ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สถานการณสิ่งแวดล้อมประเทศไทย

    ลำดับตอนที่ #1 : สิ่งแวดล้อมโลกปี 2000

    • อัปเดตล่าสุด 13 ธ.ค. 49


              รายงาน  "ภาพสิ่งแวดล้อม 2000" http://www.unep.org   ของโครงการสิ่งแวดล้อม
    แห่งสหประชาชาติ เป็นดั่งสัญญาณเตือนภัยที่ดังไปทั่วโลก และได้ชี้ให้เห็นว่า ระบบนิเวศมนุษย์
    ทั้งโลก ถูกคุกคามจนขาดความสมดุลอย่างรุนแรงและขีดความสามารถ
    ในการให้ผลผลิตและบริการทางนิเวศเสื่อมถอยไปมาก
    ซึ่งย่อมก่อให้เกิดความเสียหายโดยตรงต่อประชากร
    และระบบสิ่งแวดล้อมโลก   ถึงแม้ว่านานาประเทศจะพยายาม
    ร่วมมือกันพิทักษ์สิ่งแวดล้อม แต่ก็ไม่สามารถตามทันการพัฒนา
    ทางเศรษฐกิจและสังคมเพื่อสร้างความเจริญก้าวหน้าได้
    จึงมีสัญญาณเตือนพิษภัยแห่งความเจริญปรากฏไปทั่วดาวเคราะห์ดวงนี้ที่เราอาศัยร่วมกันอยู่

              สัญญาณเตือนภัยในด้านสิ่งแวดล้อมนั้นมีมากมายหลายเรื่อง  โดยเฉพาะเรื่อง 
    ความหลากหลายทางชีวภาพ ที่ถูกทำลายลงอย่างเห็นได้ชัดเจน   เช่น ในกรณีป่าไม้
    ถูกบุกรุกแผ้วถาง การค้าสัตว์และพืชป่าหายาก   การจับปลามากเกินไป  การเสื่อมโทรมของดิน 
    การขาดแคลนน้ำและน้ำใต้ดินลดลง  การเกิดขยะและสารพิษ  การปนเปื้อนของสารพิษ
    ในสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะในน้ำและดิน การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซเรือนกระจก
    สู่บรรยากาศ  ส่งผลกระทบให้โลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศ  เป็นต้น
    นอกจากนี้การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้นเรื่อยๆ  ทำให้แหล่งทรัพยากรนี้ร่อยหรอลงอย่างรวดเร็ว 

              การเพิ่มขึ้นของประชากรโลกซึ่งในปัจจุบันมี 6000 ล้านคน (ครบจำนวนนี้เมื่อกลางเดือน
    ตุลาคม 2542) และการเพิ่มปริมาณการบริโภคย่อมก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
    เพราะธรรมชาติมีความสามารถในการผลิตที่จำกัด  และจำนวนประชากรที่อยู่ในเมืองเพิ่มขึ้น
    จะทำให้ระบบนิเวศหรือสิ่งแวดล้อมเมืองทวีความสำคัญยิ่งขึ้น  ในขณะที่ขยะ มลพิษทางอากาศ
    การจราจร การใช้พลังงานสูงจะมีผลกระทบต่อชาวเมืองและสิ่งแวดล้อมโดยตรง   

              ปัจจุบันแนวคิดเรื่อง ขีดความสามารถรองรับสูงสุด (carrying capacity) 
    กำลังเป็นที่สนใจกันอย่างกว้างขวาง   อัตราสูงสุดของการเก็บเกี่ยวหรือการใช้ทรัพยากร
    ซึ่งสามารถดำเนินไปอย่างยั่งยืนโดยไม่ทำลายความสามารถในการ
    ผลิตและบูรณภาพของระบบนิเวศนี้เป็นสิ่งที่ต้องนำมาคำนึงถึง
    ให้มากขึ้น เช่น ในหนองน้ำหรือแม่น้ำสายหนึ่งก็มีอัตราสูงสุด
    ในการเก็บเกี่ยวทรัพยากร ได้แก่ จำนวนสูงสุดของสัตว์น้ำที่จับได้
    ซึ่งมีจำกัดอยู่จำนวนหนึ่งถ้าหากเกินอัตรานี้ไปก็จะกระทบต่อ
    ความสามารถในการผลิต  นั่นคือ จะจับสัตว์น้ำได้น้อยลง
    สัตว์น้ำหลายชนิดสูญพันธุ์  เป็นต้น  แนวคิดเรื่องขีดความสามารถรองรับสูงสุดนี้ สะท้อนให้เห็นว่า
    สิ่งที่ไหลเวียนในระบบนิเวศแท้จริงคือ สสารและพลังงานที่เป็นระบบปิดและมีจำกัด
    ไม่ใช่เงินทุนและสินค้าที่เป็นระบบเปิด และเพิ่มพูนตามความต้องการอย่างไม่สิ้นสุดของมนุษย์

