋ยวนี้คยองซูเขาพัฒนาจากที่เงียบๆ แต่ก็พูดแซวเป็นเหมือนกัน อาจจะเป็นเพราะเจสสิก้านั่นแหละที่ทำให้เขาค่อยๆเปลี่ยนไป

     

     

                แต่..เป็นอย่างนี้เฉพาะเธอคนเดียวนะ

     

     

                “คยองซู”  ใบหน้าสวยหันมามองคนที่พูดแซวช้าๆ ดวงตาใสแป๋วจ้องเขาไม่กระพริบ

     

                “ผ่านมาจนจะปีแล้ว อย่างนี้เรียกว่าสนิทได้หรือยัง?

     

     

               

     

     

     

                คยองซูนิ่งเงียบไปซักพัก นี่คือสิ่งที่ทำให้ผู้หญิงคนนี้นั่งถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่าจนไม่เป็นอันเรียนงั้นเหรอ….

     

     

     

     

              “ถ้าไม่เรียกสนิท จะเรียกว่าอะไรล่ะ”

     

     

     

                ตอบง่ายๆสไตล์คนพูดน้อย ก่อนจะก้มหน้าหาหนังสือ ปล่อยให้เจสสิก้าคิดเอาเองว่าหมายถึงอะไร แต่มันก็ไม่ยากเกินกว่าที่เธอจะเข้าใจ จากใบหน้าที่เศร้าสร้อยๆค่อยๆกลับมามีรอยยิ้มอีกครั้ง

     

     

     

                แค่นี้ก็ดีมากแล้ว

     

     

                อย่างน้อยๆ  ก็ทำให้รู้ว่า เขาก็ยังแคร์เธออยู่



















    140731

    ฮัลโหลๆๆๆ เค้าหายไปนานอีกแล้ว คิดถึงกันบ้างไหม??(แต่เค้าคิดถึงรีดนะ><)

    กลับมาพร้อมช็อตฟิคโด้สิก จะมีคนอ่านรึเปล่า?? ไม่แน่ใจ

    แต่รู้สึกอยากแต่ง เพราะหลงใหลในความน่ารักของโด้555

    ถ้าไม่ติดอะไรทั้งสิ้น สุดสัปดาห์เจอกันจ้า

    ส่วนเรื่องอื่นๆ ขอเวลาเคลียร์แป๊บนะ จุ๊บๆ



    140925

    ชะแว้บบบ เค้ามาแล้ววว เด็กๆปิดเทอมกันยังง? (ส่วนไรท์กำลังเตรียมตัวสอบT^T)

    หลังจากที่หายไปนานอีกตามเคย555

    เรื่องนี้มันยังไม่จบบบบ คาดว่าน่าจะจบตอนหน้า ^^

    แล้วจะรีบมาลงให้เร็วที่สุดนะ จุ๊บๆ ><

     

    ปล.ขอสารภาพ อยากแต่งฟิคเรื่องนี้ให้มันหวานสุดๆ แต่กลับไม่หวานเลย ฮือออ

    ไปแก้ตัวตอนหน้าละกันเนอะ



    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×