    ท่านทราบหรือไม่ว่า...ปัญหาสิ่งแวดล้อมโลกอันดับหนึ่งในปัจจุบัน คือ การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ

              ในบรรดาปัญหาสิ่งแวดล้อมโลกใหญ่ๆ 5 ปัญหาของ ค.ศ.2000 นั้น
    การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ อยู่ในอันดับแรก เพราะความหลากหลายทางชีวภาพนั้น
    มีความหมายรวมถึงสังคมของสิ่งมีชีวิตนานาชนิด ที่มีความสัมพันธ์กันในรูปแบบต่างๆ
    ในถิ่นที่อยู่อาศัยแห่งใดแห่งหนึ่ง  และมีองค์ประกอบอยู่สามระดับ ได้แก่
    ความหลากหลายในระดับสปีชีส์  ระดับพันธุกรรม และระดับระบบนิเวศ 
    นอกจากนั้นความหลากหลายทางชีวภาพยังแนบเนื่องอยู่กับ
    วิถีชีวิตและวัฒนธรรมของท้องถิ่นอีกด้วย  ดังนั้นความหลากหลาย-
    ทางชีวภาพจึงมีคุณค่า ความสำคัญต่อมวลมนุษย์ และมีประโยชน์
    มหาศาลทั้งทางเศรษฐกิจและการให้บริการค้ำจุนชีวิตมนุษย์โลก
    แต่สาเหตุของการสูญเสียดังกล่าว ด้วยอัตราเร่งด่วนอย่างน่าตกใจ
    ในปัจจุบันกลับเกิดจากน้ำมือมนุษย์ที่ได้พัฒนาการผลิตจนมีขนาด ใหญ่โตมหึมา และมีการขยายตัวทางตลาดออกไปอย่างไร้พรมแดน

              ส่วนปัญหารองลงไปได้แก่ ปัญหาที่ดิน อันมีสาเหตุมาจากการเพิ่มประชากร
    การขยายตัวของตลาด การทำการเกษตรแผนใหม่ ระบบตลาดเสรี และช่องว่างรายได้
    ทั้งหมดนี้ทำให้มนุษย์ต้องบุกรุกป่าหรือไปใช้ที่ดินในบริเวณที่มีความอุดมสมบูรณ์น้อย
    และเสี่ยงอันตรายมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ทำให้ดินเสื่อมโทรมลง

              ปัญหาน้ำ   การนำน้ำไปใช้ทางการเกษตรและอุตสาหกรรมตลอดจนการบริโภค
    ในครัวเรือนมากขึ้น จึง มีการหันไปใช้น้ำใต้ดิน ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบหลายอย่าง ได้แก่
    การแทรกซึมของน้ำเค็ม  ระดับน้ำใต้ดินลดลง และแผ่นดินทรุด การปนเปื้อนในแหล่งน้ำต่างๆ
    ก็เป็นปัญหาใหญ่ที่แก้ไขยาก  และมีการหวั่นเกรงว่าจะเกิดสงครามแย่งน้ำขึ้นในอนาคตได้

              ปัญหาเรื่องโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก การใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล
    ซึ่งมีอัตราสูงมากในประเทศอุตสาหกรรมได้ส่งผลให้เกิดภาวะโลกร้อนขึ้น ปัญหานี้คาดว่า
    จะมีผลกระทบทั้งสรรพชีวิตในธรรมชาติและชีวิตในสังคมของซีกโลกตะวันตกมากกว่าผู้คน
    ในเขตร้อนถัดไปเป็น ปัญหาขยะและสารพิษ สองสิ่งนี้เป็นเงาติดตัวตามการบริโภคและการผลิต
    ในขณะที่ระบบเศรษฐกิจต้องการให้มีการเติบโตทั้งทางการบริโภคและการผลิต  ปัญหาขยะ
    และสารพิษก็จะขยายตัวตามไปด้วย  ซึ่งรวมทั้งการหาสถานที่ทิ้งขยะรวม  นอกจากนั้น
    ยังมีการปนเปื้อนของสารพิษสู่สิ่งแวดล้อมและร่างกายมนุษย์

              ปัญหาทั้งหมดนี้กลายเป็นปัญหาใหญ่ของประชาคมโลก ไม่มีใครหนีพ้นไปจาก
    สภาพความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไปได้  และไม่ใช่เรื่องง่าย
    ที่จะแก้ไข  เวลาที่เหลืออยู่ไม่มากนักจึงควรเน้นให้ลงมือกระทำโดยเร็วเพื่อแก้ปัญหา  โดยเฉพาะ
    ประเทศกำลังพัฒนาที่ต้องการจะไล่ทันประเทศอุตสาหกรรมที่พัฒนาจนเจริญก้าวหน้ามากแล้ว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×